Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie การเป็นพิธีการมืออาชีพ (6)
Mehr von Yaowaluck Promdee (20)
การเป็นพิธีการมืออาชีพ
- 1. โดย นางสาวเยาวลักษณ์ พรมดี
นักศึกษาระดับปริญญาโท หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- 2. แนะนาตัว
บทบาทและความสาคัญ
ลักษณะของพิธีกรและหน้าที่
ทักษะพื้นฐานในการทาหน้าที่
พิธีกร
เทคนิคในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสาหรับพิธีกร
การพูดในที่ชุมชน
Workshop
- 3. พิธีกร คือ ผู้ดาเนินการ ทาหน้าที่หลัก (Master) ดูแลทังหมด
้
ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดของ กิจกรรมนั้นๆ
วิทยากร คือ ผู้รับหน้าที่บรรยาย ตามคาเชิญ
โฆษก คือ ผู้ทาหน้าที่ พูดแทน องค์กรหรือบุคคล เช่น โฆษก
รัฐบาล
ผู้ดาเนินรายการ คือ ผู้ทาหน้าที่ ช่วงใดช่วงหนึ่ง เฉพาะของ
รายการนั้นๆ
ผู้ประกาศ คือ ผู้ทาหน้าที่ แจ้งข่าว ประกาศ หรือประชาสัมพันธ์
เรื่องต่างๆให้ทราบ
- 5. ลักษณะ แบ่งออกเป็น
2.1 พิธีกรเดี่ยว เป็นผู้ดาเนินการเพียงผู้เดียว ต้องเป็นผู้มีไหวพริบ
ปฏิภาณ แก้ปัญหา เฉพาะหน้าได้ดี ต้องสามารถสร้างบรรยากาศได้
2.2 พิธีกรคู่ เป็นผู้ดาเนินการ คู่ จะต้องระวังในเรื่องสัดส่วนของการพูด
อย่าแย่งกัน และต้องพูดให้สอดคล้องกันในลักษณะสนทนาจะดีกว่า
- 6. * หน้าที่พิธีกร * ประเภทการพูดที่พิธีกรต้องศึกษา
1. กล่าวต้อนรับ/ ทักทาย 1. คาทักทายหรือปฏิสันถาร
2. แจ้งกาหนดการ 2. คากล่าวนา
3. ให้ข้อมูลของกิจกรรม 3. การแจ้งรายการภาคพิธีการ
4. ดาเนินกิจกรรม ตามขั้นตอน 4. การแนะนาวิทยากร
5. สร้างสีสัน และบรรยากาศ 5. การกล่าวสรุป
6. แก้ปัญหาเฉพาะหน้า 6. การกล่าวขอบคุณ
7. กล่าวขอบคุณ และกล่าวปิดงาน
- 8. การกล่าวทักทาย
- สวัสดี ใช้ในภาพรวม ที่ผู้ฟังมีระดับเดียวกันหรือใกล้เคียง หรือต่ากว่า
- เรียน ใช้กับผู้มีตาแหน่งสูงกว่า
- กราบเรียน ใช้กับนายกรัฐมนตรี
- นมัสการพระคุณเจ้า ใช้กับพระภิกษุ (ในกรณีงานนั้นมีพระภิกษุมาต้องยกมือไหว้
พระภิกษุก่อน แล้วพูดว่า นมัสการพระคุณเจ้า จากนั้นพูดต่อว่า เรียน........ หรือ กราบ
เรียน......
- ถ้าพูดถึงตาแหน่ง เพื่อเป็นการยกย่องให้ใส่ ท่าน เช่น ท่านอธิการบดี ท่านผู้ว่า
ราชการจังหวัด หรือ ท่านคณบดี เป็นต้น
- การเอ่ยชื่อเพื่อทักที่ประชุม ไม่ควรจะเกิน 4 คน เช่น เรียน ท่านอธิการบดี
ท่านคณบดี
และผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน .................
- 9. คาที่ไม่ควรใช้และกิริยาซาชากที่ไม่ควรทา
- ไม่ควรขึ้นต้น นะคะ,นะครับ หลังคาพูดทุกๆ คา
- ไม่ควรพูดคาว่า เออ...... อ้า......
- ไม่ควรใช้คาว่า พวก....... ให้ใช้คาว่า ท่าน.........
- ไม่ควรพูดว่า เล็กๆ น้อยๆ......ฯลฯ ......เช่น มีกลอนเล็กๆ น้อยๆ มาก
ฝากท่าน....
- ต้องไม่พูดถ่อมตัว เช่น ไม่ค่อยรู้เรื่อง.. ไม่ชานาญ .. ไม่ได้เตรียมตัวมา...
( เพราะจะทาให้ผู้ฟังขาดความเชื่อถือ เพราะบ้างครั้งผู้ฟังก็ไม่สังเกตเห็น
ว่าท่านพลาด)
- ไม่ล่วง แคะ แกะ เกา หรือ ขณะพูด กระแอม ไอ ตลอดการพูด
- 10. คาที่ใช้ในโอกาสเป็นทางการ
- ในโอกาสนี.้ ................... - ในนามของ.....................
- ขอนาทุกท่านเข้าสู่................. - บัดนี/ ณ บัดนี้
้
- หวังเป็นอย่างยิ่งว่า - สุดท้ายนี้
- ขอเชิญทุกท่าน......
- ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ.......(เป็นการเรียกผู้ฟังให้มาสนใจผู้พูด)
- บัดนี้ได้เวลาอันเป็นมงคล (ใช้กับงานที่ต้องมีฤกษ์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น เปิด
งาน
- บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้ว (ใช้กับงานทั่วไป)
- 11. คาที่ใช้ในโอกาสเป็นทางการ
- ในโอกาสนี.้ ................... - ในนามของ.....................
- ขอนาทุกท่านเข้าสู่................. - บัดนี/ ณ บัดนี้
้
- หวังเป็นอย่างยิ่งว่า - สุดท้ายนี้
- ขอเชิญทุกท่าน......
- ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ.......(เป็นการเรียกผู้ฟังให้มาสนใจผู้พูด)
- บัดนี้ได้เวลาอันเป็นมงคล (ใช้กับงานที่ต้องมีฤกษ์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น เปิด
งาน
- บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้ว (ใช้กับงานทั่วไป)
- 12. คาที่ใช้ในโอกาสเป็นทางการ
- ในโอกาสนี.้ ................... - ในนามของ.....................
- ขอนาทุกท่านเข้าสู่................. - บัดนี/ ณ บัดนี้
้
- หวังเป็นอย่างยิ่งว่า - สุดท้ายนี้
- ขอเชิญทุกท่าน......
- ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ.......(เป็นการเรียกผู้ฟังให้มาสนใจผู้พูด)
- บัดนี้ได้เวลาอันเป็นมงคล (ใช้กับงานที่ต้องมีฤกษ์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น เปิด
งาน
- บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้ว (ใช้กับงานทั่วไป)
- 14. บุคลิกภาพของผู้พูด
ผู้พูดอยู่บนเวที คือเป้าสายตาของผู้ฟัง ดังนั้น ควรจะต้อง
ระมัดระวังในเรื่อง
* บุคลิกภาพการแต่งกาย เสือผ้า หน้า ผม ให้ดูดี
และน่าเชื่อถือ
* การใช้สีหน้า สายตา ไม่ควรใช้มือออกท่าทางเวลา
พูด
* เมื่อนั่งพูดไม่ควรเขย่าขา หรือสั่นขา
* ไม่ควรเอามือไขว่หลังขณะพูด (เพราะเป็นการพูดกับผู้มี
ศักดิ์ต่ากว่า)
- 15. เมื่อถึงเวลาแล้วประธานหรือผู้พูดยังมาไม่ถึง
เมื่อเครื่องเสียงไม่เป็นใจ
เมื่อพิธีกรอ่านข้อความผิด
เมื่อผู้ฟังออกอาการ...ไม่ฟัง...เบื่อ...หลับ
เมื่อต้องเป็นพิธีจรจาเป็น
- 17. 1. พูดแบบท่องจำ
เตรียมเรื่องพูดอย่างมีคุณค่า สาระถูกต้องเหมาะสม แล้วจาเรื่องพูด
ให้ได้ เวลาพูดให้เป็น ธรรมชาติ มีลีลา จังหวะ ถ่ายทอดออกมาทุก
ตัวอักษร
2. พูดแบบมีต้นฉบับ
พูดไปอ่านไป จากต้นร่างที่เตรียมมาอย่างดีแล้ว แต่ไม่ใช่ก้มหน้าก้ม
ตาอ่าน เพราะไม่ใช่ ผลดีสาหรับผู้พูด
3. พูดจำกควำมเข้ำใจ
เตรียมเรื่องพูดไว้ล่วงหน้า ถ่ายทอดสารจากความรู้ความเข้าใจของ
ตนเอง มีต้นฉบับ เฉพาะหัวข้อสาคัญเท่านั้น เช่น การพูด , สนทนา , อภิปราย ,
สัมภาษณ์