Suche senden
Hochladen
อวัยวะของพืช (Plant tissue) 2557
•
3 gefällt mir
•
4,845 views
Pinutchaya Nakchumroon
Folgen
Bildung
Diashow-Anzeige
Melden
Teilen
Diashow-Anzeige
Melden
Teilen
1 von 118
Jetzt herunterladen
Downloaden Sie, um offline zu lesen
Empfohlen
การแลกเปลี่ยนแก๊สและการคายน้ำ
การแลกเปลี่ยนแก๊สและการคายน้ำ
Anana Anana
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
Thanyamon Chat.
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
Pinutchaya Nakchumroon
1.กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ PPT เเก้ไขได้ ล่าสุด.pptx
1.กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ PPT เเก้ไขได้ ล่าสุด.pptx
TinnakritWarisson
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ฟลุ๊ค ลำพูน
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
Thanyamon Chat.
บรรยากาศ
บรรยากาศ
Supaluk Juntap
ราก (T)
ราก (T)
Thitaree Samphao
Empfohlen
การแลกเปลี่ยนแก๊สและการคายน้ำ
การแลกเปลี่ยนแก๊สและการคายน้ำ
Anana Anana
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
Thanyamon Chat.
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
Pinutchaya Nakchumroon
1.กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ PPT เเก้ไขได้ ล่าสุด.pptx
1.กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ PPT เเก้ไขได้ ล่าสุด.pptx
TinnakritWarisson
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ฟลุ๊ค ลำพูน
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
Thanyamon Chat.
บรรยากาศ
บรรยากาศ
Supaluk Juntap
ราก (T)
ราก (T)
Thitaree Samphao
stem structure
stem structure
Thanyamon Chat.
โครงสร้างของดอกไม้
โครงสร้างของดอกไม้
dnavaroj
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
Pinutchaya Nakchumroon
มวลอะตอม มวลโมเลกุล มวลไอออน
มวลอะตอม มวลโมเลกุล มวลไอออน
พัน พัน
ธาตุและสารประกอบ
ธาตุและสารประกอบ
website22556
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
Thanyamon Chat.
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
Wuttipong Tubkrathok
เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)
Thitaree Samphao
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
Thitaree Samphao
ราก (Root)
ราก (Root)
Kung Sasithorn
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
Li Yu Ling
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 7 ระบบสุริยะ
บทที่ 7 ระบบสุริยะ
Pinutchaya Nakchumroon
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
Thanyamon Chat.
แรง (Force)
แรง (Force)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
Power point การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
Power point การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
Thanyamon Chat.
บทที่ 4 ปริมาณสัมพันธ์
บทที่ 4 ปริมาณสัมพันธ์
oraneehussem
การเคลื่อนที่ของคน
การเคลื่อนที่ของคน
สุรินทร์ ดีแก้วเกษ
6.ชุด 3 การแพร่
6.ชุด 3 การแพร่
เอเดียน คุณาสิทธิ์
บทที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
บทที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
Jariya Jaiyot
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
มัทนา อานามนารถ
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
เข็มชาติ วรนุช
Weitere ähnliche Inhalte
Was ist angesagt?
stem structure
stem structure
Thanyamon Chat.
โครงสร้างของดอกไม้
โครงสร้างของดอกไม้
dnavaroj
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
Pinutchaya Nakchumroon
มวลอะตอม มวลโมเลกุล มวลไอออน
มวลอะตอม มวลโมเลกุล มวลไอออน
พัน พัน
ธาตุและสารประกอบ
ธาตุและสารประกอบ
website22556
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
Thanyamon Chat.
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
Wuttipong Tubkrathok
เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)
Thitaree Samphao
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
Thitaree Samphao
ราก (Root)
ราก (Root)
Kung Sasithorn
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
Li Yu Ling
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 7 ระบบสุริยะ
บทที่ 7 ระบบสุริยะ
Pinutchaya Nakchumroon
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
Thanyamon Chat.
แรง (Force)
แรง (Force)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
Power point การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
Power point การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
Thanyamon Chat.
บทที่ 4 ปริมาณสัมพันธ์
บทที่ 4 ปริมาณสัมพันธ์
oraneehussem
การเคลื่อนที่ของคน
การเคลื่อนที่ของคน
สุรินทร์ ดีแก้วเกษ
6.ชุด 3 การแพร่
6.ชุด 3 การแพร่
เอเดียน คุณาสิทธิ์
บทที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
บทที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
Jariya Jaiyot
Was ist angesagt?
(20)
stem structure
stem structure
โครงสร้างของดอกไม้
โครงสร้างของดอกไม้
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
มวลอะตอม มวลโมเลกุล มวลไอออน
มวลอะตอม มวลโมเลกุล มวลไอออน
ธาตุและสารประกอบ
ธาตุและสารประกอบ
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
ราก (Root)
ราก (Root)
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 7 ระบบสุริยะ
บทที่ 7 ระบบสุริยะ
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
แรง (Force)
แรง (Force)
Power point การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
Power point การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 4 ปริมาณสัมพันธ์
บทที่ 4 ปริมาณสัมพันธ์
การเคลื่อนที่ของคน
การเคลื่อนที่ของคน
6.ชุด 3 การแพร่
6.ชุด 3 การแพร่
บทที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
บทที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
Ähnlich wie อวัยวะของพืช (Plant tissue) 2557
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
มัทนา อานามนารถ
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
เข็มชาติ วรนุช
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
Anana Anana
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
Anana Anana
เนี้อเยื่อ
เนี้อเยื่อ
มัทนา อานามนารถ
9.เนื้อเยื่อพืช
9.เนื้อเยื่อพืช
Wichai Likitponrak
เนื้อเยื่อ
เนื้อเยื่อ
Oui Nuchanart
Plant structure part 1
Plant structure part 1
pitsanu duangkartok
10.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน1
10.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน1
Wichai Likitponrak
Biomapcontest2014 กะหล่ำปุ้ง
Biomapcontest2014 กะหล่ำปุ้ง
Wichai Likitponrak
Tissue oui
Tissue oui
Oui Nuchanart
Root structure and function
Root structure and function
sukanya petin
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
ฟลุ๊ค ลำพูน
Stemแก้net
Stemแก้net
Anana Anana
Biocontest2014 kitty
Biocontest2014 kitty
Wichai Likitponrak
ราก544
ราก544
Oui Nuchanart
9789740328049
9789740328049
Chirawat Wangka
การคายน้ำ
การคายน้ำ
Nokko Bio
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
มัทนา อานามนารถ
การคายน้ำของพืช
การคายน้ำของพืช
dnavaroj
Ähnlich wie อวัยวะของพืช (Plant tissue) 2557
(20)
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนี้อเยื่อ
เนี้อเยื่อ
9.เนื้อเยื่อพืช
9.เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อ
เนื้อเยื่อ
Plant structure part 1
Plant structure part 1
10.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน1
10.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน1
Biomapcontest2014 กะหล่ำปุ้ง
Biomapcontest2014 กะหล่ำปุ้ง
Tissue oui
Tissue oui
Root structure and function
Root structure and function
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
Stemแก้net
Stemแก้net
Biocontest2014 kitty
Biocontest2014 kitty
ราก544
ราก544
9789740328049
9789740328049
การคายน้ำ
การคายน้ำ
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
การคายน้ำของพืช
การคายน้ำของพืช
Mehr von Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 16 ยีนและโครโมโซม
บทที่ 16 ยีนและโครโมโซม
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม (2)
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม (2)
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช การคายน้ำ (5)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช การคายน้ำ (5)
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ใบ (4)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ใบ (4)
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ลำต้น (3)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ลำต้น (3)
Pinutchaya Nakchumroon
อาณาจักรสัตว์ 2
อาณาจักรสัตว์ 2
Pinutchaya Nakchumroon
อาณาจักรสัตว์ (1)
อาณาจักรสัตว์ (1)
Pinutchaya Nakchumroon
อาณาจักรพืช
อาณาจักรพืช
Pinutchaya Nakchumroon
อาณาจักรฟังไจ
อาณาจักรฟังไจ
Pinutchaya Nakchumroon
อาณาจักรโพรติสตา
อาณาจักรโพรติสตา
Pinutchaya Nakchumroon
ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพ
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 4 ระบบย่อยอาหาร 2559
บทที่ 4 ระบบย่อยอาหาร 2559
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 4 ระบบย่อยอาหาร (2) 2559
บทที่ 4 ระบบย่อยอาหาร (2) 2559
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 6 ดาวฤกษ์ (star)
บทที่ 6 ดาวฤกษ์ (star)
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 3 เซลล์ของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 3 เซลล์ของสิ่งมีชีวิต
Pinutchaya Nakchumroon
บทที่ 5 เอกภพ
บทที่ 5 เอกภพ
Pinutchaya Nakchumroon
Mehr von Pinutchaya Nakchumroon
(20)
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 ยีนและโครโมโซม
บทที่ 16 ยีนและโครโมโซม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม (2)
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม (2)
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช การคายน้ำ (5)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช การคายน้ำ (5)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ใบ (4)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ใบ (4)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ลำต้น (3)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ลำต้น (3)
อาณาจักรสัตว์ 2
อาณาจักรสัตว์ 2
อาณาจักรสัตว์ (1)
อาณาจักรสัตว์ (1)
อาณาจักรพืช
อาณาจักรพืช
อาณาจักรฟังไจ
อาณาจักรฟังไจ
อาณาจักรโพรติสตา
อาณาจักรโพรติสตา
ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพ
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 4 ระบบย่อยอาหาร 2559
บทที่ 4 ระบบย่อยอาหาร 2559
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
บทที่ 4 ระบบย่อยอาหาร (2) 2559
บทที่ 4 ระบบย่อยอาหาร (2) 2559
บทที่ 6 ดาวฤกษ์ (star)
บทที่ 6 ดาวฤกษ์ (star)
บทที่ 3 เซลล์ของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 3 เซลล์ของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 5 เอกภพ
บทที่ 5 เอกภพ
อวัยวะของพืช (Plant tissue) 2557
1.
2.
3.
ราก(Root) เจริญลงสู่ดินตามแรงดึงดูดของโลกค้าจุนส่วนต่างๆของพืชให้ทรงตัวอยู่ได้ ดูดและล้าเลียงน้าหน้าที่อื่นๆเช่นสะสมอาหารยึดเกาะการหายใจเป็นต้น
การศึกษาโครงสร้างของรากมี 2 ลักษณะ คือตามยาวและภาคตัดขวาง
4.
5.
โครงสร้างตามยาวของราก หมวกราก(Rootcap) ประกอบด้วยเซลล์พาเรงคิมาเรียงตัวกันอย่างหลวมๆ ผลิตเมือกท้าให้หมวกรากชุ่มชืนและอ่อนตัว
สะดวกในการชอนไช และป้องกันอันตรายให้กับส่วนที่อยู่เหนือขึนไป
6.
โครงสร้างตามยาวของราก
7.
บริเวณเซลล์ก้าลังแบ่งตัว(Regionof celldivision) อยู่ถัดจากหมวกรากขึนไป
เป็นบริเวณของเนือเยื่อเจริญ การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสเพื่อเพิ่มจ้านวน
8.
โครงสร้างตามยาวของราก
9.
บริเวณเซลล์ขยายตัวตามยาว (Regionof cellelongation)
อยู่ถัดจากบริเวณเซลล์มีการแบ่งตัวเป็นบริเวณที่เซลล์มีการยืดยาวขึน
10.
โครงสร้างตามยาวของราก
11.
บริเวณเซลล์เปลี่ยนแปลงไปท้าหน้าที่เฉพาะ ได้แก่เซลล์ถาวรซึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อท้าหน้าที่ต่างๆเช่นขนราก
12.
13.
โครงสร้างของรากตามภาคตัดขวาง เอพิเดอร์มิส(Epidermis)
14.
โครงสร้างของรากตามภาคตัดขวาง เอพิเดอร์มิส(Epidermis)
15.
คอร์เทกซ์ (cortex) เป็นอาณาเขตระหว่างชันepidermisและstele ชันในสุดของเรียกendodermisในรากพืชใบเลียงเดี่ยวจะเห็นชัดเจนกว่า
16.
คอร์เทกซ์ (cortex)
17.
คอร์เทกซ์ (cortex)
18.
สตีล(stele) เป็นบริเวณที่อยู่ถัดจากชันendodermisเข้าไป steleในรากใบเลียงคู่จะแคบกว่าใบเลียงเดี่ยว
19.
ส่วนประกอบของสตีล 3.1เพอริไซเคิล(pericycle) เป็นเซลล์ขนาดเล็ก1-2แถวพบเฉพาะในรากเป็นแหล่งก้าเนิดของรากแขนง
20.
สตีล (stele) 3.1 เพอริไซเคิล
(pericycle)
21.
3.2เนือเยื่อล้าเลียง(vascularbundle) พืชใบเลียงคู่ xylemอยู่ตรงใจกลางเรียงเป็นแฉกไม่เกิน6 แฉก
มี phloemอยู่ระหว่างแฉกของXylem
22.
สตีล (stele) 3.2 เนื้อเยื่อลำเลียง
(vascular bundle)
23.
3.2เนือเยื่อล้าเลียง(vascularbundle) รากของพืชใบเลียงเดี่ยวมักมีจ้านวนแฉกมากกว่าใบลียงคู่
24.
สตีล (stele)
25.
3.2เนือเยื่อล้าเลียง(vascularbundle) รากของพืชใบเลียงเดี่ยวมักมีจ้านวนแฉกมากกว่าใบลียงคู่
26.
3.3พิธ(pith) เป็นบริเวณตรงกลางรากหรือไส้ในของรากเห็นได้ชัดเจนในรากพืชใบเลียงเดี่ยว ส่วนรากพืชใบเลียงคู่ตรงกลางมักเป็นxylem
27.
โครงสร้างภายในของราก 2) มัดท่อลาเลียง (Vascular
Bundle )
28.
โครงสร้างภายในของราก 2) มัดท่อลาเลียง (Vascular
Bundle )
29.
โครงสร้ำงของรำกพืชใบเลี้ยงคู่ตำมภำคตัดขวำง
30.
โครงสร้ำงของรำกตำมภำคตัดขวำง Epidermis Cortex Endodermis Pericycle Xylem Phloem
31.
การเจริญเติบโตขันที่2 (SecondaryGrowth)ของราก พบในรากพืชใบเลียงคู่เกิดที่บริเวณวาสคิวลาร์ แคมเบียมของราก สร้างเพื่อให้รากเพิ่มขนาดขึนมักเกิดที่ส่วนที่อยู่ถัดจากบริเวณขนรากขึนไป
32.
กำรเจริญเติบโตขั้นที่ 2 (Secondary
Growth)
33.
34.
รากแก้ว(Primaryroot ) ท้าหน้าที่เป็นหลักรับส่วนอื่นๆให้ทรงตัวอยู่ได้
มีขนาดใหญ่กว่ารากอื่นๆ รากชนิดนีพบในพืชใบเลียงคู่ที่งอกออกจากเมล็ดโดยปกติ
35.
หน้าที่และชนิดของราก ชนิดของรากเมื่อแยกตามกาเนิด จาแนกออกเป็ น
3 ชนิดคือ Primaryroot หรือ รากแก้ว
36.
รากแขนง(secondaryroot) เป็นรากที่มีก้าเนิดและเจริญเติบโตออกมาจากรากแก้ว
มีก้าเนิดมาจากเนือเยื่อpericycle ในรากเดิม
37.
หน้าที่และชนิดของราก ชนิดของรากเมื่อแยกตามกาเนิด จาแนกออกเป็ น
3 ชนิดคือ secondary root หรือ รากแขนง
38.
39.
3.1รากฝอย( fibrousroot) เป็นรากเส้นเล็กๆมากมายขนาดสม่้าเสมองอกแทนรากแก้วที่ฝ่อไป
พบในพืชใบเลียงเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่เช่นข้าวข้าวโพดหญ้า
40.
3.1รากฝอย( fibrousroot)
41.
3.2รากค้าจุน( proproot) เป็นรากที่แตกออกจากข้อของล้าต้นที่อยู่เหนือดินเล็กน้อยช่วยพยุงและค้าจุนล้าต้น
ได้แก่ล้าเจียกข้าวโพดโกงกางและไทรย้อยเป็นต้น
42.
3.2รากค้าจุน( proproot)
43.
3.2รากค้าจุน( proproot)
44.
3.3รากหายใจ( respiratoryroot) เป็นรากที่ชูปลายรากขึนมาเหนือพืนดินหรือผิวน้าเพื่อช่วยในการหายใจ
ได้แก่ล้าพู แสมโกงกางแพงพวยน้าและผักกระเฉด
45.
3.3รากหายใจ( respiratoryroot)
46.
3.3รากหายใจ( respiratoryroot)
47.
3.4รากสะสมอาหาร( storageroot) ท้าหน้าที่สะสมอาหาร
เช่น กระชาย มันเทศมันแกว มันส้าปะหลัง หัวผักกาด แครอท
48.
3.4รากสะสมอาหาร( storageroot)
49.
3.4รากสะสมอาหาร( storageroot)
50.
3.4รากสะสมอาหาร( storageroot)
51.
52.
ล้าต้น(Stem) เป็นโครงสร้างของพืชที่เจริญถัดขึนมาจากรากท้าหน้าที่ชูกิ่งใบ ดอกผล และท้าหน้าที่ล้าเลียงอาหารธาตุอาหารและน้า
53.
54.
เนือเยื่อเจริญปลายยอด เป็นบริเวณปลายสุดของล้าต้นเซลล์บริเวณนีจะแบ่งตัวอยู่ตลอดเวลา และท้าหน้าที่ล้าเลียงอาหารธาตุอาหารและน้า
55.
เนือเยื่อเจริญปลายยอด
56.
ใบเริ่มเกิด(leafprimordium) อยู่ตรงด้านข้างของปลายยอดส่วนที่เป็นขอบของความโค้ง ต่อไปจะพัฒนาเป็นใบอ่อน
57.
ใบอ่อน(young leaf) เป็นใบที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่เซลล์ของใบยังมีการแบ่งเซลล์และเจริญเติบโต บริเวณใบอ่อนจะมีตาตามซอกเริ่มเกิดซึ่งจะกลายเป็นกิ่ง
58.
ล้าต้นอ่อน(young stem) อยู่ถัดจากต้าแหน่งใบเริ่มเกิดลงมา เป็นล้าต้นระยะที่ยังเจริญไม่เต็มที่
ยังแบ่งเซลล์เพื่อเพิ่มจ้านวนและขยายขนาดต่อไปได้อีก
59.
60.
เอพิเดอร์มิส( Epidermis) อยู่ชันนอกสุดอาจเปลี่ยนแปลงไปเป็นขนหนามหรือเซลล์คุม
61.
เอพิเดอร์มิส( Epidermis) อยู่ชันนอกสุดอาจเปลี่ยนแปลงไปเป็นขนหนามหรือเซลล์คุม
62.
เอพิเดอร์มิส( Epidermis) อยู่ชันนอกสุดอาจเปลี่ยนแปลงไปเป็นขนหนามหรือเซลล์คุม
63.
โครงสร้ำงภำคตัดขวำงของลำต้น
64.
คอร์เทกซ์ ( Cortex) มีอาณาเขตแคบกว่าในราก
มีไม่กี่ชันเป็นพวกพาเรงคิงมาและคอลเลงคิมา เห็นไม่ค่อยชัดเจน(โดยเฉพาะใบเลียงเดี่ยว)
65.
โครงสร้ำงภำคตัดขวำงของลำต้น
66.
โครงสร้ำงภำคตัดขวำงของลำต้น
67.
สตีล( Stele) มีอาณาเขตกว้างกว่าในราก แบ่งออกจากชันของคอร์เทกซ์ได้ไม่ชัดเจนนัก
68.
ส่วนประกอบของสตีล( Stele) 1) กลุ่มท่อล้าเลียง(Vascular
Bundle) อยู่เป็นกลุ่มๆด้านในเป็นไซเลมด้านนอกเป็นโฟลเอ็ม ในใบเลียงคู่จะเรียงตัวในแนวรัศมีเดียวกันส่วนใบเลียงเดี่ยวจะกระจายตัว
69.
ส่วนประกอบของสตีล( Stele)
70.
โครงสร้ำงภำคตัดขวำงของลำต้น
71.
2) วาสคิวลาร์เรย์(Vascular Ray) พบในใบเลียงคู่เป็นเซลล์พาเรงคิมาที่อยู่ระหว่างกลุ่มท่อล้าเลียง เป็นจุดเชื่อมของพิธกับคอร์เทกซ์
72.
3) พิธ (Pith)
อยู่ชันในสุดที่ใจกลางของล้าต้นในใบเลียงเดี่ยวจะมองไม่เห็นขอบเขตของพิธ ประกอบด้วยเนือเยื่อพาเรงคิมาท้าหน้าที่สะสมแป้งหรือสารต่างๆ
73.
ช่องพิธ( PithCavity) พบในพืชใบเลียงเดี่ยวบางชนิดที่เมื่อมีอายุมากขึน พบว่าใจกลางของต้นจะสลายกลายเป็นช่องเช่นไผ่ และหญ้า
74.
ช่องพิธ( PithCavity)
75.
76.
การเจริญเติบโตขันที่2 (SecondaryGrowth) พบในพืชใบเลียงคู่บริเวณแคมเบียมท่อล้าเลียง(VascularCambium) โดยเซลล์ที่อยู่ไกลจากแคมเบียมท่อล้าเลียง ถือเป็นขันแรก(อายุมากกว่า)
77.
กำรเจริญเติบโตขั้นที่ 2 (Secondary
Growth)
78.
การเจริญเติบโตขันที่2 (SecondaryGrowth)
79.
วงปี (Annual ring) ในรอบ1
ปี จะมีการเจริญเติบโตขันที่ 2มากหรือน้อยตามปริมาณน้าและอาหาร น้าและแร่ธาตุมากไซเลมจะเจริญเร็ววงกว้างสีจาง น้าและแร่ธาตุน้อย ไซเลมจะเจริญช้า วงแคบสีเข้ม
80.
วงปี (Annual ring)
81.
วงปี (Annual ring)
82.
วงปี (Annual ring)
83.
84.
องค์ประกอบของเนือไม้ แก่นไม้(Heartwood) คือXylemที่มีอายุมากสุดจะอยู่ในสุดและจะไม่ท้าหน้าที่ล้าเลียงน้าอีก จะสีเข้มกว่าและแข็งแรงกว่าบริเวณอื่นๆ
85.
กระพีไม้ (SapWood) คือXylemที่ยังล้าเลียงน้าอยู่อยู่ถัดจากแก่นไม้มักจะมีสีจางกว่า
86.
องค์ประกอบของเนื้อไม้
87.
เปลือกไม้ (Bark) ส่วนที่อยู่ถัดจากVascular
Cambium ออกไปข้างนอก ในต้นไม้ที่มีอายุน้อยเปลือกไม้จะประกอบด้วยEpidermisCortexและPholem ต้นไม้ที่มีอายุมากจะประกอบด้วยCork CorkCambiumและPholemขันที่2
88.
เปลือกไม้ (Bark)
89.
เปลือกไม้ (Bark)
90.
องค์ประกอบของเนื้อไม้
91.
92.
93.
ล้าต้นเหนือดิน 1.1ไม้ยืนต้น(Tree) 1.2ต้นไม้พุ่ม(shrub) 1.3ต้นไม้ล้มลุก(herb) 1.4ล้าต้นเหนือดินที่เปลี่ยนแปลงไปท้าหน้าที่พิเศษ
94.
ชนิดของลำต้น
95.
ชนิดของลำต้น ต้นไม้พุ่ม (shrub)
96.
ชนิดของลำต้น ต้นไม้ล้มลุก (herb)
97.
1.4ล้าต้นเหนือดินที่เปลี่ยนแปลงไปท้าหน้าที่พิเศษ 1) ล้าต้นเลือย(creepingstem) เป็นล้าต้นที่ทอดหรือเลือยขนานไปตามผิวดินหรือน้า ตามข้อมักมีรากงอก เช่นผักบุ้ง
ผักตบชวาแตงโมฟักทองและสตอเบอรี่
98.
ลำต้นเหนือดินที่เปลี่ยนแปลงไปทำหน้ำที่พิเศษ ครีพพิง สเต็ม (creeping
stem)
99.
2) ล้าต้นไต่ (
Climbingstem) เป็นล้าต้นที่เลือยหรือไต่ขึนที่สูงพืชพวกนีมักมีล้าต้นอ่อน แบ่งออกเป็นชนิดต่างๆตามลักษณะของการไต่ได้ดังนี การพันเกลียว , มือเกาะ, รากไต่ , หนาม
100.
2) ล้าต้นไต่ (
Climbingstem) ก. การพันเกลียว(twiningstem) เช่นต้นถั่วต้นบอระเพ็ดและเถาวัลย์ต่างๆ
101.
ลำต้นเหนือดินที่เปลี่ยนแปลงไปทำหน้ำที่พิเศษ 2.1 ทวินนิง สเต็ม
(twining stem)
102.
2) ล้าต้นไต่ (
Climbingstem) ข. มือเกาะ(tendrilstem) เช่นต้นองุ่นบวบน้าเต้าฟักทองแตงกวา
103.
ลำต้นเหนือดินที่เปลี่ยนแปลงไปทำหน้ำที่พิเศษ 2.2 มือเกำะ (tendril
stem)
104.
2) ล้าต้นไต่ (
Climbingstem) ค.รากไต่ (Root climbing) มีรากที่งอกออกมาตามข้อเพื่อไต่ขึนที่สูงเช่นพริกไทยพลู และพลูด่าง
105.
2.3 รูท ไคลบบิง
(root climbing)
106.
2) ล้าต้นไต่ (
Climbingstem) ง. หนาม (stemspine) เช่นเฟื่องฟ้า มะนาว มะกรูด ไผ่ และไมยราบ
107.
2.4 หนำม (stem
spine)
108.
109.
แง่งหรือไรโซม(Rhizome) มีการสะสมอาหาร เช่นขมินขิง
ข่า
110.
ทูเบอะ(Tuber) เป็นล้าต้นใต้ดินที่เติบโตมาจากปลายไรโซมแต่จะอวบอ้วนกว่า เช่นหัวมันฝรั่งหัวมันมือเสือ
มันกลอย
111.
ทูเบอะ(Tuber)
112.
หัวกลีบหรือบัลบ์ (Bulb) บริเวณปล้องที่ล้าต้นมีใบเกล็ดที่ซ้อนกันหลายชันจนเห็นเป็นหัว
อาหารสะสมอยู่ในใบเกล็ดเช่นหัวหอมหัวกระเทียม
113.
บัลบ (bulb)
114.
บัลบ (bulb)
115.
บัลบ (bulb)
116.
คอร์ม(Corm) มีลักษณะล้าต้นคล้ายบัลบ์แต่จะมีอาหารละสมอยู่ในล้าต้นแทนใบเกล็ด เช่นเผือก,
แห้ว
117.
คอร์ม (Corm)
118.
คอร์ม (Corm)
Jetzt herunterladen