Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie คำพิพากษาคดีอากง
Ähnlich wie คำพิพากษาคดีอากง (8)
Mehr von Nanthapong Sornkaew
Mehr von Nanthapong Sornkaew (20)
คำพิพากษาคดีอากง
- 1. 1
คดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๔๗๒๖/๒๕๕๔
ศาลอาญา
วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
ระหวาง
พนักงานอัยการ สํานักงานอัยการสูงสุด
โจทก
นายอําพล ตั้งนพกุล
จําเลย
โจทกฟองวา ขอใหลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒
และพระราชบัญญัติวาดวยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา
๑๔ (๒) (๓)
จําเลยใหการปฏิเสธ
ศาลอาญาวิ นิ จ ฉั ย ว า พิ เ คราะห พ ยานหลั ก ฐานโจทก แ ละจํ า เลยแล ว
ข อ เท็ จ จริ ง รั บ ฟ ง ได เ บื้ อ งต น ว า ในวั น เวลาตามฟ อ งมี ก ารส ง ข อ ความจาก
โทรศัพทเคลื่อนที่หมายเลข ๐๘ ๑๓๔๙ ๓๖๑๕ ไปยังเครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่หมายเลข
๐๘ ๑๔๒๕ ๕๕๙๙ ของนายสมเกี ย รติ ครองวั ฒ นสุ ข เลขานุ ก ารส ว นตั ว ของ
นายกรัฐมนตรีขณะนั้นตามภาพถายขอความหมาย จ.๓ มีปญหาวาจําเลยกระทําความผิด
ตามฟองหรือไม โจทกมีพันตํารวจเอกศิรพงษ ติมุลา พันตํารวจโทธีรเดช ธรรมสุธีร
และรอยตํารวจเอกศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย เบิกความวา หลังเกิดเหตุพยานโจทกทั้งสาม
ทําการสืบสวนหาผูกระทําความผิด โดยตรวจสอบรายการใชโทรศัพทเคลื่อนที่และ
หมายเลขประจําเครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่ (IME) ของโทรศัพทเคลื่อนที่ที่ใชกับซิม
การดหมายเลข ๐๘ ๑๓๔๙ ๓๖๑๕ ไปยังบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จํากัด
(มหาชน) ผูใ ห บริก าร ทราบวา โทรศั พทเ คลื่ อนที่ ดั งกล าวเป น ระบบเติม เงิน ไม จ ด
ทะเบียนระบุชื่อผูใชบริการ ขณะเกิดเหตุใชงานกับเครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่หมายเลข
ประจําเครื่อง ๓๕๘๙๐๖๐๐๐๒๓๐๑๑๐ พยานโจทกทั้งสามประสานกับผูใหบริการ
เครือขายโทรศัพทเคลื่อนที่ทุกเครือขายตรวจสอบวา เครื่องดังกลาวในชวงเวลาดังกลาว
ใชอยูกับซิมการดของหมายเลขใด พบวาโทรศัพทเคลื่อนที่ที่มีหมายเลขประจําเครื่อง
ดังกลาวใชอยูกับซิมการดหมายเลข ๐๘ ๕๘๓๘ ๔๖๒๗ ระบบเติมเงิน ไมจดทะเบียน
ระบุชื่อผูใชบริการ ในเครือขายของบริษัททรูมูฟ จํากัด ตอมาบริษัททูรมูฟ จํากัด ไดสง
ขอมูลการตรวจสอบการใชบริการโทรศัพทใหพันตํารวจโทธีรเดชและรอยตํารวจเอก
ศักดิ์ชัย จากการสืบสวนของพยานโจทกทั้งสองจึงทราบวา โทรศัพทเคลื่อนที่ดังกลาว
- 2. 2
มี ก ารโทรศั พ ท ติ ด ต อ ไปยั ง โทรศั พ ท เ คลื่ อ นที่ ห มายเลข ๐๘ ๙๗๗๖ ๕๙๒๘ ของ
นางปรวรรณ โชติพิชิตชัย บุตรจําเลย จึงเชิญนางปรวรรณมาใหถอยคําและทราบวา
จําเลยเปนเจาของและผูใชโทรศัพทเคลื่อนที่หมายเลข ๐๘ ๕๘๓๘ ๔๖๒๗ จากนั้น
เจ า พนั ก งานตํ า รวจจึ ง ขออนุ มั ติ ห มายจั บ จํ า เลยแล ว จั บ กุ ม จํ า เลยได พ ร อ ม
โทรศัพทเคลื่อนที่ ยี่หอโมโตโรลา สีขาว ซึ่งมีหมายเลขประจําเครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่
(IME)
และหมายเลขซิมการดตรงกับที่สืบสวน จึงยึดเปนของกลาง กับมีนาย
ธรรมนู ญ อิ่ ม ทั่ ว เจ า หน า ที่ ต รวจสอบข อ มู ล การใช โ ทรศั พ ท ใ นระบบจั ด เก็ บ ของ
คอมพิวเตอรบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จํากัด (มหาชน) กับนายจักรพันธ
จุมพลภักดี เจาหนาที่ตรวจสอบขอมูลตัวผูใชบริการโทรศัพทเคลื่อนที่ของบริษัททรูมูฟ
จํากัด เบิกความวา ขอมูลการใชโทรศัพทเคลื่อนที่พิมพออกมาจากระบบจัดเก็บขอมูล
ทางคอมพิวเตอรของบริษัท เห็นวา พันตํารวจเอกศิริพงษ พันตํารวจโทธีรเดชและ
ร อ ยตํ า รวจเอกศั ก ดิ์ ชั ย เป น เจ า พนั ก งานของรั ฐ ปฏิ บั ติ ร าชการไปตามอํ า นาจหน า ที่
นายสมเกียรติกับนายธรรมนูญและนายจักรพันธเปนพยานคนกลาง ไมปรากฏวาพยาน
โจทกทั้งหมดดังกลาวมีสาเหตุโกรธเคืองกับจําเลยมากอน จึงไมมีเหตุใหระแวงสงสัยวา
จะเบิกความปรักปรําจําเลย ในสวนขอมูลการใชโทรศัพทเอกสารหมาย จ.๕ แผนที่ ๒
ถึงที่ ๔ และเอกสารหมาย จ.๖ แผนที่ ๓ ถึงที่ ๕ แผนที่ ๘ ถึงที่ ๑๓ เปนขอมูลที่เกิดจาก
การสื่อสารผานระบบคอมพิวเตอรและจัดเก็บไวในระบบคอมพิวเตอร จึงเปนขอมูล
จราจรทางคอมพิ ว เตอร ซึ่ ง ตามพระราชบั ญ ญั ติ ว า ด ว ยการกระทํ า ความผิ ด เกี่ ย วกั บ
คอมพิวเตอร พ.ศ.๒๕๕๐ บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จํากัด (มหาชน) กับ
บริษัททรูมูฟ จํากัด ผูใหบริการมีหนาที่เก็บรักษาไวตามพระราชบัญญัติดังกลาว เมื่อ
การเก็บรักษาขอมูลดังกลาวสืบเนื่องมาจากการที่มีกฎหมายบังคับ ประกอบกับหาก
บริษัทดังกลาวเก็บขอมูลโดยไมถูกตองลูกคาผูใชบริการยอมจะไมใชบริการอีกตอไป ทํา
ใหบริษัทจะเสียผลประโยชนทางธุรกิจ ดังนั้น ขอมูลการใชบริการโทรศัพทดังกลาวจึง
มีความนาเชื่อถือและมีน้ําหนักมั่นคงใหรับฟงได แมตามเอกสารหมาย จ.๖ แผนที่ ๒
ซึ่งเปนหนังสือที่บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จํากัด (มหาชน) มีถึงพันตํารวจ
เอกศิริพงษจะไมไดระบุวามีเอกสารหมาย จ.๖ แผนที่ ๓ ถึงที่ ๕ แนบทายไปดวย ทั้งระบุ
วาเปนการตรวจสอบชวงวันที่ ๑๐ ถึงวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๓ ซึ่งไมตรงกับเอกสาร
หมาย จ.๖ แผนที่ ๓ ถึงที่ ๕ ก็ตาม ก็เปนเพียงขอผิดพลาดในสวนของหนังสือดังกลาว
- 3. 3
ไม เ กี่ ย วกั บ ข อ มู ล การใช บ ริ ก ารโทรศั พ ท เ คลื่ อ นที่ ดั ง กล า ว นอกจากนี้ ใ นส ว นของ
หมายเลขประจําเครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่ (IME) พันตํารวจเอกศิริพงษเคยไดรับการ
อบรมหลักสูตรอาชญากรรมทางคอมพิวเตอรและอินเตอรเน็ต การสืบสวนอาชญากรรม
ทางคอมพิวเตอรและอินเตอรเน็ต การตรวจพิสูจนหลักฐานทางคอมพิวเตอร และการ
ตรวจพิสูจนหลักฐานทางโทรศัพทเคลื่อนที่จากภายในและนอกประเทศโดยจําเลยไมได
โต แ ย ง คั ด ค า นเกี่ ย วกั บ เรื่ อ งความรู ค วามสามารถของพั น ตํ า รวจเอกศิ ริ พ งษ
เบิ ก ความยื น ยั น ว า หมายเลขประจํ า เครื่ อ งโทรศั พ ท สิ บ สี่ ห ลั ก แรกเท า นั้ น ที่ ใ ช เ ป น
มาตรฐานในการระบุเอกลักษณโทรศัพทเคลื่อนที่ โดยหกหลักแรกซายมือเปนรหัสของ
ประเทศที่ตรวจสอบคุณภาพ สวนสองหลักถัดมาเปนบริษัทผูผลิต หลังจากป ค.ศ.
๒๐๐๓ ไมมีการกําหนดรหัสสองหลักดังกลาว โดยใชเปนรหัส ๐๐ อีกหกหลักถัดมา
เป น ลํ า ดั บ ของผลิ ต ภั ณ ฑ และหมายเลขหลั ก ที่ สิ บ ห า เป น หลั ก ที่ ใ ช ป ระโยชน ท าง
วิศวกรรม ทั้งมีนายธรรมนูญและนายจักรพันธเบิกความสนับสนุน ประกอบกับขอมูล
การใชโทรศัพทเคลื่อนที่หมายเลข ๐๘ ๕๘๓๘ ๔๖๒๗ ของจําเลยตามเอกสารหมาย จ.๖
แผนที่ ๗ ถึงที่ ๑๓ ระบุวาโทรศัพทเคลื่อนที่หมายเลขดังกลาวใชกับโทรศัพทเคลื่อนที่ที่
มีหมายเลขประจําเครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่ (IME) ๓๕๘๙๐๖๐๐๐๒๓๐๑๑๒๐๐๐ ซึ่ง
มี ถึ ง ๑๘ หลั ก แต โ ทรศั พ ท เ คลื่ อ นที่ ข องกลาง และจํ า เลยรั บ ว า เป น ผู ใ ช
โทรศัพทเคลื่อนที่ดังกลาวมีหมายเลขประจําเครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่ (IME) ดานหลัง
ตัวเครื่อง ๑๕ หลัก คือ ๓๕๘๙๐๖๐๐๐๒๓๐๑๑๖ ซึ่ งตรงกั บหมายเลขประจําเครื่ อง
โทรศัพทเคลื่อนที่ (IME) ตามเอกสารหมาย จ.๖ แผนที่ ๗ ถึงที่ ๑๓ เพียงสิบสี่หลัก
แรกเทานั้น อันเปนการยืนยันวาหมายเลขประจําเครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่ (IME) สิบสี่
หลักแรกที่ระบุเปนโทรศัพทเคลื่อนที่เครื่องใด สวนที่จําเลยนําสืบวา หมายเลขประจํา
เครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่ (IME) จํานวนสิบหาหลักจึงระบุวาเปนโทรศัพทเคลื่อนที่
เครื่ อ งใด เมื่ อ จํ า เลยไม ไ ด นํ า พยานผู เ ชี่ ย วชาญมาเบิ ก ความยื น ยั น เพื่ อ หั ก ล า ง
พยานหลักฐานของโจทก และการที่ทนายจําเลยขออนุญาตนําเครื่องคอมพิวเตอรใหพัน
ตํารวจเอกศิริพงษดําเนินการตรวจสอบโดยใชโปรแกรมนัมเบอรริ่งแพลนดอตคอมซึ่ง
เปนโปรแกรมที่สามารถพิสูจนใหเห็นวาเปนหมายเลขประจําเครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่
(IME) ที่จะระบุตัวเครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่ไดนั้นมีสิบหาหลักในระหวางที่พันตํารวจ
เอกศิริพงษเบิกความตอศาล แตผลการทดสอบพบวาเมื่อพิมพหมายเลขประจําเครื่อง
- 4. 4
โทรศัพทเคลื่อนที่ (IME) สิบสี่หลักแรกเปน ๓๕๘๙๐๖๐๐๐๒๓๐๑๑ แลวใสหลักที่
สิบหาดวยหมายเลข ๐ ถึง ๙ ปรากฏวามีเพียงเลข ๖ เทานั้นที่สามารถตรวจสอบไดวาเปน
โทรศั พ ท ยี่ ห อ ใด รุ น ใด ซึ่ ง หากหมายเลขประจํ า เครื่ อ งโทรศั พ ท เ คลื่ อ นที่ (IME)
จํานวนสิบหาหลักสามารถระบุไดวาเปนโทรศัพทเคลื่อนที่เครื่องใดแลว เมื่อเปลี่ยน
หมายเลขหลั ก ที่ สิ บ ห า เป น เลข ๐ ถึ ง ๕ และ ๗ ถึ ง ๙ ย อ มต อ งปรากฏผลของ
โทรศั พ ท เ คลื่ อ นที่ เ ครื่ อ งอื่ น ด ว ย แต ไ ม ป รากฏผลใด ๆ จึ ง เห็ น ได อ ย า งชั ด แจ ง ว า
หมายเลขประจําเครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่ (IME) สิบสี่หลักแรกเทานั้นที่สามารถระบุ
ไดวาเปนโทรศัพทเคลื่อนที่ใดตามพยานหลักฐานที่โจทกนําสืบ ที่จําเลยนําสืบวา ใน
เรื่องของการแกไขเปลี่ยนแปลงหรือขโมยหมายเลขประจําเครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่
(IME) นั้น เมื่อพิจารณาเวลาและสถานที่ในการใชโทรศัพทเคลื่อนที่หมายเลข ๐๘
๕๘๓๘ ๔๖๒๗ กับโทรศัพทเคลื่อนที่หมายเลข ๐๘ ๑๓๔๙ ๓๖๑๕ ตามเอกสาร
หมาย จ.๕ แผนที่ ๒ ถึงที่ ๔ และเอกสารหมาย จ.๖ แผนที่ ๓ ถึงที่ ๕ และที่ ๗ ถึงที่ ๑๓
พบวาโทรศัพทเคลื่อนที่หมายเลขดังกลาวถูกสงสัญญาณโดยสถานียอยหรือ Cell site
บริเวณซอยวัดดานสําโรง ๓๒ ซึ่งเปนยานเดียวกับที่จําเลยพักอาศัย และในสวนของ
เวลาใช ง านของโทรศั พ ท เ คลื่ อ นที่ ซึ่ ง มี ห มายเลขประจํ า เครื่ อ งโทรศั พ ท เ คลื่ อ นที่
(IME) สิบสี่หลักเหมือนกันกับซิมการดโทรศัพทเคลื่อนที่หมายเลข ๐๘ ๕๘๓๘
๔๖๒๗ กั บ โทรศั พ ท เ คลื่ อ นที่ ห มายเลข ๐๘ ๑๓๔๙ ๓๖๑๕ ก็ มี ก ารใช ง านกั บ
โทรศัพทเคลื่อนที่สองหมายเลขที่ไมใชเวลาเดียวกันและไมเคยใชงานในเวลาที่ซ้ํากัน
โดยเวลากอนและหลังการใชงานของซิมการดมีเวลาหางกันกวา ๑๐ นาที จึงมีเวลานาน
เพียงพอที่จะเปลี่ยนซิมการดจากซิมการดของโทรศัพทเคลื่อนที่หมายเลขหนึ่งเปนซิม
การดอีกหมายเลขหนึ่งได เมื่อไมปรากฏวาโทรศัพทเคลื่อนที่ของจําเลยเปนระบบใชซิม
การดได ๒ ซิม จึงเชื่อวามีการเปลี่ยนซิมการดใสโทรศัพทเคลื่อนที่ดังกลาวเพื่อกระทํา
ความผิ ด คดี นี้ โดยไม มี ก ารแก ไ ขเปลี่ ย นแปลงหรื อ ขโมยหมายเลขประจํ า เครื่ อ ง
โทรศัพทเคลื่อนที่ (IME) ตามที่จําเลยกลาวอาง ที่จําเลยนําสืบวา โทรศัพทเคลื่อนที่
ดังกลาวเสียในชวงเดือนเมษายน ๒๕๕๓ และจําเลยนําไปซอมอันทําใหมีขอสงสัยไดวา
มีผูนําโทรศัพทเคลื่อนที่ของจําเลยในชวงเวลาที่ซอม หรือรานซอมโทรศัพทเคลื่อนที่
อาจแกไขเปลี่ยนแปลงหรือขโมยหมายเลขประจําเครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่ (IME) ของ
จําเลย แตไดความจากคําเบิกความของรอยตํารวจเอกศักดิ์ชัยวา ขณะจับกุมจําเลยอางวา
- 5. 5
โทรศั พ ท ดั ง กล า วเสี ย ในช ว งเดื อ นพฤษภาคม ๒๕๕๓ โดยจํ า เลยนํ า ไปซ อ มที่
หางสรรพสินคาอิมพีเรียล สาขาสําโรง ซึ่งแตกตางจากที่จําเลยเบิกความ นอกจากนี้รอย
ตํ า รวจเอกศั ก ดิ์ ชั ย ยั ง ยื น ยั น ว า จํ า เลยไม ส ามารถนํ า ไปตรวจสอบที่ ร า นซ อ ม
โทรศัพทเคลื่อนที่ดังกลาวได โดยจําเลยอางวาจํารานซอมโทรศัพทเคลื่อนที่ไมได ซึ่ง
หากจําเลยนําโทรศัพทเคลื่อนที่ไปซอมจริงตามที่จําเลยเบิกความ จําเลยนาจะตองไป
รานซอมโทรศัพทเคลื่อนที่สองครั้ง คือ ครั้งแรกในการไปสงซอมและครั้งที่สองในการ
ไปรับโทรศัพทเคลื่อนที่คืน จําเลยจึงยอมที่จะจํารานซอมโทรศัพทเคลื่อนที่ได มิฉะนั้น
คงจะไปรับโทรศัพทเคลื่อนที่คืนไมได ที่จําเลยนําสืบวา รอยละ ๑๐ ของหมายเลข
ประจําเครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่ (IME) ไมเปนการเฉพาะหรือซ้ํากันไดตามเอกสาร
หมาย ล.๗ แผ น ที่ ๑ เอกสารดั ง กล า วมี ก ารพิ ม พ อ อกมาจากการสื บ ค น ข อ มู ล ผ า น
อินเตอรเน็ต จึงไม อาจตรวจสอบความถูกตองได วาขอมูล ดังกล าวถูก ตองนาเชื่อถื อ
หรือไม ที่จําเลยนําสืบวา จําเลยสงขอความไมเปน ทั้งไมทราบวาโทรศัพทเคลื่อนที่
หมายเลข ๐๘ ๑๔๒๕ ๕๕๙๙ เปนของผูใด และจําเลยไมเคยนําซิมการดหมายเลขอื่นมา
ใช กั บ โทรศั พ ท เ คลื่ อ นที่ ที่ มี ห มายเลขประจํ า เครื่ อ งโทรศั พ ท เ คลื่ อ นที่ (IME)
๓๕๘๙๐๖๐๐๐๒๓๐๑๑๖ ขออางของจําเลยดังกลาวมีเพียงจําเลยเทานั้นที่รูเห็น จึงเปน
การงายที่จะกลาวอาง เมื่อจําเลยรับวาจําเลยใชโทรศัพทเคลื่อนที่ที่มีหมายเลขประจํา
เครื่องโทรศัพทเคลื่อนที่ (IME) ๓๕๘๙๐๖๐๐๐๒๓๐๑๑๖ มาโดยตลอดแตเพียงผูเดียว
ฟ ง ได ว า ในช ว งเวลาเกิ ด เหตุ จํ า เลยเป น ผู ส ง ข อ ความทั้ ง สี่ ข อ ความตามฟ อ งไปยั ง
โทรศัพทเคลื่อนที่หมายเลข ๐๘ ๑๔๒๕ ๕๕๙๙ ซึ่งมีขอความแสดงความอาฆาตมาด
รายและเปนการใสความหมิ่นประมาทโดยประการที่นาจะทําใหพระบาทสมเด็จพระ
เจาอยูหัว สมเด็จพระนางเจาพระบรมราชินีนาถ ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติยศ ชื่อเสียง ถูก
ดูหมิ่น เกลียดชัง การกระทําของจําเลยจึงเปนความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดง
ความอาฆาตมาดรายพระมหากษัตริย และพระราชินี อันเปนการกระทําความผิดเกี่ยวกับ
ความมั่นคงแหงราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ เมื่อการสง
ขอความดวยโทรศัพทเคลื่อนที่จะตองสงขอความไปยังระบบคอมพิวเตอรผูใหบริการ
เครือขายโทรศัพทเคลื่อนที่ ขอความอยูในระบบคอมพิวเตอรแลวระบบคอมพิวเตอรจะ
ประมวลผลสงขอความไปยังเลขหมายปลายทางเมื่อโทรศัพทเคลื่อนที่ปลายทางเปด ซึ่ง
ขอความดังกลาวลวนไมเปนความจริง เพราะขอเท็จจริงเปนที่ประจักษแกประชาชนทั้ง
- 6. 6
ประเทศวาพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวและสมเด็จพระนางเจาพระบรมราชินีนาถทั้ง
สองพระองคทรงเปยมไปดวยพระเมตตา ทรงหวงใยประชาชนทุกหมูเหลา และทรง
ประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชนสุขตอพสกนิกรชาวไทย การกระทํา
ของจําเลยจึงเปนการนําเขาสูขอมูลทางคอมพิวเตอรซึ่งขอมูลคอมพิวเตอรอันเปนเท็จ
โดยประการที่นาจะเกิดความเสียหายตอความมั่นคงของประเทศ และเปนการนําเขาสู
ระบบคอมพิวเตอรซึ่งขอมูลคอมพิวเตอรใดๆ อันเปนความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแหง
ราชอาณาจักรดวย จําเลยจึงมีความผิดตามที่โจทกฟอง
พิพากษาวา จําเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒
พระราชบัญญัติวาดวยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๑๔
(๒) (๓) การกระทําของจําเลยเปนความผิดหลายกรรมตางกันใหลงโทษทุกกรรมเปน
กระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ความผิดฐานหมิ่นประมาท ดู
หมิ่น แสดงความอาฆาตมาดรายพระมหากษัตริย และพระราชินี กับความผิดฐานนําเขา
สูระบบคอมพิวเตอรซึ่งขอมูลคอมพิวเตอรใดๆ อันเปนความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแหง
ราชอาณาจักรเปนกรรมเดียวผิดตอกฎหมายหลายบทใหลงโทษตามประมวลกฎหมาย
อาญา มาตรา ๑๑๒ ซึ่งเปนกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๙๐ จําคุกกระทงละ ๕ ป รวม ๔ กระทง เปนจําคุก ๒๐ ป