Weitere ähnliche Inhalte Ähnlich wie โครงสร้างของระบบประสาท (20) Mehr von Wan Ngamwongwan (20) โครงสร้างของระบบประสาท1. โครงสร้างของระบบ
ประสาท
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร โรงเรียนบ้านสวน(จั่นอนุสรณ์) ชลบุรี
2. โครงสร้างของระบบประสาท
แบ่งตามตาแหน่งและโครงสร้างได้เป็น 2 ระบบ คือ
1.ระบบประสาทส่วนกลาง
(central nervous
system หรือ
CNS) ได้แก่
สมองและไขสันหลัง
ฉวีวรรณ นาคบุตร
4. ระบบประสาทส่วนกลาง
โครงสร้างของสมองแบ่งเป็น 3 ส่วนได้แก่
สมองส่วนหน้า สมองส่วนกลางและ สมองส่วนหลัง
ฉวีวรรณ นาคบุตร
5. arachnoid mater
pia mater
Dura mater
ทั้งสมองและไขสันหลังมีเนื้อหุ้ม 3 ชั้น คือชั้นนอกสุด(dura mater)
มีลักษณะหนาเหนียวและแข็งแรง ทาหน้าที่ี ป้องกันการ
กระทบกระเทือนแก่ส่วนที่เป็นเนื้อสมองและไขสันหลัง
ฉวีวรรณ นาคบุตร
6. - ชั้นกลาง (arachnoid) เป็นเยื่อบาง ๆ
- ชั้นในสุด (pia mater) แนบสนิทไปตามรอยโค้งเว้าของสมองและไขสัน
หลัง จึงมีหลอดเลือดมาหล่อเลี้ยงอยู่มาก เพื่อนาสารอาหารและออกซิเจนมาเลี้ยง
เซลล์ของสมองและไขสันหลัง ฉวีวรรณ นาคบุตร
7. ระหว่างเยื่อหุ้มสมอง ชั้นกลางกับชั้นในเป็นที่อยู่ของน้าเลี้ยง
สมองและไขสันหลัง (cerebrospinal fluid) ซึ่งช่องนี้มีทาง
ติดต่อกับช่องตามยาวซึงติดต่อกับช่องภายในไขสันหลังและโพรง
่
ภายในสมอง
น้าเลี้ยงสมองและไขสันหลังมีหน้าที่นาออกซิเจนและ
สารอาหารมาหล่อเลี้ยงเซลล์ประสาทและนาของเสียออกจากเซลล์
ฉวีวรรณ นาคบุตร
8. น้าเลียงสมองและไขสันหลัง
้
น้าเลี้ยงสมองและไขสันหลังสร้างมาจากเส้นเลือดฝอยบริเวณโพรงสมอง
และไหลติดต่อกับระบบหมุนเวียนเลือด โดยทาหน้าที่ในการหล่อเลี้ยงสมองและ
ไขสันหลังให้ชุ่มชืนอยู่เสมอและให้อาหาร แก๊สออกซิเจนแก่เซลล์ประสาท ใน
้
ขณะเดียวกันก็ถ่ายเทของเสียออกจากเซลล์ประสาท
ถ้าช่องที่ติดต่อระหว่างโพรงสมองกับไขสันหลังอุดตัน จะทาให้เกิดการคั่ง
ของน้าในโพรงสมอง ถ้าเป็นในเด็กจะทาให้สมองไม่เจริญเติบโต เนื่องจากถูกน้า
กดสมองไว้ และดันให้กะโหลกศีรษะขยายขึ้นทาให้หัวโตมากเรียกว่าเป็น โรคน้า
คั่งในสมอง (hydrocephalus) ถ้าไม่รีบเจาะน้าออก เด็กจะตายในเวลาไม่นาน
นัก ถ้าหากเป็นในผู้ใหญ่จะทาให้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างมาก
ฉวีวรรณ นาคบุตร
10. สมอง (Brain)
สมองเป็นระบบประสาทที่มีความซับซ้อนมากที่สุด สมองของสัตว์มี
กระดูกสันหลังอยู่ในกะโหลกศีรษะ
ชั้นนอกมีสีเทา (gray matter) เป็นส่วนของเซลล์ที่ไม่มเี ยื่อ
ไมอีลินห่อหุ้ม
ชั้นในเป็นสีขาว (white matter) เป็นส่วนที่อยู่ของเส้นประสาท
เเละมีเยื่อไมอีลินห่อหุ้ม
ฉวีวรรณ นาคบุตร
13. สมองเป็นอวัยวะสาคัญทา
หน้าที่ควบคุมการทางานของ
อวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
สารเคมีมีผลต่อระบบ
ประสาทส่วนกลาง ทาให้ง่วง
นอนหรือควบคุมอารมณ์ไม่ได้
ฉวีวรรณ นาคบุตร
14. การดื่มสุราในปริมาณมาก ๆ ทุกวันจะทาลายเซลล์ประสาทใน
สมอง ทาให้เซลล์ประสาทลดลงอาจเป็นโรคสมองฝ่อหรืออัลไซเมอร์
(alzheimer’s disease)
โรคอัลไซเมอร์ เป็นโรคที่ความจาเสื่อม เซลล์ประสาทใน
สมองเสื่อมลงหรือถูกทาลาย ทาให้เนื้อสมอง ฝ่อเล็กน้อย รอยหยักของ
สมองน้อยลง น้าเลี้ยงสมองเพิ่มมากขึ้น อาจเกิดมาจากสาเหตุทาง
พันธุกรรมของยีนเด่น เนื่องจากขาดยีนควบคุมการสร้างเอนไซม์หรือบาง
รายอาจเกิดจากการสะสมของสารอะลูมิเนียมในสมองมากกว่าปกติ
ฉวีวรรณ นาคบุตร
15. ความพิการของสมองในเด็กอาจเป็นได้จากสาเหตุต่าง ๆ
หลายประการ เช่น ได้รับสารตะกั่วจากสิ่งแวดล้อมมากเกินไป
โดยอาจได้รับจากอากาศ อาหาร น้าดื่ม ทาให้เซลล์สมองถูก
ทาลาย
การขาดธาตุไอโอดีนในขณะเป็นเด็กจะทาให้สมองไม่พัฒนา
อาจทาให้เป็นโรคเอ๋อ (endemic goiter) คือมีสติปัญญาต่าหรือ
เป็นปัญญาอ่อนได้
ความผิดปกติของโครโมโซมทั้งออโตโซมและโครโมโซมเพศก็
อาจทาให้ีเกิดโรคปัญญาอ่อนได้
ฉวีวรรณ นาคบุตร
16. สมอง (Brain)
สมองคนเรา แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ สมองส่วนหน้า สมอง
ส่วนกลาง และ สมองส่วนหลัง
สมองแต่ละส่วนมีการควบคุมการทางานของร่างกายแตกต่างกัน
ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ดังนี้
1. สมองส่วนหน้า (forebrain หรือ prosencephalon)
ประกอบด้วย ออลแฟกทอรีบัลบ์ (olfactory bulm) เซรีบรัม
(cerebrum) ไฮโปทาลามัส (hypothalamus) ทาลามัส
(thalamus)
ฉวีวรรณ นาคบุตร
17. 2. สมองส่วนกลาง (midbrain)
พัฒนาลดรูปเหลือแค่ออพติกโลบ (optic lobe)
3. สมองส่วนหลัง (hindbrain)
ประกอบด้วย เซรีเบลลัม (cerebellum)
เมดัลลาออบลองกาตา (medulla oblongata)
พอนส์ (pons)
ฉวีวรรณ นาคบุตร
19. ออลแฟกทอรีบัลบ์ (olfactory bulm)
สมองส่วนนี้ของคนไม่เจริญมาก จึงรับกลิ่นได้ไม่ดี เเต่ในปลา
ส่วนนี้เจริญมากเป็นส่วนทีอยู่หน้าสุด
่
ทาหน้าที่เกี่ยวกับการดมกลิ่น มีขนาดเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับ
สัตว์ที่มีกระดูกสันหลังอื่น ๆ
ฉวีวรรณ นาคบุตร
20. เซรีบรัม (cerebrum)
เป็นสมองที่มีการเจริญเปลี่ยนเปลงมากที่สุดและมีขนาดใหญ่โต
มากที่สุด มีเชลล์ประสาทมาก ความฉลาดของสัตว์ขึ้นอยู่กับ
จานวนเชลล์สมอง
มีหน้าทีการทางานเกี่ยวกับ ความคิดความจา เชาวน์ปัญญา
่ี
ศูนย์กลางควบคุมการทางานด้านต่างๆ การสัมผัส การพูด การ
มองเห็น รับรส การไดยิน การดมกลิ่น การทางานของกล้ามเนื้อ
เซรีบรัม คือ สมองส่วนที่อยู่บนสุดและมีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งมี
น้าหนักรวมกันประมาณร้อยละ 85 ของน้าหนักสมองทั้งหมด
ฉวีวรรณ นาคบุตร
21. ลักษณะที่สาคัญของเซรีบรัม
1.ชั้นนอกหนาประมาณ 3 มิลลิเมตร เรียกว่า เซรีบรัมคอร์เทกซ์
(cerebrum cortex) มีรอยพับเป็นร่องหรือรอยหยักจานวนมาก
และมีเนื้อสมองสีเทา ทีประกอบด้วยตัวเซลล์ประสาทจานวนมากและ
่
ใยประสาททีไม่มีเยื่อไมอีลินหุ้มเป็นส่วนใหญ่
่
2.ภายใต้เซรีบรัมคอร์เทกซ์ เป็นชั้นหนาของเนื้อสีขาว ประกอบด้วย
แอกซอนที่มีเยื่อไมอีลินหุ้มเป็นส่วนใหญ่ ทาให้มีลักษณะเป็นสีขาว
เนื่องจากเยื่อไขมันไมอีลิน
ฉวีวรรณ นาคบุตร
22. 3. เซรีบรัมแบ่งออกเป็น 2 ซีกด้วยร่องลึกตรงกลาง มีมัดเส้นใย
แอกซอนหลายมัดติดต่อระหว่าง 2 ซีก มัดใหญ่ที่สุดเรียกว่า
corpus callosum สมองแต่ละซีกทาหน้าที่ควบคุมกล้ามเนื้อซีก
ตรงข้ามของร่างกาย
4. ร่องหรือรอยหยักแบ่ง เซรีบรัมคอร์เทกซ์ ออกเป็นส่วนๆ
ชัดเจน 4 พู (lobe)
ฉวีวรรณ นาคบุตร
23. เซรีบรัมคอร์เทกซ์ เป็นออกส่วนๆชัดเจน 4 พู (lobe)
Frontal lobe - ศูนย์ควบคุมการ
ทางานของกล้ามเนื้อลาย (motor
area)
- ศูนย์ควบคุมเกี่ยวกับการพูด
- ควบคุมเกี่ยวกับบุคลิกภาพ
- ควบคุมความฉลาดระดับสูง ได้แก่
สมาธิ การวางแผน การตัดสินใจ
ฉวีวรรณ นาคบุตร
24. Parietal lobe
- ศูนย์ควบคุมการรับความรู้สึก (sensory area)
- ความเข้าใจและการใช้คาพูด
Occipital lobe
-ศูนย์การมองเห็น (visual area)
เช่น การเพ่งมอง การแปลสิ่งที่มอง
Temporal lobe
- ศูนย์การได้ยิน (auditory area)
- ความจา (memory area)
ฉวีวรรณ นาคบุตร
26. หน้าที่ของเซรีบรัม
1. เซรีบรัมเป็นสมองส่วนที่พัฒนามากที่สุดในคน ทาหน้าที่
ควบคุมระดับสูง ส่วนใหญ่เกี่ยวกับความรู้ ความจา เชาว์ปัญญา และ
เป็นศูนย์กลางควบคุมการทางานของกล้ามเนื้อ การรับสัมผัสต่างๆ
2.ได้รับกระแสประสาทความรู้สึกจากหน่วยรับความรู้สึกทุกหน่วย
และส่งกระแสประสาทสังการไปสู่สมองส่วนอื่นและร่างกายทุกส่วนเพื่อ
่
ควบคุมการทางานของกล้ามเนื้อและต่อมต่างๆ
3.แต่ละบริเวณของเซรีบรัมคอร์เทกซ์ เป็นศูนย์ควบคุมการทางาน
ทางานที่ต่างๆกัน
ฉวีวรรณ นาคบุตร
27. ไฮโปทาลามัส (hypotalamus)
เป็นสมองส่วนที่มีขนาดเล็ก ทาหน้าที่ควบคุมขบวนการต่าง ๆ ของ
ร่างกาย เช่น ควบคุมการทางานของร่างกาย ควบคุมการเต้นของหัวใจ ควบคุม
การทางานพื้นฐานของร่างกาย เช่น น้า อาหาร ความต้องการทางเพศ สร้าง
ฮอร์โมนประสาทมาควบคุมการหลั่งฮอร์โมนของต่อมใต้สมองส่วนหน้า
ฉวีวรรณ นาคบุตร
28. ทาลามัส (thalamus)
เป็นส่วนที่อยู่ห่างจากเซรีบรัีม ทาหน้าที่เป็นศูนย์รวบรวม
กระแสประสาทที่ผ่านเข้าออกและแยกกระแสประสาทไปยังสมอง
ที่เกี่ยวกับกระแสประสาทนัน ้
ฉวีวรรณ นาคบุตร
29. สมองส่วนกลาง (midbrain)
เป็นสมองส่วนที่เล็ก เพราะถูกส่วนอื่น ๆ บดบังไว้ มีหน้าที่ถ่ายทอดกระเเส
ประสาทจากสมองส่วนท้ายไปยังซีรีบรัม ส่วนบนจะพูออกเป็น4 พู เรียกการ
พัฒนาลดรูปทีเ่ หลืออยู่นว่า ออพติกโลบ (optic lobe) โดยมีเส้นประสาทเเยก
ี้
ไปยังลูกตาทั้งสองข้าง
ออพติกโลบ (optic lobe)
ทาหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหว
ของนัยน์ตา ทาให้ลูกนัยน์ตา
กลอกไปมาได้
ควบคุมการปิดเปิดของรูม่านตาใน
เวลาที่มี่แสงสว่างเข้ามากและน้อย
ฉวีวรรณ นาคบุตร
30. สมองส่วนหลัง (hindbrain)
ประกอบด้วยเซรีเบลลัม (cerebellum) เมดัลลาออบลองกาตา
(medulla oblongata) และพอนส์ (pons)
ฉวีวรรณ นาคบุตร
31. เซรีเบลลัม (cerebellum)
ประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 2 ชั้น
ชั้นนอกเรียกว่า คอร์เทกซ์
(cortex) มีสีเทา ชั้นในมีสีขาวแตก
กิ่งก้านสาขาคล้ายกิ่งไม้
ทาหน้าที่ประสานการเคลื่อนไหว
ของร่างกาย ให้สามารถทางานได้
อย่างละเอียดอ่อน ควบคุมการทรงตัว
ของร่างกาย
32. พอนส์ (pons)
อยู่ทางด้ายหลังของเซรีบรัม
ประกอบด้วยมัดของเเถบประสาท
เป็นทางผ่านของกระเเสประสาท
ระหว่างเซรีบรัมเเละเซรีเบลลัม
ทาหน้าที่ควบคุมการเคี้ยว การหลังน้าลาย การเคลื่อนไหวของ
่
ใบหน้า ควบคุมการหายใจเป็นทางผ่านของกระแสประสาทระหว่างเซรีบรัม
กับเซรีเบลลัม และ เซรีเบลรัมกับไขสันหลัง
ฉวีวรรณ นาคบุตร
33. เมดัลลาออบลองกาตา (medulla oblongata)
เป็นส่วนสุดท้ายของสมองต่อจากพอนส์ ตอน
ปลายติดกับไขสันหลัง สมองส่วนนี้มีการเปลี่ยน
รูปร่างจากเีดิมน้อยที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับสมอง
ส่วนอื่นๆ
ทาีหน้าที่ควบคุมการทางานของระบบประสาท
อัตโนวัติ เป็นทางผ่านของกระเเสประสาทระหว่าง
สมองกับไขสันหลัง ควบคุมการเต้นของหัวใจ
การหายใจ ความดันเลือด การกลืน การจาม
การสะอึก การอาเจียน
ฉวีวรรณ นาคบุตร