SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 39
Downloaden Sie, um offline zu lesen
พลตรี มารวย ส่งทานินทร์
maruays@hotmail.com
16 กรกฎาคม 2564
From: https://www.mckinsey.com/featured-insights/future-of-work/the-future-of-work-after-covid-19
By Susan Lund, Anu Madgavkar, James Manyika, Sven Smit, Kweilin Ellingrud, and Olivia Robinson
The pandemic accelerated existing trends in remote work, e-commerce, and automation, with up to 25
percent more workers than previously estimated potentially needing to switch occupations.
เกริ่นนา
 การระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลต่อตลาดแรงงานทั่วโลกในช่วงปี ค.ศ. 2020
 ผลในระยะสั้นเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและรุนแรง ทาให้ผู้คนหลายล้านถูกเลิกจ้างหรือตก
งาน และหลายคนก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับการทางานจากที่บ้าน เมื่อสานักงานปิดทาการ
 พนักงานอีกหลายตาแหน่งถือว่ามีความจาเป็นและยังคงทางานอยู่ เช่นในโรงพยาบาล
ร้านขายของ รถขยะ และรถขนส่ง โดยอยู่ภายใต้ระเบียบใหม่ เพื่อลดการแพร่กระจาย
ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ก่อนเกิดโควิด-19
 ก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด การพลิกโฉมครั้งใหญ่ที่สุดในการทางาน เกี่ยวข้องกับ
เทคโนโลยีใหม่ๆ และการเชื่อมโยงทางการค้าที่กาลังเติบโต
 โควิด-19 ได้ยกระดับความสาคัญของ มิติทางกายภาพของงาน เป็นครั้งแรก
 ในงานวิจัยนี้ ได้พัฒนาวิธีการใหม่ในการหาปริมาณความใกล้ชิดที่จาเป็น ในอาชีพต่างๆ
มากกว่า 800 อาชีพ โดยจัดกลุ่มงานออกเป็นสิบประเภท ตามความใกล้ชิดกับเพื่อน
ร่วมงานและลูกค้า จานวนปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงลักษณะสถานที่
และสภาพภายในอาคาร
โควิด-19 ทาให้เกิดแนวโน้มในการทางาน ดังนี้
 1. ระยะห่างและสิ่งแวดล้อม (Human Interaction and Work Environment)
 2. ธุรกิจออนไลน์และธุรกรรมเสมือนจริง (E-Commerce and Virtual Transaction)
 3. ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ (Automation and AI)
1. ระยะห่างและสิ่งแวดล้อม (Human Interaction and Work Environment)
 สิ่งนี้ ทาให้มุมมองในการทางาน แตกต่างจากคาจากัดความแบบดั้งเดิม
 ตัวอย่างเช่น การดูแลทางการแพทย์ เน้นเพียงบทบาทการดูแลที่ต้องการปฏิสัมพันธ์
ใกล้ชิดกับผู้ป่ วย เช่น แพทย์และพยาบาล ส่วนเจ้าหน้าที่ธุรการของโรงพยาบาลและ
สานักงานแพทย์ จัดอยู่ในพื้นที่การทางานในสานักงานที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นหลัก ซึ่ง
สามารถทางานได้จากระยะไกล
 นักเทคนิคในห้องปฏิบัติการและเภสัชกรเป็นการทางานในร่ม เนื่องจากงานเหล่านั้น
ต้องการใช้อุปกรณ์เฉพาะทางในสถานที่ทางาน ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก
การค้นพบโดยรวม
 การวิจัยพบว่า งานที่มีความใกล้ชิดทางกายภาพในระดับสูง มีแนวโน้มที่จะเห็นการ
เปลี่ยนแปลงมากขึ้น หลังจากการระบาด
 การพลิกโฉมในระยะสั้นและระยะยาว ที่เกิดขึ้นจาก COVID-19 นั้น แตกต่างกันไป
 ระหว่างการระบาด ไวรัสเกิดเหตุรุนแรงที่สุด ในกลุ่มที่มีคะแนนความใกล้ชิดทาง
กายภาพโดยรวมสูงสุด ได้แก่ การรักษาพยาบาล การดูแลส่วนบุคคล การบริการลูกค้า
ในสถานที่ และการพักผ่อนและการเดินทาง
 ในระยะยาว การทางานที่มีคะแนนความใกล้ชิดทางกายภาพสูง มีแนวโน้มที่จะไม่มั่นคง
มากขึ้น แม้ว่าความใกล้ชิดจะไม่ใช่คาอธิบายเพียงอย่างเดียว
ผลการวิจัย: งานสัมพันธ์กับลูกค้าในสถานที่
 ตัวอย่างเช่น การเจรจากับลูกค้าในสถานที่ประกอบการ ด้วยพนักงานส่วนหน้าที่มี
ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ในร้านค้าปลีก ธนาคาร ที่ทาการไปรษณีย์ และอื่นๆ
 การทางานนี้ มีการโต้ตอบกับคนแปลกหน้าบ่อยครั้ง และพนักงานต้องมีการแสดงตนใน
สถานที่ประกอบการ
 งานบางส่วนในเรื่องนี้ ถูกโยกย้ายไปยังอีคอมเมิร์ซและธุรกรรมดิจิทัลอื่น ๆ ซึ่งเป็นการ
เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ที่น่าจะคงอยู่ต่อไป
ผลการวิจัย: การพักผ่อนและการเดินทาง
 การพักผ่อนหย่อนใจและการเดินทาง เป็นสถานที่ที่พนักงานต้องพบปะกับลูกค้า ใน
โรงแรม ร้านอาหาร สนามบิน และสถานบันเทิง พนักงานเหล่านี้ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ใหม่ๆ ทุกวัน
 โควิด-19 ทาให้สถานบันเทิงส่วนใหญ่ต้องปิดตัวลงในปี ค.ศ. 2020 สนามบินและสาย
การบินต้องดาเนินการอย่างจากัดและเข้มงวด
 ในระยะยาว มีการเปลี่ยนเป็นการทางานทางไกล และการลดการเดินทางเพื่อธุรกิจที่
เกี่ยวข้อง ตลอดจนการใช้ระบบอัตโนมัติแทนในบางอาชีพ เช่น บริการด้านอาหาร ทาให้
ความต้องการแรงงานของพนักงานในด้านนี้อาจลดลง
ผลการวิจัย: พนักงานที่ใช้คอมพิวเตอร์
 การทางานในสานักงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยสานักงานทุกขนาด พื้นที่ทางาน
ด้านการบริหารในโรงพยาบาล ศาล และโรงงาน
 การทางานนี้ ต้องการความใกล้ชิดทางกายภาพในระดับปานกลางกับผู้อื่น และการ
ปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ในระดับปานกลาง
 เป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเศรษฐกิจขั้นสูง โดยคิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของการ
จ้างงาน
 งานทางไกลที่เป็นไปได้เกือบทั้งหมด อยู่ในกลุ่มงานนี้
ผลการวิจัย: การผลิตและบารุงรักษากลางแจ้ง
 การผลิตและบารุงรักษากลางแจ้ง ประกอบด้วยสถานที่ก่อสร้าง ฟาร์ม พื้นที่พักอาศัย
และเชิงพาณิชย์ และพื้นที่กลางแจ้งอื่นๆ
 โควิด-19 มีผลกระทบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการทางานในสถานที่เหล่านี้ ต้องใช้ความ
ใกล้ชิดที่ต่า การโต้ตอบกับผู้อื่นเพียงเล็กน้อย และเกิดขึ้นกลางแจ้งโดยสมบูรณ์
 ซึ่งเป็นแหล่งงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนและอินเดีย คิดเป็น 35 ถึง 55 เปอร์เซ็นต์
ของพนักงานทั้งหมด
การทางานจากระยะไกล
 บางทีผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดของ COVID-19 ต่อแรงงานคือ การเพิ่มขึ้นอย่างมากของ
พนักงานที่ทางานจากระยะไกล
 มีการวิเคราะห์ศักยภาพของงานมากกว่า 2,000 งานใน 800 อาชีพ ในแปดประเทศ
(China, France, Germany, India, Japan, Spain, the United Kingdom, and the United
States) ว่าการทางานทางไกล จะคงอยู่ต่อไปได้มากเพียงใด หลังการแพร่ระบาด
 เมื่อพิจารณาเฉพาะงานทางไกล ที่สามารถทาได้โดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพการทางาน
พบว่า ประมาณ 20 ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ของแรงงานประเทศเศรษฐกิจขั้นสูง สามารถ
ทางานจากที่บ้านได้ ระหว่างสามถึงห้าวันต่อสัปดาห์
การทางานจากระยะไกล (ต่อ)
 ซึ่งแสดงถึงการทางานทางไกล ที่มากกว่าก่อนเกิดโรคระบาดสี่ถึงห้าเท่า และอาจกระตุ้น
ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภูมิศาสตร์ของงาน เนื่องจากบุคคลและบริษัทต่างๆ
ย้ายออกจากเมืองใหญ่ไปยังชานเมืองและเมืองเล็กๆ และงานบางอย่างที่ทางเทคนิค
สามารถทาได้จากระยะไกล และทาได้ดีที่สุดด้วยตัวเอง
 ส่วนการเจรจาต่อรอง การตัดสินใจทางธุรกิจที่สาคัญ การระดมความคิด การให้
ข้อเสนอแนะที่ละเอียดอ่อน และการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ เป็นตัวอย่างของกิจกรรมที่
อาจสูญเสียประสิทธิภาพ เมื่อทาจากระยะไกล
การทางานจากระยะไกล (ต่อ)
 บางบริษัทกาลังวางแผนที่จะเปลี่ยนไปใช้พื้นที่ทางานที่ยืดหยุ่นได้ หลังจากประสบการณ์
เชิงบวกกับการทางานระยะไกลในช่วงการระบาด ซึ่งจะช่วยลดพื้นที่โดยรวมที่พวกเขา
ต้องการ และให้พนักงานเข้าสานักงานน้อยลงในแต่ละวัน
 การสารวจผู้บริหาร 278 คนโดย McKinsey ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2020 พบว่า โดย
เฉลี่ยแล้ว พวกเขาวางแผนที่จะลดพื้นที่สานักงานลง 30 เปอร์เซ็นต์
 ความต้องการร้านอาหาร ร้านค้าปลีกในย่านใจกลางเมือง และการขนส่งสาธารณะ อาจ
ลดลง
การทางานจากระยะไกล (ต่อ)
 การทางานระยะไกลอาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางเพื่อธุรกิจ เนื่องจากมีการใช้การ
ประชุมทางวิดีโออย่างกว้างขวางในช่วงที่มีการระบาด นาไปสู่การยอมรับการประชุม
เสมือนจริง และแง่มุมอื่นๆ ของการทางาน
 ในขณะที่การเดินทางเพื่อพักผ่อนและการท่องเที่ยว มีแนวโน้มที่จะฟื้ นตัวหลังจากเกิด
วิกฤติ แต่ McKinsey ประมาณการว่า ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของการเดินทางเพื่อธุรกิจ
ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทากาไรได้มากที่สุดสาหรับสายการบิน อาจไม่กลับมา
 สิ่งนี้ จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสาคัญ ต่อการจ้างงานในการบินเชิงพาณิชย์สนามบิน การ
ต้อนรับ และบริการอาหาร
2. ธุรกิจออนไลน์และธุรกรรมเสมือนจริง (E-Commerce and Virtual Transaction)
 อีคอมเมิร์ซและธุรกรรมเสมือนจริงต่างๆ กาลังเฟื่ องฟู
 ผู้บริโภคจานวนมาก ค้นพบความสะดวกของอีคอมเมิร์ซและกิจกรรมออนไลน์อื่นๆ
ในช่วงการระบาด
 ในปี ค.ศ. 2020 ส่วนแบ่งของอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นสองถึงห้าเท่า
 ประมาณสามในสี่ ของผู้ที่ใช้ช่องทางดิจิทัลเป็นครั้งแรกในช่วงการระบาดกล่าวว่า พวก
เขาจะยังคงใช้ช่องทางเหล่านี้ ต่อไป เมื่อสิ่งต่างๆ กลับสู่ "ปกติ" ตามการสารวจของ
McKinsey Consumer Pulse
ธุรกรรมเสมือนจริง
 ธุรกรรมเสมือนจริงประเภทอื่นๆ เช่น การแพทย์ทางไกล ธนาคารออนไลน์ และความ
บันเทิงแบบสตรีมมิง ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
 การปรึกษาแพทย์ออนไลน์ผ่าน Practo ของบริษัท telehealth ในอินเดีย เพิ่มขึ้นกว่าสิบ
เท่า ระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน ค.ศ. 2020
 การปฏิบัติเสมือนเหล่านี้ อาจลดลงบ้าง แต่มีแนวโน้มที่จะดาเนินต่อไปได้ดีกว่าระดับ
ก่อนการแพร่ระบาด เมื่อเศรษฐกิจกลับมาเปิดใหม่
3. ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ (Automation and AI)
 การเปลี่ยนแปลงไปสู่ธุรกรรมดิจิทัล ได้ผลักดันการเติบโตของงานด้านการจัดส่ง การ
ขนส่ง และคลังสินค้า
 ในประเทศจีน งานเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซ การจัดส่ง และโซเชียลมีเดีย เพิ่มขึ้ นมากกว่า
5.1 ล้านตาแหน่ง ในช่วงครึ่งแรกของปี ค.ศ. 2020
 ในการสารวจผู้บริหารระดับสูงทั่วโลก 800 คน ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2020 สองใน
สามกล่าวว่า พวกเขากาลังเพิ่มการลงทุนในระบบอัตโนมัติและ AI อย่างมีนัยสาคัญ
 ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2020 ตัวเลขการผลิตหุ่นยนต์ในจีน เกินระดับก่อนการระบาด
ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ (ต่อ)
 บริษัทหลายแห่ง ปรับใช้ระบบอัตโนมัติและ AI ในคลังสินค้า ร้านขายของชา
ศูนย์บริการทางโทรศัพท์ และโรงงานผลิต เพื่อลดความหนาแน่นของสถานที่ทางาน
และรับมือกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
 คุณลักษณะทั่วไปของกรณีการใช้งานระบบอัตโนมัติเหล่านี้ มีความสัมพันธ์กับคะแนน
สูงในด้านความใกล้ชิดทางกายภาพ และการวิจัยพบว่า พื้นที่การทางานที่มีปฏิสัมพันธ์
ของมนุษย์ในระดับสูง มีแนวโน้มสูงสุดในการนาระบบอัตโนมัติและ AI มาใช้
การเปลี่ยนสัดส่วนของอาชีพ (Shift of Occupations)
 แนวโน้มที่เกิดจากโควิด-19 อาจกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงในการผสมผสานของงาน
ภายในระบบเศรษฐกิจ มากกว่าที่คาดไว้ก่อนเกิดการระบาด
 มีรายงานว่า สัดส่วนของการประกอบอาชีพที่แตกต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด อาจ
เกิดขึ้นหลังจากเกิดการระบาดทั่วทั้งแปดประเทศ
 เมื่อเทียบกับการประมาณการก่อนเกิดโควิด-19 คาดกันว่า ผลกระทบด้านลบที่ใหญ่
ที่สุดของการระบาดต่อคนงาน ในการบริการด้านอาหาร การขาย และบริการลูกค้า
รวมถึงพนักงานสานักงานที่มีทักษะน้อย
การเปลี่ยนสัดส่วนของอาชีพ (ต่อ)
 งานในคลังสินค้าและการขนส่งอาจเพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ
และเศรษฐกิจการจัดส่ง แต่ไม่น่าจะชดเชยได้กับผู้ใช้แรงงานขั้นต่าจานวนมากที่ตกงาน
 ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอเมริกา งานบริการลูกค้าและงานบริการด้านอาหารอาจลดลง 4.3
ล้านตาแหน่ง ขณะที่งานขนส่งอาจเพิ่มขึ้นเกือบ 800,000 ตาแหน่ง
 ความต้องการคนงานในสายงานด้านการดูแลสุขภาพและ STEM อาจเพิ่มขึ้นมากกว่า
ก่อนเกิดการระบาด สะท้อนถึงความสนใจด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ตามอายุและรายได้ของ
ประชากรที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนความต้องการผู้ที่สามารถสร้าง ปรับใช้ และบารุงรักษา
เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้น
ก่อนการแพร่ระบาด
 ก่อนหน้าการแพร่ระบาด การสูญเสียงานส่วนมาก กระจุกตัวในอาชีพค่าแรงระดับกลาง
ในอุตสาหกรรมการผลิตและงานสานักงาน ซึ่งสะท้อนถึงระบบอัตโนมัติที่เข้ามาแทนที่
ส่วนงานที่มีค่าแรงต่าและค่าแรงสูง ยังคงเติบโตได้อีก
 คนงานค่าแรงต่าเกือบทั้งหมดที่ตกงาน สามารถย้ายไปประกอบอาชีพอื่นที่มีค่าแรงต่า
ได้ เช่น พนักงานคีย์ข้อมูล อาจย้ายไปทางานที่ร้านค้าปลีก หรืองานการดูแล
รักษาพยาบาลที่บ้าน
ผลกระทบของโรคระบาด
 เนื่องจากผลกระทบของโรคระบาดที่เกิดขึ้น ทาให้ผู้ที่มีค่าแรงต่าที่ต้องตกงาน จึงคาดว่า
การเติบโตของความต้องการแรงงานเกือบทั้งหมด จะเกิดขึ้นในงานที่มีค่าแรงสูง
 นับจากนี้ ไป มากกว่าครึ่งของผู้ซึ่งมีค่าแรงต่า อาจต้องเปลี่ยนไปประกอบอาชีพในสาย
งานค่าจ้างที่สูงขึ้น และต้องใช้ทักษะที่แตกต่างจากเดิมเพื่อให้มีงานทา
การเปลี่ยนอาชีพใหม่ (Occupational Transitions)
 จากการวิจัยพบว่า มีการเติบโตของงานในอาชีพค่าแรงสูงมากขึ้น และการลดลงใน
อาชีพค่าแรงต่า
 ในแปดประเทศที่ศึกษา คนงานมากกว่า 100 ล้านคน หรือ 1 ใน 16 คน จะต้องหา
อาชีพอื่นภายในปี ค.ศ. 2030 หลังสถานการณ์โควิด-19
 ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 12 เปอร์เซ็นต์ ก่อนเกิดการระบาด และเพิ่มขึ้นถึง 25
เปอร์เซ็นต์ในประเทศเศรษฐกิจขั้นสูง
การเปลี่ยนอาชีพใหม่ (ต่อ)
 ก่อนเกิดโรคระบาด ประมาณการว่า มีเพียง 6 เปอร์เซ็นต์ของคนงาน ที่จะต้องหางานทา
ในอาชีพที่มีค่าจ้างสูงกว่า
 ในการวิจัยหลังโควิด-19 พบว่า ไม่เพียงแค่คนงานจานวนมากขึ้น ที่จะต้องย้ายออกจาก
กลุ่มค่าจ้างระดับล่าง แต่ยังรวมถึงประมาณครึ่งหนึ่งของคนงานทั้งหมด ต้องการทักษะ
ใหม่ที่ล้าหน้ากว่า ในการย้ายไปประกอบอาชีพค่าจ้างที่สูงขึ้น
การเปลี่ยนอาชีพใหม่ (ต่อ)
 การผสมผสานทักษะ จาเป็นสาหรับคนงานที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพ
 สัดส่วนของเวลาที่คนงานชาวเยอรมันใช้ทักษะความรู้พื้นฐานลดลง 3.4 เปอร์เซ็นต์
ในขณะที่เวลาที่ใช้ทักษะทางสังคมและอารมณ์เพิ่มขึ้น 3.2 เปอร์เซ็นต์
 ในอินเดีย ส่วนแบ่งของชั่วโมงทางานทั้งหมดที่ใช้ทักษะทางกายภาพและทักษะด้วย
ตนเอง ลดลง 2.2 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่เวลาที่ใช้กับทักษะทางเทคโนโลยีเพิ่มขึ้ น 3.3
เปอร์เซ็นต์
การเปลี่ยนอาชีพใหม่ (ต่อ)
 คนงานในสายอาชีพที่มีค่าจ้างต่าที่สุด ใช้ทักษะความรู้ความเข้าใจพื้นฐานและทักษะทาง
กายภาพ 68 เปอร์เซ็นต์ของเวลา ในขณะที่ในกลุ่มค่าจ้างระดับกลาง ใช้ทักษะเหล่านี้
48 เปอร์เซ็นต์
 ในงานค่าจ้างสูงสุด ทักษะเหล่านั้นใช้น้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ใช้ไป
 คนงานที่เสียเปรียบที่สุด อาจต้องการเปลี่ยนงานมากที่สุดในอนาคตข้างหน้า ส่วนหนึ่ง
เป็นเพราะค่าจ้างงานที่ไม่สมส่วนกับงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
การเปลี่ยนอาชีพใหม่ (ต่อ)
 ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา คนงานที่จบการศึกษาต่ากว่าระดับวิทยาลัย สมาชิกของชน
กลุ่มน้อย และผู้หญิง มีแนวโน้มที่จะต้องเปลี่ยนอาชีพ หลังเกิดโควิด-19
 ในสหรัฐอเมริกา ผู้ที่ไม่มีวุฒิการศึกษาระดับวิทยาลัย มีแนวโน้มที่จะต้องเปลี่ยนอาชีพ
1.3 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่จบการศึกษาระดับวิทยาลัย และพนักงานผิวดาและฮิสแปนิก มี
แนวโน้มที่จะต้องเปลี่ยนอาชีพมากกว่าคนงานผิวขาว 1.1 เท่า
การเปลี่ยนอาชีพใหม่ (ต่อ)
 ในฝรั่งเศส เยอรมนี และสเปน ความจาเป็นต้องเปลี่ยนอาชีพเพิ่มขึ้น เนื่องจากแนวโน้ม
ที่ได้รับอิทธิพลจากโควิด-19 สาหรับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 3.9 เท่า
 ในทานองเดียวกัน ความจาเป็นในการเปลี่ยนอาชีพ จะส่งผลกระทบกับคนงานที่อายุ
น้อยมากกว่ากว่าคนงานที่มีอายุมาก และบุคคลที่ไม่ได้เกิดในสหภาพยุโรปมากกว่าผู้ที่
เป็นชาวพื้นเมืองโดยกาเนิด
ความเร่งด่วนของธุรกิจและผู้กาหนดนโยบาย
 การเปลี่ยนแปลงแรงงานที่กาหนดโดยอิทธิพลของโควิด-19 เพิ่มความเร่งด่วนให้กับ
ธุรกิจและผู้กาหนดนโยบายในการดาเนินการ เพื่อสนับสนุนโครงการฝึกอบรมและ
การศึกษาเพิ่มเติมให้กับพนักงาน
 บริษัทและรัฐบาลต่างๆ มีความยืดหยุ่นและปรับตัว ในการตอบสนองต่อการระบาด
โดยมีวัตถุประสงค์และนวัตกรรมที่จะปรับปรุงพนักงาน เพื่ออนาคตที่สดใสของการ
ทางาน
มุมมองทางธุรกิจ
 ด้านธุรกิจ สามารถเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์แบบละเอียดว่า งานใดบ้างที่สามารถทาได้
จากระยะไกล โดยเน้นที่งานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ มากกว่างานทั้งหมด
 พวกเขายังมีบทบาทมากขึ้น ในการฝึกอบรมพนักงานใหม่ อย่างที่ Walmart, Amazon
และ IBM ได้ทา และบริษัทอื่น ๆ ก็ได้อานวยความสะดวกในการเปลี่ยนอาชีพ โดยเน้นที่
ทักษะที่ต้องการ มากกว่าที่ระดับปริญญาทางวิชาการ
 การทางานทางไกล ยังเปิดโอกาสให้บริษัทต่างๆ เพิ่มความหลากหลายของพนักงาน
ด้วยการคัดเลือกคนงาน ผู้ที่แต่เดิมไม่สามารถย้ายไปอยู่เมืองใหญ่ ๆ ก่อนการระบาด
การสนับสนุนจากผู้กาหนดนโยบาย
 ผู้กาหนดนโยบายสามารถสนับสนุนธุรกิจ ด้วยการขยายและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน
ดิจิทัล
 แม้แต่ในประเทศเศรษฐกิจที่ก้าวหน้า เกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ของคนงานในครัวเรือนใน
ชนบท ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้
 รัฐบาลยังสามารถพิจารณาขยายผลประโยชน์และการคุ้มครอง ให้กับคนงานอิสระและ
คนงานที่กาลังทางาน เพื่อสร้างทักษะและความรู้ใหม่ในช่วงเปลี่ยนอาชีพ
การเสริมทักษะ
 ทั้งภาคธุรกิจและผู้กาหนดนโยบาย สามารถทางานร่วมกันเพื่อสนับสนุนแรงงาน ที่อพยพไป
มาระหว่างอาชีพได้
 ภายใต้ Pact for Skills ที่จัดตั้งขึ้นในสหภาพยุโรปในช่วงการระบาด บริษัทและหน่วยงาน
ภาครัฐได้ทุ่มเงิน 7 พันล้านยูโร เพื่อพัฒนาทักษะของคนงานด้านยานยนต์ราว 700,000 คน
ในขณะที่ในสหรัฐอเมริกา Merck และบริษัทขนาดใหญ่อื่นๆ ได้ทุ่มเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์
เพื่อเพิ่มทักษะของคนผิวดาที่ไม่มีการศึกษาระดับวิทยาลัย และสร้างงานที่พวกเขาทาได้
 รางวัลของความพยายามดังกล่าว จะส่งผลให้แรงงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น มีความสามารถ
มากขึ้น ได้ค่าตอบแทนที่ดีกว่า และสังคมที่เข้มแข็งและเท่าเทียมกันมากขึ้น
สรุป
 มิติทางกายภาพของงาน เป็นปัจจัยใหม่ที่กาหนดอนาคตของงาน โดยคานึงถึงสุขภาพ
และความปลอดภัยเป็นสาคัญ
 โควิด-19 เร่งกระแสแนวโน้มสามประการ (การทางานระยะไกลแบบไฮบริด อี
คอมเมิร์ซและเศรษฐกิจการจัดส่ง และระบบอัตโนมัติและ AI) ในระดับที่แตกต่างกัน
หลังการระบาด
 การเปลี่ยนผ่านงาน อาจมีขนาดใหญ่กว่าที่เราคาดไว้ก่อนการระบาด และสัดส่วนของ
การจ้างงานในประเภทงานค่าแรงต่าอาจลดลง
 ธุรกิจและผู้กาหนดนโยบาย สามารถเร่งทาสิ่งที่จาเป็นในการทางานอนาคตหลายอย่าง
ที่มีความชัดเจนอยู่แล้วก่อน COVID-19
--Chinese Proverb

Weitere ähnliche Inhalte

Mehr von maruay songtanin

๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...maruay songtanin
 
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....maruay songtanin
 
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docxmaruay songtanin
 
Operational Resilience ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
Operational Resilience  ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdfOperational Resilience  ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
Operational Resilience ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdfmaruay songtanin
 
๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...maruay songtanin
 
๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...maruay songtanin
 
๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...maruay songtanin
 
๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...maruay songtanin
 
๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...maruay songtanin
 
๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...maruay songtanin
 
๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....maruay songtanin
 
๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...maruay songtanin
 
๗๗. มณิถูณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๗. มณิถูณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๗๗. มณิถูณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๗. มณิถูณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...maruay songtanin
 
๗๖. นันทนวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๗๖. นันทนวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๗๖. นันทนวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๗๖. นันทนวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...maruay songtanin
 
๗๕. จิตตลตาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๗๕. จิตตลตาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...๗๕. จิตตลตาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๗๕. จิตตลตาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...maruay songtanin
 
๗๔. ปายาสิวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๔. ปายาสิวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๗๔. ปายาสิวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๔. ปายาสิวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...maruay songtanin
 
๗๓. ทุติยกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๗๓. ทุติยกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...๗๓. ทุติยกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๗๓. ทุติยกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...maruay songtanin
 
๗๒. ปฐมกุณฑลีวิมาน ((พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๗๒. ปฐมกุณฑลีวิมาน ((พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...๗๒. ปฐมกุณฑลีวิมาน ((พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๗๒. ปฐมกุณฑลีวิมาน ((พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...maruay songtanin
 
๗๑. ยวปาลกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๑. ยวปาลกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๗๑. ยวปาลกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๑. ยวปาลกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...maruay songtanin
 
๗๐. ภิกขาทายกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
๗๐. ภิกขาทายกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...๗๐. ภิกขาทายกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
๗๐. ภิกขาทายกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...maruay songtanin
 

Mehr von maruay songtanin (20)

๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๐๒. มหาชนกชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
 
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๑. เตมิยชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
 
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
๐๐ บทนำ มหานิบาตชาดก (พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).docx
 
Operational Resilience ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
Operational Resilience  ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdfOperational Resilience  ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
Operational Resilience ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน.pdf
 
๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
๘๕. สุนิกขิตตวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
 
๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๘๔. เสริสสกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 
๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๘๓. มัฏฐกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
 
๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๘๒. อเนกวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
 
๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๑. กัณฐกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
 
๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๘๐. โคปาลวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
 
๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๗๙. อัมพวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
 
๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๘. สุวัณณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
๗๗. มณิถูณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๗. มณิถูณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๗๗. มณิถูณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๗. มณิถูณวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
๗๖. นันทนวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๗๖. นันทนวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...๗๖. นันทนวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
๗๖. นันทนวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ])...
 
๗๕. จิตตลตาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๗๕. จิตตลตาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...๗๕. จิตตลตาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
๗๕. จิตตลตาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 
๗๔. ปายาสิวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๔. ปายาสิวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๗๔. ปายาสิวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๔. ปายาสิวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
๗๓. ทุติยกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๗๓. ทุติยกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...๗๓. ทุติยกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๗๓. ทุติยกุณฑลีวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
 
๗๒. ปฐมกุณฑลีวิมาน ((พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๗๒. ปฐมกุณฑลีวิมาน ((พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...๗๒. ปฐมกุณฑลีวิมาน ((พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๗๒. ปฐมกุณฑลีวิมาน ((พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
 
๗๑. ยวปาลกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๑. ยวปาลกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๗๑. ยวปาลกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๗๑. ยวปาลกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
๗๐. ภิกขาทายกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
๗๐. ภิกขาทายกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...๗๐. ภิกขาทายกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
๗๐. ภิกขาทายกวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬ...
 

Covid 19 aftereffects ผลกระทบของโควิด-19

  • 2. From: https://www.mckinsey.com/featured-insights/future-of-work/the-future-of-work-after-covid-19 By Susan Lund, Anu Madgavkar, James Manyika, Sven Smit, Kweilin Ellingrud, and Olivia Robinson The pandemic accelerated existing trends in remote work, e-commerce, and automation, with up to 25 percent more workers than previously estimated potentially needing to switch occupations.
  • 3. เกริ่นนา  การระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลต่อตลาดแรงงานทั่วโลกในช่วงปี ค.ศ. 2020  ผลในระยะสั้นเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและรุนแรง ทาให้ผู้คนหลายล้านถูกเลิกจ้างหรือตก งาน และหลายคนก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับการทางานจากที่บ้าน เมื่อสานักงานปิดทาการ  พนักงานอีกหลายตาแหน่งถือว่ามีความจาเป็นและยังคงทางานอยู่ เช่นในโรงพยาบาล ร้านขายของ รถขยะ และรถขนส่ง โดยอยู่ภายใต้ระเบียบใหม่ เพื่อลดการแพร่กระจาย ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
  • 4. ก่อนเกิดโควิด-19  ก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด การพลิกโฉมครั้งใหญ่ที่สุดในการทางาน เกี่ยวข้องกับ เทคโนโลยีใหม่ๆ และการเชื่อมโยงทางการค้าที่กาลังเติบโต  โควิด-19 ได้ยกระดับความสาคัญของ มิติทางกายภาพของงาน เป็นครั้งแรก  ในงานวิจัยนี้ ได้พัฒนาวิธีการใหม่ในการหาปริมาณความใกล้ชิดที่จาเป็น ในอาชีพต่างๆ มากกว่า 800 อาชีพ โดยจัดกลุ่มงานออกเป็นสิบประเภท ตามความใกล้ชิดกับเพื่อน ร่วมงานและลูกค้า จานวนปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงลักษณะสถานที่ และสภาพภายในอาคาร
  • 5. โควิด-19 ทาให้เกิดแนวโน้มในการทางาน ดังนี้  1. ระยะห่างและสิ่งแวดล้อม (Human Interaction and Work Environment)  2. ธุรกิจออนไลน์และธุรกรรมเสมือนจริง (E-Commerce and Virtual Transaction)  3. ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ (Automation and AI)
  • 6.
  • 7. 1. ระยะห่างและสิ่งแวดล้อม (Human Interaction and Work Environment)  สิ่งนี้ ทาให้มุมมองในการทางาน แตกต่างจากคาจากัดความแบบดั้งเดิม  ตัวอย่างเช่น การดูแลทางการแพทย์ เน้นเพียงบทบาทการดูแลที่ต้องการปฏิสัมพันธ์ ใกล้ชิดกับผู้ป่ วย เช่น แพทย์และพยาบาล ส่วนเจ้าหน้าที่ธุรการของโรงพยาบาลและ สานักงานแพทย์ จัดอยู่ในพื้นที่การทางานในสานักงานที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นหลัก ซึ่ง สามารถทางานได้จากระยะไกล  นักเทคนิคในห้องปฏิบัติการและเภสัชกรเป็นการทางานในร่ม เนื่องจากงานเหล่านั้น ต้องการใช้อุปกรณ์เฉพาะทางในสถานที่ทางาน ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก
  • 8. การค้นพบโดยรวม  การวิจัยพบว่า งานที่มีความใกล้ชิดทางกายภาพในระดับสูง มีแนวโน้มที่จะเห็นการ เปลี่ยนแปลงมากขึ้น หลังจากการระบาด  การพลิกโฉมในระยะสั้นและระยะยาว ที่เกิดขึ้นจาก COVID-19 นั้น แตกต่างกันไป  ระหว่างการระบาด ไวรัสเกิดเหตุรุนแรงที่สุด ในกลุ่มที่มีคะแนนความใกล้ชิดทาง กายภาพโดยรวมสูงสุด ได้แก่ การรักษาพยาบาล การดูแลส่วนบุคคล การบริการลูกค้า ในสถานที่ และการพักผ่อนและการเดินทาง  ในระยะยาว การทางานที่มีคะแนนความใกล้ชิดทางกายภาพสูง มีแนวโน้มที่จะไม่มั่นคง มากขึ้น แม้ว่าความใกล้ชิดจะไม่ใช่คาอธิบายเพียงอย่างเดียว
  • 9. ผลการวิจัย: งานสัมพันธ์กับลูกค้าในสถานที่  ตัวอย่างเช่น การเจรจากับลูกค้าในสถานที่ประกอบการ ด้วยพนักงานส่วนหน้าที่มี ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ในร้านค้าปลีก ธนาคาร ที่ทาการไปรษณีย์ และอื่นๆ  การทางานนี้ มีการโต้ตอบกับคนแปลกหน้าบ่อยครั้ง และพนักงานต้องมีการแสดงตนใน สถานที่ประกอบการ  งานบางส่วนในเรื่องนี้ ถูกโยกย้ายไปยังอีคอมเมิร์ซและธุรกรรมดิจิทัลอื่น ๆ ซึ่งเป็นการ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ที่น่าจะคงอยู่ต่อไป
  • 10. ผลการวิจัย: การพักผ่อนและการเดินทาง  การพักผ่อนหย่อนใจและการเดินทาง เป็นสถานที่ที่พนักงานต้องพบปะกับลูกค้า ใน โรงแรม ร้านอาหาร สนามบิน และสถานบันเทิง พนักงานเหล่านี้ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ใหม่ๆ ทุกวัน  โควิด-19 ทาให้สถานบันเทิงส่วนใหญ่ต้องปิดตัวลงในปี ค.ศ. 2020 สนามบินและสาย การบินต้องดาเนินการอย่างจากัดและเข้มงวด  ในระยะยาว มีการเปลี่ยนเป็นการทางานทางไกล และการลดการเดินทางเพื่อธุรกิจที่ เกี่ยวข้อง ตลอดจนการใช้ระบบอัตโนมัติแทนในบางอาชีพ เช่น บริการด้านอาหาร ทาให้ ความต้องการแรงงานของพนักงานในด้านนี้อาจลดลง
  • 11. ผลการวิจัย: พนักงานที่ใช้คอมพิวเตอร์  การทางานในสานักงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยสานักงานทุกขนาด พื้นที่ทางาน ด้านการบริหารในโรงพยาบาล ศาล และโรงงาน  การทางานนี้ ต้องการความใกล้ชิดทางกายภาพในระดับปานกลางกับผู้อื่น และการ ปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ในระดับปานกลาง  เป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเศรษฐกิจขั้นสูง โดยคิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของการ จ้างงาน  งานทางไกลที่เป็นไปได้เกือบทั้งหมด อยู่ในกลุ่มงานนี้
  • 12. ผลการวิจัย: การผลิตและบารุงรักษากลางแจ้ง  การผลิตและบารุงรักษากลางแจ้ง ประกอบด้วยสถานที่ก่อสร้าง ฟาร์ม พื้นที่พักอาศัย และเชิงพาณิชย์ และพื้นที่กลางแจ้งอื่นๆ  โควิด-19 มีผลกระทบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการทางานในสถานที่เหล่านี้ ต้องใช้ความ ใกล้ชิดที่ต่า การโต้ตอบกับผู้อื่นเพียงเล็กน้อย และเกิดขึ้นกลางแจ้งโดยสมบูรณ์  ซึ่งเป็นแหล่งงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนและอินเดีย คิดเป็น 35 ถึง 55 เปอร์เซ็นต์ ของพนักงานทั้งหมด
  • 13. การทางานจากระยะไกล  บางทีผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดของ COVID-19 ต่อแรงงานคือ การเพิ่มขึ้นอย่างมากของ พนักงานที่ทางานจากระยะไกล  มีการวิเคราะห์ศักยภาพของงานมากกว่า 2,000 งานใน 800 อาชีพ ในแปดประเทศ (China, France, Germany, India, Japan, Spain, the United Kingdom, and the United States) ว่าการทางานทางไกล จะคงอยู่ต่อไปได้มากเพียงใด หลังการแพร่ระบาด  เมื่อพิจารณาเฉพาะงานทางไกล ที่สามารถทาได้โดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพการทางาน พบว่า ประมาณ 20 ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ของแรงงานประเทศเศรษฐกิจขั้นสูง สามารถ ทางานจากที่บ้านได้ ระหว่างสามถึงห้าวันต่อสัปดาห์
  • 14. การทางานจากระยะไกล (ต่อ)  ซึ่งแสดงถึงการทางานทางไกล ที่มากกว่าก่อนเกิดโรคระบาดสี่ถึงห้าเท่า และอาจกระตุ้น ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภูมิศาสตร์ของงาน เนื่องจากบุคคลและบริษัทต่างๆ ย้ายออกจากเมืองใหญ่ไปยังชานเมืองและเมืองเล็กๆ และงานบางอย่างที่ทางเทคนิค สามารถทาได้จากระยะไกล และทาได้ดีที่สุดด้วยตัวเอง  ส่วนการเจรจาต่อรอง การตัดสินใจทางธุรกิจที่สาคัญ การระดมความคิด การให้ ข้อเสนอแนะที่ละเอียดอ่อน และการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ เป็นตัวอย่างของกิจกรรมที่ อาจสูญเสียประสิทธิภาพ เมื่อทาจากระยะไกล
  • 15. การทางานจากระยะไกล (ต่อ)  บางบริษัทกาลังวางแผนที่จะเปลี่ยนไปใช้พื้นที่ทางานที่ยืดหยุ่นได้ หลังจากประสบการณ์ เชิงบวกกับการทางานระยะไกลในช่วงการระบาด ซึ่งจะช่วยลดพื้นที่โดยรวมที่พวกเขา ต้องการ และให้พนักงานเข้าสานักงานน้อยลงในแต่ละวัน  การสารวจผู้บริหาร 278 คนโดย McKinsey ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2020 พบว่า โดย เฉลี่ยแล้ว พวกเขาวางแผนที่จะลดพื้นที่สานักงานลง 30 เปอร์เซ็นต์  ความต้องการร้านอาหาร ร้านค้าปลีกในย่านใจกลางเมือง และการขนส่งสาธารณะ อาจ ลดลง
  • 16. การทางานจากระยะไกล (ต่อ)  การทางานระยะไกลอาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางเพื่อธุรกิจ เนื่องจากมีการใช้การ ประชุมทางวิดีโออย่างกว้างขวางในช่วงที่มีการระบาด นาไปสู่การยอมรับการประชุม เสมือนจริง และแง่มุมอื่นๆ ของการทางาน  ในขณะที่การเดินทางเพื่อพักผ่อนและการท่องเที่ยว มีแนวโน้มที่จะฟื้ นตัวหลังจากเกิด วิกฤติ แต่ McKinsey ประมาณการว่า ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของการเดินทางเพื่อธุรกิจ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทากาไรได้มากที่สุดสาหรับสายการบิน อาจไม่กลับมา  สิ่งนี้ จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสาคัญ ต่อการจ้างงานในการบินเชิงพาณิชย์สนามบิน การ ต้อนรับ และบริการอาหาร
  • 17.
  • 18. 2. ธุรกิจออนไลน์และธุรกรรมเสมือนจริง (E-Commerce and Virtual Transaction)  อีคอมเมิร์ซและธุรกรรมเสมือนจริงต่างๆ กาลังเฟื่ องฟู  ผู้บริโภคจานวนมาก ค้นพบความสะดวกของอีคอมเมิร์ซและกิจกรรมออนไลน์อื่นๆ ในช่วงการระบาด  ในปี ค.ศ. 2020 ส่วนแบ่งของอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นสองถึงห้าเท่า  ประมาณสามในสี่ ของผู้ที่ใช้ช่องทางดิจิทัลเป็นครั้งแรกในช่วงการระบาดกล่าวว่า พวก เขาจะยังคงใช้ช่องทางเหล่านี้ ต่อไป เมื่อสิ่งต่างๆ กลับสู่ "ปกติ" ตามการสารวจของ McKinsey Consumer Pulse
  • 19. ธุรกรรมเสมือนจริง  ธุรกรรมเสมือนจริงประเภทอื่นๆ เช่น การแพทย์ทางไกล ธนาคารออนไลน์ และความ บันเทิงแบบสตรีมมิง ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน  การปรึกษาแพทย์ออนไลน์ผ่าน Practo ของบริษัท telehealth ในอินเดีย เพิ่มขึ้นกว่าสิบ เท่า ระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน ค.ศ. 2020  การปฏิบัติเสมือนเหล่านี้ อาจลดลงบ้าง แต่มีแนวโน้มที่จะดาเนินต่อไปได้ดีกว่าระดับ ก่อนการแพร่ระบาด เมื่อเศรษฐกิจกลับมาเปิดใหม่
  • 20. 3. ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ (Automation and AI)  การเปลี่ยนแปลงไปสู่ธุรกรรมดิจิทัล ได้ผลักดันการเติบโตของงานด้านการจัดส่ง การ ขนส่ง และคลังสินค้า  ในประเทศจีน งานเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซ การจัดส่ง และโซเชียลมีเดีย เพิ่มขึ้ นมากกว่า 5.1 ล้านตาแหน่ง ในช่วงครึ่งแรกของปี ค.ศ. 2020  ในการสารวจผู้บริหารระดับสูงทั่วโลก 800 คน ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2020 สองใน สามกล่าวว่า พวกเขากาลังเพิ่มการลงทุนในระบบอัตโนมัติและ AI อย่างมีนัยสาคัญ  ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2020 ตัวเลขการผลิตหุ่นยนต์ในจีน เกินระดับก่อนการระบาด
  • 21. ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ (ต่อ)  บริษัทหลายแห่ง ปรับใช้ระบบอัตโนมัติและ AI ในคลังสินค้า ร้านขายของชา ศูนย์บริการทางโทรศัพท์ และโรงงานผลิต เพื่อลดความหนาแน่นของสถานที่ทางาน และรับมือกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น  คุณลักษณะทั่วไปของกรณีการใช้งานระบบอัตโนมัติเหล่านี้ มีความสัมพันธ์กับคะแนน สูงในด้านความใกล้ชิดทางกายภาพ และการวิจัยพบว่า พื้นที่การทางานที่มีปฏิสัมพันธ์ ของมนุษย์ในระดับสูง มีแนวโน้มสูงสุดในการนาระบบอัตโนมัติและ AI มาใช้
  • 22.
  • 23. การเปลี่ยนสัดส่วนของอาชีพ (Shift of Occupations)  แนวโน้มที่เกิดจากโควิด-19 อาจกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงในการผสมผสานของงาน ภายในระบบเศรษฐกิจ มากกว่าที่คาดไว้ก่อนเกิดการระบาด  มีรายงานว่า สัดส่วนของการประกอบอาชีพที่แตกต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด อาจ เกิดขึ้นหลังจากเกิดการระบาดทั่วทั้งแปดประเทศ  เมื่อเทียบกับการประมาณการก่อนเกิดโควิด-19 คาดกันว่า ผลกระทบด้านลบที่ใหญ่ ที่สุดของการระบาดต่อคนงาน ในการบริการด้านอาหาร การขาย และบริการลูกค้า รวมถึงพนักงานสานักงานที่มีทักษะน้อย
  • 24. การเปลี่ยนสัดส่วนของอาชีพ (ต่อ)  งานในคลังสินค้าและการขนส่งอาจเพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ และเศรษฐกิจการจัดส่ง แต่ไม่น่าจะชดเชยได้กับผู้ใช้แรงงานขั้นต่าจานวนมากที่ตกงาน  ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอเมริกา งานบริการลูกค้าและงานบริการด้านอาหารอาจลดลง 4.3 ล้านตาแหน่ง ขณะที่งานขนส่งอาจเพิ่มขึ้นเกือบ 800,000 ตาแหน่ง  ความต้องการคนงานในสายงานด้านการดูแลสุขภาพและ STEM อาจเพิ่มขึ้นมากกว่า ก่อนเกิดการระบาด สะท้อนถึงความสนใจด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ตามอายุและรายได้ของ ประชากรที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนความต้องการผู้ที่สามารถสร้าง ปรับใช้ และบารุงรักษา เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้น
  • 25.
  • 26. ก่อนการแพร่ระบาด  ก่อนหน้าการแพร่ระบาด การสูญเสียงานส่วนมาก กระจุกตัวในอาชีพค่าแรงระดับกลาง ในอุตสาหกรรมการผลิตและงานสานักงาน ซึ่งสะท้อนถึงระบบอัตโนมัติที่เข้ามาแทนที่ ส่วนงานที่มีค่าแรงต่าและค่าแรงสูง ยังคงเติบโตได้อีก  คนงานค่าแรงต่าเกือบทั้งหมดที่ตกงาน สามารถย้ายไปประกอบอาชีพอื่นที่มีค่าแรงต่า ได้ เช่น พนักงานคีย์ข้อมูล อาจย้ายไปทางานที่ร้านค้าปลีก หรืองานการดูแล รักษาพยาบาลที่บ้าน
  • 27. ผลกระทบของโรคระบาด  เนื่องจากผลกระทบของโรคระบาดที่เกิดขึ้น ทาให้ผู้ที่มีค่าแรงต่าที่ต้องตกงาน จึงคาดว่า การเติบโตของความต้องการแรงงานเกือบทั้งหมด จะเกิดขึ้นในงานที่มีค่าแรงสูง  นับจากนี้ ไป มากกว่าครึ่งของผู้ซึ่งมีค่าแรงต่า อาจต้องเปลี่ยนไปประกอบอาชีพในสาย งานค่าจ้างที่สูงขึ้น และต้องใช้ทักษะที่แตกต่างจากเดิมเพื่อให้มีงานทา
  • 28. การเปลี่ยนอาชีพใหม่ (Occupational Transitions)  จากการวิจัยพบว่า มีการเติบโตของงานในอาชีพค่าแรงสูงมากขึ้น และการลดลงใน อาชีพค่าแรงต่า  ในแปดประเทศที่ศึกษา คนงานมากกว่า 100 ล้านคน หรือ 1 ใน 16 คน จะต้องหา อาชีพอื่นภายในปี ค.ศ. 2030 หลังสถานการณ์โควิด-19  ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 12 เปอร์เซ็นต์ ก่อนเกิดการระบาด และเพิ่มขึ้นถึง 25 เปอร์เซ็นต์ในประเทศเศรษฐกิจขั้นสูง
  • 29. การเปลี่ยนอาชีพใหม่ (ต่อ)  ก่อนเกิดโรคระบาด ประมาณการว่า มีเพียง 6 เปอร์เซ็นต์ของคนงาน ที่จะต้องหางานทา ในอาชีพที่มีค่าจ้างสูงกว่า  ในการวิจัยหลังโควิด-19 พบว่า ไม่เพียงแค่คนงานจานวนมากขึ้น ที่จะต้องย้ายออกจาก กลุ่มค่าจ้างระดับล่าง แต่ยังรวมถึงประมาณครึ่งหนึ่งของคนงานทั้งหมด ต้องการทักษะ ใหม่ที่ล้าหน้ากว่า ในการย้ายไปประกอบอาชีพค่าจ้างที่สูงขึ้น
  • 30. การเปลี่ยนอาชีพใหม่ (ต่อ)  การผสมผสานทักษะ จาเป็นสาหรับคนงานที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพ  สัดส่วนของเวลาที่คนงานชาวเยอรมันใช้ทักษะความรู้พื้นฐานลดลง 3.4 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่เวลาที่ใช้ทักษะทางสังคมและอารมณ์เพิ่มขึ้น 3.2 เปอร์เซ็นต์  ในอินเดีย ส่วนแบ่งของชั่วโมงทางานทั้งหมดที่ใช้ทักษะทางกายภาพและทักษะด้วย ตนเอง ลดลง 2.2 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่เวลาที่ใช้กับทักษะทางเทคโนโลยีเพิ่มขึ้ น 3.3 เปอร์เซ็นต์
  • 31. การเปลี่ยนอาชีพใหม่ (ต่อ)  คนงานในสายอาชีพที่มีค่าจ้างต่าที่สุด ใช้ทักษะความรู้ความเข้าใจพื้นฐานและทักษะทาง กายภาพ 68 เปอร์เซ็นต์ของเวลา ในขณะที่ในกลุ่มค่าจ้างระดับกลาง ใช้ทักษะเหล่านี้ 48 เปอร์เซ็นต์  ในงานค่าจ้างสูงสุด ทักษะเหล่านั้นใช้น้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ใช้ไป  คนงานที่เสียเปรียบที่สุด อาจต้องการเปลี่ยนงานมากที่สุดในอนาคตข้างหน้า ส่วนหนึ่ง เป็นเพราะค่าจ้างงานที่ไม่สมส่วนกับงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
  • 32. การเปลี่ยนอาชีพใหม่ (ต่อ)  ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา คนงานที่จบการศึกษาต่ากว่าระดับวิทยาลัย สมาชิกของชน กลุ่มน้อย และผู้หญิง มีแนวโน้มที่จะต้องเปลี่ยนอาชีพ หลังเกิดโควิด-19  ในสหรัฐอเมริกา ผู้ที่ไม่มีวุฒิการศึกษาระดับวิทยาลัย มีแนวโน้มที่จะต้องเปลี่ยนอาชีพ 1.3 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่จบการศึกษาระดับวิทยาลัย และพนักงานผิวดาและฮิสแปนิก มี แนวโน้มที่จะต้องเปลี่ยนอาชีพมากกว่าคนงานผิวขาว 1.1 เท่า
  • 33. การเปลี่ยนอาชีพใหม่ (ต่อ)  ในฝรั่งเศส เยอรมนี และสเปน ความจาเป็นต้องเปลี่ยนอาชีพเพิ่มขึ้น เนื่องจากแนวโน้ม ที่ได้รับอิทธิพลจากโควิด-19 สาหรับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 3.9 เท่า  ในทานองเดียวกัน ความจาเป็นในการเปลี่ยนอาชีพ จะส่งผลกระทบกับคนงานที่อายุ น้อยมากกว่ากว่าคนงานที่มีอายุมาก และบุคคลที่ไม่ได้เกิดในสหภาพยุโรปมากกว่าผู้ที่ เป็นชาวพื้นเมืองโดยกาเนิด
  • 34. ความเร่งด่วนของธุรกิจและผู้กาหนดนโยบาย  การเปลี่ยนแปลงแรงงานที่กาหนดโดยอิทธิพลของโควิด-19 เพิ่มความเร่งด่วนให้กับ ธุรกิจและผู้กาหนดนโยบายในการดาเนินการ เพื่อสนับสนุนโครงการฝึกอบรมและ การศึกษาเพิ่มเติมให้กับพนักงาน  บริษัทและรัฐบาลต่างๆ มีความยืดหยุ่นและปรับตัว ในการตอบสนองต่อการระบาด โดยมีวัตถุประสงค์และนวัตกรรมที่จะปรับปรุงพนักงาน เพื่ออนาคตที่สดใสของการ ทางาน
  • 35. มุมมองทางธุรกิจ  ด้านธุรกิจ สามารถเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์แบบละเอียดว่า งานใดบ้างที่สามารถทาได้ จากระยะไกล โดยเน้นที่งานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ มากกว่างานทั้งหมด  พวกเขายังมีบทบาทมากขึ้น ในการฝึกอบรมพนักงานใหม่ อย่างที่ Walmart, Amazon และ IBM ได้ทา และบริษัทอื่น ๆ ก็ได้อานวยความสะดวกในการเปลี่ยนอาชีพ โดยเน้นที่ ทักษะที่ต้องการ มากกว่าที่ระดับปริญญาทางวิชาการ  การทางานทางไกล ยังเปิดโอกาสให้บริษัทต่างๆ เพิ่มความหลากหลายของพนักงาน ด้วยการคัดเลือกคนงาน ผู้ที่แต่เดิมไม่สามารถย้ายไปอยู่เมืองใหญ่ ๆ ก่อนการระบาด
  • 36. การสนับสนุนจากผู้กาหนดนโยบาย  ผู้กาหนดนโยบายสามารถสนับสนุนธุรกิจ ด้วยการขยายและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ดิจิทัล  แม้แต่ในประเทศเศรษฐกิจที่ก้าวหน้า เกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ของคนงานในครัวเรือนใน ชนบท ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้  รัฐบาลยังสามารถพิจารณาขยายผลประโยชน์และการคุ้มครอง ให้กับคนงานอิสระและ คนงานที่กาลังทางาน เพื่อสร้างทักษะและความรู้ใหม่ในช่วงเปลี่ยนอาชีพ
  • 37. การเสริมทักษะ  ทั้งภาคธุรกิจและผู้กาหนดนโยบาย สามารถทางานร่วมกันเพื่อสนับสนุนแรงงาน ที่อพยพไป มาระหว่างอาชีพได้  ภายใต้ Pact for Skills ที่จัดตั้งขึ้นในสหภาพยุโรปในช่วงการระบาด บริษัทและหน่วยงาน ภาครัฐได้ทุ่มเงิน 7 พันล้านยูโร เพื่อพัฒนาทักษะของคนงานด้านยานยนต์ราว 700,000 คน ในขณะที่ในสหรัฐอเมริกา Merck และบริษัทขนาดใหญ่อื่นๆ ได้ทุ่มเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มทักษะของคนผิวดาที่ไม่มีการศึกษาระดับวิทยาลัย และสร้างงานที่พวกเขาทาได้  รางวัลของความพยายามดังกล่าว จะส่งผลให้แรงงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น มีความสามารถ มากขึ้น ได้ค่าตอบแทนที่ดีกว่า และสังคมที่เข้มแข็งและเท่าเทียมกันมากขึ้น
  • 38. สรุป  มิติทางกายภาพของงาน เป็นปัจจัยใหม่ที่กาหนดอนาคตของงาน โดยคานึงถึงสุขภาพ และความปลอดภัยเป็นสาคัญ  โควิด-19 เร่งกระแสแนวโน้มสามประการ (การทางานระยะไกลแบบไฮบริด อี คอมเมิร์ซและเศรษฐกิจการจัดส่ง และระบบอัตโนมัติและ AI) ในระดับที่แตกต่างกัน หลังการระบาด  การเปลี่ยนผ่านงาน อาจมีขนาดใหญ่กว่าที่เราคาดไว้ก่อนการระบาด และสัดส่วนของ การจ้างงานในประเภทงานค่าแรงต่าอาจลดลง  ธุรกิจและผู้กาหนดนโยบาย สามารถเร่งทาสิ่งที่จาเป็นในการทางานอนาคตหลายอย่าง ที่มีความชัดเจนอยู่แล้วก่อน COVID-19