Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
Ähnlich wie อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (19)
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- 1. รายงาน
เรื่ อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เสนอ
คุณครู จุฑารัตน์ ใจบุญ
จัดทาโดย
นางสาว กมลชภัทร์ บุญเกื้อ
ชั้น ม.6/1 เลขที่ 25
รายงานเล่มนี้ เป็ นส่ วนหนึ่ งของวิชาการงานอาชีพและ
เทคโนโลยี ง.33102
โรงเรี ยนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
- 2. คานา
รายงานเล่มนี้เป็ นส่ วนหนึ่งของวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ง.33102
จัดทาขึ้นเพื่อ ศึกษาเกี่ยวกับเรื่ องอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ของยุคปัจจุบนนี้ และเพื่อนาไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในระดับชั้นต่อไป
ั
หากผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่น้ ีดวย
้
จัดทาโดย
นางสาว กมลชภัทร์ บุญเกื้อ
ชั้นม.6/1 เลขที่ 25
- 3. สารบัญ
เรื่อง หน้ า
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ 1-2
กฎหมายทางคอมพิวเตอร์ 3 - 10
- 4. อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายทีเ่ กียวข้ อง
่
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีที่ทนสมัย แม้จะช่วยอานวยความสะดวกได้มากเพียงใดก็ตาม สิ่ งที่ตองยอมรับความจริ งก็
ั ้
คือ เทคโนโลยีทุกอย่างมีจุดเด่น ข้อด้อยของตนทั้งสิ้ น ทั้งที่มาจากตัวเทคโนโลยีเอง และมาจากปั ญหาอื่นๆ
เช่น บุคคลที่มีจุดประสงค์ร้าย ในโลก cyberspace อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ เป็ นปั ญหาหลักที่นบว่ายิงมี
ั ่
ความรุ นแรง เพิ่มมากขึ้น ประมาณกันว่ามีถึง 230% ในช่วงปี 2002 และ แหล่งที่เป็ นจุดโจมตีมากที่สุดก็คือ
อินเทอร์ เน็ต นับว่ารุ นแรงกว่าปั ญหาไวรัสคอมพิวเตอร์ เสี ยด้วยซ้ า หน่วยงานทุกหน่วยงานที่นาไอทีมาใช้
งาน จึงต้องตระหนักในปั ญหานี้เป็ นอย่างยิง จาเป็ นต้องลงทุนด้านบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการรักษา
่
กระทาอย่างสม่าเสมอต่อเนื่ องแต่ไม่วาจะมีการป้ องกันดีเพียงใด ปั ญหาการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ ก็มีอยู่
่
เรื่ อยๆ ทั้งนี้ระบบการโจมตีที่พบบ่อยๆ ได้แก่
Hacker & Cracker อาชญากรที่ได้รับการยอมรับว่ามีผลกระทบต่อสังคมไอทีเป็ นอย่างยิง บุลากรใน
่
ั
องค์กร หน่วยงานคุณไล่พนักงานออกจากงาน, สร้างความไม่พึงพอใจให้กบพนักงาน นี่แหล่ะปั ญหาของ
อาชญกรรมได้เช่นกัน
Buffer overflow เป็ นรู ปแบบการโจมตีที่ง่ายที่สุด แต่ทาอันตรายให้กบระบบได้มากที่สุด โดยอาชญา
ั
กรจะอาศัยช่องโหว่ของระบบปฏิบติการ และขีดจากัดของทรัพยากรระบบมาใช้ในการจู่โจม การส่ งคาสั่ง
ั
ให้เครื่ องแม่ข่ายเป็ นปริ มาณมากๆ ในเวลาเดียวกัน ซึ่ งส่ งผลให้เครื่ องไม่สามารถรันงานได้ตามปกติ
หน่วยความจาไม่เพียงพอ จนกระทังเกิดการแฮงค์ของระบบ เช่นการสร้างฟอร์ มรับส่ งเมล์ท่ีไม่ได้ป้องกัน ผู ้
่
ไม่ประสงค์อาจจะใช้ฟอร์ มนั้นในการส่ งข้อมูลกระหน่ าระบบได้
Backdoors นักพัฒนาเกือบทุกราย มักสร้างระบบ Backdoors เพื่อช่วยอานวยความสะดวกในการ
ทางาน ซึ่ งหากอาชญากรรู ้เท่าทัน ก็สามารถใช้ประโยชน์จาก Backdoors นั้นได้เช่นกัน
CGI Script ภาษาคอมพิวเตอร์ ที่นิยมมากในการพัฒนาเว็บเซอร์ วส มักเป็ นช่องโหว่รุนแรงอีกทาง
ิ
หนึ่งได้เช่นกัน
Hidden HTML การสร้างฟอร์มด้วยภาษา HTML และสร้างฟิ ลด์เก็บรหัสแบบ Hidden ย่อมเป็ น
ั
ช่องทางที่อานวยความสะดวกให้กบอาชญากรได้เป็ นอย่างดี โดยการเปิ ดดูรหัสคาสั่ง (Source Code) ก็
สามารถตรวจสอบและนามาใช้งานได้ทนที
ั
- 5. Failing to Update การประกาศจุดอ่อนของซอฟต์แวร์ เพื่อให้ผใช้นาไปปรับปรุ งเป็ นทางหนึ่งที่
ู้
อาชญากร นาไปจู่โจมระบบที่ใช้ซอฟต์แวร์ น้ นๆ ได้เช่นกัน เพราะกว่าที่เจ้าของเว็บไซต์ หรื อระบบ จะทา
ั
การปรับปรุ ง (Updated) ซอตฟ์ แวร์ ท่ีมีช่องโหว่น้ น ก็สายเกินไปเสี ยแล้ว
ั
Illegal Browsing ธุ รกรรมทางอินเทอร์ เน็ต ย่อมหนี ไม่พนการส่ งค่าผ่านทางบราวเซอร์ แม้กระทัง
้ ่
รหัสผ่านต่างๆ ซึ่ งบราวเซอร์ บางรุ่ น หรื อรุ่ นเก่าๆ ย่อมไม่มีความสามารถในการเข้ารหัส หรื อป้ องกันการ
เรี ยกดูขอมูล นี่ก็เป็ นอีกจุดอ่อนของธุ รกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้เช่นกัน
้
Malicious scripts ก็เขียนโปรแกรมไว้ในเว็บไซต์ แล้วผูใช้เรี ยกเว็บไซต์ดูบนเครื่ องของตน มันใจ
้ ่
หรื อว่าไม่เจอปั ญหา อาชญากรอาจจะเขียนโปรแกรมแผงในเอกสารเว็บ เมื่อถูกเรี ยก โปรแกรมนันจะถูกดึง
่
่
ไปประมวลผลฝั่งไคลน์เอ็นต์ และทางานตามที่กาหนดไว้อย่างง่ายดาย โดยเราเองไม่รู้วาเรานันแหล่ะเป็ นผู ้
่
สั่งรันโปรแกรมนั้นด้วยตนเอง น่ากลัวเสี ยจริ งๆๆ
Poison cookies ขนมหวานอิเล็กทรอนิกส์ ที่เก็บข้อมูลต่างๆ ตามแต่จะกาหนด จะถูกเรี ยกทางาน
ทันทีเมื่อมีการเรี ยกดูเว็บไซต์ที่บรรจุคุกกี้ชิ้นนี้ และไม่ยากอีกเช่นกันที่จะเขียนโปรแกรมแฝงอีกชิ้น ให้ส่ง
คุกกี้ที่บนทึกข้อมูลต่างๆ ของผูใช้ส่งกลับไปยังอาชญากร ไวรัสคอมพิวเตอร์ ภัยร้ายสาหรับหน่วยงานที่ใช้
ั ้
่
ไอทีต้ งแต่เริ่ มแรก และดารงอยูอย่างอมตะตลอดกาล ในปี 2001 พบว่าไวรัส Nimda ได้สร้างความเสี ยหาย
ั
ได้สูงสุ ด เป็ นมูลค่าถึง 25,400 ล้าบบาท ในทัวโลก ตามด้วย Code Red, Sircam, LoveBug, Melissa
่
ตามลาดับที่ไม่หย่อนกว่ากัน
- 6. กฎหมายทางคอมพิวเตอร์
พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ 2550
ทุกคนทีใช้ คอมพิวเตอร์ ต้องรู้
่
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่
เป็ นการสมควรมีกฎหมาย ว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงทรงพระกรุ ณาโปรดเกล้า ฯ ให้
ตราพระราชบัญญัติข้ ึนไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของสภานิติบญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
ั
มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ ีเรี ยกว่า “พระราชบัญญัติวาด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.
่
๒๕๕๐”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ ีให้ใช้บงคับเมื่อพ้นกาหนดสามสิ บวันนับแต่วนประกาศในราชกิจจานุ เบกษา
ั ั
เป็ นต้นไป
มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัติน้ ี “ระบบคอมพิวเตอร์ ” หมายความว่า อุปกรณ์หรื อชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์
ที่เชื่อมการทางานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกาหนดคาสั่ง ชุ ดคาสั่ง หรื อสิ่ งอื่นใด และแนวทางปฏิบติงานให้
ั
อุปกรณ์หรื อชุดอุปกรณ์ทาหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ
่ ่ ่
“ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คาสัง ชุดคาสัง หรื อสิ่ งอื่นใดบรรดาที่อยูในระบบ
คอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุ รกรรมทางอิเล็กทรอนิ กส์ดวย ้
“ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่ อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่ ง
แสดงถึงแหล่งกาเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริ มาณ ระยะเวลาชนิ ดของบริ การ หรื ออื่น ๆ ที่
เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่ อสารของระบบคอมพิวเตอร์ น้ น
ั
“ผูให้บริ การ” หมายความว่า
้
- 7. (๑) ผูให้บริ การแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่ อินเทอร์ เน็ต หรื อให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่าน
้
่
ทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่วาจะเป็ นการให้บริ การในนามของตนเอง หรื อในนามหรื อเพื่อประโยชน์
ของบุคคลอื่น
(๒) ผูให้บริ การเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์ เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น
้
“ผูใช้บริ การ” หมายความว่า ผูใช้บริ การของผูให้บริ การไม่วาต้องเสี ยค่าใช้บริ การหรื อไม่ก็ตาม
้ ้ ้ ่
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผูซ่ ึ งรัฐมนตรี แต่งตั้งให้ปฏิบติการตามพระราชบัญญัติน้ ี
้ ั
“รัฐมนตรี ” หมายความว่า รัฐมนตรี ผรักษาการตามพระราชบัญญัติน้ ี
ู้
่
มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรี วาการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารรักษาการตามพระราชบัญญัติน้ ี
และให้มีอานาจออกกฎกระทรวง เพื่อปฏิบติการตามพระราชบัญญัติน้ ี กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศใน
ั
ราชกิจจานุ เบกษาแล้วให้ใช้บงคับได้
ั
หมวด ๑
ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
มาตรา ๕ ผูใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่ งระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีมาตรการป้ องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการ
้
นั้น มิได้มีไว้สาหรับตน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรื อปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้ง
ปรับ
มาตรา ๖ ผูใดล่วงรู ้มาตรการป้ องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ที่ผอื่นจัดทาขึ้นเป็ นการเฉพาะถ้านา
้ ู้
มาตรการดังกล่าวไปเปิ ดเผยโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสี ยหายแก่ผอื่น ต้องระวางโทษจาคุกไม่
ู้
เกินหนึ่งปี หรื อปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ
มาตรา ๗ ผูใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่มีมาตรการป้ องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการ
้
นั้นมิได้มีไว้สาหรับตน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรื อปรับไม่เกินสี่ หมื่นบาทหรื อทั้งจาทั้งปรับ
มาตรา ๘ ผูใดกระทาด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซ่ ึง
้
้ ่
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของผูอื่นที่อยูระหว่างการส่ งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ นมิได้มีไว้
ั
เพื่อประโยชน์สาธารณะหรื อเพื่อให้บุคคลทัวไปใช้ประโยชน์ได้ตองระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรื อปรับ
่ ้
ไม่เกินหกหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ
้ ่ ่
มาตรา ๙ ผูใดทาให้เสี ยหาย ทาลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรื อเพิมเติมไม่วาทั้งหมดหรื อบางส่ วน ซึ่ ง
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของผูอื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรื อปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรื อ
้
ทั้งจาทั้งปรับ
- 8. มาตรา ๑๐ ผูใดกระทาด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทางานของระบบคอมพิวเตอร์ของผูอื่นถูกระงับ
้ ้
ชะลอ ขัดขวาง หรื อรบกวนจนไม่สามารถทางานตามปกติได้ตองระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรื อปรับไม่
้
เกินหนึ่งแสนบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ
มาตรา ๑๑ ผูใดส่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื อจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิ ดหรื อปลอมแปลง
้
แหล่งที่มาของการส่ งข้อมูลดังกล่าว อันเป็ นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข
ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา ๙ หรื อมาตรา ๑๐
่
(๑) ก่อให้เกิดความเสี ยหายแก่ประชาชน ไม่วาความเสี ยหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรื อในภายหลัง และไม่วา ่
จะเกิดขึ้นพร้อมกันหรื อไม่ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสิ บปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท
(๒) เป็ นการกระทาโดยประการที่น่าจะเกิดความเสี ยหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื อระบบคอมพิวเตอร์ ที่
เกี่ยวกับการรักษาความมันคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมันคงในทางเศรษฐกิจ
่ ่
ของประเทศ หรื อการบริ การสาธารณะ หรื อเป็ นการกระทาต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื อระบบคอมพิวเตอร์ ที่มี
ไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่สามปี ถึงสิ บห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสาม
แสนบาท
มาตรา ๑๓ ผูใดจาหน่ายหรื อเผยแพร่ ชุดคาสั่งที่จดทาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนาไปใช้เป็ นเครื่ องมือในการกระทา
้ ั
ความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรื อมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษ
จาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรื อปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ
มาตรา ๑๔ ผูใดกระทาความผิดที่ระบุไว้ดงต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรื อปรับไม่เกินหนึ่ง
้ ั
แสนบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ
(๑) นาเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ ึ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ปลอมไม่วาทั้งหมดหรื อบางส่ วน หรื อ
่
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ อนเป็ นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสี ยหายแก่ผอื่นหรื อประชาชน
ั ู้
(๒) นาเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ ึ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อนเป็ นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสี ยหายต่อ
ั
ความมันคงของประเทศหรื อก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
่
(๓) นาเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ ึ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ใด ๆ อันเป็ นความผิดเกี่ยวกับความมันคงแห่ง
่
ราชอาณาจักรหรื อความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(๔) นาเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ ึ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ใด ๆ ที่มีลกษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ น
ั ั
ประชาชนทัวไปอาจเข้าถึงได้
่
่
(๕) เผยแพร่ หรื อส่ งต่อซึ่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู ้อยูแล้วว่าเป็ นข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตาม (๑)(๒) (๓) หรื อ
(๔)
- 9. มาตรา ๑๕ ผูให้บริ การผูใดจงใจสนับสนุนหรื อยินยอมให้มีการกระทาความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบ
้ ้
่
คอมพิวเตอร์ ที่อยูในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผูกระทาความผิดตามมาตรา ๑๔
้
มาตรา ๑๖ ผูใดนาเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ประชาชนทัวไปอาจเข้าถึงได้ซ่ ึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็ น
้ ่
ภาพของผูอื่น และภาพนั้นเป็ นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรื อดัดแปลงด้วยวิธีการทาง
้
อิเล็กทรอนิกส์หรื อวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทาให้ผอื่นนั้นเสี ยชื่อเสี ยง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง
ู้
หรื อได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรื อ
ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ ถ้าการกระทาตามวรรคหนึ่ง เป็ นการนาเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์
โดยสุ จริ ต ผูกระทาไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็ นความผิดอันยอมความได้ ถ้าผูเ้ สี ยหายใน
้
ความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสี ยก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรื อ บุตรของผูเ้ สี ยหายร้องทุกข์ได้
และให้ถือว่าเป็ นผูเ้ สี ยหาย
มาตรา ๑๗ ผูใดกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ีนอกราชอาณาจักรและ
้
(๑) ผูกระทาความผิดนั้นเป็ นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้นหรื อผูเ้ สี ยหายได้ร้องขอให้
้
ลงโทษ หรื อ
(๒) ผูกระทาความผิดนั้นเป็ นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรื อคนไทยเป็ นผูเ้ สี ยหายและผูเ้ สี ยหายได้ร้อง
้
ขอให้ลงโทษ
จะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร
หมวด ๒
พนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๑๘ ภายใต้บงคับมาตรา ๑๙ เพื่อประโยชน์ในการสื บสวนและสอบสวนในกรณี ที่มีเหตุอนควรเชื่อได้
ั ั
ว่ามีการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจอย่างหนึ่ งอย่างใด ดังต่อไปนี้
เฉพาะที่จาเป็ นเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็ นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทาความผิดและหาตัวผูกระทาความผิด
้
(๑) มีหนังสื อสอบถามหรื อเรี ยกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ีมาเพื่อให้
่
ถ้อยคา ส่ งคาชี้แจงเป็ นหนังสื อ หรื อส่ งเอกสาร ข้อมูล หรื อหลักฐานอื่นใดที่อยูในรู ปแบบที่สามารถเข้าใจได้
(๒) เรี ยกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากผูให้บริ การเกี่ยวกับการติดต่อสื่ อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์ หรื อ
้
จากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
(๓) สั่งให้ผให้บริ การส่ งมอบข้อมูลเกี่ยวกับผูใช้บริ การที่ตองเก็บตามมาตรา ๒๖ หรื อที่อยูในความ
ู้ ้ ้ ่
ครอบครองหรื อควบคุมของผูให้บริ การให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่
้
(๔) ทาสาเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีเหตุอนควรเชื่อได้
ั
่
ว่ามีการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี ในกรณี ที่ระบบคอมพิวเตอร์ น้ นยังมิได้อยูในความครอบครอง
ั
ของพนักงานเจ้าหน้าที่
- 10. (๕) สั่งให้บุคคลซึ่ งครอบครองหรื อควบคุมข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื ออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ ส่ ง
มอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื ออุปกรณ์ดงกล่าวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่
ั
(๖) ตรวจสอบหรื อเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรื ออุปกรณ์ที่
ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของบุคคลใด อันเป็ นหลักฐานหรื ออาจใช้เป็ นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทา
ความผิด หรื อเพื่อสื บสวนหาตัวผูกระทาความผิดและสั่งให้บุคคลนั้นส่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ขอมูลจราจรทาง
้ ้
คอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จาเป็ นให้ดวยก็ได้
้
(๗) ถอดรหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของบุคคลใด หรื อสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสลับของ
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ทาการถอดรหัสลับ หรื อให้ความร่ วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการถอดรหัสลับ
ดังกล่าว
(๘) ยึดหรื ออายัดระบบคอมพิวเตอร์ เท่าที่จาเป็ นเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทราบรายละเอียดแห่งความผิด
และผูกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี
้
มาตรา ๑๙ การใช้อานาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ
(๘) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยนคาร้องต่อศาลที่มีเขตอานาจเพื่อมีคาสั่งอนุ ญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดาเนินการ
ื่
่
ตามคาร้อง ทั้งนี้ คาร้องต้องระบุเหตุอนควรเชื่ อได้วาบุคคลใดกระทาหรื อกาลังจะกระทาการอย่างหนึ่งอย่าง
ั
ใดอันเป็ นความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี เหตุที่ตองใช้อานาจ ลักษณะของการกระทาความผิด รายละเอียด
้
เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทาความผิดและผูกระทาความผิด เท่าที่สามารถจะระบุได้ ประกอบคาร้อง
้
ด้วยในการพิจารณาคาร้องให้ศาลพิจารณาคาร้องดังกล่าวโดยเร็ วเมื่อศาลมีคาสั่งอนุ ญาตแล้ว ก่อนดาเนินการ
ตามคาสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสาเนาบันทึกเหตุอนควรเชื่อที่ทาให้ตองใช้อานาจตามมาตรา ๑๘
ั ้
(๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) มอบให้เจ้าของหรื อผูครอบครองระบบคอมพิวเตอร์ น้ นไว้เป็ นหลักฐาน แต่ถาไม่
้ ั ้
มีเจ้าของหรื อผูครอบครองเครื่ องคอมพิวเตอร์ อยู่ ณ ที่น้ น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งมอบสาเนาบันทึกนั้น
้ ั
ให้แก่เจ้าของหรื อ
ผูครอบครองดังกล่าวในทันทีที่กระทาได้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผเู ้ ป็ นหัวหน้าในการดาเนินการตามมาตรา
้
๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ
(๘) ส่ งสาเนาบันทึกรายละเอียดการดาเนินการและเหตุผลแห่งการดาเนินการให้ศาลที่มีเขตอานาจภายในสี่
สิ บแปดชัวโมงนับแต่เวลาลงมือดาเนินการ เพื่อเป็ นหลักฐานการทาสาเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา ๑๘
่
่
(๔) ให้กระทาได้เฉพาะเมื่อมีเหตุอนควรเชื่ อได้วามีการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี และต้องไม่
ั
เป็ นอุปสรรคในการดาเนินกิจการของเจ้าของหรื อผูครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ นเกินความจาเป็ น การ
้ ั
ยึดหรื ออายัดตามมาตรา ๑๘ (๘) นอกจากจะต้องส่ งมอบสาเนาหนังสื อแสดงการยึดหรื ออายัดมอบให้
เจ้าของหรื อผูครอบครองระบบคอมพิวเตอร์ น้ นไว้เป็ นหลักฐานแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งยึดหรื ออายัด
้ ั
ไว้เกินสามสิ บวันมิได้ ในกรณี จาเป็ นที่ตองยึดหรื ออายัดไว้นานกว่านั้น ให้ยนคาร้องต่อศาลที่มีเขตอานาจ
้ ื่
เพื่อขอขยายเวลายึดหรื ออายัดได้ แต่ศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลาครั้งเดียวหรื อหลายครั้งรวมกันได้อีกไม่เกิน
- 11. หกสิ บวัน เมื่อหมดความจาเป็ นที่จะยึดหรื ออายัดหรื อครบกาหนดเวลาดังกล่าวแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่ตอง
้
ส่ งคืนระบบคอมพิวเตอร์ที่ยึดหรื อถอนการอายัดโดยพลัน หนังสื อแสดงการยึดหรื ออายัดตามวรรคห้าให้
เป็ นไปตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๒๐ ในกรณี ที่การกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี เป็ นการทาให้แพร่ หลายซึ่ ง
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมันคงแห่งราชอาณาจักร ตามที่กาหนดไว้ในภาคสอง
่
ลักษณะ ๑ หรื อลักษณะ ๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรื อที่มีลกษณะขัดต่อความสงบเรี ยบร้อยหรื อ
ั
ศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรี อาจยืนคาร้อง พร้อม
่
แสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอานาจขอให้มีคาสั่งระงับการทาให้แพร่ หลายซึ่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ น ั
ได้ ในกรณี ที่ศาลมีคาสั่งให้ระงับการทาให้แพร่ หลายซึ่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงาน
เจ้าหน้าที่ทาการระงับการทาให้แพร่ หลายนั้นเอง หรื อสังให้ผให้บริ การระงับการทาให้แพร่ หลายซึ่ ง
่ ู้
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ นก็ได้
ั
มาตรา ๒๑ ในกรณี ที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ใดมีชุดคาสั่งไม่พึงประสงค์รวมอยูดวย ่ ้
พนักงานเจ้าหน้าที่อาจยืนคาร้องต่อศาลที่มีเขตอานาจเพื่อขอให้มีคาสั่งห้ามจาหน่ายหรื อเผยแพร่ หรื อสั่งให้
่
เจ้าของหรื อผูครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ นระงับการใช้ ทาลายหรื อแก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ นได้
้ ั ั
หรื อจะกาหนดเงื่อนไขในการใช้ มีไว้ในครอบครอง หรื อเผยแพร่ ชุดคาสั่งไม่พึงประสงค์ดงกล่าวก็ได้
ั
ชุดคาสั่งไม่พึงประสงค์ตามวรรคหนึ่งหมายถึงชุดคาสั่งที่มีผลทาให้ขอมูลคอมพิวเตอร์ หรื อระบบ
้
คอมพิวเตอร์ หรื อชุดคาสั่งอื่นเกิดความเสี ยหาย ถูกทาลาย ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรื อเพิ่มเติมขัดข้อง หรื อ
ปฏิบติงานไม่ตรงตามคาสั่งที่กาหนดไว้ หรื อโดยประการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวงทั้งนี้ เว้นแต่เป็ น
ั
ชุดคาสั่งที่มุ่งหมายในการป้ องกันหรื อแก้ไขชุดคาสั่งดังกล่าวข้างต้น ตามที่รัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจา
นุเบกษา
มาตรา ๒๒ ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่เปิ ดเผยหรื อส่ งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทาง
คอมพิวเตอร์ หรื อข้อมูลของผูใช้บริ การ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ให้แก่บุคคลใดความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้
้
ั ้
บังคับกับการกระทาเพื่อประโยชน์ในการดาเนิ นคดีกบผูกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี หรื อเพื่อ
ประโยชน์ในการดาเนินคดีกบพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อานาจหน้าที่
ั
โดยมิชอบ หรื อเป็ นการกระทาตามคาสังหรื อที่ได้รับอนุ ญาตจากศาลพนักงานเจ้าหน้าที่ผใดฝ่ าฝื นวรรคหนึ่ง
่ ู้
ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรื อปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ
มาตรา ๒๓ พนักงานเจ้าหน้าที่ผใดกระทาโดยประมาทเป็ นเหตุให้ผอื่นล่วงรู ้ขอมูลคอมพิวเตอร์ ขอมูลจราจร
ู้ ู้ ้ ้
ทางคอมพิวเตอร์ หรื อข้อมูลของผูใช้บริ การ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรื อ
้
ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ
- 12. มาตรา ๒๔ ผูใดล่วงรู ้ขอมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรื อข้อมูลของผูใช้บริ การ ที่
้ ้ ้
พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ และเปิ ดเผยข้อมูลนั้นต่อผูหนึ่งผูใด ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสอง
้ ้
ปี หรื อปรับไม่เกินสี่ หมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ
มาตรา ๒๕ ข้อมูล ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื อข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตาม
พระราชบัญญัติน้ ี ให้อางและรับฟังเป็ นพยานหลักฐานตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
้
ความอาญาหรื อกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการสื บพยานได้ แต่ตองเป็ นชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจมีคามัน
้ ่
สัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง หรื อโดยมิชอบประการอื่น
มาตรา ๒๖ ผูให้บริ การต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ไว้ไม่นอยกว่าเก้าสิ บวันนับแต่วนที่ขอมูล
้ ้ ั ้
นั้นเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณี จาเป็ นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสังให้ผให้บริ การผูใดเก็บรักษาข้อมูล
่ ู้ ้
จราจรทางคอมพิวเตอร์ ไว้เกินเก้าสิ บวัน แต่ไม่เกินหนึ่งปี เป็ นกรณี พิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้ ผู ้
ให้บริ การจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผูใช้บริ การเท่าที่จาเป็ นเพื่อให้สามารถระบุตวผูใช้บริ การ นับตั้งแต่เริ่ ม
้ ั ้
ใช้บริ การและต้องเก็บรักษาไว้เป็ นเวลาไม่นอยกว่าเก้าสิ บวันนับตั้งแต่การใช้บริ การสิ้ นสุ ดลง ความในวรรค
้
ั ้
หนึ่งจะใช้กบผูให้บริ การประเภทใด อย่างไร และเมื่อใด ให้เป็ นไปตามที่รัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจา
นุเบกษา
ผูให้บริ การผูใดไม่ปฏิบติตามมาตรานี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท
้ ้ ั
มาตรา ๒๗ ผูใดไม่ปฏิบติตามคาสั่งของศาลหรื อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งตามมาตรา ๑๘ หรื อมาตรา ๒๐
้ ั
หรื อไม่ปฏิบติตามคาสั่งของศาลตามมาตรา ๒๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทและปรับเป็ น
ั
รายวันอีกไม่เกินวันละห้าพันบาทจนกว่าจะปฏิบติให้ถูกต้อง
ั
มาตรา ๒๘ การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติน้ ี ให้รัฐมนตรี แต่งตั้งจากผูมีความรู้และความ
้
ชานาญเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ และมีคุณสมบัติตามที่รัฐมนตรี กาหนด
มาตรา ๒๙ ในการปฏิบติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติน้ ี ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็ นพนักงานฝ่ ายปกครองหรื อ
ั
ตารวจชั้นผูใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีอานาจรับคาร้องทุกข์หรื อรับคากล่าวโทษ
้
และมีอานาจในการสื บสวนสอบสวนเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี ในการจับ ควบคุม ค้น การทา
สานวนสอบสวนและดาเนินคดีผกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี บรรดาที่เป็ นอานาจของพนักงานฝ่ าย
ู้
ปกครองหรื อตารวจชั้นผูใหญ่ หรื อพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้
้
พนักงานเจ้าหน้าที่ประสานงานกับพนักงานสอบสวนผูรับผิดชอบเพื่อดาเนินการตามอานาจหน้าที่ต่อไป ให้
้
นายกรัฐมนตรี ในฐานะผูกากับดูแลสานักงานตารวจแห่งชาติ และรัฐมนตรี มีอานาจ ร่ วมกันกาหนดระเบียบ
้
เกี่ยวกับแนวทางและวิธีปฏิบติในการดาเนินการตามวรรคสอง
ั
- 13. มาตรา ๓๐ ในการปฏิบติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ตองแสดงบัตรประจาตัวต่อบุคคลซึ่ งเกี่ยวข้อง บัตร
ั ้
ประจาตัวของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็ นไปตามแบบที่รัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ผูรับสนองพระบรมราชโองการ
้
พลเอก สุ รยุทธ์ จุลานนท์
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปั จจุบนระบบคอมพิวเตอร์ ได้
ั
เป็ นส่ วนสาคัญ ของการประกอบกิจการ และการดารงชีวิตของมนุษย์ หากมีผกระทาด้วยประการใด ๆ ให้
ู้
ระบบคอมพิวเตอร์ ไม่สามารถทางานตามคาสั่งที่กาหนดไว้ หรื อทาให้การทางานผิดพลาดไปจากคาสั่งที่
กาหนดไว้ หรื อใช้วธีการใด ๆ เข้าล่วงรู ้ขอมูล แก้ไข หรื อทาลายข้อมูลของบุคคลอื่น ในระบบคอมพิวเตอร์
ิ ้
โดยมิชอบ หรื อใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเผยแพร่ ขอมูลคอมพิวเตอร์ อนเป็ นเท็จ หรื อมีลกษณะอันลามก
้ ั ั
อนาจาร ย่อมก่อให้เกิดความเสี ยหาย กระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมันคงของรัฐ รวมทั้ง
่
ความสงบสุ ขและศีลธรรมอันดีของประชาชน สมควรกาหนดมาตรการเพื่อป้ องกันและปราบปรามการ
กระทาดังกล่าว จึงจาเป็ นต้องตราพระราชบัญญัติน้ ี
ที่มา : http://www.cowboythai.com/forum/index.php?topic=1443.msg9206;topicse