SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 6
Downloaden Sie, um offline zu lesen
คัมภีร์มหาโชตรัตน์
กล่าวถึงโรคโลหิตระดูสตรีปกติโทษและระดูทุจริตโทษ ซึ่งว่าด้วยปฐมสัตว์ มนุษย์อันเกิดมาเป็นรูปสตรีภาพ ต้ัง
แต่คลอดจากครรภ์มารดา มีกายแตกต่างจากชาย 4 ประการ
1. ต่อมโลหิตระดู 2. ถันประโยธร 3. ที่ประเวณี 4. จริตกิริยา
โลหิตปกติโทษ 5 ประการ
เกิดแต่ อาการ Key
เส้นเอ็น มื่อใกล้จะมีระดูมานั้น ให้ดุจเป็นไข้จับ ให้สะบัดร้อนสะบัดหนาว ปวดศรีษะมาก
ครั้นพอมีระดูออกมาแล้ว อาการนั้นก็หายไป (ใช้ยาจักรพรดิ์ หรือ มหิศรนิมิตร)
ปวดหัว
ขั้วดี เมื่อใกล้จะมีระดูมานั้น ให้มีอาการเป็นไข้ ให้คลั่งไคล้ ละเมอเพ้อพก เจรจาด้วยผี
ให้สะดุ้งหวาดไป ครั้นมีระดูออกมาแล้ว อาการนั้นก็หายไป (ใช้ยาประทุมมาเกสรา)
ไข้ ละเมอเพ้อ
หัวใจ เมื่อใกล้จะมีระดูมานั้น มีอาการให้คลั่งเพ้อ เจรจาด้วยผี ให้นอนสะดุ้ง หวาดผวา
มักขึ้งโกรธไปต่างๆ ครั้นมีระดูออกมาแล้ว อาการนั้นก็หายไป (ใช้ยาเกสราทิคุณ)
โกรธง่าย
ผิวเนื้อ เมื่อใกล้จะมีระดูมานั้น ให้มีอาการนอนร้อนผิวเนื้อผิวหนังและแดงดังผลตาลึงสุก
บางทีให้ผุดขึ้นท้ังตัว ดังยอดหัดและฟกเป็นดังไข้รากสาด เป็นอยู่ 2 วัน 3 วัน ครั้น
มีระดูมาแล้วก็หาย (ใช้ยาเทพรังสฤษดิ์)
ร้อนเนื้อ แดง
โลหิตปกติโทษทั้ง 5 ประการนี้ อธิบายไว้พอเป็นที่สังเกตของแพทย์ เพราะโลหิตปกติโทษจะมีอยู่แต่
เท่านั้นหามิได้ ย่อมมีอยู่ทั่วไปทั้งอาการ 32 ซึ่งชุ่มแช่อยู่ทั่วไปทั้งตัว ด้วยลม 6 จาพวก และลมทั้งหลายพัดให้
เดินไปมาระหว่างเส้นเอ็น เนื้อ หนัง และอวัยวะทั้งหลายในร่างกาย เป็นธรรมดาของสัตว์โลก เตโชธาตุทั้ง 4
นั้น ทาหน้าที่ให้โลหิตในกายอุ่นแล้ว ถ้าเตโชธาตุ กล้าหรือร้อนเกินปกติ โลหิตก็ร้อนก็ทนไม่ได้ ก็จะผุดออกมา
นอกผิวหนัง แพทย์จึงสมมติว่าเป็นเม็ดกาเดา รากสาดปานดา ปานแดงและกาฬทั้งปวง นั้นคือเหตุของโลหิต
นั่นเอง
จึงกล่าวได้ว่า ดี กาเดา ก็คือเตโช ส่วนโลหิตเป็นสมุฏฐาน อันว่าโลหิตนั้นเป็นธรรมชาติของสตรี ผู้ใดเคยมีระดู
มานั้น หากลมกองใดเคยกาเริบ ลมกองนั้นจะกาเริบทุกเดือนทุกครั้ง จึงเรียกว่า “ปกติโลหิต” หรือโลหิต
ประจาเดือน
แต่ถ้าถึงกาหนดระดูมีมา อาการแปลกไปอย่างอื่น และลมกองที่เคยพัดประจาเกิดไม่พัด ลมกองอื่นจึงพัด
เข้าแทน อาการจึง แปลกไปจากทุกเดือนอย่างนี้เรียกว่า “โลหิตทุจริตโทษ”
โลหิตทุจริตโทษ 5 ประการ
โลหิต อาการ Key
ร้าง เมื่อจะเกิด โลหิตระดูมิได้มาตามปกติ บางทีดาและมีกลิ่นเหม็นเน่า บางทีจาง
ดุจน้าชานหมาก บางทีให้ใสดุจน้าคาวปลา บางทีขาวดุจดังน้าซาวข้าวกระทา
ให้เจ็บปวด เป็นไปต่างๆครั้นเป็นนานเข้ามักกลายเป็น มานโลหิต
ดาเหม็นเน่า
คลอดบุตร เมื่อจะบังเกิด ทาให้โลหิตคั่งเข้าเดินไม่สะดวก แล้วตั้งเป็นลิ่มเป็นก้อน ให้
แดก ขึ้นแดกลง บางทีให้คลั่ง ขบฟัน ตาเหลือกตาช้อน ขอบตาเขียวและริม
ฝีปาก เขียว เล็บมือเล็บเท้าเขียว สมมติว่าปีศาจเข้าสิง
เล็บตา ปาก
เขียว
ต้องพิฆาต อันตกต้นไม้หรือถูกทุบถองโบยตี ถ้าเป็นดังกล่าวท่านว่าไข้นั้นถึงพิฆาต ติดกระดูก
เพราะ โลหิตที่ถูกกระทานั้นกระทบซ้าระคนกับโลหิตระดูเกิดแห้งกรังเข้าติด
กระดูกสัน หลังอยู่ จึงได้ชื่อว่าโลหิตแห้งกรัง เพราะอาศัยโลหิตพิการ
เน่า อาศัยโลหิตระดูร้าง โลหิตคลอดบุตร โลหิตต้องพิฆาต และโลหิตหมกช้าเจือ
มา เน่าอยู่จึงเรียกว่า โลหิตเน่า เป็นใหญ่กว่าลมทั้งหลาย เมื่อจะให้โทษโลหิต
เน่ามี พิษกล้าแล่นไปทุกขุมขน บางทีแล่นเข้าจับหัวใจ บางทีแล่นออกผิวเนื้อ
ผุดเป็น วงดา แดง ขาว เขียว ก็มี
ผุดเป็นวง ดา
แดง ขาว
เขียว
ตกหมกช้า ก็อาศัยโลหิตเน่า เพราะเหตุแพทย์ใช้ยาประคบ ยาผาย ยาขับโลหิตไม่ถึง
กาลัง หมายถึง ให้ยาน้อยกว่ากาลังเลือด และโลหิตนั้นเกิดระส่าระส่ายออก
ไม่หมด สิ้นเชิง จึงตกหมกช้าอยู่ ได้ชื่อว่า โลหิตตกหมกช้า บางทีตกช้าอยู่ใน
เส้นเอ็นหัว เหน่า เมื่อจะให้โทษก็คลุมกันเข้า กระทาให้เป็นฝีมดลูก ฝี
ยอดคว่า ฝีเอ็น ฝี อัคนีสันต์ ฝีปลวก และมานโลหิต
เพราะยาไม่
ถึง
โลหิตเกิดจากกองธาตุ 4 ประการ
เกิด
แต่
อาการ Key
ปถวี ให้เมื่อยทุกข้อทุกลาทุกกระดูก ระดูเดินหยดย้อยมิได้สะดวก บางทีเป็นมันเป็น เมือก
บางทีเป็นปะระเมหะระคนออกมากับโลหิตเหนียวดุจยางมะตูม ทาให้ ร้อนแสบ จุกเสียด
ให้ท้องขึ้นเป็นกาลัง ระดูนั้นมีสีดา แดง ขาว เหลือง ระคน กันออกมา มีกลิ่นคาวยื่งนักให้
ปวดในอุทรเป็นกาลัง
เมื่อยทุกข้อ
ทุก กระดูก
เหนียวดุจ
ยางมะตูม
หยดย้อย
เหม็นคาว
อาโป กระทาให้ลงไปวันละ 5-6 ครั้ง ระดูนั้นเดินออกมา เป็นเมือกเป็นมัน เหม็นคาว ยิ่งนัก
โลหิตนั้นใส บางทีเป็นเปลวดุจปะระเมหะและไข่ข่าว เดินไม่สะดวก ให้ ปวดท้องมาก
บริโภคอาหารไม่ได้
ลงไปวันละ 5-
6 ครั้ง ไข่ขาว
วาโย ทาให้ท้องขึ้นท้องพอง ให้จุกเสียดเป็นกาลัง ให้ตัวร้อน ให้จับเป็นเวลา ให้คลื่นเหียน
อาเจียนแต่ลมเปล่า ระดูมีมาไม่สะดวก มีสีดุจน้าดอกคาอันจาง ให้ปวดเป็นกาลัง
เตโช ให้ตึงไปทั่วตัว แล้วระดูจึงมา ให้ร้อนทางช่องคลอดดุจถูกพริก โลหิตที่ออกมา นั้นเป็น
ฟองมีสีเหลืองน้าฝาง อันบุคคลเอาน้าส้มมะนาวบีบลง สีนั้นก็เหลืองไป กระทาให้ร้อนผิว
เนื้อมาก ให้อาเจียน ให้เหม็นอาหาร บริโภคอาหารไม่ได้ สะบัดร้อนสะบัดหนาว
ร้อนช่อง
คลอดดุจถูก
พริกตึงทั้งตัว
หญิงมีระดูแล้วเกิดแห้งไปเพราะเหตุ 5 ประการ
1. มีกามระคะจัด มีอานาจแห่งไฟราคะเผาโลหิตให้แห้งไป
2. บริโภคอาหารเผ็ดร้อนเกินไป เป็นเหตุให้ระดูพิการ
3. มีโทสะเป็นนิจ หรือ ทางานหนักเกินไป เป็นเหตุให้ระดูนั้นแห้งไป
4. เป็นด้วยกรรมพันธุ์ติดต่อมาจากบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ของหญิงนั้น
5. มีโมหะอยู่เป็นนิจ หรือออกกาลังกายมากเกินไป เป็นเหตุให้โลหิตนั้นแห้งไป
การรักษาหญิงระดูแห้ง
จากการศึกษาคัมภีร์มหาโชตรัตน์ฉบับต่างๆ พบว่าขั้นตอนการใช้ยารักษาค่อนข้างสับสนไม่สอดคล้องกัน แต่
พอสรุปขั้นตอน การรักษาจากคัมภีร์มหาโชตรัตน์ได้ ดังนี้
เล่มที่ 1
การรักษาที่ 1 ขั้นตอนการรักษา
1. หญิงอายุ 14-15 ปี แล้ว
ยังไม่มีระดู หรือ
2. มีระดูแล้วกลับแห้งไป
1. ประจุโลหิต
2. บารุงไฟธาตุ
3. บารุงโลหิต
การรักษาที่ 2 ขั้นตอนการรักษา
1. หญิงอายุ 14-15 ปี แล้ว
ยังไม่มีระดู หรือ
2. มีระดูแล้วกลับแห้งไป
1. บารุงไฟธาตุ
2. บารุงโลหิต
3. ขับโลหิต (ความหมายเดียวกับประจุโลหิต)
การรักษาที่ 3 ขั้นตอนการรักษา
โลหิตขัดและคลอดบุตร
โลหิตออกไม่สิ้น (บ้าพุทธ
ยักษ์)
1. ให้กินยาผายโลหิต (ความหมายเดียวกับประจุโลหิต)
2. ให้กินยาแก้โลหิตเน่า
3. ให้กินยาดองขับโลหิตเน่า
เล่มที่ 2 ไม่ปรากฎขั้นตอนการรักษา
สตรี(ชาติโทษ) การรักษา
1. หญิงอายุ 14-15 ปี แล้วยังไม่มีระดู หรือมีมา 1-2 ครั้ง
แล้วกลับแห้งไป ในเวลาต่อมา
➢ มีสามีระดูจึงมา
➢ หรือ บางทีมีระดูล้างหน้า ก็มีครรภ์ทีเดียว
สาเหตุ
เป็นเพราะชาติประเวณี และมีความต้องการทางเพศสูง เมื่อมี สามีสมปรารถนา ราคะกาหนัดก็
คลายลง โลหิตก็บริบูรณ์ ขึ้นมาเอง
1. บารุงโลหิต
เมื่อถึงกาลอัน
ควร ก็จะมี
โลหิตเอง
2. เมื่อหาสามีได้ ระยะแรกระดูก็มาปกติดี เมื่อผ่านไป 1-2 ปี หรือ 1-2 เดือน ระดูก็ซีดจางไป
บางทีก็แห้งติดกระดูกสันหลัง
สาเหตุ เพราะมีเพศสัมพันธ์มากเกินไป
1. ประจุโลหิต
2. บารุงไฟธาตุ
3. บารุงโลหิต
สัตว์ก็จะมี
ปฏิสนธิ
หญิงจาพวกใดเมื่ออายุได้ 14-15 ปีขึ้นไป และสิ้นกาหนดตานซางแล้ว ต่อมโลหิตระดูของหญิงนั้นก็
บังเกิดมาตามประเวณีของ สตรีภาพ ให้แพทย์พิจารณาดูว่า โลหิตนั้นเกิดจากที่ใด แล้วให้ปรุงยาชื่อ พรหม
ภักดิ์ เป็นยาประจุโลหิตร้ายเสียให้สิ้น แล้วจึงแต่งยาบารุงไฟธาตุให้กิน เพื่อปรับธาตุทั้ง 4 ให้เสมอกัน แล้วจึง
แต่งยาชื่อ ยากาลังราชสีห์ ยากาลังแสงพระอาทิตย์ บารุงโลหิต ให้บริบูรณ์ แล้วเมื่อสัตว์ที่จะมาปฏิสนธิก็จะ
เกิดขึ้นได้เมื่อนั้น
หญิงใดมีโลหิตพิการนี้ บางจาพวกโลหิตนั้นเป็นก้อนกลมเท่าฟองไข่เป็ดอยู่ในท้องน้อยและหัวเหน่า บางพวกติด
อยู่ในทรวงอก บางจาพวกกลมกลิ้งอยู่ในท้องน้อยเจ็บปวดดุจดั่งเป็นบิด บางทีให้ขึ้นยอดอก เจ็บปวดดังจะขาด
ใจตายทั้งกลางวันและกลางคืน ถ้าถึง 7 วันตาย
ข้อสังเกต อาการคล้าย โทสัณฑฆาต ในคัมภีร์มุจฉาปักขันทิกา
**แต่ตาราของกองประกอบมีข้อความตามดังกล่าวนี้เท่านั้น
ว่าริดสีดวงมหากาฬ 4 จาพวก
ตาแหน่งที่เกิด ขนาด
เกิดที่คอ เมล็ดถั่วเขียว
เกิดในอก -
เกิดในทวาร -
เกิดในลาไส้ เมล็ดข้าวโพด
ลักษณะอาการ
ที่ทรวงอกและลาคอ เป็นเม็ดขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว เมื่อสุกแตกออกเป็นบุพโพโลหิตออกมา แล้วเลื่อนเข้าไปหา
กันบานดังดอก บุกเป็นบุพโพโลหิต มิรู้ว่าเป็นฝีที่ลาไส้ เกิดขึ้นขนาดเมล็ดข้าวโพดที่ทวารเบาตั้งขึ้นเป็นกองเป็น
หมู่ประมาณ 9-10 เม็ด ขนาด เท่าเมล็ดถั่วเขียว เมื่อสุกแตกออกเป็นบุพโพโลหิตระคนกัน เลื่อนเข้าหากัน มี
สัณฐานดังดอกบุก
ยารักษาตามคัมภีร์
การรักษา ชื่อยา
ยาประจุโลหิต ยาพรหมภักดิ์
ยาบารุงไฟธาตุ ยาบารุงไฟธาตุ
ยาบารุงโลหิต กาลังราชสีห์ และแสงอาทิตย์
ยาพรหมภักดิ์ มหาหิงค์ เทียนดา พริกไทย หัวหอม รากเจตมูลเพลิง สิ่งละ 1 ส่วน ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ สิ่งละ 1
สลึง บดเป็นเม็ดเท่าเมล็ดฝ้าย ละลายน้าสุรา กินครั้งละ 1 เม็ด ถ้าจะให้ขับ เลือดออกมากๆ ละลายน้าสุรา ครั้ง
ละ 7-9 เม็ด
ยาบารุงไฟธาตุ เบญจกูล (สิ่งละ 1) ลูกผักชี ว่านน้า พิลังกาสา หัวแห้วหมู ผิวมะกรูด บอระเพ็ด ยาทั้งหมดนี้
หนักสิ่งละ 1
ส่วนเสมอภาค บดเป็นผงละลายน้าส้มซ่า รับประทานครั้งละ 1 ช้อนกาแฟ 3 เวลาก่อนอาหาร
สรรพคุณ กินบารุงไฟธาตุให้บริบูรณ์
**พิลังกาสา เอาน้าเบญจกูล ของลูกผักชีให้หมูเพ้ดผิวมะกรูด กินผสมน้าส้มซ่า
ยาบารุงโลหิต เลือดแรด ดอกคาไทย สิ่งละ 3 ส่วนฝางเสน สิ่งละ 2 บาท เบญจกูล หนักสิ่งละ 1 บาท โกฐทั้ง 5
เทียนทั้ง 5 สิ่งละ 6 สลึงผลจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู หนักสิ่งละ 1 สลึง ดอกมะลิ ดอกพิกุล ดอก
บุนนาค ดอกสารภี เกสรบัวหลวง ดอกกระดังงา ดอกจาปา กฤษณา ขอนดอก กระลาพัก ชะลูด อบเชย จันทน์
ทั้ง 2 ขมิ้นเครือ เอาส่วนเท่ากัน
สรรพคุณ ต้มรับประทานให้โลหิตงามดี
การเทียบเคียงโรคแพทย์แผนปัจจุบัน
โรคทางการแพทย์แผนไทย โรคทางการแพทย์แผนปัจจุบัน
โลหิตปกติโทษ 5 ประการ Premenstrual Syndrome : PMS อาการก่อนมี
ประจาเดือน
หญิงมีระดูมาแล้วเกิดแห้งไป Amenorrhea ประจาเดือนไม่มา/ประจาเดือนขาด
ลักษณะโลหิตทุจริตโทษ
โลหิตระดูร้าง R/O Endometrial cancer มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
Endometritis เยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ
โลหิตคลอดบุตร R/O amniotic fluid embolism(AFE) ภาวะน้าคร่าอุด
ตันในหลอดเลือด
Pulmonary embolism (PE) ลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด
Septicemia ติดเชื้อในกระแสเลือด
Septic shock ภาวะช็อก
Encephalitis ไข้สมองอักเสบ
Neurosyphilis ซิฟิลิสระบประสาท
โลหิตพิฆาตอันตกต้นไม้หรือถูกทุบถองโบยตี R/O contusion (hematoma) เลือดออกใต้เยื่อหุ้ม
สมองชั้นนอก
โลหิตเน่า R/O septicemia ติดเชื้อในกระแสเลือด
Toxemia of pregnancy ครรภ์เป้นพิษ
โลหิตหมกตกช้า R/O Metritis มดลูกอักเสบ
Toxemia of pregnancy ครรภ์เป็นพิษ
โลหิตที่เกิดจากกองธาตุ Abnormal menstruation ภาวะประจาเดือนมา
ผิดปกติ
Premenstrual syndrome กลุ่มอาการก่อนมี
ประจาเดือน
Con10

Weitere ähnliche Inhalte

Was ist angesagt?

ติวสมุนไพรสด
ติวสมุนไพรสดติวสมุนไพรสด
ติวสมุนไพรสด
Ma' Nor
 
อารยธรรมจีนPdf
อารยธรรมจีนPdfอารยธรรมจีนPdf
อารยธรรมจีนPdf
kruchangjy
 
บรรยากาศ (Atmosphere)
บรรยากาศ (Atmosphere)บรรยากาศ (Atmosphere)
บรรยากาศ (Atmosphere)
พัน พัน
 

Was ist angesagt? (20)

Con15
Con15Con15
Con15
 
Con12
Con12Con12
Con12
 
Con16
Con16Con16
Con16
 
Con11
Con11Con11
Con11
 
Con3
Con3Con3
Con3
 
Con19
Con19Con19
Con19
 
Con13
Con13Con13
Con13
 
ยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนาน
ยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนานยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนาน
ยาสามัญประจำบ้าน 28 ขนาน
 
ติวสมุนไพรสด
ติวสมุนไพรสดติวสมุนไพรสด
ติวสมุนไพรสด
 
Herb
HerbHerb
Herb
 
สมุนไพรไทยในครัวเรือน
สมุนไพรไทยในครัวเรือนสมุนไพรไทยในครัวเรือน
สมุนไพรไทยในครัวเรือน
 
รายงานเรื่อง สมุนไพรไทย
รายงานเรื่อง สมุนไพรไทยรายงานเรื่อง สมุนไพรไทย
รายงานเรื่อง สมุนไพรไทย
 
อารยธรรมจีนPdf
อารยธรรมจีนPdfอารยธรรมจีนPdf
อารยธรรมจีนPdf
 
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา Newพื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา New
 
Case study โรคลม
Case study โรคลมCase study โรคลม
Case study โรคลม
 
สมุนไพรใกล้ตัว
สมุนไพรใกล้ตัวสมุนไพรใกล้ตัว
สมุนไพรใกล้ตัว
 
บรรยากาศ (Atmosphere)
บรรยากาศ (Atmosphere)บรรยากาศ (Atmosphere)
บรรยากาศ (Atmosphere)
 
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยาพื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา
พื้นฐานการวิเคราะห์ตำรับยา
 
Case study muscle bone join
Case study muscle bone joinCase study muscle bone join
Case study muscle bone join
 
สมุนไพรไทย
สมุนไพรไทย สมุนไพรไทย
สมุนไพรไทย
 

Ähnlich wie Con10

ปลา ศิรินาฏ ทรัพย์สิน
ปลา ศิรินาฏ  ทรัพย์สินปลา ศิรินาฏ  ทรัพย์สิน
ปลา ศิรินาฏ ทรัพย์สิน
Sorasak Tongon
 
ปลา ศิรินาฏ ทรัพย์สิน
ปลา ศิรินาฏ  ทรัพย์สินปลา ศิรินาฏ  ทรัพย์สิน
ปลา ศิรินาฏ ทรัพย์สิน
Sorasak Tongon
 
สุทธิวัสส์ คำภา นาฬิกาชีวิต
สุทธิวัสส์ คำภา   นาฬิกาชีวิตสุทธิวัสส์ คำภา   นาฬิกาชีวิต
สุทธิวัสส์ คำภา นาฬิกาชีวิต
Tongsamut vorasan
 
พื้นฐานชีวิต 33.pptx
พื้นฐานชีวิต 33.pptxพื้นฐานชีวิต 33.pptx
พื้นฐานชีวิต 33.pptx
SunnyStrong
 
108 คำถาม สถาบันการแพทย์ไทย
108 คำถาม สถาบันการแพทย์ไทย108 คำถาม สถาบันการแพทย์ไทย
108 คำถาม สถาบันการแพทย์ไทย
จู ล่ง
 
ทุกข์ในอริยสัจจ์ ๔
ทุกข์ในอริยสัจจ์ ๔ทุกข์ในอริยสัจจ์ ๔
ทุกข์ในอริยสัจจ์ ๔
Kiat Chaloemkiat
 
2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง
2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง
2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง
นายสามารถ เฮียงสุข
 
วัฒนา
วัฒนาวัฒนา
วัฒนา
supphawan
 
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
Kobchai Khamboonruang
 
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
tommy
 
การเปลี่ยนแปลงหลังการตาย
การเปลี่ยนแปลงหลังการตายการเปลี่ยนแปลงหลังการตาย
การเปลี่ยนแปลงหลังการตาย
Surapol Imi
 
โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพโพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
Tongsamut vorasan
 

Ähnlich wie Con10 (20)

ปลา ศิรินาฏ ทรัพย์สิน
ปลา ศิรินาฏ  ทรัพย์สินปลา ศิรินาฏ  ทรัพย์สิน
ปลา ศิรินาฏ ทรัพย์สิน
 
ปลา ศิรินาฏ ทรัพย์สิน
ปลา ศิรินาฏ  ทรัพย์สินปลา ศิรินาฏ  ทรัพย์สิน
ปลา ศิรินาฏ ทรัพย์สิน
 
สุทธิวัสส์ คำภา นาฬิกาชีวิต
สุทธิวัสส์ คำภา   นาฬิกาชีวิตสุทธิวัสส์ คำภา   นาฬิกาชีวิต
สุทธิวัสส์ คำภา นาฬิกาชีวิต
 
คัมภีร์เวชศึกษา.pdf
คัมภีร์เวชศึกษา.pdfคัมภีร์เวชศึกษา.pdf
คัมภีร์เวชศึกษา.pdf
 
งานนำเสนอของนุช
งานนำเสนอของนุชงานนำเสนอของนุช
งานนำเสนอของนุช
 
Case study : dengue fever
Case study : dengue feverCase study : dengue fever
Case study : dengue fever
 
กรณีศึกษาไต (Ns) แก้ไข
กรณีศึกษาไต (Ns)  แก้ไขกรณีศึกษาไต (Ns)  แก้ไข
กรณีศึกษาไต (Ns) แก้ไข
 
พื้นฐานชีวิต 33.pptx
พื้นฐานชีวิต 33.pptxพื้นฐานชีวิต 33.pptx
พื้นฐานชีวิต 33.pptx
 
108 คำถาม สถาบันการแพทย์ไทย
108 คำถาม สถาบันการแพทย์ไทย108 คำถาม สถาบันการแพทย์ไทย
108 คำถาม สถาบันการแพทย์ไทย
 
ทุกข์ในอริยสัจจ์ ๔
ทุกข์ในอริยสัจจ์ ๔ทุกข์ในอริยสัจจ์ ๔
ทุกข์ในอริยสัจจ์ ๔
 
129+heap4+dltv54+550301+a+สไลด์ โทษของบุหรี่และสุรา (1 หน้า)
129+heap4+dltv54+550301+a+สไลด์ โทษของบุหรี่และสุรา (1 หน้า)129+heap4+dltv54+550301+a+สไลด์ โทษของบุหรี่และสุรา (1 หน้า)
129+heap4+dltv54+550301+a+สไลด์ โทษของบุหรี่และสุรา (1 หน้า)
 
2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง
2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง
2การจัดลำดับความสำคัญโรคติดต่อนำโดยแมลง
 
วัฒนา
วัฒนาวัฒนา
วัฒนา
 
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
 
Con5
Con5Con5
Con5
 
Transfer factor chewable 15.5.2555
Transfer factor chewable 15.5.2555Transfer factor chewable 15.5.2555
Transfer factor chewable 15.5.2555
 
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]
 
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
 
การเปลี่ยนแปลงหลังการตาย
การเปลี่ยนแปลงหลังการตายการเปลี่ยนแปลงหลังการตาย
การเปลี่ยนแปลงหลังการตาย
 
โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพโพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
 

Con10

  • 1. คัมภีร์มหาโชตรัตน์ กล่าวถึงโรคโลหิตระดูสตรีปกติโทษและระดูทุจริตโทษ ซึ่งว่าด้วยปฐมสัตว์ มนุษย์อันเกิดมาเป็นรูปสตรีภาพ ต้ัง แต่คลอดจากครรภ์มารดา มีกายแตกต่างจากชาย 4 ประการ 1. ต่อมโลหิตระดู 2. ถันประโยธร 3. ที่ประเวณี 4. จริตกิริยา โลหิตปกติโทษ 5 ประการ เกิดแต่ อาการ Key เส้นเอ็น มื่อใกล้จะมีระดูมานั้น ให้ดุจเป็นไข้จับ ให้สะบัดร้อนสะบัดหนาว ปวดศรีษะมาก ครั้นพอมีระดูออกมาแล้ว อาการนั้นก็หายไป (ใช้ยาจักรพรดิ์ หรือ มหิศรนิมิตร) ปวดหัว ขั้วดี เมื่อใกล้จะมีระดูมานั้น ให้มีอาการเป็นไข้ ให้คลั่งไคล้ ละเมอเพ้อพก เจรจาด้วยผี ให้สะดุ้งหวาดไป ครั้นมีระดูออกมาแล้ว อาการนั้นก็หายไป (ใช้ยาประทุมมาเกสรา) ไข้ ละเมอเพ้อ หัวใจ เมื่อใกล้จะมีระดูมานั้น มีอาการให้คลั่งเพ้อ เจรจาด้วยผี ให้นอนสะดุ้ง หวาดผวา มักขึ้งโกรธไปต่างๆ ครั้นมีระดูออกมาแล้ว อาการนั้นก็หายไป (ใช้ยาเกสราทิคุณ) โกรธง่าย ผิวเนื้อ เมื่อใกล้จะมีระดูมานั้น ให้มีอาการนอนร้อนผิวเนื้อผิวหนังและแดงดังผลตาลึงสุก บางทีให้ผุดขึ้นท้ังตัว ดังยอดหัดและฟกเป็นดังไข้รากสาด เป็นอยู่ 2 วัน 3 วัน ครั้น มีระดูมาแล้วก็หาย (ใช้ยาเทพรังสฤษดิ์) ร้อนเนื้อ แดง โลหิตปกติโทษทั้ง 5 ประการนี้ อธิบายไว้พอเป็นที่สังเกตของแพทย์ เพราะโลหิตปกติโทษจะมีอยู่แต่ เท่านั้นหามิได้ ย่อมมีอยู่ทั่วไปทั้งอาการ 32 ซึ่งชุ่มแช่อยู่ทั่วไปทั้งตัว ด้วยลม 6 จาพวก และลมทั้งหลายพัดให้ เดินไปมาระหว่างเส้นเอ็น เนื้อ หนัง และอวัยวะทั้งหลายในร่างกาย เป็นธรรมดาของสัตว์โลก เตโชธาตุทั้ง 4 นั้น ทาหน้าที่ให้โลหิตในกายอุ่นแล้ว ถ้าเตโชธาตุ กล้าหรือร้อนเกินปกติ โลหิตก็ร้อนก็ทนไม่ได้ ก็จะผุดออกมา นอกผิวหนัง แพทย์จึงสมมติว่าเป็นเม็ดกาเดา รากสาดปานดา ปานแดงและกาฬทั้งปวง นั้นคือเหตุของโลหิต นั่นเอง จึงกล่าวได้ว่า ดี กาเดา ก็คือเตโช ส่วนโลหิตเป็นสมุฏฐาน อันว่าโลหิตนั้นเป็นธรรมชาติของสตรี ผู้ใดเคยมีระดู มานั้น หากลมกองใดเคยกาเริบ ลมกองนั้นจะกาเริบทุกเดือนทุกครั้ง จึงเรียกว่า “ปกติโลหิต” หรือโลหิต ประจาเดือน แต่ถ้าถึงกาหนดระดูมีมา อาการแปลกไปอย่างอื่น และลมกองที่เคยพัดประจาเกิดไม่พัด ลมกองอื่นจึงพัด เข้าแทน อาการจึง แปลกไปจากทุกเดือนอย่างนี้เรียกว่า “โลหิตทุจริตโทษ” โลหิตทุจริตโทษ 5 ประการ โลหิต อาการ Key ร้าง เมื่อจะเกิด โลหิตระดูมิได้มาตามปกติ บางทีดาและมีกลิ่นเหม็นเน่า บางทีจาง ดุจน้าชานหมาก บางทีให้ใสดุจน้าคาวปลา บางทีขาวดุจดังน้าซาวข้าวกระทา ให้เจ็บปวด เป็นไปต่างๆครั้นเป็นนานเข้ามักกลายเป็น มานโลหิต ดาเหม็นเน่า คลอดบุตร เมื่อจะบังเกิด ทาให้โลหิตคั่งเข้าเดินไม่สะดวก แล้วตั้งเป็นลิ่มเป็นก้อน ให้ แดก ขึ้นแดกลง บางทีให้คลั่ง ขบฟัน ตาเหลือกตาช้อน ขอบตาเขียวและริม ฝีปาก เขียว เล็บมือเล็บเท้าเขียว สมมติว่าปีศาจเข้าสิง เล็บตา ปาก เขียว ต้องพิฆาต อันตกต้นไม้หรือถูกทุบถองโบยตี ถ้าเป็นดังกล่าวท่านว่าไข้นั้นถึงพิฆาต ติดกระดูก
  • 2. เพราะ โลหิตที่ถูกกระทานั้นกระทบซ้าระคนกับโลหิตระดูเกิดแห้งกรังเข้าติด กระดูกสัน หลังอยู่ จึงได้ชื่อว่าโลหิตแห้งกรัง เพราะอาศัยโลหิตพิการ เน่า อาศัยโลหิตระดูร้าง โลหิตคลอดบุตร โลหิตต้องพิฆาต และโลหิตหมกช้าเจือ มา เน่าอยู่จึงเรียกว่า โลหิตเน่า เป็นใหญ่กว่าลมทั้งหลาย เมื่อจะให้โทษโลหิต เน่ามี พิษกล้าแล่นไปทุกขุมขน บางทีแล่นเข้าจับหัวใจ บางทีแล่นออกผิวเนื้อ ผุดเป็น วงดา แดง ขาว เขียว ก็มี ผุดเป็นวง ดา แดง ขาว เขียว ตกหมกช้า ก็อาศัยโลหิตเน่า เพราะเหตุแพทย์ใช้ยาประคบ ยาผาย ยาขับโลหิตไม่ถึง กาลัง หมายถึง ให้ยาน้อยกว่ากาลังเลือด และโลหิตนั้นเกิดระส่าระส่ายออก ไม่หมด สิ้นเชิง จึงตกหมกช้าอยู่ ได้ชื่อว่า โลหิตตกหมกช้า บางทีตกช้าอยู่ใน เส้นเอ็นหัว เหน่า เมื่อจะให้โทษก็คลุมกันเข้า กระทาให้เป็นฝีมดลูก ฝี ยอดคว่า ฝีเอ็น ฝี อัคนีสันต์ ฝีปลวก และมานโลหิต เพราะยาไม่ ถึง โลหิตเกิดจากกองธาตุ 4 ประการ เกิด แต่ อาการ Key ปถวี ให้เมื่อยทุกข้อทุกลาทุกกระดูก ระดูเดินหยดย้อยมิได้สะดวก บางทีเป็นมันเป็น เมือก บางทีเป็นปะระเมหะระคนออกมากับโลหิตเหนียวดุจยางมะตูม ทาให้ ร้อนแสบ จุกเสียด ให้ท้องขึ้นเป็นกาลัง ระดูนั้นมีสีดา แดง ขาว เหลือง ระคน กันออกมา มีกลิ่นคาวยื่งนักให้ ปวดในอุทรเป็นกาลัง เมื่อยทุกข้อ ทุก กระดูก เหนียวดุจ ยางมะตูม หยดย้อย เหม็นคาว อาโป กระทาให้ลงไปวันละ 5-6 ครั้ง ระดูนั้นเดินออกมา เป็นเมือกเป็นมัน เหม็นคาว ยิ่งนัก โลหิตนั้นใส บางทีเป็นเปลวดุจปะระเมหะและไข่ข่าว เดินไม่สะดวก ให้ ปวดท้องมาก บริโภคอาหารไม่ได้ ลงไปวันละ 5- 6 ครั้ง ไข่ขาว วาโย ทาให้ท้องขึ้นท้องพอง ให้จุกเสียดเป็นกาลัง ให้ตัวร้อน ให้จับเป็นเวลา ให้คลื่นเหียน อาเจียนแต่ลมเปล่า ระดูมีมาไม่สะดวก มีสีดุจน้าดอกคาอันจาง ให้ปวดเป็นกาลัง เตโช ให้ตึงไปทั่วตัว แล้วระดูจึงมา ให้ร้อนทางช่องคลอดดุจถูกพริก โลหิตที่ออกมา นั้นเป็น ฟองมีสีเหลืองน้าฝาง อันบุคคลเอาน้าส้มมะนาวบีบลง สีนั้นก็เหลืองไป กระทาให้ร้อนผิว เนื้อมาก ให้อาเจียน ให้เหม็นอาหาร บริโภคอาหารไม่ได้ สะบัดร้อนสะบัดหนาว ร้อนช่อง คลอดดุจถูก พริกตึงทั้งตัว หญิงมีระดูแล้วเกิดแห้งไปเพราะเหตุ 5 ประการ 1. มีกามระคะจัด มีอานาจแห่งไฟราคะเผาโลหิตให้แห้งไป 2. บริโภคอาหารเผ็ดร้อนเกินไป เป็นเหตุให้ระดูพิการ 3. มีโทสะเป็นนิจ หรือ ทางานหนักเกินไป เป็นเหตุให้ระดูนั้นแห้งไป
  • 3. 4. เป็นด้วยกรรมพันธุ์ติดต่อมาจากบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ของหญิงนั้น 5. มีโมหะอยู่เป็นนิจ หรือออกกาลังกายมากเกินไป เป็นเหตุให้โลหิตนั้นแห้งไป การรักษาหญิงระดูแห้ง จากการศึกษาคัมภีร์มหาโชตรัตน์ฉบับต่างๆ พบว่าขั้นตอนการใช้ยารักษาค่อนข้างสับสนไม่สอดคล้องกัน แต่ พอสรุปขั้นตอน การรักษาจากคัมภีร์มหาโชตรัตน์ได้ ดังนี้ เล่มที่ 1 การรักษาที่ 1 ขั้นตอนการรักษา 1. หญิงอายุ 14-15 ปี แล้ว ยังไม่มีระดู หรือ 2. มีระดูแล้วกลับแห้งไป 1. ประจุโลหิต 2. บารุงไฟธาตุ 3. บารุงโลหิต การรักษาที่ 2 ขั้นตอนการรักษา 1. หญิงอายุ 14-15 ปี แล้ว ยังไม่มีระดู หรือ 2. มีระดูแล้วกลับแห้งไป 1. บารุงไฟธาตุ 2. บารุงโลหิต 3. ขับโลหิต (ความหมายเดียวกับประจุโลหิต) การรักษาที่ 3 ขั้นตอนการรักษา โลหิตขัดและคลอดบุตร โลหิตออกไม่สิ้น (บ้าพุทธ ยักษ์) 1. ให้กินยาผายโลหิต (ความหมายเดียวกับประจุโลหิต) 2. ให้กินยาแก้โลหิตเน่า 3. ให้กินยาดองขับโลหิตเน่า เล่มที่ 2 ไม่ปรากฎขั้นตอนการรักษา สตรี(ชาติโทษ) การรักษา 1. หญิงอายุ 14-15 ปี แล้วยังไม่มีระดู หรือมีมา 1-2 ครั้ง แล้วกลับแห้งไป ในเวลาต่อมา ➢ มีสามีระดูจึงมา ➢ หรือ บางทีมีระดูล้างหน้า ก็มีครรภ์ทีเดียว สาเหตุ เป็นเพราะชาติประเวณี และมีความต้องการทางเพศสูง เมื่อมี สามีสมปรารถนา ราคะกาหนัดก็ คลายลง โลหิตก็บริบูรณ์ ขึ้นมาเอง 1. บารุงโลหิต เมื่อถึงกาลอัน ควร ก็จะมี โลหิตเอง 2. เมื่อหาสามีได้ ระยะแรกระดูก็มาปกติดี เมื่อผ่านไป 1-2 ปี หรือ 1-2 เดือน ระดูก็ซีดจางไป บางทีก็แห้งติดกระดูกสันหลัง สาเหตุ เพราะมีเพศสัมพันธ์มากเกินไป 1. ประจุโลหิต 2. บารุงไฟธาตุ 3. บารุงโลหิต สัตว์ก็จะมี ปฏิสนธิ
  • 4. หญิงจาพวกใดเมื่ออายุได้ 14-15 ปีขึ้นไป และสิ้นกาหนดตานซางแล้ว ต่อมโลหิตระดูของหญิงนั้นก็ บังเกิดมาตามประเวณีของ สตรีภาพ ให้แพทย์พิจารณาดูว่า โลหิตนั้นเกิดจากที่ใด แล้วให้ปรุงยาชื่อ พรหม ภักดิ์ เป็นยาประจุโลหิตร้ายเสียให้สิ้น แล้วจึงแต่งยาบารุงไฟธาตุให้กิน เพื่อปรับธาตุทั้ง 4 ให้เสมอกัน แล้วจึง แต่งยาชื่อ ยากาลังราชสีห์ ยากาลังแสงพระอาทิตย์ บารุงโลหิต ให้บริบูรณ์ แล้วเมื่อสัตว์ที่จะมาปฏิสนธิก็จะ เกิดขึ้นได้เมื่อนั้น หญิงใดมีโลหิตพิการนี้ บางจาพวกโลหิตนั้นเป็นก้อนกลมเท่าฟองไข่เป็ดอยู่ในท้องน้อยและหัวเหน่า บางพวกติด อยู่ในทรวงอก บางจาพวกกลมกลิ้งอยู่ในท้องน้อยเจ็บปวดดุจดั่งเป็นบิด บางทีให้ขึ้นยอดอก เจ็บปวดดังจะขาด ใจตายทั้งกลางวันและกลางคืน ถ้าถึง 7 วันตาย ข้อสังเกต อาการคล้าย โทสัณฑฆาต ในคัมภีร์มุจฉาปักขันทิกา **แต่ตาราของกองประกอบมีข้อความตามดังกล่าวนี้เท่านั้น ว่าริดสีดวงมหากาฬ 4 จาพวก ตาแหน่งที่เกิด ขนาด เกิดที่คอ เมล็ดถั่วเขียว เกิดในอก - เกิดในทวาร - เกิดในลาไส้ เมล็ดข้าวโพด ลักษณะอาการ ที่ทรวงอกและลาคอ เป็นเม็ดขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว เมื่อสุกแตกออกเป็นบุพโพโลหิตออกมา แล้วเลื่อนเข้าไปหา กันบานดังดอก บุกเป็นบุพโพโลหิต มิรู้ว่าเป็นฝีที่ลาไส้ เกิดขึ้นขนาดเมล็ดข้าวโพดที่ทวารเบาตั้งขึ้นเป็นกองเป็น หมู่ประมาณ 9-10 เม็ด ขนาด เท่าเมล็ดถั่วเขียว เมื่อสุกแตกออกเป็นบุพโพโลหิตระคนกัน เลื่อนเข้าหากัน มี สัณฐานดังดอกบุก ยารักษาตามคัมภีร์ การรักษา ชื่อยา ยาประจุโลหิต ยาพรหมภักดิ์ ยาบารุงไฟธาตุ ยาบารุงไฟธาตุ ยาบารุงโลหิต กาลังราชสีห์ และแสงอาทิตย์ ยาพรหมภักดิ์ มหาหิงค์ เทียนดา พริกไทย หัวหอม รากเจตมูลเพลิง สิ่งละ 1 ส่วน ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ สิ่งละ 1 สลึง บดเป็นเม็ดเท่าเมล็ดฝ้าย ละลายน้าสุรา กินครั้งละ 1 เม็ด ถ้าจะให้ขับ เลือดออกมากๆ ละลายน้าสุรา ครั้ง ละ 7-9 เม็ด ยาบารุงไฟธาตุ เบญจกูล (สิ่งละ 1) ลูกผักชี ว่านน้า พิลังกาสา หัวแห้วหมู ผิวมะกรูด บอระเพ็ด ยาทั้งหมดนี้ หนักสิ่งละ 1 ส่วนเสมอภาค บดเป็นผงละลายน้าส้มซ่า รับประทานครั้งละ 1 ช้อนกาแฟ 3 เวลาก่อนอาหาร สรรพคุณ กินบารุงไฟธาตุให้บริบูรณ์
  • 5. **พิลังกาสา เอาน้าเบญจกูล ของลูกผักชีให้หมูเพ้ดผิวมะกรูด กินผสมน้าส้มซ่า ยาบารุงโลหิต เลือดแรด ดอกคาไทย สิ่งละ 3 ส่วนฝางเสน สิ่งละ 2 บาท เบญจกูล หนักสิ่งละ 1 บาท โกฐทั้ง 5 เทียนทั้ง 5 สิ่งละ 6 สลึงผลจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู หนักสิ่งละ 1 สลึง ดอกมะลิ ดอกพิกุล ดอก บุนนาค ดอกสารภี เกสรบัวหลวง ดอกกระดังงา ดอกจาปา กฤษณา ขอนดอก กระลาพัก ชะลูด อบเชย จันทน์ ทั้ง 2 ขมิ้นเครือ เอาส่วนเท่ากัน สรรพคุณ ต้มรับประทานให้โลหิตงามดี การเทียบเคียงโรคแพทย์แผนปัจจุบัน โรคทางการแพทย์แผนไทย โรคทางการแพทย์แผนปัจจุบัน โลหิตปกติโทษ 5 ประการ Premenstrual Syndrome : PMS อาการก่อนมี ประจาเดือน หญิงมีระดูมาแล้วเกิดแห้งไป Amenorrhea ประจาเดือนไม่มา/ประจาเดือนขาด ลักษณะโลหิตทุจริตโทษ โลหิตระดูร้าง R/O Endometrial cancer มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก Endometritis เยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ โลหิตคลอดบุตร R/O amniotic fluid embolism(AFE) ภาวะน้าคร่าอุด ตันในหลอดเลือด Pulmonary embolism (PE) ลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด Septicemia ติดเชื้อในกระแสเลือด Septic shock ภาวะช็อก Encephalitis ไข้สมองอักเสบ Neurosyphilis ซิฟิลิสระบประสาท โลหิตพิฆาตอันตกต้นไม้หรือถูกทุบถองโบยตี R/O contusion (hematoma) เลือดออกใต้เยื่อหุ้ม สมองชั้นนอก โลหิตเน่า R/O septicemia ติดเชื้อในกระแสเลือด Toxemia of pregnancy ครรภ์เป้นพิษ โลหิตหมกตกช้า R/O Metritis มดลูกอักเสบ Toxemia of pregnancy ครรภ์เป็นพิษ โลหิตที่เกิดจากกองธาตุ Abnormal menstruation ภาวะประจาเดือนมา ผิดปกติ Premenstrual syndrome กลุ่มอาการก่อนมี ประจาเดือน