แคคตัส

1. โครงงานคอมพิวเตอร์
เรื่อง แคคตัส
โดย
นางสาว สิรินดา สุขสมเนตร ม.5/1 เลขที่ 31
นางสาว เก็จมณี นาคชานาญ ม.5/1 เลขที่ 38
นางสาว ภคพร ประดับสุข ม.5/1 เลขที่ 39
นางสาว อัญญ์ชิสา ตรีศิชัยนนท์ม.5/1 เลขที่ 43
นางสาว นันท์ธนภัส สิริสินภาณุรุจ ม.5/1 เลขที่ 44
นางสาว ปัณฑิตา สนธิโรจน์ ม.5/1 เลขที่ 45
รายงานฉบับบนี้เป็นส่วนประกอบของโครงงานคอมพิวเตอร์
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง

2. โครงงานคอมพิวเตอร์
เรื่อง แคคตัส
โดย
นางสาว สิรินดา สุขสมเนตร ม.5/1 เลขที่ 31
นางสาว เก็จมณี นาคชานาญ ม.5/1 เลขที่ 38
นางสาว ภคพร ประดับสุข ม.5/1 เลขที่ 39
นางสาว อัญญ์ชิสา ตรีศิชัยนนท์ม.5/1 เลขที่ 43
นางสาว นันท์ธนภัส สิริสินภาณุรุจ ม.5/1 เลขที่ 44
นางสาว ปัณฑิตา สนธิโรจน์ ม.5/1 เลขที่ 45
รายงานฉบับบนี้เป็นส่วนประกอบของโครงงานคอมพิวเตอร์
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง
ครูที่ปรึกษา
มิสเขมจิรา ปลงไสว

3. โครงงานเรื่อง : แคคตัส
ประเภทของโครงงาน : โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ผู้จัดทา : นางสาว สิรินดา สุขสมเนตร ม.5/1 เลขที่ 31
นางสาว เก็จมณี นาคชานาญ ม.5/1 เลขที่ 38
นางสาว ภคพร ประดับสุข ม.5/1 เลขที่ 39
นางสาว อัญญ์ชิสา ตรีศิชัยนนท์ม.5/1 เลขที่ 43
นางสาว นันท์ธนภัส สิริสินภาณุรุจ ม.5/1 เลขที่ 44
นางสาว ปัณฑิตา สนธิโรจน์ ม.5/1 เลขที่ 45
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การจัดทาโครงงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงแคคตัส โดยสร้างบล็อก
(blogger) เพื่อเผยแพร่และนาเสนอข้อมูล
ผลการจัดทาโครงงานพบว่า การพัฒนาโครงงานสร้างบล็อก แคคตัส เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ
วิธีการเลี้ยงดูแคคตัสและข้อมูลทั่วๆไปนั้น ได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน คณะผู้จัดทาได้ดาเนินงานตาม
ขั้นตอนการดาเนินงานที่วางแผนไว้และได้นาเสนอเผยแพร่ผลงานผ่านเครือข่ายระบบอินเทอร์เน็ต ที่
สามารถเข้าถึงได้ทุกเวลา และทุกสถานที่ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์และมีความรวดเร็วในการรับ
ข้อมูล บุคคลทั่วไปสามารถเข้ารับชมได้เพราะเป็นเว็บไซต์ที่มีประโยชน์ เหมาะแก่การศึกษา

4. กิตติกรรมประกาศ
โครงงานนี้ประกอบไปด้วยการทางานหลายขั้นตอน นับตั้งแต่การศึกษาข้อมูล การสร้างบล็อก การ
จัดทาโครงงานเป็นรูปเล่ม จนกระทั่งโครงงานนี้สาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ตลอดระยะเวลาดังกล่าว คณะ
ผู้จัดทาโครงงานได้รับความช่วยเหลือและคาแนะนาในด้านต่างๆตลอดจนได้รับกาลังใจจากบุคคลหลายๆ
ท่าน คณะผู้จัดทาตระหนักและซาบซึ้งในความกรุณาจากทุกๆท่านเป็นอย่างยิ่ง ณ โอกาสนี้ ขอขอบคุณทุกๆ
ท่า ดังนี้
กราบขอบพระคุณ มิสเขมจิรา ปลงไสว และมิสจิรฐา กิจเจริญ ครูที่ปรึกษากลุ่มสาระการงานอาชีพ
และเทคโนโลยีทั้งสองท่าน โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง ผู้ให้คาแนะนาและได้เมตตาให้ความช่วยเหลือใน
ทุกๆด้าน ตลอดจนให้ความคิดและคาแนะนาต่างๆ ที่ทาให้การสร้างบล็อกประสบความสาเร็จไปได้ด้วยดี
คณะผู้จัดทา
นางสาว สิรินดา สุขสมเนตร
นางสาว เก็จมณี นาคชานาญ
นางสาว ภคพร ประดับสุข
นางสาว อัญญ์ชิสา ตรีศิชัยนนท์
นางสาว นันท์ธนภัส สิริสินภาณุรุจ
นางสาว ปัณฑิตา สนธิโรจน์

5. สารบัญ
หน้า
บทคัดย่อ ข
กิตติกรรมประกาศ ค
สารบัญ ง
บทที่
1. บทนำ 1
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน 1
วัตถุประสงค์และ ขอบเขตของโครงงาน 1
ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1
2. เอกสำรที่เกี่ยวข้อง 2
ความรู้ทั่วไปของแคคตัส 2
การทาบล็อกเกอร์ 9
3. อุปกรณ์และวิธีดำเนินกำร 13
ขั้นตอนการดาเนินการ และ วิธีเก็บรวบรวมข้อง 13
เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาโครงงาน 13
4. ผลกำรดำเนินงำน 14
ผลการพัฒนาโครงงาน 14
ตัวอย่างผลงาน 15
5. สรุปผลกำรดำเนินกำร 16
ภาคผนวก 17
บรรณำนุกรม 21

6. บทที่1
บทนา
ที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน
บางคนเข้าใจว่าใช้ดินที่ใช้ปลูกไม้ดอกหรือไม้ประดับทั่วไปก็ได้ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดค่ะ เพราะ
ดินของแคคตัสนั้นจะต้องมีคุณสมบัติโปร่งและระบายน้าได้ดี
สาหรับคนที่เลี้ยงแคคตัสไม่กี่ต้น สามารถซื้อดินปลูกที่ผสมมาให้เรียบร้อย แล้วจากร้านที่ขาย
แคคตัสก็สะดวกดี และราคาก็ไม่แพงค่ะ ซึ่งดินปลูกแคคตัสนั้นมีหลายสูตรต่างกันไป แต่ละสูตรก็ขึ้นอยู่กับ
ว่าจะปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับแคคตัสของเราอย่างไร ถ้าไม่ชอบใจก็ลองนามาปรับสูตรหรืออาจจะลอง
ผสมดินปลูกแคคตัสเองก็ได้ค่ะ แต่จะผสมอย่างไรและมีส่วนผสมอะไรบ้าง
ในความจริงแล้ว การเลี้ยงแคคตัสนั้น มีวิธีการเลี้ยงที่แตกต่างจากต้นไม้อื่นๆ ที่ต้องรดน้าเช้าเย็น
หรือ ต้องรดน้าทุกวัน แต่แคคตัสนั้น ต้องเลี้ยงแบบเลี้ยงบ้าง ไม่เลี้ยงบ้าง รัก ก็ทาเหมือนไม่รัก คือไม่ต้อง
ประคบประหงมดูแลเหมือนต้นไม้ชนิดอื่น น้าก็ไม่ต้องรดทุกวัน เพราะลาต้นของแคคตัสมีความสามารถใน
การเก็บน้าสารองไว้ใช้เป็นจานวนมาก จึงสามารถอดน้าได้หลายวัน บางคนรักมาก กลัวว่าถ้าไม่ดูแลไม่ใส่
ใจแล้วแคคตัสจะไม่โต ก็รดน้าทั้งเช้า ทั้งเย็น ผลที่ตามมาก็คือรากเน่า ต้นฉ่าน้า เหลือแต่กระถางกันไป
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ทราบเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงดูแคคตัส
2. เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในระดับนักเรียน
3. เพื่อให้ได้ความรู้ที่หลากหลายและสามารถนาไปประยุกต์ใช้ได้จริง
ขอบเขตโครงงำน
สร้างเว็บไซต์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับแคคตัส โดยจัดทาในบล็อกเกอร์ ในการสร้างเว็บไซต์และใช้
โปรแกรม ในการตกแต่งและจัดเรียงเว็บไซต์ให้สวยงามและน่าสนใจเพื่อเป็นแรงจูงใจในการศึกษาค้นคว้า
เพิ่มเติม
ผลที่คำดว่ำจะได้รับ
- ผู้สนใจมีความเข้าใจและให้ความสาคัญเกี่ยวกับการเลี้ยงดูแคคตัส
- ได้รับความรู้เกี่ยวกับการสร้างบล็อก
- ได้นาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ได้อย่างมีคุณค่าและเกิดประโยชน์

7. บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา มิสจิรฐา กิจเจริญได้ให้ความรู้เกี่ยวกับ
แคคตัส แต่ละชนิด คณะผู้จัดทาได้ศึกษาข้อมูล เอกสารที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
2.1 ความรู้ทั่วไปของ แคคตัส
2.2 การดูแลแคคตัส
2.3 สายพันธุ์แคคตัส
2.1 ควำมรู้ทั่วไปของแคคตัส
2.1.1 ควำมหมำยของแคคตัส Cactus หรือ กระบองเพชร เป็นพึชในวงศ์ (Cactaceae) อยู่ในกลุ่ม
ไม้อวบน้า (succulent) มีอายุยืนยาวหลายๆ ปี แคคตัสสามารถ เก็บน้าหรือความชื้นไว้ในเนื้อเยื่อส่วน
ต่างๆ ของลาต้น จึงสมารถปรับตัวให้อยู่ในพื้นที่แห้งแล้งได้ดี และพื้นที่ ที่แสงแดดจัดได้เป็นอย่างดี
2.1.2 วิวัฒนำกำรกระบองเพชร/แคคตัส กระบองเพชร/แคคตัส เป็นพืชในวงศ์ Cactaceae ที่
สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นตั่งแต่ต้นยุค Tertiary ซึ่งเชื่อว่าในยุคนั้น กระบองเพชรน่าจะมีลาต้นแบบมีกิ่ง และใบ
ปกคลุมทั่ว ซึ่งเปรียบเทียบได้กับกระบองเพชรในสกุล Pereskia ที่ยังพบมีกิ่ง และใบปกคลุม อาทิ กุหลาบ
เมาะลาเลิง และกุหลาบพุกามในยุคต่อมาสภาพอากาศโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง และเกิดเป็นเทือกเขาขึ้นตาม
ไหล่ทวีปทางด้านตะวันตก ทาให้ลม และฝนไม่สามารถพัดผ่านเทือกเขามาฝั่งตะวันออกได้(ทวีปอเมริกา
ใต้) ทาให้พื้นที่อีกฝั่งเกิดความแห้งแล้งกลายเป็นทะเลทรายในเวลาต่อมาจนทาให้พันธุ์พืชล้มตาย และบาง
สายพันธุ์วิวัฒนาการลาต้นเพื่อให้อยู่รอดในสภาพทะเลทรายได้โดยเฉพาะกระบองเพชรที่ลดรูปลาต้นให้มี
ขนาดเล็ก ทั้งเรียวสูง หรือกลมเตี้ย ส่วนรากหยั่งตื้นเพื่อดูดเก็บน้าจากอากาศได้ รวมถึงลดรูปจากใบ
กลายเป็นหนามเพื่อลดการคายน้า และเก็บกักน้าในลาต้นจนทาให้ลาต้นมีลักษณะอวบน้ามาจนถึงปัจจุบัน
2.1.3กระบองเพชร/แคคตัสในประเทศไทย คนไทยแต่ก่อนรู้จักกระบองเพชรบางสายพันธุ์มานาน
แล้ว อาทิ เชนเสมา และโบตั๋น และเรียกเป็นกระบองเพชรพันธุ์หนึ่งเช่นกัน เพราะมีลักษณะลาต้นสูงยาว ลา
ต้นมีหนามปกคลุม รวมถึงกระบองเพชรสายพันธุ์ที่รับประทานผลที่รู้จักกัน คือ แก้วมังกรทั้งนี้ จุลสารของ
ชมรมกระบองเพชรแห่งประเทศไทย โดยกระท่อมลุงจรณ์ ได้เขียนไว้เกี่ยวกับกระบองเพชรว่า ก่อนปี พ.ศ.
2500 กระบองเพชรหรือแคคตัสได้ถูกนาเข้ามาจากต่างประเทศโดยผู้ชื่นชอบ (สกุล สมบัติศิริ) เพื่อปลูก แล
เผยแพร่ในกลุ่มเพื่อนฝูง และหลังจากนั้น ก็เริ่มนากระบองเพชรจากต่างประเทศเข้ามาปลูกมากขึ้นเรื่อยๆ
ต่อมา คุณวาสนา สังข์สุวรรณ ได้ตั้งร้านชื่อ 471 จาหน่ายกระบองเพชรที่สนามหลวง ซึ่งถือเป็นร้าน
ที่เปิดจาหน่ายกระบองเพชรร้านแรกในเมืองไทย และต่อมาก็เป็นร้านลุงจรณ์ ตั้งอยู่บริเวณริมคลองลอด ซึ่ง

8. ในระยะต่อมามีการซื้อขาย และสะสมกันมากขึ้น โดยมีคุณขจี วสุธาร เป็นผู้นาการเล่นกระบองเพชรใน
ขณะนั้นต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2519 ได้มีการสั่งไม้ต่อยอดสีแดง ยิมโนด่าง และกระบองเพชรที่ได้จากการ
เพาะเมล็ดเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น และต่อมานักเล่นกระบองเพชรได้เริ่มการเพาะขยายพันธุ์ และปรับปรุง
พันธุ์เองภายในประเทศ ทั้งการเพาะเมล็ด และการต่อยอด ทาให้เกิดความนิยมปลูก และซื้อขาย
กระบองเพชรกันมากขึ้น
2.2 กำรดูแลแคคตัส แคคตัสนั้นเป็นพืชที่สามารถกักเก็บน้าในลาต้นเป็นเวลานานดังนั้นการรดน้าแคคตัส
เราควรรดน้าเฉลี่ยอาทิตย์ละครั้ง ทั้งนี้ควรดูตัวแปรสาคัญในการรดน้าด้วย เช่น
-สภาพอากาศ ในการรดน้าเราต้องดูว่าอากาศเป็นยังไงถ้าฝนจะตก(หรือว่าตกแล้ว)หรืออากาศชื้นก็ไม่ต้องรด
ถ้าอากาศแห้งเราควรพิจารณาดินว่าแห้งยัง ถ้าแห้งแล้วก็รดเลย
-ฤดูกาล ทุกๆฤดูเราสามารถรดน้าได้เฉลี่ยอาทิตย์ละครั้งถ้าในฤดูร้อนเราสามารถรดน้าได้เป็นอาทิตย์ละสอง
ครั้งได้แต่ฤดูฝน เมื่อฝนตกแล้วพบว่าดินในกระถางเปียกอยู่ อย่างนี้อันตราย ควรเก็บเข้าไปในร่มเพื่อ
ป้องกันรากเน่า
-กระถาง ถ้าเป็นกระถางดินเผาดินจะแห้งได้เร็วเราสามารถรดน้าได้เมื่อดินแห้ง ประมาณ3-4วันดินก็แห้ง
แล้ว กระถางพลาสติกกับกระถางเซรามิกพวกนี้จะแห้งช้าหน่อย บางที7วันก็ยังไม่แห้งเลย พวกนี้เราต้อง
สังเกตดีๆว่าดินแห้งหรือยังเพราะเราสังเกตได้ยาก โดยการนาไม้จิ้มลงไปแล้วดึงออกมาถ้าไม่มีดินเปียกๆ
แสดงว่าดินแห้งแล้ว ก็สามารถรดน้าได้เลย
-ลักษณะของต้น สามารถสังเกตโดยดูว่าต้นได้เหี่ยวๆรึเปล่าถ้ามันเหี่ยว ก็ดูต่อไปอีกว่าดินแห้งยัง ถ้าแห้ง
แสดงว่า เขามีอาการขาดน้า เราต้องรดน้า แต่ถ้ามันเหี่ยวทั้งๆที่ดินชื้นอยู่ให้ดึงออกมาดูว่ารากเน่าหรือเปล่า
-แสง เรื่องนี้เป็นสิ่งสาคัญมากเพราะแคคตัสเป็นไม้ทะเลทรายต้องการแดดจัดๆ ตลอดทั้งวัน แต่แคคตัสต้นที่
ยังเล็กๆอยู่ เค้าบอบบางครับ เราไม่ควรนาไปตากแดดตรงๆนัก ควรจะพรางแสงซัก50%
-ดิน เราสามารถใช้ดินปลูกต้นไม้ทั่วไปตามร้านค้า แคคตัสสามารถเติบโตได้ในดิน(เกือบ)ทุกประเภท
ยกเว้น ดินเหนียวดังนั้นดินชนิดอื่นๆก็สามารถปลูกได้แต่ก่อนปลูกอย่าลืมหาเศษหิน ถ่าน รองก้นกระถาง
ก่อนครับ เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดี
-ชนิดของพันธุ์ แคคตัสแต่ละชนิดมความต้องการต่างกัน บางพันุ์ก็ต้องการแสง,น้า มากน้อย
ต่างกัน เช่น พวกแมมขนนกพวกนี้ชอบแดดจัดๆยิ่งได้แดดมากเค้ายิ่งงาม เค้าไม่ค่อยชอบน้าควร
รดน้าประมาณ3-10วันครั้งถ้าโดนน้ามากๆนี่เน่าได้เลยและเน่าง่ายด้วย เช่นแมมขนนก

9. 2.3 สำยพันธุ์ของแคคตัส
แคคตัส(Cactus) เป็นพืชอวบน้าที่คนส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงไว้ตกแต่งภายในบ้าน คอนโด หรือที่อยู่อาศัยต่างๆ
ซึ่งสายพันธุ์แคคตัสที่น่าสนใจมีดังนี้
Astrophythum asterias nudum
2.3.1 แอสโตร แอสทีเรียส นูดัม
เขียวล้วนจะไม่มีจุดขาว มีแต่ตุ่มหนาม ดอกขนาดใหญ่ ดอกมักมีสีเหลือง บานตอนกลางวัน
บานประมาณ 3 วัน
Coryphantha

10. 2.3.2 ช้างหนามฟ้า
ตามซอกตุ่มหนามจะมีขนปุยขาว ๆ ถ้าโดนน้าจะมีสิ่งสกปรกมาติดทาให้เป็นสีดา และอาจจะหลุดร่วงทาให้
ไม่สวยงาม ดอกมีขนาดใหญ่ ออกบริเวณยอด มีสีเหลือง
Lophophora williamsii
2.3.3 โลโฟโฟรา วิลเลี่ยมชิอาย
เป็นแคคตัสที่มีลาต้นเตี้ยกลม ผิวเรียบ มีตุ่มหนามเป็นปุยขาวขนาดเล็ก รากอวบอ้วนสะสมอาหารอยู่ใต้ดิน
เป็นแคคตัสที่แตกกอได้เมื่ออายุมาก ดอกสีชมพู ออกบริเวณกลางยอด ดอกมีขนาดเล็ก
Obregonia denegrii

11. 2.3.4 กลีบกระทง
เนินหนามรูปสามเหลี่ยมคล้ายกลีบกระทง ซ้อนกันเป็นชั้น แต่จะเห็นหนามเล็ก ๆ ที่ปลายกลีบ เมื่อโตขึ้นจึง
จะเห็นว่ามีลาต้นกลม ดอก
Mammillaria laui
2.3.5 แมมเลาอาย
มีหนามสีขาวดูอ่อนนุ่มไม่แข็งกระด้าง แผ่กระจายรอบตุ่มหนามมากมาย ทั่วทั้งต้นแทบมองไม่เห็นลาต้นเลย
ทีเดียว ดอกสีชมพูอ่อน ออกดอกง่ายตั้งแต่ยังเล็ก มี สีขาว ออกจากปุยบริเวณยอด
Mammillaria carmenae

12. 2.3.6 แมมคามิเน
สีของหนามจะเข้มตามความเข้มของแสงแดด ถ้าเลี้ยงแสงน้อย สีจะะอ่อน
Discocactus araneispinus
2.3.7 ดิสโก้รังนก
หนามสีขาวสานกันคล้ายตะกร้อ ออกดอกเมื่อโตเต็มที่บริเวณยอดตรงเคปฟาเลียม บานตอนกลางคืนเพียง
คืนเดียว ดอกสีขาว มีกลิ่นหอม
Echinopsis calochlora

13. 2.3.8 ดาวล้อมเดือน
ลาต้นมีลักษณะเป็นกลีบพูหลายๆ พูต่อกันค่อนข้างกลม ต้นมีสีเขียวทั้งต้น ที่แต่ละเหลี่ยมจะมีหนามสีขาว
และมักจะ มีต้นเล็กๆ ขึ้นอยู่รอบต้นใหญ่ คล้ายกั
Opuntia microdasys
2.3.9 หูมิ๊กกี้เมาท์
ต้นมีลักษณะแบนแต่อวบน้า มีหนามเล็กๆ สีน้าตาลอยู่ทั่วบริเวณดูคล้ายกับหูของตัวการ์ตูนมิ๊กกี้เมาท์บดาวที่
ล้อมอยู่รอบเดือน
Gymnocalycium baldianum

14. 2.3.10 บาเนียนัม
มีลักษณะกลมแบนมีสีเข้มเข้มหรือน้าตาลดา มีหนามขนาดใหญ่ อยู่เป็นกลุ่มๆ รอบต้น และเมื่อออกดอกมัก
มีดอกสีแดงสด
2.4 วิธีกำรสร้ำงบล็อกเกอร์
2.4.1 บล๊อกสปอตนั้นเป็นของ google ที่สามารถให้คนทั่วไปได้เข้าถึงการ เขียนบล๊อกต่างๆ หรือ
การเขียนเว็บแบบง่ายๆนั้นเอง การที่จะเข้าใช้งาน blogspot นั้นจะต้องมี Gmail ซึ่งใช้ในการล๊อกอิน สามารถ
สมัครได้ง่ายๆ
2.4.2 ให้เราทาการพิมพ์ในช่อง URL ด้านบนว่า www.blogspot.com หรือการเข้าสู่เว็บ blogspot นั้นเอง ตาม
ภาพด้านบน

15. 2.4.3 ก็จะได้หน้าตาเป็นแบบนี้ให้เราทาการล๊อกอินเข้าไป โดยใช้ Gmail ของเรา
2.4.4 พอทาการล๊อกอินเสร็จก็จะได้หน้าตาเป็นแบบนี้ให้ทาการคลิกที่ บล๊อกใหม่

16. 2.4.5 พอมาถึงหน้านี้
– ในช่องหัวข้อ ให้เราทาการตั้งชื่อหัวข้อของบล๊อกของเรา(เรื่องที่เราจะเขียนบล๊อก หรือ Title)
– ในช่องที่อยู่ ให้เราทาการตั้งชื่อ URL ของเรา อาทิเช่น gunoob.blogspot.com , cnx-it.blogspot.com เป็น
ต้น (.blogspot.com จะมาการเติมให้โดยอัตโนมัติ ให้พิมพ์แค่ gunoob หรือ cnx-it)
– ในช่องแม่แบบ ให้เราทาการเลือก รูปแบบของบล๊อกหรือ Theme นั้นเอง (แนะนาให้ใช้แบบง่าย ธีมสามา
รถเปลี่ยนภายหลังได้)
2.4.6 จะได้อกมาเป็นแบบนี้ให้ทาการคลิกเข้าไปเลย (ของผมได้ทาการสร้างใว้ก่อนแล้ว)
2.4.7 จะได้หน้าต่างเป็นแบบนี้ให้ทาการคลิกที่ บมความใหม่ เพื่อทาการเขียนบทความหรือ blog

17. 2.4.8 พอได้หน้าตาแบบนี้ให้เราทาการเขียนบล๊อก หรือบทความที่เราต้องการได้เลย
– ในช่องโพสต์ด้านบนตัวหนังสือสีส้ม ให้เราทาการเขียนหัวข้อหรือหัวเรื่อง บทความที่เราต้องการเขียน
– การเขียนบทความ ข้อมูล หรือบล๊อกนั้นสามารถทาการเขียนได้ใช้ กระดาษ ตรงกลางหน้า
– ด้านขวามือจะมีป้ายกากับ ให้เราทาการคลิกเพื่อพิมพ์คา ที่ผู้อื่นสามารถค้นบทความของเราเจอได้
– การใส่ลิ้งให้ทาการคลิกที่ ลิ้ง ในแทบเครื่องมือ เพื่อทาการใส่ URL ที่เราต้องการลิ้ง
– การใส่รูปภาพ สามารถทาได้โดยการคลิกที่ แทกรูปภาพ ด้านขวา ลิ้ง ในแทบเครื่องมือ แล้วทาการเลือก
ไฟล์เพื่ออัพโหลดรูปภาพแล้ว คลิกรูปภาพที่ต้องการเลือก แล้วกดเพิ่มรายการที่เลือก
– ถ้าทาการเขียนบทความเสร็จ ให้ทาการคลิกที่ เผยแพร่ เพื่อทาการเผยแพร่บทความที่สามารถให้ผู้อื่นได้
อ่าน หรือเข้าชมได้
2.4.9 การเปลี่ยนธีม ตามที่เราต้องการ ให้ทาการคลิกที่ แม่แบบ จะมีให้เราเลือกธีมตามที่เราต้องการ ถ้าจะ
เอาอันไหนให้ทาการคลิก แล้วกด ใช้กับบล๊อก(ปุ่มสีส้ม)เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ (ธีมเราสามารถออกแบบเอง
และทาเองตามที่เราต้องการได้)

18. บทที่3
อุปกรณ์ และ วิธีดาเนินงาน
การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ เว็บไซต์ แคคตัส โดยคณะผู้จัดทาโครงงานมีวิธีการทาและ
ดาเนินงานโครงงาน ตามขั้นตอนต่อไปนี้
3.1 ขั้นตอนกำรดำเนินงำน
1. คิดค้นหาหัวข้อโครงงานและนาไปปรึกษากับอาจารย์
2. วางแผนขั้นตอนการทาโครงงานและดาเนินการ
3. ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงงาน
4. เริ่มลงมือปฏิบัติตามแบบแผนที่กาหนดไว้
5. จัดทาโครงงานบล็อกเพื่อการเรียนรู้ เรื่อง แคคตัส
6. เผยแพร่ข้อมูล และบล็อกสู่สาธารณะ บนเครือข่ายระบบอินเทอร์เน็ต
7. สรุป และทาเอกสารสรุปรายงานโครงงาน
3.2 วิธีกำรเก็บรวบรวมข้อมูล
1. ศึกษา เรื่อง การเลี้ยงดูแคคตัส
2. ศึกษา เรื่อง การทาบล็อกเกอร์ เพื่อทาสื่อที่จะนาไปเผยแพร่
3.3 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในกำรพัฒนำโครงงำน
1. เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต
2. ซอฟแวร์
- Microsoft Office World2013
- Adobe Photoshop

19. บทที่ 4
ผลการดาเนินงาน
การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา สร้างเว็บไซต์ แคคตัส เนื้อหาเกี่ยวกับ
แคคตัส การดูแลแคคตัส สายพันธุ์แคคตัส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับ แคคตัส ซึ่งมี
ผลการดาเนินโครงานดังนี้
4.1 ผลกำรพัฒนำโครงงำน
การพัฒนาโครงงานนี้ คณะผู้จัดทาได้ดาเนินการตามขั้นตอนและแบบแผนที่ได้วางไว้และได้ทา
เว็บไซต์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับแคคตัส บนอินเทอร์เน็ตโดยการสร้างงเว็บไซต์ด้วย blogger และใช้
ซอฟแวร์อื่นๆเพื่อช่วยความน่าสนใจ โดยเว็บไซต์นั้นสามารถที่จะเข้าไปศึกษาค้นคว้าข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลา
และรวดเร็ว

20. 4.2 ตัวอย่างผลงาน
ตัวอย่างเว็บบล็อก
https://happinessofcactus.blogspot.com/

21. บทที่ 5
สรุปผลการดาเนินงาน และ ข้อเสนอแนะ
การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ เว็บไซต์แคคตัส สามารถสรุปผลการดาเนินงาน และได้
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ดังนี้
5.1 กำรดำเนินงำนจัดทำโครงงำน
5.1.1 วัตถุประสงค์ของโครงงำน
1. เพื่อให้ทราบเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงดูแคคตัส
2. เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในระดับนักเรียน
3. เพื่อให้ได้ความรู้ที่หลากหลายและสามารถนาไปประยุกต์ใช้ได้จริง
5.1.2 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในกำรพัฒนำโครงงำน
1. เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต
2. ซอฟแวร์
- Microsoft Office Word2013
- Adobe Photoshop
5.2 สรุปผลกำรดำเนินงำนโครงงำน
การดาเนินโครงงานนี้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กาหนดไว้คือ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับวิธีการ
ดูแลแคคตัส โครงงานนี้จัดทาขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับแคคตัส ทาให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น
และเล็งเห็นถึงความสาคัญของการดูแลต้นแคคตัสที่ส่วนใหญ่มักดูแลกันผิดวิธี โครงงานนี้จึงเป็นโครงงานที่
มีประโยชน์ และเป็นความรู้ให้กับผู้ที่สนใจ
5.3 ข้อเสนอแนะ
1. ควรมีการเผยแพร่ข้อมูลในหลายๆช่องทาง เช่น แผ่นพับ
2. ควรมีเนื้อหาในมุมลึกกว่านี้ เพื่อเป็นความรู้แก่ผู้ที่สนใจ

22. ภาคผนวก

24. บรรณานุกรม
ข้อมูลแคคตัส สืบค้น วันที่ 5 กันยายน พ.ศ.2560 จากเว็บไซต์ :
http://www.baanlaesuan.com/45084/gardens/cactus/
https://pantip.com/topic/34992979
https://is1cactus.wordpress.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%
E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%
B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A
A%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%AA/
http://cactusbymoo.blogspot.com/2008/02/blog-post_2275.html
http://thanida.nitedkaset.com/Blog/
http://www.sanook.com/home/4185/
http://puechkaset.com/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%
AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%A3/