SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 21
การฉีดยาคุมกำเนิด
การฉีดยาคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิดสำหรับสุภาพสตรียังคงเป็นที่นิยมอยู่พอสมควร สุภาพสตรีบางท่านชอบที่ในหนึ่งปี ต้องไปรับการฉีดยาคุมกำเนิดเพียง 4 ครั้งเท่านั้น เพราะยาฉีดที่ใช้กันอยู่ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน จะสามารถคุมกำเนิดอยู่ได้นานประมาณ 3เดือน
ปัญหาของการฉีดยาคุมกำเนิดอาจจะมีบ้างในสุภาพสตรีบางราย โดยปัญหาหลักๆ มีอยู่ 2 ประการ คือ การที่คนที่ฉีดยาคุมกำเนิดอาจจะมีเลือดออกทางช่องคลอดเล็กๆ น้อยๆ เป็นครั้งเป็นคราว ซึ่งถ้าเป็นบ่อย ท่านควรไปรับคำปรึกษาแนะนำจากแพทย์ บางครั้ง แพทย์อาจจะพิจารณาให้ยารักษา ปัญหาส่วนใหญ่ก็จะได้รับการแก้ไขให้หมดไปได้ ปัญหาอีกประการหนึ่งคือ การที่ประจำเดือนไม่มาเลยตลอด 3 เดือน บางท่านอาจจะชอบ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องรอบเดือนมา แต่บางท่านอาจจะกังวลใจ โดยเฉพาะบางท่านเข้าใจผิดในเรื่องประจำเดือนว่าเป็นเลือดเสีย ถ้าประจำเดือนไม่มา ตนเองอาจเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ
ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด เป็นยาฮอร์โมนประเภทเดียวกับยาเม็ดคุมกำเนิด แต่เนื่องจากหญิงบางคนไม่ชอบการกินยาทุกวัน หรืออาจมีการหลงลืมกินยาได้ ซึ่งจะทำให้ผลในการคุมกำเนิดเลวลง จึงได้มีการนำเอาฮอร์โมนโพรเจสโทเจนอย่างเดียว หรือร่วมกับเอสโทรเจนมาใช้เป็นยาฉีดคุมกำเนิด โดยฉีดครั้งหนึ่งมีฤทธิ์คุมไปได้เป็นเวลานาน
	ยาฉีดคุมกำเนิดที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบันเป็นยาประเภทฉีดทุก 3 เดือน หรือ 12 สัปดาห์ และชนิดที่ใช้กันมากคือ เดโปเมดรอกซีโพรเจสเทอโรนอะซีเตต ชนิดออกฤทธิ์นาน (depo medroxy progesterone acetate) ซึ่งต่อไปจะใช้ชื่อย่อว่า ดีเอ็มดีเอ (DMPA)
ดีเอ็มพีเอ เป็นยาที่ใช้ในทางแพทย์ เพื่อรักษาโรคเฉพาะหญิงบางอย่างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 และการรักษาโรคบางอย่างได้ใช้ยานี้ในขนาดสูงมาก แต่ก็ไม่พบอันตรายร้ายแรงใดๆ นอกจากการผิดปกติของประจำเดือนเนื่องจากการศึกษาพบว่ายานี้มีฤทธิ์ป้องกันไข่สุกได้ จึงได้ทดลองนำยานี้มาใช้ในการคุมกำเนิด ต่อมาในปี พ.ศ. 2507 จึงได้นำยานี้มาใช้เป็นยาคุมกำเนิดชนิดฉีด 3 เดือนครั้ง โดยฉีดเข้ากล้ามครั้งละ 150 มิลลิกรัม ยานี้ได้นำมาใช้เป็นยาฉีดคุมกำเนิดในประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2508 และปรากฏว่าเป็นที่นิยมของหญิงไทยในบางท้องที่อย่างมาก
วิธีใช้ 	1.เริ่มต้นฉีดเข็มแรก ภายใน 5 วันแรกของรอบประจำเดือน และฉีดติดต่อกันไปทุกๆ 12 สัปดาห์หรือ 84 วัน ในหญิงหลังคลอดอาจเริ่มต้นฉีดยานี้ได้ภายหลังคลอดก่อนคนไข้จะกลับบ้าน 	2.การทำงานของดีเอ็มพีเอ ยาชนิดนี้ป้องกันการตั้งครรภ์ได้โดยออกฤทธิ์คล้ายคลึงกับฤทธิ์ของยาเม็ดคุมกำเนิดดังกล่าวมาแล้วแต่มีประสิทธิภาพสูงมาก 	3.ผลของยาดีเอ็มพีเอต่อประจำเดือน ผู้ที่ใช้ยานี้จะมีระบบประจำเดือนผิดไปจากเดิมจนยากที่จะทำนายล่วงหน้าได้ แต่พอสรุปได้ว่าในระยะแรกที่ใช้ยานี้ ผู้ใช้มักมีเลือดออกกะปริบกะปรอย และภายหลังใช้ยานี้ได้ประมาณ 1 ปี ประจำเดือนมักจะขาดไป
Depo medroxy progesterone acetate (DMPA) ยาฉีดคุมกำเนิดชนิด Depo medroxy progesterone acetate, DMPA ได้นำมาใช้ครั้งแรก ในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 โดยใช้ในการรักษาการแท้งเป็นนิสัย (habitual abortion) และ Endometriosis ต่อมาประเทศต่างๆ ทั่วโลกมากกว่า 90 ประเทศ ได้นำมาใช้ เพื่อคุมกำเนิด
สำหรับประเทศไทย ได้นำมาใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2508 และเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปของสตรีไทย ประสิทธิภาพการคุมกำเนิด และภาวะแทรกซ้อนที่พบในคนไทย ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระวิทยา ความดันโลหิต ความเข้มของเลือด ผลต่อสุขภาพจิต ความรู้สึกทางเพศ ผลต่อการทำงานของตับ และต่อมไทรอยด์ ตลอดจนการเกิดมะเร็งของเต้านม และปากมดลูก เป็นต้น
	นอกจากนั้น ยังได้มีการศึกษาผลระยะยาว ของยาฉีดคุมกำเนิด พบว่า ผลต่อสุขภาพจิต และความรู้สึกทางเพศ ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่พบอุบัติการ เกี่ยวกับการเกิดมะเร็งเต้านม และปากมดลูก ความดันโลหิต และไม่พบการเปลี่ยนแปลงหน้าที่ การทำงานของไต ต่อมไทรอยด์ ส่วนในตับ พบว่า ในรายที่ใช้ยานานเกิน 4 ปี ผิดปกติ 3% 	สำหรับอาการข้างเคียง ที่พบบ่อยคือ เลือดออกกระปริบประปรอย หรือไม่มีเลือดออกมาเลย เป็นต้น
สารสังเคราะห์ 	Depo-medroxy pregesterone acetate เป็นสารสังเคราะห์จำพวก โปรเจสเตอโรน (progesterone) ออกฤทธิ์โดยตรงต่อต่อมใต้สมองส่วนหน้า และ hypothallamusเพื่อยับยั้งการสร้าง การเก็บ และการหลั่งของฮอร์โมน ganadotrophinsทำให้ไม่มีการตกไข่ จึงสามารถใช้ในการคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเหตุที่การฉีดยาคุมกำเนิดชนิด Depo-medroxy pregesterone acetate ฉีดครั้งเดียว สามารถคุมกำเนิดได้นานถึง 3 เดือน ปริมาณตัวยาสำคัญ ขนาดของอานุภาค และปริมาตรของการฉีด มีส่วนสำคัญต่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดของยา
ฤทธิ์ของยาฉีดคุมกำเนิด 	1.ปัจจุบันยาฉีดคุมกำเนิดนั้น ฉีดครั้งหนึ่งมีฤทธิ์คุมกำเนิดได้ 3 เดือนโดยจะฉีดบริเวณสะโพก เมื่อฉีดแล้วตัวยาจะอยู่ที่สะโพก และค่อยๆ ขับฮอร์โมนออกมา 	2.หลักการพิจารณาเริ่มฉีดยาคุมกำเนิด การฉีดยาคุมกำเนิดก็เหมือนกับยากิน คือ ต้องเริ่มภายใน 5 วันแรกของรอบเดือนก่อนที่รังไข่จะทำงาน ถ้ารังไข่ทำงานแล้วจึงฉีด มีโอกาสท้องได้เช่นกัน
ฤทธิ์ของยาฉีดคุมกำเนิด(ต่อ) 	3.หลังจากฉีดยาคุมกำเนิด รอบเดือนจะผิดปกติเกือบทุกคน รอบเดือนจะมาไม่เหมือนเดิม ระยะแรกจะมากะปริดกะปรอย ไม่แน่นอน ฉีดนานๆ หลายเข็มเข้า ประจำเดือนจะหายไปเลย แต่ถ้าหยุดฉีดไประยะหนึ่ง ฮอร์โมนจากธรรมชาติก็เริ่มใหม่ ประจำเดือนก็จะมาปกติ 	4.บางคนเข้าใจผิดว่า ถ้าฉีดยานานๆ จะมีโอกาสเป็นหมัน พบว่าไม่จริง แต่อาจจะทำให้มีลูกช้าได้ คนที่ฉีดยาต้องวางแผน เพราะไม่ใช่เมื่อพร้อมที่จะมีลูก หรืออยากมีลูกเมื่อไรแล้วหยุดฉีดจะมีลูกได้ทันที แต่ต้องรอไประยะหนึ่ง เช่น ฉีดไป 2 ปีกว่า ยาจะหมดฤทธิ์ก็ต้องรออีก 9 เดือน ถ้าฉีดนานปีกว่านี้ก็จะรอยาวนานขึ้นอีก การจะใช้ยาฉีด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อจะได้ตรวจร่างกายให้พร้อม
ข้อควรระวัง ข้อควรระวังในการใช้ยาฉีด เมื่อฉีดยาแล้ว อย่าไปคลึงหรือขยี้บริเวณที่ฉีด เพราะจะทำให้ตัวยาในร่างกายน้อยวันลง แทนที่จะอยู่ได้ 90 วัน หรือ 1 เดือน ก็อาจเหลือเพียงแค่ 80 วัน ถึงแม้การฉีดยาคุมนี้จะอยู่ได้ 3 เดือน แต่ส่วนใหญ่แพทย์จะนัดผู้ป่วยมาฉีดก่อน 1 สัปดาห์
คำถาม เพื่อ คำตอบ
>>DMPA คืออะไร? 	DMPA ย่อมาจากคำว่า Depot Medroxyprogesterone Acetate  DMPA ที่ใช้ในออสเตรเลียเรียกว่า Depo-Provera® หรือ Depo Ralovera® ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดหนึ่งคล้ายกับฮอร์โมนที่ชื่อโพรเจส เตอโรนซึ่งผลิตโดยรังไข่ การฉีด DMPA แต่ละครั้งจะป้องกันสตรีจากการตั้งครรภ์ได้ 12 สัปดาห์ >>DMPA ทำงานอย่างไร? 	DMPA หยุดรังไข่ของท่านไม่ให้ทำ การปล่อยไข่ ถ้าไม่มีไข่ที่ถูกปล่อยออกมา ท่านก็ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ >>DMPA ได้ผลดีแค่ไหน? 	DMPA ได้ผลดีมากในการป้องกันการตั้งครรภ์ มีประสิทธิภาพมากกว่าร้อยละ 99
>>ใครสามารถใช้ DMPA ได้? 	สตรีหลายคนสามารถใช้ DMPA ได้ มีผลดีสำ หรับผู้ที่ไม่ต้องการตั้งครรภ์ในระยะเวลายาวนาน มีผลดีสำหรับผู้ที่จำ การทานยาเม็ดคุมกำเนิดไม่ค่อยได้ DMPA ปลอดภัยที่จะใช้ในระหว่างการให้นมลูกเมื่อทารกอายุเกิน 6 สัปดาห์แล้ว >>ใครไม่ควรใช้ DMPA? 	สตรีที่คิดว่าอาจจะกำ ลังตั้งครรภ์ไม่ควรใช้ ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่นมะเร็งเต้านมไม่ควรใช้ ตามปกติจะไม่แนะนำ ให้ใช้ยานี้ เป็นทางเลือกแรกในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปีหรือเกิน 46 ปี เพราะมีผลต่อมวลกระดูก เป็นสิ่งสำ คัญที่ควรจะปรึกษาแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยสำหรับท่านที่จะใช้
>>ท่านจะใช้ DMPA อย่างไร? 	แพทย์จะฉีด DMPA เข็มเล็กๆ ที่สะโพกหรือต้นแขนของท่านตามปกติท่านควรรับการฉีดในระยะ 5 วันแรกของการมีประจำ ดือน (วันแรกที่ประจำ เดือนมา คือวันที่หนึ่ง) เมื่อท่านได้รับการฉีดในช่วงนี้ จะ ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันที ท่านสามารถรับการฉีด DMPA ได้ภายหลัง ถ้าท่านแน่ใจว่าท่านไม่ได้กำ ลังตั้งครรภ์ แต่จะต้องใช้เวลาอีก 7 วันกว่าจะมีประสิทธิภาพ ท่านต้องใช้การคุมกำ เนิดชนิดอื่นร่วมด้วย ในช่วงเวลานั้น เช่นการใช้ถุงยางอนามัยเป็นสิ่งสำ คัญมากที่ท่านต้องได้รับการฉีด DMPA ทุกๆ 12 สัปดาห์เพื่อให้แน่ใจว่าท่านไม่ได้ตั้งครรภ์
>>มีผลข้างเคียงอะไรไหม? 	ประจำ เดือนมักจะมาไม่เป็นปกติเมื่อใช้ DMPA มันอาจจะมานานกว่าเดิม ท่านอาจมีเลือดออกเล็กน้อยเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือประจำเดือนท่านอาจหยุดไปเลย สตรีหลายคนอาจจะน้ำหนักขึ้น ปวดศรีษะหรือรู้สึกหดหู่ในระหว่างการใช้ DMPA ปรึกษาแพทย์ถ้าท่านเกิดอาการอย่างใดอย่างหนึ่งที่คิดว่าเกิดจากการใช้ DMPA
>>มีอะไรอย่างอื่นที่ข้าพเจ้าควรรู้อีกไหม? 	เมื่อสตรีหยุดการใช้ DMPA มักจะใช้เวลา 8 เดือนหรือมากกว่าที่ประจำ เดือนจะกลับมาเป็นปกติ ด้วยเหตุนี้ ก็อาจทำ ให้ต้องใช้เวลานานในการตั้งครรภ์หลังจากการฉีด DMPA >>ท่านจะฉีด DMPAได้อย่างไร? 	ท่านต้องไปพบแพทย์หรือไปที่คลินิกวางแผนครอบครัวเพื่อขอใบสั่งสำ หรับ DMPA แพทย์จะเป็นผู้ฉีดยาให้กับท่าน
ที่มา ยาฉีดคุมกำเนิด DMPA www.fpnsw.org.au 	http://www.mhcs.health.nsw.gov.au/publication_pdfs/8695/OTH-8695-THA.pdf การฉีดยาคุมกำเนิด นพ.วรวุฒิ เจริญศิริ 	http://www.bangkokhealth.com/index.php/Reproductive/516-2009-01-20-06-45-51.html

Weitere ähnliche Inhalte

Ähnlich wie การฉีดยาคุมกำเนิด

2562 final-project 22
2562 final-project 222562 final-project 22
2562 final-project 22Napisa22
 
โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)
โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)
โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)firstnarak
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาIntaruechai Intaruechai
 
บทที่ 7 วัคซีน
บทที่ 7 วัคซีนบทที่ 7 วัคซีน
บทที่ 7 วัคซีนPa'rig Prig
 

Ähnlich wie การฉีดยาคุมกำเนิด (20)

2562 final-project 22
2562 final-project 222562 final-project 22
2562 final-project 22
 
โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)
โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)
โครงงานคอม(ยาสามัญประจำบ้าน)
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
การสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหาการสร้างสถานการปัญหา
การสร้างสถานการปัญหา
 
บทที่ 7 วัคซีน
บทที่ 7 วัคซีนบทที่ 7 วัคซีน
บทที่ 7 วัคซีน
 

การฉีดยาคุมกำเนิด

  • 2. การฉีดยาคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิดสำหรับสุภาพสตรียังคงเป็นที่นิยมอยู่พอสมควร สุภาพสตรีบางท่านชอบที่ในหนึ่งปี ต้องไปรับการฉีดยาคุมกำเนิดเพียง 4 ครั้งเท่านั้น เพราะยาฉีดที่ใช้กันอยู่ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน จะสามารถคุมกำเนิดอยู่ได้นานประมาณ 3เดือน
  • 3. ปัญหาของการฉีดยาคุมกำเนิดอาจจะมีบ้างในสุภาพสตรีบางราย โดยปัญหาหลักๆ มีอยู่ 2 ประการ คือ การที่คนที่ฉีดยาคุมกำเนิดอาจจะมีเลือดออกทางช่องคลอดเล็กๆ น้อยๆ เป็นครั้งเป็นคราว ซึ่งถ้าเป็นบ่อย ท่านควรไปรับคำปรึกษาแนะนำจากแพทย์ บางครั้ง แพทย์อาจจะพิจารณาให้ยารักษา ปัญหาส่วนใหญ่ก็จะได้รับการแก้ไขให้หมดไปได้ ปัญหาอีกประการหนึ่งคือ การที่ประจำเดือนไม่มาเลยตลอด 3 เดือน บางท่านอาจจะชอบ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องรอบเดือนมา แต่บางท่านอาจจะกังวลใจ โดยเฉพาะบางท่านเข้าใจผิดในเรื่องประจำเดือนว่าเป็นเลือดเสีย ถ้าประจำเดือนไม่มา ตนเองอาจเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ
  • 4. ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด เป็นยาฮอร์โมนประเภทเดียวกับยาเม็ดคุมกำเนิด แต่เนื่องจากหญิงบางคนไม่ชอบการกินยาทุกวัน หรืออาจมีการหลงลืมกินยาได้ ซึ่งจะทำให้ผลในการคุมกำเนิดเลวลง จึงได้มีการนำเอาฮอร์โมนโพรเจสโทเจนอย่างเดียว หรือร่วมกับเอสโทรเจนมาใช้เป็นยาฉีดคุมกำเนิด โดยฉีดครั้งหนึ่งมีฤทธิ์คุมไปได้เป็นเวลานาน
  • 5. ยาฉีดคุมกำเนิดที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบันเป็นยาประเภทฉีดทุก 3 เดือน หรือ 12 สัปดาห์ และชนิดที่ใช้กันมากคือ เดโปเมดรอกซีโพรเจสเทอโรนอะซีเตต ชนิดออกฤทธิ์นาน (depo medroxy progesterone acetate) ซึ่งต่อไปจะใช้ชื่อย่อว่า ดีเอ็มดีเอ (DMPA)
  • 6. ดีเอ็มพีเอ เป็นยาที่ใช้ในทางแพทย์ เพื่อรักษาโรคเฉพาะหญิงบางอย่างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 และการรักษาโรคบางอย่างได้ใช้ยานี้ในขนาดสูงมาก แต่ก็ไม่พบอันตรายร้ายแรงใดๆ นอกจากการผิดปกติของประจำเดือนเนื่องจากการศึกษาพบว่ายานี้มีฤทธิ์ป้องกันไข่สุกได้ จึงได้ทดลองนำยานี้มาใช้ในการคุมกำเนิด ต่อมาในปี พ.ศ. 2507 จึงได้นำยานี้มาใช้เป็นยาคุมกำเนิดชนิดฉีด 3 เดือนครั้ง โดยฉีดเข้ากล้ามครั้งละ 150 มิลลิกรัม ยานี้ได้นำมาใช้เป็นยาฉีดคุมกำเนิดในประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2508 และปรากฏว่าเป็นที่นิยมของหญิงไทยในบางท้องที่อย่างมาก
  • 7. วิธีใช้ 1.เริ่มต้นฉีดเข็มแรก ภายใน 5 วันแรกของรอบประจำเดือน และฉีดติดต่อกันไปทุกๆ 12 สัปดาห์หรือ 84 วัน ในหญิงหลังคลอดอาจเริ่มต้นฉีดยานี้ได้ภายหลังคลอดก่อนคนไข้จะกลับบ้าน 2.การทำงานของดีเอ็มพีเอ ยาชนิดนี้ป้องกันการตั้งครรภ์ได้โดยออกฤทธิ์คล้ายคลึงกับฤทธิ์ของยาเม็ดคุมกำเนิดดังกล่าวมาแล้วแต่มีประสิทธิภาพสูงมาก 3.ผลของยาดีเอ็มพีเอต่อประจำเดือน ผู้ที่ใช้ยานี้จะมีระบบประจำเดือนผิดไปจากเดิมจนยากที่จะทำนายล่วงหน้าได้ แต่พอสรุปได้ว่าในระยะแรกที่ใช้ยานี้ ผู้ใช้มักมีเลือดออกกะปริบกะปรอย และภายหลังใช้ยานี้ได้ประมาณ 1 ปี ประจำเดือนมักจะขาดไป
  • 8. Depo medroxy progesterone acetate (DMPA) ยาฉีดคุมกำเนิดชนิด Depo medroxy progesterone acetate, DMPA ได้นำมาใช้ครั้งแรก ในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 โดยใช้ในการรักษาการแท้งเป็นนิสัย (habitual abortion) และ Endometriosis ต่อมาประเทศต่างๆ ทั่วโลกมากกว่า 90 ประเทศ ได้นำมาใช้ เพื่อคุมกำเนิด
  • 9. สำหรับประเทศไทย ได้นำมาใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2508 และเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปของสตรีไทย ประสิทธิภาพการคุมกำเนิด และภาวะแทรกซ้อนที่พบในคนไทย ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระวิทยา ความดันโลหิต ความเข้มของเลือด ผลต่อสุขภาพจิต ความรู้สึกทางเพศ ผลต่อการทำงานของตับ และต่อมไทรอยด์ ตลอดจนการเกิดมะเร็งของเต้านม และปากมดลูก เป็นต้น
  • 10. นอกจากนั้น ยังได้มีการศึกษาผลระยะยาว ของยาฉีดคุมกำเนิด พบว่า ผลต่อสุขภาพจิต และความรู้สึกทางเพศ ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่พบอุบัติการ เกี่ยวกับการเกิดมะเร็งเต้านม และปากมดลูก ความดันโลหิต และไม่พบการเปลี่ยนแปลงหน้าที่ การทำงานของไต ต่อมไทรอยด์ ส่วนในตับ พบว่า ในรายที่ใช้ยานานเกิน 4 ปี ผิดปกติ 3% สำหรับอาการข้างเคียง ที่พบบ่อยคือ เลือดออกกระปริบประปรอย หรือไม่มีเลือดออกมาเลย เป็นต้น
  • 11. สารสังเคราะห์ Depo-medroxy pregesterone acetate เป็นสารสังเคราะห์จำพวก โปรเจสเตอโรน (progesterone) ออกฤทธิ์โดยตรงต่อต่อมใต้สมองส่วนหน้า และ hypothallamusเพื่อยับยั้งการสร้าง การเก็บ และการหลั่งของฮอร์โมน ganadotrophinsทำให้ไม่มีการตกไข่ จึงสามารถใช้ในการคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเหตุที่การฉีดยาคุมกำเนิดชนิด Depo-medroxy pregesterone acetate ฉีดครั้งเดียว สามารถคุมกำเนิดได้นานถึง 3 เดือน ปริมาณตัวยาสำคัญ ขนาดของอานุภาค และปริมาตรของการฉีด มีส่วนสำคัญต่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดของยา
  • 12. ฤทธิ์ของยาฉีดคุมกำเนิด 1.ปัจจุบันยาฉีดคุมกำเนิดนั้น ฉีดครั้งหนึ่งมีฤทธิ์คุมกำเนิดได้ 3 เดือนโดยจะฉีดบริเวณสะโพก เมื่อฉีดแล้วตัวยาจะอยู่ที่สะโพก และค่อยๆ ขับฮอร์โมนออกมา 2.หลักการพิจารณาเริ่มฉีดยาคุมกำเนิด การฉีดยาคุมกำเนิดก็เหมือนกับยากิน คือ ต้องเริ่มภายใน 5 วันแรกของรอบเดือนก่อนที่รังไข่จะทำงาน ถ้ารังไข่ทำงานแล้วจึงฉีด มีโอกาสท้องได้เช่นกัน
  • 13. ฤทธิ์ของยาฉีดคุมกำเนิด(ต่อ) 3.หลังจากฉีดยาคุมกำเนิด รอบเดือนจะผิดปกติเกือบทุกคน รอบเดือนจะมาไม่เหมือนเดิม ระยะแรกจะมากะปริดกะปรอย ไม่แน่นอน ฉีดนานๆ หลายเข็มเข้า ประจำเดือนจะหายไปเลย แต่ถ้าหยุดฉีดไประยะหนึ่ง ฮอร์โมนจากธรรมชาติก็เริ่มใหม่ ประจำเดือนก็จะมาปกติ 4.บางคนเข้าใจผิดว่า ถ้าฉีดยานานๆ จะมีโอกาสเป็นหมัน พบว่าไม่จริง แต่อาจจะทำให้มีลูกช้าได้ คนที่ฉีดยาต้องวางแผน เพราะไม่ใช่เมื่อพร้อมที่จะมีลูก หรืออยากมีลูกเมื่อไรแล้วหยุดฉีดจะมีลูกได้ทันที แต่ต้องรอไประยะหนึ่ง เช่น ฉีดไป 2 ปีกว่า ยาจะหมดฤทธิ์ก็ต้องรออีก 9 เดือน ถ้าฉีดนานปีกว่านี้ก็จะรอยาวนานขึ้นอีก การจะใช้ยาฉีด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อจะได้ตรวจร่างกายให้พร้อม
  • 14. ข้อควรระวัง ข้อควรระวังในการใช้ยาฉีด เมื่อฉีดยาแล้ว อย่าไปคลึงหรือขยี้บริเวณที่ฉีด เพราะจะทำให้ตัวยาในร่างกายน้อยวันลง แทนที่จะอยู่ได้ 90 วัน หรือ 1 เดือน ก็อาจเหลือเพียงแค่ 80 วัน ถึงแม้การฉีดยาคุมนี้จะอยู่ได้ 3 เดือน แต่ส่วนใหญ่แพทย์จะนัดผู้ป่วยมาฉีดก่อน 1 สัปดาห์
  • 16. >>DMPA คืออะไร? DMPA ย่อมาจากคำว่า Depot Medroxyprogesterone Acetate DMPA ที่ใช้ในออสเตรเลียเรียกว่า Depo-Provera® หรือ Depo Ralovera® ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดหนึ่งคล้ายกับฮอร์โมนที่ชื่อโพรเจส เตอโรนซึ่งผลิตโดยรังไข่ การฉีด DMPA แต่ละครั้งจะป้องกันสตรีจากการตั้งครรภ์ได้ 12 สัปดาห์ >>DMPA ทำงานอย่างไร? DMPA หยุดรังไข่ของท่านไม่ให้ทำ การปล่อยไข่ ถ้าไม่มีไข่ที่ถูกปล่อยออกมา ท่านก็ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ >>DMPA ได้ผลดีแค่ไหน? DMPA ได้ผลดีมากในการป้องกันการตั้งครรภ์ มีประสิทธิภาพมากกว่าร้อยละ 99
  • 17. >>ใครสามารถใช้ DMPA ได้? สตรีหลายคนสามารถใช้ DMPA ได้ มีผลดีสำ หรับผู้ที่ไม่ต้องการตั้งครรภ์ในระยะเวลายาวนาน มีผลดีสำหรับผู้ที่จำ การทานยาเม็ดคุมกำเนิดไม่ค่อยได้ DMPA ปลอดภัยที่จะใช้ในระหว่างการให้นมลูกเมื่อทารกอายุเกิน 6 สัปดาห์แล้ว >>ใครไม่ควรใช้ DMPA? สตรีที่คิดว่าอาจจะกำ ลังตั้งครรภ์ไม่ควรใช้ ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่นมะเร็งเต้านมไม่ควรใช้ ตามปกติจะไม่แนะนำ ให้ใช้ยานี้ เป็นทางเลือกแรกในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปีหรือเกิน 46 ปี เพราะมีผลต่อมวลกระดูก เป็นสิ่งสำ คัญที่ควรจะปรึกษาแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยสำหรับท่านที่จะใช้
  • 18. >>ท่านจะใช้ DMPA อย่างไร? แพทย์จะฉีด DMPA เข็มเล็กๆ ที่สะโพกหรือต้นแขนของท่านตามปกติท่านควรรับการฉีดในระยะ 5 วันแรกของการมีประจำ ดือน (วันแรกที่ประจำ เดือนมา คือวันที่หนึ่ง) เมื่อท่านได้รับการฉีดในช่วงนี้ จะ ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันที ท่านสามารถรับการฉีด DMPA ได้ภายหลัง ถ้าท่านแน่ใจว่าท่านไม่ได้กำ ลังตั้งครรภ์ แต่จะต้องใช้เวลาอีก 7 วันกว่าจะมีประสิทธิภาพ ท่านต้องใช้การคุมกำ เนิดชนิดอื่นร่วมด้วย ในช่วงเวลานั้น เช่นการใช้ถุงยางอนามัยเป็นสิ่งสำ คัญมากที่ท่านต้องได้รับการฉีด DMPA ทุกๆ 12 สัปดาห์เพื่อให้แน่ใจว่าท่านไม่ได้ตั้งครรภ์
  • 19. >>มีผลข้างเคียงอะไรไหม? ประจำ เดือนมักจะมาไม่เป็นปกติเมื่อใช้ DMPA มันอาจจะมานานกว่าเดิม ท่านอาจมีเลือดออกเล็กน้อยเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือประจำเดือนท่านอาจหยุดไปเลย สตรีหลายคนอาจจะน้ำหนักขึ้น ปวดศรีษะหรือรู้สึกหดหู่ในระหว่างการใช้ DMPA ปรึกษาแพทย์ถ้าท่านเกิดอาการอย่างใดอย่างหนึ่งที่คิดว่าเกิดจากการใช้ DMPA
  • 20. >>มีอะไรอย่างอื่นที่ข้าพเจ้าควรรู้อีกไหม? เมื่อสตรีหยุดการใช้ DMPA มักจะใช้เวลา 8 เดือนหรือมากกว่าที่ประจำ เดือนจะกลับมาเป็นปกติ ด้วยเหตุนี้ ก็อาจทำ ให้ต้องใช้เวลานานในการตั้งครรภ์หลังจากการฉีด DMPA >>ท่านจะฉีด DMPAได้อย่างไร? ท่านต้องไปพบแพทย์หรือไปที่คลินิกวางแผนครอบครัวเพื่อขอใบสั่งสำ หรับ DMPA แพทย์จะเป็นผู้ฉีดยาให้กับท่าน
  • 21. ที่มา ยาฉีดคุมกำเนิด DMPA www.fpnsw.org.au http://www.mhcs.health.nsw.gov.au/publication_pdfs/8695/OTH-8695-THA.pdf การฉีดยาคุมกำเนิด นพ.วรวุฒิ เจริญศิริ http://www.bangkokhealth.com/index.php/Reproductive/516-2009-01-20-06-45-51.html