SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 8
Downloaden Sie, um offline zu lesen
ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ

1

(สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย)

การเคลื่อนที่แนวตรง
อัตราเร็วเฉลี่ย

การเคลือนทีแนววงกลม
่ ่
ทังหมด
้

เฉลี่ย

ความเร็วเฉลี่ย

ทังหมด
้

⃑ เฉลี่ย
⃑

ความเร่ ง

⃑
⃑ ⃑

สมการการเคลือนทีใน 1 มิติ ด้วยความเร่ง(a)คงที่
่ ่
1. v  u  at

1.ถามความเร็วสูงสุด(vmax)ที่ขับได้โดยรถไม่ไถล
ออกนอกโค้ง
2.รถเอียงทามุมกับแนวดิ่ง

2. v2  u 2  2as
3. s   u  v  t


 2 
การหาระยะทางในช่วงวินาทีใดๆ

tan  

v2
Rg

3. รถเลียวโค้งบนถนนเอียงที่ไม่มีแรงเสียดทาน
้

4. s  ut  1 at 2
2
5. s  vt  1 at 2
2

tan  

v2
Rg

s 

vmax 2
Rg

4. การเคลื่อนที่เป็นวงกลมรูปกรวย(คว่า)

(

)

แรงมวลและกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
1.
(วัตถุหยุดนิง , ความเร็วคงที)
่
่
2.  F  ma (แรงที่มีทิศเดียวกับการเคลือนที่เป็ น +)
่
⃑ ปฏิกิริยา
3.⃑ กิริยา
แรงเสียดทานสถิต

เสมอ!
มีค่าได้ต้ งแต่ จนถึง
ั

5. หาความสัมพันธ์ระหว่างคาบ(T) กับรัศมีวงโครจร(R)
(เงือนไข: ต้องโคจรรอบดาวดวงเดียวกันเท่านั้น)
่

ฉุด

ถ้า ฉุด
แรงเสียดทานจลน์

2

วัตถุจะเริ่ มเคลื่อนที่

มีค่าเดียว ไม่ขึ้นกับแรงฉุด
กฎแรงดึงดูดระหว่างมวลของนิวตัน

การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์

3.หาระยะทางในแนวระดับ

t

4.หาระยะสูงสุด

หาความเร่งสูงสุด(

amax   A2

)
SHMลูกตุมนาฬิกา
้

2u sin 

จานวนรอบ
เวลา

f 

u 2 sin 2
g

 u 2 sin 2  
hmax  
 2g 




vmax  A

)

a  x 2

T  2

g

v    2  x 2

หาความเร่ง( ) เมื่อทราบระยะกระจัด( )

เวลา
จานวนรอบ

u2
2 sin  cos  
g

Sx 

หาความเร็ว( ) เมื่อทราบระยะกระจัด( )

u sin 
g

t

S x

การเคลือนทีแบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย (SHM)
่ ่

รูจานวนรอบรูเ้ วลา
้

สูตรลัด : ยิงวัตถุพงเฉียงขึนแล้ว ตกกลับบนพืนระดับเดิม
ุ่
้
้

2.หาเวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่ทั้งหมด

3

ความร็วสูงสุดหรือความเร็วที่จุดสมดุล(

คานวณแนวราบกับแนวดิ่งแยกกัน โดย
แนวราบมีสตรเดียวคือ
ู

1.หาเวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่จาก
จุดเริ่มต้นจนถึงจุดสูงสุด

 T2   R2 
   
 T1   R1 

1
2

l
g
g
l

SHM,มวลติดสปริง
T  2

m
k

1
2

k
m

f 
ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ

2

(สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย)

งานและพลังงาน

การเคลือนทีแบบหมุน
่ ่
  0   t

s R
v  R

สูตรหางาน
- ถ้าพูดถึงแรงใดก็ให้ใช้แรงนั้นคานวณแรงอื่นไม่เกี่ยว
๐
- งานของแรงเสียดทานเป็นลบ
- ถ้าแรงกับการเคลื่อนที่มีทิศตั้งฉากกันงานเป็นศูนย์เสมอ

2
 2  0  2

a R

 


0   



t


2

1
2

  t   t 2

๐

1
2

  t   t 2

โมเมนต์ความเฉือย (Moment of inertia)
่
2
I   mi Ri

กาลัง (P)
เฉลีย
่

เฉลีย
่

สมการงาน&พลังงาน

m

,

,

โมเมนตัมและการดล
โมเมนตัม( ⃑ )

ความสัมพันธ์พลังงานจลน์กบ
ั
โมเมนตัม

Ek 

สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุน
่



p  mv

สมดุลต่ อการเลื่อนตาแหน่ ง

ขึ ้น = ลง
ซ้ าย = ขวา

p2
2m

ทฤษฏีของลามี (ใช้กับสมดุล 3 แรง)

แรงกับการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม

สมดุลต่อการหมุน
ทวน =

(

)

พท กราฟ(

กฎการอนุรกษ์โมเมนตัม
ั
∑ ⃑ ก่อนชน

การชนแบบยืดหยุน ∑
่

∑

โดย

สภาพยืดหยุน
่
ความเค้น (Stress)   F
A

∑ ⃑ หลังชน

ก่อนชน

)

ตาม

หลังชน

สาหรับใน 1 มิติ u1  v1  u2  v2
การชนแบบยืดหยุนใน 2 มิติ ( ชนแบบบิลเลียด )
่
หลังชนจะแยกออกจากกัน 90 องศา

ความเครียด (Strain)
มอดูลัสของยัง(Young’s Modulus)

( )
(

)
ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ

3

(สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย)

ของไหล
1.ความหนาแน่น

เสียง
1.อัตราเร็วเสียงในอากาศนิ่ง

m
V



วัตถุ

2.ความถ่วงจาเพาะ

2.บีต (Beat)

น้า



Pg   gh

2.เข้าสมการ

P  Po  Pg

4.แรงกระทาในแนวราบด้านข้างเขือน
่

2

3.ความเข้ มเสียง

6.ความดันของของเหลวทีอยูนงในหลอด,เครืองอัดไฮดรอลิก
่ ่ ิ่
่
ใช้หลักการ:ของเหลวเนื้อเดียวกัน ต่อถึงกัน ที่ระดับเดียวกันPสัมบูรณ์เท่ากัน

4.ระดับความเข้ มเสียง

9.ความตึงผิว   F

L
V
10.อัตราการไหล Q   vA
t
1
1
P   v12   gh1  P2   v12   gh2
1
2
2

มักใช้ คกบ v1 A1  v2 A2
ู่ ั
12.แรงยกปีกเครืองบิน ยก ( ล่าง บน )
่

ปี ก

บน
ล่าง
โดย
ล่าง
บน
อัตราเร็วของของเหลวทีพงออกจากรูรวด้านข้างภาชนะ (กรณีรูรวเล็ก
่ ุ่
ั่
ั่

(

ทิศจากแหล่งกาเนิด(S) ไปผู้ฟง (L) เป็น + เสมอ
ั
8.คลื่นกระแทก

แสงกับทัศนอุปกรณ์

สมการการคานวณเกียวกับกระจกโค้งและเลนส์
่

 f

2.การคานวณความต่างเฟส
́

และ
ตื ้น

ตื ้น
ลึก

ความยาวโฟกัสของแว่นสาหรับคนสายตาสัน
้
ความยาวโฟกัสของแว่นสาหรับคนสายตายาว
ระยะ D,d คือระยะที่มองเห็นชัดด้วยตาเปล่า
เลนส์บางวางประกบกัน

ตื ้น

ลึก

3.สมบัตการหักเห
ิ

ลึก

4.สมบัตการแทรกสอดของคลืน (กรณีเฟสตรงกัน)
ิ
่
แนวบัพ(N)

แนวปฎิบพ(A)
ั
Path diff
S1P –S2P 

= n
𝜆
𝜆

5.คลืนนิง 2 loop = 1 
่ ่

)

การคานวณหาภาพที่เกิดจากกระจกเงาราบ 2 บานวางทามุม 𝜽
๐
ต่อกัน จานวนภาพ
-1
𝜽

คลืนกล
่
s 
T

[ ]

7.สูตรหาความถีทปรากฏต่อผูฟง
่ ี่
้ ั

มากๆ) v  2 gh โดย h วัดจากผิวของเหลวลงมายังรูรั่ว

t

I 

I 0 

  10 log 

5.เปรียบเทียบระดับความเข้ มเสียง
6.ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์

เหลว จม

f  6 rv

1.อัตราเร็วคลื่น v  

v f

ข้าง

5.การเปรียบเทียบแรงดันกับระดับน้า F2   h2 
 
F1
 h1 

11.สมการแบร์นลลี
ู

|

การสั่นพ้องของเสียง
1.วาดรูป Loop ที่เกิดขึ้นในหลอดเพื่อหา

F
A
ความดันเกจ
ความดันสัมบูรณ์
P

3.ความดัน

7.แรงลอยตัว
8.แรงหนืด

|

Path diff = (
S1P –S2P 

𝜆

รวม

)
(
(

√

)
)

ดรรชนีหกเหของตัวกลาง
ั
การหักเห
สมการหาลึกจริงลึกปรากฎ
ความสว่าง

ลึกปรากฏ( )

ตา

ลึกจริง( )

วัตถุ
ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ

4

(สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย)

6.งานกับการเปลียนแปลงปริมาตร
่

แสงเชิงฟิสกส์
ิ
สลิตคู่ สว่าง

𝜆 ถ้ ามุมน้ อยๆใช้ d

มืด

(

ถ้ ามุมน้ อยๆใช้

d

เดียว สว่าง ไม่มีสตร
่
ู
มืด

)𝜆
x
  n  0.5 
L

𝜆 หรือ d

x
 n
L

x
 n
L

8.สมการเปลียนแปลงพลังงานภายใน
่

มืด ไม่มีสตร
ู

โดย

W  PV  NkB T  nRT
7.พลังงานภายในระบบ

𝜆 ถ้ ามุมน้ อยๆใช้ d

เกรตติง สว่าง

x
 n
L

ความยาวเกรตติง( )
จานวนช่อง

U 

โพราไรเซชัน (Polarization)

แสงโพลาไรซ์ คือ แสงที่มีระนาบการสั่นของสนามไฟฟ้าเพียง
ระนาบเดียว

3
3
3
PV  NkB T  nRT
2
2
2

9.กฎข้อที่ 1 ของเทอร์โมไดนามิกส์

Q  U  W

สนามไฟฟ้าทีผานแผ่นโพลารอยด์
่่

ความเข้ มของแสงที่ผานแผ่นโพลารอยด์
่
𝜽

10.อุณหภูมผสม (Tผสม)
ิ

แสงโพลาไรซ์ทเี่ กิดจากการสะท้อน

𝑁รวม 𝑇รวม

ความร้อนและทฤษฎีจลน์แก๊ส
1.สสารจะมีการเปลียนแปลงอุณหภูมิ (สถานะคงเดิม)
่
Q  CT , Q  mcT
2.สสารจะมีการเปลียนสถานะ (อุณหภูมิคงเดิม)
่

Q  mL

𝑁 𝑇

𝑁 𝑇

𝑛รวม 𝑇รวม

𝑛 𝑇

𝑛 𝑇

11.ความดันผสม(Pผสม)

รวม รวม

12.ความชืนสัมบูรณ์
้

3.กฎของแก๊ส PV  NkBT  nRT
4.การเปรียบเทียบแก๊สทีสภาวะต่างๆ
่

ความชื้นสัมบูรณ์

มวลไอน้าที่มีอยู่จริงในอากาศ( )
ปริมาตรของอากาศ( )

13.ความชืนสัมพัทธ์
้
ความชื้นสัมพัทธ์
สังเกตว่าสมการรูปฟอร์มมันเหมือนกัน
ต่างกันเพียง

m, N, n เท่านั้น

5.การหาอัตราเร็วรากทีสองกาลังสองเฉลีย (
่
่
vrms 

vrms 

N v  N v  ...
N1  N 2  ...
2
1 1

3P





2
2 2

3kBT
3RT

M
m

rms)

มวลไอน้าที่มีอยู่จริงในอากาศ
%
มวลไอน้าอิ่มตัวที่อณหภูมิและปริมาตรเดียวกัน
ุ

ความชื้นสัมพัทธ์
ความดันไอน้าในอากาศ
%
ความดันไอน้าอิ่มตัวที่อุณหภูมิและปริมาตรเดียวกัน
ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ

5

(สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย)

ไฟฟ้าสถิต
1.ฉนวน ใส่ประจุที่ตาแหน่งใดประจุก็จะอยู่ที่ตาแหน่งนั้น
วัตถุเป็นตัวนา ประจุจะกระจายอยูที่ผิวนอก
่
รวม

2.การถ่ายเทประจุของตัวนาทรงกลม
3.แรงไฟฟ้า F 

รวม

kQ1Q2
โดย
R2

E พุ่งออกจากประจุบวก
F
สูตร
E
q
kQ
5.สนามไฟฟ้าของจุดประจุ E  2
R
6.สนามไฟฟ้าของของตัวนาทรงกลม

พุ่งเข้าหาประจุลบ

8.ความต่างศักย์

(รัศมีทรงกลม)

V12  V1  V2
V  Ed

C1  C2
1  C2

C  C
ตัว

C
n

V  V  V
2.  Q  Q  Q
3.  C  C  C
1

kQq
 qV
R
11.งานในการเคลือนประจุไฟฟ้าจากจุดหนึงไปยังอีกจุดหนึง
่
่
่
W12  q(V2  V1 )
หางานในการเคลือนประจุเมือทราบพลังงานศักย์
่
่

 W   E2

หางานเมือทราบสนามไฟฟ้า(E)กับระยะ(d)
่

2

1

2

1

2

1
1
1 Q2
QV  CV 2 
2
2
2 C

กระแสไฟฟา
้
1.ถ้าโจทย์พูดถึงกระแส , ประจุ และเวลา

W  qE  d

I 

Q Ne

t
t

2.โจทย์กาหนดกราฟระหว่างกระแสไฟฟ้ากับ
เวลามาให้ พท. กราฟ (I, t) = It = Q = Ne
3. โจทย์กาหนดความเร็วลอยเลือนของ
่
อิเล็กตรอนมาให้
4.โจทย์พูดถึงความต้านทาน และสภาพ
L
A
1
1
R
, 
G


ต้านทานของวัตถุ R  

EP 

1

2

1
1
1


 C C1 C2

U 

kQ
R

E

2

15.พลังงานทีสะสมในตัวเก็บประจุ
่

9.ความสัมพันธ์ระว่างความต่างศักย์กบสนามไฟฟ้า
ั
10.พลังานศักย์ไฟฟ้า

3.

1.

kQ
R
ที่ผิว

ภายนอกทรงกลม V 

1

14.การต่อตัวเก็บประจุแบบต่อขนาน

ศักย์ไฟฟ้าของตัวนาทรงกลม
ภายในทรงกลม

Q  Q  Q
2. V  V  V
1.

C 

kQ
R2

V 

R
k

13.การต่อตัวเก็บประจุแบบอนุกรม

ต่อ C เหมือนกัน

(สนามไฟฟ้าสูงสุดที่ผิวทรงกลม R แทนด้วยรัศมีทรงกลม)
7.ศักย์ไฟฟ้า
ศักย์ไฟฟ้าของจุดประจุ

ค่าความจุของตัวนาทรงกลม C 

ถ้ามี 2 ตัว

E0

ภายนอกทรงกลม E 

Q
V

1

4.สนามไฟฟ้า
ทิศของ

ภายในทรงกลม

12.ค่าความจุไฟฟ้า C 

5.โจทย์รีดเส้นลวด

R2
 
R1


2

2

4


 A1   D1   r1 
       
1
 A2   D2   r2 
2

4
ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ

6

(สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย)

แม่ เหล็กไฟฟา
้

6.ต่อความต้านทานแบบอนุกรม
1) I ที่ไหลผ่าน R แต่ละตัวจะเท่ากันทั้งหมด
2) Vรวม = V1 + V2 + …
3) Rรวม = R1 + R2 + …
7.ต่อความต้านทานแบบขนาน
1) Vรวม = V1 = V2
2) Iรวม = I1 + I2
3) 1
1
1

R



R1



R2

1.*สูตรหาฟลักซ์แม่เหล็ก    
2.*สูตรหาแรงที่กระทาต่อประจุไฟฟ้าที่เคลื่อนที่ใน
สนามแม่เหล็ก F  qvBsin 
3. การหาทิศของแรง ประจุบวก ใช้มือขวา
ประจุลบ ใช้มือซ้าย
4.*ประจุเคลื่อนที่เป็นส่วนโค้งวงกลม
เมือ v  R
่

 ...

5.ถ้าประจุเคลื่อนที่เป็นเกลียวสว่านระยะระหว่างเกลียวคือ

8.ต่อความต้านทานแบบขนานกัน 2

R R2
 R  R 1 R
1
2

9.ความต้านทานเหมือนกันต่อขนานกัน ตัว

ตัว

R
R  n

บริดจ์สมดุล R1R4  R2 R3 ตัด R5 ทิ้ง
I 

E
R

13.กฏของเคอร์ชอฟ Iไหลเข้า = Iไหลออก
E = IR
14.การแปลงกัลวานอมิเตอร์เป็นแอมมิเตอร์
IGG = ISS
15.การแปลงกัลวานอมิเตอร์เป็นโวลต์มิเตอร์
Vเดิม = IGG
Vใหม่ = IG (G + X)
16.หากาลังไฟฟ้า กาลังของแหล่งจ่าย

P = IE

17. กาลังสูญเสียบนเครืองใช้ไฟฟ้าหรือตัวต้านทาน
่
V2
P  IV  I R 
R
2

18. คิดค่าไฟฟ้า
จานวนยูนต = กาลังไฟฟ้า (กิโลวัตต์)  เวลาทีใช้ (ชัวโมง)
ิ
่
่
P W 
่
่
 จานวนชัวโมงทีใช้
1000

19.ถ้ารู้ Specของเครื่องใช้ไฟฟ้า
( P กับV ที่กากับไว้บนเครื่องใช้ไฟฟ้า)
R=

V2
P

6.*ประจุเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงผ่านสนามไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก
ที่ตั้ง
ฉากกัน v  E เมือ
่

,

7.สนามแม่เหล็กที่ห่างจากลวดตรงที่มีกระแสไหลเป็นระยะ r
B

2  10 7 I
r

8.สนามแม่เหล็กที่เกิดจากขดลวด B 

12.หาความต่างศักย์ Vab = IR- E

=

2mv cos 
qB

B

10.ตรวจสอบวงจรบรดจ์

11.หากระแสไฟฟ้าในวงจร

s

I max 

0 NI

2a
9.สนามแม่เหล็กที่จุดกึ่งกลางของขดลวดโซลีนอยด์
B   nI
10.*กระแสไฟฟ้าไหลในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็ก

F  IlB sin 

11.*โมเมนต์คู่ควบของขดลวดที่มีกระแสไหลในบริเวณที่มี
สนามแม่เหล็ก (มอเตอร์)
𝜽
12.*แรงแม่เหล็กที่กระทาต่อขดลวดที่มีกระแสไหลในบริเวณที่มี
สนามแม่เหล็ก(มอเตอร์) F  NIlB
มุมระหว่าง I กับ B เป็น 90 องศาเสมอ
13.*แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนาเมื่อเคลื่อนเส้นลวดผ่าน

สนามแม่เหล็ก   vBL sin 
14.ความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็กกับ
แรงเคลื่อนไฟฟ้า
15. แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนาในขดลวดที่หมุนอยู่ในบริเวณที่มี
สนามแม่เหล็กคงที่    BAN cos
“ε=ก้นแบน
𝜽”
16.**แรงเคลือนไฟฟ้าดันกลับในมอเตอร์กระแสตรง
่
1.ขณะมอเตอร์เริมหมุน
่

I 

E
Rr

2.ขณะทีมอเตอร์กาลังหมุน I  E  
่
P
V

Rr

17.*หม้อแปลงไฟฟ้า

V1
N
 1
V2
N2

และ
ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ

7

(สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย)

ไฟฟากระแสสลับ
้

สมการการคานวณ

1. ค่า rms (ค่าที่ให้พลังงานไฟฟ้าเทียบเท่าไฟฟ้ากระแสตรง)

𝐼 𝑚𝑎𝑥

𝐼 𝑚𝑎𝑥

𝐼 𝑟𝑚𝑠

𝐴

2

2

𝐴

2.ความต้านทานเชิงเหนี่ยวนา
ถ้าต่อกับไฟฟ้ากระแสตรง
3.ความต้านทานเชิงความจุ

𝐸แสง

ถ้าต่อกับไฟฟ้ากระแสตรง
4.การต่อวงจร RLC แบบอนุกรม
รวม

2
VR  VL  VC ) 

Vรวม =

2

2
Z =
R 2  X L  X C )
5.การต่อวงจร RLC แบบขนาน

รวม

I 2  I C  I L ) 
R

Iรวม =
1
=
Z

2

1 
1  1
R   X  X 
   C
L 
2

2

6.กาลังไฟฟ้าเฉลี่ย
P = IVcos (เป็ นกาลังที่เกิดบน R)
P  IVR  I 2 R 

2
VR
R

𝑐

𝑓แสง

ควรจา

𝜆แสง

1
2

1
LC

ฟิ สิกส์ อะตอม
การแผ่รงสีของวัตถุดา
ั
ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก

1. fแสง  f0 อิเล็กตรอนจึงจะหลุดได้ (หลุดทันทีที่แสงตกกระทบ)
2. จานวนอิเล็กตรอน หรือกระแสไฟฟ้า (I) จะมากขึน เมือความเข้ม
้
่
แสงมากขึน
้
3. EK สูงสุดของอิเล็กตรอนและค่า VS ขึ้นกับ fแสง เท่านัน ไม่ขึ้นกับ
้
ความเข้มแสง

𝑓0

𝑐
𝜆0

2

𝑚𝑣

𝑒𝑉𝑠

กราฟความสัมพันธ์ระหว่าง I กับ V
* ให้แสงที่มี fแสง ตกกระทบโลหะเท่ากัน ความ
ต่างศักย์หยุดยั้ง (VS) จะต่างกัน
* ความเข้มแสงต่างกัน กระแสไฟฟ้าที่ได้จะ
ต่างกัน
- แสงทีมความเข้มมาก
่ ี
กระแสไฟฟ้ามาก
- แสงทีมความเข้มน้อย
่ ี
กระแสไฟฟ้าน้อย
I (กระแส)

(ความเข้มมาก)

ที่ความถี่นี้จะทาให้ XL = XC

ผลก็คือ Z = R เราสามารถหาค่ากระแสไฟฟ้าได้จาก
ถ้าต่อ RLC แบบอนุกรม  I มากทีสด
ุ่
ถ้าต่อ RLC แบบขนาน  I น้อยทีสด
ุ่
8.การปรับปรุงตัวประกอบกาลัง
(
)

𝐸𝑘

=12.4

7.ความถี่เรโซแนนซ์
f 

𝑊

(ความเข้มน้อย)
-VS 0

V

* ให้ความเข้มแสงเท่ากัน กระแสจะเท่ากัน
* ให้แสงที่มี fแสง ตกกระทบโลหะต่างกัน ความ
ต่างศักย์หยุดยั้ง (VS) จะต่างกัน
- แสงทีมีความถีมาก
่
่
VS มาก
- แสงทีมีความถีนอย
่
่ ้
VS น้อย
I (กระแส)
ความเข้มเท่ากัน
f1 > f2

-VS1 -VS2 0

V
ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ

8

(สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย)

อิเล็กตรอนประพฤตัวเป็นคลืนนิง
่ ่

การเปลียนระดับพลังงานของอะตอม
่
𝐸

𝐸ก่อน

𝐸หลัง

2𝜋𝑟 𝑛

𝑐
𝜆

𝑓

𝑟𝑛

ถ้าโจทย์พดถึงพลังงานในหน่วย eV
ู
𝑓แสง
𝑒

𝑛𝜆

𝑐

𝐸(𝑒𝑉)

𝑒𝜆แสง

เมื่อ

𝐸ก่อน

𝑛

ความไม่แน่นอนทางตาแหน่งกับความไม่
แน่นอนทางโมเมนตัม เขียนได้ดังนี้

𝐸หลัง

x    

คือ ระดับชั้นพลังงาน

ฟิสกส์นวเคลียร์
ิ ิ
การคานวณหาพลังงานทีระดับชันพลังงานต่างๆ
่
้

R  R0 3 A

รัศมีของนิวเคลียส
อานาจทะลุทะลวง

>>

การคานวณหากัมมันตภาพ (Activity)

𝐴

𝜆𝑁

โดย
รัศมีวงโคจรอิเล็กตรอน
อัตราเร็วเชิงเส้นของอิเล็กตรอนในวงโคจรต่างๆ
พลังงานรวมของอิเล็กตรอนในวงโคจรต่างๆ

สมการการสลายตัว
N

N0
2

t
T

,

A

A0
2

t
T

,

m

m0
t

2T

พลังงานนิวเคลียร์
E = m  931 MeV

[

อนุกรมเส้นสเปกตรัม

แรก

หลัง

]

สเปกตรัมของรังสีเอกซ์

 ความยาวคลืนของรังสีเอกซ์จงสันที่สด
่
ึ ้ ุ
𝜆สันสุด
้

2
เร่ง

สูตรการหาโมเมนตัมของแสง
ความยาวคลืนเดอบรอยล์ หรือ ความยาวคลืนสสาร
่
่

โดย

m

แทน มวลในหน่วย

𝑢

สมการหาพลังงานยึดเหนี่ยว
B.E. = m  931

หน่วยเป็น MeV

m = (mH + mn)ทั ้งหมด – mอะตอม
หรือ m =

mก่อนรวม - mหลังรวม

คานวณพลังงานนิวเคลียร์จากพลังงานยึดเหนี่ยว (B.E.)
E = B.E.หลัง - B.E.ก่อน
คานวณพลังงานนิวเคลียร์จากพลังงานจลน์ (Ek)
E = Ekหลัง- Ek ก่อน

Weitere ähnliche Inhalte

Was ist angesagt?

การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
conceptapply
 
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงบทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
kroosarisa
 
การเคลื่อนที่ใน 1 มิติ (motion in one dimension)
การเคลื่อนที่ใน 1 มิติ (motion in one dimension)การเคลื่อนที่ใน 1 มิติ (motion in one dimension)
การเคลื่อนที่ใน 1 มิติ (motion in one dimension)
Worrachet Boonyong
 
เรื่องที่2การเคลื่อนที่
เรื่องที่2การเคลื่อนที่เรื่องที่2การเคลื่อนที่
เรื่องที่2การเคลื่อนที่
Apinya Phuadsing
 
0 o net-2549
0 o net-25490 o net-2549
0 o net-2549
saiyok07
 
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆเรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
Apinya Phuadsing
 

Was ist angesagt? (18)

P02
P02P02
P02
 
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติการเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
 
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
 
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนการเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
 
P04
P04P04
P04
 
โมเมนตัม
โมเมนตัมโมเมนตัม
โมเมนตัม
 
บทที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุน
บทที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุนบทที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุน
บทที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุน
 
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติการเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
 
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงบทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
 
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง การเคลื่อนที่แบบหมุน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง การเคลื่อนที่แบบหมุนเอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง การเคลื่อนที่แบบหมุน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง การเคลื่อนที่แบบหมุน
 
โอเน็ตฟิสิกส์
โอเน็ตฟิสิกส์โอเน็ตฟิสิกส์
โอเน็ตฟิสิกส์
 
การเคลื่อนที่ใน 1 มิติ (motion in one dimension)
การเคลื่อนที่ใน 1 มิติ (motion in one dimension)การเคลื่อนที่ใน 1 มิติ (motion in one dimension)
การเคลื่อนที่ใน 1 มิติ (motion in one dimension)
 
2
22
2
 
เรื่องที่2การเคลื่อนที่
เรื่องที่2การเคลื่อนที่เรื่องที่2การเคลื่อนที่
เรื่องที่2การเคลื่อนที่
 
วิชาฟิสิกส์ มัธยมปลาย เรื่องการเคลื่อนที่
วิชาฟิสิกส์ มัธยมปลาย เรื่องการเคลื่อนที่วิชาฟิสิกส์ มัธยมปลาย เรื่องการเคลื่อนที่
วิชาฟิสิกส์ มัธยมปลาย เรื่องการเคลื่อนที่
 
Ex2
Ex2Ex2
Ex2
 
0 o net-2549
0 o net-25490 o net-2549
0 o net-2549
 
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆเรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
 

Andere mochten auch

ตลาดในชุมชนดอยสะเก็น
ตลาดในชุมชนดอยสะเก็นตลาดในชุมชนดอยสะเก็น
ตลาดในชุมชนดอยสะเก็น
Maruko Supertinger
 
พอลิเมอร์
พอลิเมอร์พอลิเมอร์
พอลิเมอร์
K.s. Mam
 
นักเทคนิคการแพทย์
นักเทคนิคการแพทย์นักเทคนิคการแพทย์
นักเทคนิคการแพทย์
Tanchanok Pps
 
ยินดีกับทุกท่านนะคะ
ยินดีกับทุกท่านนะคะยินดีกับทุกท่านนะคะ
ยินดีกับทุกท่านนะคะ
Maruko Supertinger
 
ตารางธาต
ตารางธาตตารางธาต
ตารางธาต
K.s. Mam
 
ปฏิกิริยาชองแอลเคน
ปฏิกิริยาชองแอลเคนปฏิกิริยาชองแอลเคน
ปฏิกิริยาชองแอลเคน
Maruko Supertinger
 
FST010 อาหารสุขภาพ ตอนที่1
FST010  อาหารสุขภาพ ตอนที่1FST010  อาหารสุขภาพ ตอนที่1
FST010 อาหารสุขภาพ ตอนที่1
Coco Tan
 
Ch 01 โครงสร้างอะตอม
Ch 01 โครงสร้างอะตอมCh 01 โครงสร้างอะตอม
Ch 01 โครงสร้างอะตอม
kruannchem
 

Andere mochten auch (20)

ตลาดในชุมชนดอยสะเก็น
ตลาดในชุมชนดอยสะเก็นตลาดในชุมชนดอยสะเก็น
ตลาดในชุมชนดอยสะเก็น
 
ดูงานโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์
ดูงานโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ดูงานโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์
ดูงานโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์
 
Fibers
FibersFibers
Fibers
 
ดูงานโรงพยาบาลราชบุรี
ดูงานโรงพยาบาลราชบุรีดูงานโรงพยาบาลราชบุรี
ดูงานโรงพยาบาลราชบุรี
 
ม.5 เคมีอินทรีย์ เรื่อง ลิพิด
ม.5 เคมีอินทรีย์ เรื่อง ลิพิด ม.5 เคมีอินทรีย์ เรื่อง ลิพิด
ม.5 เคมีอินทรีย์ เรื่อง ลิพิด
 
พอลิเมอร์
พอลิเมอร์พอลิเมอร์
พอลิเมอร์
 
นักเทคนิคการแพทย์
นักเทคนิคการแพทย์นักเทคนิคการแพทย์
นักเทคนิคการแพทย์
 
ยินดีกับทุกท่านนะคะ
ยินดีกับทุกท่านนะคะยินดีกับทุกท่านนะคะ
ยินดีกับทุกท่านนะคะ
 
เคมีอินทรีย์
เคมีอินทรีย์ เคมีอินทรีย์
เคมีอินทรีย์
 
Presentation MUGE101-57-047
Presentation MUGE101-57-047 Presentation MUGE101-57-047
Presentation MUGE101-57-047
 
รู้จักตัวเองให้มากขึ้น/ค้นหาตัวเอง (พื้นฐาน)
รู้จักตัวเองให้มากขึ้น/ค้นหาตัวเอง (พื้นฐาน)รู้จักตัวเองให้มากขึ้น/ค้นหาตัวเอง (พื้นฐาน)
รู้จักตัวเองให้มากขึ้น/ค้นหาตัวเอง (พื้นฐาน)
 
Sci access 14th : Biology review part 1
Sci access 14th : Biology review part 1Sci access 14th : Biology review part 1
Sci access 14th : Biology review part 1
 
ตารางธาต
ตารางธาตตารางธาต
ตารางธาต
 
ปฏิกิริยาชองแอลเคน
ปฏิกิริยาชองแอลเคนปฏิกิริยาชองแอลเคน
ปฏิกิริยาชองแอลเคน
 
Nomenclature
NomenclatureNomenclature
Nomenclature
 
จลนศาสตร์เคมีและสมดุลเคมี
จลนศาสตร์เคมีและสมดุลเคมีจลนศาสตร์เคมีและสมดุลเคมี
จลนศาสตร์เคมีและสมดุลเคมี
 
ปฏิบัติการเซลล์ไฟฟ้าเคมี
ปฏิบัติการเซลล์ไฟฟ้าเคมีปฏิบัติการเซลล์ไฟฟ้าเคมี
ปฏิบัติการเซลล์ไฟฟ้าเคมี
 
FST010 อาหารสุขภาพ ตอนที่1
FST010  อาหารสุขภาพ ตอนที่1FST010  อาหารสุขภาพ ตอนที่1
FST010 อาหารสุขภาพ ตอนที่1
 
Kingdom fungi
Kingdom fungiKingdom fungi
Kingdom fungi
 
Ch 01 โครงสร้างอะตอม
Ch 01 โครงสร้างอะตอมCh 01 โครงสร้างอะตอม
Ch 01 โครงสร้างอะตอม
 

Ähnlich wie Physics 4,5,6 summary

แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
rapinn
 
ข้อสอบวิทย์ฟิสิกส์กสพท.ปี53
ข้อสอบวิทย์ฟิสิกส์กสพท.ปี53ข้อสอบวิทย์ฟิสิกส์กสพท.ปี53
ข้อสอบวิทย์ฟิสิกส์กสพท.ปี53
noeiinoii
 
วิทย์กสพท53
วิทย์กสพท53วิทย์กสพท53
วิทย์กสพท53
shanesha
 
ข้อสอบวิทย์กสพท.ปี53
ข้อสอบวิทย์กสพท.ปี53ข้อสอบวิทย์กสพท.ปี53
ข้อสอบวิทย์กสพท.ปี53
Sp Play'now
 
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
kroosarisa
 
ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์
weerawato
 
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
thanakit553
 
Py keqc0ytz2ufc6gdsi iqnhhniumihjardqfmjqb31fjfpvba3es5xenjwrautvn
Py keqc0ytz2ufc6gdsi iqnhhniumihjardqfmjqb31fjfpvba3es5xenjwrautvnPy keqc0ytz2ufc6gdsi iqnhhniumihjardqfmjqb31fjfpvba3es5xenjwrautvn
Py keqc0ytz2ufc6gdsi iqnhhniumihjardqfmjqb31fjfpvba3es5xenjwrautvn
Supipat Mokmamern
 
Brandssummercamp 2012 feb55_physics
Brandssummercamp 2012 feb55_physicsBrandssummercamp 2012 feb55_physics
Brandssummercamp 2012 feb55_physics
Nittaya Mitpothong
 
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์
เรื่องที่ 15  ไฟฟ้าสถิตย์เรื่องที่ 15  ไฟฟ้าสถิตย์
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์
thanakit553
 
เรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุน
เรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุนเรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุน
เรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุน
thanakit553
 

Ähnlich wie Physics 4,5,6 summary (20)

แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
 
Phy
PhyPhy
Phy
 
ข้อสอบวิทย์ฟิสิกส์กสพท.ปี53
ข้อสอบวิทย์ฟิสิกส์กสพท.ปี53ข้อสอบวิทย์ฟิสิกส์กสพท.ปี53
ข้อสอบวิทย์ฟิสิกส์กสพท.ปี53
 
วิทย์กสพท53
วิทย์กสพท53วิทย์กสพท53
วิทย์กสพท53
 
ข้อสอบวิทย์กสพท.ปี53
ข้อสอบวิทย์กสพท.ปี53ข้อสอบวิทย์กสพท.ปี53
ข้อสอบวิทย์กสพท.ปี53
 
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
 
ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์
 
circular motion.pdf
circular motion.pdfcircular motion.pdf
circular motion.pdf
 
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
 
P03
P03P03
P03
 
Py keqc0ytz2ufc6gdsi iqnhhniumihjardqfmjqb31fjfpvba3es5xenjwrautvn
Py keqc0ytz2ufc6gdsi iqnhhniumihjardqfmjqb31fjfpvba3es5xenjwrautvnPy keqc0ytz2ufc6gdsi iqnhhniumihjardqfmjqb31fjfpvba3es5xenjwrautvn
Py keqc0ytz2ufc6gdsi iqnhhniumihjardqfmjqb31fjfpvba3es5xenjwrautvn
 
ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ Pat3
ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ Pat3
ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ Pat3
 
Test phy1
Test phy1Test phy1
Test phy1
 
แผนการสอน เรือง การเคลื่อนที่แบบหมุน หลักสูตร 2551
แผนการสอน เรือง การเคลื่อนที่แบบหมุน หลักสูตร 2551แผนการสอน เรือง การเคลื่อนที่แบบหมุน หลักสูตร 2551
แผนการสอน เรือง การเคลื่อนที่แบบหมุน หลักสูตร 2551
 
Brandssummercamp 2012 feb55_physics
Brandssummercamp 2012 feb55_physicsBrandssummercamp 2012 feb55_physics
Brandssummercamp 2012 feb55_physics
 
P15
P15P15
P15
 
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์
เรื่องที่ 15  ไฟฟ้าสถิตย์เรื่องที่ 15  ไฟฟ้าสถิตย์
เรื่องที่ 15 ไฟฟ้าสถิตย์
 
คลื่นกล
คลื่นกลคลื่นกล
คลื่นกล
 
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
 
เรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุน
เรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุนเรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุน
เรื่องที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุน
 

Physics 4,5,6 summary

  • 1. ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ 1 (สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย) การเคลื่อนที่แนวตรง อัตราเร็วเฉลี่ย การเคลือนทีแนววงกลม ่ ่ ทังหมด ้ เฉลี่ย ความเร็วเฉลี่ย ทังหมด ้ ⃑ เฉลี่ย ⃑ ความเร่ ง ⃑ ⃑ ⃑ สมการการเคลือนทีใน 1 มิติ ด้วยความเร่ง(a)คงที่ ่ ่ 1. v  u  at 1.ถามความเร็วสูงสุด(vmax)ที่ขับได้โดยรถไม่ไถล ออกนอกโค้ง 2.รถเอียงทามุมกับแนวดิ่ง 2. v2  u 2  2as 3. s   u  v  t    2  การหาระยะทางในช่วงวินาทีใดๆ tan   v2 Rg 3. รถเลียวโค้งบนถนนเอียงที่ไม่มีแรงเสียดทาน ้ 4. s  ut  1 at 2 2 5. s  vt  1 at 2 2 tan   v2 Rg s  vmax 2 Rg 4. การเคลื่อนที่เป็นวงกลมรูปกรวย(คว่า) ( ) แรงมวลและกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน 1. (วัตถุหยุดนิง , ความเร็วคงที) ่ ่ 2.  F  ma (แรงที่มีทิศเดียวกับการเคลือนที่เป็ น +) ่ ⃑ ปฏิกิริยา 3.⃑ กิริยา แรงเสียดทานสถิต เสมอ! มีค่าได้ต้ งแต่ จนถึง ั 5. หาความสัมพันธ์ระหว่างคาบ(T) กับรัศมีวงโครจร(R) (เงือนไข: ต้องโคจรรอบดาวดวงเดียวกันเท่านั้น) ่ ฉุด ถ้า ฉุด แรงเสียดทานจลน์ 2 วัตถุจะเริ่ มเคลื่อนที่ มีค่าเดียว ไม่ขึ้นกับแรงฉุด กฎแรงดึงดูดระหว่างมวลของนิวตัน การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ 3.หาระยะทางในแนวระดับ t 4.หาระยะสูงสุด หาความเร่งสูงสุด( amax   A2 ) SHMลูกตุมนาฬิกา ้ 2u sin  จานวนรอบ เวลา f  u 2 sin 2 g  u 2 sin 2   hmax    2g     vmax  A ) a  x 2 T  2 g v    2  x 2 หาความเร่ง( ) เมื่อทราบระยะกระจัด( ) เวลา จานวนรอบ u2 2 sin  cos   g Sx  หาความเร็ว( ) เมื่อทราบระยะกระจัด( ) u sin  g t S x การเคลือนทีแบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย (SHM) ่ ่ รูจานวนรอบรูเ้ วลา ้ สูตรลัด : ยิงวัตถุพงเฉียงขึนแล้ว ตกกลับบนพืนระดับเดิม ุ่ ้ ้ 2.หาเวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่ทั้งหมด 3 ความร็วสูงสุดหรือความเร็วที่จุดสมดุล( คานวณแนวราบกับแนวดิ่งแยกกัน โดย แนวราบมีสตรเดียวคือ ู 1.หาเวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่จาก จุดเริ่มต้นจนถึงจุดสูงสุด  T2   R2       T1   R1  1 2 l g g l SHM,มวลติดสปริง T  2 m k 1 2 k m f 
  • 2. ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ 2 (สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย) งานและพลังงาน การเคลือนทีแบบหมุน ่ ่   0   t s R v  R สูตรหางาน - ถ้าพูดถึงแรงใดก็ให้ใช้แรงนั้นคานวณแรงอื่นไม่เกี่ยว ๐ - งานของแรงเสียดทานเป็นลบ - ถ้าแรงกับการเคลื่อนที่มีทิศตั้งฉากกันงานเป็นศูนย์เสมอ 2  2  0  2 a R    0     t  2 1 2   t   t 2 ๐ 1 2   t   t 2 โมเมนต์ความเฉือย (Moment of inertia) ่ 2 I   mi Ri กาลัง (P) เฉลีย ่ เฉลีย ่ สมการงาน&พลังงาน m , , โมเมนตัมและการดล โมเมนตัม( ⃑ ) ความสัมพันธ์พลังงานจลน์กบ ั โมเมนตัม Ek  สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุน ่   p  mv สมดุลต่ อการเลื่อนตาแหน่ ง ขึ ้น = ลง ซ้ าย = ขวา p2 2m ทฤษฏีของลามี (ใช้กับสมดุล 3 แรง) แรงกับการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม สมดุลต่อการหมุน ทวน = ( ) พท กราฟ( กฎการอนุรกษ์โมเมนตัม ั ∑ ⃑ ก่อนชน การชนแบบยืดหยุน ∑ ่ ∑ โดย สภาพยืดหยุน ่ ความเค้น (Stress)   F A ∑ ⃑ หลังชน ก่อนชน ) ตาม หลังชน สาหรับใน 1 มิติ u1  v1  u2  v2 การชนแบบยืดหยุนใน 2 มิติ ( ชนแบบบิลเลียด ) ่ หลังชนจะแยกออกจากกัน 90 องศา ความเครียด (Strain) มอดูลัสของยัง(Young’s Modulus) ( ) ( )
  • 3. ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ 3 (สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย) ของไหล 1.ความหนาแน่น เสียง 1.อัตราเร็วเสียงในอากาศนิ่ง m V  วัตถุ 2.ความถ่วงจาเพาะ 2.บีต (Beat) น้า  Pg   gh 2.เข้าสมการ P  Po  Pg 4.แรงกระทาในแนวราบด้านข้างเขือน ่ 2 3.ความเข้ มเสียง 6.ความดันของของเหลวทีอยูนงในหลอด,เครืองอัดไฮดรอลิก ่ ่ ิ่ ่ ใช้หลักการ:ของเหลวเนื้อเดียวกัน ต่อถึงกัน ที่ระดับเดียวกันPสัมบูรณ์เท่ากัน 4.ระดับความเข้ มเสียง 9.ความตึงผิว   F L V 10.อัตราการไหล Q   vA t 1 1 P   v12   gh1  P2   v12   gh2 1 2 2 มักใช้ คกบ v1 A1  v2 A2 ู่ ั 12.แรงยกปีกเครืองบิน ยก ( ล่าง บน ) ่ ปี ก บน ล่าง โดย ล่าง บน อัตราเร็วของของเหลวทีพงออกจากรูรวด้านข้างภาชนะ (กรณีรูรวเล็ก ่ ุ่ ั่ ั่ ( ทิศจากแหล่งกาเนิด(S) ไปผู้ฟง (L) เป็น + เสมอ ั 8.คลื่นกระแทก แสงกับทัศนอุปกรณ์ สมการการคานวณเกียวกับกระจกโค้งและเลนส์ ่  f 2.การคานวณความต่างเฟส ́ และ ตื ้น ตื ้น ลึก ความยาวโฟกัสของแว่นสาหรับคนสายตาสัน ้ ความยาวโฟกัสของแว่นสาหรับคนสายตายาว ระยะ D,d คือระยะที่มองเห็นชัดด้วยตาเปล่า เลนส์บางวางประกบกัน ตื ้น ลึก 3.สมบัตการหักเห ิ ลึก 4.สมบัตการแทรกสอดของคลืน (กรณีเฟสตรงกัน) ิ ่ แนวบัพ(N) แนวปฎิบพ(A) ั Path diff S1P –S2P  = n 𝜆 𝜆 5.คลืนนิง 2 loop = 1  ่ ่ ) การคานวณหาภาพที่เกิดจากกระจกเงาราบ 2 บานวางทามุม 𝜽 ๐ ต่อกัน จานวนภาพ -1 𝜽 คลืนกล ่ s  T [ ] 7.สูตรหาความถีทปรากฏต่อผูฟง ่ ี่ ้ ั มากๆ) v  2 gh โดย h วัดจากผิวของเหลวลงมายังรูรั่ว t I   I 0    10 log  5.เปรียบเทียบระดับความเข้ มเสียง 6.ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ เหลว จม f  6 rv 1.อัตราเร็วคลื่น v   v f ข้าง 5.การเปรียบเทียบแรงดันกับระดับน้า F2   h2    F1  h1  11.สมการแบร์นลลี ู | การสั่นพ้องของเสียง 1.วาดรูป Loop ที่เกิดขึ้นในหลอดเพื่อหา F A ความดันเกจ ความดันสัมบูรณ์ P 3.ความดัน 7.แรงลอยตัว 8.แรงหนืด | Path diff = ( S1P –S2P  𝜆 รวม ) ( ( √ ) ) ดรรชนีหกเหของตัวกลาง ั การหักเห สมการหาลึกจริงลึกปรากฎ ความสว่าง ลึกปรากฏ( ) ตา ลึกจริง( ) วัตถุ
  • 4. ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ 4 (สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย) 6.งานกับการเปลียนแปลงปริมาตร ่ แสงเชิงฟิสกส์ ิ สลิตคู่ สว่าง 𝜆 ถ้ ามุมน้ อยๆใช้ d มืด ( ถ้ ามุมน้ อยๆใช้ d เดียว สว่าง ไม่มีสตร ่ ู มืด )𝜆 x   n  0.5  L 𝜆 หรือ d x  n L x  n L 8.สมการเปลียนแปลงพลังงานภายใน ่ มืด ไม่มีสตร ู โดย W  PV  NkB T  nRT 7.พลังงานภายในระบบ 𝜆 ถ้ ามุมน้ อยๆใช้ d เกรตติง สว่าง x  n L ความยาวเกรตติง( ) จานวนช่อง U  โพราไรเซชัน (Polarization) แสงโพลาไรซ์ คือ แสงที่มีระนาบการสั่นของสนามไฟฟ้าเพียง ระนาบเดียว 3 3 3 PV  NkB T  nRT 2 2 2 9.กฎข้อที่ 1 ของเทอร์โมไดนามิกส์ Q  U  W สนามไฟฟ้าทีผานแผ่นโพลารอยด์ ่่ ความเข้ มของแสงที่ผานแผ่นโพลารอยด์ ่ 𝜽 10.อุณหภูมผสม (Tผสม) ิ แสงโพลาไรซ์ทเี่ กิดจากการสะท้อน 𝑁รวม 𝑇รวม ความร้อนและทฤษฎีจลน์แก๊ส 1.สสารจะมีการเปลียนแปลงอุณหภูมิ (สถานะคงเดิม) ่ Q  CT , Q  mcT 2.สสารจะมีการเปลียนสถานะ (อุณหภูมิคงเดิม) ่ Q  mL 𝑁 𝑇 𝑁 𝑇 𝑛รวม 𝑇รวม 𝑛 𝑇 𝑛 𝑇 11.ความดันผสม(Pผสม) รวม รวม 12.ความชืนสัมบูรณ์ ้ 3.กฎของแก๊ส PV  NkBT  nRT 4.การเปรียบเทียบแก๊สทีสภาวะต่างๆ ่ ความชื้นสัมบูรณ์ มวลไอน้าที่มีอยู่จริงในอากาศ( ) ปริมาตรของอากาศ( ) 13.ความชืนสัมพัทธ์ ้ ความชื้นสัมพัทธ์ สังเกตว่าสมการรูปฟอร์มมันเหมือนกัน ต่างกันเพียง m, N, n เท่านั้น 5.การหาอัตราเร็วรากทีสองกาลังสองเฉลีย ( ่ ่ vrms  vrms  N v  N v  ... N1  N 2  ... 2 1 1 3P   2 2 2 3kBT 3RT  M m rms) มวลไอน้าที่มีอยู่จริงในอากาศ % มวลไอน้าอิ่มตัวที่อณหภูมิและปริมาตรเดียวกัน ุ ความชื้นสัมพัทธ์ ความดันไอน้าในอากาศ % ความดันไอน้าอิ่มตัวที่อุณหภูมิและปริมาตรเดียวกัน
  • 5. ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ 5 (สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย) ไฟฟ้าสถิต 1.ฉนวน ใส่ประจุที่ตาแหน่งใดประจุก็จะอยู่ที่ตาแหน่งนั้น วัตถุเป็นตัวนา ประจุจะกระจายอยูที่ผิวนอก ่ รวม 2.การถ่ายเทประจุของตัวนาทรงกลม 3.แรงไฟฟ้า F  รวม kQ1Q2 โดย R2 E พุ่งออกจากประจุบวก F สูตร E q kQ 5.สนามไฟฟ้าของจุดประจุ E  2 R 6.สนามไฟฟ้าของของตัวนาทรงกลม พุ่งเข้าหาประจุลบ 8.ความต่างศักย์ (รัศมีทรงกลม) V12  V1  V2 V  Ed C1  C2 1  C2 C  C ตัว C n V  V  V 2.  Q  Q  Q 3.  C  C  C 1 kQq  qV R 11.งานในการเคลือนประจุไฟฟ้าจากจุดหนึงไปยังอีกจุดหนึง ่ ่ ่ W12  q(V2  V1 ) หางานในการเคลือนประจุเมือทราบพลังงานศักย์ ่ ่  W   E2 หางานเมือทราบสนามไฟฟ้า(E)กับระยะ(d) ่ 2 1 2 1 2 1 1 1 Q2 QV  CV 2  2 2 2 C กระแสไฟฟา ้ 1.ถ้าโจทย์พูดถึงกระแส , ประจุ และเวลา W  qE  d I  Q Ne  t t 2.โจทย์กาหนดกราฟระหว่างกระแสไฟฟ้ากับ เวลามาให้ พท. กราฟ (I, t) = It = Q = Ne 3. โจทย์กาหนดความเร็วลอยเลือนของ ่ อิเล็กตรอนมาให้ 4.โจทย์พูดถึงความต้านทาน และสภาพ L A 1 1 R ,  G  ต้านทานของวัตถุ R   EP  1 2 1 1 1    C C1 C2 U  kQ R E 2 15.พลังงานทีสะสมในตัวเก็บประจุ ่ 9.ความสัมพันธ์ระว่างความต่างศักย์กบสนามไฟฟ้า ั 10.พลังานศักย์ไฟฟ้า 3. 1. kQ R ที่ผิว ภายนอกทรงกลม V  1 14.การต่อตัวเก็บประจุแบบต่อขนาน ศักย์ไฟฟ้าของตัวนาทรงกลม ภายในทรงกลม Q  Q  Q 2. V  V  V 1. C  kQ R2 V  R k 13.การต่อตัวเก็บประจุแบบอนุกรม ต่อ C เหมือนกัน (สนามไฟฟ้าสูงสุดที่ผิวทรงกลม R แทนด้วยรัศมีทรงกลม) 7.ศักย์ไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้าของจุดประจุ ค่าความจุของตัวนาทรงกลม C  ถ้ามี 2 ตัว E0 ภายนอกทรงกลม E  Q V 1 4.สนามไฟฟ้า ทิศของ ภายในทรงกลม 12.ค่าความจุไฟฟ้า C  5.โจทย์รีดเส้นลวด  R2   R1  2 2 4   A1   D1   r1          1  A2   D2   r2  2 4
  • 6. ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ 6 (สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย) แม่ เหล็กไฟฟา ้ 6.ต่อความต้านทานแบบอนุกรม 1) I ที่ไหลผ่าน R แต่ละตัวจะเท่ากันทั้งหมด 2) Vรวม = V1 + V2 + … 3) Rรวม = R1 + R2 + … 7.ต่อความต้านทานแบบขนาน 1) Vรวม = V1 = V2 2) Iรวม = I1 + I2 3) 1 1 1 R  R1  R2 1.*สูตรหาฟลักซ์แม่เหล็ก     2.*สูตรหาแรงที่กระทาต่อประจุไฟฟ้าที่เคลื่อนที่ใน สนามแม่เหล็ก F  qvBsin  3. การหาทิศของแรง ประจุบวก ใช้มือขวา ประจุลบ ใช้มือซ้าย 4.*ประจุเคลื่อนที่เป็นส่วนโค้งวงกลม เมือ v  R ่  ... 5.ถ้าประจุเคลื่อนที่เป็นเกลียวสว่านระยะระหว่างเกลียวคือ 8.ต่อความต้านทานแบบขนานกัน 2 R R2  R  R 1 R 1 2 9.ความต้านทานเหมือนกันต่อขนานกัน ตัว ตัว R R  n บริดจ์สมดุล R1R4  R2 R3 ตัด R5 ทิ้ง I  E R 13.กฏของเคอร์ชอฟ Iไหลเข้า = Iไหลออก E = IR 14.การแปลงกัลวานอมิเตอร์เป็นแอมมิเตอร์ IGG = ISS 15.การแปลงกัลวานอมิเตอร์เป็นโวลต์มิเตอร์ Vเดิม = IGG Vใหม่ = IG (G + X) 16.หากาลังไฟฟ้า กาลังของแหล่งจ่าย P = IE 17. กาลังสูญเสียบนเครืองใช้ไฟฟ้าหรือตัวต้านทาน ่ V2 P  IV  I R  R 2 18. คิดค่าไฟฟ้า จานวนยูนต = กาลังไฟฟ้า (กิโลวัตต์)  เวลาทีใช้ (ชัวโมง) ิ ่ ่ P W  ่ ่  จานวนชัวโมงทีใช้ 1000 19.ถ้ารู้ Specของเครื่องใช้ไฟฟ้า ( P กับV ที่กากับไว้บนเครื่องใช้ไฟฟ้า) R= V2 P 6.*ประจุเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงผ่านสนามไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก ที่ตั้ง ฉากกัน v  E เมือ ่ , 7.สนามแม่เหล็กที่ห่างจากลวดตรงที่มีกระแสไหลเป็นระยะ r B 2  10 7 I r 8.สนามแม่เหล็กที่เกิดจากขดลวด B  12.หาความต่างศักย์ Vab = IR- E = 2mv cos  qB B 10.ตรวจสอบวงจรบรดจ์ 11.หากระแสไฟฟ้าในวงจร s I max  0 NI 2a 9.สนามแม่เหล็กที่จุดกึ่งกลางของขดลวดโซลีนอยด์ B   nI 10.*กระแสไฟฟ้าไหลในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็ก F  IlB sin  11.*โมเมนต์คู่ควบของขดลวดที่มีกระแสไหลในบริเวณที่มี สนามแม่เหล็ก (มอเตอร์) 𝜽 12.*แรงแม่เหล็กที่กระทาต่อขดลวดที่มีกระแสไหลในบริเวณที่มี สนามแม่เหล็ก(มอเตอร์) F  NIlB มุมระหว่าง I กับ B เป็น 90 องศาเสมอ 13.*แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนาเมื่อเคลื่อนเส้นลวดผ่าน สนามแม่เหล็ก   vBL sin  14.ความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็กกับ แรงเคลื่อนไฟฟ้า 15. แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนาในขดลวดที่หมุนอยู่ในบริเวณที่มี สนามแม่เหล็กคงที่    BAN cos “ε=ก้นแบน 𝜽” 16.**แรงเคลือนไฟฟ้าดันกลับในมอเตอร์กระแสตรง ่ 1.ขณะมอเตอร์เริมหมุน ่ I  E Rr 2.ขณะทีมอเตอร์กาลังหมุน I  E   ่ P V Rr 17.*หม้อแปลงไฟฟ้า V1 N  1 V2 N2 และ
  • 7. ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ 7 (สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย) ไฟฟากระแสสลับ ้ สมการการคานวณ 1. ค่า rms (ค่าที่ให้พลังงานไฟฟ้าเทียบเท่าไฟฟ้ากระแสตรง) 𝐼 𝑚𝑎𝑥 𝐼 𝑚𝑎𝑥 𝐼 𝑟𝑚𝑠 𝐴 2 2 𝐴 2.ความต้านทานเชิงเหนี่ยวนา ถ้าต่อกับไฟฟ้ากระแสตรง 3.ความต้านทานเชิงความจุ 𝐸แสง ถ้าต่อกับไฟฟ้ากระแสตรง 4.การต่อวงจร RLC แบบอนุกรม รวม 2 VR  VL  VC )  Vรวม = 2 2 Z = R 2  X L  X C ) 5.การต่อวงจร RLC แบบขนาน รวม I 2  I C  I L )  R Iรวม = 1 = Z 2 1  1  1 R   X  X     C L  2 2 6.กาลังไฟฟ้าเฉลี่ย P = IVcos (เป็ นกาลังที่เกิดบน R) P  IVR  I 2 R  2 VR R 𝑐 𝑓แสง ควรจา 𝜆แสง 1 2 1 LC ฟิ สิกส์ อะตอม การแผ่รงสีของวัตถุดา ั ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก 1. fแสง  f0 อิเล็กตรอนจึงจะหลุดได้ (หลุดทันทีที่แสงตกกระทบ) 2. จานวนอิเล็กตรอน หรือกระแสไฟฟ้า (I) จะมากขึน เมือความเข้ม ้ ่ แสงมากขึน ้ 3. EK สูงสุดของอิเล็กตรอนและค่า VS ขึ้นกับ fแสง เท่านัน ไม่ขึ้นกับ ้ ความเข้มแสง 𝑓0 𝑐 𝜆0 2 𝑚𝑣 𝑒𝑉𝑠 กราฟความสัมพันธ์ระหว่าง I กับ V * ให้แสงที่มี fแสง ตกกระทบโลหะเท่ากัน ความ ต่างศักย์หยุดยั้ง (VS) จะต่างกัน * ความเข้มแสงต่างกัน กระแสไฟฟ้าที่ได้จะ ต่างกัน - แสงทีมความเข้มมาก ่ ี กระแสไฟฟ้ามาก - แสงทีมความเข้มน้อย ่ ี กระแสไฟฟ้าน้อย I (กระแส) (ความเข้มมาก) ที่ความถี่นี้จะทาให้ XL = XC ผลก็คือ Z = R เราสามารถหาค่ากระแสไฟฟ้าได้จาก ถ้าต่อ RLC แบบอนุกรม  I มากทีสด ุ่ ถ้าต่อ RLC แบบขนาน  I น้อยทีสด ุ่ 8.การปรับปรุงตัวประกอบกาลัง ( ) 𝐸𝑘 =12.4 7.ความถี่เรโซแนนซ์ f  𝑊 (ความเข้มน้อย) -VS 0 V * ให้ความเข้มแสงเท่ากัน กระแสจะเท่ากัน * ให้แสงที่มี fแสง ตกกระทบโลหะต่างกัน ความ ต่างศักย์หยุดยั้ง (VS) จะต่างกัน - แสงทีมีความถีมาก ่ ่ VS มาก - แสงทีมีความถีนอย ่ ่ ้ VS น้อย I (กระแส) ความเข้มเท่ากัน f1 > f2 -VS1 -VS2 0 V
  • 8. ทบทวนสูตรฟิ สิกส์ ก่อนสอบ 8 (สรุปสูตรมีประโยชน์ ในการช่ วยเตือนความจา นักเรียนจะต้ องมีความรู้มาบ้ างแล้ ว …และแนะนาว่ านักเรียนควรบันทึกความรู้ของนักเรียนเพิ่มลงไปด้ วย) อิเล็กตรอนประพฤตัวเป็นคลืนนิง ่ ่ การเปลียนระดับพลังงานของอะตอม ่ 𝐸 𝐸ก่อน 𝐸หลัง 2𝜋𝑟 𝑛 𝑐 𝜆 𝑓 𝑟𝑛 ถ้าโจทย์พดถึงพลังงานในหน่วย eV ู 𝑓แสง 𝑒 𝑛𝜆 𝑐 𝐸(𝑒𝑉) 𝑒𝜆แสง เมื่อ 𝐸ก่อน 𝑛 ความไม่แน่นอนทางตาแหน่งกับความไม่ แน่นอนทางโมเมนตัม เขียนได้ดังนี้ 𝐸หลัง x     คือ ระดับชั้นพลังงาน ฟิสกส์นวเคลียร์ ิ ิ การคานวณหาพลังงานทีระดับชันพลังงานต่างๆ ่ ้ R  R0 3 A รัศมีของนิวเคลียส อานาจทะลุทะลวง >> การคานวณหากัมมันตภาพ (Activity) 𝐴 𝜆𝑁 โดย รัศมีวงโคจรอิเล็กตรอน อัตราเร็วเชิงเส้นของอิเล็กตรอนในวงโคจรต่างๆ พลังงานรวมของอิเล็กตรอนในวงโคจรต่างๆ สมการการสลายตัว N N0 2 t T , A A0 2 t T , m m0 t 2T พลังงานนิวเคลียร์ E = m  931 MeV [ อนุกรมเส้นสเปกตรัม แรก หลัง ] สเปกตรัมของรังสีเอกซ์  ความยาวคลืนของรังสีเอกซ์จงสันที่สด ่ ึ ้ ุ 𝜆สันสุด ้ 2 เร่ง สูตรการหาโมเมนตัมของแสง ความยาวคลืนเดอบรอยล์ หรือ ความยาวคลืนสสาร ่ ่ โดย m แทน มวลในหน่วย 𝑢 สมการหาพลังงานยึดเหนี่ยว B.E. = m  931 หน่วยเป็น MeV m = (mH + mn)ทั ้งหมด – mอะตอม หรือ m = mก่อนรวม - mหลังรวม คานวณพลังงานนิวเคลียร์จากพลังงานยึดเหนี่ยว (B.E.) E = B.E.หลัง - B.E.ก่อน คานวณพลังงานนิวเคลียร์จากพลังงานจลน์ (Ek) E = Ekหลัง- Ek ก่อน