สื่อการเรียนภาษาซี เบื้องต้น ระดับชั้น ปวส

1. บทที่ 1 ภาษาซีเบื้อง
ต้นC Programming
C-Programming
โดยนางสาวสุชาดา จงจงประเสริฐ
รายวิชาการใช้โปรแกรมภาษาซี
(3204-2008)
วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี แห่งที่ 2

2. 2
มีอะไรบ้างในบทนี้
 1.1 ความนำาการเขียนโปรแกรม
 1.2 ซอฟต์แวร์คืออะไร?
 1.3 ภาษาคอมพิวเตอร์
 1.4 โปรแกรมที่เขียนจะทำางาน
อย่างไร?
 1.5 ไฟล์โปรแกรมที่ได้จากการแปล
ภาษา
 1.7 ประวัติของภาษาซี
 1.8 พัฒนาการของคอมไพเลอร์ภาษา
ซี
 1.9 ระบบช่วยเหลือของคอมไพเลอร์
C Programming
C-Programming

3. 3
1.1 ความนำาการเขียน
โปรแกรม
 เราเขียนโปรแกรมไปเพื่ออะไร
เพราะว่าในหลักสูตรที่เรียนอยู่บังคับ
วิชานี้
เพราะอาจารย์ให้เขียนโปรแกรมส่ง
อาทิตย์หน้า
เพราะอยากเพิ่มพูนความรู้ด้าน
คอมพิวเตอร์
เพราะต้องการเขียนโปรแกรมไว้ใช้
เอง
ฯลฯ
 การเขียนโปรแกรมก็เหมือนการแก้
โจทย์ปัญหา เราจะต้องทราบว่าเรา
C Programming
C-Programming

4. 4
ภาษาคอมพิวเตอร์
 โปรแกรมที่รันบนวินโดว์ C/C++, Visual
Basic, Delphi
 โปรแกรมที่ทำางานบนเว็บ PHP, ASP,
JAVA, Perl, Tcl, C#
 โปรแกรมฐานข้อมูล Visual Basic
 โปรแกรมกราฟิก
 โปรแกรมเกม
 โปรแกรมคำานวณ
C Programming
C-Programming

5. 5
1.2 ซอฟต์แวร์คืออะไร ?
 ซอฟต์แวร์(Software) หรือโปรแกรม
คอมพิวเตอร์(Computer Program) คือ
โปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาจากภาษา
คอมพิวเตอร์และถูกแปลงให้เป็น
ภาษาเครื่องเพื่อให้คอมพิวเตอร์
ทำางานอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่เรา
ต้องการ
 แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
 System software
 Application software
C Programming
C-Programming

6. 6
System Software
 เป็นโปรแกรมที่ทำำงำนเกี่ยวกับระบบ
คอมพิวเตอร์ มีหน้ำที่ในกำรควบคุม
อุปกรณ์ฮำร์ดแวร์ทุกชนิด และจัด
ตำรำงกำรทำำงำนทั้งฮำร์ดแวร์และ
ซอฟต์แวร์ที่ทำำงำนกับฮำร์ดแวร์ทุก
ตัวซึ่งก็คือระบบปฏิบัติกำร(Operating
System:OS) นั่นเอง
 ได้แก่ DOS, Windows, Linux, Mac OS, OS/2
C Programming
C-Programming

7. 7
Application Software
 เป็นโปรแกรมที่ถูกสร้ำงขึ้นเพื่อทำำงำน
ด้ำนต่ำงๆ ซึ่งก็ถูกเขียนขึ้นจำก
โปรแกรมภำษำต่ำงๆ
 เช่น PowerDVD, Windows Media Player, Winamp,
Word, Calculator, SPSS
 สำมำรถแบ่งออกได้หลำยประเภทดังนี้
 โปรแกรมพิมพ์งำน
 โปรแกรมเกม
 โปรแกรมยูทิลิตี้
 โปรแกรมมัลติมีเดีย
 โปรแกรมสำำหรับระบบ
 โปรแกรมภำษำสำำหรับพัฒนำซอฟต์แวร์
C Programming
C-Programming

8. 8
1.3 ภำษำคอมพิวเตอร์
 แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
 ภำษำระดับตำ่ำ ได้แก่ ภำษำเครื่อง และ
ภำษำ Assembly
 ภำษำระดับสูง ได้แก่ Basic, Pascal, Ada, C,
Cobol, Fortran และอื่นๆ
 ควำมแตกต่ำงระหว่ำงภำษำระดับสูงและ
ระดับตำ่ำคือ ภำษำระดับตำ่ำ ควบคุม
อุปกรณ์ฮำร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ได้ดีกว่ำ
แต่เขียนยำก และยำวมำก ส่วนภำษำ
ระดับสูงเขียนง่ำยเข้ำใจง่ำยกว่ำเพรำะ
ใกล้เคียงภำษำมนุษย์ แต่มีข้อจำำกัดใน
กำรควบคุมฮำร์ดแวร์
C Programming
C-Programming

9. 9
1.4 โปรแกรมที่เขียนขึ้นจะ
ทำำงำนได้อย่ำงไร ?
 โปรแกรมที่เขียนขึ้นมำ ไม่ว่ำจะเขียน
โดยใช้อิดิเตอร์(editor) อะไรก็ตำม จะได้
ซอร์สโค้ด(source code) ซึ่งจะเก็บในรูป
แฟ้มข้อมูล ซึ่งจะมีนำมสกุลแตกต่ำงกัน
ไปดังนี้
C Programming
ภำษำ นำมสกุล ตัวอย่ำง
C++
C
Pascal
Perl
PHP
Java
.c
.cpp
.pas
.pl
.php
.java
hello.c
hello.cpp
hello.pas
hello.pl
hello.php
hello.java
C-Programming

10. 10
กระบวนกำรแปลโปรแกรมC Programming
----
----
----
----
----
----
ซอร์สโค้ด กระบวนกำรแปลโปรแกรมโปรแกรมที่สำมำรพทำำงำนได
โดยไม่ต้องมี source code
C-Programming

11. 11
ตัวแปลภาษา
 คอมไพเลอร์(compiler)
คอมไพเลอร์จะอ่านโปรแกรม
ทั้งหมดก่อน เมื่อเจอข้อผิดพลาดก็
จะแจ้งให้แก้ไข แต่ถ้าไม่พบข้อผิด
พลาดใดๆ ในโปรแกรม ก็จะแปลให้
เป็นโปรแกรมที่พร้อมจะทำางานดังรูป
C Programming
C-Programming

12. 12
ตัวแปลภาษาC Programming
C-Programming
ขอตรวจ
สอบดูก่อน
Main()
{
printf(“XX”);
printf(“YY”);
}
Main()
{
printf(“XX”);
printf(“YY”);
}
ซอร์สโค้ด
กระบวนการแปลโปรแกรม
มีข้อผิดพลาด
ไปแก้ไขมาใหม่
ถูกต้อง
ผ่านได้

13. 13
ตัวแปลภาษา
อินเตอร์พรีเตอร์(interpreter)
อินเตอร์พรีเตอร์จะอ่านโปรแกรมมา
ทีละบรรทัดและทำาตามคำาสั่งแบบ
บรรทัดต่อบรรทัดถ้าเจอข้อผิดพลาด
โปรแกรมจะหยุดและแจ้งให้ทราบว่า
ผิดพลาด
ตัวอย่างเช่นการแปลภาษา HTML
C Programming
C-Programming

14. 14
1.5 ไฟล์โปรแกรมที่ได้จาก
การแปลภาษา
 เมื่อเขียนโปรแกรมเสร็จ ผ่าน
การแปลภาษาแล้วผลที่ได้ก็จะ
เป็นไฟล์โปรแกรมที่สามารถนำา
ไปใช้ได้เลย โดยอาจก๊อปปี้ลง
ดิสก์ไปเปิดที่เครื่องอื่นๆ ได้ ซึ่ง
จะเป็นไฟล์โปรแกรมแยกจากตัว
ซอร์สโค้ดที่เราเขียน
 ไฟล์โปรแกรมที่ได้นั้นเป็นไฟล์
แบบเลขฐานสอง หรือ
C Programming
C-Programming

15. 15
1.6 ประวัติของภาษาซี
 C มีต้นกำาเนิดมาจากภาษาคอมพิวเตอร์
ยูนิกซ์(UNIX)
 นำาเอาภาษาเครื่องมาใช้ในการพัฒนา
โปรแกรมอื่นๆ และพัฒนาเป็นระบบ
ปฏิบัติการ(OS) และได้สร้างภาษาบี(B)
ขึ้นมา เพื่อช่วยให้การเขียนโปรแกรม
ทำาได้ง่ายขึ้น ต่อมา Dennis Ritchie
จาก Bell Lab ได้นำาภาษานี้มาพัฒนา
ต่อและใช้ชื่อว่า C เพราะเป็นภาษาต่อ
จาก B ในยุคนั้นจะทำางานบนยูนิกซ์
เป็นส่วนมาก
C Programming
C-Programming

16. 16
จากภาษา C สู่ C++
 ภาษา C ได้มีการพัฒนาต่อโดยใช้
แนวคิดโปรแกรมเชิงวัตถุ หรือ
OOP(Object Oriented Programming)
 “ ”เกิดภาษาใหม่เรียกว่า ซี พลัส พลัส
(C++)
 ภาษาซียังเป็นต้นฉบับให้กับอีกหลายๆ
ภาษาในปัจจุบันเช่น Java, C# (อ่านว่า
ซีชาร์ป)
 C# คือภาษาที่ออกแบบมาเพื่อทำางาน
บนแพลตฟอร์ม .NET
C Programming
C-Programming

17. 17
1.7 พัฒนาการของคอมไพ
เลอร์ภาษา C
 DOS >> Turbo C
 Windows >>
Microsoft Visual C++
Borland C++
Borland C++ Builder
Symantec C/C++
C Programming
C-Programming

18. 18
1.8 ระบบช่วยเหลือของคอม
ไพเลอร์ภาษา C
 เมื่อติดตั้งคอมไพเลอร์ภาษา C แล้วจะ
มีระบบช่วยเหลือมาให้ด้วย
 Visual C++ จะมีระบบช่วยเหลือที่ชื่อ
MSDN(Microsoft Developer Network)
C Programming
C-Programming

19. 19
1.9 สรุป
 คอมไพเลอร์ภาษา C ที่ในปัจจุบันมี
หลายตัว แต่มีพื้นฐานมาจากมาตรฐาน
เดียวกันคือ ANSI C ซึ่งจะเป็น
มาตรฐานของการเขียนโปรแกรม
ภาษา C บนยูนิกซ์ Linux หรือ
Windows โดยใช้คอมไพเลอร์ Visual
C++, Borland C++, GNU C/C++
 ภาษาซีเป็นพื้นฐานของภาษา C++,
Java, C#
C Programming
C-Programming