SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 110
Downloaden Sie, um offline zu lesen
ครั้งที่ ๑๕
                               ๒๐ กันยายน ๒๕๕๓




Wednesday, 15 September 2010
ลาภมิควรได้



Wednesday, 15 September 2010
นิติกรรม?                ละเมิด?



                                     ลาภมิควรได้

                                           วิวัฒนาการ

                    ลักษณะ                    ผล            อายุความ
Wednesday, 15 September 2010
ลาภมิควรได้




Wednesday, 15 September 2010
นิติกรรม?



                               ลาภมิควรได้




Wednesday, 15 September 2010
นิติกรรม?

                               คล้ายคลึง?


                                  ลาภมิควรได้




Wednesday, 15 September 2010
นิติกรรม?

                               คล้ายคลึง?     แตกต่าง?


                                  ลาภมิควรได้




Wednesday, 15 September 2010
นิติกรรม?

                               คล้ายคลึง?        แตกต่าง?


                                  ลาภมิควรได้
                               คล้ายคลึง?        แตกต่าง?

                                       ละเมิด?


Wednesday, 15 September 2010
วิวัฒนาการ




Wednesday, 15 September 2010
ลักษณะ




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ
  ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย
  ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ
  เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า
  บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้
  สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ
  ชําระหนี้ด้วย
        บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้
  ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น
  หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ
  ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย
  ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ
  เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า
  บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้
  สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ
  ชําระหนี้ด้วย
        บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้
  ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น
  หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ
  ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย
  ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ
  เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า
  บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้
  สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ
  ชําระหนี้ด้วย
        บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้
  ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น
  หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ
  ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย
  ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ
  เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า
  บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้
  สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ
  ชําระหนี้ด้วย
        บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้
  ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น
  หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ
  ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย
  ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ
  เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า
  บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้
  สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ
  ชําระหนี้ด้วย
        บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้
  ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น
  หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ
  ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย
  ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ
  เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า
  บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้
  สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ
  ชําระหนี้ด้วย
        บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้
  ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น
  หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ
  ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย
  ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ
  เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า
  บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้
  สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ
  ชําระหนี้ด้วย
        บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้
  ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น
  หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ
  ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย
  ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ
  เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า
  บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้
  สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ
  ชําระหนี้ด้วย
        บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้
  ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น
  หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ
  ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย
  ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ
  เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า
  บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้
  สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ
  ชําระหนี้ด้วย
        บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้
  ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น
  หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ
  ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย
  ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ
  เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า
  บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้
  สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ
  ชําระหนี้ด้วย
        บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้
  ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น
  หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ
  ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย
  ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ
  เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า
  บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้
  สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ
  ชําระหนี้ด้วย
        บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้
  ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น
  หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ
  ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย
  ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ
  เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า
  บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้
  สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ
  ชําระหนี้ด้วย
        บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้
  ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น
  หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ
  ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย
  ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ
  เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า
  บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้
  สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ
  ชําระหนี้ด้วย
        บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้
  ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น
  หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ
  ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย
  ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ
  เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า
  บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้
  สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ
  ชําระหนี้ด้วย
        บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้
  ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น
  หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

Wednesday, 15 September 2010
คําถาม?



Wednesday, 15 September 2010
ผล




Wednesday, 15 September 2010
หนี้ต่อผู้ได้รับทรัพย์




                                       ผล




Wednesday, 15 September 2010
หนี้ต่อผู้ได้รับทรัพย์




                                       ผล


                               หนี้ต่อเจ้าของทรัพย์



Wednesday, 15 September 2010
หนี้ต่อผู้ได้รับทรัพย์




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ
  ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย
  ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ
  เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า
  บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้
  สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ
  ชําระหนี้ด้วย
        บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้
  ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น
  หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

Wednesday, 15 September 2010
คําถาม?



Wednesday, 15 September 2010
แต่ ...



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๗  บุคคลใดได้กระทําการอันใดตาม
    อําเภอใจเหมือนหนึ่งว่าเพื่อชําระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มี
    ความผูกพันที่จะต้องชําระ ท่านว่าบุคคลผู้นั้นหามีสิทธิจะ
    ได้รับคืนทรัพย์ไม่




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๗  บุคคลใดได้กระทําการอันใดตาม
    อําเภอใจเหมือนหนึ่งว่าเพื่อชําระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มี
    ความผูกพันที่จะต้องชําระ ท่านว่าบุคคลผู้นั้นหามีสิทธิจะ
    ได้รับคืนทรัพย์ไม่




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๗  บุคคลใดได้กระทําการอันใดตาม
    อําเภอใจเหมือนหนึ่งว่าเพื่อชําระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มี
    ความผูกพันที่จะต้องชําระ ท่านว่าบุคคลผู้นั้นหามีสิทธิจะ
    ได้รับคืนทรัพย์ไม่




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๗  บุคคลใดได้กระทําการอันใดตาม
    อําเภอใจเหมือนหนึ่งว่าเพื่อชําระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มี
    ความผูกพันที่จะต้องชําระ ท่านว่าบุคคลผู้นั้นหามีสิทธิจะ
    ได้รับคืนทรัพย์ไม่




Wednesday, 15 September 2010
คําถาม?



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๘  บุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้ไม่มีสิทธิจะได้
   รับคืนทรัพย์ คือ
        (๑)  บุคคลผู้ชําระหนี้อันมีเงื่อนเวลาบังคับเมื่อก่อนถึง
   กําหนดเวลานั้น
        (๒)  บุคคลผู้ชําระหนี้ซึ่งขาดอายุความแล้ว
        (๓)  บุคคลผู้ชําระหนี้ตามหน้าที่ศีลธรรม หรือตามควร
   แก่อัธยาศัยในสมาคม



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๘  บุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้ไม่มีสิทธิจะได้
   รับคืนทรัพย์ คือ
        (๑)  บุคคลผู้ชําระหนี้อันมีเงื่อนเวลาบังคับเมื่อก่อนถึง
   กําหนดเวลานั้น
        (๒)  บุคคลผู้ชําระหนี้ซึ่งขาดอายุความแล้ว
        (๓)  บุคคลผู้ชําระหนี้ตามหน้าที่ศีลธรรม หรือตามควร
   แก่อัธยาศัยในสมาคม



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๘  บุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้ไม่มีสิทธิจะได้
   รับคืนทรัพย์ คือ
        (๑)  บุคคลผู้ชําระหนี้อันมีเงื่อนเวลาบังคับเมื่อก่อนถึง
   กําหนดเวลานั้น
        (๒)  บุคคลผู้ชําระหนี้ซึ่งขาดอายุความแล้ว
        (๓)  บุคคลผู้ชําระหนี้ตามหน้าที่ศีลธรรม หรือตามควร
   แก่อัธยาศัยในสมาคม



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๘  บุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้ไม่มีสิทธิจะได้
   รับคืนทรัพย์ คือ
        (๑)  บุคคลผู้ชําระหนี้อันมีเงื่อนเวลาบังคับเมื่อก่อนถึง
   กําหนดเวลานั้น
        (๒)  บุคคลผู้ชําระหนี้ซึ่งขาดอายุความแล้ว
        (๓)  บุคคลผู้ชําระหนี้ตามหน้าที่ศีลธรรม หรือตามควร
   แก่อัธยาศัยในสมาคม



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๘  บุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้ไม่มีสิทธิจะได้
   รับคืนทรัพย์ คือ
        (๑)  บุคคลผู้ชําระหนี้อันมีเงื่อนเวลาบังคับเมื่อก่อนถึง
   กําหนดเวลานั้น
        (๒)  บุคคลผู้ชําระหนี้ซึ่งขาดอายุความแล้ว
        (๓)  บุคคลผู้ชําระหนี้ตามหน้าที่ศีลธรรม หรือตามควร
   แก่อัธยาศัยในสมาคม



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๘  บุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้ไม่มีสิทธิจะได้
   รับคืนทรัพย์ คือ
        (๑)  บุคคลผู้ชําระหนี้อันมีเงื่อนเวลาบังคับเมื่อก่อนถึง
   กําหนดเวลานั้น
        (๒)  บุคคลผู้ชําระหนี้ซึ่งขาดอายุความแล้ว
        (๓)  บุคคลผู้ชําระหนี้ตามหน้าที่ศีลธรรม หรือตามควร
   แก่อัธยาศัยในสมาคม



Wednesday, 15 September 2010
คําถาม?



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๙  เมื่อบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งมิได้เป็นลูกหนี้ได้
  ชําระหนี้ไปโดยสําคัญผิด เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ผู้ทําการโดย
  สุจริตได้ทําลาย หรือลบล้างเสียซึ่งเอกสารอันเป็นพยาน
  หลักฐานแห่งหนี้ก็ดี ยกเลิกหลักประกันเสียก็ดี สิ้นสิทธิไป
  เพราะขาดอายุความก็ดี ท่านว่าเจ้าหนี้ไม่จําต้องคืนทรัพย์
        บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้ ไม่ขัดขวางต่อการ
  ที่บุคคลผู้ได้ชําระหนี้นั้นจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้และผู้
  ค้ําประกัน ถ้าจะพึงมี



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๙  เมื่อบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งมิได้เป็นลูกหนี้ได้
  ชําระหนี้ไปโดยสําคัญผิด เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ผู้ทําการโดย
  สุจริตได้ทําลาย หรือลบล้างเสียซึ่งเอกสารอันเป็นพยาน
  หลักฐานแห่งหนี้ก็ดี ยกเลิกหลักประกันเสียก็ดี สิ้นสิทธิไป
  เพราะขาดอายุความก็ดี ท่านว่าเจ้าหนี้ไม่จําต้องคืนทรัพย์
        บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้ ไม่ขัดขวางต่อการ
  ที่บุคคลผู้ได้ชําระหนี้นั้นจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้และผู้
  ค้ําประกัน ถ้าจะพึงมี



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๙  เมื่อบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งมิได้เป็นลูกหนี้ได้
  ชําระหนี้ไปโดยสําคัญผิด เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ผู้ทําการโดย
  สุจริตได้ทําลาย หรือลบล้างเสียซึ่งเอกสารอันเป็นพยาน
  หลักฐานแห่งหนี้ก็ดี ยกเลิกหลักประกันเสียก็ดี สิ้นสิทธิไป
  เพราะขาดอายุความก็ดี ท่านว่าเจ้าหนี้ไม่จําต้องคืนทรัพย์
        บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้ ไม่ขัดขวางต่อการ
  ที่บุคคลผู้ได้ชําระหนี้นั้นจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้และผู้
  ค้ําประกัน ถ้าจะพึงมี



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๙  เมื่อบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งมิได้เป็นลูกหนี้ได้
  ชําระหนี้ไปโดยสําคัญผิด เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ผู้ทําการโดย
  สุจริตได้ทําลาย หรือลบล้างเสียซึ่งเอกสารอันเป็นพยาน
  หลักฐานแห่งหนี้ก็ดี ยกเลิกหลักประกันเสียก็ดี สิ้นสิทธิไป
  เพราะขาดอายุความก็ดี ท่านว่าเจ้าหนี้ไม่จําต้องคืนทรัพย์
        บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้ ไม่ขัดขวางต่อการ
  ที่บุคคลผู้ได้ชําระหนี้นั้นจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้และผู้
  ค้ําประกัน ถ้าจะพึงมี



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๐๙  เมื่อบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งมิได้เป็นลูกหนี้ได้
  ชําระหนี้ไปโดยสําคัญผิด เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ผู้ทําการโดย
  สุจริตได้ทําลาย หรือลบล้างเสียซึ่งเอกสารอันเป็นพยาน
  หลักฐานแห่งหนี้ก็ดี ยกเลิกหลักประกันเสียก็ดี สิ้นสิทธิไป
  เพราะขาดอายุความก็ดี ท่านว่าเจ้าหนี้ไม่จําต้องคืนทรัพย์
        บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้ ไม่ขัดขวางต่อการ
  ที่บุคคลผู้ได้ชําระหนี้นั้นจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้และผู้
  ค้ําประกัน ถ้าจะพึงมี



Wednesday, 15 September 2010
คําถาม?



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ
  ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้
  มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า
  ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน
  ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน
  ทรัพย์




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ
  ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้
  มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า
  ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน
  ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน
  ทรัพย์




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ
  ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้
  มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า
  ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน
  ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน
  ทรัพย์




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ
  ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้
  มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า
  ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน
  ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน
  ทรัพย์




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ
  ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้
  มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า
  ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน
  ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน
  ทรัพย์




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ
  ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้
  มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า
  ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน
  ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน
  ทรัพย์




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ
  ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้
  มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า
  ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน
  ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน
  ทรัพย์




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ
  ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้
  มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า
  ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน
  ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน
  ทรัพย์




Wednesday, 15 September 2010
คําถาม?



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๑  บุคคลใดได้กระทําการเพื่อชําระหนี้
   เป็นการอันฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี
   ท่านว่าบุคคลนั้นหาอาจจะเรียกร้องคืนทรัพย์ได้ไม่




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๑  บุคคลใดได้กระทําการเพื่อชําระหนี้
   เป็นการอันฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี
   ท่านว่าบุคคลนั้นหาอาจจะเรียกร้องคืนทรัพย์ได้ไม่




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๑  บุคคลใดได้กระทําการเพื่อชําระหนี้
   เป็นการอันฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี
   ท่านว่าบุคคลนั้นหาอาจจะเรียกร้องคืนทรัพย์ได้ไม่




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๑  บุคคลใดได้กระทําการเพื่อชําระหนี้
   เป็นการอันฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี
   ท่านว่าบุคคลนั้นหาอาจจะเรียกร้องคืนทรัพย์ได้ไม่




Wednesday, 15 September 2010
คําถาม?



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๒ ถ้าทรัพย์สินซึ่งได้รับไว้เป็นลาภมิควรได้
  นั้นเป็นเงินจํานวนหนึ่งท่านว่าต้องคืนเต็มจํานวนนั้น เว้นแต่
  เมื่อบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต จึงต้องคืนลาภมิควรได้เพียง
  ส่วนที่ยังมีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืน




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๒ ถ้าทรัพย์สินซึ่งได้รับไว้เป็นลาภมิควรได้
  นั้นเป็นเงินจํานวนหนึ่งท่านว่าต้องคืนเต็มจํานวนนั้น เว้นแต่
  เมื่อบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต จึงต้องคืนลาภมิควรได้เพียง
  ส่วนที่ยังมีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืน




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๒ ถ้าทรัพย์สินซึ่งได้รับไว้เป็นลาภมิควรได้
  นั้นเป็นเงินจํานวนหนึ่งท่านว่าต้องคืนเต็มจํานวนนั้น เว้นแต่
  เมื่อบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต จึงต้องคืนลาภมิควรได้เพียง
  ส่วนที่ยังมีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืน




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๒ ถ้าทรัพย์สินซึ่งได้รับไว้เป็นลาภมิควรได้
  นั้นเป็นเงินจํานวนหนึ่งท่านว่าต้องคืนเต็มจํานวนนั้น เว้นแต่
  เมื่อบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต จึงต้องคืนลาภมิควรได้เพียง
  ส่วนที่ยังมีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืน




Wednesday, 15 September 2010
คําถาม?



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง
  อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า
  บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่
  และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ
  สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ
  สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย
        ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง
  รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้
  กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย
  เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง
  สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง
  อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า
  บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่
  และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ
  สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ
  สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย
        ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง
  รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้
  กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย
  เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง
  สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง
  อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า
  บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่
  และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ
  สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ
  สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย
        ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง
  รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้
  กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย
  เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง
  สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง
  อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า
  บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่
  และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ
  สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ
  สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย
        ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง
  รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้
  กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย
  เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง
  สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง
  อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า
  บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่
  และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ
  สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ
  สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย
        ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง
  รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้
  กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย
  เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง
  สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง
  อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า
  บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่
  และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ
  สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ
  สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย
        ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง
  รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้
  กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย
  เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง
  สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง
  อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า
  บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่
  และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ
  สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ
  สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย
        ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง
  รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้
  กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย
  เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง
  สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง
  อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า
  บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่
  และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ
  สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ
  สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย
        ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง
  รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้
  กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย
  เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง
  สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง
  อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า
  บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่
  และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ
  สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ
  สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย
        ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง
  รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้
  กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย
  เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง
  สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง
  อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า
  บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่
  และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ
  สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ
  สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย
        ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง
  รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้
  กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย
  เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง
  สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง

Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง
  อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า
  บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่
  และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ
  สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ
  สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย
        ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง
  รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้
  กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย
  เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง
  สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง

Wednesday, 15 September 2010
คําถาม?



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ
   สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ
   อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า
   บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน
   ขณะเมื่อเรียกคืน
       ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้
   ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ
   สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ
   อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า
   บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน
   ขณะเมื่อเรียกคืน
       ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้
   ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ
   สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ
   อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า
   บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน
   ขณะเมื่อเรียกคืน
       ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้
   ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ
   สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ
   อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า
   บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน
   ขณะเมื่อเรียกคืน
       ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้
   ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ
   สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ
   อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า
   บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน
   ขณะเมื่อเรียกคืน
       ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้
   ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ
   สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ
   อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า
   บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน
   ขณะเมื่อเรียกคืน
       ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้
   ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ
   สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ
   อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า
   บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน
   ขณะเมื่อเรียกคืน
       ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้
   ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ
   สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ
   อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า
   บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน
   ขณะเมื่อเรียกคืน
       ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้
   ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน



Wednesday, 15 September 2010
คําถาม?



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๕  บุคคลผู้ได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ย่อม
  จะได้ดอกผลอันเกิดแต่ทรัพย์สินนั้นตลอดเวลาที่ยังคง
  สุจริตอยู่
       ถ้าผู้ที่ได้รับไว้จะต้องคืนทรัพย์สินนั้นเมื่อใด ให้ถือว่าผู้
  นั้นตกอยู่ในฐานะทุจริตจําเดิมแต่เวลาที่เรียกคืนนั้น




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๕  บุคคลผู้ได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ย่อม
  จะได้ดอกผลอันเกิดแต่ทรัพย์สินนั้นตลอดเวลาที่ยังคง
  สุจริตอยู่
       ถ้าผู้ที่ได้รับไว้จะต้องคืนทรัพย์สินนั้นเมื่อใด ให้ถือว่าผู้
  นั้นตกอยู่ในฐานะทุจริตจําเดิมแต่เวลาที่เรียกคืนนั้น




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๕  บุคคลผู้ได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ย่อม
  จะได้ดอกผลอันเกิดแต่ทรัพย์สินนั้นตลอดเวลาที่ยังคง
  สุจริตอยู่
       ถ้าผู้ที่ได้รับไว้จะต้องคืนทรัพย์สินนั้นเมื่อใด ให้ถือว่าผู้
  นั้นตกอยู่ในฐานะทุจริตจําเดิมแต่เวลาที่เรียกคืนนั้น




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๕  บุคคลผู้ได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ย่อม
  จะได้ดอกผลอันเกิดแต่ทรัพย์สินนั้นตลอดเวลาที่ยังคง
  สุจริตอยู่
       ถ้าผู้ที่ได้รับไว้จะต้องคืนทรัพย์สินนั้นเมื่อใด ให้ถือว่าผู้
  นั้นตกอยู่ในฐานะทุจริตจําเดิมแต่เวลาที่เรียกคืนนั้น




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๕  บุคคลผู้ได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ย่อม
  จะได้ดอกผลอันเกิดแต่ทรัพย์สินนั้นตลอดเวลาที่ยังคง
  สุจริตอยู่
       ถ้าผู้ที่ได้รับไว้จะต้องคืนทรัพย์สินนั้นเมื่อใด ให้ถือว่าผู้
  นั้นตกอยู่ในฐานะทุจริตจําเดิมแต่เวลาที่เรียกคืนนั้น




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๕  บุคคลผู้ได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ย่อม
  จะได้ดอกผลอันเกิดแต่ทรัพย์สินนั้นตลอดเวลาที่ยังคง
  สุจริตอยู่
       ถ้าผู้ที่ได้รับไว้จะต้องคืนทรัพย์สินนั้นเมื่อใด ให้ถือว่าผู้
  นั้นตกอยู่ในฐานะทุจริตจําเดิมแต่เวลาที่เรียกคืนนั้น




Wednesday, 15 September 2010
คําถาม?



Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๘  ถ้าบุคคลรับทรัพย์สินอันมิควรได้ไว้โดยทุจริต
  และได้ทําการดัดแปลงหรือต่อเติมขึ้นในทรัพย์สินนั้น ท่านว่าบุคคล
  เช่นนั้นต้องจัดทําทรัพย์สินนั้นให้คืนคงสภาพเดิมด้วยค่าใช้จ่ายของ
  ตนเองแล้วจึงส่งคืน เว้นแต่เจ้าของทรัพย์สินจะเลือกให้ส่งคืนตาม
  สภาพที่เป็นอยู่ ในกรณีเช่นนี้เจ้าของจะใช้ราคาค่าทําดัดแปลงหรือต่อ
  เติม หรือใช้เงินจํานวนหนึ่งเป็นราคาทรัพย์สินเท่าที่เพิ่มขึ้นนั้นก็ได้
  แล้วแต่จะเลือก
         ถ้าในเวลาที่จะต้องคืนทรัพย์นั้นเป็นพ้นวิสัยจะทําให้ทรัพย์สินคืน
  คงสภาพเดิมได้ หรือถ้าทําไปทรัพย์สินนั้นจะบุบสลายไซร้ ท่านว่า
  บุคคลผู้ได้รับไว้จะต้องส่งคืนทรัพย์สินตามสภาพที่เป็นอยู่ และไม่มี
  สิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อราคาทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเพราะการ
  ดัดแปลงหรือต่อเติมนั้นได้


Wednesday, 15 September 2010
คําถาม?



Wednesday, 15 September 2010
หนี้ต่อเจ้าของทรัพย์




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๖  ค่าใช้จ่ายทั้งหลายอันควรแก่การเพื่อรักษาบํารุง
    หรือซ่อมแซมทรัพย์สินนั้น ท่านว่าต้องชดใช้แก่บุคคลผู้คืนทรัพย์สิน
    นั้นเต็มจํานวน
          แต่บุคคลเช่นว่านี้จะเรียกร้องให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายตามธรรมดา
    เพื่อบํารุงซ่อมแซมทรัพย์สินนั้น หรือค่าภาระติดพันที่ต้องเสียไปใน
    ระหว่างที่ตนคงเก็บดอกผลอยู่นั้นหาได้ไม่
           
          มาตรา ๔๑๗  ในส่วนค่าใช้จ่ายอย่างอื่นนอกจากที่กล่าวมาใน
    วรรคต้นแห่งมาตราก่อนนั้น บุคคลผู้คืนทรัพย์สินจะเรียกให้ชดใช้ได้
    แต่เฉพาะที่เสียไปในระหว่างที่ตนทําการโดยสุจริต และเมื่อ
    ทรัพย์สินนั้นได้มีราคาเพิ่มสูงขึ้นเพราะค่าใช้จ่ายนั้นในเวลาที่คืน
    และจะเรียกได้ก็แต่เพียงเท่าราคาที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น
          อนึ่ง บทบัญญัติแห่งมาตรา ๔๑๕ วรรค ๒ นั้น ท่านให้นํามาใช้
    บังคับด้วย แล้วแต่กรณี
Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๘  ถ้าบุคคลรับทรัพย์สินอันมิควรได้ไว้โดยทุจริต
  และได้ทําการดัดแปลงหรือต่อเติมขึ้นในทรัพย์สินนั้น ท่านว่าบุคคล
  เช่นนั้นต้องจัดทําทรัพย์สินนั้นให้คืนคงสภาพเดิมด้วยค่าใช้จ่ายของ
  ตนเองแล้วจึงส่งคืน เว้นแต่เจ้าของทรัพย์สินจะเลือกให้ส่งคืนตาม
  สภาพที่เป็นอยู่ ในกรณีเช่นนี้เจ้าของจะใช้ราคาค่าทําดัดแปลงหรือต่อ
  เติม หรือใช้เงินจํานวนหนึ่งเป็นราคาทรัพย์สินเท่าที่เพิ่มขึ้นนั้นก็ได้
  แล้วแต่จะเลือก
         ถ้าในเวลาที่จะต้องคืนทรัพย์นั้นเป็นพ้นวิสัยจะทําให้ทรัพย์สินคืน
  คงสภาพเดิมได้ หรือถ้าทําไปทรัพย์สินนั้นจะบุบสลายไซร้ ท่านว่า
  บุคคลผู้ได้รับไว้จะต้องส่งคืนทรัพย์สินตามสภาพที่เป็นอยู่ และไม่มี
  สิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อราคาทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเพราะการ
  ดัดแปลงหรือต่อเติมนั้นได้


Wednesday, 15 September 2010
คําถาม?



Wednesday, 15 September 2010
อายุความ




Wednesday, 15 September 2010
มาตรา ๔๑๙  ในเรื่องลาภมิควรได้นั้น ท่านห้ามมิให้
  ฟ้องคดีเมื่อพ้นกําหนดปีหนึ่งนับแต่เวลาที่ฝ่ายผู้เสียหายรู้
  ว่าตนมีสิทธิเรียกคืน หรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่เวลาที่สิทธินั้น
  ได้มีขึ้น




Wednesday, 15 September 2010
คําถาม?



Wednesday, 15 September 2010
ครั้งหน้า
                               ๒๗ กันยายน ๒๕๕๓




Wednesday, 15 September 2010
สรุปและประเมินผล



Wednesday, 15 September 2010
คําถาม?



Wednesday, 15 September 2010
Wednesday, 15 September 2010

Weitere ähnliche Inhalte

Andere mochten auch

สรุปการอภิปราย เรื่อง บทบาทของนักกฎหมายในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
สรุปการอภิปราย เรื่อง บทบาทของนักกฎหมายในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสรุปการอภิปราย เรื่อง บทบาทของนักกฎหมายในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
สรุปการอภิปราย เรื่อง บทบาทของนักกฎหมายในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
Chacrit Sitdhiwej
 
2553 la786 week 6 class (15 july 2010) slideshow
2553 la786 week 6 class (15 july 2010) slideshow2553 la786 week 6 class (15 july 2010) slideshow
2553 la786 week 6 class (15 july 2010) slideshow
Chacrit Sitdhiwej
 
2553 la681 class 6 (23 september 2010) slideshow
2553 la681 class 6 (23 september 2010) slideshow2553 la681 class 6 (23 september 2010) slideshow
2553 la681 class 6 (23 september 2010) slideshow
Chacrit Sitdhiwej
 

Andere mochten auch (18)

2553 la783 week 1 class slideshow
2553 la783 week 1 class slideshow2553 la783 week 1 class slideshow
2553 la783 week 1 class slideshow
 
2553 la260 class 12 (20 september 2010) slideshow
2553 la260 class 12 (20 september 2010) slideshow2553 la260 class 12 (20 september 2010) slideshow
2553 la260 class 12 (20 september 2010) slideshow
 
2553 la260 class 8 (23 august 2010) slideshow
2553 la260 class 8 (23 august 2010) slideshow2553 la260 class 8 (23 august 2010) slideshow
2553 la260 class 8 (23 august 2010) slideshow
 
Synthr
SynthrSynthr
Synthr
 
สรุปการอภิปราย เรื่อง บทบาทของนักกฎหมายในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
สรุปการอภิปราย เรื่อง บทบาทของนักกฎหมายในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสรุปการอภิปราย เรื่อง บทบาทของนักกฎหมายในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
สรุปการอภิปราย เรื่อง บทบาทของนักกฎหมายในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
 
Can do statements v1 0
Can do statements v1 0Can do statements v1 0
Can do statements v1 0
 
2553 la786 week 3 class (1 july 2010) slideshow
2553 la786 week 3 class (1 july 2010) slideshow2553 la786 week 3 class (1 july 2010) slideshow
2553 la786 week 3 class (1 july 2010) slideshow
 
ค่าสินไหมทดแทน
ค่าสินไหมทดแทนค่าสินไหมทดแทน
ค่าสินไหมทดแทน
 
2553 la681 class 1 (26 august 2010) slideshow
2553 la681 class 1 (26 august 2010) slideshow2553 la681 class 1 (26 august 2010) slideshow
2553 la681 class 1 (26 august 2010) slideshow
 
02 comprehensible input
02 comprehensible input02 comprehensible input
02 comprehensible input
 
2553 la786 week 6 class (15 july 2010) slideshow
2553 la786 week 6 class (15 july 2010) slideshow2553 la786 week 6 class (15 july 2010) slideshow
2553 la786 week 6 class (15 july 2010) slideshow
 
2553 lx002 week 1 class (15 june 2010)
2553 lx002 week 1 class (15 june 2010)2553 lx002 week 1 class (15 june 2010)
2553 lx002 week 1 class (15 june 2010)
 
03.00.1 survivre la classe de français
03.00.1 survivre la classe de français03.00.1 survivre la classe de français
03.00.1 survivre la classe de français
 
2553 la260 class 10 (6 september 2010) slideshow
2553 la260 class 10 (6 september 2010) slideshow2553 la260 class 10 (6 september 2010) slideshow
2553 la260 class 10 (6 september 2010) slideshow
 
Best first day ever
Best first day everBest first day ever
Best first day ever
 
2553 la201 week 6 class (19 july 2010) slideshow
2553 la201 week 6 class (19 july 2010) slideshow2553 la201 week 6 class (19 july 2010) slideshow
2553 la201 week 6 class (19 july 2010) slideshow
 
2553 la681 class 6 (23 september 2010) slideshow
2553 la681 class 6 (23 september 2010) slideshow2553 la681 class 6 (23 september 2010) slideshow
2553 la681 class 6 (23 september 2010) slideshow
 
Bridges
BridgesBridges
Bridges
 

Mehr von Chacrit Sitdhiwej

Mehr von Chacrit Sitdhiwej (20)

ความรับผิดทางปกครองเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
ความรับผิดทางปกครองเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมความรับผิดทางปกครองเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
ความรับผิดทางปกครองเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
 
หลักการระดับปรมัตถสัจจะมิใช่เรื่องของเสียงข้างมาก
หลักการระดับปรมัตถสัจจะมิใช่เรื่องของเสียงข้างมากหลักการระดับปรมัตถสัจจะมิใช่เรื่องของเสียงข้างมาก
หลักการระดับปรมัตถสัจจะมิใช่เรื่องของเสียงข้างมาก
 
ความรัับผิดเพื่อความเสียหายอันเกิดจากทรัพย์ (๑)
ความรัับผิดเพื่อความเสียหายอันเกิดจากทรัพย์ (๑)ความรัับผิดเพื่อความเสียหายอันเกิดจากทรัพย์ (๑)
ความรัับผิดเพื่อความเสียหายอันเกิดจากทรัพย์ (๑)
 
ความรับผิิิดทางละเมิดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
ความรับผิิิดทางละเมิดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมความรับผิิิดทางละเมิดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
ความรับผิิิดทางละเมิดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
 
ความรับผิิดเพื่อละเมิดของบุคคลอื่น (๒)
ความรับผิิดเพื่อละเมิดของบุคคลอื่น (๒)ความรับผิิดเพื่อละเมิดของบุคคลอื่น (๒)
ความรับผิิดเพื่อละเมิดของบุคคลอื่น (๒)
 
ความรับผิดทางอาญาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
ความรับผิดทางอาญาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมความรับผิดทางอาญาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
ความรับผิดทางอาญาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
 
ความรับผิดเพื่อละเมิดของบุคคลอื่น (๑)
ความรับผิดเพื่อละเมิดของบุคคลอื่น (๑)ความรับผิดเพื่อละเมิดของบุคคลอื่น (๑)
ความรับผิดเพื่อละเมิดของบุคคลอื่น (๑)
 
หมวดหมู่ของกฎหมายสิ่งแวดล้อม
หมวดหมู่ของกฎหมายสิ่งแวดล้อมหมวดหมู่ของกฎหมายสิ่งแวดล้อม
หมวดหมู่ของกฎหมายสิ่งแวดล้อม
 
แนวทางการศึกษา ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับละเมิด ความรับผิดเพื่อละเมิดของตนเอง
แนวทางการศึกษา ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับละเมิด ความรับผิดเพื่อละเมิดของตนเองแนวทางการศึกษา ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับละเมิด ความรับผิดเพื่อละเมิดของตนเอง
แนวทางการศึกษา ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับละเมิด ความรับผิดเพื่อละเมิดของตนเอง
 
The public face
The public faceThe public face
The public face
 
the many faces
the many facesthe many faces
the many faces
 
ทฤษฎีและหลักกฎหมายสิ่งแวดล้อม
ทฤษฎีและหลักกฎหมายสิ่งแวดล้อมทฤษฎีและหลักกฎหมายสิ่งแวดล้อม
ทฤษฎีและหลักกฎหมายสิ่งแวดล้อม
 
หมวดหมู่ของกฎหมาย
หมวดหมู่ของกฎหมายหมวดหมู่ของกฎหมาย
หมวดหมู่ของกฎหมาย
 
การทบทวนวรรณกรรม
การทบทวนวรรณกรรมการทบทวนวรรณกรรม
การทบทวนวรรณกรรม
 
environmental impact assessment (EIA) (2)
environmental impact assessment (EIA) (2)environmental impact assessment (EIA) (2)
environmental impact assessment (EIA) (2)
 
environmental impact assessment (EIA) (1)
environmental impact assessment (EIA) (1)environmental impact assessment (EIA) (1)
environmental impact assessment (EIA) (1)
 
environmental assessment (EA)
environmental assessment (EA)environmental assessment (EA)
environmental assessment (EA)
 
การพัฒนาหัวข้อวิทยานิพนธ์
การพัฒนาหัวข้อวิทยานิพนธ์การพัฒนาหัวข้อวิทยานิพนธ์
การพัฒนาหัวข้อวิทยานิพนธ์
 
บ่อเกิดกฎหมายลาลักษณ์อักษรของไทย
บ่อเกิดกฎหมายลาลักษณ์อักษรของไทยบ่อเกิดกฎหมายลาลักษณ์อักษรของไทย
บ่อเกิดกฎหมายลาลักษณ์อักษรของไทย
 
สังคม รัฐและกฎหมาย สิทธิ หน้าที่และความรับผิด
สังคม รัฐและกฎหมาย สิทธิ หน้าที่และความรับผิดสังคม รัฐและกฎหมาย สิทธิ หน้าที่และความรับผิด
สังคม รัฐและกฎหมาย สิทธิ หน้าที่และความรับผิด
 

2553 week 14 class (20 september 2010) slideshow

  • 1. ครั้งที่ ๑๕ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๓ Wednesday, 15 September 2010
  • 3. นิติกรรม? ละเมิด? ลาภมิควรได้ วิวัฒนาการ ลักษณะ ผล อายุความ Wednesday, 15 September 2010
  • 5. นิติกรรม? ลาภมิควรได้ Wednesday, 15 September 2010
  • 6. นิติกรรม? คล้ายคลึง? ลาภมิควรได้ Wednesday, 15 September 2010
  • 7. นิติกรรม? คล้ายคลึง? แตกต่าง? ลาภมิควรได้ Wednesday, 15 September 2010
  • 8. นิติกรรม? คล้ายคลึง? แตกต่าง? ลาภมิควรได้ คล้ายคลึง? แตกต่าง? ละเมิด? Wednesday, 15 September 2010
  • 11. มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้ สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ ชําระหนี้ด้วย บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย Wednesday, 15 September 2010
  • 12. มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้ สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ ชําระหนี้ด้วย บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย Wednesday, 15 September 2010
  • 13. มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้ สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ ชําระหนี้ด้วย บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย Wednesday, 15 September 2010
  • 14. มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้ สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ ชําระหนี้ด้วย บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย Wednesday, 15 September 2010
  • 15. มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้ สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ ชําระหนี้ด้วย บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย Wednesday, 15 September 2010
  • 16. มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้ สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ ชําระหนี้ด้วย บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย Wednesday, 15 September 2010
  • 17. มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้ สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ ชําระหนี้ด้วย บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย Wednesday, 15 September 2010
  • 18. มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้ สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ ชําระหนี้ด้วย บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย Wednesday, 15 September 2010
  • 19. มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้ สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ ชําระหนี้ด้วย บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย Wednesday, 15 September 2010
  • 20. มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้ สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ ชําระหนี้ด้วย บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย Wednesday, 15 September 2010
  • 21. มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้ สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ ชําระหนี้ด้วย บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย Wednesday, 15 September 2010
  • 22. มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้ สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ ชําระหนี้ด้วย บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย Wednesday, 15 September 2010
  • 23. มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้ สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ ชําระหนี้ด้วย บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย Wednesday, 15 September 2010
  • 24. มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้ สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ ชําระหนี้ด้วย บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย Wednesday, 15 September 2010
  • 28. หนี้ต่อผู้ได้รับทรัพย์ ผล หนี้ต่อเจ้าของทรัพย์ Wednesday, 15 September 2010
  • 30. มาตรา ๔๐๖  บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการ ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วย ประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และ เป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นจําต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา อนึ่งการรับสภาพหนี้ สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อ ชําระหนี้ด้วย บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย Wednesday, 15 September 2010
  • 32. แต่ ... Wednesday, 15 September 2010
  • 33. มาตรา ๔๐๗  บุคคลใดได้กระทําการอันใดตาม อําเภอใจเหมือนหนึ่งว่าเพื่อชําระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มี ความผูกพันที่จะต้องชําระ ท่านว่าบุคคลผู้นั้นหามีสิทธิจะ ได้รับคืนทรัพย์ไม่ Wednesday, 15 September 2010
  • 34. มาตรา ๔๐๗  บุคคลใดได้กระทําการอันใดตาม อําเภอใจเหมือนหนึ่งว่าเพื่อชําระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มี ความผูกพันที่จะต้องชําระ ท่านว่าบุคคลผู้นั้นหามีสิทธิจะ ได้รับคืนทรัพย์ไม่ Wednesday, 15 September 2010
  • 35. มาตรา ๔๐๗  บุคคลใดได้กระทําการอันใดตาม อําเภอใจเหมือนหนึ่งว่าเพื่อชําระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มี ความผูกพันที่จะต้องชําระ ท่านว่าบุคคลผู้นั้นหามีสิทธิจะ ได้รับคืนทรัพย์ไม่ Wednesday, 15 September 2010
  • 36. มาตรา ๔๐๗  บุคคลใดได้กระทําการอันใดตาม อําเภอใจเหมือนหนึ่งว่าเพื่อชําระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มี ความผูกพันที่จะต้องชําระ ท่านว่าบุคคลผู้นั้นหามีสิทธิจะ ได้รับคืนทรัพย์ไม่ Wednesday, 15 September 2010
  • 38. มาตรา ๔๐๘  บุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้ไม่มีสิทธิจะได้ รับคืนทรัพย์ คือ (๑)  บุคคลผู้ชําระหนี้อันมีเงื่อนเวลาบังคับเมื่อก่อนถึง กําหนดเวลานั้น (๒)  บุคคลผู้ชําระหนี้ซึ่งขาดอายุความแล้ว (๓)  บุคคลผู้ชําระหนี้ตามหน้าที่ศีลธรรม หรือตามควร แก่อัธยาศัยในสมาคม Wednesday, 15 September 2010
  • 39. มาตรา ๔๐๘  บุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้ไม่มีสิทธิจะได้ รับคืนทรัพย์ คือ (๑)  บุคคลผู้ชําระหนี้อันมีเงื่อนเวลาบังคับเมื่อก่อนถึง กําหนดเวลานั้น (๒)  บุคคลผู้ชําระหนี้ซึ่งขาดอายุความแล้ว (๓)  บุคคลผู้ชําระหนี้ตามหน้าที่ศีลธรรม หรือตามควร แก่อัธยาศัยในสมาคม Wednesday, 15 September 2010
  • 40. มาตรา ๔๐๘  บุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้ไม่มีสิทธิจะได้ รับคืนทรัพย์ คือ (๑)  บุคคลผู้ชําระหนี้อันมีเงื่อนเวลาบังคับเมื่อก่อนถึง กําหนดเวลานั้น (๒)  บุคคลผู้ชําระหนี้ซึ่งขาดอายุความแล้ว (๓)  บุคคลผู้ชําระหนี้ตามหน้าที่ศีลธรรม หรือตามควร แก่อัธยาศัยในสมาคม Wednesday, 15 September 2010
  • 41. มาตรา ๔๐๘  บุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้ไม่มีสิทธิจะได้ รับคืนทรัพย์ คือ (๑)  บุคคลผู้ชําระหนี้อันมีเงื่อนเวลาบังคับเมื่อก่อนถึง กําหนดเวลานั้น (๒)  บุคคลผู้ชําระหนี้ซึ่งขาดอายุความแล้ว (๓)  บุคคลผู้ชําระหนี้ตามหน้าที่ศีลธรรม หรือตามควร แก่อัธยาศัยในสมาคม Wednesday, 15 September 2010
  • 42. มาตรา ๔๐๘  บุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้ไม่มีสิทธิจะได้ รับคืนทรัพย์ คือ (๑)  บุคคลผู้ชําระหนี้อันมีเงื่อนเวลาบังคับเมื่อก่อนถึง กําหนดเวลานั้น (๒)  บุคคลผู้ชําระหนี้ซึ่งขาดอายุความแล้ว (๓)  บุคคลผู้ชําระหนี้ตามหน้าที่ศีลธรรม หรือตามควร แก่อัธยาศัยในสมาคม Wednesday, 15 September 2010
  • 43. มาตรา ๔๐๘  บุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้ไม่มีสิทธิจะได้ รับคืนทรัพย์ คือ (๑)  บุคคลผู้ชําระหนี้อันมีเงื่อนเวลาบังคับเมื่อก่อนถึง กําหนดเวลานั้น (๒)  บุคคลผู้ชําระหนี้ซึ่งขาดอายุความแล้ว (๓)  บุคคลผู้ชําระหนี้ตามหน้าที่ศีลธรรม หรือตามควร แก่อัธยาศัยในสมาคม Wednesday, 15 September 2010
  • 45. มาตรา ๔๐๙  เมื่อบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งมิได้เป็นลูกหนี้ได้ ชําระหนี้ไปโดยสําคัญผิด เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ผู้ทําการโดย สุจริตได้ทําลาย หรือลบล้างเสียซึ่งเอกสารอันเป็นพยาน หลักฐานแห่งหนี้ก็ดี ยกเลิกหลักประกันเสียก็ดี สิ้นสิทธิไป เพราะขาดอายุความก็ดี ท่านว่าเจ้าหนี้ไม่จําต้องคืนทรัพย์ บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้ ไม่ขัดขวางต่อการ ที่บุคคลผู้ได้ชําระหนี้นั้นจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้และผู้ ค้ําประกัน ถ้าจะพึงมี Wednesday, 15 September 2010
  • 46. มาตรา ๔๐๙  เมื่อบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งมิได้เป็นลูกหนี้ได้ ชําระหนี้ไปโดยสําคัญผิด เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ผู้ทําการโดย สุจริตได้ทําลาย หรือลบล้างเสียซึ่งเอกสารอันเป็นพยาน หลักฐานแห่งหนี้ก็ดี ยกเลิกหลักประกันเสียก็ดี สิ้นสิทธิไป เพราะขาดอายุความก็ดี ท่านว่าเจ้าหนี้ไม่จําต้องคืนทรัพย์ บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้ ไม่ขัดขวางต่อการ ที่บุคคลผู้ได้ชําระหนี้นั้นจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้และผู้ ค้ําประกัน ถ้าจะพึงมี Wednesday, 15 September 2010
  • 47. มาตรา ๔๐๙  เมื่อบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งมิได้เป็นลูกหนี้ได้ ชําระหนี้ไปโดยสําคัญผิด เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ผู้ทําการโดย สุจริตได้ทําลาย หรือลบล้างเสียซึ่งเอกสารอันเป็นพยาน หลักฐานแห่งหนี้ก็ดี ยกเลิกหลักประกันเสียก็ดี สิ้นสิทธิไป เพราะขาดอายุความก็ดี ท่านว่าเจ้าหนี้ไม่จําต้องคืนทรัพย์ บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้ ไม่ขัดขวางต่อการ ที่บุคคลผู้ได้ชําระหนี้นั้นจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้และผู้ ค้ําประกัน ถ้าจะพึงมี Wednesday, 15 September 2010
  • 48. มาตรา ๔๐๙  เมื่อบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งมิได้เป็นลูกหนี้ได้ ชําระหนี้ไปโดยสําคัญผิด เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ผู้ทําการโดย สุจริตได้ทําลาย หรือลบล้างเสียซึ่งเอกสารอันเป็นพยาน หลักฐานแห่งหนี้ก็ดี ยกเลิกหลักประกันเสียก็ดี สิ้นสิทธิไป เพราะขาดอายุความก็ดี ท่านว่าเจ้าหนี้ไม่จําต้องคืนทรัพย์ บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้ ไม่ขัดขวางต่อการ ที่บุคคลผู้ได้ชําระหนี้นั้นจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้และผู้ ค้ําประกัน ถ้าจะพึงมี Wednesday, 15 September 2010
  • 49. มาตรา ๔๐๙  เมื่อบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งมิได้เป็นลูกหนี้ได้ ชําระหนี้ไปโดยสําคัญผิด เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ผู้ทําการโดย สุจริตได้ทําลาย หรือลบล้างเสียซึ่งเอกสารอันเป็นพยาน หลักฐานแห่งหนี้ก็ดี ยกเลิกหลักประกันเสียก็ดี สิ้นสิทธิไป เพราะขาดอายุความก็ดี ท่านว่าเจ้าหนี้ไม่จําต้องคืนทรัพย์ บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้ ไม่ขัดขวางต่อการ ที่บุคคลผู้ได้ชําระหนี้นั้นจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้และผู้ ค้ําประกัน ถ้าจะพึงมี Wednesday, 15 September 2010
  • 51. มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้ มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน ทรัพย์ Wednesday, 15 September 2010
  • 52. มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้ มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน ทรัพย์ Wednesday, 15 September 2010
  • 53. มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้ มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน ทรัพย์ Wednesday, 15 September 2010
  • 54. มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้ มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน ทรัพย์ Wednesday, 15 September 2010
  • 55. มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้ มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน ทรัพย์ Wednesday, 15 September 2010
  • 56. มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้ มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน ทรัพย์ Wednesday, 15 September 2010
  • 57. มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้ มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน ทรัพย์ Wednesday, 15 September 2010
  • 58. มาตรา ๔๑๐  บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อ ผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้นเช่นนั้น ถ้าและบุคคลนั้นได้รู้ มาแต่แรกว่าการที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้า ป้องปัดขัดขวางเสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืน ความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืน ทรัพย์ Wednesday, 15 September 2010
  • 60. มาตรา ๔๑๑  บุคคลใดได้กระทําการเพื่อชําระหนี้ เป็นการอันฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี ท่านว่าบุคคลนั้นหาอาจจะเรียกร้องคืนทรัพย์ได้ไม่ Wednesday, 15 September 2010
  • 61. มาตรา ๔๑๑  บุคคลใดได้กระทําการเพื่อชําระหนี้ เป็นการอันฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี ท่านว่าบุคคลนั้นหาอาจจะเรียกร้องคืนทรัพย์ได้ไม่ Wednesday, 15 September 2010
  • 62. มาตรา ๔๑๑  บุคคลใดได้กระทําการเพื่อชําระหนี้ เป็นการอันฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี ท่านว่าบุคคลนั้นหาอาจจะเรียกร้องคืนทรัพย์ได้ไม่ Wednesday, 15 September 2010
  • 63. มาตรา ๔๑๑  บุคคลใดได้กระทําการเพื่อชําระหนี้ เป็นการอันฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี ท่านว่าบุคคลนั้นหาอาจจะเรียกร้องคืนทรัพย์ได้ไม่ Wednesday, 15 September 2010
  • 65. มาตรา ๔๑๒ ถ้าทรัพย์สินซึ่งได้รับไว้เป็นลาภมิควรได้ นั้นเป็นเงินจํานวนหนึ่งท่านว่าต้องคืนเต็มจํานวนนั้น เว้นแต่ เมื่อบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต จึงต้องคืนลาภมิควรได้เพียง ส่วนที่ยังมีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืน Wednesday, 15 September 2010
  • 66. มาตรา ๔๑๒ ถ้าทรัพย์สินซึ่งได้รับไว้เป็นลาภมิควรได้ นั้นเป็นเงินจํานวนหนึ่งท่านว่าต้องคืนเต็มจํานวนนั้น เว้นแต่ เมื่อบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต จึงต้องคืนลาภมิควรได้เพียง ส่วนที่ยังมีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืน Wednesday, 15 September 2010
  • 67. มาตรา ๔๑๒ ถ้าทรัพย์สินซึ่งได้รับไว้เป็นลาภมิควรได้ นั้นเป็นเงินจํานวนหนึ่งท่านว่าต้องคืนเต็มจํานวนนั้น เว้นแต่ เมื่อบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต จึงต้องคืนลาภมิควรได้เพียง ส่วนที่ยังมีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืน Wednesday, 15 September 2010
  • 68. มาตรา ๔๑๒ ถ้าทรัพย์สินซึ่งได้รับไว้เป็นลาภมิควรได้ นั้นเป็นเงินจํานวนหนึ่งท่านว่าต้องคืนเต็มจํานวนนั้น เว้นแต่ เมื่อบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต จึงต้องคืนลาภมิควรได้เพียง ส่วนที่ยังมีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืน Wednesday, 15 September 2010
  • 70. มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่ และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้ กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง Wednesday, 15 September 2010
  • 71. มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่ และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้ กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง Wednesday, 15 September 2010
  • 72. มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่ และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้ กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง Wednesday, 15 September 2010
  • 73. มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่ และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้ กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง Wednesday, 15 September 2010
  • 74. มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่ และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้ กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง Wednesday, 15 September 2010
  • 75. มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่ และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้ กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง Wednesday, 15 September 2010
  • 76. มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่ และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้ กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง Wednesday, 15 September 2010
  • 77. มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่ และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้ กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง Wednesday, 15 September 2010
  • 78. มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่ และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้ กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง Wednesday, 15 September 2010
  • 79. มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่ และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้ กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง Wednesday, 15 September 2010
  • 80. มาตรา ๔๑๓  เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่าง อื่นนอกจากจํานวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่ และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบ สลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการ สูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้อง รับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบสลายนั้นเต็มภูมิ แม้ กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ทรัพย์สินนั้นก็คงต้อง สูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง Wednesday, 15 September 2010
  • 82. มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน ขณะเมื่อเรียกคืน ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้ ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน Wednesday, 15 September 2010
  • 83. มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน ขณะเมื่อเรียกคืน ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้ ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน Wednesday, 15 September 2010
  • 84. มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน ขณะเมื่อเรียกคืน ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้ ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน Wednesday, 15 September 2010
  • 85. มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน ขณะเมื่อเรียกคืน ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้ ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน Wednesday, 15 September 2010
  • 86. มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน ขณะเมื่อเรียกคืน ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้ ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน Wednesday, 15 September 2010
  • 87. มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน ขณะเมื่อเรียกคืน ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้ ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน Wednesday, 15 September 2010
  • 88. มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน ขณะเมื่อเรียกคืน ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้ ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน Wednesday, 15 September 2010
  • 89. มาตรา ๔๑๔  ถ้าการคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะ สภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับไว้นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุ อย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่า บุคคลเช่นนั้นจําต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ใน ขณะเมื่อเรียกคืน ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้ ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน Wednesday, 15 September 2010
  • 91. มาตรา ๔๑๕  บุคคลผู้ได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ย่อม จะได้ดอกผลอันเกิดแต่ทรัพย์สินนั้นตลอดเวลาที่ยังคง สุจริตอยู่ ถ้าผู้ที่ได้รับไว้จะต้องคืนทรัพย์สินนั้นเมื่อใด ให้ถือว่าผู้ นั้นตกอยู่ในฐานะทุจริตจําเดิมแต่เวลาที่เรียกคืนนั้น Wednesday, 15 September 2010
  • 92. มาตรา ๔๑๕  บุคคลผู้ได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ย่อม จะได้ดอกผลอันเกิดแต่ทรัพย์สินนั้นตลอดเวลาที่ยังคง สุจริตอยู่ ถ้าผู้ที่ได้รับไว้จะต้องคืนทรัพย์สินนั้นเมื่อใด ให้ถือว่าผู้ นั้นตกอยู่ในฐานะทุจริตจําเดิมแต่เวลาที่เรียกคืนนั้น Wednesday, 15 September 2010
  • 93. มาตรา ๔๑๕  บุคคลผู้ได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ย่อม จะได้ดอกผลอันเกิดแต่ทรัพย์สินนั้นตลอดเวลาที่ยังคง สุจริตอยู่ ถ้าผู้ที่ได้รับไว้จะต้องคืนทรัพย์สินนั้นเมื่อใด ให้ถือว่าผู้ นั้นตกอยู่ในฐานะทุจริตจําเดิมแต่เวลาที่เรียกคืนนั้น Wednesday, 15 September 2010
  • 94. มาตรา ๔๑๕  บุคคลผู้ได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ย่อม จะได้ดอกผลอันเกิดแต่ทรัพย์สินนั้นตลอดเวลาที่ยังคง สุจริตอยู่ ถ้าผู้ที่ได้รับไว้จะต้องคืนทรัพย์สินนั้นเมื่อใด ให้ถือว่าผู้ นั้นตกอยู่ในฐานะทุจริตจําเดิมแต่เวลาที่เรียกคืนนั้น Wednesday, 15 September 2010
  • 95. มาตรา ๔๑๕  บุคคลผู้ได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ย่อม จะได้ดอกผลอันเกิดแต่ทรัพย์สินนั้นตลอดเวลาที่ยังคง สุจริตอยู่ ถ้าผู้ที่ได้รับไว้จะต้องคืนทรัพย์สินนั้นเมื่อใด ให้ถือว่าผู้ นั้นตกอยู่ในฐานะทุจริตจําเดิมแต่เวลาที่เรียกคืนนั้น Wednesday, 15 September 2010
  • 96. มาตรา ๔๑๕  บุคคลผู้ได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ย่อม จะได้ดอกผลอันเกิดแต่ทรัพย์สินนั้นตลอดเวลาที่ยังคง สุจริตอยู่ ถ้าผู้ที่ได้รับไว้จะต้องคืนทรัพย์สินนั้นเมื่อใด ให้ถือว่าผู้ นั้นตกอยู่ในฐานะทุจริตจําเดิมแต่เวลาที่เรียกคืนนั้น Wednesday, 15 September 2010
  • 98. มาตรา ๔๑๘  ถ้าบุคคลรับทรัพย์สินอันมิควรได้ไว้โดยทุจริต และได้ทําการดัดแปลงหรือต่อเติมขึ้นในทรัพย์สินนั้น ท่านว่าบุคคล เช่นนั้นต้องจัดทําทรัพย์สินนั้นให้คืนคงสภาพเดิมด้วยค่าใช้จ่ายของ ตนเองแล้วจึงส่งคืน เว้นแต่เจ้าของทรัพย์สินจะเลือกให้ส่งคืนตาม สภาพที่เป็นอยู่ ในกรณีเช่นนี้เจ้าของจะใช้ราคาค่าทําดัดแปลงหรือต่อ เติม หรือใช้เงินจํานวนหนึ่งเป็นราคาทรัพย์สินเท่าที่เพิ่มขึ้นนั้นก็ได้ แล้วแต่จะเลือก ถ้าในเวลาที่จะต้องคืนทรัพย์นั้นเป็นพ้นวิสัยจะทําให้ทรัพย์สินคืน คงสภาพเดิมได้ หรือถ้าทําไปทรัพย์สินนั้นจะบุบสลายไซร้ ท่านว่า บุคคลผู้ได้รับไว้จะต้องส่งคืนทรัพย์สินตามสภาพที่เป็นอยู่ และไม่มี สิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อราคาทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเพราะการ ดัดแปลงหรือต่อเติมนั้นได้ Wednesday, 15 September 2010
  • 101. มาตรา ๔๑๖  ค่าใช้จ่ายทั้งหลายอันควรแก่การเพื่อรักษาบํารุง หรือซ่อมแซมทรัพย์สินนั้น ท่านว่าต้องชดใช้แก่บุคคลผู้คืนทรัพย์สิน นั้นเต็มจํานวน แต่บุคคลเช่นว่านี้จะเรียกร้องให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายตามธรรมดา เพื่อบํารุงซ่อมแซมทรัพย์สินนั้น หรือค่าภาระติดพันที่ต้องเสียไปใน ระหว่างที่ตนคงเก็บดอกผลอยู่นั้นหาได้ไม่   มาตรา ๔๑๗  ในส่วนค่าใช้จ่ายอย่างอื่นนอกจากที่กล่าวมาใน วรรคต้นแห่งมาตราก่อนนั้น บุคคลผู้คืนทรัพย์สินจะเรียกให้ชดใช้ได้ แต่เฉพาะที่เสียไปในระหว่างที่ตนทําการโดยสุจริต และเมื่อ ทรัพย์สินนั้นได้มีราคาเพิ่มสูงขึ้นเพราะค่าใช้จ่ายนั้นในเวลาที่คืน และจะเรียกได้ก็แต่เพียงเท่าราคาที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น อนึ่ง บทบัญญัติแห่งมาตรา ๔๑๕ วรรค ๒ นั้น ท่านให้นํามาใช้ บังคับด้วย แล้วแต่กรณี Wednesday, 15 September 2010
  • 102. มาตรา ๔๑๘  ถ้าบุคคลรับทรัพย์สินอันมิควรได้ไว้โดยทุจริต และได้ทําการดัดแปลงหรือต่อเติมขึ้นในทรัพย์สินนั้น ท่านว่าบุคคล เช่นนั้นต้องจัดทําทรัพย์สินนั้นให้คืนคงสภาพเดิมด้วยค่าใช้จ่ายของ ตนเองแล้วจึงส่งคืน เว้นแต่เจ้าของทรัพย์สินจะเลือกให้ส่งคืนตาม สภาพที่เป็นอยู่ ในกรณีเช่นนี้เจ้าของจะใช้ราคาค่าทําดัดแปลงหรือต่อ เติม หรือใช้เงินจํานวนหนึ่งเป็นราคาทรัพย์สินเท่าที่เพิ่มขึ้นนั้นก็ได้ แล้วแต่จะเลือก ถ้าในเวลาที่จะต้องคืนทรัพย์นั้นเป็นพ้นวิสัยจะทําให้ทรัพย์สินคืน คงสภาพเดิมได้ หรือถ้าทําไปทรัพย์สินนั้นจะบุบสลายไซร้ ท่านว่า บุคคลผู้ได้รับไว้จะต้องส่งคืนทรัพย์สินตามสภาพที่เป็นอยู่ และไม่มี สิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อราคาทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเพราะการ ดัดแปลงหรือต่อเติมนั้นได้ Wednesday, 15 September 2010
  • 105. มาตรา ๔๑๙  ในเรื่องลาภมิควรได้นั้น ท่านห้ามมิให้ ฟ้องคดีเมื่อพ้นกําหนดปีหนึ่งนับแต่เวลาที่ฝ่ายผู้เสียหายรู้ ว่าตนมีสิทธิเรียกคืน หรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่เวลาที่สิทธินั้น ได้มีขึ้น Wednesday, 15 September 2010
  • 107. ครั้งหน้า ๒๗ กันยายน ๒๕๕๓ Wednesday, 15 September 2010