SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 24
Downloaden Sie, um offline zu lesen
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
          เสนอ อ.ทรงศั กดิ ์ โพธิเอียม
                                 ์ ่
ความหมายและลักษณะของโปรแกรม
คอมพิวเตอร์
          โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Program Computer) คือ ชุดคำสังทีใ่ ช้สำหรับแสดง
                                                             ่
 และสือสำรกับคอมพิวเตอร์ เพือให้คอมพิวเตอร์ทำงำนตำมลำดับขันตอนทีเ่ ขียนไว้ใน
      ่                       ่                           ้
 ชุดคำสังนันๆ คำสังเหล่ำนีนกพัฒนำโปรแกรมหรือโปรแกรมเมอร์ (Programmer) จะ
            ่ ้     ่    ้ ั
 เขียนขึนด้วยภำษำคอมพิวเตอร์ตำมลำดับขันตอนของกำรพัฒนำโปรแกรม ดังนี้
        ้                              ้
วิเคราะห์ ปัญหา
กำรวิเครำะห์ปญหำ ประกอบด้วยขันตอนต่ำงๆ ดังนี้
             ั                  ้
กำหนดวัตถุประสงค์ของงำน เพือพิจำรณำว่ำโปรแกรมต้องทำกำรประมวลผลอะไรบ้ำง
                                    ่
พิจำรณำข้อมูลนำเข้ำ เพือให้ทรำบว่ำจะต้องนำข้อมูลอะไรเข้ำคอมพิวเตอร์
                            ่                                         ข้อมูลมี
   คุณสมบัตเิ ป็ นอย่ำงไร ตลอดจนถึงลักษณะและรูปแบบของข้อมูลทีจะนำเข้ำ
                                                             ่
พิจำรณำกำรประมวลผล เพือให้ทรำบว่ำโปรแกรมมีขนตอนกำรประมวลผลอย่ำงไรและมีเงือนไป
                              ่                    ั้                          ่
   กำรประมวลผลอะไรบ้ำง
พิจำรณำข้อสนเทศนำออก เพือให้ทรำบว่ำมีขอสนเทศอะไรทีจะแสดง ตลอดจนรูปแบบและสือที่
                                  ่         ้            ่                       ่
   จะใช้ในกำรแสดงผล
ออกแบบวิธีการแก้ ปัญหา

       กำรออกแบบขันตอนกำรทำงำนของโปรแกรมเป็ นขันตอนทีใ่ ช้เป็ นแนวทำงในกำรลง
                    ้                          ้
 รหัสโปรแกรม ผู ออกแบบขันตอนกำรทำงำนของโปรแกรมอำจใช้เครืองมือต่ำงๆ ช่วยใน
                  ้     ้                                   ่
 กำรออกแบบ อำทิเช่น คำสังลำลอง (Pseudocode) หรือ ผังงำน (Flow chart)
                          ่
 กำรออกแบบโปรแกรมนันไม่ต้องพะวงกับรูปแบบคำสังภำษำคอมพิวเตอร์ แต่ให้มุ่งควำม
                      ้                     ่
 สนใจไปทีลำดับขันตอนในกำรประมวลผลของโปรแกรมเท่ำนัน
         ่      ้                                ้
การเขียนโปรแกรม
         กำรเขียนโปรแกรมเป็ นกำรนำเอำผลลัพธ์ของกำรออกแบบโปรแกรมมำเปลียนเป็ น
                                                                      ่
 โปรแกรมภำษำคอมพิวเตอร์ภำษำใดภำษำหนึง ผู เ้ ขียนโปรแกรมจะต้องให้ควำมสนใจต่อ
                                          ่
 รูปแบบคำสังและกฎเกณฑ์ของภำษำทีใ่ ช้เพือให้กำรประมวลผลเป็ นไปตำมผลลัพธ์ทไี่ ด้
              ่                        ่
 ออกแบบไว้ นอกจำกนันผู เ้ ขียนโปรแกรมควรแทรกคำอธิบำยกำรทำงำนต่ำง ลงใน
                       ้
 โปรแกรมเพือให้โปรแกรมนันมีควำมกระจ่ำงชัดและง่ำยต่อกำรตรวจสอบและโปรแกรมนียง
                ่           ้                                                  ้ ั
 ใช้เป็ นส่วนหนึงของเอกสำรประกอบ
                  ่
ทดสอบและแก้ ไขโปรแกรม

       กำรทดสอบโปรแกรมเป็ นกำรนำโปรแกรมทีลงรหัสแล้วเข้ำคอมพิวเตอร์
                                               ่
       เพือตรวจสอบรูปแบบกฎเกณฑ์ของภำษำ และผลกำรทำงำนของโปรแกรมนัน ถ้ำ
          ่                                                              ้
 พบว่ำยังไม่ถูกก็แก้ไขให้ถูกต้องต่อไป ขันตอนกำรทดสอบและแก้ไขโปรแกรม อำจแบ่งได้เป็ น
                                        ้
 3 ขัน
     ้
1 สร้ำงแฟมเก็บโปรแกรมซึงส่วนใหญ่นยมนำโปรแกรมเข้ำผ่ำนทำงแป้ นพิมพ์โดยใช้
                 ้              ่        ิ
โปรแกรมประมวลคำddd
2 ใช้ตวแปลภำษำคอมพิวเตอร์แปลโปรแกรมทีสร้ำงขึนเป็ นภำษำเครือง โดยระหว่ำง
              ั                                ่ ้              ่
กำรแปลจะมีกำรตรวจสอบควำมถูกต้องของรูปแบบและกฎเกณฑ์ในกำรใช้ภำษำ ถ้ำคำสัง          ่
ใดมีรูปแบบไม่ถูกต้องก็จะแสดงข้อผิดพลำดออกมำเพือให้ผูเ้ ขียนนำไปแก้ไขต่อไป ถ้ำไม่ม ี
                                                  ่
ข้อผิดพลำด เรำจะได้โปรแกรมภำษำเครืองทีสำมำรถให้คอมพิวเตอร์ประมวลผลได้
                                       ่ ่
3 ตรวจสอบควำมถูกต้องของกำรประมวลผลของโปรแกรม โปรแกรมทีถูกต้องตำม      ่
รูปแบบและกฎเกณฑ์ของภำษำ แต่อำจให้ผลลัพธ์ของกำรประมวลผลไม่ถูกต้องก็ได้
ดังนันผู เ้ ขียนโปรแกรมจำเป็ นต้องตรวจสอบว่ำโปรแกรมประมวลผลถูกต้องตำมต้องกำร
     ้
หรือไม่
จัดทาเอกสารประกอบ

      กำรทำเอกสำรประกอบโปรแกรมเป็ นงำนทีสำคัญของกำรพัฒนำโปรแกรม
                                              ่
      เอกสำรประกอบโปรแกรมช่วยให้ผูใ้ ช้โปรแกรมเข้ำใจวัตถุประสงค์ ข้อมูลทีจะต้องใช้กบ
                                                                         ่         ั
 โปรแกรม ตลอดจนผลลัพธ์ ทจะได้จำกโปรแกรม กำรทำโปรแกรมทุกโปรแกรมจึงควรต้อง
                            ี่
 ทำเอกสำรกำกับ เพือใช้สำหรับกำรอ้ำงอิงเมือจะใช้งำนโปรแกรมและเมือต้องกำรแก้ไข
                   ่                     ่                     ่
 ปรับปรุงโปรแกรม เอกสำรประกอบโปรแกรมทีจดทำ ควรประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้
                                           ่ั
-วัตถุประสงค์
-ประเภทและชนิดของคอมพิวเตอร์และอุ ปกรณ์ทใี่ ช้ในโปรแกรม
-วิธกำรใช้โปรแกรม
    ี
-แนวคิดเกียวกับกำรออกแบบโปรแกรม
           ่
-ลำยละเอียดโปรแกรม
-ข้อมูลตัวแทนทีใ่ ช้ทดสอบ
-ผลลัพธ์ ของกำรทดสอบ
บารุ งรักษาโปรแกรม
          เมีอโปรแกรมผ่ำนกำรตรวจสอบตำมขันตอนเรียบร้อยแล้ว และถูกนำมำให้ผูใ้ ช้
              ่                                  ้
 ได้ใช้งำน ในช่วงแรกผู ใ้ ช้อำจจะยังไม่คุ้นเคยก็อำจทำให้เกิดปัญหำขึนมำบ้ำง ดังนันจึง
                                                                  ้             ้
 ต้องมีผูคอยควบคุมดูแลและคอยตรวจสอบกำรทำงำน กำรบำรุงรักษำโปรแกรมจึง
            ้
 เป็ นขันตอนทีผูเ้ ขียนโปรแกรมต้องคอยเฝ้ ำดูและหำข้อผิดพลำดของโปรแกรมใน
        ้         ่
 ระหว่ำงทีผูใ้ ช้ใช้งำนโปรแกรม และปรับปรุงโปรแกรมเมือเกิดข้อผิดพลำดขึน หรือใน
                ่                                      ่                  ้
 กำรใช้งำนโปรแกรมไปนำนๆ ผู ใ้ ช้อำจต้องกำรเปลียนแปลงกำรทำงำนของระบบงำน
                                                     ่
 เดิมเพือให้เหมำะกับเหตุ-กำรณ์ นักเขียนโปรแกรมก็จะต้องคอยปรับปรุงแก้ไขโปรแกรม
          ่
 ตำมควำมต้องกำรของผู ใ้ ช้ทเี่ ปลียนแปลงไปนันเอง
                                    ่              ่
ภาษาคอมพิวเตอร์
     ภำคอมพิวเตอร์หรือภำษำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Computer Programming
 Language) มีพนฐำนมำจำกกำรเปิ ดและปิ ดกระแสไฟฟำ หรือระบบเลขฐำนสอง คือ 0
                  ้ื                          ้
 และ 1 เรียงต่อกัน เพือแทนควำมหมำยต่ำงๆ ในคอมพิวเตอร์
                      ่
ประเภทของภำษำคอมพิวเตอร์
ประเภทของภาษาคอมพิวเตอร์
            ่
 ภำษำเครือง (Machine Language)
        ก่อนปี ค.ศ. 1952 มีภำษำคอมพิวเตอร์เพียงภำษำเดียวเท่ำนันคือ ภำษำเครือง
                                                              ้             ่
 (Machine Language) ซึงเป็ นภำษำระดับต่ ำทีสุด เพรำะใช้เลขฐำนสองแทนข้อมูล และ
                             ่                  ่
 คำสังต่ำง ๆ ทังหมดจะเป็ นภำษำทีขนอยู่กบชนิดของเครืองคอมพิวเตอร์ หรือหน่วย
      ่          ้                 ่ ้ึ ั              ่
 ประมวลผลทีใ่ ช้ นันคือปต่ละเครืองก็จะมีรูปแบบของคำสังเฉพำะของตนเอง ซึงนักคำนวณ
                   ่             ่                   ่                ่
 และนักเขียนโปรแกรมในสมัยก่อนต้องรู้จกวิธทจะรวมตัวเลขเพือแทนคำสังต่ำ ๆ ทำให้กำร
                                        ั ี ี่           ่       ่
 เขียนโปรแกรมยุ่งยำกมำก นักคอมพิวเตอร์จงได้พฒนำภำษำแอสเซมบลีขนมำเพือให้
                                             ึ ั                   ้ึ     ่
 สำมำรถเขียนโปรแกรมได้ง่ำยขึน  ้
ประเภทของภาษาคอมพิวเตอร์
 ภำษำแอสเซมบลี (Assembly Language)
        ต่อมำในปี ค.ศ. 1952 ได้มกำรพัฒนำโปรแกรมภำษำระดับต่ ำตัวใหม่ ชือ
                                  ี                                     ่
 ภำษำแอสเซมบลี (Assembly Language) โดยทีภำษำแอสเซมบลีใช้รหัสเป็ นคำแทน
                                                  ่
 คำสังภำษำเครือง ทำให้นกเขียนโปรแกรมสำมำรถเขียนโปรแกรมได้ง่ำยขึน ถึงแม้ว่ำกำร
      ่         ่         ั                                       ้
 เขียนโปรแกรมจะยังไม่สะดวกเท่ำกับกำรเขียนโปรแกรมภำษำอืน ๆ ในสมัยนี้ แต่ถ้ำ
                                                        ่
 เปรียบเทียบในสมัยนันก็ถอว่ำเป็ นกำรพัฒนำไปสู่ยุคของกำรเขียนโปรแกรมแบบใหม่ คือใช้
                     ้ ื
 สัญลักษณ์แทนเลข 0 และ 1 ของภำษำเครือง ซึงสัญลักษณ์ทใี่ ช้จะเป็ นคำสังสัน ๆ ทีจะได้
                                        ่ ่                          ่ ้ ่
 ง่ำย เรียกว่ำ นิมอนิกโคด (mnemonic code)
ประเภทของภาษาคอมพิวเตอร์
ภำษำระดับสูง (High Level Language)
           ในปี ค.ศ. 1960 ได้มกำรพ ัฒนำ ภำษำระดับสูง (High Level Language) ขึน ภำษำระดับสูงจะ
                                ี                                                   ้
   ใช้คำในภำษำอังกฤษแทนคำสังต่ำง ๆ รวมทังสำมำรถใช้นพจน์ทำงคณิตศำสตร์ได้ด้วย ทำให้นกเขียน
                                  ่            ้        ิ                                   ั
   โปรแกรมสำมำรถใช้เวลำมุ่งไปในกำรศึกษำถึงทำงแก้ปญหำเท่ำนัน ไม่ต้องเป็ นกังวลว่ำคอมพิวเตอร์จะ
                                                     ั       ้
   ทำงำนอย่ำงไรอีกต่อไป
           ภำษำระดับสูงนีถอว่ำเป็ น ภำษำยุคทีสำม (third-generation language) ซึงทำให้เกิดกำร
                           ้ื                ่                                    ่
   ประมวลผลข้อมูลเพิมมำกขึนอย่ำงมหำศำลระหว่ำงปี ค.ศ. 1960 ถึง ค.ศ. 1970 และมีผูหนมำใช้
                       ่      ้                                                         ้ั
   คอมพิวเตอร์กนมำกขึน โดยสังเกตได้จำมเครืองเมนเฟรมจำกจำนวนร้อยเครืองเพิมขึนเป็ นหมืนเครือง
                    ั    ้                       ่                          ่ ่ ้          ่ ่
   อย่ำงไรก็ตำม ภำษำระดับสูงก็ยงคงต้องกำรตัวแปลภำษำให้เป็ นภำษำเครืองเพือสังให้เครืองทำงำนต่อไป
                                    ั                                ่ ่ ่            ่
   ตัวแปลภำษำทีนยมใช้งำนกันโดยทัวไปจะเป็ นแบบคอมไพเลอร์ ซึงแต่ละภำษำก็มคอมไพเลอร์ไม่เหมือนกัน
                   ่ิ                 ่                    ่              ี
   รวมทังคอมไพเลอร์แต่ละตัวก็จะต่ำงกันไปบนเครืองแต่ละชนิดด้วย
         ้                                         ่
ประเภทของภาษาคอมพิวเตอร์
ภำษำระดั บสูงมำก (Very high-level Language)
            เป็ นภำษำยุคที่ 4 (fourth-generation language) หรือ 4GLs จะเป็ นภำษำทีใ่ ช้เขียนโปรแกรมได้สน       ั้
   กว่ำภำษำในยุ คก่อน ๆ กำรทำงำนบำงอย่ำงสำมำรถใช้เพียง 5 ถึง 10 บรรทัดเท่ำนัน ในขณะทีถำเขียนด้วย
                                                                                          ้         ่้
   ภำษำ อำจต้องใช้ถง 100 บรรทัด โดยพืนฐำนแล้ว ภำษำในยุคที่ 4 นีมคุณสมบัตทแยกจำกภำษำใยุคก่อน ๆ
                        ึ                       ้                        ้ี          ิ ี่
   อย่ำงชัดเจน กล่ำวคือภำษำในยุ คก่อนนันใช้หลักกำรของ กำรเขียนโปรแกรมแบบโพรซีเยอร์ (procedurl
                                           ้
   language) ในขณะทีภำษำในยุคที่ 4 จะเป็ นแบบ ไม่ใช้โพรซีเยอร์ (nonprocedurl language) ผู เ้ ขียน
                          ่
   โปรแกรมเพียงแต่กำหนดว่ำต้องกำรให้โปรแกรมทำอะไรบ้ำงก็สำมำรถเขียนโปรแกรมได้ทนที โดยไม่ต้องทรำบว่ำ
                                                                                            ั
   ทำได้อย่ำงไร ทำให้กำรเขียนโปรแกรมสำมำรถทำได้ง่ำยและรวดเร็ว
            มีนกเขียโปรแกรมกล่ำวว่ำ ถ้ำใช้ภำษำในยุคที่ 4 นีเ้ ขียนโปรแกรมจะทำให้ได้งำนทีเ่ พิมขึนถึงสิบเท่ำตัว
                 ั                                                                            ่ ้
   ตัวอย่ำงเช่น ถ้ำต้องกำรพิมพ์รำยงำนแสดงจำนวนรำยกำรสินต้ำทีขำยให้ลูกค้ำแต่ละคนในหนึงเดือน โดยให้
                                                                       ่                          ่
   แสดงยอดรวมของลูกค้ำแต่ละคน และให้ขนหน้ำใหม่สำหรับกำรพิมพ์รำยงำนลูกค้ำแต่ละคน จะเขียนโดยใช้ภำษำ
                                             ้ึ
   ในยุคที่ 4
ประเภทของภาษาคอมพิวเตอร์
 ภำษำธรรมชำติ (Nature Language)
        เป็ น ภำษำยุคที่ 5 (fifth generation language) หรือ 5GLs ธรรมชำติหมำยถึง
 ธรรมชำติของมนุษย์ คือไม่ต้องสนใจถึงคำสังหรือลำดับของข้อมูลทีถูกต้อง ผู ใ้ ช้เพียงแต่พมพ์
                                           ่                    ่                       ิ
 สิงทีต้องกำรลงในเครืองคอมพิวเตอร์เป็ นคำหรือประโยคตำมทีผูใ้ ช้เข้ำใจ ซึงจะทำให้มรูปแบบ
   ่ ่                  ่                                   ่           ่        ี
 ของคำสังหรือประโยคทีแตกต่ำงกันออกไปได้มำกมำย เพรำะผู ใ้ ช้แต่ละคนอำจจะใช้ประโยค
            ่             ่
 ต่ำงกัน ใช้คำศัพท์ต่ำงกัน หรือแม้กระทังบำงคนอำจจะใช้ศพท์แสลงก็ได้ คอมพิวเตอร์จะ
                                       ่              ั
 พยำยำมแปลคำหรือประโยคเหล่ำนันตำมคำสัง แต่ถำไม่สำมำรถแปลให้เข้ำใจได้ ก็จะมีคำถำม
                                   ้         ่ ้
 กลับมำถำมผู ใ้ ช้เพือยืนยันควำมถูกต้อง ภำษำธรรมชำติจะใช้ ระบบฐำนควำมรู้ (knowledge
                     ่
 base system) ช่วยในกำรแปลควำมหมำยของคำสังต่ำง ๆ ่
ตัวอย่ำงภำษำคอมพิวเตอร์
ตัวอย่ างภาษาคอมพิวเตอร์
ภำษำ BASIC
          เป็ นภำษำทีใ่ ช้ง่ำย และติดตังอยู่บนเครืองไมโครคอมพิวเตอร์ส่วนมำก ใช้สำหรับผู ้
                                       ้          ่
  เริมต้นศึกษำกำรเขียนโปรแกรมและผู ทเี่ ขียนโปรแกรมเป็ นงำนอดิเรก นิยมใช้ในกำรเขียน
      ่                                   ้
  โปรแกรมสัน ๆ  ้
          ภำษำ BASIC รุ่นแรกใช้ interpreter เป็ นตัวแปลภำษำ ทำให้เขียนโปรแกรม
  ทดสอบ และแก้ไขโปรแกรมได้อย่ำงง่ำยดำย แต่กทำงำนได้ชำ ทำให้ผูทเี่ ขียนโปรแกรม
                                                     ็      ้        ้
  เชียวชำญแล้วไม่นยมใช้งำน แต่ปจจุบนนีมภำษำ BASIC รุ่นใหม่ออกมำซึงใช้ conplier
        ่               ิ             ั ั ้ี                              ่
  เป็ นตัวแปลภำษำ ทำให้ทำงำนได้คล่อ่งตัวขึน เช่น Microsoft's Quick BASIC และ
                                                ้
  Visual Basic เป็ นต้น
ตัวอย่ างภาษาคอมพิวเตอร์
ภำษำ COBOL
          เป็ นภำษำระดับสูงทีออกแบบมำตังแต่ปีค.ศ. 1960 นิยมใช้สำหรับกำรแก้ปญหำทำงด้ำน
                             ่           ้                                 ั
  ธุรกิจ เช่น กำรจัดเก็บ เรียกใช้ และประมวลผลทำงด้ำนบัญชี ตลอดจนทำงำนด้ำนกำรควบคุม
  สินค้ำคงคลัง กำรรับและจ่ำยเงิน เป็ นต้น
          คำสังของภำษำ COBOL จะคล้ำยกับภำษำอังกฤษทำให้สำมำรถอ่ำนและเขียนโปรแกรม
                ่
  ได้ไม่ยำกนัก ในยุคแรก ๆ ภำษำ COBOL จะได้รบควำมนิยมบนเครืองระดับเมนเฟรม แต่
                                                   ั             ่
  ปัจจุบนนีจะมีตวแปลภำษำ COBOL ทีใ่ ช้บนเครืองไมโครคอมพิวเตอร์ด้วย รวมทังมีภำษำ
         ั ้ ั                                   ่                           ้
  COBOL ทีไ่ ด้รบกำรออกแบบตำมแนวทำงเชิงวัตถุ (Object Oriented) เรียกว่ำ Visual
                      ั
  COBOLซึงช่วยให้โปรแกรมสำมำรถทำได้ง่ำยขึน และสำมำรถนำโปรแกรมทีเ่ ขียนไว้มำใช้ในกำร
                  ่                            ้
  พัฒนำงำนอืน ๆ อีก ่
ตัวอย่ างภาษาคอมพิวเตอร์
ภำษำ Fortran
       เป็ นภำษำระดับสูงทีไ่ ด้รบกำรพัฒนำโดยบริษท IBM ตังแต่ปีค.ศ. 1957 ย่อมำ
                                ั               ั       ้
  จำกคำว่ำ FORmula TRANslator ซึงถือว่ำเป็ นกำรกำเนิดของภำษำระดับสูงภำษำ
                                          ่
  แรก นิยมใช้สำหรับงำนทีมกำรคำนวณมำก ๆ เช่น งำนทำงด้ำนคณิตศำสตร์
                         ่ี
  วิทยำศำสตร์ และวิศวกรรมศำสตร์ เป็ นต้น
ตัวอย่ างภาษาคอมพิวเตอร์
ภำษำ Pascal
         เป็ นภำษำระดับสูงทีเ่ อื้ออำนวยให้ผูเ้ ขียนโปรแกรมเขียนโปรแกรมได้อย่ำงมีโครงสร้ำง
  และเขียนโปรแกรมได้ง่ำยกว่ำภำษำอืน นิยมใช้บนเครืองไมโครคอมพิวเตอร์ เป็ นภำษำ
                                        ่                ่
  สำหรับกำรเรียนกำรสอน และกำรเขียนโปรแกรมประยุกต์ต่ำง ๆ
         ภำษำปำสคำลมีตวแปลภำษำทังทีเ่ ป็ น interpreter และ Compiler โดยจะมี
                           ั              ้
  โปรแกรมเทอร์โบปำสคำล (Turbo Pascal) ทีไ่ ด้รบควำมนิยมอย่ำงสูงทังในวง
                                                           ั                 ้
  กำรศึกษำและธุรกิจ เนืองจำกได้รบกำรปรับปรุงให้ตวข้อเสียของภำษำปำสคำลรุ่นแรก ๆ
                         ่            ั                      ั
  ออก
บรรณานุ กรม
 http://61.19.202.164/resource/courseware/problem/k02-02.html
 http://cptd.chandra.ac.th/selfstud/it4life/sub%20soft3.htm
 http://course.eau.ac.th/course/.../คำสั่ง%20HTMlL%20เบืองต้น.pdf
                                                           ้

   http://school.obec.go.th/phusing/html/notepad.htm

   หนังสือ รำยวิชำพืนฐำน เทคโนโลยีสำรสนเทศ ม.5
                    ้
จัดทาโดย

1.นำยศิวกร                ชำติสงหเดช เลขที่ 6
                                  ิ
2.นำยศุภชีพ              กนกพัฒนำกร เลขที่ 7
  3.นำยธนนนท์              สงเจริญ เลขที่ 12
4.นำงสำวดลญำ            เหลืองทอง เลขที่ 17
5.นำงสำวนพรัตน์         โชติกปฏิพทธ์ เลขที่ 19
                                     ั
 6.นำงสำวอัจฉรำวรรณ ฉิมพวัน เลขที่ 25
               มัธยมศึกษำปี ท ี่ 5/2

Weitere ähnliche Inhalte

Was ist angesagt?

โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
Wityaporn Pleeboot
 
โปรแกรม
โปรแกรมโปรแกรม
โปรแกรม
thanapon51105
 
การสร างงานโปรแกรมด วยภาษาคอมพ_วเตอร_
การสร างงานโปรแกรมด วยภาษาคอมพ_วเตอร_การสร างงานโปรแกรมด วยภาษาคอมพ_วเตอร_
การสร างงานโปรแกรมด วยภาษาคอมพ_วเตอร_
Aoy-Phisit Modify-Computer
 
โครงงานคอม 5
โครงงานคอม 5โครงงานคอม 5
โครงงานคอม 5
wipawanmmiiww
 
การสร้างงานโปรเเกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
การสร้างงานโปรเเกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์การสร้างงานโปรเเกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
การสร้างงานโปรเเกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
Pete Panupong
 
การสร้างโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิมเตอร์
การสร้างโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิมเตอร์การสร้างโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิมเตอร์
การสร้างโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิมเตอร์
Adisak' Jame
 
ภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรม
ภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรม
ภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรม
Sarocha Makranit
 
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
Soldic Kalayanee
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
Chatkal Sutoy
 
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
Onrutai Intanin
 

Was ist angesagt? (18)

โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
 
โปรแกรม
โปรแกรมโปรแกรม
โปรแกรม
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
การสร างงานโปรแกรมด วยภาษาคอมพ_วเตอร_
การสร างงานโปรแกรมด วยภาษาคอมพ_วเตอร_การสร างงานโปรแกรมด วยภาษาคอมพ_วเตอร_
การสร างงานโปรแกรมด วยภาษาคอมพ_วเตอร_
 
ภาษาคอมพิวเตอร์
ภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาคอมพิวเตอร์
ภาษาคอมพิวเตอร์
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
โครงงานคอม 5
โครงงานคอม 5โครงงานคอม 5
โครงงานคอม 5
 
การสร้างงานโปรเเกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
การสร้างงานโปรเเกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์การสร้างงานโปรเเกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
การสร้างงานโปรเเกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
 
การสร้างโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิมเตอร์
การสร้างโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิมเตอร์การสร้างโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิมเตอร์
การสร้างโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิมเตอร์
 
การสร้างงานโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
การสร้างงานโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ การสร้างงานโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
การสร้างงานโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
 
ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์
 
ภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรม
ภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรม
ภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรม
 
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
 
การเขียนโปรแกรมภาษา
การเขียนโปรแกรมภาษาการเขียนโปรแกรมภาษา
การเขียนโปรแกรมภาษา
 
Introduction to Java Programming
Introduction to Java ProgrammingIntroduction to Java Programming
Introduction to Java Programming
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
 

Ähnlich wie โปรแกรมคอมพิวเตอร์

(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)
JoyCe Zii Zii
 
eruueng_kaarcchadkaarchftaewrain_Windows_7.docx
eruueng_kaarcchadkaarchftaewrain_Windows_7.docxeruueng_kaarcchadkaarchftaewrain_Windows_7.docx
eruueng_kaarcchadkaarchftaewrain_Windows_7.docx
ssuser07f67b
 
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
KaRn Tik Tok
 
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
Mintra Pudprom
 
Group1 กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ2007
Group1 กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ2007Group1 กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ2007
Group1 กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ2007
MMp'New Aukkaradet
 
Software 7
Software 7Software 7
Software 7
paween
 
โปรแกรมคอม
โปรแกรมคอมโปรแกรมคอม
โปรแกรมคอม
Onrutai Intanin
 
โปรแกรมคอม
โปรแกรมคอมโปรแกรมคอม
โปรแกรมคอม
Onrutai Intanin
 
(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)
Aungkana Na Na
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
SubLt Masu
 
(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)
Aungkana Na Na
 
(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)
JoyCe Zii Zii
 
(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)
JoyCe Zii Zii
 
โครงงานประเภท การพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานประเภท การพัฒนาเครื่องมือโครงงานประเภท การพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานประเภท การพัฒนาเครื่องมือ
kimaira99
 

Ähnlich wie โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (20)

งานกลุ่มมคอม
งานกลุ่มมคอมงานกลุ่มมคอม
งานกลุ่มมคอม
 
K8
K8K8
K8
 
(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)
 
eruueng_kaarcchadkaarchftaewrain_Windows_7.docx
eruueng_kaarcchadkaarchftaewrain_Windows_7.docxeruueng_kaarcchadkaarchftaewrain_Windows_7.docx
eruueng_kaarcchadkaarchftaewrain_Windows_7.docx
 
ใบงาน 5
ใบงาน 5ใบงาน 5
ใบงาน 5
 
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
 
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
 
Software
SoftwareSoftware
Software
 
Group1 กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ2007
Group1 กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ2007Group1 กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ2007
Group1 กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ2007
 
Software 7
Software 7Software 7
Software 7
 
โปรแกรมคอม
โปรแกรมคอมโปรแกรมคอม
โปรแกรมคอม
 
โปรแกรมคอม
โปรแกรมคอมโปรแกรมคอม
โปรแกรมคอม
 
(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
 
(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)
 
(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)
 
(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)
 
689 2
689 2689 2
689 2
 
โครงงานประเภท การพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานประเภท การพัฒนาเครื่องมือโครงงานประเภท การพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานประเภท การพัฒนาเครื่องมือ
 
การสร้างงานโปรแกรม
การสร้างงานโปรแกรมการสร้างงานโปรแกรม
การสร้างงานโปรแกรม
 

Mehr von Sarocha Makranit

พื้นฐานภาษาจาวา
พื้นฐานภาษาจาวาพื้นฐานภาษาจาวา
พื้นฐานภาษาจาวา
Sarocha Makranit
 
ภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรม
ภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรม
ภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรม
Sarocha Makranit
 
งาน ฉลองพระชันษา 100 ปี
งาน ฉลองพระชันษา 100 ปีงาน ฉลองพระชันษา 100 ปี
งาน ฉลองพระชันษา 100 ปี
Sarocha Makranit
 
Apple ลุยเทคโนโลยี 3 d
Apple ลุยเทคโนโลยี 3 dApple ลุยเทคโนโลยี 3 d
Apple ลุยเทคโนโลยี 3 d
Sarocha Makranit
 
กลุ่ม 4 การเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำ
กลุ่ม 4 การเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำกลุ่ม 4 การเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำ
กลุ่ม 4 การเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำ
Sarocha Makranit
 
ศิลปินรุ่นใหม่ใช้ปากกาไฮเทคแทนดินสอ
ศิลปินรุ่นใหม่ใช้ปากกาไฮเทคแทนดินสอศิลปินรุ่นใหม่ใช้ปากกาไฮเทคแทนดินสอ
ศิลปินรุ่นใหม่ใช้ปากกาไฮเทคแทนดินสอ
Sarocha Makranit
 
ไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษา
ไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษาไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษา
ไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษา
Sarocha Makranit
 
ซัมซุงครองแชมป์ตลาดสมาร์ทโฟนจีน Q1 2013
ซัมซุงครองแชมป์ตลาดสมาร์ทโฟนจีน Q1 2013ซัมซุงครองแชมป์ตลาดสมาร์ทโฟนจีน Q1 2013
ซัมซุงครองแชมป์ตลาดสมาร์ทโฟนจีน Q1 2013
Sarocha Makranit
 
ไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษา
ไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษาไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษา
ไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษา
Sarocha Makranit
 
เปลี่ยนสมาร์ทโฟนเป็นเครื่องวัดระดับแอลกฮอล์
เปลี่ยนสมาร์ทโฟนเป็นเครื่องวัดระดับแอลกฮอล์เปลี่ยนสมาร์ทโฟนเป็นเครื่องวัดระดับแอลกฮอล์
เปลี่ยนสมาร์ทโฟนเป็นเครื่องวัดระดับแอลกฮอล์
Sarocha Makranit
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Sarocha Makranit
 
รายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ตรายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ต
Sarocha Makranit
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Sarocha Makranit
 
อินเทลโชว์ชิปใหม่
อินเทลโชว์ชิปใหม่อินเทลโชว์ชิปใหม่
อินเทลโชว์ชิปใหม่
Sarocha Makranit
 
คีย์บอร์ดแสง
คีย์บอร์ดแสงคีย์บอร์ดแสง
คีย์บอร์ดแสง
Sarocha Makranit
 
ทีวีสามมิติ ต่อเน็ตบนจอโทรทัศน์
ทีวีสามมิติ ต่อเน็ตบนจอโทรทัศน์ทีวีสามมิติ ต่อเน็ตบนจอโทรทัศน์
ทีวีสามมิติ ต่อเน็ตบนจอโทรทัศน์
Sarocha Makranit
 
ไอเซอร์เวย์
ไอเซอร์เวย์ไอเซอร์เวย์
ไอเซอร์เวย์
Sarocha Makranit
 

Mehr von Sarocha Makranit (20)

พื้นฐานภาษาจาวา
พื้นฐานภาษาจาวาพื้นฐานภาษาจาวา
พื้นฐานภาษาจาวา
 
ภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรม
ภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรม
ภาษาคอมพิวเตอร์และการพัฒนาโปรแกรม
 
งาน ฉลองพระชันษา 100 ปี
งาน ฉลองพระชันษา 100 ปีงาน ฉลองพระชันษา 100 ปี
งาน ฉลองพระชันษา 100 ปี
 
It news
It newsIt news
It news
 
กลุ่ม 4
กลุ่ม 4กลุ่ม 4
กลุ่ม 4
 
Apple ลุยเทคโนโลยี 3 d
Apple ลุยเทคโนโลยี 3 dApple ลุยเทคโนโลยี 3 d
Apple ลุยเทคโนโลยี 3 d
 
กลุ่ม 4 การเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำ
กลุ่ม 4 การเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำกลุ่ม 4 การเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำ
กลุ่ม 4 การเขียนคำสั่งควบคุมแบบวนซ้ำ
 
ศิลปินรุ่นใหม่ใช้ปากกาไฮเทคแทนดินสอ
ศิลปินรุ่นใหม่ใช้ปากกาไฮเทคแทนดินสอศิลปินรุ่นใหม่ใช้ปากกาไฮเทคแทนดินสอ
ศิลปินรุ่นใหม่ใช้ปากกาไฮเทคแทนดินสอ
 
ไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษา
ไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษาไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษา
ไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษา
 
ซัมซุงครองแชมป์ตลาดสมาร์ทโฟนจีน Q1 2013
ซัมซุงครองแชมป์ตลาดสมาร์ทโฟนจีน Q1 2013ซัมซุงครองแชมป์ตลาดสมาร์ทโฟนจีน Q1 2013
ซัมซุงครองแชมป์ตลาดสมาร์ทโฟนจีน Q1 2013
 
ไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษา
ไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษาไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษา
ไมโครซอฟท์ชู'คลาวด์'ปั้นไทยฮับการศึกษา
 
เปลี่ยนสมาร์ทโฟนเป็นเครื่องวัดระดับแอลกฮอล์
เปลี่ยนสมาร์ทโฟนเป็นเครื่องวัดระดับแอลกฮอล์เปลี่ยนสมาร์ทโฟนเป็นเครื่องวัดระดับแอลกฮอล์
เปลี่ยนสมาร์ทโฟนเป็นเครื่องวัดระดับแอลกฮอล์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
รายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ตรายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ต
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
อินเทลโชว์ชิปใหม่
อินเทลโชว์ชิปใหม่อินเทลโชว์ชิปใหม่
อินเทลโชว์ชิปใหม่
 
คีย์บอร์ดแสง
คีย์บอร์ดแสงคีย์บอร์ดแสง
คีย์บอร์ดแสง
 
ทีวีสามมิติ ต่อเน็ตบนจอโทรทัศน์
ทีวีสามมิติ ต่อเน็ตบนจอโทรทัศน์ทีวีสามมิติ ต่อเน็ตบนจอโทรทัศน์
ทีวีสามมิติ ต่อเน็ตบนจอโทรทัศน์
 
ไอเซอร์เวย์
ไอเซอร์เวย์ไอเซอร์เวย์
ไอเซอร์เวย์
 
แท็บเล็ต
แท็บเล็ตแท็บเล็ต
แท็บเล็ต
 

โปรแกรมคอมพิวเตอร์

  • 1. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เสนอ อ.ทรงศั กดิ ์ โพธิเอียม ์ ่
  • 2. ความหมายและลักษณะของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Program Computer) คือ ชุดคำสังทีใ่ ช้สำหรับแสดง ่ และสือสำรกับคอมพิวเตอร์ เพือให้คอมพิวเตอร์ทำงำนตำมลำดับขันตอนทีเ่ ขียนไว้ใน ่ ่ ้ ชุดคำสังนันๆ คำสังเหล่ำนีนกพัฒนำโปรแกรมหรือโปรแกรมเมอร์ (Programmer) จะ ่ ้ ่ ้ ั เขียนขึนด้วยภำษำคอมพิวเตอร์ตำมลำดับขันตอนของกำรพัฒนำโปรแกรม ดังนี้ ้ ้
  • 3. วิเคราะห์ ปัญหา กำรวิเครำะห์ปญหำ ประกอบด้วยขันตอนต่ำงๆ ดังนี้ ั ้ กำหนดวัตถุประสงค์ของงำน เพือพิจำรณำว่ำโปรแกรมต้องทำกำรประมวลผลอะไรบ้ำง ่ พิจำรณำข้อมูลนำเข้ำ เพือให้ทรำบว่ำจะต้องนำข้อมูลอะไรเข้ำคอมพิวเตอร์ ่ ข้อมูลมี คุณสมบัตเิ ป็ นอย่ำงไร ตลอดจนถึงลักษณะและรูปแบบของข้อมูลทีจะนำเข้ำ ่ พิจำรณำกำรประมวลผล เพือให้ทรำบว่ำโปรแกรมมีขนตอนกำรประมวลผลอย่ำงไรและมีเงือนไป ่ ั้ ่ กำรประมวลผลอะไรบ้ำง พิจำรณำข้อสนเทศนำออก เพือให้ทรำบว่ำมีขอสนเทศอะไรทีจะแสดง ตลอดจนรูปแบบและสือที่ ่ ้ ่ ่ จะใช้ในกำรแสดงผล
  • 4. ออกแบบวิธีการแก้ ปัญหา กำรออกแบบขันตอนกำรทำงำนของโปรแกรมเป็ นขันตอนทีใ่ ช้เป็ นแนวทำงในกำรลง ้ ้ รหัสโปรแกรม ผู ออกแบบขันตอนกำรทำงำนของโปรแกรมอำจใช้เครืองมือต่ำงๆ ช่วยใน ้ ้ ่ กำรออกแบบ อำทิเช่น คำสังลำลอง (Pseudocode) หรือ ผังงำน (Flow chart) ่ กำรออกแบบโปรแกรมนันไม่ต้องพะวงกับรูปแบบคำสังภำษำคอมพิวเตอร์ แต่ให้มุ่งควำม ้ ่ สนใจไปทีลำดับขันตอนในกำรประมวลผลของโปรแกรมเท่ำนัน ่ ้ ้
  • 5. การเขียนโปรแกรม กำรเขียนโปรแกรมเป็ นกำรนำเอำผลลัพธ์ของกำรออกแบบโปรแกรมมำเปลียนเป็ น ่ โปรแกรมภำษำคอมพิวเตอร์ภำษำใดภำษำหนึง ผู เ้ ขียนโปรแกรมจะต้องให้ควำมสนใจต่อ ่ รูปแบบคำสังและกฎเกณฑ์ของภำษำทีใ่ ช้เพือให้กำรประมวลผลเป็ นไปตำมผลลัพธ์ทไี่ ด้ ่ ่ ออกแบบไว้ นอกจำกนันผู เ้ ขียนโปรแกรมควรแทรกคำอธิบำยกำรทำงำนต่ำง ลงใน ้ โปรแกรมเพือให้โปรแกรมนันมีควำมกระจ่ำงชัดและง่ำยต่อกำรตรวจสอบและโปรแกรมนียง ่ ้ ้ ั ใช้เป็ นส่วนหนึงของเอกสำรประกอบ ่
  • 6. ทดสอบและแก้ ไขโปรแกรม กำรทดสอบโปรแกรมเป็ นกำรนำโปรแกรมทีลงรหัสแล้วเข้ำคอมพิวเตอร์ ่ เพือตรวจสอบรูปแบบกฎเกณฑ์ของภำษำ และผลกำรทำงำนของโปรแกรมนัน ถ้ำ ่ ้ พบว่ำยังไม่ถูกก็แก้ไขให้ถูกต้องต่อไป ขันตอนกำรทดสอบและแก้ไขโปรแกรม อำจแบ่งได้เป็ น ้ 3 ขัน ้
  • 7. 1 สร้ำงแฟมเก็บโปรแกรมซึงส่วนใหญ่นยมนำโปรแกรมเข้ำผ่ำนทำงแป้ นพิมพ์โดยใช้ ้ ่ ิ โปรแกรมประมวลคำddd 2 ใช้ตวแปลภำษำคอมพิวเตอร์แปลโปรแกรมทีสร้ำงขึนเป็ นภำษำเครือง โดยระหว่ำง ั ่ ้ ่ กำรแปลจะมีกำรตรวจสอบควำมถูกต้องของรูปแบบและกฎเกณฑ์ในกำรใช้ภำษำ ถ้ำคำสัง ่ ใดมีรูปแบบไม่ถูกต้องก็จะแสดงข้อผิดพลำดออกมำเพือให้ผูเ้ ขียนนำไปแก้ไขต่อไป ถ้ำไม่ม ี ่ ข้อผิดพลำด เรำจะได้โปรแกรมภำษำเครืองทีสำมำรถให้คอมพิวเตอร์ประมวลผลได้ ่ ่ 3 ตรวจสอบควำมถูกต้องของกำรประมวลผลของโปรแกรม โปรแกรมทีถูกต้องตำม ่ รูปแบบและกฎเกณฑ์ของภำษำ แต่อำจให้ผลลัพธ์ของกำรประมวลผลไม่ถูกต้องก็ได้ ดังนันผู เ้ ขียนโปรแกรมจำเป็ นต้องตรวจสอบว่ำโปรแกรมประมวลผลถูกต้องตำมต้องกำร ้ หรือไม่
  • 8. จัดทาเอกสารประกอบ กำรทำเอกสำรประกอบโปรแกรมเป็ นงำนทีสำคัญของกำรพัฒนำโปรแกรม ่ เอกสำรประกอบโปรแกรมช่วยให้ผูใ้ ช้โปรแกรมเข้ำใจวัตถุประสงค์ ข้อมูลทีจะต้องใช้กบ ่ ั โปรแกรม ตลอดจนผลลัพธ์ ทจะได้จำกโปรแกรม กำรทำโปรแกรมทุกโปรแกรมจึงควรต้อง ี่ ทำเอกสำรกำกับ เพือใช้สำหรับกำรอ้ำงอิงเมือจะใช้งำนโปรแกรมและเมือต้องกำรแก้ไข ่ ่ ่ ปรับปรุงโปรแกรม เอกสำรประกอบโปรแกรมทีจดทำ ควรประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้ ่ั
  • 9. -วัตถุประสงค์ -ประเภทและชนิดของคอมพิวเตอร์และอุ ปกรณ์ทใี่ ช้ในโปรแกรม -วิธกำรใช้โปรแกรม ี -แนวคิดเกียวกับกำรออกแบบโปรแกรม ่ -ลำยละเอียดโปรแกรม -ข้อมูลตัวแทนทีใ่ ช้ทดสอบ -ผลลัพธ์ ของกำรทดสอบ
  • 10. บารุ งรักษาโปรแกรม เมีอโปรแกรมผ่ำนกำรตรวจสอบตำมขันตอนเรียบร้อยแล้ว และถูกนำมำให้ผูใ้ ช้ ่ ้ ได้ใช้งำน ในช่วงแรกผู ใ้ ช้อำจจะยังไม่คุ้นเคยก็อำจทำให้เกิดปัญหำขึนมำบ้ำง ดังนันจึง ้ ้ ต้องมีผูคอยควบคุมดูแลและคอยตรวจสอบกำรทำงำน กำรบำรุงรักษำโปรแกรมจึง ้ เป็ นขันตอนทีผูเ้ ขียนโปรแกรมต้องคอยเฝ้ ำดูและหำข้อผิดพลำดของโปรแกรมใน ้ ่ ระหว่ำงทีผูใ้ ช้ใช้งำนโปรแกรม และปรับปรุงโปรแกรมเมือเกิดข้อผิดพลำดขึน หรือใน ่ ่ ้ กำรใช้งำนโปรแกรมไปนำนๆ ผู ใ้ ช้อำจต้องกำรเปลียนแปลงกำรทำงำนของระบบงำน ่ เดิมเพือให้เหมำะกับเหตุ-กำรณ์ นักเขียนโปรแกรมก็จะต้องคอยปรับปรุงแก้ไขโปรแกรม ่ ตำมควำมต้องกำรของผู ใ้ ช้ทเี่ ปลียนแปลงไปนันเอง ่ ่
  • 11. ภาษาคอมพิวเตอร์ ภำคอมพิวเตอร์หรือภำษำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Computer Programming Language) มีพนฐำนมำจำกกำรเปิ ดและปิ ดกระแสไฟฟำ หรือระบบเลขฐำนสอง คือ 0 ้ื ้ และ 1 เรียงต่อกัน เพือแทนควำมหมำยต่ำงๆ ในคอมพิวเตอร์ ่
  • 13. ประเภทของภาษาคอมพิวเตอร์ ่ ภำษำเครือง (Machine Language) ก่อนปี ค.ศ. 1952 มีภำษำคอมพิวเตอร์เพียงภำษำเดียวเท่ำนันคือ ภำษำเครือง ้ ่ (Machine Language) ซึงเป็ นภำษำระดับต่ ำทีสุด เพรำะใช้เลขฐำนสองแทนข้อมูล และ ่ ่ คำสังต่ำง ๆ ทังหมดจะเป็ นภำษำทีขนอยู่กบชนิดของเครืองคอมพิวเตอร์ หรือหน่วย ่ ้ ่ ้ึ ั ่ ประมวลผลทีใ่ ช้ นันคือปต่ละเครืองก็จะมีรูปแบบของคำสังเฉพำะของตนเอง ซึงนักคำนวณ ่ ่ ่ ่ และนักเขียนโปรแกรมในสมัยก่อนต้องรู้จกวิธทจะรวมตัวเลขเพือแทนคำสังต่ำ ๆ ทำให้กำร ั ี ี่ ่ ่ เขียนโปรแกรมยุ่งยำกมำก นักคอมพิวเตอร์จงได้พฒนำภำษำแอสเซมบลีขนมำเพือให้ ึ ั ้ึ ่ สำมำรถเขียนโปรแกรมได้ง่ำยขึน ้
  • 14. ประเภทของภาษาคอมพิวเตอร์ ภำษำแอสเซมบลี (Assembly Language) ต่อมำในปี ค.ศ. 1952 ได้มกำรพัฒนำโปรแกรมภำษำระดับต่ ำตัวใหม่ ชือ ี ่ ภำษำแอสเซมบลี (Assembly Language) โดยทีภำษำแอสเซมบลีใช้รหัสเป็ นคำแทน ่ คำสังภำษำเครือง ทำให้นกเขียนโปรแกรมสำมำรถเขียนโปรแกรมได้ง่ำยขึน ถึงแม้ว่ำกำร ่ ่ ั ้ เขียนโปรแกรมจะยังไม่สะดวกเท่ำกับกำรเขียนโปรแกรมภำษำอืน ๆ ในสมัยนี้ แต่ถ้ำ ่ เปรียบเทียบในสมัยนันก็ถอว่ำเป็ นกำรพัฒนำไปสู่ยุคของกำรเขียนโปรแกรมแบบใหม่ คือใช้ ้ ื สัญลักษณ์แทนเลข 0 และ 1 ของภำษำเครือง ซึงสัญลักษณ์ทใี่ ช้จะเป็ นคำสังสัน ๆ ทีจะได้ ่ ่ ่ ้ ่ ง่ำย เรียกว่ำ นิมอนิกโคด (mnemonic code)
  • 15. ประเภทของภาษาคอมพิวเตอร์ ภำษำระดับสูง (High Level Language) ในปี ค.ศ. 1960 ได้มกำรพ ัฒนำ ภำษำระดับสูง (High Level Language) ขึน ภำษำระดับสูงจะ ี ้ ใช้คำในภำษำอังกฤษแทนคำสังต่ำง ๆ รวมทังสำมำรถใช้นพจน์ทำงคณิตศำสตร์ได้ด้วย ทำให้นกเขียน ่ ้ ิ ั โปรแกรมสำมำรถใช้เวลำมุ่งไปในกำรศึกษำถึงทำงแก้ปญหำเท่ำนัน ไม่ต้องเป็ นกังวลว่ำคอมพิวเตอร์จะ ั ้ ทำงำนอย่ำงไรอีกต่อไป ภำษำระดับสูงนีถอว่ำเป็ น ภำษำยุคทีสำม (third-generation language) ซึงทำให้เกิดกำร ้ื ่ ่ ประมวลผลข้อมูลเพิมมำกขึนอย่ำงมหำศำลระหว่ำงปี ค.ศ. 1960 ถึง ค.ศ. 1970 และมีผูหนมำใช้ ่ ้ ้ั คอมพิวเตอร์กนมำกขึน โดยสังเกตได้จำมเครืองเมนเฟรมจำกจำนวนร้อยเครืองเพิมขึนเป็ นหมืนเครือง ั ้ ่ ่ ่ ้ ่ ่ อย่ำงไรก็ตำม ภำษำระดับสูงก็ยงคงต้องกำรตัวแปลภำษำให้เป็ นภำษำเครืองเพือสังให้เครืองทำงำนต่อไป ั ่ ่ ่ ่ ตัวแปลภำษำทีนยมใช้งำนกันโดยทัวไปจะเป็ นแบบคอมไพเลอร์ ซึงแต่ละภำษำก็มคอมไพเลอร์ไม่เหมือนกัน ่ิ ่ ่ ี รวมทังคอมไพเลอร์แต่ละตัวก็จะต่ำงกันไปบนเครืองแต่ละชนิดด้วย ้ ่
  • 16. ประเภทของภาษาคอมพิวเตอร์ ภำษำระดั บสูงมำก (Very high-level Language) เป็ นภำษำยุคที่ 4 (fourth-generation language) หรือ 4GLs จะเป็ นภำษำทีใ่ ช้เขียนโปรแกรมได้สน ั้ กว่ำภำษำในยุ คก่อน ๆ กำรทำงำนบำงอย่ำงสำมำรถใช้เพียง 5 ถึง 10 บรรทัดเท่ำนัน ในขณะทีถำเขียนด้วย ้ ่้ ภำษำ อำจต้องใช้ถง 100 บรรทัด โดยพืนฐำนแล้ว ภำษำในยุคที่ 4 นีมคุณสมบัตทแยกจำกภำษำใยุคก่อน ๆ ึ ้ ้ี ิ ี่ อย่ำงชัดเจน กล่ำวคือภำษำในยุ คก่อนนันใช้หลักกำรของ กำรเขียนโปรแกรมแบบโพรซีเยอร์ (procedurl ้ language) ในขณะทีภำษำในยุคที่ 4 จะเป็ นแบบ ไม่ใช้โพรซีเยอร์ (nonprocedurl language) ผู เ้ ขียน ่ โปรแกรมเพียงแต่กำหนดว่ำต้องกำรให้โปรแกรมทำอะไรบ้ำงก็สำมำรถเขียนโปรแกรมได้ทนที โดยไม่ต้องทรำบว่ำ ั ทำได้อย่ำงไร ทำให้กำรเขียนโปรแกรมสำมำรถทำได้ง่ำยและรวดเร็ว มีนกเขียโปรแกรมกล่ำวว่ำ ถ้ำใช้ภำษำในยุคที่ 4 นีเ้ ขียนโปรแกรมจะทำให้ได้งำนทีเ่ พิมขึนถึงสิบเท่ำตัว ั ่ ้ ตัวอย่ำงเช่น ถ้ำต้องกำรพิมพ์รำยงำนแสดงจำนวนรำยกำรสินต้ำทีขำยให้ลูกค้ำแต่ละคนในหนึงเดือน โดยให้ ่ ่ แสดงยอดรวมของลูกค้ำแต่ละคน และให้ขนหน้ำใหม่สำหรับกำรพิมพ์รำยงำนลูกค้ำแต่ละคน จะเขียนโดยใช้ภำษำ ้ึ ในยุคที่ 4
  • 17. ประเภทของภาษาคอมพิวเตอร์ ภำษำธรรมชำติ (Nature Language) เป็ น ภำษำยุคที่ 5 (fifth generation language) หรือ 5GLs ธรรมชำติหมำยถึง ธรรมชำติของมนุษย์ คือไม่ต้องสนใจถึงคำสังหรือลำดับของข้อมูลทีถูกต้อง ผู ใ้ ช้เพียงแต่พมพ์ ่ ่ ิ สิงทีต้องกำรลงในเครืองคอมพิวเตอร์เป็ นคำหรือประโยคตำมทีผูใ้ ช้เข้ำใจ ซึงจะทำให้มรูปแบบ ่ ่ ่ ่ ่ ี ของคำสังหรือประโยคทีแตกต่ำงกันออกไปได้มำกมำย เพรำะผู ใ้ ช้แต่ละคนอำจจะใช้ประโยค ่ ่ ต่ำงกัน ใช้คำศัพท์ต่ำงกัน หรือแม้กระทังบำงคนอำจจะใช้ศพท์แสลงก็ได้ คอมพิวเตอร์จะ ่ ั พยำยำมแปลคำหรือประโยคเหล่ำนันตำมคำสัง แต่ถำไม่สำมำรถแปลให้เข้ำใจได้ ก็จะมีคำถำม ้ ่ ้ กลับมำถำมผู ใ้ ช้เพือยืนยันควำมถูกต้อง ภำษำธรรมชำติจะใช้ ระบบฐำนควำมรู้ (knowledge ่ base system) ช่วยในกำรแปลควำมหมำยของคำสังต่ำง ๆ ่
  • 19. ตัวอย่ างภาษาคอมพิวเตอร์ ภำษำ BASIC เป็ นภำษำทีใ่ ช้ง่ำย และติดตังอยู่บนเครืองไมโครคอมพิวเตอร์ส่วนมำก ใช้สำหรับผู ้ ้ ่ เริมต้นศึกษำกำรเขียนโปรแกรมและผู ทเี่ ขียนโปรแกรมเป็ นงำนอดิเรก นิยมใช้ในกำรเขียน ่ ้ โปรแกรมสัน ๆ ้ ภำษำ BASIC รุ่นแรกใช้ interpreter เป็ นตัวแปลภำษำ ทำให้เขียนโปรแกรม ทดสอบ และแก้ไขโปรแกรมได้อย่ำงง่ำยดำย แต่กทำงำนได้ชำ ทำให้ผูทเี่ ขียนโปรแกรม ็ ้ ้ เชียวชำญแล้วไม่นยมใช้งำน แต่ปจจุบนนีมภำษำ BASIC รุ่นใหม่ออกมำซึงใช้ conplier ่ ิ ั ั ้ี ่ เป็ นตัวแปลภำษำ ทำให้ทำงำนได้คล่อ่งตัวขึน เช่น Microsoft's Quick BASIC และ ้ Visual Basic เป็ นต้น
  • 20. ตัวอย่ างภาษาคอมพิวเตอร์ ภำษำ COBOL เป็ นภำษำระดับสูงทีออกแบบมำตังแต่ปีค.ศ. 1960 นิยมใช้สำหรับกำรแก้ปญหำทำงด้ำน ่ ้ ั ธุรกิจ เช่น กำรจัดเก็บ เรียกใช้ และประมวลผลทำงด้ำนบัญชี ตลอดจนทำงำนด้ำนกำรควบคุม สินค้ำคงคลัง กำรรับและจ่ำยเงิน เป็ นต้น คำสังของภำษำ COBOL จะคล้ำยกับภำษำอังกฤษทำให้สำมำรถอ่ำนและเขียนโปรแกรม ่ ได้ไม่ยำกนัก ในยุคแรก ๆ ภำษำ COBOL จะได้รบควำมนิยมบนเครืองระดับเมนเฟรม แต่ ั ่ ปัจจุบนนีจะมีตวแปลภำษำ COBOL ทีใ่ ช้บนเครืองไมโครคอมพิวเตอร์ด้วย รวมทังมีภำษำ ั ้ ั ่ ้ COBOL ทีไ่ ด้รบกำรออกแบบตำมแนวทำงเชิงวัตถุ (Object Oriented) เรียกว่ำ Visual ั COBOLซึงช่วยให้โปรแกรมสำมำรถทำได้ง่ำยขึน และสำมำรถนำโปรแกรมทีเ่ ขียนไว้มำใช้ในกำร ่ ้ พัฒนำงำนอืน ๆ อีก ่
  • 21. ตัวอย่ างภาษาคอมพิวเตอร์ ภำษำ Fortran เป็ นภำษำระดับสูงทีไ่ ด้รบกำรพัฒนำโดยบริษท IBM ตังแต่ปีค.ศ. 1957 ย่อมำ ั ั ้ จำกคำว่ำ FORmula TRANslator ซึงถือว่ำเป็ นกำรกำเนิดของภำษำระดับสูงภำษำ ่ แรก นิยมใช้สำหรับงำนทีมกำรคำนวณมำก ๆ เช่น งำนทำงด้ำนคณิตศำสตร์ ่ี วิทยำศำสตร์ และวิศวกรรมศำสตร์ เป็ นต้น
  • 22. ตัวอย่ างภาษาคอมพิวเตอร์ ภำษำ Pascal เป็ นภำษำระดับสูงทีเ่ อื้ออำนวยให้ผูเ้ ขียนโปรแกรมเขียนโปรแกรมได้อย่ำงมีโครงสร้ำง และเขียนโปรแกรมได้ง่ำยกว่ำภำษำอืน นิยมใช้บนเครืองไมโครคอมพิวเตอร์ เป็ นภำษำ ่ ่ สำหรับกำรเรียนกำรสอน และกำรเขียนโปรแกรมประยุกต์ต่ำง ๆ ภำษำปำสคำลมีตวแปลภำษำทังทีเ่ ป็ น interpreter และ Compiler โดยจะมี ั ้ โปรแกรมเทอร์โบปำสคำล (Turbo Pascal) ทีไ่ ด้รบควำมนิยมอย่ำงสูงทังในวง ั ้ กำรศึกษำและธุรกิจ เนืองจำกได้รบกำรปรับปรุงให้ตวข้อเสียของภำษำปำสคำลรุ่นแรก ๆ ่ ั ั ออก
  • 23. บรรณานุ กรม  http://61.19.202.164/resource/courseware/problem/k02-02.html  http://cptd.chandra.ac.th/selfstud/it4life/sub%20soft3.htm  http://course.eau.ac.th/course/.../คำสั่ง%20HTMlL%20เบืองต้น.pdf ้   http://school.obec.go.th/phusing/html/notepad.htm   หนังสือ รำยวิชำพืนฐำน เทคโนโลยีสำรสนเทศ ม.5 ้
  • 24. จัดทาโดย 1.นำยศิวกร ชำติสงหเดช เลขที่ 6 ิ 2.นำยศุภชีพ กนกพัฒนำกร เลขที่ 7 3.นำยธนนนท์ สงเจริญ เลขที่ 12 4.นำงสำวดลญำ เหลืองทอง เลขที่ 17 5.นำงสำวนพรัตน์ โชติกปฏิพทธ์ เลขที่ 19 ั 6.นำงสำวอัจฉรำวรรณ ฉิมพวัน เลขที่ 25 มัธยมศึกษำปี ท ี่ 5/2