Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมเป็นฐาน (6)
Mehr von โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ (20)
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมเป็นฐาน
- 2. คานา
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมเป็นฐาน (Game-Based Learning) เพื่อพัฒนาการ
แก้ปัญหาและการถ่ายทอดการแก้ปัญหา ครูผู้สอนจัดทาขึ้น สาหรับใช้ในการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้เพื่อสร้างเสริมการเรียนรู้การแก้ปัญหา ในนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่ง
ออกแบบกิจกรรมที่บูรณาการในหน่วยการเรียนรู้ที่สอดคล้องรายวิชาการเขียนโปรแกรม
คอมพิวเตอร์ ผู้สอนนาเสนอเกม ชี้แจงวิธีการเล่น และกติกาการเล่น ผู้เรียนเล่นเกมตามกติกา
ผู้สอนและผู้เรียนอภิปรายเกี่ยวกับผลการเล่นและวิธีการหรือพฤติกรรมการเล่นของผู้เรียน
ผู้สอนประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมเป็นฐาน (Game-Based
Learning) นี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการส่งเสริมการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะ
การแก้ปัญหาให้เกิดในระดับมัธยมอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเป็นไปตามหลักการและบรรลุ
จุดมุ่งหมายของหลักสูตรการศึกษา ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุดกิจกรรม
การเรียนรู้โดยใช้เกมเป็นฐาน (Game-Based Learning)
นางสาวธันย์รดา เนติ
- 4. แนวคิดเชิงคานวณ
(8 ชั่วโมง)
ชั่วโมงที่ 1 - 2
ทาแบบทดสอบก่อนเรียน
กิจกรรมที่ 1 ตามล่าหากลุ่ม
กิจกรรมที่ 2 ไขคดีปริศนาตามล่าหาฆาตกร
กิจกรรมที่ 3 ตามหาชิ้นส่วนที่ลงตัว (Puzzle Match)
ชั่วโมงที่ 3 - 4
กิจกรรมที่ 4 คู่คิดพิชิต Flying Space
กิจกรรมที่ 5 คู่คิดพิชิต Swaps Number
ชั่วโมงที่ 5 - 6
กิจกรรมที่ 6 เผชิญภัยในเขาวงกต
ชั่วโมงที่ 7 - 8
กิจกรรมที่ 7 4 เสาหลักแนวคิดเชิงคานวณ
กิจกรรมปริศนาฟ้าแลบ (แนวคิดเชิงคานวณ)
ทาแบบทดสอบหลังเรียน
แผนผังกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เกมเป็นฐาน
เรื่องที่ 1 แนวคิดเชิงคานวณ
- 5. กรอบการเรียนรู้ เรื่องแนวคิดเชิงนามธรรม
1. ผลการเรียนรู้
1.1 วิเคราะห์ ออกแบบอัลกอทึมกระบวนการแก้ปัญหาที่ใช้แนวเชิงเชิงคานวณกับการแก้ปัญหา
ที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
2.1 อธิบายองค์ประกอบของแนวคิดเชิงคานวณ
2.2 อธิบายการแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคานวณ
2.3 อธิบายประโยชน์ของแนวคิดเชิงคานวณ
2.4 อธิบายการแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคานวณ
2.5 ออกแบบอัลกอรึทึมการแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคานวณ
3. สาระการเรียนรู้
3.1 องค์ประกอบที่ของแนวคิดเชิงคานวณ
3.2 การแบ่งปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อย (decomposition)
3.3 การพิจารณารูปแบบ (pattern recognition)
3.4 การคิดเชิงนามธรรม (abstraction)
3.5 การออกแบบอัลกอริทึ่ม (algorithm design)
3.6 การนาแนวคิดเชิงคานวณมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา
4. เวลาที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้
จัดการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ 1- 2 จานวน 8 ชั่วโมง
- 6. 5. สื่อการเรียน
5.1 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมส์เป็นฐาน เรื่องแนวคิดเชิงคานวณ
5.2 เกม Puzzle Match
5.3 เกม Swaps Number
5.4 เกม Flying Space
6. กิจกรรมการเรียนรู้
1. ให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน
2. ให้นักเรียนเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบการ
แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
3. ให้นักเรียนทาใบงาน จากแบบฝึกชุดกิจกรรมการเรียนรู้
4. ครูและนักเรียนอภิปรายและสรุปผล
5. ทาแบบทดสอบหลังเรียน หลังจบการจัดการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้
7. การประเมินผลความรู้
1. คะแนนการทาแบบทดสอบหลังเรียน
2. ผลการประเมินทักษะ/กระบวนการตามใบงาน
- 7. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test)
เรื่อง แนวคิดเชิงนามธรรม
คาชี้แจง แบบทดสอบเป็นแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จานวน 20 ข้อ 20 คะแนน
คาสั่ง ให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดกล่าวถึงแนวคิดเชิงคานวณได้ไม่ถูกต้อง
ก . เป็นการคิดเหมือนหุ่นยนต์
ข. เป็นการแก้ปัญหาแบบมีลาดับขั้นตอน
ค. เป็นทักษะที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ต้องมี
ง. มีแนวคิดเชิงนามธรรมเป็นหนึ่งในทักษะย่อย
2. การที่มุ่งเน้นความสาคัญของปัญหาโดยไม่สนใจรายละเอียดที่ไม่จาเป็นสอดคล้องกับแนวคิดใด
ก. แนวคิดเชิงรูปธรรม
ข. แนวคิดเชิงนามธรรม
ค. แนวคิดการแยกย่อย
ง. แนวคิดการจดจารูปแบบ
3. การแก้ปัญหาโดยการออกแบบกระบวนการทางานอย่างเป็นลาดับขั้นตอนสอดคล้องกับแนวคิดใด
ก. แนวคิดเชิงรูปธรรม
ข. แนวคิดเชิงนามธรรม
ค. แนวคิดการแยกย่อย
ง. แนวคิดการออกแบบขั้นตอน
4. ข้อใดสอดคล้องกับแนวคิดการแยกย่อย
ก. การเข้าใจรูปแบบ
ข. การแยกแยะปัญหา
ค. การคัดเลือกวัสดุที่นามาใช้ทาชิ้นงาน
ง. การหาแนวคิดรวมยอดของแต่ละปัญหาย่อย
5. ประโยชน์ของการคิดเชิงนามธรรมคืออะไร
ก. ช่วยให้เข้าใจปัญหา และมองเห็นปัญหาได้ชัดเจนขึ้น
ข. ทาให้เห็นรายละเอียดของสิ่งที่สนใจได้ชัดเจนทั้งหมด
ค. การออกแบบชิ้นงานตรงกับสภาพจริงทุกประการ
ง. ช่วยลดขั้นตอนการทางานที่มีความซ้าซ้อน
- 8. 6. การคิดเชิงคานวณมีประโยชน์อย่างไร
ก. ช่วยให้มีทักษะการคิดเหมือนคอมพิวเตอร์
ข. แก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบและมีขั้นตอน
ค.ตอบปัญหาโจทย์ทางคณิตศาสตร์ได้อย่างรวดเร็ว
ง.จดจาข้อมูลได้เป็นจานวนมา
7. หลักการคิดเชิงคานวณสามารถนาไปประยุกต์ในสถานการณ์ใดได้บ้าง
ก. การค้นหาสินค้าในห้างสรรพสินค้า
ข. การวางแผนเปิดร้านอาหารในงานเทศกาลโรงเรียน
ค. การคานวณสถิติการทาประตูของนักกีฬาฟุตบอล
ง. ถูกทุกข้อ
8. สถานการณ์ในข้อใดใช้หลักการคิดเชิงคานวณ
ก. แพทย์วิเคราะห์หาสาเหตุการป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกของผู้ป่วยในชุมชนโดยการสัมภาษณ์
ผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหาความเกี่ยวข้อง ระหว่างสภาพแวดล้อมและการแพร่ระบาดของโรค
ข. นักเรียนจดรายละเอียดทุกขั้นตอนของบทเรียนคณิตศาสตร์ที่เรียนในห้องเรียน และท่องจาเพื่อใช้
ในการสอบปลายภาค
ค. นักท่องเที่ยวเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่อยากไปโดยไม่ต้องวางแผนล่วงหน้า
ง. ชาวนาหันมาปลูกยางพารา แทนการปลูกข้าวในพื้นที่นาทั้งหมด เนื่องจากรัฐบาลประกาศให้ ราคา
ยางพาราดีกว่าราคาข้าว ในปีที่ผ่านมา
9. นายดามีอาชีพทาสวน เขาปลูกผักสวนครัว ต่อมามีศัตรูพืชมารบกวนผักที่เขาปลูกไว้ ทาให้พืชผักของ
เขาใบแหว่ง ไม่สวยงาม ราคาตกต่า นายดาจึงใช้ยาปรายศัตรูพืชพ่นกันแมลง ทาให้แมลงไม่มารบกวนพืชผัก
สวนครัวของเขา ทาให้ผักสวนครัวของเขาสวยงาม ขายได้ราคาดี ต่อมานายดาป่วย มีอาการเจ็บหน้าอก
คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง จากสถานกาณ์นี้ปัญหาสาคัญของนายดาคืออะไร
ก. นายดาเจ็บป่วย
ข. นายดาใช้ยาฆ่าแมลง
ค. พืชผักสวนครัวราคาตกต่า
ง. ศัตรูพืชมารบกวนพืชผักสวนครัว
- 9. 10. จากปัญหาสถานการณ์ในข้อ 9 ข้อใด ไม่ใช่ ปัญหาย่อยที่ทาให้เกิดปัญหาสาคัญ
ก. ผักสวนครัวของนายดาราคาตกต่า
ข. นายดาอาเจียน ท้องร่วง
ค. นายดาอาชีพทาสวน ปลูกผักสวนครัว
ง. ผักของนายดาถูกศัตรูพืชมารบกวน
11. จาปาต้องการจัดน้องให้เข้าแถวหน้าเสาธงให้เป็นระเบียบและสวยงาม ข้อใดเป็นการนาแนวคิดเชิง
คานวณในการพิจารณารูปแบบใช้
ก. จาปาให้น้อง ๆ จับฉลากว่าใครได้ยืนก่อน
ข. จาปาให้แยกหญิงชาย แล้วยืนตามลาดับความสูง
ค. จาปาให้ยืนคละกันเพื่อจัดแถวได้รวดเร็ว
ง. จาปาให้ผู้ชายยืนหน้าสุด
12. ประกรเป็นพี่ประวิทย์ 7 ปี พ่อเป็นพี่ประวิทย์ 5 ปีและอายุมากกว่าแม่ 2 ปี สะอาดเป็นน้องแม่ 4 ปี
และมีก้อยเป็นหลาน 1 คน แม่มีอายุ x ปีและมีหลาน 3 คน คือ กิ๊ก กั๊ก ก้อง ซึ่งอายุเท่ากัน จาก
สถานการณ์ต่อไปนี้ข้อใดเป็นข้อมูลที่จาเป็นในการหาอายุพ่อ
ก. อายุประวิทย์
ข. อายุกิ๊ก
ค. อายุกั๊ก
ง. อายุก้อย
13. จากสถานการณ์ ข้อ 12 นักเรียนคิดว่าข้อใดถูกที่สุดในการเรียงชื่อตามอายุจากมากไปน้อย
ก. ประกร ประวิทย์ พ่อ แม่
ข. ประวิทย์ ประกร แม่ พ่อ
ค. พ่อ แม่ ประวิทย์ ประกร
ง. ประกร พ่อ ประวิทย์ แม่
- 10. จากภาพให้ตอบคาถามข้อ 14 – 16
นักเรียนอยู่สถานีอาคารบริหาร ต้องการเดินทางไป สถานีสถาปัตย์ นักเรียนจะเดินทาง
อย่างไรให้ประหยัดที่สุด
14. จากภาพข้อมูลใดจาเป็นในการหาคาตอบ
ก. ตาแหน่งที่ตั้งของสถานี
ข. ราคาของรถแต่ละสาย
ค. สถานีทุกสถานี
ง. สถานีของรถแต่ละสาย และ ราคา
15. ข้อใดคือปัญหาย่อย ๆ ในการหาคาตอบในการเดินทาง
ก. สถานีเริ่มต้นอยู่สายใด
ข. สถานีปลายทางอยู่สายใด
ค. ราคารถแต่ละสายกี่บาท
ง. ถูกทุกข้อ
- 11. 16. ให้นักเรียนเรียงลาดับขั้นตอนวิธี (Algorithm) ในการเดินทางจากสถานีอาคารบริหาร เพื่อไปสถาน
สถานีสถาปัตย์ให้ประหยัดที่สุด
1. วิเคราะห์ปัญหา ศึกษาสถานีและราคาของรถแต่ละสาย
2. ขึ้นรถ สาย 1 จากสถานีไทรบุรีไปลงสถานีสถาปัตย์
3. ขึ้นรถ สาย 3 จากสถานีอาคารบริหาร ไปลงสถานีไทรบุรี
4. วางแผนการเดินทาง
ก. 1 > 2 > 3 > 4
ข. 4 > 2 > 3 > 1
ค. 4 > 1 > 3 > 2
ง. 1 > 4 > 3 > 2
จากสถานการณ์ต่อไปนี้ จงตอบคาถามข้อ 17 – 20
เนปจูนมาช่วยแม่ขายเสื้อผ้าที่ตลาดนัดวันอาทิตย์ โดยคุณแม่บอกว่า รายละเอียดราคาของสินค้า
เสื้อไซด์ S ราคา 100 บาท ไซด์ M 120 ไซด์ L และ XL ราคา 150 บาท ถุงเท้าคู่ละ 20 บาท กางเกงตัวละ
100 บาท เมื่อขายเสร็จคุณแม่ถามเนปจูนว่าวันนี้ขายเสื้อได้ทั้งหมดกี่บาท
17. ข้อใดคือปัญหา ย่อยๆ ของเนปจูนที่จะนาไปสู่การแก้ปัญหาได้สาเร็จ
ก. เสื้อแต่ละตัวมีรูปแบบอย่างไร
ข. เสื้อขายได้ทั้งหมดกี่ตัว
ค. เสื้อกับกางเกงอะไรแพงกว่ากัน
ง. ถูกทุกข้อ
18. เนปจูนจะนาแนวคิดเชิงนามธรรมมาใช้แก้ปัญหาได้สาเร็จ
ก. แยกประเภทสินค้า
ข. หาจานวนเสื้อที่ขาดได้ในแต่ละไซด์
ค. หาจานวนสินค้าที่ขายได้ทั้งหมดในร้าน
ง. ออกแบบขั้นตอนวิธีการคิดเงินจะได้ตอบคุณแม่ได้ว่าขายเสื้อได้ทั้งหมดกี่บาท
- 12. 19. เนปจูนสามารถนาการพิจารณารูปแบบมาช่วยแก้ปัญหาได้อย่างไรให้สาเร็จ
ก. แยกประเภทเสื้อตามไซด์ และราคา
ข. หาเสื้อที่มีรูปร่างคล้ายๆกัน มาคานวณราคา
ค. หาจานวนเสื้อที่ขาดได้ทั้งหมด
ง. ออกแบบขั้นตอนวิธี
20. เนปจูนจะออกแบบขั้นตอนวิธีอย่างไรเพื่อให้แก้ปัญหาได้สาเร็จ
1. แยกประเภทเสื้อ ตามไซด์และราคา
2. ศึกษาราคาเสื้อแต่ละไซด์
3. หาจานวนเสื้อที่ขายได้ในแต่ละไซด์
4. นาจานวนเสื้อที่ขายได้ในแต่ละไซด์คูณด้วยราคาเสื้อ
5. นาจานวนเงินที่ขายได้ของเสื้อแต่ละไซด์มาบวกกัน
ก. 1> 2 > 3> 4 > 5
ข. 2> 1 > 3> 4 > 5
ค. 1> 3 > 2> 4 > 5
ง. 1> 2 > 3> 5 > 4