Weitere ähnliche Inhalte Ähnlich wie Case D M Foot หม้อยาแห่งความหวัง รัชฎาพร 27 ก.ค. 54 (6) Case D M Foot หม้อยาแห่งความหวัง รัชฎาพร 27 ก.ค. 543. ผู้ป่วยเป็นพี่ชายคนโตในจำนวนพี่น้อง5 คน น้องสาว 2 คน น้องชาย 2 คนทุกคนยังมีชีวิตอยู่มีครอบครัวอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันยกเว้นน้องชายคนเล็กอยู่ต่างจังหวัด ครอบครัวของผู้ป่วยเป็นที่นับถือของคนในชุมชน บิดาเสียชีวิตเมื่อ 10 ปีก่อน ด้วยโรคชรา มารดาเสียชีวิตด้วยโรคเบาหวาน ไตวายเมื่อ 6 ปีก่อน พื้นฐานครอบครัว (Family background) 4. ภรรยาผู้ป่วยอายุ 55 ปี อาชีพค้าขายรักใคร่กันดี ผู้ป่วยมีบุตร 4 คน เป็นหญิง 3 คน เป็นชาย 1 คน บุตรสาวแต่งงานมีครอบครัวทุกคน ส่วนบุตรชายยังไม่ได้แต่งงาน ปัจจุบัน ผู้ป่วยอาศัยอยู่ในครอบครัวกับภรรยา ลูกสาวคนที่ 3 หลาน(ลูกของลูกสาว) และลูกชายคนสุดท้อง ขณะมีอาการป่วยบุตรสาวเป็นคนดูแลเป็นคนหายามาให้ต้มยาสมุนไพรให้ช่วยดูแลแผล พื้นฐานครอบครัว (Family background) 8. ประวัติการเจ็บป่วยครั้งนี้ 2 เดือนก่อนผู้ป่วยเดินชนตอไม้มีแผลเล็กน้อยที่เท้าขวา รักษาโดยทำแผลเองที่บ้านตอนแรกเหมือนแผลดีขึ้นไม่ได้สนใจ ลุยน้ำทำนา..หลังจากนั้นบวมแดงไปทั้งเท้าข้างขวา 1 เดือนก่อนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ด้วยอาการไข้สูงหายใจไม่อิ่มมีแผลบวมแดงปวดที่บริเวณเท้าด้านขวา แพทย์วินิจฉัย necrotizing fasciitis right foot , DM type 2 with Hyperglycemia รักษาด้วยการให้ IV antibiotic drugs, Debridement and amputated right 3rd toe พบกันครั้งแรก (Case approach) 9. ประวัติการเจ็บป่วยครั้งนี้ รักษาในโรงพยาบาล 8 วันแผลยังไม่ดีขึ้น ศัลยแพทย์ คุยกับผู้ป่วยเรื่องตัดนิ้วเท้าเพิ่มอีกหรืออาจจะต้องตัดขา ผู้ป่วยกลัวการเสียขา “ผมยอมตัดนิ้วมันก็เยอะแล้วนะหมอ นี่มันขาผมนะครับไม่มีขาใครจะไปยอม”ผู้ป่วยไม่สมัครใจรับการรักษา ให้ญาติพาไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนนอนโรงพยาบาลเอกชนได้ 2 วันแพทย์ศัลยกรรมโรงพยาบาลเอกชนคุยเรื่องการตัดนิ้วเท้าและตัดขาอีก ผู้ป่วยไม่ยอมรับการรักษา พบกันครั้งแรก (Case approach) 16. สิ่งที่ประเมินขณะเยี่ยมบ้าน(INHOMESSS) Home Environment บ้าน 2 ชั้น ที่นอนผู้ป่วยอยู่ชั้นล่าง ตอนกลางวันนอนบนแคร่ มีมุ้งกันแมลงตอมแผล Other People ผู้ดูแลหลักคือลูกสาวคนที่ 3 ส่วนบุตรชายและภรรยา ขับรถรับส่งผลไม้ ขายผลไม้ เป็นผู้หารายได้หลักในครอบครัวในช่วงที่ผู้ป่วยไม่สบาย มีหลานสาวอายุ 1 ปี 2 เดือนอาศัยอยู่ในครอบครัวเดียวกัน 18. สิ่งที่ประเมินขณะเยี่ยมบ้าน (INHOMESSS) Examination V/S :PR 98/min,RR22/min, V/S110/70mmHg sweating cooling skin HEENT : mildly pale, no jaundice Heart : normal s1s2, no murmur Lung: clear Extremity : edema, swelling, deformity right foot, wet gangrenous and purulent discharge at right foot DTX 324 mg% 19. สิ่งที่ประเมินขณะเยี่ยม (INHOMESSS) Safety: บ้านเป็นร้านค้า ขายของชำจัดข้าวของไม่เป็นระเบียบ Spiritual: นับถือศาสนาพุทธ ชอบทำบุญ นับถือเกจิอาจารย์ ที่วัดใกล้บ้านมาก เมื่อก่อนฆ่าวัว และฆ่าหมูขายเป็นอาชีพ เชื่อว่าที่แผลไม่หายเป็นเวรกรรมของตัวเอง ที่เคยตัดขาหมู ขาวัว Service: เมื่อคนในครอบครัวป่วย รับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน และรักษาที่คลินิกแพทย์ใกล้บ้าน ไม่ชอบรักษาที่โรงพยาบาลรัฐ เพราะรอนาน ไม่มั่นใจการรักษากลัวยาไม่ดี ไม่อยากเสียเวลา “ถ้าหายแพงแค่ไหนก็สู้..ยาฟรีมันจะดีมั๊ยหล่ะหมอ..รอนาน เวลาไปหาโทษแต่ผมว่าไม่รักษาตัวเองปล่อยให้เป็นเยอะใครจะอยากเป็น” 20. ความเจ็บป่วย ของลุงสำรอง Illness Idea: ผู้ป่วยรู้ว่าตนเองเป็นโรคเบาหวานแต่รักษาหายแล้ว ที่เป็นแผลครั้งนี้เพราะตัวเองปล่อยไว้นาน และไปลุยน้ำในทุ่งนาที่มีเชื้อโรคมาก คิดว่าการตัดขาเป็นเรื่องสำคัญเท่าชีวิต “ถ้า บ่มีขาสิอยู่จังได่ คือสิเป็นคนต่อไปได้ ถ้าไปโรงบาลหมอตัดขาผม ผมจะไปทำไม ใครก็รักตัวเอง ไผ่เขาสิเลือก อบต. บ่มีขา ” คิดว่าการรักษาด้วยยาสมุนไพรโดยไม่พึ่งการแพทย์แผนปัจจุบันจะรักษาขาไว้ได้ “ถ้าหมอไม่มีวิธีเอาขาผมไว้ได้ผมก็หาวิธีของผมเอาเอง มีคนบอกวิธีนี้มันได้ผล ผมว่าผมก็ต้องลองมันไม่มีอะไรเสียไปกว่านี้แล้วแพงเท่าไหร่ก็จะสู้” 21. ความเจ็บป่วย ของลุงสำรอง Illness Feeling: กลัวโดนตัดขา ไม่เชื่อถือ ไม่มั่นใจการรักษาที่โรงพยาบาล กลัวเป็นภาระของคนอื่น กลัวไม่ได้รับการนับถือจากคนในหมู่บ้านถ้าคนอื่นรู้ว่าตัวเองป่วยและสุขภาพไม่แข็งแรง เบื่อและรำคาญตัวเอง “ไผมาเห็น เขากะว่าเป็น อบต.จังได๋ ให้เจ้าของเป็นเบาหวาน เป็นแผลเบาหวานสิได่ตัดขา ผมกะว่าเบาหวานเซ่าแล้วน๊า แผลมันเป็นจากอย่างอื่น ก็ลือกันไปทั่ว..” “ลุงรู้สึกอย่างไรเวลาได้ยิน” “รำคาญครับหมอผมว่าตอนนี้เขาบ่เคารพผม เพราะเบาหวานนี่หล่ะ” 22. ความเจ็บป่วย ของลุงสำรอง Illness Function:ผู้ป่วยนั่งๆ นอนๆ ทำงานที่เคยทำไม่ได้ นอนไม่หลับ กินอาหารได้ปกติ Expectation:อยากเดินได้เหมือนเดิม อยากดีขึ้น อยากช่วยตัวเองได้ ทำงานได้ ไม่อยากให้ขาถูกตัด คาดหวังว่ายาสมุนไพรจะทำให้แผลหายได้ใน 4 เดือนไม่ต้องตัดขา “มันมีคนเคยหายแล้วผมว่ามันดี เวลาลูกล้างให้มีหนองไหลออกมาเหมือนยามันขับหนองออก เขารับประกัน 4 เดือนถ้าไม่หายคืนเงินเก้าพัน เขาจะเอาแค่พันเดียว”“แสดงว่าลุงจ่ายไปแล้วหนึ่งหมื่น” “ครับ” 23. Satire’s model(ลุงสำรอง) Behavior : ปฏิเสธการรักษาของแพทย์ ใช้ยาสมุนไพร Feeling : กลัวแพทย์ตัดขา กลัวเป็นภาระ กลัวไม่ได้รับการยอมรับ โกรธหมอที่โทษว่าไม่ดูแลตัวเอง กลัวว่าการที่ตนไม่ยอมรับการรักษาตอนแรกจะทำให้เจ้าหน้าที่โกรธ รู้สึกผิดที่เคยปฏิเสธการรักษา Perception : มองตัวเองด้อยค่าถ้าป่วยเป็นเบาหวานและพิการจากการตัดขา มองว่าผู้อื่นจะไม่ยอมรับถ้าเป็นเบาหวานและพิการ มองว่าเบาหวานเป็นโรคที่น่ากลัวมากถ้าเป็นแล้วอาการต้องรุนแรง Expectation: อยากให้แผลหายอยากให้ขายังอยู่ อยากได้รับการดูแลและการรับฟังจากบุคลากรทางการแพทย์ อยากให้เพื่อนบ้านเข้าใจ และยอมรับตัวเองเหมือนเดิม Yerning : ต้องการมีคุณค่าในสายตาผู้อื่น ต้องการความปลอดภัย ต้องการมีสุขภาพดี Self : เมื่อรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า และได้รับความปลอดภัยได้รับการยอมรับ self ของผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้น 25. ดูแลทั้งตัวและหัวใจ (Whole person approach) Psychological aspects: Difficult patient : Non-compliance patient and Shopping around patient ปฏิเสธการเจ็บป่วยของตนเอง ( Denial , Bargain) Poor self-esteem after sickness : losing family and social role 26. ดูแลทั้งตัวและหัวใจ (Whole person approach) Socioeconomicaspects : Miscommunication with health care providers Family of chronic disease เป็นผู้นำชุมชนกลัวไม่ได้รับความเคารพนับถือ 29. P: Presenting Problem ผู้ป่วยมีแม่ที่เคยป่วยเป็นโรคเบาหวานแล้วเสียชีวิต โดยพบว่าเป็นในระยะที่รุนแรงแล้วจึงมีความเชื่อว่าเบาหวานเป็นโรคที่รุนแรงมาก เมื่อหมอบอกว่าตัวเองเป็นเบาหวานจึงกลัวและปฏิเสธเพราะตัวเองไม่มีอาการอะไรจึงไม่รักษา คิดว่าบุคลากรทางการแพทย์ไม่เป็นมิตรคุกคามเพราะแผนการรักษาจะทำให้ตนเองเสียภาพลักษณ์ พิการ ทำให้ปฏิเสธการรักษาและเลือกวิธีการรักษาด้วยตนเอง R: Roles บทบาทลุงสำรองเปลี่ยนไปจากเคยเป็นผู้นำชุมชน ผู้นำครอบครัวต้องกลายเป็นคนที่มีการเจ็บป่วยเรื้อรังหรืออาจพิการต้องเป็นภาระของลูกและภรรยาเชื่อว่าการเจ็บป่วยจะทำให้บทบาททางสังคมเปลี่ยนไป ประเมินครอบครัวโดยใช้หลัก: PRACTICE 31. T: Time of life cycle of familyระยะที่ 6 ครอบครัวที่บุตรแยกออกจากบ้าน I: Illness ครอบครัวกลัว และกังวลเรื่องการเป็นแผลที่เท้าผู้ป่วยกลัวถูกตัดขา กลัวเป็นผู้พิการเป็นภาระของสังคม ผู้ป่วยและครอบครัวจะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ประเมินครอบครัวโดยใช้หลัก: PRACTICE 33. สรุปปัญหา ที่ครอบครัวต้องเผชิญFamily problem Biological aspects : (case index) DM type 2 poor control Infected DM foot Sepsis Psychological aspects: Difficult patient : Non-compliance patient and Shopping around patient ปฏิเสธการเจ็บป่วยของตนเอง ( Denial , Bargain) Poor self-esteem after sickness : losing family and social role Socioeconomicaspects : Miscommunication with health care providers Family of chronic disease เป็นผู้นำชุมชนกลัวไม่ได้รับความเคารพนับถือ 35. Plan of management Long term ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่เหมาะสมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ยอมรับการเจ็บป่วยและดูแลรักษาตนเองอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยและครอบครัวมีทัศนคติที่ดีต่อการให้บริการของบุคลากรทางการแพทย์ 40. ใช้หลักการให้คำปรึกษาเพื่อสร้างแรงจูงใจ DARES Develop discrepancy: ทำให้เห็นความแตกต่างของสถานะภาพในปัจจุบันกับเป้าหมายที่อยากจะเป็น “สิ่งที่เป็นอยู่” & “สิ่งที่อยากให้เป็น” หมอ : ตอนนี้อาการลุงเป็นอย่างไรหลังใช้สมุนไพรอย่างเดียวมาสามสัปดาห์ ลุงสำรอง : ผมว่ามันกะดีครับสังเกตเวลาล้างหนองไหลออกมาแสดงว่ายามันขับออกมา แต่มันก็ช้าอยู่นะ ก็ไม่เป็นไรรอพิสูจน์ 4 เดือน หมอ : แล้วลุงคิดว่าจะเป็นยังไงหลังจากนั้น ลุงสำรอง : ผมก็จะหายบ่ได้ตัดขา หมอ : เป้าหมายลุงคือหายไม่ได้ตัดขา ลุงสำรอง : ครับ หมอ : เท่าที่หมอเห็นหมอว่าเป้าหมายมันนานไปนะเพราะตอนนี้แผลลุงมีหนองมากมีเนื้อตาย กลิ่นเหม็นบวมแดงแสดงว่ามันติดเชื้อ และลุงก็มีไข้ตลอดมีน้ำตาลที่สูงมาก การติดเชื้อก็ทำให้น้ำตาลสูงแบบนี้หล่ะ หมอไม่แน่ใจว่าร่างกายลุงจะอยู่รอนานขนาดนั้นได้มั๊ยแต่ถ้าลุงได้ยาฆ่าเชื้อช่วยบ้าง ได้ทำแผลเอาหนองกับเนื้อตายออกบ้างลุงก็จะพอสู้ไหว แผลอาจหายเร็วกว่า และไม่เหนื่อยคุมน้ำตาลได้ ตอนนี้ท่าทางลุงเหนื่อยมากใช่มั๊ย 41. ใช้หลักการให้คำปรึกษาเพื่อสร้างแรงจูงใจ DARES Avoid argumentation หลีกเลี่ยงการโต้แย้ง ไม่โต้เถียงวิธีการรักษาที่ไม่เห็นด้วยกับลุงสำรอง แต่รับฟังอย่างตั้งใจและชี้ให้เห็นข้อมูลเชิงประจักษ์และแสดงความห่วงใยอย่างจริงใจ ไปพยายามเถียงเพื่อเอาชนะหรือหาข้อสรุป Roll with resistance ตะล่อมหมุนไปกับแรงต้าน ลุงสำรอง : ผมว่าถ้าผมเข้าไปโรงบาลหมอก็จะว่าผมบ่ดูแลเจ้าของหมอกะคิดแบบหมอ บ่เข้าใจดอกครับ หมอ : ก็คงหนักและรู้สึกแย่เหมือนกันนะที่จะถูกตัดขา คนอื่นๆถ้าโดนแบบลุงก็คงรู้สึกเหมือนกัน และตอนนี้หมอก็อยากช่วยลุงจริงๆ ถ้าลุงยอมให้ช่วยก็ถึงจะช่วยได้ 43. ใช้หลักการให้คำปรึกษาเพื่อสร้างแรงจูงใจ DARES Support self efficacy ส่งเสริมศักยภาพที่มีอยู่ในตัว ความรู้สึกว่าตนเองมีศักยภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ความรู้สึกมีศักยภาพคือความรู้สึกว่าตนสามารถทำอะไรให้สำเร็จ แพทย์ต้องเป็นผู้ช่วยให้ผู้ป่วยได้ค้นหา สะท้อนให้ผู้ป่วยเห็นและสรุปความให้ผู้ป่วยเกิดความมั่นใจ ว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้ และมีผลดี