การเขียนบทความวิจัยนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา (Research Article Writing for Digital Technology Innovation for Education)
•
0 gefällt mir•693 views
ฝากติดตามกด Like กด Love ❤️ กด Share ⤴️ ที่ https://www.facebook.com/TouchPoint.in.th/ ------------------------------------------------------------------ ฝากกด Subscribe ช่อง YouTube TouchPoint ที่ https://www.youtube.com/c/TouchpointTH ------------------------------------------------------------------ เว็บไซต์ https://touchpoint.in.th/ ------------------------------------------------------------------ ดร.กฤษณพงศ์ เลิศบำรุงชัย
Empfohlen
Empfohlen
Weitere ähnliche Inhalte
Was ist angesagt?
Was ist angesagt? (20)
Ähnlich wie การเขียนบทความวิจัยนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา (Research Article Writing for Digital Technology Innovation for Education)
Ähnlich wie การเขียนบทความวิจัยนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา (Research Article Writing for Digital Technology Innovation for Education) (20)
Mehr von Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai
Mehr von Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai (19)
การเขียนบทความวิจัยนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา (Research Article Writing for Digital Technology Innovation for Education)
- 1. การเขียนบทความวิจัย ดร.กฤษณพงศ์ เลิศบารุงชัย Facebook.com/TouchPoint.in.th TouchPoint.in.th YouTube.com/c/TouchPointTH นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา
- 2. บทความวิจัย ผลงานที่สรุปรายงานวิจัยที่สามารถนาไปเผยแพร่ในวารสารหรือ ประชุมวิชาการ มีความยาวประมาณ 5-15 หน้ากระดาษ อาจเป็น ส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์หรืองานวิจัยฉบับสมบูรณ์ Research Articles
- 3. 02 บทความวิจัยเสนอกระบวนการ 01 บทความวิจัยเสนอแนวคิด 03 บทความวิจัยเสนอผลการวิจัยบางส่วน 04 บทความวิจัยเสนอผลการวิจัยทั้งหมด ลักษณะของบทความวิจัย Kind of Research Articles
- 4. ชื่อเรื่อง Title ชื่อผู้เขียนบทความ Author ชื่อหน่วยงานที่สังกัด Affiliated Abstract บทคัดย่อ คาสาคัญ Keywords องค์ประกอบของบทความวิจัย อีเมลของผู้เขียนบทความ Author’s Email Elements of Research Article
- 5. บทนา Introduction วัตถุประสงค์การวิจัย Objective ขอบเขตการวิจัย Scope of Research Research Method วิธีการวิจัย สรุปผลการวิจัย Results สมมติฐานการวิจัย Hypothesis องค์ประกอบของบทความวิจัย Elements of Research Article
- 6. อภิปรายผลการวิจัย Discussion บทสรุป Conclusion กิตติกรรมประกาศ Acknowledgement References รายการอ้างอิง องค์ประกอบของบทความวิจัย Elements of Research Article
- 7. ชื่อเรื่องวิจัยเป็นจุดแรกที่จะดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน และทาให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจในปัญหา รวมทั้งวิธีการดาเนินการวิจัย ของผู้วิจัยอีกด้วย ดังนั้นการตั้งชื่อเรื่องวิจัยจึงต้องเขียนให้ชัดเจนเข้าใจง่าย ไม่คลุมเครือ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ชื่อเรื่อง Title
- 8. ใส่ชื่อ-นามสกุลผู้เขียนบทความ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยไม่ต้องใส่ยศถาบรรดาศักดิ์ใดๆ ควรมีมากกว่า 1 คน กฤษณพงศ์ เลิศบารุงชัย เอกภพ อาดา ไทย Kridsanapong Lertbumroongchai Akkaphop Adam English ชื่อผู้เขียนบทความ Author
- 9. อีเมล์ของผู้เขียนบทความควรเป็นอีเมลของต้นสังกัด (ถ้ามี) เช่น @kmutt.ac.th @rmutt.ac.th ถ้าไม่มีให้ใช้อีเมล์ Hotmail, Outlook, Gmail ทั่วไปได้ @kmutt.ac.th @rmutt.ac.th Hotmail | Outlook Gmail อีเมลของผู้เขียนบทความ Author’s Email
- 10. ให้ระบุหน่วยงานที่สังกัด เรียงจากเล็กไปใหญ่ เช่น สาขาวิชา / คณะ / มหาวิทยาลัย สาขาวิชา คณะ มหาวิทยาลัย ชื่อหน่วยงานที่สังกัด Affiliated
- 11. ส่วนแรก วัตถุประสงค์ ส่วนที่สอง กลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือวิจัย และสถิติที่ใช้ ส่วนที่สาม ผลการวิจัย การเขียนบทคัดย่อโดยทั่วไปมี 3 ส่วน บทคัดย่อ Abstract
- 12. 3-5 คา สื่อการเรียนรู้ | เทคโนโลยีความจริงเสมือน| โครงงานเป็นฐาน | ทักษะการสร้างนวัตกรรม คาสาคัญเป็นคาเฉพาะในงานวิจัยและเป็นคาที่เป็นสากลยอมรับกันทั่วไปมีประโยชน์ในการช่วยค้นหาและนาไปตั้งต้น เขียนบทนา ควรมี 3-5 คา คาสาคัญ Keywords Learning Media | Virtual Reality | Project-Based Learning | Innovation Skills
- 13. บทนาจะกล่าวให้เห็นที่มาและความสาคัญในการทาวิจัยมีความยาวประมาณ1 หน้า – 1 หน้าครึ่ง A4 ย่อหน้าที่ 1 ปัญหาการวิจัย มีปัญหาอะไร ความสาคัญอย่างไร ย่อหน้าที่ 2 เป็นประเด็นที่ผู้วิจัยสนใจ องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง ย่อหน้าที่ 3 ใช้สื่อหรือนวัตกรรมอะไร ทาไมจึงเลือกสื่อหรือนวัตกรรมนั้น ย่อหน้าที่ 4 สรุปเชื่อมโยงว่าทาไมต้องทาวิจัยนี้จะแก้ไขปัญหาได้อย่างไรอ้างอิงเยอะๆ (ตามรูปแบบการอ้างอิงของวารสารนั้นๆ) เขียนจากกว้างมาแคบ ระบุปัญหาให้เป็นประโยคที่มีความชัดเจน เขียนให้มีลักษณะของการอ้างอิงตามหลักการอ้างอิง เขียนถึงผลที่จะเกิดขึ้นจากปัญหาและวิธีการแก้ไขปัญหา มีประมาณ 3-4 ย่อหน้า บทนา Introduction
- 14. เขียนเป็นข้อ ประมาณ 3-5 ข้อ ขึ้นอยู่กับประเด็นที่จะศึกษา / วิจัย เขียนให้อยู่ในกรอบของชื่อเรื่อง เขียนโดยขึ้นต้นด้วยคาว่า “เพื่อ” เช่น เพื่อผลิตสื่อเทคโนโลยีความจริงเสมือนปฏิสัมพันธ์ในจักรวาลนฤมิตในรายวิชา.................. เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบไฮบริดเลิร์นนิ่งโดยใช้เกมมิฟิเคชั่นผ่านเทคโนโลยีคลาวด์เพื่อสร้างการเรียนรู้แบบส่วนร่วม เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อระบบการจัดการเรียนรู้แบบเปิดมหาชน เพื่อประเมินคุณภาพของสื่อเทคโนโลยีความจริงเสริมรายวิชา.................... เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลปฏิสัมพันธ์ผ่านแอปพลิเคชั่น...................... เพื่อศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลในวิชา..................... เพื่อประเมินทักษะการฝึกปฏิบัติการออกแบบกราฟิกของกลุ่มตัวอย่างที่ใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน วัตถุประสงค์การวิจัย Objective
- 15. ถ้าไม่มีการทดสอบทางสถิติไม่ต้องเขียนสมมติฐาน เขียนล้อวัตถุประสงค์ของการศึกษา / วิจัย เขียนให้เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ศึกษา / วิจัย สามารถทวนสอบได้ถึงความเป็นเหตุเป็นผล เขียนเป็นข้อ ประมาณ 3-5 ข้อ ขึ้นอยู่กับประเด็นปัญหา บางครั้งอาจมีการแตกประเด็น ย่อยๆ จากวัตถุประสงค์ หรืออาจรวมวัตถุประสงค์เป็นประเด็นใหญ่ๆ สื่อเทคโนโลยีความจริงเสมือนปฏิสัมพันธ์ในจักรวาลนฤมิตในรายวิชา..................มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อระบบการจัดการเรียนรู้แบบเปิดมหาชนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ .05 ทักษะการฝึกปฏิบัติการออกแบบกราฟิกของกลุ่มตัวอย่างที่ใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานแตกต่าง กับกลุ่มตัวอย่างที่เรียนโดยใช้การจัดการเรียนการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ .05 เช่น สมมติฐานการวิจัย Hypothesis
- 16. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ตัวแปรที่ศึกษา เครื่องมือที่ใช้ เนื้อหารายวิชา ระยะเวลาดาเนินการ ขอบเขตการวิจัย Scope of Research
- 17. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เป็นการเขียนให้ผู้อ่านทราบถึงขอบเขตของว่ากลุ่มเป้าหมายสาหรับนางานวิจัยไปทดสอบคือใครมาจากไหน เป็นทุกๆ หน่วยของสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตที่ผู้ศึกษา / ผู้วิจัย สนใจจะศึกษาทั้งหมด ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียน / นักศึกษาสาขาวิชา............. ชั้นปีที่..... มหาวิทยาลัย..................... ภาคการศึกษาที่....... ปีการศึกษา........... จานวนทั้งหมด......... คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียน / นักศึกษาสาขาวิชา............. ชั้นปีที่..... มหาวิทยาลัย..................... ภาคการศึกษาที่....... ปีการศึกษา........... จานวนทั้งหมด......... คน ได้มาจาก...........................
- 18. ตัวแปรอิสระ ตัวแปรตาม ตัวแปรที่ศึกษา รูปแบบการเรียนรู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ / วิธีการสอน ชุดทดลอง / ชุดฝึก / ชุดการเรียนรู้ E-Learning / CAI / VR / AR / Application ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการฝึกปฏิบัติ ความพึงพอใจ
- 24. การอภิปรายผลการวิจัยเป็นการให้เหตุผลยืนยันว่าผลการวิจัยน่าเชื่อถือ ถูกต้อง เป็นจริง สอดคล้องกับสมมติฐาน หรือข้อเท็จจริงที่พบสอดคล้องกับงานวิจัยของผู้อื่นหรือไม่อย่างไร เป็นไปตามแนวคิดทฤษฎีอะไรบ้าง หากมีความ ขัดแย้งให้อธิบายเหตุผลสนับสนุน เป็นการวิพากษ์อธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจ อภิปรายผลการวิจัย Discussion
- 25. เป็นการรวบรวมประเด็นสาคัญของบทความมาเขียนควรเขียนล้อตามวัตถุประสงค์ เขียนให้สั้น กระชับ ตรงประเด็น และชัดเจน รวมถึงการให้ข้อเสนอแนะที่ได้จากผลการวิจัย และการนางานวิจัยไปใช้ประโยชน์ บทสรุป Conclusion
- 27. รายการอ้างอิง References การเขียนรายการอ้างอิงมี 2 รูปแบบ ได้แก่ แบบตัวเลข และแบบ APA แบบตัวเลขจะเรียงลาดับตามรายการอ้างอิงในเนื้อหาเช่น [1], [2] แบบ APA จะเรียงตามตัวอักษร เช่น กฤษณพงศ์ เลิศบารุงชัย. (2565) ให้อ้างอิงตามรูปแบบการอ้างอิงของวารสารนั้นๆ