Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie Challenge Based Learning(CBL) : การเรียนรู้บนความท้าทาย : (20)
Mehr von DrDanai Thienphut (20)
Challenge Based Learning(CBL) : การเรียนรู้บนความท้าทาย :
- 1. 1
CBL: Challenge Based Learning ดร.ดนัย เทียนพุฒ : สงวนลิขสิทธิ 2556
การเรียนรู้บนความท้าทาย (CBL)
ดร.ดนัย เทียนพุฒ
นักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิและทีปรึกษาอิสระ
CBL หรือ Challenge Based Learning เป็นวิธีการเรียนรู้แบบใหม่ในโลกธุรกิจ ผ่านเข้า
มายังผู้เขียนในขณะทีค้นคว้าหาเกียวกับ วิธีการเรียนรู้แบบใหม่สําหรับองค์กรธุรกิจ
หลังจากทีผู้เขียนได้อ่านแนวคิดของ CBL (Challenge based Learning) และลองศึกษา
ทําความเข้าใจ จนกระทังมีข้อสรุปว่า
....เป็นวิธีการเรียนรู้แบบใหม่ทีน่าสนใจกับการนํามาทดลองใช้ในการเรียนการสอน ทังใน
สถาบันการศึกษาและสําหรับการพัฒนาคนในองค์กรธุรกิจ
....ขณะทีหลายคนต่างพูดกันว่า การเรียนรู้ทีเน้นการแก้ปัญหา หรือ PBL (Problem
based Learning) เป็นวิธีการเรียนรู้ทีดีกว่า การเรียนรู้ทีเน้นการสอน (Teaching based learning) ซึง
ผู้เขียนเห็นด้วย แต่ไม่เชือว่า PBL-การเรียนรู้ทีเน้นการแก้ปัญหา จะดีกว่าวิธีอืนๆ
ไม่มีปัญหาแล้วจะระดมความคิดได้อย่างไร?
ในตอนทีผู้เขียนได้รับเชิญจากบริษัทแห่งหนึงซึงขายเครืองจักรทีใช้ในการขึนรูป อุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ต่าง
ๆ ทีอุตสาหกรรมต้องซือมาใช้
ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทดังกล่าว เชิญผู้เขียนมาหารือถึงแนวทางในการปรับเปลียนองค์กร ว่าจะมี
รูปแบบและวิธ◌ีการอย่างไร โดยข้อสรุปทีได้คือ การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการหัวข้อ “เปิดใจ (Open Mind)” โดยให้
ผู้เขียนมาเป็นวิทยากรดําเนินการในเรืองนี (ดังรูป)
ซึงผู้เข้าอบรมมีชาวต่างประเทศเข้าร่วมด้วย โดยเป็นชาวสิงคโปร์และญีปุ่น
เมือถึงตอนการฝึกปฏิบัติ ชาวญีปุ่นทีเข้าร่วมฝึกอบรมด้วยในตอนประชุมกลุ่มเพือหาแนวทางการเปิดใจ
ทํางานกับหุ้นส่วนธุรกิจ (Stakeholders) ได้พูดขึนมาว่า
“หากไม่มีปัญหาแล้วจะให้มาระดมความคิดกันในเรืองอะไร?”
สิงนีเป็นการสะท้อนให้เห็นแล้วว่า การเรียนรู้จากปัญหาแล้วหาทางแก้ไขพอทําไปนานๆ เข้าจะเกิดการติด
กับดักของปัญหา ทําให้ไม่สามารถคิดอะไรใหม่ ๆ ได้
- 2. 2
CBL: Challenge Based Learning ดร.ดนัย เทียนพุฒ : สงวนลิขสิทธิ 2556
แม้ว่า CBL จะใช้แนวคิดมาจาก PBL ก็ตามแต่ผู้เขียนกลับเห็นว่า เป็นวิธีการเรียนรู้ที
น่าสนใจและนํานามาใช้ในบริบทของธุรกิจและสถาบันการศึกษาในประเทศไทยได้
นีคือ จุดเริมต้นของการริเริมและพัฒนา “การเรียนรู้บนความท้าทาย (CBL)”
การเรียนรู้บนความท้าทายหรือ CBL (Challenge Based Learning) เป็นวิธีการสอนที
บุกเบิกโดยบริษัท Apple ทีอาศัยการเรียนรู้เน้นปัญหาหรือการแก้ปัญหาเป็นพืนฐาน โดยพัฒนาต่อยอด
ขึนมาในรูปแบบใหม่ทีผู้สอนและผู้เรียนทํางานร่วมกัน เพือเรียนรู้ในประเด็นทีสนใจแล้วเสนอโซลูชันต่อ
ความท้าทายในโลกทีแท้จริงและการนําไปดําเนินการ ขณะเดียวกันก็นําเทคโนโลยีเวบ 2.0 เข้ามาเป็น
เครืองมือในการทํางานร่วมกันและแบ่งปันการเรียนรู้ในระดับโลก
ตามเอกสารทีเผยแพร่ของบริษัท Apple หัวข้อ “Challenge Based Learning: Take
action and make a difference” (http://ali:apple.com/cbl/global/files/CBL-Paper.pdf) ว่าโครงการนี
เริมในปี 2008 เรียกว่า Apple Classrooms of Tomorrow-Today (ACOT2
)
สิงทีผู้เขียนอยากนําเสนอเป็นเบืองต้นก่อนเพือให้ทีท่านผู้อ่าน ผู้บริหารธุรกิจ หรือผู้ที
สนใจมีพืนฐานเกียวกับเครืองมือในการพัฒนาการเรียนรู้ โดยเฉพาะความแตกต่างของ CBL กับ PBL และ
การพัฒนาทักษะทีได้จาก CBL มีความสอดคล้องกับทักษะในศตวรรษที 21 ดังนี
ความแตกต่างระหว่าง CBL กับ PBL
ในด้านนวัตกรรมของเครืองมือด้านวิธีการเรียนรู้ในยุคหลังๆ เราจะพบเห็นน้อยมาก ซึง
อาจเป็นเพราะระบบการศึกษาไทยมัวแต่ให้ความสนใจกับ การทําผลงานเพือขอตําแหน่งทางวิชาการทีเป็น
“Research Professor” กันมากจนลืมสร้างองค์ความรู้ด้านวิธีการเรียนรู้ การสอน ซึงอาจเรียกได้ว่าเป็น
“Teaching Professor”
อะไรเป็นสิงทีแตกต่างกันในวิธีการเรียนรู้แบบ CBP กับ PBL ผู้อ่านสามารถพิจารณาได้
จากตารางเปรียบเทียบดังนี
การเรียนรู้บนความท้าทาย : CBL
- 3. 3
CBL: Challenge Based Learning ดร.ดนัย เทียนพุฒ : สงวนลิขสิทธิ 2556
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง CBL กับ PBL
PBL CBL
สหวิทยาการ สหวิทยาการ
เป็นความร่วมมือ เป็นความร่วมมือ
ผลได้ทีถูกคาดหวัง ผลได้ออกแบบโดยผู้เรียน
เน้นปัญหา เป็นโลกทีแท้จริง
การสังโดยผู้สอน แรงขับโดยผู้เรียน
จํากัดการเข้าถึงเทคโนโลยี เข้าถึงได้ 24 x 7
เน้นแนวคิด เน้นการทํา
ปรับเปลียนไม่ง่าย ปรับเปลียนได้ง่าย
แบ่งปันระดับท้องถิน เผยแพร่ระดับโลก
*Cauthron, M. (2010). Challenge Based Learning.
ความแตกต่างทีชัดเจนคือ การเรียนรู้บนความท้าทายหรือ CBL เป็นการออกแบบโดย
ผู้เรียน ขณะที PBL กําหนดผลได้ไว้ก่อน CBL เป็นโลกทีแท้จริง ไม่จํากัดอยู่ทีปัญหาแบบ PBL การเรียนรู้
แบบ CBL เป็นแรงขับโดยผู้เรียนไม่ใช่แบบ PBL ทีสังโดยผู้สอน และทีแตกต่างชัดเจนในการนําเทคโนโลยี
เวบ 2.0 เข้ามาใช้ทําให้การเรียนรู้และวัดผลการเรียนรู้ซึงจะต้องจัดทําโดยการเผยแพร่ในระดับโลกไม่ใช่แค่
ในระดับท้องถิน
สําหรับกรอบแนวคิด (The Framework) ของ CBL มีดังรูปที 1 (ในรายละเอียดจะทยอย
อธิบายและยกตัวอย่างประกอบ) ซึงประกอบด้วย 1) ไอเดียทียิงใหญ่ (Big Idea) 2) คําถามสําคัญ
(Essential Question) 3) ความท้าทาย(The Challenge) 4) การออกแบบ (Design) ประกอบด้วย
แนวทางคําถาม แนวทางกิจกรรม และแนวทางใช้ทรัพยากร 5)โซลูชันและการปฏิบัติ (Solution-Action) 6)
การวัดประเมิน (Assessment) 7) การเผยแพร่ (Publishing)
- 4. 4
CBL: Challenge Based Learning ดร.ดนัย เทียนพุฒ : สงวนลิขสิทธิ 2556
รูปที 1 The Framework of CBL
*http://ali/apple.com/cbl/global/files/CBL_Paper.pdf. p.2
ซึงในการนําไปใช้จริงต้องมีการศึกษา วิเคราะห์และทําความเข้าใจพอสมควรและถือเป็น
“นวัตกรรมใหม่ในการเรียนรู้”
การพัฒนาทักษะทีได้จาก CBL ซึงสอดคล้องกับทักษะ-ในศตวรรษที 21
การเรียนรู้บนความท้าทายทีผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันออกแบบการเรียนรู้โดยมีแรงขับมา
จากผู้เรียน ผลการศึกษาของ The New Media Consortium (2009; Laurence, F et al. Challenge
Based Learning: 15) พบว่า CBL ได้พัฒนาทักษะของผู้เรียนทีสอดคล้องกับทักษะในศตวรรษที 21 ใน
ด้านเนือหาสําหรับศตวรรษที 21 (21st
Century Content) เข่น การตระหนักในระดับโลก (Global
Awareness) การรู้หนังสือของพลเมือง (Civic Literacy) ตระหนักในสุขภาพและความเป็นอยู่ทีดี (Health
- 5. 5
CBL: Challenge Based Learning ดร.ดนัย เทียนพุฒ : สงวนลิขสิทธิ 2556
and Wellness Awareness) – มีหนึงโครงการ ในด้านทักษะการเรียนรู้และการคิด (Learning and
Thinking Skills) เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving
Skills) ทักษะความร่วมมือ (Collaboration Skills) ทักษะการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and
Innovation Skills) ทักษะด้านสารสนเทศและมีเดีย (Information and Media Literacy Skills) ทักษะการ
เรียนรู้ด้านบริบท (Contextual Learning Skills) ในด้านทักษะชีวิต (Life Skills) เช่น ความเป็นผู้นํา
(Leadership) การปรับตัว (Adaptability) ผลิตภาพส่วนบุคคล (Personal Productivity) และความ
รับผิดชอบส่วนบุคคล (Personal Responsibility) ทักษะด้านคน (People Skills) การสังการตนเอง (Self
Direction) และความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility)
ทังหมดนีเป็นทีมาของการเริมต้นทีทําให้ผู้เขียนนําการเรียนรู้บนความท้าทายหรือ CBL
(Challenge based Learning) มาพัฒนาต่อให้มีความเหมาะสมและปรับใช้กับสถานศึกษาในระดับ
ปริญญาโทและปริญญาเอก รวมถึงการใช้เป็นเครืองมือการเรียนรู้ของทรัพยากรบุคคลในองค์กรธุรกิจ