3. 3
ใจเป็นผู้นาสรรพสิ่ง Mind foreruns all mental condition
ใจเป็นใหญ่ (กว่าสรรพสิ่ง) Mind is chief,
สรรพสิ่งสาเร็จได้ด้วยใจ mind-made are they;
ถ้าพูดหรือทาสิ่งใดด้วยใจที่บริสุทธิ์ If one speaks or acts with a pure mind,
ความสุขย่อมติดตามเขาไป Then happiness follws him
เหมือนเงาติดตามตน Even as the shadow that never leaves.
..........ใจเป็นผู้นาสรรพสิ่ง Mind foreruns all mental condition
ใจเป็นใหญ่ (กว่าสรรพสิ่ง) Mind is chief,
สรรพสิ่งสาเร็จได้ด้วยใจ mind-made are they;
ถ้าพูดหรือทาสิ่งใดด้วยใจชั่ว If one speaks or acts with a wicked mind,
ความทุกข์ย่อมติดตามตัวเขา Then suffering follows him
เหมือนล้อหมุนเต้าตามเท้าโค Even as the wheel the hoof of the ox.
ในทางวิทยาศาสตร์ มีการทาการทดลองไว้มากมายในเรื่องความสัมพันธ์กันระหว่างร่างกายและ
จิตใจ โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าสุขภาพของจิตใจมีอิทธิพลต่อสุขภาพของร่างกายหรือของชีวิตโดยรวม กล่าวคือ
ถ้าบุคคลนั้นมีสุขภาพจิตที่ดี มีความสุข มองโลกในแง่ดี เบิกบานไม่เครียด ไม่ขี้โกรธ มีจิตใจที่สงบเป็นสมาธิ คนผู้
นั้นก็จะมีภูมิต้านทานในร่างกายที่แข็งแรง ระบบในร่างกายสามารถผลิตเม็ดเลือดขาว (White Blood Cell) ได้มาก
ขึ้นเพื่อป้องกันและกาจัดเชื้อโรค แม้แต่เซลล์มะเร็ง (Cancer Cell) ก็สามารถถูกทาลายได้ด้วยเม็ดเลือดขาว T-Cell
และ B-Cell ที่เกิดจากการมีสุขภาพจิตที่ดี จิตใจที่สงบและมีสมาธินั่นเอง และในทางตรงกันข้าม ถ้าบุคคลใดมี
สุขภาพจิตที่ไม่ดี ขี้เครียด วิตกกังวล ขี้โกรธ อมทุกข์เศร้าหมอง สมองจะส่งสัญญาณให้ภูมิต้านทานในร่างกายตก
ต่าลง เม็ดเลือดขาวถูกผลิตน้อยลงและอ่อนแอจนกระทั่งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆสามารถเข้ามาเบียดเบียนได้
โดยสะดวก บุคคลนั้นก็จะมีสุขภาพอ่อนแอ มีโรคมาก ส่งผลให้ใจยิ่งเศร้าหมองหนักไปอีก...นี่แหละคือความจริงที่
เกิดขึ้นในชีวิตของเรา ดังนั้น คงเห็นแล้วใช่ไหมว่า.... “จิตใจ” เป็นนายใหญ่และมีความสาคัญกับชีวิตของเรา
อย่างไร จะสุข จะทุกข์ จะดี จะชั่ว ก็อยู่ที่ใจดวงนี้ของเรานั่นเอง
......ถ้าเช่นนั้นเราจะมาศึกษาไปด้วยกันถึง “ศิลปะในการพัฒนาจิตใจ” หรือ “วิธีการในการสร้าง
เสริมและรักษาจิตใจของเราให้มีสุขภาพจิตที่ดี มีความสุข และไม่มีความทุกข์” ว่าทาได้อย่างไรกัน ทั้งในขอบเขต
ของจิตวิทยา และศาสนาที่สามารถนามาปฏิบัติให้เห็นผลได้จริง.....มีคนเคยบอกว่า “เราไม่สามารถอิ่มได้ด้วย
อาหารที่ผู้อื่นเคี้ยว” ดังนั้นถ้าอยากจะมีจิตใจที่เปี่ยมสุขอย่างแท้จริง ก็ต้องปฏิบัติด้วยตัวของเราเอง โดยเริ่มที่ใจ
ของเราก่อน.......