Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie 09 52 01-0084 แผนฯ สารและสมบัติของสาร ม 4-6 (20)
09 52 01-0084 แผนฯ สารและสมบัติของสาร ม 4-6
- 1. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
1
คู่ม ือ ครู แผนการจัด การเรีย นรู้
สารและสมบัต ิข องสาร
ม. 4− 6
ชัน มัธ ยมศึก ษาปีท ี่ 4− 6
้
กลุ่ม สาระการเรีย นรู้ว ิท ยาศาสตร์
ตามหลัก สูต รแกนกลางการศึก ษาขั้น พื้น ฐาน พุท ธศัก ราช
2551
คู่ม ือ ครู แผนการจัด การเรีย นรู้
ออกแบบการจัด การเรีย นรู้ม ุ่ง เน้น
คณะผู้เ ขีย น
ดร.บัญชา แสนทวี กศ.บ., ค.ม., กศ.ด.
• ยึด หลัก ว่า ผู้เ รีย นมีค วามสำา คัญ ที่ส ุด
ชนิกานต์ นุ่มมีชัย กศ.บ., กศ.ม.
• ใช้แ นวคิด Backward Design ผสม
ภาวิณี รัตนคอน วท.บ., วท.ม.
ผสานกับ แนวคิด ทฤษฎีก ารเรีย นรูต ่า ง
้
นริสรา ศรีเคลือบ วท.บ., วท.ม.
ๆ อย่า งหลากหลาย
คณะบรรณาธิก าร
• ใช้ม าตรฐานการเรีย นรู้ และตัว ชี้ว ัด
สุระ ดามาพงษ์ กศ.บ., กศ.ม.
ชั้น ปีเ ป็น เป้า หมาย
ลัดดา อินทร์พิมพ์ ค.บ. (เกียรตินิยม), ศษ.ม.
• สร้า งเสริม สมรรถนะสำา คัญ ของผู้เ รีย น
ในการสือ สาร การคิด
่
การแก้ป ัญ หา การใช้ท ัก ษะชีว ิต และ
การใช้เ ทคโนโลยี
• สร้า งเสริม พหุป ัญ ญา และความเข้า ใจที่
คงทนของผู้เ รีย น
• สร้า งเสริม ทัก ษะกระบวนการทาง
วิท ยาศาสตร์
- 2. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
2
คู่ม ือ ครู แผนการจัด การเรีย นรู้
สารและสมบัต ิข องสาร ม. 4− 6
ชั้น มัธ ยมศึก ษาปีท ี่ 4−6
กลุ่ม สาระการเรีย นรู้ว ท ยาศาสตร์
ิ
ตามหลัก สูต รแกนกลางการศึก ษาขั้น พื้น ฐาน พุท ธศัก ราช 2551
คณะผู้เ ขีย น
ดร.บัญชา แสนทวี ชนิกานต์ นุ่มมีชัย ภาวิณี รัตนคอน นริสรา ศรีเคลือบ
คณะบรรณาธิก าร
สุระ ดามาพงษ์ ลัดดา อินทร์พิมพ์
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
ISBN 978–974–0000–00–0
สือ การเรีย นรู้ ช่ว งชั้น ที่ 4 ตามหลัก สูต รแกนกลางการศึก ษาขัน พื้น
่
้
ฐาน พุท ธศัก ราช 2551
หนัง สือ เรีย น-แบบฝึก ทัก ษะ-แผนการจัด การเรีย นรู้ ฉบับ ศธ.อนุญ าต
หนัง สือ เรีย นสาระการเรีย นรู้พ ื้น ฐาน ฉบับ ศธ. อนุญ าตให้ใ ช้ใ นสถาน
ศึก ษา
หนังสือเรียน-ปฏิบัติการ-คูมือครูฯ วิท ยาศาสตร์พ ื้น ฐาน เล่ม
่
ดำา รงชีว ิต ม. 4-6 ........ดร.บัญชา แสนทวี และคณะ
หนังสือเรียน-ปฏิบัติการ-คูมือครูฯ วิท ยาศาสตร์พ ื้น ฐาน เล่ม
่
6 .............................ดร.บัญชา แสนทวี และคณะ
หนังสือเรียน-ปฏิบัติการ-คูมือครูฯ วิท ยาศาสตร์พ ื้น ฐาน เล่ม
่
.........................ดร.บัญชา แสนทวี และคณะ
หนังสือเรียน-ปฏิบัติการ-คูมือครูฯ วิท ยาศาสตร์พ ื้น ฐาน เล่ม
่
6 ..........................ดร.บัญชา แสนทวี และคณะ
หนังสือเรียน-ปฏิบัติการ-คูมือครูฯ วิท ยาศาสตร์พ ื้น ฐาน เล่ม
่
6 .............................................ดร.บัญชา แสนทวี และคณะ
หนังสือเรียน-ปฏิบัติการ-คูมือครูฯ วิท ยาศาสตร์พ ื้น ฐาน เล่ม
่
อวกาศ ม. 4-6 ...............ดร.บัญชา แสนทวี และคณะ
1 สิง มีช ีว ิต กับ กระบวนการ
่
2 ชีว ิต กับ สิ่ง แวดล้อ ม ม. 43 สารและสมบัต ิข องสาร ม. 4-6
4 แรงและการเคลื่อ นที่ ม. 45 พลัง งาน ม.46 โลก ดาราศาสตร์ และ
แบบฝึก หัด ตรงตามหนัง สือ เรีย นสาระการเรีย นรู้พ ื้น ฐาน ของ สสวท.
แบบฝึกหัด สารและสมบัต ิข องสาร ม.
4.........................................................................................................ดร.บัญชา แสนทวี และคณะ
แบบฝึกหัด การเคลื่อ นที่แ ละพลัง งาน ม.
4 ...................................................................................................ดร.บัญชา แสนทวี และคณะ
แบบฝึกหัด โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.
5 .............................................................................................ดร.บัญชา แสนทวี และคณะ
แบบฝึกหัด ชีว ิต กับ สิ่ง แวดล้อ ม สิง มีช ีว ิต และกระบวนการดำา รงชีว ิต ม.
่
คำา นำา
6 .........................................................ดร.บัญชา แสนทวี และณะ
สื่อ การเรีย นรู้ส มบูร ณ์แ บบรวมเนื้อ หา -กระบวนการเรีย นรู้ สมบูร ณ์ใ นเล่ม
เดีย ว
- 3. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
3
คู่มือครู แผนการจัด การเรีย นรู้ สารและสมบัต ิข องสาร
ม. 4 − 6 นี้เป็นสื่อการเรียนรู้ที่จัดทำาขึ้นโดยยึดแนวการจัดการเรียนรู้
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดย
ออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางผสมผสานกับ
แนวคิดของ Backward Design(BwD) โดยถือว่าผู้เรียนสำาคัญที่สุด
คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร เล่มนี้ส่งเสริม
นักเรียนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งเป็นรายบุคคลและราย
กลุ่ม เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสามารถสร้างองค์
ความรู้ได้ด้วยตนเอง ส่งเสริมนักเรียนให้เชื่อมโยงความรู้ทั้งในและ
ต่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ในเชิงบูรณาการด้วยวิธีการที่หลากหลาย
สร้างสถานการณ์การเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน โดยครูมีบทบาท
หน้าที่ในการเอื้ออำานวยความสะดวกให้แก่นักเรียน เพื่อให้นักเรียนมี
คุณภาพตามสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดชั้นปี รวมทั้ง
พัฒนานักเรียนให้มีสมรรถนะสำาคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตาม
ที่หลักสูตรกำาหนด เพื่อให้นักเรียนสามารถดำารงชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นใน
สังคมไทยและสังคมโลกได้อย่างมีความสุข
การจัดทำาคู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์เล่มนี้ได้
จัดทำาตรงตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
2551 ซึ่งครอบคลุมทุกสาระการเรียนรู้ ภายในเล่มได้นำาเสนอ
แผนการจัดการเรียนรู้เป็นรายชั่วโมงตามหน่วยการเรียนรู้ เพื่อครูนำา
ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้สะดวก นอกจากนี้แต่ละหน่วยการเรียนรู้
ยังมีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านความรู้
ด้านคุณธรรม จริยธรรม และจิตวิทยาศาสตร์ และด้านทักษะ/
กระบวนการ ทำาให้ทราบผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนแต่ละหน่วยการเรียน
รู้ได้ทันที
คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6 นี้นำา
เสนอเนื้อหาแบ่งเป็น 3 ตอน คือ
ตอนที่ 1 แนวทางการจัด แผนการจัด การเรีย นรู้ กลุ่ม สาระ
การเรีย นรูว ิท ยาศาสตร์ สารและสมบัต ข องสาร ประกอบด้วย
้
ิ
แนวทางการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ แนวคิด หลักการออกแบบการ
จัดการเรียนรู้แบบ Backward Design แนวทางการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของ
เนื้อหาในหน่วยการเรียนรู้กับสาระ มาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
และตัวชี้วัดชั้นปี และโครงสร้างการแบ่งเวลารายชั่วโมงในการจัดการ
เรียนรู้
ตอนที่ 2 แผนการจัด การเรีย นรู้ สารและสมบัต ข องสาร
ิ
ชัน มัธ ยมศึก ษาปีท ี่ 4− 6 ได้เสนอแนะแนวทางการจัดการเรียนรู้แต่ละ
้
- 4. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
4
หน่วยการเรียนรู้ในสื่อการเรียนรู้ สมบูรณ์แบบ และหนังสือเรียนสาระ
การเรียนรู้พื้นฐาน ซึ่งแบ่งเป็นแผนย่อยรายชั่วโมง แผนการจัดการ
เรียนรู้แต่ละแผนมีองค์ประกอบครบถ้วนตามแนวทางการจัดทำา
แผนการจัดการเรียนรู้ของสถานศึกษา
ต อ น ที่ 3 เ อ ก ส า ร /ค ว า ม รู้เ ส ริม สำา ห รั บ ค รู ประกอบด้ วยแบบ
ทดสอบต่าง ๆ และความรู้เสริมสำาหรับครูซึ่งบันทึกลงใน ซีดีรอม (CDROM)
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติ
ของสาร ม. 4−6 นี้จะเป็นประโยชน์ต่อการนำาไปประยุกต์ใช้ในการ
จัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของผู้เรียนต่อไป
คณะผู้จ ัด
ทำา
ตอนที่ 1 แนวทางการจัด แผนการจัด การเรีย นรู้ กลุ่ม สาระ
การเรีย นรู้ว ิท ยาศาสตร์
สารและสมบัต ิข อง
สาร...........................................................................
สารบัญ
แนวทางการใช้แผนการจัดการเรียนรู้
...............................................................................
แนวคิด หลักการออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Backward
Design (BwD).....................
แนวทางการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
2551...........................................................................
ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของเนื้อหาในหน่วยการเรียนรู้
กับสาระ
มาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และตัวชี้วดชั้นปี กลุ่มสาระ
ั
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์
สารและสมบัติของสาร ชันมัธยมศึกษาปีที่
้
4−6.............................................................
โครงสร้างการแบ่งเวลารายชั่วโมงในการจัดการเรียนรู้ กลุ่ม
สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
สารและสมบัติของสาร ชันมัธยมศึกษาปีที่
้
4−6 ......................................................
ตอนที่ 2 แผนการจัด การเรีย นรู้ สารและสมบัต ิข องสาร ชัน
้
มัธ ยมศึก ษาปีท ี่ 4− 6.........................
หน่ว ยการเรีย นรูท ี่ 1 โครงสร้า งของ
้
สาร.........................................................................
- 5. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
5
ผังมโนทัศน์เป้าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระ
งาน................................................
ผังการออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Backward
Design…………………………………………
ตอนที่ 1 โครงสร้า ง
อะตอม..............................................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 แบบจำาลองและอนุภาคมูลฐานของ
อะตอม................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 การจัดเรียงอิเล็กตรอนใน
อะตอม...........................................
ตอนที่ 2 ตาราง
ธาตุ..................................................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 ตาราง
ธาตุ....................................................................
ตอนที่ 3 พัน ธะ
เคมี....................................................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 พันธะไอออนิกและพันธะโคเว
เลนซ์......................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 พันธะโลหะและสถานะของ
สาร...........................................
หน่ว ยการเรีย นรูท ี่ 2 ปฏิก ิร ิย า
้
เคมี........................................................................
ผังมโนทัศน์เป้าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระ
งาน.................................................
ผังการออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Backward
Design…………………………………………
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 สมการเคมีและอัตราการเกิดปฏิกิริยา
เคมี.......................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 ความเข้มข้นและพื้นที่ผิวของสารเริ่ม
ต้น………………
ที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา
เคมี................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 อุณหภูมิที่มีผลต่อการเกิดปฏิกิริยา
เคมี...............................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 ตัวเร่งปฏิกิริยาและธรรมชาติของสาร
ที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา
เคมี.................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 ปฏิกิริยาเคมีที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต
- 6. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
6
และสิ่ง
แวดล้อม..........................................................
หน่ว ยการเรีย นรูท ี่ 3
้
ปิโ ตรเลีย ม..............................................................................
ผังมโนทัศน์เป้าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระ
งาน.................................................
ผังการออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Backward
Design…………………………………………
ตอนที่ 1 ปิโ ตรเลีย มและนำ้า มัน
ดิบ ..............................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 ปิโตรเลียมและนำ้ามัน
ดิบ............................................
ตอนที่ 2 แก๊ส
ธรรมชาติ..........................................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 แก๊ส
ธรรมชาติ..........................................................
หน่ว ยการเรีย นรูท ี่ 4 พอลิเ ม
้
อร์.........................................................................
ผังมโนทัศน์เป้าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระ
งาน.................................................
ผังการออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Backward
Design…………………………………………
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 ประเภทและสมบัติของพอลิเม
อร์...........................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 การสังเคราะห์พอลิเม
อร์.............................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 พลาสติกและยางชนิดต่าง
ๆ.....................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 เส้นใย
สังเคราะห์...........................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 ปัญหาที่เกิดจากการใช้พอลิเม
อร์.............................................
หน่ว ยการเรีย นรูท ี่ 5 สารชีว
้
โมเลกุล .........................................................................
ผังมโนทัศน์เป้าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระ
งาน.................................................
ผังการออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Backward
Design…………………………………………
- 7. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
7
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18
คาร์โบไฮเดรต.............................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 สมบัติบางประการของ
คาร์โบไฮเดรต................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20 ไขมันและนำ้ามัน
...........................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 21
โปรตีน.........................................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 22 โปรตีนใน
ร่างกาย........................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 23 กรดนิวคลี
อิก...............................................................
บรรณานุก รม......................................................................................
..................
ตอนที่ 1
แนวทางการจัด แผนการเรีย นรู้
กลุ่ม สาระการเรีย นรู้ว ิท ยาศาสตร์
- 8. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
8
สารและสมบัต ิข องสาร
1. แนวทางการใช้แ ผนการจัด การเรีย นรู้
1.1 องค์ป ระกอบของคู่ม ือ ครู แผนการจัด การเรีย นรู้
คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสารเล่มนี้จัดทำา
ขึ้นเพื่อเป็นแนวทางให้ครูใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการ
เรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4−6 ช่วงชั้นที่ 4 ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในคู่มือครู แผนการ
จัดการเรียนรู้เล่มนี้แบ่งเนื้อหา 5 หน่วย ซึ่งแต่ละหน่วยจัดแบ่งการ
จัดการเรียนรู้เป็นรายชั่วโมง สามารถใช้ควบคู่กับสื่อการเรียนรู้ สาร
และสมบัติของสาร สมบูรณ์แบบ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4−6 และหนังสือ
เรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐาน สารและสมบัติของสาร ชั้นมัธยมศึกษาปี
ที่ 4−6 ประกอบด้วยหน่วยการเรียนรู้ ดังนี้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 โครงสร้างของสาร
ตอนที่ 1 โครงสร้างอะตอม
ตอนที่ 2 ตารางธาตุ
ตอนที่ 3 พันธะเคมี
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ปิโตรเลียม
ตอนที่ 1 ปิโตรเลียมและนำ้ามันดิบ
ตอนที่ 2 แก๊สธรรมชาติ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 พอลิเมอร์
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 สารชีวโมเลกุล
- 9. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
9
รูปแบบของคู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสารเล่ม
นี้ แบ่งเนื้อหาเป็น 3 ตอน คือ
ตอนที่ 1 แนวทางการจัด แผนการจัด การเรีย นรู้ กลุ่ม สาระ
การเรีย นรูว ิท ยาศาสตร์ สารและสมบัต ข องสาร
้
ิ
ตอนนี้เป็นส่วนที่นำาเสนอภาพกว้าง ๆ ของคู่มือครู แผนการ
จัดการเรียนรู้ทั้งเล่ม ซึ่งประกอบด้วย
1) แนวทางการใช้แผนการจัดการเรียนรู้
2) แนวคิด หลักการออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบ
Backward design
3) แนวทางการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
4) ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของเนื้อหาในหน่วยการ
เรียนรู้กับสาระ มาตรฐานการ
เรียนรู้วิทยาศาสตร์ และตัวชี้วัดชั้นปี กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ สารและสมบัติ
ของสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4−6
5) โครงสร้างการแบ่งเวลารายชั่วโมงในการจัดการเรียนรู้ กลุ่ม
สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4−6
ต อ น ที่ 2 แ ผ น ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น รู้ ส า ร แ ล ะ ส ม บั ต ิ ข อ ง ส า ร
ชัน มัธ ยมศึก ษาปีท ี่ 4− 6
้
ตอนนี้เป็นส่วนที่นำาเสนอแผนการจัดการเรียนรู้รายหน่วยการ
เรียนรู้ ซึ่งเป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้อย่างละเอียดตามเนื้อหาของ
แต่ละหน่วยการเรียนรู้ ซึ่งแผนการจัดการเรียนรู้แต่ละแผน มีองค์
ประกอบครบถ้วนตามแนวทางการจัดทำาแผนการจัดการเรียนรู้ของ
สถานศึกษา
หน่วยการเรียนรู้แต่ละหน่วยมีรายละเอียด ซึ่งประกอบด้วย
1. ผัง มโนทัศ น์เ ป้า หมายการเรีย นรูแ ละขอบข่า ยภาระ
้
งาน
2. ผัง การออกแบบการจัด การเรีย นรูแ บบ Backward
้
Design (Backward Design Template) เป็นกรอบแนวคิดของ
การจัดการเรียนรู้ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ แบ่งเป็น 3 ขั้น ได้แก่
ขั้นที่ 1 ผลลัพธ์ปลายทางที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับนักเรียน
ขั้นที่ 2 ภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ ซึ่งเป็นหลัก
ฐานที่แสดงว่านักเรียนมีผลการเรียนรู้ตามที่กำาหนดไว้อย่างแท้จริง
ขั้นที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งใช้แนวคิดการจัดการเรียนรู้
แบบ WHERETO ผสมผสานกับการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับ
ธรรมชาติของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ได้ระบุว่าใน
- 10. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
10
หน่วยการเรียนรู้นี้แบ่งแผนการจัดการเรียนรู้ไว้กี่แผน และแต่ละแผน
ใช้เวลาในการจัดกิจกรรมกี่ชั่วโมง
3. แผนการจัด การเรีย นรูร ายชัว โมง เป็นแผนการจัดการ
้
่
เรียนรู้แบบเรียงหัวข้อ ซึ่งประกอบด้วย
3.1 ชือ แผนการจัด การเรีย นรู้ ประกอบด้วยลำาดับที่ของแผน
่
ชื่ อ แผน เวลาเรี ย น สาระที่ ชั้ น และหน่ ว ยการเรี ย นรู้ เช่ น แผนการ
จัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง แบบจำาลองและอนุภาคมูลฐานของอะตอม เวลา
1 ชั่ ว โมง สาระที่ 3 สารและสมบั ติ ข องสาร ชั้ น มั ธ ยมศึ ก ษาปี ที่ 4−6
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 โครงสร้างของสาร
3.2 ส า ร ะ สำา คัญ เป็นความคิดรวบยอดของเนื้อหาที่นำา มาใช้
จัดการเรียนรู้ในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้
3.3 ตัว ชี้ว ัด ชั้น ปี เป็นตัวชี้วัดที่ใช้ตรวจสอบนักเรียนหลังจาก
เรี ย นจบเนื้ อ หาที่ นำา เสนอในแต่ ล ะแผนการจั ด การเรี ย นรู้ นั้ น ๆ ซึ่ ง
สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตร
3.4 จุ ด ป ร ะ ส ง ค์ ก า ร เ รี ย น รู้ เป็ น ส่ ว นที่ บ อกจุ ด มุ่ ง หมายที่
ต้องการให้เกิดขึ้นแก่นักเรียนภายหลังจากการเรียนจบในแต่ละแผน
ทั้ ง ในด้ า นความรู้ (K) ด้ า นคุ ณ ธรรม จริ ย ธรรม และเจตคติ ท าง
วิทยาศาสตร์ (A) ด้านทัก ษะ/กระบวนการ (P) ซึ่งสอดคล้ องสัม พัน ธ์
กับตัวชี้วดชั้นปีและเนื้อหาในแผนการจัดการเรียนรู้นั้น ๆ
ั
3.5 ก า ร วัด แ ล ะ ป ร ะ เ มิน ผ ล ก า ร เ รีย น รู้ เป็นการตรวจสอบ
ผลการจัดการเรียนรู้ว่าหลังจากจัดการเรียนรู้ในแต่ละแผนการจัดการ
เรีย นรู้ แ ล้ ว นั กเรีย นมี พั ฒ นาการ มี ผลสัม ฤทธิ์ ทางการเรี ย น ตามเป้ า
หมายที่คาดหวังไว้หรือไม่ และมีสิ่งที่จะต้องได้รับการพัฒนาปรับปรุง
ส่ ง เสริ ม ในด้ า นใดบ้ า ง ดั ง นั้ น ในแต่ ล ะแผนการจั ด การเรี ย นรู้ จึ ง ได้
ออกแบบวิธีการและเครื่องมือในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ด้าน
ต่าง ๆ ของนักเรียนไว้อย่างหลากหลาย เช่น การทำาแบบทดสอบ การ
ตอบคำา ถามสั้น ๆ การตรวจผลงาน การสังเกตพฤติกรรมทั้งที่เป็นราย
บุคคลและกลุ่ม เป็นต้น โดยเน้นการปฏิบัติให้สอดคล้องและเหมาะสม
กับตัวชี้วดและมาตรฐานการเรียนรู้
ั
วิธีการและเครื่องมือในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้เหล่านี้
ครูสามารถนำาไปใช้ประเมินนักเรียนได้ ทั้งในระหว่างการจัดการเรียน
รู้และการทำากิจกรรมต่าง ๆ ตลอดจนการนำาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำา
วัน
3.6 ส า ระ ก าร เ รีย น รู้ เป็นหัวข้อย่อยที่นำา มาจัดการเรียนรู้ใน
แต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งสอดคล้องกับสาระการเรียนรู้แกนกลาง
3.7 แ น ว ท า ง บู ร ณ า ก า ร เป็ น การเสนอแนะแนวทางการจั ด
กิจกรรมการเรียนรู้ในเรื่องที่เรียนรู้ขอแต่ละแผนให้เชื่อมโยงสัมพันธ์
กับสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี และภาษา
- 11. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
11
ต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าอย่างกว้างขวาง และ
สร้างองค์ความรู้ได้เต็มตามศักยภาพของแต่ละคน
3.8 กระบวนการจัด การเรีย นรู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้
เป็นการเสนอแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แต่ละเรื่อง มีขั้นตอน
หลัก 3 ขั้น ได้แก่ 1. ขั้นนำาเข้าสู่บทเรียน 2. ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้
และ 3. ขั้นสรุป โดยขั้นการจัดการเรียนรู้ เน้นการจัดการเรียนรู้โดย
การสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ที่ประกอบด้วยขั้นตอนหลัก
5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นสร้างความสนใจ ขั้นสำารวจและค้นหา ขั้นอธิบาย
และลงข้อสรุป ขั้นขยายความรู้และขั้นประเมิน ซึ่งรายละเอียดของการ
จัดกระบวนการเรียนรู้ดังกล่าวครูสามารถศึกษาได้จากแนวทางการจัด
กระบวนการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในตอนต่อไป
3.9 กิจ กรรมเสนอแนะเพิม เติม สำา หรับ กลุ่ม สนใจพิเ ศษ
่
เป็นกิจกรรมเสนอแนะสำาหรับให้นักเรียนได้พัฒนาเพิ่มเติมในด้านต่าง
ๆ นอกเหนือจากที่ได้จัดการเรียนรู้มาแล้วในชั่วโมงเรียน กิจกรรม
เสนอแนะมี 2 ลักษณะ คือ กิจกรรมสำาหรับผู้ที่มีความสามารถพิเศษและ
ต้องการศึกษาค้นคว้าในเนื้อหานั้น ๆ ให้ลึกซึ้งกว้างขวางยิ่งขึ้น และ
กิจกรรมสำาหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจเนื้อหาหรือยังไม่เกิดการเรียนรู้ตามเป้า
หมาย ซึ่งมีลักษณะเป็นการเรียนซำ้าหรือซ่อมเสริม
3.10 สื่ อ /แ ห ล่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ เป็ น รายชื่ อ สื่ อ การเรี ย นรู้ ทุ ก
ประเภทที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ ซึ่งมีทั้งสื่อธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อ
เทคโนโลยี และสื่อ บุค คล เช่น หนังสื อ เอกสารความรู้ รูป ภาพ เครื อ
ข่ายอินเทอร์เน็ต วีดิทัศน์ ปราชญ์ชาวบ้าน เป็นต้น
3.11 บัน ทึก หลัง การจัด การเรีย นรู้ เป็นส่วนที่ให้ครูบันทึก
ผลการจัดการเรียนรู้ว่าประสบความสำาเร็จหรือไม่ มีปัญหาหรือ
อุปสรรคอะไรเกิดขึ้นบ้าง ได้แก้ไขปัญหาและอุปสรรคนั้นอย่างไร และ
ข้อเสนอแนะสำาหรับการจัดการเรียนรู้ครั้งต่อไป
ตอนที่ 3 เอกสาร/ความรู้เ สริม สำา หรับ ครู
ประกอบด้วยแบบทดสอบต่างๆ และความรู้เสริมสำาหรับครู ได้
บันทึกลงในซีดีรอม โดยมิได้พิมพ์ไว้ในเล่มคู่มือครู เพื่อความสะดวก
ของครูในการนำาไปใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ซึ่งประกอบ
ด้วย
1) มาตรฐานการเรีย นรู้ ตัว ชีว ด ชัน ปี และสาระการ
้ ั ้
เรีย นรู้แ กนกลาง กลุ่ม สาระการเรีย นรูว ิท ยาศาสตร์ สารและ
้
สมบัต ข องสาร ประกอบด้วย
ิ
(1) มาตรฐานการเรียนรู้ เป็นข้อกำาหนดคุณภาพของนักเรียน
ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ/กระบวนการ คุณธรรม จริยธรรม และ
เจตคติทางวิทยาศาสตร์ เมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- 12. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
12
(2) ตัวชี้วัดชั้นปี เป็นตัวระบุสิ่งที่นักเรียนพึงรู้และสามารถปฏิบัติ
ได้ รวมถึงคุณลักษณะของนักเรียนในแต่ละระดับชัน ซึ่งสอดคล้องกับ
้
มาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตร
(3) สาระการเรียนรู้ ประกอบด้วย องค์ความรู้ ทักษะ/
กระบวนการเรียนรู้และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ซึ่งกำาหนดให้
นักเรียนทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานจำาเป็นต้องเรียนรู้ ซึ่งกลุ่ม
สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบ่งเป็น 8 สาระ
2) กระบวนการจัด การเรีย นรู้ท ใ ช้ใ นกลุ่ม สาระการ
ี่
เรีย นรู้ว ิท ยาศาสตร์ เป็นวิธีการหรือเทคนิคที่นำามาใช้ใน
กระบวนการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
3) แฟ้ม สะสมผลงาน (Portfolio) เป็นการเก็บรวบรวมผล
งานของนักเรียน โดยแสดงขันตอนในการจัดทำาแฟ้มสะสมผลงานและ
้
วิธีการคัดเลือกผลงานเพื่อเก็บในแฟ้มสะสมผลงาน
4) ผัง การออกแบบการจัด การเรีย นรูแ บบ Backward
้
Design เป็นแบบฟอร์มเพื่อให้ครูสามารถปรับปรุงแผนการจัดการ
เรียนรู้ให้สอดคล้องกับสภาพความพร้อมของนักเรียนและสถานการณ์
เฉพาะหน้า รวมทั้งใช้เป็นผลงานเพื่อเลื่อนวิทยฐานะได้ แผนการ
จัดการเรียนรู้นี้ได้อำานวยความสะดวกให้ครู โดยได้พิมพ์โครงสร้าง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ออกแบบการเรียนรู้แบบ Backward Design
ให้ครูเพิ่มเติมเฉพาะส่วนที่ครูปรับปรุงเองไว้ด้วยแล้ว
5) รูป แบบแผนการจัด การเรีย นรู้ร ายชัว โมง เป็นรูปแบบ
่
การเขียนการจัดการเรียนรู้ที่บอกรายละเอียดในแต่ละหัวข้อที่ปรากฏ
อยู่ในแผนการจัดการเรียนรู้รายชั่วโมง
6) ใบงาน สารและสมบัต ิข องสาร ม. 4− 6 เป็นกิจกรรมที่
ฝึกให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริง เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งแบ่ง
เป็นกิจกรรมการทดลอง กิจกรรมสังเกต กิจกรรมสำารวจ กิจกรรม
สืบค้นข้อมูล
7) แบบทดสอบก่อ นเรีย นและหลัง เรีย น เป็นแบบทดสอบ
แบบปรนัยและอัตนัย เพื่อใช้วัดความรู้ของนักเรียนก่อนและหลังเรียน
8) เครื่อ งมือ ประเมิน ผลด้า นคุณ ธรรม จริย ธรรม และ
เจตคติท างวิท ยาศาสตร์ เป็นเครื่องมือที่มีลักษณะเป็นแบบตรวจ
สอบรายการและมาตรประมาณค่า โดยใช้วิธีการสังเกต สอบถาม หรือ
สัมภาษณ์ ซึ่งครูสามารถนำาไปใช้ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ของนักเรียนได้ ทั้งในระหว่างการจัดการเรียนรู้และการปฏิบัติกิจกรรม
ต่าง ๆ ซึ่งได้ใช้ตัวบ่งชี้คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของจิตวิทยาศาสตร์
9) เครื่อ งมือ ประเมิน ด้า นทัก ษะ/กระบวนการ เป็นเครื่อง
มือที่มีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการและแบบมาตรประมาณค่า โดย
ใช้วิธีการสังเกต สอบถาม หรือสัมภาษณ์ ซึ่งครูสามารถนำาไปใช้
ประเมินทักษะ/กระบวนการของนักเรียนได้ ทั้งในระหว่างการจัดการ
- 13. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
13
เรียนรู้และการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งได้ใช้ตัวบ่งชี้คุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ของจิตวิทยาศาสตร์
10) เครื่อ งมือ ประเมิน สมรรถนะทางวิท ยาศาสตร์แ ละ
ภาระงานของนัก เรีย นโดยใช้ม ิต ค ุณ ภาพ (Rubrics) เป็นเครื่อง
ิ
มือสำาหรับการประเมินตามสภาพจริง ที่ประกอบด้วยรายการที่ใช้
ประเมินหรือเกณฑ์ในการพิจารณาและคำาอธิบายระดับคุณภาพ มี
ตัวอย่างเครื่องมือหลายประเภท เช่น แบบสังเกต แบบสำารวจ แบบ
ประเมินการทดลอง แบบประเมินการศึกษาค้นคว้า แบบประเมินโครง
งานวิทยาศาสตร์ โครงงานทั่วไป และแบบประเมินแฟ้มสะสมผลงาน
1.2 วิธ ีก ารใช้แ ผนการจัด การเรีย นรู้
การจัดการเรียนรู้ครูควรศึกษาคู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สาร
และสมบัติของสาร ม. 4−6 และศึกษาสื่อการเรียนรู้ที่จะใช้ประกอบ
การจัดการเรียนรู้ หลังจากนั้นจึงวางแผนเตรียมจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ก็จะช่วยให้การจัดการเรียนรู้ของครูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางของคู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้
สารและสมบัติของสาร ม. 4−6 เล่มนี้จะมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
อย่างสูงสุดก็ต่อเมื่อครูได้เตรียมการล่วงหน้า และเลือกวิธีการจัดการ
เรียนรู้ให้เหมาะสมกับนักเรียน ที่สำาคัญสถานศึกษาแต่ละแห่งมีสภาพ
แวดล้อมการเรียนรู้และสภาพนักเรียนที่แตกต่างกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่
คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้เล่มใด ๆ จะเหมาะสมและดีเยี่ยมสำาหรับ
สถานศึกษา ครู และนักเรียนทุกคน ดังนัน จึงเป็นหน้าทีของครูทจะ
้
่
ี่
ต้องเตรียมการจัดการเรียนรู้ พิจารณาปรับและเลือกสรรแผนการจัดการ
เรียนรู้ให้เหมาะสมกับสภาพการเรียนรู้จริงของนักเรียนและสถาน
ศึกษา
1.3 สัญ ลัก ษณ์ก ระบวนการเรีย นรู้
สัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่กำาหนดไว้ที่กิจกรรมนั้นมีจุดมุ่งหมายและจุด
เน้นที่แตกต่างกันตามลักษณะของกระบวนการเรียนรู้ที่ต้องการให้
นักเรียนได้เรียนรู้ ซึ่งมีความสอดคล้องกับธรรมชาติของกลุ่มสาระการ
เรียนรู้และจุดเน้นของหลักสูตร ดังนั้นสัญลักษณ์จึงเป็นแนวทางที่เอื้อ
ประโยชน์ต่อนักเรียนที่จะศึกษาหาความรู้ตามรายละเอียดของกิจกรรม
ในสื่อการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์สมบูรณ์แบบชุดนี้ได้กำาหนดสัญลักษณ์
ไว้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
สัญ ลัก ษณ์ห ลัก ของกลุ่ม สาระการเรีย นรู้ว ิท ยาศาสตร์
การสืบ ค้น ข้อ มูล
เป็นกิจกรรมที่กำาหนดให้นักเรียน
สืบค้นข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ แล้วใช้ทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ เช่น การลงสรุปข้อมูล เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ด้วยตนเอง
- 14. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
14
การสำา รวจ เป็นกิจกรรมที่กำาหนดให้นักเรียนสำารวจ
ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ตามความคิดรวบยอดของแต่ละหัวเรื่อง แล้วใช้
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น การสังเกต การจัดกระทำาและ
สื่อความหมายข้อมูล การลงสรุปข้อมูล เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ด้วย
ตนเอง
การทดลอง เป็นกิจกรรมที่กำาหนดให้นักเรียนได้ปฏิบัติ
การทดลองเพื่อพิสูจน์มโนทัศน์ที่เรียนรู้ โดยการออกแบบการทดลอง
ดำาเนินการทดลอง และสรุปผลการทดลอง แล้วใช้ทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ เช่น การสังเกต การพยากรณ์ การจัดกระทำาและสื่อ
ความหมายข้อมูล การลงสรุปข้อมูล เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ด้วยตนเอง
การสัง เกต เป็นกิจกรรมที่กำาหนดให้นักเรียนสังเกต
ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ตามความคิดรวบยอดของแต่ละหัวเรื่อง แล้วใช้
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น การจำาแนกการลงสรุปข้อมูล
เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ด้วยตนเอง
สัญ ลัก ษณ์เ สริม ของกลุ่ม สาระการเรีย นรู้
วิท ยาศาสตร์
โครงงาน เป็นกิจกรรมโครงงานคัดสรรที่นำาหลักการ
แนวคิดของมโนทัศน์ในหัวเรื่องที่เรียนรู้มาใช้แก้ปัญหา
การพัฒ นากระบวนการคิด เป็นกิจกรรมที่กำาหนดให้
นักเรียนได้ใช้กระบวนการคิดเพื่อเพิ่มพูนทักษะการคิดของตนเอง
การประยุก ต์ใ ช้ใ นชีว ต ประจำา วัน เป็นกิจกรรมที่
ิ
กำาหนดให้นักเรียนต้องนำาหลักการ แนวคิดของมโนทัศน์ในหัวเรื่องที่
เรียนรู้มาใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์จริงของชีวิตประจำาวัน
การทำา ประโยชน์ใ ห้ส ัง คม เป็นกิจกรรมที่กำาหนดให้
นักเรียนนำาความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปปฏิบัติเพื่อให้ตระหนักในการ
ทำาประโยชน์ให้สังคม
การปฏิบ ัต ิจ ริง /ฝึก ทัก ษะ เป็นกิจกรรมที่กำาหนดให้
นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติเพื่อให้เกิดและเพิ่มพูนทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์
- 15. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
15
ความคิดสร้างสรรค์ เป็นกิจกรรมที่กำาหนดให้นักเรียนได้
ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างสรรค์ภาระงานเพิ่มพูนทักษะการคิด
ของตนเอง
2. แนวคิด หลัก การออกแบบการจัด การเรีย นรู้แ บบ
Backward Design (BwD)
การจัดการเรียนรู้หรือการสอนเป็นงานที่ครูทุกคนต้องใช้กลวิธี
ต่าง ๆ มากมายเพื่อให้นักเรียนสนใจที่จะเรียนรู้และเกิดผลตามที่ครู
คาดหวัง การจัดการเรียนรู้จัดเป็นศาสตร์ที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ
ตลอดจนประสบการณ์อย่างมาก ครูบางคนอาจจะละเลยเรื่องของการ
ออกแบบการจัดการเรียนรู้หรือการออกแบบการสอน ซึ่งเป็นงานที่ครู
จะต้องทำาก่อนการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้
การออกแบบการจัด การเรีย นรูท ำา อย่า งไร ทำา ไมจึง ต้อ ง
้
ออกแบบการจัด การเรีย นรู้
ครูทุกคนผ่านการศึกษาและได้เรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบการ
เรียนรู้มาแล้ว ในอดีตการออกแบบการเรียนรู้จะเริ่มต้นจากการกำาหนด
จุดประสงค์การเรียนรู้ การวางแผนการจัดการเรียนรู้ การดำาเนินการ
จัดการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ปัจจุบันการเรียนรู้
ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม รวม
ทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาท
ต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งนักเรียนสามารถเรียนรู้ได้จากสื่อและ
แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ที่มีอยู่รอบตัว ดังนั้นการออกแบบการจัดการเรียนรู้
จึงเป็นกระบวนการสำาคัญที่ครูจำาเป็นต้องดำาเนินการให้เหมาะสมกับ
ศักยภาพของนักเรียนแต่ละบุคคล
วิกกินส์และแม็คไท นักการศึกษาชาวอเมริกันได้เสนอแนวคิด
เกี่ยวกับการออกแบบการจัดการเรียนรู้ ซึ่งเขาเรียกว่า Backward
Design ซึ่งเป็นการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่ครูจะต้องกำาหนด
ผลลัพธ์ปลายทางที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับนักเรียนก่อน โดยเขาทั้งสอง
ให้ชื่อว่า ความเข้าใจที่คงทน (Enduring Understandings) เมื่อ
กำาหนดความเข้าใจที่คงทนได้แล้ว ครูจะต้องบอกให้ได้ว่าความเข้าใจ
ที่คงทนของนักเรียนนี้เกิดจากอะไร นักเรียนจะต้องมีหรือแสดง
พฤติกรรมอะไรบ้าง ครูมีหรือใช้วิธีการวัดอะไรบ้างที่จะบอกว่านักเรียน
มีหรือแสดงพฤติกรรมเหล่านั้นแล้ว จากนั้นครูจึงนึกถึงวิธีการจัดการ
เรียนรู้ที่จะทำาให้นักเรียนเกิดความเข้าใจที่คงทนต่อไป
แนวคิด ของ Backward Design
- 16. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
16
Backward Design เป็นการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่ใช้
ผลลัพธ์ปลายทางเป็นหลัก ซึ่งผลลัพธ์ปลายทางนี้จะเกิดขึ้นกับ
นักเรียนก็ต่อเมื่อจบหน่วยการเรียนรู้ ทั้งนี้ครูจะต้องออกแบบการ
จัดการเรียนรู้ โดยใช้กรอบความคิดที่เป็นเหตุเป็นผลมีความสัมพันธ์
กัน จากนั้นจึงจะลงมือเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ ขยายรายละเอียด
เพิ่มเติมให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพต่อไป
กรอบความคิดหลักของการออกแบบการจัดการเรียนรู้โดย
Backward Design มีขั้นตอนหลักที่สำาคัญ 3 ขั้นตอน คือ
ขั้นที่ 1 กำาหนดผลลัพธ์ปลายทางที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับ
นักเรียน
ขั้นที่ 2 กำาหนดภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ ซึ่งเป็น
หลักฐานที่แสดงว่านักเรียน
มีผลการเรียนรู้ตามที่กำาหนดไว้อย่างแท้จริง
ขั้นที่ 3 วางแผนการจัดการเรียนรู้
ขั้น ที่ 1 กำา หนดผลลัพ ธ์ป ลายทางที่ต ้อ งการให้เ กิด
ขึ้น กับ นัก เรีย น
ก่อนที่จะกำาหนดผลลัพธ์ปลายทางที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับ
นักเรียนนั้น ครูควรตอบคำาถามสำาคัญต่อไปนี้
− นักเรียนควรจะมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถทำาสิ่งใดได้
บ้าง
− เนื้อหาสาระใดบ้างที่มีความสำาคัญต่อการสร้างความเข้าใจ
ของนักเรียนและความเข้าใจที่คงทน (Enduring Understanding)
ที่ครูต้องการจัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนมีอะไรบ้าง
เมื่อจะตอบคำาถามสำาคัญดังกล่าวข้างต้น ให้ครูนึกถึงเป้าหมาย
ของการศึกษา มาตรฐานการเรียนรู้ด้านเนื้อหาระดับชาติที่ปรากฏอยู่
ในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 รวมทั้ง
มาตรฐานการเรียนรู้ระดับเขตพื้นที่การศึกษา หรือท้องถิ่น
การทบทวนความคาดหวังของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เนื่องจากมาตรฐานแต่ละระดับจะมีความสัมพันธ์กับเนื้อหาสาระต่าง ๆ
ซึ่งมีความแตกต่างลดหลั่นกันไป ด้วยเหตุนี้ขั้นที่ 1 ของ Backward
Design ครูจึงต้องจัดลำาดับความสำาคัญและเลือกผลลัพธ์ปลายทาง
ของนักเรียน ซึ่งเป็นผลการเรียนรู้ที่เกิดจากความเข้าใจที่คงทนต่อไป
ความเข้า ใจที่ค งทนของนัก เรีย น
ความเข้าใจที่คงทนคืออะไร ความเข้าใจที่คงทนเป็นความรู้ที่ลึก
ซึ้ง ได้แก่ ความคิดรวบยอด ความสัมพันธ์ และหลักการของเนื้อหาและ
วิชาที่นักเรียนเรียนรู้ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งเป็นความรู้ที่อิงเนื้อหา
ความรู้นี้เกิดจากการสะสมข้อมูลต่าง ๆ ของนักเรียนและเป็นองค์ความ
รู้ที่นักเรียนสร้างขึ้นด้วยตนเอง
- 17. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
17
การเขีย นความเข้า ใจทีค งทนในการออกแบบการ
่
จัด การเรีย นรู้
ถ้าความเข้าใจที่คงทนหมายถึง สาระสำาคัญของสิ่งที่จะเรียนรู้
แล้ว ครูควรจะรู้ว่าสาระสำาคัญหมายถึงอะไร คำาว่า สาระสำาคัญ มาจาก
คำาว่า Concept ซึ่งนักการศึกษาของไทยแปลเป็นภาษาไทยว่า สาระ
สำาคัญ ความคิดรวบยอด มโนทัศน์ มโนมติ และสังกัป ซึ่งการเขียน
แผนการจัดการเรียนรู้นิยมใช้คำาว่า สาระสำาคัญ
สาระสำาคัญเป็นข้อความที่แสดงแก่นหรือเป้าหมายเกี่ยวกับเรื่อง
ใดเรื่องหนึ่ง เพื่อให้ได้ข้อสรุปรวมและข้อแตกต่างเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่อง
หนึ่ง โดยอาจครอบคลุมข้อเท็จจริง กฎ ทฤษฎี ประเด็น และการสรุป
สาระสำาคัญและข้อความที่มีลักษณะรวบยอดอย่างอื่น
ประเภทของสาระสำาคัญ
1. ระดับกว้าง (Broad Concept)
2. ระดับการนำาไปใช้ (Operative Concept หรือ Functional
Concept)
ตัวอย่างสาระสำาคัญระดับกว้าง
− สุขภาพของตัวอ่อนในครรภ์ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตนของมารดา
− พืชมีหลายชนิด มีประโยชน์ต่างกัน
ตัวอย่างสาระสำาคัญระดับนำาไปใช้
− สุขภาพของตัวอ่อนในครรภ์ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตนของมารดา
ในด้านการรับประทานอาหาร การเคลื่อนไหว และการรักษาสุขภาพ
จิต
− พืชมี 2 ประเภท คือ พืชล้มลุก และพืชยืนต้น พืชมีประโยชน์
ในการทำาให้มีสมดุลทางธรรมชาติ เป็นที่อยู่อาศัย เป็นยารักษาโรค
เป็นเครื่องนุ่งห่ม และทำาให้โลกสวยงาม
แนวทางการเขียนสาระสำาคัญ
1. ให้เขียนสาระสำาคัญของทุกเรื่อง โดยแยกเป็นข้อ ๆ (จำานวน
ข้อของสาระสำาคัญจะเท่ากับจำานวนเรื่อง)
2. การเขียนสาระสำาคัญที่ดีควรเป็นสาระสำาคัญระดับการนำาไป
ใช้
3. สาระสำาคัญต้องครอบคลุมประเด็นสำาคัญครบถ้วน เพราะหาก
ขาดส่วนใดไปแล้วจะทำาให้นักเรียนรับสาระสำาคัญที่ผิดไปทันที
4. การเขียนสาระสำาคัญที่จะให้ครอบคลุมประเด็นสำาคัญวิธีการ
หนึ่งคือ การเขียนแผนผังสาระสำาคัญ
ตัวอย่างการเขียนแผนผังสาระสำาคัญ
ลักษณะของสัตว์ที่
นำามา
ใช้แรงงาน
- 18. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
18
ด้านการใช้
แรงงาน
ประโยชน์
ด้านการใช้เป็น
อาหาร
ด้านการเลี้ยง
ไว้ดูเล่น
ตัวอย่างสัตว์ที่นำา
มาใช้
แรงงานแต่ละด้าน
ส่วนต่าง ๆ ของสัตว์
ที่นำามาใช้เป็น
อาหาร
ส่วนต่าง ๆ ของสัตว์
แต่ละชนิดที่นำามา
ใช้
เป็นอาหาร
ลักษณะของสัตว์ที่
เลี้ยง
ไว้ดูเล่น
ตัวอย่างของสัตว์ที่
เลี้ยงไว้ดูเล่น
สาระสำาคัญของประโยชน์ของสัตว์: ประโยชน์ของสัตว์แบ่งเป็น 3 ด้าน
ได้แก่ ด้านการใช้แรงงาน ด้านการใช้เป็นอาหาร และด้านการเลี้ยงไว้
ดูเล่น
5. การเขียนสาระสำาคัญเกี่ยวกับเรื่องใดควรเขียนลักษณะเด่นที่
มองเห็นได้หรือนึกได้ออกมาเป็นข้อ ๆ แล้วจำาแนกลักษณะเหล่านั้น
เป็นลักษณะจำาเพาะและลักษณะประกอบ
6. การเขียนข้อความที่เป็นสาระสำาคัญ ควรใช้ภาษาที่มีการ
ขัดเกลาอย่างดี เลี่ยงคำาที่มีความหมายกำากวมหรือฟุ่มเฟือย
ตัว อย่า งการเขีย นสาระสำา คัญ เรื่อ ง แมลง
แมลง
ลัก ษณะ
ลัก ษณะ
จำา เพาะ
ประกอบ
มีสี
−
ü
มี 6 ขา
−
ü
- 19. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
19
มีพิษ
ร้องได้
มีปีก
ลำาตัวเป็นปล้อง
มีหนวดคลำาทาง 2
เส้น
เป็นอาหารได้
ไม่มีกระดูกสัน
หลัง
−
−
ü
ü
ü
ü
ü
−
−
−
−
ü
ü
−
สาระสำาคัญของแมลง: แมลงเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ลำาตัว
เป็น 3 ปล้อง มี 6 ขา มีหนวดคลำาทาง 2 เส้น มีปีก 2 ปีก ตัวมีสีต่างกัน
บางชนิดร้องได้ บางชนิดมีพิษ และบางชนิดเป็น
อาหารได้
ขั้น ที่ 2 กำา หนดภาระงานและการประเมิน ผลการ
เรีย นรู้ซ ึ่ง เป็น หลัก ฐานที่แ สดงว่า
นัก เรีย นมีผ ลการเรีย นรู้ต ามที่ก ำา หนดไว้อ ย่า งแท้จ ริง
เมื่อครูกำาหนดผลลัพธ์ปลายทางที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับนักเรียน
แล้ว ก่อนที่จะดำาเนินการขั้นต่อไปขอให้ครูตอบคำาถามสำาคัญ ต่อไปนี้
− นักเรียนมีพฤติกรรมหรือแสดงออกในลักษณะใด จึงทำาให้ครู
ทราบว่า นักเรียนบรรลุผลลัพธ์ปลายทางตามที่กำาหนดไว้แล้ว
− ครูมีหลักฐานหรือใช้วิธีการใดที่สามารถระบุได้ว่า นักเรียนมี
พฤติกรรมหรือแสดงออกตามผลลัพธ์ปลายทางที่กำาหนดไว้
การออกแบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักการของ Backward
Design เน้นให้ครูรวบรวมหลักฐานการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ที่
จำาเป็นและมีหลักฐานเพียงพอที่จะกล่าวได้ว่า การจัดการเรียนรู้ทำาให้
นักเรียนเกิดผลสัมฤทธิ์แล้วไม่ใช่เรียนแค่ให้จบตามหลักสูตรหรือเรียน
ตามชุดของกิจกรรมการเรียนรู้ที่ครูกำาหนดไว้เท่านั้น วิธีการของ
Backward Design ต้องการกระตุ้นให้ครูคิดล่วงหน้าว่า ครูควรจะ
กำาหนดและรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์อะไรบ้างก่อนที่จะออกแบบ
หน่วยการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักฐานดังกล่าวควรจะเป็นหลัก
ฐานที่สามารถใช้เป็นข้อมูลย้อนกลับ ที่มีประโยชน์สำาหรับผู้เรียนและ
ครูได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ครูควรใช้วิธีการวัดและประเมินแบบต่อ
เนื่องอย่างไม่เป็นทางการและเป็นทางการ ตลอดระยะเวลาที่ครูจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดที่ต้องการ
ให้ครูทำาการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ระหว่างการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ที่เรียกว่า สอนไปวัด ผลไป
- 20. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
20
จึงกล่าวได้ว่าขั้นนี้ ครูควรนึกถึงพฤติกรรมหรือการแสดงออก
ของนักเรียน โดยพิจารณาจากผลงานหรือชิ้นงานที่เป็นหลักฐานเชิง
ประจักษ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักเรียนเกิดผลลัพธ์ปลายทางตามเกณฑ์ที่
กำาหนดไว้แล้วและเกณฑ์ที่ใช้ประเมินควรเป็นเกณฑ์คุณภาพในรูป
ของมิติคุณภาพ (Rubrics) อย่างไรก็ตามครูอาจจะมีหลักฐานหรือใช้
วิธีการอื่น ๆ เช่น การทดสอบก่อนและหลังเรียน การสัมภาษณ์ การ
ศึกษาค้นคว้า การฝึกปฏิบัติขณะเรียนรู้ประกอบด้วยก็ได้
การกำา หนดภาระงานและการประเมิน ผลการเรีย นรู้ซ ง
ึ่
เป็น หลัก ฐานทีแ สดงว่า นัก เรีย นมีผ ล
่
การเรีย นรูต ามผลลัพ ธ์ป ลายทางทีก ำา หนดไว้แ ล้ว
้
่
หลังจากที่ครูได้กำาหนดผลลัพธ์ปลายทางที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับ
นักเรียนแล้ว ครูควรกำาหนดภาระงานและวิธีการประเมินผลการเรียนรู้
ซึ่งเป็นหลักฐานที่แสดงว่านักเรียนมีผลการเรียนรู้ตามผลลัพธ์ปลาย
ทางที่กำาหนดไว้แล้ว
ภาระงาน หมายถึง งานหรือกิจกรรมที่กำาหนดให้นักเรียน
ปฏิบัติ เพื่อให้บรรลุตามจุดประสงค์การเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี/มาตรฐาน
การเรียนรู้ที่กำาหนดไว้ ลักษณะสำาคัญของงานจะต้องเป็นงานที่
สอดคล้องกับชีวิตจริงในชีวิตประจำาวัน เป็นเหตุการณ์จริงมากกว่า
กิจกรรมที่จำาลองขึ้นเพื่อใช้ในการทดสอบ ซึ่งเรียกว่างานที่ปฏิบัติเป็น
งานที่มีความหมายต่อผู้เรียน (Meaningful Task) นอกจากนี้ งาน
และกิจกรรมจะต้องมีขอบเขตที่ชัดเจน สอดคล้องกับจุดประสงค์การ
เรียนรู้/ตัวชี้วัดชันปี/มาตรฐานการเรียนรู้ที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับ
้
นักเรียน
ทั้งนี้เมื่อได้ภาระงานครบถ้วนตามที่ต้องการแล้ว ครูจะต้องนึกถึง
วิธีการและเครื่องมือที่จะใช้วัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียน
ซึ่งมีอยู่มากมายหลายประเภท ครูจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับภาระงาน
ที่นักเรียนปฏิบัติ
ตัวอย่างภาระงานเรื่อง อาหารหลัก 5 หมู่และสารอาหารใน
อาหารหลัก 5 หมู่ รวมทั้งการกำาหนดวิธีการวัดและประเมินผลการเรียน
รู้ของนักเรียนดังตาราง
- 21. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
21
ตัวอย่าง ภาระงาน/ผลงาน แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง อาหารหลัก 5 หมู่และสารอาหารในอาหาร
หลัก 5 หมู่
สาระที่ 1 : สิ่ง มีช ีว ิต กับ กระบวนการดำา รงชีว ิต
มาตรฐาน ว 1.1 : เข้าใจหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของ
ระบบต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตที่ทำางานสัมพันธ์กัน มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สือสารสิ่งทีเรียนรู้
่
และนำาความรู้ไปใช้ในการดำารงชีวิตของตนเองและดูแลสิ่งมีชีวิต
ตัว ชีว ด
้ ั
ชัน ปี
้
วิเคราะห์
สารอาหาร
และ
อภิปราย
ความ
จำาเป็นที่
ร่างกาย
ต้องได้รับ
สารอาหาร
สาระ
การ
เรีย นรู้
อาหาร
หลัก 5 หมู่
ความ
หมายและ
ประเภท
ของสาร
อาหาร
ภาระ
งาน/
ผล
งาน/
ชิ้น
งาน
รายงาน
เรื่อง
อาหาร
หลัก 5
หมูและ
่
สาร
อาหาร
ใน
อาหาร
การวัด และประเมิน ผล
วิธ ีก าร
เครื่อ งมือ
เกณฑ์
−ซักถาม
ความรู้
−แบบ
สัมภาษณ์
−ตรวจผล
งาน
−แบบตรวจ
สอบ
ผลงาน
−แบบ
สังเกตการณ์
−สังเกตกา
ร
−เกณฑ์
คุณภาพ
4 ระดับ
−เกณฑ์
คุณภาพ
4 ระดับ
−เกณฑ์
คุณภาพ
กิจ กรรม
การเรีย นรู้
การสำารวจสาร
อาหารที่ได้ใน
แต่ละวัน
สื่อ การเรีย นรู้
1. ภาพอาหารต่าง ๆ
2. ภาพเด็กที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
และไม่แข็งแรง
3. แผนภูมิพีระมิดอาหาร
4. แบบบันทึกข้อมูลการสร้างคำาถาม
ของนักเรียนจากประเด็นปัญหาที่ศึกษา
5. แบบบันทึกข้อมูลการอภิปรายจาก
ประเด็นปัญหาที่ศึกษา
6. แบบบันทึกความรู้
- 22. คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
่
22
ในสัดส่วน
ที่เหมาะสม
กับเพศ
และวัย
หลัก
5 หมู่
รายงาน
−สังเกตกา
ร
ทำางาน
กลุ่ม
ทำางานกลุ่ม
−แบบประเมิน
พฤติกรรม
การ
ปฏิบัติ
กิจกรรม
เป็นราย
บุคคล
และเป็นกลุ่ม
4 ระดับ
−เกณฑ์
คุณภาพ
4 ระดับ
7. ใบงานที่ 1 สำารวจสารอาหารที่ได้
ในแต่ละวัน
8. ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง สารอาหารใน
อาหารหลัก 5 หมู่
9. ใบกิจกรรมที่ 2 การสำารวจสาร
อาหารในอาหารหลัก 5 หมู่
10. แบบทดสอบ เรื่อง สารอาหารใน
อาหารหลัก 5 หมู่
- 23. คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ สารและสมบัติของสาร ม. 4−6
23
ความเข้าใจที่คงทนจะเกิดขึ้นได้ นักเรียนจะต้องมีความสามารถ
6 ประการ ได้แก่
1. การอธิบ าย ชีแ จง เป็นความสามารถที่นักเรียนแสดงออก
้
โดยการอธิบายหรือชี้แจงในสิ่งที่เรียนรู้ได้อย่างถูกต้อง สอดคล้อง มี
เหตุมีผล และ เป็นระบบ
2. การแปลความและตีค วาม เป็นความสามารถที่นักเรียน
แสดงออกโดยการแปลความและตีความได้อย่างมีความหมาย ตรง
ประเด็น กระจ่างชัด และทะลุปรุโปร่ง
3. การประยุก ต์ ดัด แปลง และนำา ไปใช้ เป็นความสามารถที่
นักเรียนแสดงออกโดยการนำาสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมี
ประสิทธิผล มีประสิทธิภาพ และคล่องแคล่ว
4. การมีม ุม มองทีห ลากหลาย เป็นความสามารถที่นักเรียน
่
แสดงออกโดยการมีมุมมองที่น่าเชื่อถือ เป็นไปได้ มีความลึกซึ้ง แจ่ม
ชัด และแปลกใหม่
5. การให้ค วามสำา คัญ ใส่ใ จในความรู้ส ก ของผูอ ื่น เป็น
ึ
้
ความสามารถที่นักเรียนแสดงออกโดยการมีความละเอียดรอบคอบ
เปิดเผย รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ระมัดระวังที่จะไม่ให้เกิดความ
กระทบกระเทือนต่อผู้อื่น
6. การรู้จ ัก ตนเอง เป็นความสามารถที่นักเรียนแสดงออกโดย
การมีความตระหนักรู้ สามารถประมวลผลข้อมูลจากแหล่งที่หลาก
หลาย ปรับตัวได้ รู้จักใคร่ครวญ และมีความเฉลียวฉลาด
นอกจากนี้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
2551 ได้กำาหนดสมรรถนะสำาคัญของนักเรียนหลังจากสำาเร็จการศึกษา
ตามหลักสูตรไว้ 5 ประการ ดังนี้
1. ความสามารถในการสือ สาร เป็นความสามารถของ
่
นักเรียนในการถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และ
ทัศนะของตนเอง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์ อัน
จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อ
รองเพื่อประนีประนอม การเลือกที่จะรับและไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วย
หลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่มี
ประสิทธิภาพ โดยคำานึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม
2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถของนักเรียน
ในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การ
คิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดเชิงคุณธรรม และการคิดอย่างเป็นระบบ
เพื่อนำาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ เพื่อการตัดสินใจเกี่ยว
กับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม