8. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
พิสูจน์ข้อสังเกต 1 ที่กล่าวว่า ถ้า Rf Dg แล้ว g f
สมมติ ว่ า Rf Dg ดั ง นั้ น ให้ b Rf Dg เนื่ อ งจาก b Rf จะมี a Df ที่ f (a ) b และเนื่ อ งจาก
b Dg จ ะ มี c Rg ที่ g (b ) c นั่ น คื อ c g(b) g(f (a )) g f (a ) ห รื อ (a, c) g f ท า ใ ห้
g f
ต่อมาจากตัวอย่างที่เกี่ยวกับการจับคู่ของตัวเลขที่ยกไว้ในสื่อ ทาให้นักเรียนพอสังเกตได้ว่า gof เป็นการจับคู่กัน
ระหว่างตัวเลขที่เป็นสมาชิกในเซตสองเซต นั่นคือ gof เป็นความสัมพันธ์ระหว่างเซตสองเซตแบบหนึ่งเช่นกั น
ข้อสังเกตต่อไปจะแสดงว่า สาหรับฟังก์ชัน f และ g ที่ g f จะได้ว่า gof เป็นฟังก์ชันเช่นกัน
พิสูจน์ข้อสังเกต 2 ที่กล่าวว่า gof เป็นฟังก์ชัน
7
9. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สมมติว่า f และ g เป็นฟังก์ชันที่ g f และ ให้ (a, c1 ), (a, c2 ) g f นั่นคือ (f (a ), c1 ), (f (a ), c2 ) g
เนื่องจาก f เป็นฟังก์ชันทาให้ได้ว่า f (a ) ในคู่อันดับ (f (a), c1 ) และ (f (a), c2 ) เป็นค่าเดียวกัน ต่อมาเนื่องจาก g
เป็นฟังก์ชันทาให้ได้ว่า c1 c2 ดังนั้น gof เป็นฟังก์ชัน
ข้อสังเกตต่อมามาจากตัวอย่างที่ยกให้ดูในสื่อเช่นกัน ในกรณีที่กาลังพิจารณา gof เนื่องจากอาจมีสมาชิกบางตัวใน
Df ที่ไม่มี “สะพานเชื่อม” ส่งต่อไปยัง Rg ทาให้ได้ข้อสังเกตข้อนี้
พิสูจน์ข้อสังเกต 3 ที่กล่าวว่า Dg f Df
ให้ a Dg f จะได้ว่ามี c Rg f ที่ (a, c) g f แสดงว่ามี b Rf Dg ที่ (a,b) f และ (b, c) g นั่นคือ
a Df
เมื่อมาถึงตอนนี้ครูอาจถามนาว่าหากสถานการณ์กลับกัน คือพิจารณา f g หรือแม้แต่ f f แล้วข้อสังเกตต่างๆ
จะเปลี่ย นไปหรือไม่ อย่า งไรบ้ าง นอกจากนี้ยั งอาจให้นัก เรีย นสังเกตต่อว่า g f และ f g ได้ผลลัพ ธ์มาเป็น
ฟังก์ชันเดียวกันหรือไม่ หาก g f และ f g ไม่ใช่ฟังก์ชันเดียวกัน นักเรียนคิดว่ามีเงื่อนไขใดหรือไม่ที่จะทาให้
g f f g
8
10. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เมื่อมาถึงตอนนี้จึงให้บทนิยามของฟังก์ชันประกอบ
ครูอาจสรุป อีกครั้ง ว่า ถ้า g f และ (a, c) g f แล้วจะมี b Rf Dg ที่ (a,b) f และ (b, c) g
นั่นเอง
เมื่อมาถึงตอนนี้ครูอาจใช้ฟังก์ชันที่เคยได้ยกในตัวอย่างหรือในแบบฝึกหัดของสื่อตอนก่อนหน้านี้ให้นักเรียนช่วยกัน
ฝึกหาผลประกอบของฟังก์ชันเหล่านั้น และยังอาจยกตัวอย่างนี้ประกอบ
ตัวอย่าง 1 ถ้า f {( 3, 1), (0,1), (1, 3), (4, 4), (7,6)} และ g {(1, 0), (2,1), (3,5), (4, 3), (5,2)}
จงหา f g, g f, f f และ g g
วิธีทา จากโจทย์เนื่องจาก f (g(1)) f (0) 1 และ f (g(2)) f (1) 3 จะได้ว่า f g {(1,1), (2, 3)}
ต่ อ ม า เ นื่ อ ง จ า ก g(f (0)) g(1) 0, g(f (1)) g(3) 5 และ g( f (4)) g(4) 3 จ ะ ไ ด้ ว่ า
g f {(0, 0), (1,5), (4, 3)}
ต่อมาเนื่องจาก f (f (0)) f (1) 3 และ f ( f (4)) f (4) 4 จะได้ว่า f f {(0, 3), (4, 4)}
สุดท้ายเนื่องจาก g(g(2)) g(1) 0, g(g(3)) g(5) 2, g(g(4)) g(3) 5 และ g(g(5)) g(2) 1 จะ
ได้ว่า g g {(2, 0), (3,2), (4,5), (5,1)}
9
11. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ชวนคิด จากฟังก์ชัน f และ g ที่กาหนดให้ในตัวอย่าง 1 จงหา
f 1 g, f 1 g 1, f 1 f 1, g 1 f , g 1 f 1 และ g 1 g 1
พึงสังวรณ์ว่าบางฟังก์ชันอาจเป็นเซตว่าง
นอกจากนี้ให้นักเรียนสังเกตว่ามีความสัมพันธ์ระหว่าง f 1
g 1, g 1
f 1, (f g) 1
และ (g f) 1
หรือไม่
อย่างไร
10
13. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2. โดเมนและเรนจ์ของฟังก์ชันประกอบ
ในช่วงนี้ได้กล่าวถึงการหาโดเมนและเรนจ์ของฟังก์ชันประกอบจากฟังก์ชันที่กาหนดให้ และการคานวณผลการ
ประกอบของฟังก์ชันที่กาหนดให้ผ่านตัวอย่างที่หลากหลาย
นอกจากนี้ครูยั งอาจนาตัวอย่างฟังก์ชันต่างๆ ที่เคยยกไว้ในสื่อตอนก่อนหน้านี้ มาให้นักเรี ย นฝึกหาฟังก์ชัน
ประกอบจากตัวอย่างเหล่านั้น และครูยังอาจยกตัวอย่างเหล่านี้เพิ่มเติม
x
ตัวอย่าง 2 กาหนดให้ f (x ) และ g(x ) x2 9 จงหา Dg f
2 x
12
14. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วิธีทา จากโจทย์จะได้ว่า Df {2} และ Dg ( 3] [3, ) ดังนั้น
x
Dg f
{x Df | f (x ) Dg } x {2} ( 3] [3, ) นั่นคือแก้อสมการ
2 x
x x 2x 6 4x 6
3 หรือ 3 ซึ่งทาให้ได้ว่า 0 หรือ 0 ดังนั้น x (2, 3] หรือ
2 x 2 x 2 x 2 x
3 3
x ,2 ทาให้ Dg f ,2 (2, 3]
2 2
หรืออาจคานวณ g f (x ) ก่อนแล้วจึงหาโดเมนของฟังก์ชันที่เป็นผลจากการประกอบดังกล่าว จากโจทย์จะได้ว่า
2 2
x x x
g f (x ) g(f (x )) g 9 ดังนั้น 9 0 และ x 2 พิจารณาเฉพาะ
2 x 2 x 2 x
อสมการแรกจะได้ว่า
2
(4x 6)( 2x 6) x x x
3 3 9 0
(2 x )2 2 x 2 x 2 x
นั่นคือ (2x 3)(x 3)
0 หรือ x 3
,3 ทาให้ Dg f 3
,2 (2, 3]
(x 2)2 2 2
ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงการหาเรนจ์ของฟังก์ชันที่เป็นผลการประกอบของฟังก์ชันสองฟังก์ชัน
ตัวอย่าง 3 กาหนดให้ f (x ) x4 1 และ g(x ) 100 36x 2 จงหา Rg f
วิธีทา จากโจทย์จะได้ว่า y g f (x ) g(f (x )) g(x 4 1) 100 36(x 4 1)2 จะเห็นว่า y 0
y2
และ 100 36(x 4 1)2 y2 นั่นคือ y 0 และ 100 (x 4 1)2 แต่เนื่องจาก x 4 1 0 ทุก
36
100 y 2 100 y 2
x ดังนั้น y 0 และ 1 x4 ทาให้ได้ว่า y 0 และ 1 0 นั่นคือ
36 36
y 0 และ 100 y2 0 และ 100 y2 36 ดังนั้น y [0, 8] หรือ Rg f [0, 8]
สาหรับตัวอย่างต่อไปนี้จะเป็นตัวอย่างการหาผลประกอบของฟังก์ชันที่นิยามเป็นช่วงๆ
13
15. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2x ; 0 x 1
ตัวอย่าง 4 กาหนดให้ f (x ) x2 เมื่อ x 0 และ g(x ) 1 จงหา g f (x )
1 ; x 1
4x
วิธีทา Dg f {x Df | f (x ) Dg } {x [0, ) | x2 [0, )} [0, )
กรณี 0 x 1 จะได้ว่า 0 x2 1 และ g f (x ) g(f (x )) g (x 2 ) 2x 2
1
กรณี x 1 จะได้ว่า x 2 1 และ g f (x ) g( f (x )) g(x 2 ) 1
4x 2
แบบฝึกหัดเพิ่มเติมเรื่องโดเมนและเรนจ์ของฟังก์ชันประกอบ
1. กาหนดให้ f (x ) 2 g(x ) โดยที่ g(x ) 1 x จงหา Df g
1
2. กาหนดให้ f (x ) 9 x2 และ g(x ) จงหา Rg f
4 x2
3. กาหนดให้ f (x ) (x 2)2 และ g(x ) x 2 จงหาค่าของ Df g
Rg f
4. ถ้า f (x ) 3 x และ g(x ) 2 |x 4| จงหา Dg f
1
;x 0 1
5. กาหนดให้ f (x ) x และ g(x ) จงหา f g(x )
1; x 0 x 1
14
17. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3. สมบัติของฟังก์ชันประกอบ
ในช่วงสุดท้ายได้กล่าวถึงสมบัติต่างๆ ของฟังก์ชันประกอบโดยเริ่มจากการยกตัวอย่างแล้วสรุปเป็นทฤษฎีบท อย่างไร
ก็ดีในสื่อไม่ได้ให้บทพิสูจน์ไว้ แต่จะแสดงบทพิสูจน์ในคู่มือนี้สาหรับผู้ที่สนใจ
ทฤษฎีบทแรกนี้เกี่ยวกับผลการประกอบระหว่างฟังก์ชันและตัวผกผันของฟังก์ชัน กล่าวคือ
ถ้า f เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่ง แล้ว f f 1(x ) x ทุก x Rf และ f 1 f (x ) x ทุก x Df
บทพิสูจน์ สมมติว่า f เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่ง ดังนั้น f 1 เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่งด้วย
ให้ x Rf ดั ง นั้ น จะมี a Df เพี ย งตั ว เดี ย วที่ (a, x ) f และ (x, a ) f 1 ดั ง นั้ น (x, x ) f f 1
นั่ น คื อ
f f 1(x ) x
ต่อมาให้ x Df ดังนั้นจะมี b Rf เพียงตัวเดียวที่ (x ,b) f และ (b, x ) f 1
ดังนั้น (x, x ) f 1
f นั่นคือ
1
f f (x ) x
หมายเหตุ ทฤษฎีบทนี้มีประโยชน์ในการใช้แก้สมการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมการที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชันชี้กาลัง ฟังก์ชัน
ลอการิทึม ฟังก์ชันตรีโกณมิติ และฟังก์ชันตรีโกณมิติผกผัน ซึ่งนักเรียนจะได้เรียนอย่างละเอียดในสื่อเรื่องฟังก์ชันชี้
กาลังและฟังก์ชันลอการิทึม โดยอาจารย์เพ็ญพรรณและอาจารย์จิณดิษฐ์ และสื่อเรื่องตรีโกณมิติ โดยอาจารย์จิตรจวบ
16
18. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ก่อนที่จะนาไปสู่ทฤษฎีบทต่อไป ได้นาเสนอผลการประกอบของฟังก์ชันที่มากกว่าสองฟังก์ชัน
ในที่นี้ครูอาจถามนักเรียนต่อว่าสาหรับฟังก์ชัน f, g และ h ที่กาหนดให้ มีเงื่อนไขใดบ้างที่จะทาให้เกิด h g f
นอกจากนี้ (h g) f ได้ผลลัพธ์เป็นฟังก์ชันเดียวกันกับ h (g f) หรือไม่
ในคู่มือนี้จะพิสูจน์ว่า (h g ) f h (g f )
บทพิสูจน์ ให้ (a, d ) (h g ) f จะได้ว่ามี b Rf Dh g Rf Dg ที่ทาให้ (a,b) f และ (b, d ) h g
ดั ง นั้ น จะมี c Rg Dh ที่ ท าให้ (b, c) g และ (c, d ) h ท าให้ ไ ด้ ว่ า (a,b) f และ (b, c) g นั่ น คื อ
(a, c) g f และเพราะว่า (c, d ) h ทาให้ได้ว่า (a, d ) h (g f ) ดังนั้น (h g ) f h (g f )
ในท านองกลั บ กั น ให้ (a, d ) h (g f ) จะได้ ว่ า มี b Rg f Dh ที่ ท าให้ (a,b) g f และ (b, d ) h
ดั ง นั้ น จะมี c Rf Dg ที่ ท าให้ (a, c) f และ (c, b) g ท าให้ ไ ด้ ว่ า (c, b) g และ (b, d ) h นั่ น คื อ
(c, d ) h g และเพราะว่า (a, c ) f ทาให้ได้ว่า (a, d ) (h g ) f ดังนั้น h (g f ) (h g ) f
จึงสรุปได้ว่า (h g ) f h (g f )
นั่นคือการดาเนินการ ระหว่างฟังก์ชันมีสมบัติการเปลี่ยนหมู่
17
19. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ต่อมายังได้กล่าวถึงลักษณะโจทย์ที่ปรากฏบ่อยครั้ง โดยบางครั้งหากนักเรียนเข้าใจความหมายของฟังก์ชันประกอบ
แล้วสามารถแก้โจทย์เหล่านี้ได้อย่างไม่ซับซ้อน
เมื่อมาถึงตอนนี้ครูอาจยกตัวอย่างต่อไปนี้ให้นักเรียนฝึกฝน
ตัวอย่าง 5 ถ้า g(x ) x 2 และ f g(x ) 2x 1 จงหา f (x 2 1)
วิธีทา จากโจทย์จะได้ว่า f (x 2) f (g(x )) f g(x ) 2x 1 เมื่อแทน x ทุกตัวด้วย a 2 3 จะได้
f (a 2 1) f ((a 2 3) 2) 2(a 2 3) 1 2a 2 5 นั่นคือ f (x 2 1) 2x 2 5
หรืออาจทาได้โดย จากโจทย์จะได้ว่า f (x 2) f (g(x )) f g(x ) 2x 1 ให้ a x 2 ดังนั้น
x a 2 ทาให้ f (a ) 2(a 2) 1 2a 3 และ f (x 2 1) 2(x 2 1) 3 2x 2 5
18
20. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ตัวอย่าง 6 ถ้า f (x ) 2x 4 และ g(1 x) x2 จงหาค่าของ g f 1(0)
วิธีทา จากโจทย์สมมติว่า f 1(0) a ดังนั้น 2a 4 f (a ) นั่นคือ f 1(0) a 2 ทาให้
0
g f 1(0) g( f 1(0)) g(2) เมื่อแทน x 1 ในสูตรที่เกี่ยวกับ g ที่โจทย์กาหนดให้จะได้
g(2) g(1 ( 1)) ( 1)2 1 สรุปได้ว่า g f 1(0) 1
x 4
หรืออาจทาโดยตรงได้โดย จากโจทย์จะได้ว่า f 1(x ) และ ให้ a 1 x ดังนั้น x 1 a ทาให้ได้ว่า
2
g(a ) (1 a )2 ดังนั้น g f 1(0) g(f 1(0)) g(2) (1 2)2 1
สุดท้ายได้ยกตัวอย่างเพื่อนาไปสู่ทฤษฎีที่เป็นสมบัติสาคัญอีกประการของฟังก์ชันประกอบ
19
21. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นั่นคือทฤษฎีบทที่กล่าวว่า ถ้า f :A B และ g : B C เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่งและทั่วถึงแล้ว
(g f ) 1(x ) f 1
g 1(x )
บทพิสูจน์ สมมติว่า f : A B และ g : B C เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่งและทั่วถึง
ขั้นแรกจะพิสูจน์ก่อนว่า g f เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่งและทั่วถึงจากเซต A ไปยังเซต C
ให้ a A Df ดังนั้นจะมี b B ที่ (a,b) f เนื่องจาก g : B C ทาให้ได้ว่าจะมี c C ที่ (b, c) g
ดังนั้น (a, c) g f นั่นคือ A Df Dg f และเนื่องจากข้อสังเกต 1 ที่ว่า Dg f Df ทาให้ได้ว่า Dg f A
ต่อมาให้ a, b A สมมติว่า g f (a ) g f (b) ดังนั้น g(f (a )) g(f (b)) เนื่องจาก g และ f เป็นฟังก์ชัน
หนึ่งต่อหนึ่งทาให้ได้ว่า f (a ) f (b) และ a b ตามลาดับ ดังนั้น g f เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่ง
สุดท้ายให้ c C เนื่องจาก g : B C และ f : A B เป็นฟังก์ชันทั่วถึง ทาให้ได้ว่ามี b B ที่ g(b) c
และ มี a A ที่ f (a ) b นั่นคือ c g(b) g(f (a )) g f (a ) ดังนั้น C Rg f และเนื่องจากทราบว่า
Rg f C ทาให้ได้ว่า Rg f C นันคือ g f เป็นฟังก์ชันหนึ่งทั่วถึงจากเซต A ไปยังเซต C
่
จึงสรุปได้ว่า g f เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่งและทั่วถึงจากเซต A ไปยังเซต C และ (g f ) 1 เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อ
หนึ่งและทั่วถึงจากเซต C ไปยังเซต A
ขั้นต่อมา ให้ x C และให้ (g f ) 1(x ) z เนื่องจาก g f เป็นฟังก์ชันหนึ่งทั่วถึงจากเซต A ไปยังเซต C จะ
ได้ว่า g f (z ) x ต่อมาเนื่องจาก g 1 เป็นฟังก์ชัน ดังนั้น (g 1 (g f ))(z ) g 1(g f (z )) g 1(x )
เพราะว่าการดาเนินการ ระหว่างฟังก์ชันมีสมบัติการเปลี่ยนหมู่ทาให้ได้ว่า
g 1(x ) ((g 1
g ) f )(z ) g 1
g(f (z )) f (z )
ในทานองเดียวกัน เนื่องจาก f 1
เป็นฟังก์ชัน ดังนั้น f 1
f (z ) f 1( f (z )) f 1(g 1(x )) f 1
g 1(x )
เมื่อมาถึงตอนนี้ครูอาจยกตัวอย่างนี้เพิ่มเติม
ตัวอย่าง 7 กาหนดให้ f (x ) (x 1)2 ทุก x 1 และ g(x ) 1 x ทุก x 1 จงหาค่าของ
1 1 1
g f
9
20
22. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
1 1
วิธีทา เนื่องจาก g 1
f 1
(f g) 1
จึงเริ่มจากการคานวณ f g(x ) จากโจทย์จะได้ว่า ในกรณีที่
9 9
x 1 จะได้ว่า 1 x 1 ก็ต่อเมื่อ x 0 นั่นคือ Df g
[0,1] และ
1
f g(x ) f (g(x )) f( 1 x) ( 1 x 1)2 ถ้าให้ (f g) 1
a จะได้ว่า a [0,1] และ
9
1 1 1 16
( 1 a 1)2 f g(a ) นั่นคือ 1 a 1 หรือ 1 a 1 ดังนั้น 1 a
9 3 3 9
4 7
หรือ 1 a ทาให้ได้ว่า a หรือ 5 แต่ a [0,1] ดังนั้น
9 9 9
1 1 1 1 1 5
g f (f g) a
9 9 9
หมายเหตุ ให้นักเรียนฝึกแก้ปัญหาในตัวอย่างนี้โดยตรงเป็นแบบฝึกหัด
แบบฝึกหัดเพิ่มเติมเรื่องสมบัติของฟังก์ชันประกอบ
1. กาหนดให้ f, g : โดยที่ f (x ) 2x 5 และ g(x ) 3x 1 ถ้า a เป็นจานวนจริงที่ทาให้
g 1
f 1(a ) 2 แล้วจงหาค่าของ a
2. กาหนดให้ f, g : โดยที่ g(x ) 1 2x และ g f (x ) x6 2x 4 2x 3 x2 2x 5 จงหาค่า
ของ f g (1)
3. กาหนดให้ f (x 1) 3x 2 f (x ) และ g(3x 1) 2x 7 ถ้า f (0) 1 แล้วจงหา g 1
f (1)
4. ให้ f และ g เป็นฟังก์ชันจาก ไปยัง โดยที่ f (x ) x3 3 และ f g(x ) x3 3x 2 3x 13
แล้ว จงหาค่าของ g f 1( 5)
21
23. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
30x
5. กาหนดให้ f g(x ) และ g(x ) x3 2x 2 จงหา f (5)
3x 2 2
6. กาหนดให้ f g (x ) 3x 14 และ f (x 2) 3x 2 แล้วจงหา g 1
f (x )
7. กาหนดให้ f (x ) ax 2 เมื่อ a และ b เป็นจานวนจริงและ g(x
b 1) 6x 8 โดยที่ f (2) g(2)
และ (f g )(1) 8 จงหาค่าของ f g 1(28)
8. กาหนดให้ f และ g เป็นฟังก์ชันที่มีสมบัติว่า f 1
g(x ) x 2 ทุก x จงหา f (2x ) ในรูปของ
ฟังกัชัน g
9. กาหนดให้ f (x ) 3x 5 และ f g(x ) x2 3x 1 จงหา g(1)
x 3
10. ให้ f และ g เป็นฟังก์ชันที่มีโดเมนและเรนจ์เป็นสับเซตของเซตของจานวนจริงโดยที่ f (x ) และ
x 6
6x
f 1
g(x ) ถ้า g(a ) 1 แล้วจงหาค่า a
x 1
22
27. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
แบบฝึกหัดระคน
1. กาหนดให้ f (x ) x2 2 | x | และ g(x ) x2 1 จงหาค่าของ g f ( 3) f g (3)
2. ให้ f (x ) x8 x6 และ g(x ) 8x 7 6x 5 จงหาค่าของ f g (1)
1; x 0
3. กาหนดให้ f (x ) จงหา f f (x )
0; x 0
x 1; x 0
4. กาหนดให้ f (x ) จงหา g f (x ) เมื่อกาหนดให้
x 1; x 0
ก) g(x ) 1 ทุก x ( 1) [1, )
ข) g(x ) f 1(x ) ทุก x ( 1) [1, )
(x 1)2 ; x 1
ค) g(x )
(x 1)2 ; x 1
ง) g(x ) x3 ทุก x ( 1) [1, )
1
g
5. กาหนดให้ f (x ) ax 2 เมื่อ x 0 และ g(x ) x3 ถ้า f 1
g(2) 2 แล้ว 1
(64) มีค่าเท่าใด
f
6. ให้ f และ g เป็นฟังก์ชันซึ่ง f (x ) 0 ทุก x Df ถ้า g f (x ) 2( f (x ))2 2 f (x ) 4 และ
x 1
g 1(x ) แล้วจงหาค่าของ g f (x ) (f g )(1)
3
2; x 1
7. กาหนดให้ f (x ) (x 1) ;2
1 x 2 และ g(x ) f (x ) 2 ถ้า k เป็นจานวนเต็มที่น้อยที่สุดที่
x 1; x 2
ทาให้ g(k ) 5 แล้วจงหา f g (k 2)
x; 0 x 1
8. กาหนดให้ f (x ) x เมื่อ x 0 และ g(x ) จงหา g f 1 (x ) และ f g 1 (x )
x 1; x 1
26
28. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
x
;x a
9. ให้ a 0 กาหนด f (x ) x 2 และ g(x ) x2 จงหาค่าของ f g( a ) g f (a )
x 1
;x a
x
10. ให้ ,E และ O แทนเซตของจานวนเต็ม จานวนเต็มคู่ และจานวนเต็มคี่ตามลาดับ และ f, g :
x
;x E
กาหนดโดย f (x ) 2x และ g(x ) 2 แล้ว g f f ที่เป็นฟังก์ชันจาก ไปยัง เป็น
x; x O
ฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่ง หรือทั่วถึง หรือหนึ่งต่อหนึ่งและทั่วถึง จงให้เหตุผลประกอบ
x x
11. กาหนดให้ f (x ) เมื่อ x 1 และ g(x ) เมื่อ x 1 จงหา
1 x 1 x
(f g ) 1(x ), f 1
g 1(x ), f 1
g(x ) และ g 1
f (x )
12. กาหนดให้ r {(x , y ) |x y2 4} และ s {(x , y ) |x | y |} จงหาค่าของ
r 1
s 1(x ), s 1
r 1(x ), r 1
r 1(x ) และ s 1
s 1(x )
13. ให้ f และ g เป็นฟังก์ชันที่กาหนดโดย f (x ) (x 1)3 4 และ g 1
(x ) x2 9 เมื่อ x 0
ถ้า g f 1(a ) 0 แล้วจงหาค่า a
1 1
14. กาหนดให้ f (x ) 1 และ g(x ) x2 a ถ้า f g(0) แล้วจงหาค่า a
x 2
15. ให้ เป็นเซตของจานวนเต็ม ถ้า f และ g เป็นฟังก์ชันที่กาหนดโดย f (x ) 2x และ g(x ) x 1 ทุก
x แล้วจงหาเรนจ์ของ (f g ) f
4
16. ถ้า f (x ) 2x และ g(x ) จงหาค่า x ที่ทาให้ g f (x ) f g (x )
x 1
27
29. คู่มือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่าง
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
x
17. ให้ f, g : โดยที่ f (x ) และ g(x ) จานวนเต็มที่น้อยที่สุดที่มากกว่าหรือเท่ากับ x จงหา
|x | 1
g f (x )
1 x
18. ให้ f : เป็นฟังก์ชันที่มีสมบัติที่สอดคล้องกับ f x เมื่อ x 1 จงหา f f (x )
1 x
19. ให้ f1, f2 , f3 , f4 , g, h : โดยที่ f1(x ) x 3, f2 (x ) x 3, f3(x ) 1 x2 และ
f4 (x ) 1 x2 ถ้า f1 h(x ) f2 g(x ) 2x และ f3 h(x ) f4 g(x ) 4 จงหาค่าของ g h(2)
x
20. กาหนดให้ f g(x ) 2
และ g(x 2) x2 2x 1 จงหา f (9)
x 1
28