Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie การแจกแจงปกติ (20)
การแจกแจงปกติ
- 1. บทที่ 2
การแจกแจงปกติ
(20 ชั่วโมง)
ผลการเรียนรูที่คาดหวัง
1. นําความรูเรื่องคามาตรฐานไปใชในการเปรียบเทียบขอมูล
2. หาพื้นที่ใตเสนโคงปกติและนําความรูเกี่ยวกับพื้นที่ใตเสนโคงปกติไปใชได
ขอเสนอแนะ
1. ความสําคัญของคะแนนมาตรฐาน
คะแนนมาตรฐานจะบอกใหทราบวาคาสังเกตนันๆ อยูหางจากคาเฉลียเลขคณิตเปนกีเ่ ทา
้ ่
ของสวนเบียงเบนมาตรฐาน และอยูในทิศทางใดเมือเทียบกับคาเฉลีย เนืองจาก Z = X − µ
่ ่ ่ ่
σ
คาสังเกตทีมคามากกวาคาเฉลียจะมีคะแนนมาตรฐานเปนบวกสวนคาสังเกตทีมคานอยกวา
่ี ่ ่ี
คาเฉลียเลขคณิตจะมีคะแนนมาตรฐานเปนลบ คาสังเกตทีมคาเทากับคาเฉลียเลขคณิตพอดีจะมีคะแนนมาตรฐาน
่ ่ี ่
เปนศูนย
สวนใหญแลวเราจะแปลงคาสังเกตหรือหาคะแนนมาตรฐานของคาสังเกตแตละชุดทีมี ่
การแจกแจงแบบสมมาตรเพือใหมมาตรวัดเดียวกันเนืองจากคะแนนมาตรฐานเปนคะแนนทีไมมหนวย
่ ี ่ ่ ี
จากนั้นจึงทําการเปรียบเทียบคาสังเกตโดยพิจารณาจากคะแนนมาตรฐานของคาสังเกตนั้นๆ เชน
เปรียบเทียบสวนสูงของนักเรียนสองคนที่มีอายุตางกันโดยการแปลงสวนสูงของนักเรียนแตละคน
ใหเปนคะแนนมาตรฐานเมื่อเทียบกับคาเฉลี่ยเลขคณิตและสวนเบี่ยงเบนมาตรฐานของนักเรียนใน
กลุมอายุนั้น ๆ คะแนนมาตรฐานของสวนสูงจะบอกใหทราบวานักเรียนแตละคนมีความสูงอยูใน
ตําแหนงใดในการแจกแจงของกลุมนักเรียนอายุเดียวกันนั้น
การแปลงหรือหาคะแนนมาตรฐานเปนการแปลงแบบเชิงเสน (linear transformation)
การแปลงแบบเชิงเสนนี้ไมทําใหการแจกแจงของคาสังเกตกอนและหลังการแปลงเปลี่ยนแปลงไป
และคาเฉลียเลขคณิตและสวนเบียงเบนมาตรฐานของขอมูลหลังการแปลงก็หาไดโดยวิธงายๆ อนึงคาทีได
่ ่ ี ่ ่
จากการแปลงแบบเชิ ง เสนของขอมูลที่มีการแจกแจงแบบปกติจะยังคงมีการแจกแจงแบบปกติ
นอกจากนี้คะแนนมาตรฐานของการแจกแจงแบบใดๆ ก็ตามที่คํานวณจากขอมูลประชากรทั้งหมด
(กลาวคือใชสตร Zi = Xi − µ เมื่อ i คือ 1, 2, 3, ..., N) คะแนนมาตรฐานนั้นจะมีคาเฉลี่ยเลขคณิต
ู
σ
( µ ) เปน 0 และสวนเบียงเบนมาตรฐาน ( σ ) เปน 1 ทําใหไดวาคะแนนมาตรฐานจากขอมูลเดิมทีมการ
่ ่ี
แจกแจงแบบปกติมีคาเฉลี่ยเลขคณิต µ และสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน σ ที่มีคาใดๆ จะมีการแจกแจง
แบบปกติที่มีคาเฉลี่ยเลขคณิต µ = 0 และสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน σ = 1
- 2. 68
การแจกแจงของคะแนนมาตรฐานของขอมูลไมจาเปนตองมีการแจกแจงแบบปกติ ขึนอยูกบ
ํ ้ ั
ลักษณะของขอมูลชุดนั้นๆ เวนเสียแตวาขอมูลเดิมมีการแจกแจงแบบปกติ
2. ตารางแจกแจงความนาจะเปนสะสมของการแจกแจงแบบปกติมาตรฐานมีหลายแบบ
กลาวคือ
(1) แสดงเพียงครึ่งดานขวาการแจกแจง โดยแสดงคา z ที่เปนศูนยเปนตนไป (z ≥ 0)
และคาที่แสดงคือพื้นที่ใตเสนโคงที่เริ่มจาก z = 0 ถึง คา z ที่ตองการ ใหสังเกตเมื่อ z = 0.00 คาที่
แสดงคือ .0000
(2) แสดงเพียงดานขวาของการแจกแจง โดยแสดงคา z ที่เปนศูนยเปนตนไป และ
คาที่แสดงคือพื้นที่ใตเสนโคงที่เริ่มจาก z = − ∞ ถึง คา z ที่ตองการ ใหสังเกตเมื่อ z = 0.00 คาที่
แสดงคือ .5000
- 3. 69
(3) แสดงการแจกแจงทั้งหมด โดยแสดงคา z ที่เปนลบดวย เชน –3.40 เปนตนไป
และคาที่แสดงคือพื้นที่ใตเสนโคงที่เริ่มจาก z = − ∞ ถึง คา z ที่ตองการ
3. การแจกแจงของขอมูลมีหลายชนิด การแจกแจงของอายุการใชงาน มักมีการแจกแจงแบบอืนทีไมใช
่ ่
แบบปกติ เชน การแจกแจงแบบชีกาลัง การแจกแจงแบบสม่าเสมอ
้ํ ํ
การแจกแจงแบบปกติ (normal) การแจกแจงแบบสม่ําเสมอ (uniform)
การแจกแจงแบบชี้กําลัง (exponential)
- 4. 70
กิจกรรมเสนอแนะ
กิจกรรมที่ 1 คะแนนมาตรฐาน
ใหนักเรียนเก็บขอมูลคะแนนสอบวิชาใดวิชาหนึ่งของทุกคนในหองแปลงคะแนนดิบ
เหลานั้นใหเปนคะแนนมาตรฐานโดยสูตร Zi = Xi − µ (หรือใหนักเรียนแตละคนหาคะแนน
σ
มาตรฐานของคะแนนสอบทีตนเองได โดยผูสอนคํานวณคาเฉลียเลขคณิตและสวนเบียงเบนมาตรฐาน
่ ่ ่
ไวให) จากนั้นใหรวมกันตอบคําถามตอไปนี้
1. มีนกเรียนกีคนทีไดคะแนนมาตรฐานเปนบวก คิดเปนรอยละเทาใดของนักเรียนทังหมด
ั ่ ่ ้
และคะแนนมาตรฐานที่เปนบวกนี้หมายความวาอยางไร
2. มีนกเรียนกีคนทีไดคะแนนมาตรฐานเปนลบ คิดเปนรอยละเทาใดของนักเรียนทังหมด
ั ่ ่ ้
และคะแนนมาตรฐานที่เปนลบนี้หมายความวาอยางไร
3. ผูที่ไดคะแนนมาตรฐานระหวาง –1 ถึง 1 มีกี่คน คิดเปนรอยละเทาใดของทั้งหมด
และผูที่ไดคะแนนในชวงนี้หมายความวาอยางไร
4. ตีความหมายคะแนนมาตรฐานของนักเรียนแตละคน
5. หาคาเฉลียเลขคณิต ( µ ) และหาสวนเบียงเบนมาตรฐาน ( σ ) ของคะแนนมาตรฐาน
่ ่
ของนักเรียนทังหอง (ใหใชสตรทีคานวณจากขอมูลระดับประชากร) สังเกตคาเฉลียเลขคณิตและสวน
้ ู ่ํ ่
เบียงเบนมาตรฐานของคะแนนมาตรฐานวามีคาเฉลี่ยเลขคณิตเปนศูนยและสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
่
เปนหนึ่งหรือไม
แนวคิดในการทํากิจกรรมนี้ หากนักเรียนในหองมีจานวนมากพอและการแจกแจงของคะแนน
ํ
สอบคอนขางสมมาตรหรือใกลเคียงกับการแจกแจงแบบปกติ ผูที่ไดคะแนนมาตรฐานเปนบวกและ
ลบจะมีพอๆ กัน หรือรอยละ 50 ของนักเรียนทั้งหมด (ถามีการแจกแจงเปนแบบปกติจริง) ผูที่มี
คะแนนมาตรฐานอยูระหวาง –1 ถึง 1 ควรมีประมาณ รอยละ 68 อยางไรก็ตามไมวาการแจกแจง
ของคะแนนสอบจะเปนอยางไร คาเฉลียเลขคณิตของคะแนนมาตรฐานจะตองเปนศูนยและสวนเบียง
่ ่
เบนมาตรฐานของคะแนนมาตรฐานตองเปนหนึงเสมอ่
หมายเหตุ คาสของ Zi ขางตน อาจเรียกไดหลายชื่อ เชน คะแนน z (z score) หรือคา z (z value)
หรือคะแนนมาตรฐาน (standard score) หรือ คามาตรฐาน ซึ่งเปนชื่อกลาง ๆ ใชไดทั่วไป
ไมวาคาของ xi จะเปนคะแนนหรือไมเปนคะแนน เชนอาจเปนน้ําหนักตัว หรือ ราคา
สินคา ฯลฯ
กิจกรรมที่ 2 รูปกราฟของการแจกแจงแบบปกติ
หากนักเรียนสามารถเขาถึงอินเทอรเน็ตได ใหคนและศึกษารูปการแจกแจงแบบปกติที่มี
คาเฉลี่ยเลขคณิตตางๆ และสวนเบี่ยงเบนมาตรฐานตางๆ เปรียบเทียบกับการแจกแจงแบบปกติ
มาตรฐานที่มีคาเฉลี่ยเลขคณิตเปนศูนยและสวนเบี่ยงเบนมาตรฐานเปนหนึ่ง
เว็บไซตทแนะนํา ซึงมีภาพเคลือนไหวแสดงรูปรางของการแจกแจงแบบปกติตางๆ รวมทัง
ี่ ่ ่ ้
ความสัมพันธกับฟงกชันของการแจกแจงแบบปกติเมื่อกําหนดคาเฉลี่ยเลขคณิตและสวนเบี่ยงเบน
- 5. 71
มาตรฐานไดแก http://davidmlane.com/hyperstat/normal_distribution.html แลวคลิกที่ Flash Demo by
Juha Puranen ภายใตหัวขอ Other Sites หรือไปที่ http://noppa5.pc.helsinki.fi/koe/flash/flash.html โดย
ตรง ไปที่หัวขอ Distributions จากนั้นเลือก Normal distribution
กิจกรรมที่ 3 (เพิ่มเติมในกรณีท่มีเวลาพิเศษ)
ี
ใหนกเรียนลองหาพืนทีใตเสนโคงปกติมาตรฐาน กรณีทมตารางแจกแจงความนาจะเปนสะสม
ั ้ ่ ี่ ี
แบบตางๆ ตามที่เสนอไวในขอเสนอแนะ
การประเมินผล
เนืองจากในการเรียนการสอนเรือง การแจกแจงแบบปกติ ใหความสําคัญกับการนําความรู
่ ่
เรืองคามาตรฐานไปใชในการเปรียบเทียบขอมูล และการหาพืนทีใตเสนโคงปกติและนําความรูเ กียวกับ
่ ้ ่ ่
พื้นที่ใตเสนโคงปกติไปใชได ดังนั้นในการประเมินผลผูสอนอาจประเมินจากแบบฝกหัด ขอสอบที่
เนนการนําความรูเรื่องคามาตรฐานไปใชในการเปรียบเทียบขอมูล ความหมายของคามาตรฐานที่
คํานวณได ความสัมพันธระหวางคะแนนดิบและคะแนนมาตรฐาน และการหาพื้นที่ใตเสนโคงปกติ
นอกจากนั้นอาจประเมินผลโดยพิจารณาจากกิจกรรมกลุมที่ใหคํานวณคะแนนมาตรฐาน
ความหมายของคาทีได และการหาพืนทีใตเสนโคงปกติมาตรฐานกรณีทมตารางแจกแจงความนาจะเปน
่ ้ ่ ี่ ี
สะสมแบบตางๆ หากมีเวลาในการสอนเพิ่มเติมเกี่ยวกับตารางเหลานี้
ตัวอยางแบบทดสอบประจําบท
1. สมมุติวา คะแนนทดสอบ IQ สําหรับผูที่มีอายุระหวาง 20 ถึง 34 ป มีการแจกแจงที่
ประมาณไดวาเปนแบบปกติที่มีคาเฉลี่ยเลขคณิต ( µ ) 110 และ สวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( σ ) 25
1.1 จะมีรอยละเทาใดของผูที่อยูในชวงอายุน้ที่มีคะแนน IQ มากกวา 160
ี
1.2 รอยละ 95 ของผูที่มีอายุในชวงนี้ ซึ่งเปนรอยละที่อยูชวงกลางของการแจกแจงมี
คะแนน IQ อยูระหวางคาใด
2. ถาเด็กหญิงคนหนึ่งสอบ SAT วิชาคณิตศาสตรได 680 คะแนน สมมุติวาคะแนนสอบ
SAT นี้มีก ารแจกแจงแบบปกติที่มีคา เฉลี่ยเลขคณิต 500 คะแนน และสวนเบี่ย งเบนมาตรฐาน
100 คะแนน และถาเด็ก ชายคนหนึ่ง ทําคะแนนสอบ ACT วิชาคณิตศาสตรได 27 คะแนน สมมุติ
วาคะแนนสอบ ACT นีมการแจกแจงแบบปกติทมคาเฉลียเลขคณิต 18 คะแนน และสวนเบี่ยงเบน
้ ี ี่ ี ่
มาตรฐาน 6 คะแนน ถาการทดสอบทังสองแบบวัดความสามารถ เชิงคณิตศาสตรแบบเดียวกัน เด็ก
้
ชายหรือเด็กหญิง มีคะแนนสอบดีกวากัน
3. จงใชตารางแจกแจงปกติมาตรฐาน เขียนรูปและแรเงาพืนทีใตโคงเพื่อตอบคําถามตอไปนี้
้ ่
3.1 พื้นที่ใตโคงที่มคา z < 2.85
ี
3.2 พื้นที่ใตโคงที่มคา z > 2.85
ี
- 6. 72
3.3 พื้นที่ใตโคงที่มีคา z > –1.66
3.4 พื้นที่ใตโคงที่มีคา –1.66 < z < 2.85
4. สมมุตวาความกวางของศีรษะของผูขับขี่มอเตอรไซตรับจางมีการแจกแจงแบบปกติที่
ิ
มีคาเฉลี่ยเลขคณิต 22.8 นิ้วและสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.1 นิ้ว ในการทําหมวกกันน็อคตองทํา
คราวละมากๆ ใหทกคนใสไดยกเวนผูทมความกวางของศีรษะเล็กเกินไป หรือใหญเกินไป กลุมละ 5%
ุ ี่ ี
ซึ่งจะตองสั่งเปนพิเศษ อยากทราบวาผูที่มีขนาดศีรษะเทาใดที่จะตองสั่งหมวกกันน็อคเปนพิเศษ
5. เครื่องกดน้ําอัดลมเครื่องหนึ่งไดถูกตั้งไวใหจายน้ําอัดลมโดยเฉลี่ย 7.00 ออนซ ตอถวย
สมมุติวาสวนเบี่ยงเบนมาตรฐานของน้ําอัดลมที่จายคือ 0.10 ออนซ และปริมาณน้ําอัดลมที่จายมีการ
แจกแจงแบบปกติจงหา
5.1 เปอรเซ็นตทเี่ ครืองกดน้าอัดลมนีจะจายน้าอัดลมระหวาง 7.10 ถึง 7.25 ออนซ
่ ํ ้ ํ
5.2 เปอรเซ็นตที่เครื่องกดน้ําอัดลมนี้จะจายน้ําอัดลมอยางนอย 7.25 ออนซ
5.3 เปอรเซ็นตทเี่ ครืองกดน้าอัดลมนีจะจายน้าอัดลมระหวาง 6.80 ถึง 7.25 ออนซ
่ ํ ้ ํ
6. ถาฉลากขางกระปองของแฮมที่นําเขามาจากตางประเทศระบุวามีน้ําหนัก 9.00 ปอนด
แตในการตรวจสอบพบวาน้ําหนักที่ซึ่งไดมีการแจกแจงแบบปกติที่มีคาเฉลี่ย เลขคณิต 9.20 ปอนด
และสวนเบียงเบนมาตรฐาน 0.25 ปอนด จงหาวา
่
6.1 จะมีแฮมบรรจุกระปองทีมนาหนักนอยกวาน้าหนักทีระบุไวบนฉลากในสัดสวนเทาใด
่ ี ้ํ ํ ่
6.2 ถาบริษัทที่นําเขาตองการลดสัดสวนของแฮมบรรจุกระปองที่มีน้ําหนักนอยกวาที่
ระบุไวบนฉลากโดยมีทางเลือกสองทางไดแก
วิธที่ 1 เพิมน้าหนักโดยเฉลียใหเปน 9.25 ปอนดโดยใหสวนเบียงเบนมาตรฐานมีคาคงเดิม
ี ่ ํ ่ ่
วิธีที่ 2 ลดสวนเบี่ยงเบนมาตรฐานเปน 0.15 ปอนดโดยใหน้ําหนักเฉลี่ยมีคาคงเดิม
ทานจะแนะนําใหใชทางเลือกใด
7. ถายอดขายประจําปของนวนิยายเรื่องหนึ่งมีการแจกแจงแบบปกติแตไมทราบคาเฉลี่ย
เลขคณิตและสวนเบียงเบนมาตรฐาน อยางไรก็ตามจากขอมูลทีเ่ ก็บมาทราบวารอยละ 40 ของทังหมดมี
่ ้
ยอดขายเกิน 470,000 บาท และรอยละ 10 ของทังหมดมียอดขายเกิน 500,000 บาท แลวคาเฉลียเลขคณิต
้ ่
และสวนเบี่ยงเบนมาตรฐานของยอดขายควรมีคาเทาใด
8. ถาคะแนนสอบเชาวปญญาของผูทมอายุ 20 ถึง 34 ป และผูทมอายุ 60 ถึง 64 ป มีการแจก
ี่ ี ี่ ี
แจงปกติโดยประมาณ โดยกลุมทีมอายุ 20 ถึง 34 ป มีคาเฉลียเลขคณิต 110 คะแนน สวนเบียงเบนมาตร
่ ี ่ ่
ฐาน 25 คะแนน และกลุมทีมอายุ 60 ถึง 64 ป มีคาเฉลียเลขคณิต 90 คะแนน สวนเบียงเบนมาตรฐาน 25
่ ี ่ ่
คะแนน
นางสาวชวนชืนมีอายุ 30 ป สอบไดคะแนน 135 คะแนน ในขณะทีนางชวนชมซึงเปนแม
่ ่ ่
มีอายุ 62 ป สอบได 120 คะแนน ใครสอบไดคะแนนดีกวากันเมือเปรียบเทียบกับผูสอบในกลุมอายุ
่
นั้นๆ (รอยละของผูที่ไดคะแนนต่ํากวาชวนชื่นและชวนชมในกลุมอายุนั้นๆ เปนเทาใด)
- 7. 73
9. พืนทีใตโคงปกติมาตรฐานตังแตควอรไทลทหนึงไปทางดานซายมือมีพนทีเ่ ทาใด ควอรไทลทหนึง
้ ่ ้ ี่ ่ ื้ ี่ ่
และควอรไทลที่สามของการแจกแจงแบบปกติมาตรฐานมีคาเทาใด
เฉลยแบบทดสอบประจําบท
1. 1.1 ประมาณ 2.28 %
1.2 ระหวาง 60 ถึง 160
2. เด็กหญิงมีคะแนนมาตรฐาน 1.8 สวนเด็กชายมีคะแนนมาตรฐาน 1.5 ดังนั้นเด็กหญิงสอบได
คะแนนดีกวาเด็กชาย
3. 3.1 พื้นที่ใตโคงคือ 0.9978
3.2 พื้นที่ใตโคงคือ 0.0022
3.3 พื้นที่ใตโคงคือ 0.9515
3.4 พื้นที่ใตโคงคือ 0.9493
4. ผูที่มีขนาดศีรษะนอกชวง 22.8 ± 1.81 นิ้ว หรือผูที่มีศีรษะเล็กกวา 21 นิ้ว หรือใหญกวา 24.6 นิ้ว
โดยประมาณจะตองสั่งหมวกกันน็อคเปนพิเศษ
5. 5.1 15.25% (จากคา z เทากับ 1 ถึง 2.5)
5.2 0.62%
5.3 97.10% (จากคา z เทากับ -2 ถึง 2.5)
6. 6.1 รอยละ 21.19
6.2 การเพิ่มน้ําหนักเฉลี่ย ทําใหไดคา z เทากับ –1.00 และใหคาสัดสวนคือ 0.1587
การลดสวนเบี่ยงเบนมาตรฐานทําใหไดคา z เทากับ –1.33 และใหคาสัดสวนคือ 0.0918
ดังนั้นการลดสวนเบี่ยงเบนมาตรฐานลงจะเปนทางเลือกที่ดีกวาเพราะทําใหมีสดสวนของ
ั
แฮมบรรจุกระปองที่มีน้ําหนักต่ํากวามาตรฐานนอยกวา
470, 000 − µ 500, 000 − µ
7. จาก = 0.25 และ = 1.28 ทําใหไดคาเฉลี่ยเทากับ 462,719 บาท
σ σ
และสวนเบี่ยงเบนมาตรฐานเทากับ 29,126 บาทโดยประมาณ
8. คะแนนมาตรฐานของชวนชื่นคือ 1 ขณะที่คะแนนมาตรฐานของชวนชมคือ 1.2 ดังนั้นแมของ
ชวนชืนมีคะแนนสัมพัทธทสงกวา (แตชวนชืนมีคะแนนดิบสูงกวา) หรือพิจารณาจากเปอรเช็นไทล
่ ่ี ู ่
ของชวนชื่นคือ 84 ขณะที่เปอรเซ็นไทลของชวนชมคือ 88.5 โดยประมาณ
9. พืนทีนบตังแตควอรไทลทหนึงไปทางซายมือของการแจกแจงแบบใดๆ ตองเปน 0.2500 ควอรไทล
้ ่ ั ้ ี่ ่
ที่หนึ่งและควอรไทลที่สามของการแจกแจงแบบปกติมาตรฐานคือ –0.675 และ 0.675 โดย
ประมาณ
- 8. 74
เฉลยแบบฝกหัด 2.1
75 − 70
1. คามาตรฐานของคะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรของวิชัยในชั้น ม.3 15 =
= 1
3
80 − 80
คามาตรฐานของคะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรของวิชัยในชั้น ม.4 = 20
= 0
คามาตรฐานของคะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรของวิชัยในชั้น ม.3 สูงกวาคามาตรฐานของ
คะแนนในชั้น ม.4 แสดงวาวิชัยเรียนคณิตศาสตรในชั้น ม.3 ไดดีกวา
12 − µ
2. ถาให µ คือคาเฉลี่ยเลขคณิตจะไดวา 1 = 1.1
µ = 12 – 1.1
µ = 10.9
ดังนั้น คาเฉลี่ยเลขคณิตของเวลาที่ใชในการวิ่งของนักกีฬาทั้งหมดเปน 10.9 วินาที
80 − 85 1
3. คามาตรฐานของคะแนนสอบวิชาภาษาไทย = 15 = −
3
60 − 75 3
คามาตรฐานของคะแนนสอบวิชาภาษาอังกฤษ = 20 = −
4
70 − 65
คามาตรฐานของคะแนนสอบวิชาวิทยาศาสตร = 5 = 1
ดังนั้น จิตราเรียนวิชาวิทยาศาสตรไดดีที่สุด
x − 25
4. คามาตรฐานของอายุคนงาน 2 = 2
x = 4 + 25
x = 29
ดังนั้น คนงานที่มีอายุต้งแต 29 ปขึ้นไป จึงจะมีโอกาสไดรับเลือกเขาเปนคนงานของโรงงานนี้
ั
70 − 70
5. คามาตรฐานของวิชาที่ 1 ของนาย ก = 5 = 0
75 − 70 1
คามาตรฐานของวิชาที่ 2 ของนาย ก = 10 = 2
75 − 80 1
คามาตรฐานของวิชาที่ 3 ของนาย ก = 15 = −
3
- 9. 75
0+ 1 −1
2 3
ดังนั้น คามาตรฐานเฉลี่ยของวิชาที่ 1, 2 และ 3 ของนาย ก = 3
= 1
18
75 − 70
คามาตรฐานของวิชาที่ 1 ของนางสาว ข = 5 = 1
50 − 70
คามาตรฐานของวิชาที่ 2 ของนางสาว ข = 10 = –2
95 − 80
คามาตรฐานของวิชาที่ 3 ของนางสาว ข = 15 1=
1− 2 +1
ดังนั้น คามาตรฐานเฉลี่ยอขงวิชาที่ 1, 2 และ 3 ของนางสาว ข = 3
= 0
แตเกณฑของหนวยงานผูสอบคัดเลือกไดจะตองไดคามาตรฐานเฉลี่ยของคะแนนทั้ง 3 วิชา
ไมต่ํากวา 0
ดังนั้น นาย ก และนางสาว ข จะสอบคัดเลือกไดทั้งสองคน
650 − µ
6. ถาคาเฉลี่ยเลขคณิตคือ µ และสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน คือ σ จะไดวา 3 =
σ
µ + 3σ = 650 (1)
540 − µ
และ 1.9 =
σ
µ + 1.9σ= 540 (2)
จาก (1) และ (2) จะได 1.1σ = 110
σ = 100
และ µ = 650 – 300
µ = 350
ดังนั้น คาเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนสอบคือ 350 คะแนน และสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ของคะแนนสอบคือ 100 คะแนน
90 − 289
7. (1) คามาตรฐานของผูปวยโรคหัวใจในรัฐอลาสกา = 54
= –3.69
ดังนั้น โรคหัวใจในรัฐอลาสกาจะมีความรุนแรงนอยกวารัฐอื่น ๆ
- 10. 76
240 − 289
(2) คามาตรฐานของผูปวยโรคหัวใจในรัฐคาลิฟอรเนีย = 54
= –0.91
166 − 200
คามาตรฐานของผูปวยโรคมะเร็งในรัฐคาลิฟอรเนีย = 31
= –1.10
ดังนั้น ในรัฐคาลิฟอรเนียโรคหัวใจมีความรุนแรงมากกวาโรคมะเร็ง เมื่อเทียบกับที่พบ
ในรัฐอื่น ๆในระดับประเทศ
x i −µ
8. เนื่องจาก zi =
σ
x − 20
(1) 2 = 5
x = 10 + 20
x = 30
x − 25
(2) –1 = 3
x = –3 + 25
x = 22
x − 100
(3) –1.5 = 10
x = –15 + 100
x = 85
x − ( −10 )
(4) 2.5 =
0.2
0.5 = x + 10
x = 0.5 – 10
x = –9.5
- 11. 77
เฉลยแบบฝกหัด 2.2
1. (1) ให x เปนคาของขอมูล โดยกําหนดให µ = 400 และ σ = 100
x −µ
จาก z =
σ
538 − 400
จะได z = 100
= 1.38
0 1.38 Z
จากตารางพื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 1.38 เทากับ 0.4162
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติเมื่อ z > 1.38 เทากับ 0.5 – 0.4162 = 0.0838
นั่นคือ มีขอมูล 8.38% ของขอมูลทั้งหมด มีคามากกวา 538
179 − 400
(2) จะได z = 100
= –2.21
Z
-2.21 0
จะไดพื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = –2.21 ถึง z = 0 เทากับ 0.4864
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ z > –2.21 เทากับ 0.5 + 0.4865 = 0.9864
นั่นคือ มีขอมูล 98.64% ของขอมูลทั้งหมด มีคามากกวา 179
- 12. 78
356 − 400
(3) จะได z = 100
= –0.44
Z
-0.44 0
จะไดพื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = –0.44 ถึง z = 0 เทากับ 0.1700
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ z < –0.44 เทากับ 0.5 – 0.1700 = 0.3300
นั่นคือ มีขอมูล 33% ของขอมูลทั้งหมด มีคานอยกวา 356
621 − 400
(4) จะได z = 100
= 2.21
Z
0 2.21
จากตารางพื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 2.21 เทากับ 0.4864
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปก เมื่อ z < 2.21 เทากับ 0.5 + 0.4864 = 0.9864
นั่นคือ มีขอมูล 98.65% ของขอมูลทั้งหมด มีคานอยกวา 621
- 13. 79
318 − 400
(5) จะได z1 = 100 = –0.82
671 − 400
z2 = 100 = 2.71
Z
-0.82 0 2.71
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 2.71 เทากับ 0.4966
จะไดพ้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = –0.82 ถึง z = 0 เทากับ 0.2939
ื
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ –0.82 < z < 2.71 เทากับ 0.4966 + 0.2939 = 0.7905
นั่นคือ มีขอมูล 79.05% ของขอมูลทั้งหมด มีคาระหวาง 318 และ 671
484 − 400
(6) จะได z1 = 100 = 0.84
565 − 400
z2 = 100 = 1.65
Z
0 0.84 1.65
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 0.84 เทากับ 0.2995
จะไดพ้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 1.65 เทากับ 0.4505
ื
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ 0.84 < z < 1.65 เทากับ 0.4505 – 0.2995 = 0.1510
นั่นคือ มีขอมูล 15.09% ของขอมูลทั้งหมด มีคาระหวาง 484 และ 565
- 14. 80
249 − 400
(7) จะได z1 = 100 = –1.51
297 − 400
z2 = 100 = –1.03
Z
-1.51 -1.03 0
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = –1.51 ถึง z = 0 เทากับ 0.4345
จะไดพ้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = –1.03 ถึง z = 0 เทากับ 0.3485
ื
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ –1.51 < z < –1.03 เทากับ 0.4345 – 0.3485 = 0.0860
นั่นคือ มีขอมูล 8.6% ของขอมูลทั้งหมด มีคาระหวาง 249 และ 297
2. (1) ให x เปนน้ําหนักของกาแฟ (กรัม) โดยกําหนด µ = 115.5 และ σ = 0.3
x −µ
จาก z =
σ
115 − 115.5
จะได z1 = 0.3 ≈ –1.667
115.5 − 115.5
z2 = 0.3 = 0
Z
-1.667 0
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 1.66 เทากับ 0.4515
และ z = 0 ถึง z = 1.67 เทากับ 0.4525
จะไดพื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 1.667 เทากับ
0.001 × 0.007
0.4515 + ⎛ 0.01 ⎞ = 0.4522
⎜ ⎟
⎝ ⎠
- 15. 81
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ –1.667 < z < 0 เทากับ 0.4522
นั่นคือ มีขวดกาแฟ 45.22% ของขวดกาแฟทั้งหมด ที่กาแฟในแตละขวดมีน้ําหนัก
ระหวาง 115 กรัม และ 115.5 กรัม
114.9 − 115.5
(2) จะได z1 = 0.3 = –2
115.5 − 115.5
z2 = 0.3 = 0
Z
-2 0
จะไดพ้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ –2 < z < 0 เทากับ 0.4772
ื
นั่นคือ มีขวดกาแฟ 47.72% ของกาแฟทั้งหมดที่กาแฟในแตละขวดมีน้ําหนักระหวาง
114.9 กรัม และ 115.5 กรัม
115.2 − 115.5
(3) จะได z1 = 0.3 = –1
115.9 − 115.5
z2 = 0.3 ≈ 1.333
Z
-1 0 1.333
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 1.33 เทากับ 0.4082
และ z = 0 ถึง z = 1.34 เทากับ 0.4099
จะได พื้นที่เสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 1.333 เทากับ
0.0017 × 0.003
0.4082 + ⎛ 0.01 ⎞ = 0.4087
⎜ ⎟
⎝ ⎠
- 16. 82
และพื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = –1 ถึง z = 0 เทากับ 0.3413
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ –1 < z < 1.333 เทากับ 0.4087 + 0.3413 = 0.75
นั่นคือ มีขวดกาแฟ 75% ของกาแฟทั้งหมดที่กาแฟในแตละขวดมีน้ําหนักระหวาง
115.2 กรัม และ 115.9 กรัม
114.7 − 115.5
(4) จะได z1 = 0.3 ≈ –2.667
115 − 115.5
z2 = 0.3 ≈ –1.667
Z
-2.667 -1.667 0
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 2.66 เทากับ 0.4961
และ z = 0 ถึง z = 2.67 เทากับ 0.4962
จะได พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 2.667 เทากับ 0.4961+0.00007=0.49617
และพื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 1.667 เทากับ 0.4522
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ –2.667 < z < –1.667 เทากับ 0.49617–0.4522 = 0.0440
นั่นคือ มีขวดกาแฟ 4.4% ของกาแฟทั้งหมด ที่กาแฟในแตละขวดมีน้ําหนักระหวาง
114.7 กรัม และ 115 กรัม
115.5 − 115.5
(5) จะได z = 0.3 = 0
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ z > 0 เทากับ 0.5
นั่นคือ มีขวดกาแฟ 50% ของกาแฟทั้งหมดที่กาแฟในแตละขวดมีน้ําหนักมากกวา
115.5 กรัม
Z
0
- 17. 83
115 − 115.5
(6) จะได z = 0.3 ≈ –1.667
จะได พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 1.667 เทากับ 0.4522
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ z < –1.667 เทากับ 0.5 – 0.4522 = 0.0478
นั่นคือ มีขวดกาแฟ 4.78% ขวดกาแฟทั้งหมดที่กาแฟในแตละขวดมีน้ําหนักมากกวา
115 กรัม
Z
-1.667 0
3. (1) ให x เปนคะแนนสอบของนายไผท โดยกําหนด µ = 64 และ σ =8
x − µ
จาก z =
σ
62 − 64
จะได z = 8 = –0.25
Z
-0.25 0
จะได พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = –0.25 ถึง z = 0 เทากับ 0.0987
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ z < –0.25 เทากับ 0.5 – 0.0987 = 0.4013
นั่นคือ ตําแหนงเปอรเซ็นไทลของคะแนนไผท คือ 40.13 ในกลุมนักเรียนชาย
- 18. 84
(2) ให x เปนคะแนนสอบของอาภัสรา โดยกําหนด µ = 60 และ σ = 10
73 − 60
จาก z = 10 = 1.3
จะได พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 1.3 เทากับ 0.4032
Z
0 1.3
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ z < 1.3 เทากับ 0.5 + 0.4032 = 0.9032
นั่นคือ ตําแหนงเปอรเซ็นไทลของคะแนนอาภัสรา คือ 90.32 ในกลุมนักเรียนหญิง
คะแนนของอาภัสราในกลุมนักเรียนชาย โดยกําหนด
73 − 64
จะได z = 8 = 1.125
Z
0 1.125
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 1.12 เทากับ 0.3686
และ z = 0 ถึง z = 1.13 เทากับ 0.3708
0.0022 × 0.005
จะไดพื้นที่ใตเสนโคงระหวาง z = 0 ถึง z = 1.125 เทากับ 0.3686 + ⎛ 0.01 ⎞
⎜ ⎟
⎝ ⎠
= 0.3697
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ z < 1.125 เทากับ 0.5 + 0.3697 = 0.8697
นั่นคือ ตําแหนงเปอรเซ็นไทลของคะแนนอาภัสรา คือ 86.97 ในกลุมนักเรียนชาย
- 19. 85
4. (1) ให x เปนคะแนนที่เปนเปอรเซ็นไทลที่ 25
จะไดพื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง P25 เทากับ 0.25
0.25
Z
P25 0
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.2518 คา z เทากับ 0.68
พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.2486 คา z เทากับ 0.67
0.01 × 0.0014
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.25 คา z เทากับ 0.67 + ⎛ 0.0032 ⎞ ≈ 0.6744
⎜ ⎟
⎝ ⎠
x − µ
จาก z =
σ
x − 72
–0.6744 = 12
x = 72 – 8.0928
x = 63.91
นั่นคือ คะแนน ที่เปนเปอรเซ็นไทลที่ 25 คือ 63.91
(2) ให x เปนคะแนนที่เปนเปอรเซ็นไทลที่ 90
จะไดพื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง P90 เทากับ 0.90 – 0.5 = 0.4
Z
0 P90
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.4015 คา z เทากับ 1.29
พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.3997 คา z เทากับ 1.28
0.01 ×0.0003
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.4 คา z เทากับ 1.28 + ⎛ 0.0018 ⎞
⎜ ⎟ ≈ 1.2817
⎝ ⎠
- 20. 86
x − 72
จาก 1.2817 = 12
x = 72 + 15.3804
x = 87.38
นั่นคือ คะแนนที่เปนเปอรเซ็นไทลที่ 90 คือ 87.38
5. ให x เปนความหนาของแผนพลาสติก
x −µ
จาก z =
σ
0.0595 − 0.0625
จะได z1 = 0.0025 = –1.2
0.0659 − 0.0625
z2 = 0.0025 = 1.36
Z
-1.2 0 1.36
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 1.36 เทากับ 0.4131
และจะไดพื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 1.2 เทากับ 0.3849
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ –1.2 < z < 1.36 เทากับ 0.4131 + 0.3849 = 0.7980
นั่นคือ มีแผนพลาสติก 79.8% ของพลาสติกทั้งหมดที่ผลิตไดมีความหนาอยูระหวาง 0.595
เซนติเมตร และ 0.0659 เซนติเมตร
6. เพราะวา 50.04% ของนาฬิกาทั้งหมดที่ผลิตไดมีความคลาดเคลื่อนระหวาง x กับ 0.136
วินาที
x −µ
จาก z =
σ
0.136 − 0.00
z = 0.4 = 0.34
- 21. 87
50.04%
Z
X 0 0.136
จากตารางพื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 0.34 เทากับ 0.1331
จากรูป จะไดพื้นที่ใตเสนโคงปกติจาก z = 0 ถึง x เทากับ 0.5004 – 0.1331 = 0.3673
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.3686 คา z เทากับ 1.12
พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.3665 คา z เทากับ 1.11
0.01 × 0.0008
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.3673 คา z เทากับ 1.11 + ⎛ 0.0021 ⎞ ≈ 1.1138
⎜ ⎟
⎝ ⎠
x − 0.00
จะได –1.1138 = 0.4
x = –0.446
นั่นคือ x เทากับ –0.446 วินาที
7.
Z
X = 11.88 µ = 12.00
จากรูป จะไดพื้นที่ใตเสนโคงปกติจาก x = 11.88 ถึง µ = 12.00 เทากับ 0.5–0.1151 = 0.3849
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.3849 คา z เทากับ 1.20
x −µ
จาก z =
σ
11.88 − 12.00
–1.20 =
σ
− 0.12
σ = − 1.2
= 0.1
ดังนั้น ความแปรปรวนของน้ําหนักสุทธิของกระปองบรรจุถ่วที่ผลิตโดยบริษัทนี้เทากับ 0.01
ั
- 22. 88
8. (1) กําหนด σ = 3, x = 6 และพื้นที่ใตเสนโคงปกติเทากับ 0.09
0.41
0.09
Z
X=6 0
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.4099 คา z เทากับ 1.34
พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.4115 คา z เทากับ 1.35
× 0.0001 ⎞
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.09 คา z เทากับ 1.34 + ⎛ 0.01
⎜ ⎟ = 1.3406
⎝ 0.0016 ⎠
6−µ
จะได –1.3406 =
3
µ = 6 + 4.0218
µ = 10.0218
ดังนั้น คาเฉลี่ยเลขคณิตประมาณ 10.0218 เปนคา a ที่ตองการ
(2) กําหนด µ = 10, x = 12 และพื้นที่ใตเสนโคงปกติเทากับ 0.60
จากรูป พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง µ ถึง x = 12 เทากับ 0.6 – 0.5 = 0.1
µ X = 12
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.1026 คา z เทากับ 0.26
พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.0987 คา z เทากับ 0.25
0.01 × 0.0013
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.1 คา z เทากับ 0.25 + ⎛ 0.0039 ⎞
⎜ ⎟ ≈ 0.2533
⎝ ⎠
12 − 10
จะได 0.2533 =
σ
2
σ =
0.2533
σ 7.90
≈
ดังนั้น สวนเบี่ยงเบนมาตรฐานประมาณ 7.90 เปนคา b ที่ตองการ
- 23. 89
(3) กําหนด µ = 10, σ = 2 และพื้นที่ใตเสนโคงปกติเทากับ 0.18
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.1808 คา z เทากับ 0.47
พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.1772 คา z เทากับ 0.46
X µ
0.01 × 0.0028
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติเปน 0.18 คา z เทากับ 0.46 + ⎛ 0.0036 ⎞ = 0.4678
⎜ ⎟
⎝ ⎠
x − 10
จะได –0.4678 = 2
x = 10 – 0.9356
x = 9.0644
ดังนั้น คะแนนที่สนใจศึกษาประมาณ 9.06 เปนคา c ที่ตองการ
(4) กําหนด µ = 3, σ = 1 และ x = 2
2−3
จะได z = 1 = –1
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติ เมื่อ z < –1 เทากับ 0.5 – 0.3413 = 0.1587
z = –1 µ
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติของคะแนนที่ต่ํากวา 2 เทากับ 0.1587 เปนคา d ที่ตองการ
- 24. 90
9. (1) ให x เปนคะแนนสอบ SAT โดยกําหนด µ = 505 และ σ = 111
x −µ
จาก z =
σ
400 − 505
จะได z1 = 111 = –0.946
600 − 505
z2 = 111 = 0.856
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 0.94 เทากับ 0.3264
พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 0.95 เทากับ 0.3289
จะได พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 0.946 เทากับ
0.0025 × 0.006
0.3264 + ⎛ 0.01 ⎞ = 0.3279
⎜ ⎟
⎝ ⎠
Z
-0.946 0 0.856
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 0.85 เทากับ 0.3023
พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 0.86 เทากับ 0.3051
จะได พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 0.856 เทากับ
0.0028 × 0.006
0.3023 + ⎛ 0.01 ⎞ = 0.30398
⎜ ⎟
⎝ ⎠
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติของคะแนน SAT ที่อยูระหวาง 400 และ 600 เทากับ
0.3279 + 0.30398 = 0.63188
700 − 505
(2) จะได z = 111 ≈ 1.757
Z
0 1.757
- 25. 91
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 1.75 เทากับ 0.4599
พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 1.76 เทากับ 0.4608
จะได พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 1.757 เทากับ
0.0009 × 0.007
0.4599 + ⎛ 0.01 ⎞ = 0.46053
⎜ ⎟
⎝ ⎠
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติของคะแนน SAT ที่มากกวา 700 เทากับ
0.5 – 0.46053 = 0.03947
450 − 505
(3) จะได z = 111 ≈ –0.495
Z
-0.495 0
จากตาราง พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 0.49 เทากับ 0.1879
พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 0.50 เทากับ 0.1915
จะได พื้นที่ใตเสนโคงปกติระหวาง z = 0 ถึง z = 0.495 เทากับ
0.0036 × 0.005
0.1879 + ⎛ 0.01 ⎞ = 0.1897
⎜ ⎟
⎝ ⎠
ดังนั้น พื้นที่ใตเสนโคงปกติของคะแนน SAT ที่นอยกวา 450 เทากับ
0.5 – 0.1897 = 0.3103