Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie ครั้งที่ 4 (13)
ครั้งที่ 4
- 3. ประเภทของกฎหมาย
• กฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา
กฎหมายแพ่ง คือ กฎหมายที่กาหนดสิทธิและหน้าที่ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลต่อ
บุคคล เช่น ป.แพ่งและพาณิชย์
กฎหมายอาญา คือ กฎหมายที่กาหนดว่าการกระทาใดเป็นความผิดและกาหนดโทษ
ไว้ เช่น ป.อาญา
• กฎหมายสารบัญญัติ กฎหมายวิธีสบัญญัติ
กฎหมายสารบัญญัติ คือ กฎหมายที่กาหนดเนื้อหาของสิทธิและหน้าที่ ตลอดจนข้อ
ห้ามต่างๆ เช่น ป.อาญา ป.แพ่งและพาณิชย์
กฎหมายวิธีสบัญญัติ คือ กฎหมายที่บัญญัติถึงวิธีการ ขั้นตอน และกระบวนการใน
การพิจารณาคดี เช่น ป.วิธีพิจารณาความอาญา ป.วิธีพิจารณาความแพ่ง
- 4. ประเภทของกฎหมาย
• กฎหมายเอกชน กฎหมายมหาชน
กฎหมายเอกชน คือ กฎหมายที่กาหนดความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนกับเอกชน ใน
ฐานะที่ทั้งสองฝ่ายเท่าเทียมกัน เช่น ป.แพ่งและพาณิชย์
กฎหมายมหาชน คือ กฎหมายที่กาหนดความสัมพันธ์ระหว่างรัฐหรือหน่วยงานของรัฐ
ด้วยกันเอง หรือรัฐหรือหน่วยงานของรัฐฝ่ายหนึ่งกับเอกชนฝ่ายหนึ่ง ในฐานะที่รัฐ
มีอานาจเหนือกว่า เช่น รัฐธรรมนูญ ป.อาญา กฎหมายปกครอง กฎหมายจราจร
กฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
• กฎหมายภายในประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศ
กฎหมายภายในประเทศ คือ กฎหมายที่ใช้บังคับในประเทศนั้นๆ ออกโดยผู้มีอานาจ
ในประเทศ เช่น พระราชบัญญัติต่างๆ
กฎหมายระหว่างประเทศ คือ กฎหมายที่บัญญัติโดยองค์กรระหว่างประเทศ และใช้
บังคับระหว่างประเทศด้วยกัน เช่น สนธิสัญญาเบาริ่ง
- 6. 1. กฎหมายรัฐธรรมนูญ
คือ กฎหมายสูงสุดในการจัดระเบียบการปกครองประเทศ ซึ่งจะวางระเบียบแห่งอานาจ
สูงสุดของรัฐหรืออานาจอธิปไตย ได้แก่ อานาจนิติบัญญัติ อานาจบริหาร และอานาจตุลาการ
ตลอดจนการกาหนดสิทธิเสรีภาพและหน้าที่ของชนชาวไทย
รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายแม่บทที่มีศักดิ์สูงที่สุด กฎหมายอื่นๆที่ออกมาจะต้องออกให้
สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ กฎหมายใดที่ขัดกับรัฐธรรมนูญจะก็จะไม่มีผลใช้บังคับได้
- 7. พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)
คือ กฎหมายที่พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นโดยคาแนะนาและยินยอมของรัฐสภา เป็นกฎหมาย
หลักที่สาคัญที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน พระราชบัญญัติเป็นกฎหมายที่มีลาดับชั้นรองลงมาจากกฎหมาย
รัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติที่สาคัญที่รัฐสภาตราออกมาใช้บังคับ เช่น พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครอง
สัตว์ป่า พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2535 เป็นต้น
-พระราชบัญญัติ เป็นกฎหมายเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง คือเป็นกฎหมายที่ออกมาใช้เพื่อ
วัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใด เช่น พระราชบัญญัติล้มละลาย ก็จะเป็นเรื่องเฉพาะเกี่ยวกับการล้มละลาย
หรือพระราชบัญญัติสัญชาติ ก็จะเกี่ยวข้องเฉพาะกับเรื่องสัญชาติของบุคคล ฯลฯ ซึ่งพระราชบัญญัตินี้จะมี
ส่วนเกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารหรือก็คือรัฐบาลค่อนข้างมาก เพราะฝ่ายบริหารจะเป็นผู้กาหนดนโยบายในการ
บริหารประเทศ และเสนอกฎหมายเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนโยบายนั้นๆให้สภานิติบัญญัติทาการออก
นั่นเองและกฎหมายที่ออกมานั้นแม้จะมีการเปลี่ยนฝ่ายบริหารหรือฝ่ายรัฐบาลแล้ว ก็จะมีผลใช้บังคับอยู่
จนกว่ากฎหมายนั้นจะถูกยกเลิกหรือมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง
- 9. พระราชกาหนด (พ.ร.ก.)
คือกฎหมายที่พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นตามคาแนะนาของคณะรัฐมนตรี การตราพระราช
กาหนดให้กระทาได้เฉพาะเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจาเป็นเร่งด่วนอันมิอาจ
หลีกเลี่ยงได้ และต้องเป็นกรณีเพื่อจะรักษาความปลอดภัยของประเทศหรือความปลอดภัยสาธารณะ หรือ
ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือป้ องปัดภัยพิบัติสาธารณะ หรือเป็นพระราชกาหนดเกี่ยวด้วย
การภาษีอากรหรือเงินตราซึ่งจะต้องได้รับการพิจารณาโดยด่วนและลับเพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน
และเมื่อได้ประกาศใช้แล้วต้องเสนอพระราชกาหนดนั้นต่อสภาทันทีถ้ารัฐอนุมัติก็มีผลใช้บังคับเป็น
พระราชบัญญัติต่อไป ถ้ารัฐสภาไม่อนุมัติก็ตกไป แต่ถ้าไม่กระทบกระเทือนกิจการที่ได้เป็นไปในระหว่างที่ใช้
พระราชกาหนดนั้น การประกาศใช้พระราชกาหนดให้ประกาศในราช-กิจจานุเบกษา โดยมีนายกรัฐมนตรี
เป็นผู้ลงนามสนองพระบรมราชโองการ
ในภายหลังพระราชกาหนดนั้นก็อาจกลายเป็นพระราชบัญญัติซึ่งจะมีผลบังคับเป็นการถาวรได้ ถ้า
สภานิติบัญญัติให้การอนุมัติ แต่ถ้าสภาไม่อนุมัติพระราชกาหนดนั้นก็ตกไป แต่จะไม่กระทบกระเทือนถึง
กิจการที่ได้กระทาไปในระหว่างใช้พระราชกาหนดนั้น
- 10. พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ)
คือ กฎหมายที่พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นตามคาแนะนาของคณะรัฐมนตรี พระราชกฤษฎีกาจะ
ออกได้ต่อเมื่อพระราชบัญญัติซึ่งถือเป็นกฎหมายแม่บทให้อานาจไว้ พระราชกฤษฎีกาจึงเป็นเสมือน
กฎหมายที่ไม่สามารถจะออกมาให้ขัดหรือแย้งกับกฎหมายแม่บท และถ้ากฎหมายแม่บทถูกยกเลิก พระ
ราชกฤษฎีกานั้นก็ถือว่าถูกยกเลิกไปด้วย การประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ซึ่งจะออกได้เฉพาะในกรณีต่อไปนี้คือ
• รัฐธรรมนูญกาหนดให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาในกิจการอันสาคัญที่เกี่ยวกับฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติ
บัญญัติ เช่น พระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร ฯลฯ
• โดยอาศัยอานาจตามกฎหมายแม่บทซึ่งก็คือ พระราชบัญญัติ หรือ พระราชกาหนด คือจะต้องมี
พระราชบัญญัติหรือพระราชกาหนดให้อานาจในการออกไว้ เช่น พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากร
พ.ศ. 2528 กาหนดว่าหากจะเปิดศาลภาษีอากรจังหวัดเมื่อใด ต้องประกาศโดยพระราชกฤษฎีกา ฯลฯ
ด้วยการที่พระราชกฤษฎีกาเป็นกฎหมายที่มีศักดิ์ต่ากว่าพระราชบัญญัติและพระราชกาหนด ดังนั้นจะ
ออกมาขัดกับพระราชบัญญัติหรือพระราชกาหนดซึ่งเป็นกฎหมายแม่บทนั้นไม่ได้
• กรณีที่จาเป็นอื่นๆในเรื่องใดก็ได้ แต่ต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย
- 11. กฎกระทรวง
กฎกระทรวง เป็นกฎหมายที่รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงเป็นผู้ออก โดยอาศัยอานาจจาก
กฎหมายแม่บทซึ่งก็คือพระราชบัญญัติหรือพระราชกาหนดฉบับใดฉบับหนึ่ง เพื่อดาเนินการให้
เป็นไปตามกฎหมายนั้นๆ พระราชบัญญัติหรือพระราชกาหนดจะกาหนดกฎเกณฑ์กว้างๆเอาไว้ ส่วน
กฎกระทรวงก็จะมากาหนดรายละเอียดอีกชั้นหนึ่ง เช่น ในพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทาง
ปกครอง พ.ศ. 2539 ได้กาหนดว่า ในกรณีที่ใช้มาตรการบังคับทางปกครองโดยการยึดหรืออายัด
ทรัพย์สินของบุคคลใดเพื่อขายทอดตลาด ผู้ที่มีอานาจสั่งให้ยึด อายัดหรือขายทอดตลาดทรัพย์สิน
นั้น ให้เป็นไปตามที่กาหนดไว้ในกฎกระทรวง เราก็ต้องไปศึกษาในกฎกระทรวงอีกชั้นหนึ่งว่าผู้ที่มี
อานาจสั่งนั้นคือใครบ้าง ฯลฯ
กฎกระทรวงจึงเป็นกฎหมายบริวารที่กาหนดรายละเอียดของกฎหมายแม่บทอีกต่อหนึ่ง
กฎกระทรวงจะออกมาขัดแย้งกับกฎหมายแม่บทไม่ได้และถ้ากฎหมายแม่บทถูกยกเลิก กฎกระทรวง
นั้นถือว่าถูกยกเลิกไปด้วย คณะรัฐมนตรีเป็นอนุมัติกฎกระทรวง การประกาศใช้กฎกระทรวงให้
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา