SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 9
Downloaden Sie, um offline zu lesen
"การยืนการเดินการนั่งการนอนให้มีสติมีสตินั่นแหละ การทาความเพียร
ถ้าขาดสติเมื่อไหร่ เมื่อนั้นแปลว่าขาดความเพียร"
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก..
วัดป่านาคาน้อย..อาเภอนายูง...จังหวัดอุดรธานี..
เราคิดปรุงฟุ้งไปเรื่องอะไร เดี๋ยวออกไปข้างนอก เดี๋ยวก็ว่านี่สวย นี่รวย
อันนี้น่ารักใคร่ อันนี้น่าพอใจ อันนั้นก็อยากได้ อันนี้ก็อยากได้
ความอยากอยู่ในจิตในใจ อยากอยู่ตลอดเวลา
อยากไม่มีเหตุผล อยากไปที่ไหน อยากอยู่ในจิตในใจ
เพราะมันหิวโหย มันไม่ได้พิจารณา มันไม่มีธรรมในจิตใจ
มันไม่ได้หาเหตุผลเข้าสู่จิตใจ
มีแต่ปล่อยให้กิเลสนาหน้าธรรม ไม่ใช่ธรรมสกัดไว้ข้างหน้า
มีแต่ธรรมวิ่งตามหลัง ผลที่สุดมันวิ่งไปวิ่งมา วิ่งจนลิ้นห้อย
มันจะวิ่งไปอะไรนักหนา วิ่งอยู่ในวัฏสงสารไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ
มันก็วิ่งอย่างนี้ไม่มีสิ้นสุด
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สนฺตุสฺสโก
ฆ่าอะไรที่ไม่บาป ก็คือฆ่ากิเลส ฆ่าความโกรธไม่บาป
ได้บุญอีกต่างหาก ฆ่ากิเลส ราคะ โทสะ โมหะ เป็นบุญกุศล
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
พวกเรา อย่าไปหาตาหนิคนอื่นเขา ให้ตาหนิตัวเองไว้ก่อน
ทาไมเราจึงมาเกิด มันต้องมองตนเอง ไม่ใช่มองคนอื่น
ถ้ามองคนอื่นไม่มีที่สิ้นสุด คนนี้เป็นอย่างนี้ คนนั้นเป็นอย่างนั้น
ตัวเองไม่มองตนเอง ทาไมเราจึงมาเกิด ทาไมเราจึงเป็นอย่างนี้
ทาไมเราจึงไม่ตัดกิเลสพ้นทุกข์ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ พระพุทธเจ้ากี่พระองค์
มาตรัสรู้ในโลก ทาไมเราจึงไม่พ้นทุกข์ ทาไมเราจึงเสือกมาถึงขนาดนี้
ต้องถามตัวเอง ต้องมองตัวเอง อย่าไปมองคนอื่นว่าคนนั้นผิด คนนี้ผิด
มันผิดมันถูกก็จริงอยู่ แต่เราก็ไม่ควรใส่ใจจนเป็นทุกข์เป็นร้อน
จนทะเลาะวิวาทลงหมัดลงมวยกัน กัดกันยิ่งกว่าหมา ต้องโอปนยิโก
มองตัวเองไว้ก่อน มีอะไรเกิดขึ้น เพราะอะไร เพราะเรามาเกิด
ถ้าเราไม่เกิดมันก็หมดเรื่อง
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
เราเหมือนกับอยู่ในกลางมหาสมุทรทะเล
คือมองไม่เห็นฝั่งว่าพระนิพพานอยู่ฝั่งไหน ที่เราจะเดินไปสู่พระนิพพาน
ยังมองหาฝั่งไม่เจอ เมื่อเราอยู่ในร่างกายนี้
เหมือนกับเราเกาะศพลอยอยู่กลางมหาสมุทร เราจะเกาะไปเรื่อยๆจนถึงฝั่ง
ก็คือรู้แจ้งเห็นในความเป็นจริง แล้วกระโดดขึ้นฝั่งไปเลย
แปลว่าไม่มองเหลียวหลังอีกแล้ว ไม่มองเหลียวหลังแล้ว
เพราะรู้แจ้งเห็นจริงแล้ว ถ้าผู้ใดใฝ่ในการศึกษา
ได้นาคาสอนของพระพุทธเจ้ามาประพฤติปฏิบัติ
ผู้นั้น จิตตวิญญาณดวงนั้น
ก็จะเห็นทางพ้นทุกข์ในวัฏฏสงสารไม่วันใดก็วันหนึ่ง
ขอให้พวกเราทุกท่าน ภาวนาหาทางพ้นทุกข์
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
การสะสมบุญกุศล
เป็นพลังที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ
แต่เป็นพลังทางด้านจิตใจของเรา เราไปอยู่ ณ สถานที่ใด
ที่คับขันที่ไม่สบายใจ บุญกุศลจะเข้ามาเป็นเครื่องพยุง
ให้เราได้รับความสุขกายสุขใจในสถานที่นั้นๆ
อานิสงส์ทานที่เราทาบุญทาทาน มันมองไม่เห็น
แต่มันเป็นผลต่อไปในอนาคต ถ้าหากไม่ได้ทามันก็เป็นผลไม่ได้
เพราะเราไม่ได้ปลูกฝังเอาไว้ มันจะผลเป็นเม็ดเป็นหน่วยขึ้นมาได้อย่างไร
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
ผู้ที่จะเสียเปรียบคือผู้ที่จะไปสู่มรรคผลได้
ถ้าเราจะเอาเปรียบเขาอยู่ เราไปไม่ได้ ติดอยู่ในโลก เหมือนที่หลวงตาเขียนว่า
"การเสียเปรียบคนนั่นแหละคือเมตตา" ...
นี่ก็เหมือนกัน การยอมเสียเปรียบเรื่องต่างๆ นั่นคือผู้ที่จะพ้นทุกข์ในวัฏฏสงสาร
ถ้ามัวแต่จะสู้มัน เอาชนะมันให้ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างมีแต่เขม็งเกลียว
ที่จะเอาชนะมันอยู่ตลอด ความทุกข์ก็จะเกิดขึ้นไม่มีที่สิ้นสุด
พันตูอยู่ในโลกวัฏฏสงสาร หาทางออกไม่ได้ ถ้าเราเป็นผู้ยอมที่จะแพ้บ้าง
จากนั้นก็ปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นถือมั่น จิตก็จะหลุดพ้น
จากกิเลส ราคะ โทสะ โมหะบ้างไม่มากก็น้อย
ผลที่สุดถ้ารู้จริงก็ถึงจุดจบไม่มาเวียนว่ายตายเกิดจริง ๆ
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
เป็นฆราวาส การดูแลเสนาสนะให้พระสงฆ์ ล้วนเป็นบุญกุศล
ถ้าเราไม่พ้นทุกข์ ไปอยู่ในภพภูมิใดก็ไปอยู่ในที่ปลอดภัย
เพราะเราได้ทาความปลอดภัยให้พระ ที่เข้ามาปฏิบัติศีลปฏิบัติธรรม
ล้วนแล้วแต่เป็นบุญเป็นกุศล ไม่ใช่เสียเปรียบ
อย่าไปคิดว่าเสียเปรียบหมู่เพื่อน คนเสียเปรียบคนนั่นแล คือเมตตา
พระพุทธเจ้าเกิดมาภพใดชาติใดเสียเปรียบคนทั้งโลก
แต่ผลที่สุดเป็นใหญ่ที่สุดในโลก เพราะท่านยอมเสียเปรียบคน
ถ้าใครเอารัดเอาเปรียบคนมาตลอด ตกต่าไปเรื่อย ๆ
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
สมัยหลวงพ่ออยู่กับหลวงปู่แหวน อยู่ภาวนาที่นั่นตามลาพัง ห่างไกล
จากพี่น้องวงศาคณาญาติ โดดเดี่ยว มีแต่ภาวนา เดินจงกรมแต่ละวัน
ถึงจะภาระมากเพราะทาหน้าที่ปรนนิบัติหลวงปู่แหวน ตื่นตีสาม ตีสี่ต้ม
น้า พอสว่างปัดกวาดบริเวณวัด จัดศาลา ทาหน้าที่ทุกอย่าง ต้มน้าสรง
ต้มน้าอาบ สรงน้าหลวงปู่ องค์อื่นไปนี่ไม่ถูกใจหลวงปู่หนู แต่หลวงพ่อ
ไปนี่ หลวงปู่ปล่อยให้หลวงพ่อปรนนิบัติหลวงปู่แหวน เพราะหลวงพ่อ
เคยเป็นเณรมาก่อน หลวงพ่อรู้ว่าต้องทายังไง พอตกเย็นก็ภาวนา อยู่
ตามลาพัง ไม่ได้รับรู้รับทราบอะไรกับใคร จิตใจเข้าสู่ความสงบเย็นสบาย
อยู่ห่างไกลจากวงศาคณาญาติ ไม่รู้จักใคร หลวงพ่อจึงเห็นว่า
พระพุทธเจ้าที่ท่านหนีออกจากเวียงวัง ไปอยู่ตามลาพังพระองค์
พระองค์ไปภาวนา ถ้าเห็นหน้าญาติหน้าหมู่หน้าเพื่อน เดี๋ยวเรื่องเก่ามัน
ก็เกิดขึ้น แต่นี่ตัดออกหมด อยู่ตามลาพัง ไม่รู้จักใครทั้งหมด ฉันจังหัน
เสร็จ มีอะไรก็ทา เสร็จแล้วก็เดินจงกรมนั่งภาวนา จิตใจสงบเย็นสบาย
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

Weitere ähnliche Inhalte

Ähnlich wie Luangpor intawai15

Luangta mahabua
Luangta mahabuaLuangta mahabua
Luangta mahabuaMI
 
Luangta Mahabua2
Luangta Mahabua2Luangta Mahabua2
Luangta Mahabua2MI
 
คำสอนหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
คำสอนหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนคำสอนหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
คำสอนหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนMI
 
Luangpoo thon
Luangpoo thonLuangpoo thon
Luangpoo thonMI
 
Luangta mahabua1
Luangta mahabua1Luangta mahabua1
Luangta mahabua1MI
 
คำนำทำ 3 ภาวนา
คำนำทำ 3 ภาวนาคำนำทำ 3 ภาวนา
คำนำทำ 3 ภาวนาSongsarid Ruecha
 
Pra ajarn boonchan
Pra ajarn boonchanPra ajarn boonchan
Pra ajarn boonchanMI
 

Ähnlich wie Luangpor intawai15 (7)

Luangta mahabua
Luangta mahabuaLuangta mahabua
Luangta mahabua
 
Luangta Mahabua2
Luangta Mahabua2Luangta Mahabua2
Luangta Mahabua2
 
คำสอนหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
คำสอนหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนคำสอนหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
คำสอนหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
 
Luangpoo thon
Luangpoo thonLuangpoo thon
Luangpoo thon
 
Luangta mahabua1
Luangta mahabua1Luangta mahabua1
Luangta mahabua1
 
คำนำทำ 3 ภาวนา
คำนำทำ 3 ภาวนาคำนำทำ 3 ภาวนา
คำนำทำ 3 ภาวนา
 
Pra ajarn boonchan
Pra ajarn boonchanPra ajarn boonchan
Pra ajarn boonchan
 

Mehr von MI

คำสอนหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
คำสอนหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโกคำสอนหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
คำสอนหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโกMI
 
คำสอนหลวงปู่หล้า เขมปัตโต
คำสอนหลวงปู่หล้า เขมปัตโตคำสอนหลวงปู่หล้า เขมปัตโต
คำสอนหลวงปู่หล้า เขมปัตโตMI
 
คำสอนหลวงปู่จาม มหาปุญโญ
คำสอนหลวงปู่จาม มหาปุญโญคำสอนหลวงปู่จาม มหาปุญโญ
คำสอนหลวงปู่จาม มหาปุญโญMI
 
คำสอนแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ
คำสอนแม่ชีแก้ว เสียงล้ำคำสอนแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ
คำสอนแม่ชีแก้ว เสียงล้ำMI
 
คำสอนบูรพาจารย์
คำสอนบูรพาจารย์คำสอนบูรพาจารย์
คำสอนบูรพาจารย์MI
 
พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของรัชกาลที่๙
พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของรัชกาลที่๙พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของรัชกาลที่๙
พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของรัชกาลที่๙MI
 
Luangpoo lar
Luangpoo larLuangpoo lar
Luangpoo larMI
 
Luangpoo jarm
Luangpoo jarmLuangpoo jarm
Luangpoo jarmMI
 
Luangta 11
Luangta 11Luangta 11
Luangta 11MI
 
Buddha's quotes
Buddha's quotesBuddha's quotes
Buddha's quotesMI
 
Luangpor intawai 20
Luangpor intawai 20Luangpor intawai 20
Luangpor intawai 20MI
 
Luangpor intawai 20
Luangpor intawai 20Luangpor intawai 20
Luangpor intawai 20MI
 
Luangpor intawai113
Luangpor intawai113Luangpor intawai113
Luangpor intawai113MI
 
Luangpor intawai112
Luangpor intawai112Luangpor intawai112
Luangpor intawai112MI
 
Great dharma masters1
Great dharma masters1Great dharma masters1
Great dharma masters1MI
 
Luangta mahabua3
Luangta mahabua3Luangta mahabua3
Luangta mahabua3MI
 
Light of buddhism1
Light of buddhism1Light of buddhism1
Light of buddhism1MI
 
Luangpor intawai19
Luangpor intawai19Luangpor intawai19
Luangpor intawai19MI
 
Luangpor intawai 18
Luangpor intawai 18Luangpor intawai 18
Luangpor intawai 18MI
 
Luangpor intawai17
Luangpor intawai17Luangpor intawai17
Luangpor intawai17MI
 

Mehr von MI (20)

คำสอนหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
คำสอนหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโกคำสอนหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
คำสอนหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
 
คำสอนหลวงปู่หล้า เขมปัตโต
คำสอนหลวงปู่หล้า เขมปัตโตคำสอนหลวงปู่หล้า เขมปัตโต
คำสอนหลวงปู่หล้า เขมปัตโต
 
คำสอนหลวงปู่จาม มหาปุญโญ
คำสอนหลวงปู่จาม มหาปุญโญคำสอนหลวงปู่จาม มหาปุญโญ
คำสอนหลวงปู่จาม มหาปุญโญ
 
คำสอนแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ
คำสอนแม่ชีแก้ว เสียงล้ำคำสอนแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ
คำสอนแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ
 
คำสอนบูรพาจารย์
คำสอนบูรพาจารย์คำสอนบูรพาจารย์
คำสอนบูรพาจารย์
 
พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของรัชกาลที่๙
พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของรัชกาลที่๙พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของรัชกาลที่๙
พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของรัชกาลที่๙
 
Luangpoo lar
Luangpoo larLuangpoo lar
Luangpoo lar
 
Luangpoo jarm
Luangpoo jarmLuangpoo jarm
Luangpoo jarm
 
Luangta 11
Luangta 11Luangta 11
Luangta 11
 
Buddha's quotes
Buddha's quotesBuddha's quotes
Buddha's quotes
 
Luangpor intawai 20
Luangpor intawai 20Luangpor intawai 20
Luangpor intawai 20
 
Luangpor intawai 20
Luangpor intawai 20Luangpor intawai 20
Luangpor intawai 20
 
Luangpor intawai113
Luangpor intawai113Luangpor intawai113
Luangpor intawai113
 
Luangpor intawai112
Luangpor intawai112Luangpor intawai112
Luangpor intawai112
 
Great dharma masters1
Great dharma masters1Great dharma masters1
Great dharma masters1
 
Luangta mahabua3
Luangta mahabua3Luangta mahabua3
Luangta mahabua3
 
Light of buddhism1
Light of buddhism1Light of buddhism1
Light of buddhism1
 
Luangpor intawai19
Luangpor intawai19Luangpor intawai19
Luangpor intawai19
 
Luangpor intawai 18
Luangpor intawai 18Luangpor intawai 18
Luangpor intawai 18
 
Luangpor intawai17
Luangpor intawai17Luangpor intawai17
Luangpor intawai17
 

Luangpor intawai15

  • 2. เราคิดปรุงฟุ้งไปเรื่องอะไร เดี๋ยวออกไปข้างนอก เดี๋ยวก็ว่านี่สวย นี่รวย อันนี้น่ารักใคร่ อันนี้น่าพอใจ อันนั้นก็อยากได้ อันนี้ก็อยากได้ ความอยากอยู่ในจิตในใจ อยากอยู่ตลอดเวลา อยากไม่มีเหตุผล อยากไปที่ไหน อยากอยู่ในจิตในใจ เพราะมันหิวโหย มันไม่ได้พิจารณา มันไม่มีธรรมในจิตใจ มันไม่ได้หาเหตุผลเข้าสู่จิตใจ มีแต่ปล่อยให้กิเลสนาหน้าธรรม ไม่ใช่ธรรมสกัดไว้ข้างหน้า มีแต่ธรรมวิ่งตามหลัง ผลที่สุดมันวิ่งไปวิ่งมา วิ่งจนลิ้นห้อย มันจะวิ่งไปอะไรนักหนา วิ่งอยู่ในวัฏสงสารไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ มันก็วิ่งอย่างนี้ไม่มีสิ้นสุด หลวงพ่ออินทร์ถวาย สนฺตุสฺสโก
  • 3. ฆ่าอะไรที่ไม่บาป ก็คือฆ่ากิเลส ฆ่าความโกรธไม่บาป ได้บุญอีกต่างหาก ฆ่ากิเลส ราคะ โทสะ โมหะ เป็นบุญกุศล หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
  • 4. พวกเรา อย่าไปหาตาหนิคนอื่นเขา ให้ตาหนิตัวเองไว้ก่อน ทาไมเราจึงมาเกิด มันต้องมองตนเอง ไม่ใช่มองคนอื่น ถ้ามองคนอื่นไม่มีที่สิ้นสุด คนนี้เป็นอย่างนี้ คนนั้นเป็นอย่างนั้น ตัวเองไม่มองตนเอง ทาไมเราจึงมาเกิด ทาไมเราจึงเป็นอย่างนี้ ทาไมเราจึงไม่ตัดกิเลสพ้นทุกข์ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ พระพุทธเจ้ากี่พระองค์ มาตรัสรู้ในโลก ทาไมเราจึงไม่พ้นทุกข์ ทาไมเราจึงเสือกมาถึงขนาดนี้ ต้องถามตัวเอง ต้องมองตัวเอง อย่าไปมองคนอื่นว่าคนนั้นผิด คนนี้ผิด มันผิดมันถูกก็จริงอยู่ แต่เราก็ไม่ควรใส่ใจจนเป็นทุกข์เป็นร้อน จนทะเลาะวิวาทลงหมัดลงมวยกัน กัดกันยิ่งกว่าหมา ต้องโอปนยิโก มองตัวเองไว้ก่อน มีอะไรเกิดขึ้น เพราะอะไร เพราะเรามาเกิด ถ้าเราไม่เกิดมันก็หมดเรื่อง หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
  • 5. เราเหมือนกับอยู่ในกลางมหาสมุทรทะเล คือมองไม่เห็นฝั่งว่าพระนิพพานอยู่ฝั่งไหน ที่เราจะเดินไปสู่พระนิพพาน ยังมองหาฝั่งไม่เจอ เมื่อเราอยู่ในร่างกายนี้ เหมือนกับเราเกาะศพลอยอยู่กลางมหาสมุทร เราจะเกาะไปเรื่อยๆจนถึงฝั่ง ก็คือรู้แจ้งเห็นในความเป็นจริง แล้วกระโดดขึ้นฝั่งไปเลย แปลว่าไม่มองเหลียวหลังอีกแล้ว ไม่มองเหลียวหลังแล้ว เพราะรู้แจ้งเห็นจริงแล้ว ถ้าผู้ใดใฝ่ในการศึกษา ได้นาคาสอนของพระพุทธเจ้ามาประพฤติปฏิบัติ ผู้นั้น จิตตวิญญาณดวงนั้น ก็จะเห็นทางพ้นทุกข์ในวัฏฏสงสารไม่วันใดก็วันหนึ่ง ขอให้พวกเราทุกท่าน ภาวนาหาทางพ้นทุกข์ หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
  • 6. การสะสมบุญกุศล เป็นพลังที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ แต่เป็นพลังทางด้านจิตใจของเรา เราไปอยู่ ณ สถานที่ใด ที่คับขันที่ไม่สบายใจ บุญกุศลจะเข้ามาเป็นเครื่องพยุง ให้เราได้รับความสุขกายสุขใจในสถานที่นั้นๆ อานิสงส์ทานที่เราทาบุญทาทาน มันมองไม่เห็น แต่มันเป็นผลต่อไปในอนาคต ถ้าหากไม่ได้ทามันก็เป็นผลไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ปลูกฝังเอาไว้ มันจะผลเป็นเม็ดเป็นหน่วยขึ้นมาได้อย่างไร หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
  • 7. ผู้ที่จะเสียเปรียบคือผู้ที่จะไปสู่มรรคผลได้ ถ้าเราจะเอาเปรียบเขาอยู่ เราไปไม่ได้ ติดอยู่ในโลก เหมือนที่หลวงตาเขียนว่า "การเสียเปรียบคนนั่นแหละคือเมตตา" ... นี่ก็เหมือนกัน การยอมเสียเปรียบเรื่องต่างๆ นั่นคือผู้ที่จะพ้นทุกข์ในวัฏฏสงสาร ถ้ามัวแต่จะสู้มัน เอาชนะมันให้ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างมีแต่เขม็งเกลียว ที่จะเอาชนะมันอยู่ตลอด ความทุกข์ก็จะเกิดขึ้นไม่มีที่สิ้นสุด พันตูอยู่ในโลกวัฏฏสงสาร หาทางออกไม่ได้ ถ้าเราเป็นผู้ยอมที่จะแพ้บ้าง จากนั้นก็ปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นถือมั่น จิตก็จะหลุดพ้น จากกิเลส ราคะ โทสะ โมหะบ้างไม่มากก็น้อย ผลที่สุดถ้ารู้จริงก็ถึงจุดจบไม่มาเวียนว่ายตายเกิดจริง ๆ หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
  • 8. เป็นฆราวาส การดูแลเสนาสนะให้พระสงฆ์ ล้วนเป็นบุญกุศล ถ้าเราไม่พ้นทุกข์ ไปอยู่ในภพภูมิใดก็ไปอยู่ในที่ปลอดภัย เพราะเราได้ทาความปลอดภัยให้พระ ที่เข้ามาปฏิบัติศีลปฏิบัติธรรม ล้วนแล้วแต่เป็นบุญเป็นกุศล ไม่ใช่เสียเปรียบ อย่าไปคิดว่าเสียเปรียบหมู่เพื่อน คนเสียเปรียบคนนั่นแล คือเมตตา พระพุทธเจ้าเกิดมาภพใดชาติใดเสียเปรียบคนทั้งโลก แต่ผลที่สุดเป็นใหญ่ที่สุดในโลก เพราะท่านยอมเสียเปรียบคน ถ้าใครเอารัดเอาเปรียบคนมาตลอด ตกต่าไปเรื่อย ๆ หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
  • 9. สมัยหลวงพ่ออยู่กับหลวงปู่แหวน อยู่ภาวนาที่นั่นตามลาพัง ห่างไกล จากพี่น้องวงศาคณาญาติ โดดเดี่ยว มีแต่ภาวนา เดินจงกรมแต่ละวัน ถึงจะภาระมากเพราะทาหน้าที่ปรนนิบัติหลวงปู่แหวน ตื่นตีสาม ตีสี่ต้ม น้า พอสว่างปัดกวาดบริเวณวัด จัดศาลา ทาหน้าที่ทุกอย่าง ต้มน้าสรง ต้มน้าอาบ สรงน้าหลวงปู่ องค์อื่นไปนี่ไม่ถูกใจหลวงปู่หนู แต่หลวงพ่อ ไปนี่ หลวงปู่ปล่อยให้หลวงพ่อปรนนิบัติหลวงปู่แหวน เพราะหลวงพ่อ เคยเป็นเณรมาก่อน หลวงพ่อรู้ว่าต้องทายังไง พอตกเย็นก็ภาวนา อยู่ ตามลาพัง ไม่ได้รับรู้รับทราบอะไรกับใคร จิตใจเข้าสู่ความสงบเย็นสบาย อยู่ห่างไกลจากวงศาคณาญาติ ไม่รู้จักใคร หลวงพ่อจึงเห็นว่า พระพุทธเจ้าที่ท่านหนีออกจากเวียงวัง ไปอยู่ตามลาพังพระองค์ พระองค์ไปภาวนา ถ้าเห็นหน้าญาติหน้าหมู่หน้าเพื่อน เดี๋ยวเรื่องเก่ามัน ก็เกิดขึ้น แต่นี่ตัดออกหมด อยู่ตามลาพัง ไม่รู้จักใครทั้งหมด ฉันจังหัน เสร็จ มีอะไรก็ทา เสร็จแล้วก็เดินจงกรมนั่งภาวนา จิตใจสงบเย็นสบาย หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก