มารยาทและจริยธรรมทางวิชาการในการใช้ กลุ่มทหารเสือค่า
- 3. ในการเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายควรใช้ชื่อบัญชี (Internet Account Name) และรหัสผ่าน
(Password) ของตนเอง ไม่ควรนาของผู้อื่นมาใช้รวมทั้งนาไปกรอกแบบฟอร์มต่างๆ
ควรเก็บรักษารหัสผ่านของตนเองเป็นความลับ และทาการเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นระยะๆ
รวมทั้งไม่ควรแอบดูหรือถอดรหัสผ่านของผู้อื่น
ควรวางแผนการใช้งานล่วงหน้าก่อนการเชื่อมต่อกับเครือข่ายเพื่อเป็นการประหยัดเวลา
เลือกถ่ายโอนเฉพาะข้อมูลและโปรแกรมต่างๆ เท่าที่จาเป็นต่อการใช้งานจริง
ก่อนเข้าใช้บริการต่างๆ ควรศึกษากฏ ระเบียบ ข้อกาหนด รวมทั้งธรรมเนียมปฏิบัติของแต่
ละเครือข่ายที่ต้องการติดต่อ
- 5. ใช้ภาษาที่สุภาพในการติดต่อสื่อสาร และใช้คาให้ถูกความหมาย เขียนถูกต้องตาม
หลักไวยากรณ์
ใช้ข้อความที่สั้น กะทัดรัดเข้าใจง่าย
ไม่ควรนาความลับ หรือเรื่องส่วนตัวของผู้อื่นมาเป็นหัวข้อในการสนทนา รวมทั้งไม่
ใส่ร้ายหรือทาให้บุคคลอื่นเสียหาย
หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาที่ดูถูก เหยียดหยามศาสนา วัฒนธรรมและความเชื่อของผู้อื่น
ในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นควรสอบถามความสมัครใจของผู้ที่ติดต่อด้วย ก่อนที่จะ
ส่งแฟ้ มข้อมูล หรือโปรแกรมที่มีขนาดใหญ่ไปยังผู้ที่เราติดต่อด้วย
ไม่ควรส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ที่ก่อความราคาญ และความ
เดือดร้อนแก่ผู้อื่น เช่น จดหมายลูกโซ่
- 7. คาว่า "จริยธรรม" แยกออกเป็น จริย + ธรรม ซึ่งคาว่า จริย หมายถึง ความ
ประพฤติหรือกิริยาที่ควรประพฤติ ส่วนคาว่า ธรรม มีความหมายหลาย
ประการ เช่น คญณความดี, หลักคาสอนของศาสนา, หลักปฏิบัติ เมื่อนาคา
ทั้งสองมารวมกันเป็น "จริยธรรม" จึงมีความหมายตามตัวอักษรว่า "หลัก
แห่งความประพฤติ" หรือ "แนวทางของการประพฤติ"
- 9. ในการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการรวบรวม จัดเก็บ และเรียกใช้ข้อมูลนั้น คญณลักษณะที่
สาคัญประการหนึ่งคือความน่าเชื่อถือได้ของข้อมูล ทั้งนี้ ข้อมูลจะมีความน่าเชื่อถือ
มากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับความถูกต้องในการบันทึกข้อมูลด้วย ประเด็นด้าน
จริยธรรมที่เกี่ยวกับความถูกต้องของข้อมูล โดยทั่วไปจะพิจารณาว่าใครจะเป็น
ผู้รับผิดชอบต่อความถูกต้องของข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่
- 11. คือการป้ องกันการเข้าไปดาเนินการกับข้อมูลของผู้ใช้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และ
เป็นการรักษาความลับของข้อมูล ตัวอย่างสิทธิในการใช้งานระบบเช่น การ
บันทึก การแก้ไข/ปรับปรุง และการลบ เป็นต้น ดังนั้น ในการพัฒนาระบบ
คอมพิวเตอร์จึงได้มีการออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึง
ข้อมูลของผู้ใช้ และการเข้าถึงข้อมูลของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมนั้น ถือ
ว่าเป็นการผิดจริยธรรมเช่นเดียวกับการละเมิดข้อมูลส่วนตัว ในการใช้งาน
คอมพิวเตอร์และเครือข่ายร่วมกัน หากผู้ใช้ร่วมใจกันปฏิบัติตามระเบียบและ
ข้อบังคับของแต่ละหน่วยงานอย่างเคร่งครัดแล้ว การผิดจริยธรรมตาม
ประเด็นที่กล่าวมาข้างต้นก็คงจะไม่เกิดขึ้น
- 12. ปัญหาอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางในการก่ออาชญากรรมหลายรูปแบบ เช่น เจาะระบบรักษา
ความปลอดภัย ให้สามารถเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อกระทาการใดๆ กับระบบคอมพิวเตอร์
ซอฟต์แวร์ หรือข้อมูลที่มิชอบต่างๆ อาจทาให้เกิดความเสียหายในเชิงธุรกิจ การบิดเบือน
ข้อเท็จจริง
ขโมยข้อมูลส่วนตัว โดยการใช้ช่องทางสื่อสารหรืออินเทอร์เน็ต เช่น การแชท การโทรศัพท์ ใน
การได้มาซึ่งข้อมูลส่วนตัวของบุคคล โดยการปลอมแปลงเป็นผู้ดูแลระบบ หรือผู้ดูแลข้อมูล เป็น
บุคคลใกล้ชิด หรือสร้างสถานการณ์ฉุกเฉินที่เสมือนจริง เพื่อหลอกล่อให้เหยื่อเกิดความไว้ใจ หรือ
หลงเชื่อ และเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ปัญหาการล่อลวงในสังคม
จากการที่ผู้ใช้งานในอินเทอร์เน็ตบางคน สร้างตัวตนขึ้นมาใหม่ในการติดต่อสนทนากับผู้อื่น โดยข้อมูลที่เป็นเท็จ
เช่น เพศ อายุ ภาพถ่าย และอาชีพ เพื่อล่อลวงให้คู่สนทนาสนใจตัวตนใหม่ และนัดพบเพื่อการกระทาอันตรายต่างๆ
จนเกิดปัญหาร้ายแรงต่อทรัพย์สินหรือต่อตนเอง
- 14. นักศึกษาชื่อ Bengü Sezen ผู้ที่ได้เข้าไปศึกษาปริญญาเอกด้านวิทยาศาสตร์เคมีที่ Columbia
University ภายใต้การดูแลของ Professor Dalibor Sames ในช่วงปี 2000 - 2005
ในช่วงระหว่างปี 2002-2006 มีกรณีการตีพิมพ์งานวิจัยที่ผลการทดลองทั้งหมด “เมกขึ้นมาเอง” ลงใน
วารสารของ ACS โดยนักศึกษาชื่อ Bengü Sezen เป็นการละเมิดจริยธรรมการวิจัยสาหรับ
สาขาวิชาเคมี
ในฐานข้อมูล ACS (American Chemical Society) ซึ่งเป็นสานักพิมพ์วารสารวิชาการ
ระดับสูง จะพบว่าเธอมีชื่อในงานวิจัยในปัจจุบันทั้งหมด 15 ชิ้น ซึ่งเป็นปริมาณที่เยอะสาหรับนักศึกษา
ปริญญาเอกคนหนึ่ง
ในปี 2010 หลังจากการสืบสวนสอบสวนทั้งหมดเสร็จสิ้น Office of Research Integrity ซึ่ง
เป็นองค์กรตรวจสอบงานวิจัยของสหรัฐอเมริกาก็ได้ออกผลสรุปมาว่า Bengü Sezen นั้นผิดจริง
และได้รับโทษเป็นการตัดสิทธิ์การได้รับเงินสนับสนุนจากอเมริกาเป็นเวลาห้าปี และในปี 2011
Columbia University ก็ได้ทาการถอนปริญญาเอกของ Bengü Sezen อย่างเป็นทางการ
- 19. 1. กาหนดบทลงโทษให้ชัดเจน เช่น ทารายงานเท็จจะได้รับคะแนน F และไม่
มีการแก้ตัวใดๆ ในรายวิชานั้น ๆ
2. ไม่สร้างผลการทดลองหรือผลการวิจัยเท็จขึ้นมาเพื่อสร้างชื่อเสียงให้
ตนเอง
3. ให้ความรู้นักศึกษาเกี่ยวกับความหมายของการขโมยคัดลอกผลงาน
ของผู้อื่น และบอกวิธีการอ้างอิงที่เหมาะสม
4. สร้างจิตสานึกโดยให้นักศึกษาตระหนักและเคารพผลงานและความคิด
ของผู้อื่น
5. บอกถึงประโยชน์ของแหล่งอ้างอิงว่าจะทาให้งานเขียนของนักศึกษา
น่าเชื่อถือและหนักแน่นขึ้น และจะส่งผลให้ได้เกรดดีขึ้น