นิตยสาร IT Trends ของ IMC Institute Vol. 3 No 10 ฉบับเดือนกันยายน - ธันวาคม 2018

1. HOT ISSUE :
ÊÇ·ª. ¨ÑºÁ×Í ´Õ»‡Ò Ê‹§àÊÃÔÁ¼ÙŒ»ÃСͺ¡Òà ÃѺ CMMI
Big Data 2018: From Hype to Reality
¼ÅÊÓÃǨ Digital Transformation ã¹ä·Â
¾ºàÃÔ่Á¡ŒÒÇÊÙ‹´Ô¨Ô·ÑÅ 40%
˹ŒÒ 11
˹ŒÒ 15
˹ŒÒ 31
VOL.3 NO.10 SEPTEMBER -DECEMBER 2018
นิตยสารไอที ราย 4 เดือน
The New
Silicon Valley
…

4. ปัจจุบันองค์กรส่วนใหญ่อยู่ในช่วงของการปรับเปลี่ยนไปสู่
ดิจิทัล หรือที่เรียกว่า Digital Transformation นั่นเป็นเพราะการ
มาของเทคโนโลยีที่ต่างจากรูปแบบเดิมๆ โดยเป็นการหลอมรวม
หลายๆ อย่างเข้าหากัน ซึ่งยุคนี้เป็นยุค Digital Disruption ก็ว่าได้
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นยกตัวอย่างให้เห็นภาพคือเริ่มตั้งแต่
ยุคมือถือที่ไม่ได้ใช้โทรอย่างเดียว แต่มีการใช้ดาต้าด้วย จากอีเมล
เป็นส่งข้อความผ่านแอป ใช้ไลน์ ใช้โซเชียลมีเดีย และใช้แอปท�ำ
ธุรกรรมอีกเยอะแยะมากมาย...ใช้มาก“ข้อมูล”ก็มีมากตามข้อมูล
เหล่านี้เป็นTransactionsที่เก็บมาท�ำการวิเคราะห์ต่อไปได้นั่นคือ
การท�ำ Big Data Analytics องค์กรสามารถน�ำสิ่งที่ผ่านการ
วิเคราะห์แล้วเหล่านั้นมาใช้ในการปรับปรุงสินค้าหรือบริการรวมถึง
การน�ำไปสู่บริการใหม่ๆ ก็ท�ำได้
ข้อมูลไม่ได้มาจากมือถือเท่านั้นแต่การที่อุปกรณ์ต่างๆเชื่อมต่อ
อินเทอร์เน็ตคือ IoT มีความสามารถด้านรับส่งดาต้าขึ้นคลาวด์
ที่น�ำไปใช้ในการวิเคราะห์ต่อไปได้
เป็นที่มาว่าการวางกลยุทธ์ขององค์กรไม่ได้มองไปที่เทคโนโลยี
ใดเทคโนโลยีหนึ่งเท่านั้น แต่ผู้บริหารจะมองในภาพรวมที่มุ่งสู่
Digital Transformation เพื่อไม่ให้เทคโนโลยีเข้ามา Disruption
ธุรกิจที่ก�ำลังท�ำอยู่
ประเด็นที่น่าจับตามองคือ ผลของ Digital Transformation
อาจจะน�ำไปสู่นวัตกรรม การเกิดธุรกิจรูปแบบใหม่ก็เป็นได้ ดังนั้น
ต่อจากนี้ไป การด�ำเนินธุรกิจจะไม่ใช่การแข่งขันแบบเดิม...
เราจะเห็นว่า แม้แต่ประเทศยักษ์ใหญ่ก็แข่งขันกันด้าน
เทคโนโลยี ไม่มีใครยอมใคร ไม่หยุดการพัฒนาแม้แต่ก้าวเดียว และ
ยิ่งเร็วยิ่งได้เปรียบ...วันนี้คนทั่วโลกก�ำลังเห็นการแข่งขันระหว่าง
สองยักษ์ใหญ่ นั่นคือ ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศจีน
ที่ในมุมหนึ่งมีเทคโนโลยีเป็นเดิมพัน
นิตยสารไอที ราย 4 เดือน
VOL.3 NO.10 SEPTEMBER-DECEMBER 2018
CONTENTS
EDITOR NOTE
ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง
นัยนา แย้มอรุณ
บรรณาธิการ
IMC NEWS5
20
28
26
30
31
36
39
11
14
15
ซีเนียร์คอม สร้างโปรดักส์ใหม่รับการเติบโต
Big Data 2018: From Hype to Reality
Government Big Data 4.0
Big Data use case in Real Estate
Big Data & AI : Future of Thailand
ประเทศจีนบนเส้นทาง...
The New Silicon Valley
ถ่ายทอดความประทับใจต่อการเรียนการสอนของ
สถาบันไอเอ็มซี
Hybrid Cloud Computing
แนวโน้มของระบบไอที
อบรม Basic Internet of Things
ลงมือปฏิบัติประดิษฐ์ชิ้นงานจริง
ผลส�ำรวจ Digital Transformation ในประเทศไทย
พบผู้ที่เริ่มก้าวสู่ดิจิทัล 40%
เอเชียแปซิฟิกผู้น�ำระดับโลกด้าน IT Transformation
Hot Issue
IT NEWS
Special Report
Impression
Expert Talk
Instructor
Survey
Training
IMC Upcoming Courses
Interview
HOT ISSUE :
ÊÇ·ª. ¨ÑºÁ×Í ´Õ»‡Ò Ê‹§àÊÃÔÁ¼ÙŒ»ÃСͺ¡Òà ÃѺ CMMI
Big Data 2018: From Hype to Reality
¼ÅÊÓÃǨ Digital Transformation ã¹ä·Â
¾ºàÃÔ่Á¡ŒÒÇÊÙ‹´Ô¨Ô·ÑÅ 40%
˹ŒÒ 11
˹ŒÒ 15
˹ŒÒ 31
VOL.3 NO.10 SEPTEMBER -DECCEMBER 2018
นิตยสารไอที ราย 4 เดือน
The New
Silicon Valley
…

5. IMC NEWS | IT TRENDS 5
สถาบันไอเอ็มซี จัดอบรมเข้ม สิงหาคม-กันยายน
15 สิงหาคม : In-house Introduction to DevOps 23-24 สิงหาคม : Requirement Analysis, Design and Management
7-9 สิงหาคม : In-house Java Programming 20-22 สิงหาคม : In-house Big Data Architecture & Analytics Platform

6. IT TRENDS | IMC NEWS6
26-27 กันยายน : In-house Source Code Management with Git
29-30 สิงหาคม : In-house Digital Transformation Strategy 13กันยายน: In-house The BusinessBlockchain and
Digital Crypto-Currency
3-5 กันยายน : In-house Big Data Architecture and Analytics Platform
a Lambda Architecture

7. IMC NEWS | IT TRENDS 7
Agile Workshop
เมื่อเร็วๆ นี้ สถาบันไอเอ็มซี ได้จัดอบรม Agile Workshop An alternative Software Development ซึ่งได้รับความสนใจเป็น
อย่างมาก เพราะปัจจุบันการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยรูปแบบใหม่ หรืออไจล์ เป็นแนวทางที่องค์กรจ�ำนวนมากน�ำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนา
ซอฟต์แวร์ ซึ่งส่งผลให้การพัฒนาและส่งมอบซอฟต์แวร์ได้ใกล้เคียงกับความต้องการมากขึ้น
นอกจากนี้ ปัญหาต่างๆ ในระหว่างการพัฒนาถูกด�ำเนินการแก้ไขอย่างทันท่วงที และส่งผลกับการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ามากขึ้น
รูปแบบของการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบอไจล์จึงได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ในการฝึกอบรมล่าสุดผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดความเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบอไจล์และScrumรวมทั้ง
ตัวอย่างและเทคนิคต่างๆ ของการปรับและประยุกต์ใช้
ศึกษาดูงานที่ INET- Data Center
ขอขอบคุณ บริษัท อินเทอร์เน็ต ประเทศไทย จ�ำกัด (มหาชน) ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ ให้สถาบันไอเอ็มซี และส�ำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจ
ขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.)เข้าเยี่ยมชมINETDataCenter3ณบริษัทอินเตอร์เน็ตประเทศไทยจ�ำกัด(มหาชน)อ.แก่งคอยจ.สระบุรี

8. IT TRENDS | IMC NEWS8
Basic Software Testing
สถาบันไอเอ็มซี จัดอบรมหลักสูตร Basic Software Testing
ช่วยวางพื้นฐานให้เข้าใจถึงแนวคิดและความส�ำคัญของการทดสอบ
ระบบงานทั่วไป รวมถึงขั้นตอนต่างๆ ทั้งการวางแผน การจัดท�ำ
กรณีทดสอบ การเตรียมข้อมูลและอุปกรณ์ระบบต่างๆ ตลอดจน
แนวทางในการท�ำการทดสอบเทคนิคการวิเคราะห์ผลและการจัดท�ำ
รายงาน โดยเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ตรงที่ได้จากการท�ำงาน
ทั้งในเชิงทฤษฎีและเชิงปฏิบัติ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถน�ำไปประยุกต์
ใช้ได้จริง
การอบรมจะตอบโจทย์การพัฒนาซอฟต์แวร์หรือระบบงาน
ไม่ว่าจะมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ภายในองค์กร หรือเพื่อส่งมอบ
ให้แก่ลูกค้าก็ตาม จ�ำเป็นที่จะต้องได้รับการทดสอบและควบคุม
คุณภาพ โดยจะต้องมีการก�ำหนดวิธีการและขั้นตอนในการทดสอบ
อย่างเหมาะสม รวมถึงต้องมีการวิเคราะห์ผลที่ได้จากการทดสอบ
อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้งานส่งมอบนั้นมีคุณภาพสูงสุด
ที่ผ่านมาหลายองค์กรก�ำหนดให้กระบวนการทดสอบนี้เป็น
วาระสุดท้ายของแผนงานท�ำให้กว่าที่จะตรวจพบจุดบกพร่องหรือข้อ
ผิดพลาด ก็ต้องใช้เวลาในการแก้ไขมากอย่างไม่น่าเชื่อ จนท�ำให้การ
ส่งมอบงานล่าช้าเกินกว่าก�ำหนด
ทั้งนี้ หากอ้างอิงตาม CMMI Framework แล้ว จ�ำเป็นจะต้อง
มีการน�ำกระบวนการทดสอบเข้าไปเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนของการ
พัฒนา ซึ่งเรียกว่า Verification และ Validation Process Area
เพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่างานส่งมอบนั้นเสร็จสมบูรณ์ทันก�ำหนด และ
มีคุณภาพตรงตามความต้องการของลูกค้า
หลักสูตร Basic Software Testing จะเปิดอบรมอีกครั้ง
กลางเดือนธันวาคมนี้

9. IMC NEWS | IT TRENDS 9
• การพัฒนาโปรแกรมต่างๆ
• การท�ำ Workshops
• การท�ำ Mini-Project ทางด้าน Data Science
บุคลากรที่ควรเข้าร่วมการอบรม
บุคคลทั่วไปที่สนใจจะพัฒนา Big Data และต้องการเป็น
Big Data IT Professional หรือ Data Scientist โดยต้องมีความรู้
พื้นฐานด้านไอทีมาเป็นอย่างดีมีความรู้เรื่องฐานข้อมูลและการเขียน
โปรแกรมมาบ้าง
คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้เข้าร่วมการอบรม
• ต้องมีประสบการณ์การท�ำงานด้านไอทีอย่างน้อยสองปี
• ควรมีความรู้พื้นฐานเรื่องระบบฐานข้อมูล
• มีพื้นฐานด้านการพัฒนาโปรแกรมภาษาใดภาษาหนึ่ง
Big Data Certification
หลักสูตรเข้ม 120 ชั่วโมง
การพัฒนาบุคลากรเพื่อให้สอดคล้องกับ Big Data เป็น
สิ่งจ�ำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน เนื่องจากข้อมูลเกิดขึ้นจ�ำนวน
มหาศาล มีหลายรูปแบบ ท�ำให้องค์กรต่างๆ ต้องปรับโครงสร้าง
พื้นฐานด้านข้อมูล(InformationInfrastructure)มีการน�ำเทคโนโลยี
ใหม่ เช่น Hadoop, NoSQL หรือ NewSQL ท�ำให้ผู้เรียนเข้าใจใน
เรื่องของ Business Intelligence และ Data Science ตลอดจน
เรียนรู้การท�ำ Big Data ตั้งแต่วางกลยุทธ์ จนถึงการท�ำ Predictive
Analytics ด้วย Large-Scale Machine Learning
หลักสูตร Big Data Certification ให้ความรู้ผู้เข้าร่วมอบรมได้
เข้าใจการใช้เทคโนโลยีที่กล่าวถึงข้างต้น รวมถึงมีความรู้ใน
การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ หลักสูตรสอนอย่างละเอียด จึงใช้เวลา
ในการอบรม 120 ชั่วโมง ใช้เวลาเรียน 4 เดือนทุกวันพฤหัสบดี
เวลา 18.00-21.00 น. และวันเสาร์ 9.00-17.00 น.
รูปแบบการอบรม:
• การบรรยาย 30% ปฏิบัติการ 70%
•การจัดกลุ่มอภิปรายกรณีศึกษาของการท�ำBigDataStrategy
• การท�ำ Hand-on Lab ติดตั้งระบบจริง และการใช้ Big Data
as a Service

10. IT TRENDS | IMC NEWS10
หลักสูตร Digital Transformation
ส�ำหรับผู้บริหาร
สถาบันไอเอ็มซี และเอซิส โปรเฟสชั่นนัล เซ็นเตอร์ ร่วมกัน
จัดหลักสูตร Digital Transformation Strategy for Senior
Managementเนื่องจากเล็งเห็นว่าเทคโนโลยีดิจิทัลก�ำลังเป็นปัจจัย
ส�ำคัญที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการท�ำธุรกิจในปัจจุบันเป็น
อย่างมาก จนท�ำให้เกิดค�ำว่า Digital Disruption ไม่ว่าจะเป็นการ
เข้ามาของหุ่นยนต์ การเกิดขึ้นของบล็อก เช่น กระแสการแข่งขัน
จากการน�ำข้อมูลขนาดใหญ่(Bigdata)มาวิเคราะห์ข้อมูล(Analytics)
นโยบายการผลักดันอุตสาหกรรม 4.0 ของประเทศไทย
ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบถึงการปรับตัว
และความอยู่รอดของทุกอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวข้องจากการน�ำ
เทคโนโลยีเข้ามาใช้เป็นเครื่องมือในการท�ำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น
อุตสาหกรรมค้าปลีกค้าส่งสิ่งพิมพ์ขนส่งบันเทิงการเงินการธนาคาร
หรือแม้แต่การศึกษา จนท�ำให้องค์กรต่างๆ หลีกหนีไม่พ้นที่จะต้อง
ท�ำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และกลับมาให้ความ
ส�ำคัญกับการทบทวนปรับวางกลยุทธ์ใหม่ ปรับโครงสร้างองค์กร
ปรับกระบวนการท�ำงาน ปรับวัฒนธรรมองค์กร สร้างตลาดใหม่
ทั้งนี้รวมถึงการวางแผนพัฒนาบุคลากร เพื่อตามให้ทันการ
เปลี่ยนแปลง เกิดความอยู่รอด และความได้เปรียบทางการแข่งขัน
ในยุคดิจิทัล
ในหลักสูตรดังกล่าวได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้มีชื่อเสียงและ
มีความเชี่ยวชาญร่วมให้ความรู้ ประกอบด้วย
• ดร.มนู อรดีดลเชษฐ์ : ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อ
เศรษฐกิจและสังคม
• รองศาสตราจารย์ ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ : ผู้อ�ำนวยการ สถาบัน
ไอเอ็มซี, ประธานกรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระ ธนาคาร
ธนชาต จ�ำกัด (มหาชน), ประธานกรรมการ บริษัท สยามอีสต์
โซลูชั่น จ�ำกัด (มหาชน), กรรมการอิสระ บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี
จ�ำกัด (มหาชน) และกรรมการอิสระ บริษัท ฮิวแมนีก้า จ�ำกัด
(มหาชน)
• อาจารย์ปริญญา หอมเอนก : ประธานและผู้ก่อตั้ง ACIS
Professional Center
• ดร.สินีนาถ ไพสิฏฐานันท์ : ผู้อ�ำนวยการส�ำนักกลยุทธ์และ
แผนงาน ธนาคารธนชาต จ�ำกัด (มหาชน)
• คุณปฐม อินทโรดม : กรรมการ Creative Digital Economy,
สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
• คุณธรรมนูญ เวชวิทยาขลัง : เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรม
เทคโนโลยีสารสนเทศไทย ATCI
• คุณศุภชัยสัจไพบูลย์กิจ:ประธานบริษัทOptimus(Thailand)
• อาจารย์เอกอนันต์ ทองแท้ : วิทยากรประจ�ำสถาบันไอเอ็มซี
• คุณสิทธิภรณ์ เมืองกลาง : กรรมการผู้จัดการ Industrial
Revolution Co.Ltd.
• คุณนรินทร์ฤทธิ์ เปรมอภิวัฒโนกุล : ผู้เชี่ยวชาญด้าน Crypto
currency Blockchain, ICO & Cybersecurity

11. IT NEWS | IT TRENDS 11
ส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.)
ร่วมกับ ส�ำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ประกาศความ
ส�ำเร็จผู้ประกอบการธุรกิจซอฟต์แวร์ไทยครองแชมป์ประเทศที่ได้
รับรอง CMMI มากสุดในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดงาน
มอบโล่แสดงความยินดี
จากความร่วมมือใน “โครงการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้รับ
มาตรฐานCMMI”ในปี2559-2561ที่สวทช.ร่วมกับdepaด�ำเนินการ
ขึ้นนั้น ล่าสุดได้ประกาศรายชื่อบริษัทที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน
สากล CMMI ในระดับต่างๆ รวมทั้งสิ้น 16 บริษัท
โครงการฯ มีเป้าหมายเพื่อเสริมแกร่งและสนับสนุนให้
ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยสามารถพัฒนาและสร้างสรรค์ผลงาน
ได้อย่างมีระบบ มาตรฐาน และประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมยกระดับ
ภาพลักษณ์ธุรกิจและอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยให้เป็นที่ยอมรับ
และเติบใหญ่ในตลาดระดับสากล
ดร.ฐิตาภา สมิตินนท์ รองผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานพัฒนา
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า กระทรวง
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
ประเทศไทย (ซอฟต์แวร์พาร์ค) และโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนา
เทคโนโลยีและนวัตกรรม(ITAP)ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ
และสังคม โดยส�ำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ให้ความ
ส�ำคัญกับการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยอย่าง
ต่อเนื่อง โดยริเริ่ม “โครงการสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจซอฟต์แวร์ใน
การปรับปรุงกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์(SPI@ease)”มาตั้งแต่ปี
พ.ศ. 2550 ซึ่งโครงการฯ ได้มีส่วนผลักดันให้ประเทศไทยมีบริษัท
สวทช. จับมือ ดีป้า ส่งเสริมผู้ประกอบการ
รับ CMMI มาตรฐานสากล 16 บริษัท
ซอฟต์แวร์ที่มีกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ตามมาตรฐานสากล
CMMI หรือ Capability Maturity Model Integration และผ่าน
การประเมินในระดับต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
มาตรฐาน CMMI จะช่วยให้ผู้ประกอบการก้าวตามความ
ต้องการของตลาดต่างประเทศได้ทัน เสริมความเข้มแข็งทางธุรกิจให้
ทัดเทียมนานาประเทศ ยกระดับภาพลักษณ์สินค้าและอุตสาหกรรม
ซอฟต์แวร์ไทยให้ก้าวขึ้นไปสู่การยอมรับในระดับสากล ทั้งนี้ สวทช.
ในฐานะหน่วยงานภาครัฐพร้อมที่จะส่งเสริมและผลักดันประเทศไทย
ให้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่สามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพออกสู่
ตลาดสากลในระดับเท่าเทียมกับนานาประเทศได้
โดยที่ผ่านมาโครงการฯสามารถผลักดันให้บริษัทซอฟต์แวร์ไทย
ได้รับการรับรอง CMMI แล้วสูงถึง 86 ราย จากจ�ำนวนบริษัททั้งสิ้น
ในประเทศไทยที่ได้รับการรับรอง150รายและพบว่าผลการประเมิน
มูลค่าทางเศรษฐกิจของบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการฯ
ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนร่วมในโครงการถึง 5 เท่า ก่อให้เกิด
ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและเงินไหลเวียนในภาคอุตสาหกรรมอย่างสูง
คุณสุวิภา วรรณสาธพ ผู้ช่วยผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานพัฒนา
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวเสริมว่า ส�ำหรับ
งานแสดงความยินดีแก่บริษัทผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยที่ผ่านการ
รับรองมาตรฐาน CMMI จ�ำนวน 16 บริษัท เป็นการแสดงถึงความ
ตั้งใจจริงของบริษัททุกรายที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ
ได้รับมาตรฐาน CMMI ในระหว่างปี 2559-2561 โดยโครงการฯ
สามารถผลักดันให้บริษัทซอฟต์แวร์ไทยได้รับการรับรองมาตรฐาน
CMMI ครองแชมป์อันดับ 1 ในอาเซียน ความส�ำเร็จของบริษัท
ซอฟต์แวร์ไทยดังกล่าวเป็นผลจากการด�ำเนินงานของโครงการที่
สวทช. และ depa ได้ด�ำเนินการขึ้น
โครงการฯ มีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า
ยกระดับกระบวนการผลิตซอฟต์แวร์ให้มีคุณภาพด้วยการท�ำงานที่มี
กระบวนการตามมาตรฐาน CMMI ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
และเป็นกลไกส�ำคัญที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพลดความเสี่ยงด้านการ
บริหารบุคลากร โดยท�ำงานร่วมกันเป็นทีมและสามารถเปลี่ยนถ่าย
งานภายในทีมงานได้ง่าย ท�ำให้สามารถส่งมอบงานที่มีคุณภาพได้
ครบถ้วนตรงตามก�ำหนดเวลา ภายใต้งบประมาณที่ก�ำหนด

12. IT TRENDS | IT NEWS12
ดร.สุรพงษ์ เลิศสิทธิชัย ผู้เชี่ยวชาญงานพิเศษ ฝ่ายส่งเสริม
อุตสาหกรรมดิจิทัล ส�ำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)
กล่าวว่าโครงการสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจซอฟต์แวร์ในการปรับปรุง
กระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ เป็นความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง
หลายปีระหว่างส�ำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และ
ส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
ซึ่งการด�ำเนินโครงการที่ผ่านมาในระยะเวลา 3 ปี (2559-2561) ได้
มุ่งเน้นส่งเสริมผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยในการปรับปรุง
กระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ และขอการรับรองมาตรฐาน CMMI
ทั้ง CMMI for development และ CMMI for services ในระดับ
ที่ 2 และ 3 เพื่อยกระดับและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและ
การส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทย
ท�ำการปรับปรุงกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยมาตรฐาน
CMMI® เพื่อพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์
(Software Products & Services) เป็นปัจจัยส�ำคัญที่จะช่วย
เสริมสร้างศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับ
ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ของไทย
การส่งเสริมและสนับสนุนการปรับปรุงกระบวนการพัฒนา
ซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่องของภาครัฐ นอกจากจะช่วยท�ำให้
ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยเข้มแข็ง ยังท�ำให้อุตสาหกรรม
ซอฟต์แวร์ของประเทศมีความแข็งแกร่งและสามารถเติบโตได้
อย่างยั่งยืนในเวทีซอฟต์แวร์ระดับโลกได้อีกด้วย
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นนี้ ส�ำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจ
ดิจิทัล (depa) และส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
แห่งชาติ(สวทช.)โดยโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและ
นวัตกรรม (ITAP) และเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย
(SWP)ได้ร่วมกันด�ำเนินโครงการ“โครงการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ
ได้รับมาตรฐาน CMMI®
(Capability Maturity Model
Integration Promotion Project)” เพื่อให้การสนับสนุน
ค่าใช้จ่ายบางส่วนแก่ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ในการปรับปรุง
กระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์และขอการรับรองมาตรฐานCMMI®
โดยมีบริษัทที่ได้รับการรับรอง 16 บริษัท ดังนี้
การบริหารจัดการคุณภาพซอฟต์แวร์ ตลอดจนการบริการด้าน
ซอฟต์แวร์ให้มีศักยภาพที่จะเติบโตและขยายกิจการเป็นที่ยอมรับใน
ระดับสากลได้
นอกจากนี้ โครงการฯ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาและสร้างบุคลากร
ของบริษัทที่เข้าร่วมโครงการให้มีความรู้ด้านกระบวนการพัฒนาและ
บริการซอฟต์แวร์ให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นด้วยซึ่งdepaพร้อมเป็นหนึ่ง
ในฟันเฟืองที่จะร่วมผลักดันให้เกิดการปรับปรุงกระบวนการพัฒนา
ซอฟต์แวร์ และบริการของบริษัทของผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทย
เพื่อให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของประเทศมีความเข้มแข็งและพร้อม
ที่จะเข้าสู่ตลาดซอฟต์แวร์ระดับสากลมากขึ้น
โครงการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้รับมาตรฐาน CMMI®
Capability Maturity Model Integration Promotion Project
CMMI-DEV v.1.3 Level 3
1 บริษัท บอสอัพ โซลูชั่น จ�ำกัด
2 บริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จ�ำกัด (มหาชน)
3 บริษัท เมอร์เคเทอร์ จ�ำกัด
4 บริษัท ฟีดแบค 180 จ�ำกัด
5 บริษัท วีพี แอดวานซ์ จ�ำกัด
6 บริษัท วีเจ้นซ์ จ�ำกัด
7 บริษัท กลุ่มแอดวานซ์ รีเสิร์ช จ�ำกัด
8 บริษัท อินโฟแมกซ์ ซิสเต็ม โซลูชั่นส์และบริการ จ�ำกัด
9 บริษัท เน็ตก้า ซิสเต็ม จ�ำกัด
10 บริษัท พรอมท์นาว จ�ำกัด
CMMI-SVC v.1.3 Level 3
11 บริษัท แอ็บสแตรค คอมพิวเตอร์ จ�ำกัด
12 บริษัท เด็พธเฟิร์สท จ�ำกัด
CMMI-SVC v.1.3 Level 2
13 บริษัท อีเว้นท์พาส (ประเทศไทย) จ�ำกัด
14 บริษัท สุวิเทค จ�ำกัด
CMMI-DEV v.1.3 Level 2
15 บริษัท บางกอก เพย์เมนต์ โซลูชันส์ จ�ำกัด
16 บริษัท วีพี แอดวานซ์ ดีเวลลอปเมนท์ จ�ำกัด

13. IT NEWS | IT TRENDS 13
เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์ Forbes ได้ลงบทความเกี่ยวกับ Top 10
Digital Transformation Trends For 2019 ซึ่งกล่าวถึงปัจจัยที่จะ
ท�ำให้องค์กรก้าวสู่การปรับเปลี่ยนองค์กรไปสู่ดิจิทัล หรือ Digital
Transformation ซึ่งเป็นเรื่องที่องค์กรธุรกิจทั่วโลกจ�ำนวนมากอยู่
ระหว่างการปรับตัว
โดย 10 แนวโน้มด้าน Digital Transformation ในปี 2019
ประกอบด้วย 1. 5G Fixed to 5G Mobile 2. Chatbots Good to
Great หากมองที่ประเทศไทย เรื่องนี้อยู่ในกระแสและน�ำไปใช้ใน
ระดับหนึ่งแล้วโดยเฉพาะการเข้าถึงและติดต่อลูกค้าผ่านสื่อออนไลน์
ต่างๆ 3. Connected Clouds (Public, Private, Hybrid) ส�ำหรับ
เรื่องที่สถานะของประเทศไทยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา องค์กรใช้งาน
มากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
Top 10
Digital Transformation Trends For 2019
4. Blockchain Finally Understood and Flops 5. Data
to Analytics to Machine Learning to AI ในเรื่องนี้เป็นที่น่าสนใจ
อย่างมากในประเทศไทยเพราะเป็นเกมต่อยอดธุรกิจที่จะสร้างความ
ได้เปรียบให้เร็วที่สุด 6. GDPR Forces Brand Hands 7. AR Yes,
VR (Still) No 8. Edge to Core and IoT Much More
9. Consumption-Based IT Services for the Win 10. CEOs
Take the Reigns
ในโอกาสนี้ขอขอบคุณข้อมูลจาก Forbes : https://www.
forbes.com/sites/danielnewman/2018/09/11/top-10-
digital-transformation-trends-for-2019/#3dd5a9c13c30
ท่านสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ดังกล่าว

14. ปัจจุบัน ซีเนียร์คอม มีโปรดักส์ 3 ส่วนหลัก คือ
1. DMS (Dealer Management System) โซลูชันส�ำหรับ
Car Maker
2. Hire Purchase ระบบเช่าซื้อ “H-Meter 25”
3. ERP ในชื่อ Fabrik ซอฟต์แวร์ด้านโรงงาน
คุณสมเกียรติ อึงอารี CEO บริษัท ซีเนียร์ คอม จ�ำกัด กล่าวว่า
ปีนี้บริษัทพัฒนาโปรดักส์ใหม่ เพื่อขยายตลาดไปยังลูกค้ารายใหม่
คือ Dealer Shop2S และ H-Meter 25 GO (Hire Purchase/Loan)
รับลูกค้ารายใหม่
ซีเนียร์ คอม พัฒนาซอฟต์แวร์ Dealer Shop 2S มีฟังก์ชันด้าน
Service และ Spare part ในการใช้งาน มีระบบเวิร์กโฟลว์ที่ตอบโจทย์
ศูนย์บริการซ่อมเร็ว โดย Quick Lane ผู้ให้บริการด้านยางและซ่อมเร็ว
ซึ่งจะเปิดตัวศูนย์บริการในประเทศไทยช่วงปลายปีนี้ และมีแผนขยาย
ธุรกิจทั่วประเทศไทย เลือกใช้ซอฟต์แวร์ Dealer Shop 2S และก�ำลัง
เจรจาเพื่อติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ให้ Quick Lane ในออสเตรเลีย
Quick Lane
เป็นศูนย์ยางและการซ่อมเร็วที่ทันสมัยจากฟอร์ดโกลบอล ที่
ด�ำเนินธุรกิจในหลายประเทศทั่วโลกมีแผนจะให้บริการซ่อมบ�ำรุงรถที่
ใช้ระบบไฟฟ้าหรือ EV ในอนาคต
บทบาท ATSI
คุณสมเกียรติ อึงอารี ยังสวมหมวกประธานคณะท�ำงานที่ปรึกษา
สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยหรือATSIเสนอมุมมอง500Enterprise
เป็นการรวมกลุ่มผู้ประกอบการ เพื่อผลักดันให้เกิดพลังขยายตลาดไปยัง
ต่างประเทศ โมเดล 500 Enterprise เกิดจากสมาชิก 100 รายใน ATSI
คัดรายชื่อลูกค้ารายใหญ่มาบริษัทละ 5 ราย ซึ่งจะท�ำให้มีลูกค้ารายใหญ่
ถึง 500 ลูกค้า เพื่อรวมกลุ่มขับเคลื่อนการขยายตลาดต่อไป
สร้างโปรดักส์ใหม่รับการเติบโต
25 ปี บนเส้นทางธุรกิจซอฟต์แวร์ยานยนต์ของ
บริษัท ซีเนียร์ คอม จ�ำกัด เติบโตต่อเนื่องมีลูกค้า
ทั้งรายใหญ่และรายใหม่ เป็นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง
นับเป็นผู้ประกอบการซอฟต์แวร์รายใหญ่รายหนึ่ง
ในประเทศไทยที่ประสบความส�ำเร็จ และได้รับการ
ยอมรับจากต่างชาติ เช่น ญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศ
มายาวนาน
ซีเนียร์ คอม นอกจากนี้ ซีเนียร์ คอม ยังพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยการเพิ่มความ
สามารถด้าน AI เข้าไปในโปรดักส์ เพื่อให้เรียนรู้พฤติกรรมหรือการตอบ
รับจากลูกค้าเมื่อเข้าใช้บริการ
เตรียมพัฒนาซอฟต์แวร์ด้าน H-Meter 25 GO (H/L)
Ver. P2P Lending
นอกจากนี้ ซีเนียร์ คอม ยังเตรียมเปิดตัวซอฟต์แวร์ใหม่ “P2P
Lending” ชื่อ H-Meter 25 GO ซึ่งพัฒนาบนเว็บแอปที่ดีไซน์
เป็นซอฟต์แวร์ด้านการลงทุนและกู้ยืม ระหว่างนักลงทุนและลูกค้า
กล่าวได้ว่า เป็นแอปด้าน B2B และ B2C ทางการเงิน โดยมีระบบลง
ทะเบียนเพื่อเข้าใช้งานทั้งนักลงทุนและลูกค้าผู้ลงทุนต้องได้รับการ
Verify เพื่อยืนยันการผ่านการตรวจสอบสถานะต่างๆ ทางการเงิน
สามารถเฉลี่ยงบลงทุนในระบบหรือเลือกลูกค้าได้ตามความสนใจ
ด้านลูกค้า มีระบบตรวจสอบข้อมูลเครดิตที่เป็นมาตรฐาน เช่น
ตรวจสอบจาก NCB เป็นต้น
คาดปี 2562 ผลประกอบการโต 50%
จากการพัฒนาโปรดักส์ใหม่ให้ลูกค้า ดังที่กล่าวมาซีเนียร์ คอม
คาดว่าปี 2562 จะมีอัตราการเติบโตราว 50% ซึ่งเป็นปีที่ได้รับผลจาก
ความมุ่งมั่นที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีลูกค้าเป้าหมายรายใหญ่ที่อยู่ระหว่างการ
เจรจา
ส่วนปี 2561 เมื่อจบปีเชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตราว 30%
เป็นผลจากซอฟต์แวร์ใหม่ ขณะที่การด�ำเนินธุรกิจในอนาคตต่อจากนี้
จะใช้กลยุทธ์ Strategic Partnership ต่อยอดโปรดักส์ เพื่อให้
พัฒนาได้รวดเร็วไม่ต้องเสียเวลาพัฒนาเองทั้งหมดซึ่งช้าและใช้
งบประมาณสูง
ใส่ AI-ROBOTICS
ลงซอฟต์แวร์
ก้าวล�้ำกว่า
เวอร์ชันหุ่นไล่กา
สมเกียรติ อึงอารี
IT TRENDS | INTERVIEW14

15. BIG DATA 2018: FROM HYPE TO REALITY
นับเป็นความส�ำเร็จอีกประการของสถาบัน
ไอเอ็มซีที่ได้จัดงานประจ�ำปีด้าน Big Data ครั้งใหญ่
ภายใต้ชื่อ“BigData2018:FromHypetoReality”
เมื่อวันที่ 10-11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมงาน
ราว 200 คน ภายในงานได้รับเกียรติจากวิทยากรมาก
ประสบการณ์จ�ำนวนมากร่วมบรรยาย
โดยองค์ประกอบของเนื้อหาสร้างความรู้ความ
เข้าใจอย่างถ่องแท้ตั้งแต่การเริ่มท�ำ Big Data วิธีการ
และข้อมูลที่ต้องค�ำนึงถึง ไปจนถึงแนวทางการท�ำ
Big Data ที่ได้ผ่านการปฏิบัติจริง และการน�ำข้อมูล
ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจ
ในโอกาสนี้นิตยสาร IT Trends จึงหยิบยกบางหัวข้อมาถ่ายทอด ประกอบด้วย Government Big Data 4.0 โดย ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด,
Big Data & AI : Future of Thailand โดย รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ และ Big Data Use Cases in Real Estate คุณโกเมษ จันทวิมล โดยมี
รายละเอียดต่อเนื่องจากนี้ไป
ชื่อวิทยากร
ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อ�ำนวยการ สํานักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
สพร. (DGA)
พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธาน กทค. และรองประธาน กสทช.
Ms.Tidaporn Santimanawong
ASEAN Director, Sales Consulting, Oracle Corporation
Mr.John f.x. Berns, Chief Data and Analytics Officer, Central group
ศ.ดร.ธนารักษ์ ธีระมั่นคง นายกสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย
ผศ.ดร.ภุชงค์ อุทโยภาศ รองอธิการบดีฝ่ายสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อ�ำนวยการ สถาบันไอเอ็มซี
คุณเอกอนันต์ ทองแท้ Senior Big Data Consultant สถาบันไอเอ็มซี
คุณศุภชัย สัจไพบูลย์กิจ
คณะกรรมการ Creative Digital Economy สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
Mr.Andrew Haschka, Director - Data Centre Virtualization,
Asia Pacific and Japan, VMware
คุณวีระศักดิ์ กฤษณประพันธ์ ผู้ช่วยผู้อํานวยการใหญ่ ฝ่ายสารสนเทศ
บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จํากัด (มหาชน)
คุณโกเมษ จันทวิมล Chief Data Strategist บริษัท แสนสิริ จ�ำกัด (มหาชน)
คุณสันติสุข ลิ้มปีติเจริญโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จ�ำกัด
คุณอนพัทย์ พิพัฒน์กิติบดี Technical Manager บริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จ�ำกัด
คุณพีรพัฒน์ อโศกธรรมรังสี Software Engineer บริษัท เอวาแอดไวเซอรี่ จ�ำกัด
คุณกิตติรักษ์ ม่วงมิ่งสุข นายกสมาคมศึกษาและพัฒนาโอเพ่นซอร์ส
ดร.ทนุสิทธิ์ สกุณวัฒน์ Operation Director Vintcom Technology Public
Co.,Ltd. & (CLM) Managing Director, Vintcom Myanmar
คุณวิชัย วรธานีวงศ์ ที่ปรึกษารายการทีวี ไอที 24 ชั่วโมง
หัวข้อการบรรยาย
Government Big Data 4.0
Big Data Impacts on Digital Transformation
Big Data Use Cases in ASEAN - Key Success or Failure
Factors
Big Data Use Cases in Retail Industry: Central group
Machine Learning in Practice
Big Data: Human Resources
Big Data & AI : Future of Thailand
Big Data Strategy Workshop
Introduction to Big Data Technology
Big Data Jumpstart on Cloud Workshop
Big Data Benefits for Network Infrastructure
BestPracticeofRunningBigDataSoftwareDefineData
Center (SDDC) and Hybrid Cloud Environment
Big Data use case in Healthcare
Big Data use case in Real Estate
PanelDiscussion:BigDataImplementationLessonLearn
Data Visualisation in Practice
Panel Discussion: Big Data Technology Comparison
Panel Discussion: Big Data Technology Comparison
PanelDiscussion:BigDataImplementationLessonLearn
PanelDiscussion:BigDataImplementationLessonLearn
วิทยากรและหัวข้อการบรรยาย ประกอบด้วย
การอบรมแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ด้านธุรกิจ เน้นการวางกลยุทธ์และแผนในการใช้
Big Data เพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจและด้านเทคนิค ลงลึกเครื่องมือ และเปรียบเทียบ
เทคโนโลยีในการท�ำ Big Data เช่น การพัฒนา Data Lake เป็นต้น
HOT ISSUE | IT TRENDS 15

16. GOVERNMENT BIG DATA 4.0
สํานักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. เมื่อย้ายมาอยู่ภายใต้
สังกัดส�ำนักนายกรัฐมนตรี มีภารกิจหลักด้านข้อมูลเพิ่มขึ้นอีกขั้น เพื่อพัฒนาให้
ประเทศไทยก้าวไปสู่รัฐบาลดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ ซึ่งมองในมุมการดูแลข้อมูลของ
รัฐบาล
ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อ�ำนวยการ สํานักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การ
มหาชน) สพร. (DGA) กล่าวถึง 3 ประเด็นหลักด้านข้อมูลของประเทศไทยทั้งเรื่อง
การเชื่อมโยงข้อมูลภาครัฐ การเปิดเผยข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูลของภาครัฐ
ซึ่งจะท�ำให้เกิดการพัฒนาประเทศในภาพรวม ทั้งด้านการบริการภาครัฐ ไปจนถึง
เกิดนวัตกรรมด้านข้อมูล
การเชื่อมโยงข้อมูลภาครัฐ
ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐมีการบูรณาการหรือเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานใน
รูปแบบของการท�ำ MOU ซึ่งเป็นการท�ำข้อตกลงในแต่ละโครงการ เนื่องจากยังไม่มี
กฎหมายที่เอื้อต่อการแลกเปลี่ยนข้อมูล แต่อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวอยู่
ระหว่างการด�ำเนินการ ซึ่งจะท�ำให้เกิดการบูรณาการข้อมูลระหว่างภาครัฐมีความ
คล่องตัวมากขึ้น ขั้นตอนการท�ำข้อตกลงหรือ MOU ต่างๆ จะหายไปส�ำหรับการ
เชื่อมโยงข้อมูลพื้นฐาน ซึ่งท�ำให้โครงการต่างๆ เกิดขึ้นได้ง่าย
OSSหรือ One Stop Services ซึ่ง
เป็นบริการภาครัฐ จะอ�ำนวย
ความสะดวกให้กับประชาชน
มีบริการต่างๆ ที่ท�ำได้ ณ จุดเดียว
ไม่ต้องติดต่อหน่วยงานหลายแห่ง
ในเรื่องเดียวกัน
OSSหรือOneStopServicesซึ่งเป็นบริการภาครัฐจะอ�ำนวยความสะดวก
ให้กับประชาชน มีบริการต่างๆ ที่ท�ำได้ ณ จุดเดียว ไม่ต้องติดต่อหน่วยงานหลาย
แห่งในเรื่องเดียวกัน
การเปิดเผยข้อมูล เกิดนวัตกรรมสร้างโอกาสทางธุรกิจ
Open Data หรือการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
และไม่ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลเป็นนโยบายที่รัฐมุ่งเน้นซึ่งผลประโยชน์ที่จะตามมา
เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลจะเกิดขึ้นมหาศาล ยกตัวอย่างเช่น หากเปิดเผยข้อมูลการ
ย้ายที่อยู่ของประชาชนนักพัฒนาสามารถน�ำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ศึกษาโครงสร้างต่างๆ
เพื่อใช้ในการด�ำเนินธุรกิจต่อไปได้
หากมีการเปิดเผยข้อมูล GPS ของรถโดยสารสาธารณะ และรถขนส่งสินค้า
ที่วิ่งอยู่ทั่วประเทศมากกว่า 4 แสนคัน ข้อมูลเหล่านี้สามารถน�ำไปวิเคราะห์
เพื่อสร้างนวัตกรรมหรือสร้างธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่อไปได้
ตัวอย่างที่กล่าวมานี้เป็นการน�ำข้อมูลที่เปิดเผยไป
ต่อยอดเชิงธุรกิจได้อีกมหาศาล
โดย Open Government Data เป็นส่วนหนึ่ง
ของการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลในระยะ 5 ปี
นอกจากนี้ยังมีประเด็นส�ำคัญเกี่ยวกับการ
เปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัล ซึ่งมีองค์ประกอบที่ส�ำคัญ
3 ประการ ได้แก่ 1. Digital ID เป็นเรื่องส�ำคัญที่
ประเทศไทยควรต้องพัฒนาไปตามแนวทางเดียวกับ
ทั่วโลก 2. PromptPay ประเทศไทยเดินหน้ามาใน
ระดับหนึ่ง เป็นกลไกในการขับเคลื่อนสังคมไปสู่ดิจิทัล
3.Dataกลยุทธ์หนึ่งคือการลดการใช้เอกสารกระดาษ
ดังที่มีประกาศยกเลิกการใช้ส�ำเนาบัตรประชาชน
เป็นต้น
IT TRENDS | HOT ISSUE16

17. การวิเคราะห์ข้อมูลของภาครัฐ
Government Big Data อีกภารกิจของ สพร. โดยผลักดันให้หน่วยงานรัฐ
ด�ำเนินการ ปัจจุบันมีการจัดท�ำ 10 ระบบข้อมูลซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของภาครัฐ
(ดังภาพประกอบ)
ส�ำหรับตัวอย่างแห่งความส�ำเร็จต่อการวิเคราะห์ข้อมูล หรือ Big Data Analytics
คือ คลังข้อมูลน�้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน�้ำและ
การเกษตร (องค์การมหาชน) (สสนก.) มีระบบแผนที่น�้ำที่แสดงข้อมูลสถานการณ์
น�้ำรายวัน สามารถติดตามได้ทั้งภัยแห้งและน�้ำท่วม สรุปสถานการณ์น�้ำของ
ประเทศไทยทั้งประเทศได้รายวัน เป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการน�้ำ รวมไปถึง
ใช้เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีความส�ำเร็จต่อการใช้ข้อมูลของ
กระทรวงสาธารณสุขด้านการใช้บริการและสิทธิของ
คนไทยทั่วประเทศข้อมูลรายได้จากการท่องเที่ยวของ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นต้น
ด้านการก�ำกับดูแลข้อมูล มีการก�ำหนดสิทธิ
หน้าที่ความรับผิดชอบ การบริหารจัดการข้อมูลให้
ครบถ้วนความถูกต้องเป็นปัจจุบันตลอดจนการรักษา
ความเป็นส่วนบุคคลและความปลอดภัย เพื่อใช้ข้อมูล
เป็นหลักในการขับเคลื่อนประเทศไทย
BIG DATA USE CASE IN REAL ESTATE
กรณีศึกษาจากแสนสิริ เป็นแนวทางในการสร้างคน และสร้างข้อมูลไป
พร้อมๆ กัน คุณโกเมษ จันทวิมล Chief Data Strategist บริษัท แสนสิริ จ�ำกัด
(มหาชน) กล่าวถึงกระบวนการของการท�ำ Big Data Analytics ในองค์กร ซึ่งเริ่ม
จากกลยุทธ์ขององค์กร การให้ความส�ำคัญของผู้บริหาร วิธีการพัฒนาบุคลากรและ
สร้างวัฒนธรรมในองค์กร โดยใช้ทฤษฎีให้คนในองค์กรใช้ข้อมูลและเกิดการสร้าง
มูลค่าจากข้อมูลด้วยคน 15% ของบุคลากรทั้งหมด จะท�ำให้องค์กรประสบความ
ส�ำเร็จต่อการทรานส์ฟอร์มได้อย่างรวดเร็ว
เป้าหมาย Digital Transformation
แสนสิริองค์กรที่ด�ำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์
ที่ดีไซน์ที่สวยงามพร้อมใช้งานได้จริง ใส่ใจในทุก
รายละเอียดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี พัฒนาและเลือกสรร
เทคโนโลยีล�้ำสมัยเพื่ออ�ำนวยความสะดวก รวมถึง
บริการที่ครบถ้วนเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี เป็น
“บ้านที่เติมเต็มทุกการใช้ชีวิต”
บนเส้นทางธุรกิจกว่า 30 ปี ด�ำเนินงานกว่า 300
โครงการ มีบ้านและคอนโดกว่า 80,000 แห่ง ปัจจุบัน
ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศหลายแห่ง แสนสิริ
ต้องการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า
ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์สู่ความส�ำเร็จของแสนสิริ คือ Digital
Transformationนโยบายที่ทีมผู้บริหารให้ความส�ำคัญ
มาก ซึ่งเกิดแนวคิดต่อการใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์
ต่อมาเกิดหน่วยงานที่ท�ำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลขึ้น
HOT ISSUE | IT TRENDS 17

18. คุณโกเมษมองว่าความท้าทายของการท�ำBigDataAnalyticsมีสองประเด็น
หลักคือ คน และ Data ซึ่งองค์กรจะต้องมีคนที่สามารถค้นหาสิ่งที่จะสร้างให้เป็น
มูลค่า หรือ Value ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ และองค์กรจะต้องมี Data จ�ำนวนมาก
ที่จะสามารถน�ำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้
สร้าง Data Team-Data Culture
เตรียมความพร้อม
คุณโกเมษให้ความส�ำคัญกับองค์ประกอบ4ประการที่จะท�ำให้แสนสิริสามารถ
ใช้กลยุทธ์ด้าน Data ในการขับเคลื่อนธุรกิจ คือ 1. The Right People เลือกคนที่
มีทัศนคติเชิงบวก พร้อมที่จะเรียนรู้ตลอดเวลา 2. The Right Focus องค์กรมีโฟกัส
ที่ชัดเจน และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้เกิดผลส�ำเร็จ 3. The Right Culture สร้างให้
คนในองค์กรมีกระบวนความคิดเกี่ยวกับการใช้ข้อมูล
และ Right Technology เลือกเครื่องมือที่เหมาะสม
กับธุรกิจและความต้องการ
สิ่งส�ำคัญคือ การสร้าง Data Team และ Data
Culture ซึ่งจะท�ำให้การขับเคลื่อนบรรลุสู่เป้าหมาย
Data Champion
วิธีการในการพัฒนาบุคลากรเพื่อให้ตระหนักถึง
การใช้ข้อมูลและการสร้างมูลค่าจากข้อมูลเกิดขึ้นใน
องค์กรนั้นแสนสิริได้จัดท�ำโครงการDataChampion
เป็นการอบรมที่ใช้เวลา 2 เดือน โดยใช้เวลา 10% ของ
เวลางาน ผู้ที่เข้าร่วมโครงการมาจากแผนกต่างๆ เช่น
ฝ่ายบุคคล ฝ่ายคอลเซ็นเตอร์ เป็นต้น
คุณโกเมษเล่าว่า เริ่มจากสอนให้คนที่เข้าร่วม
โครงการได้รู้จัก Big Data รู้จักการวิเคราะห์ข้อมูล
มีการแชร์ประสบการณ์จากกรณีศึกษาต่างๆและสอน
ให้รู้จักกระบวนการคิดด้านข้อมูลซึ่งสิ่งที่ส�ำคัญคือการ
ให้ลงมือปฏิบัติ เช่นการดึงข้อมูลจากโปรแกรม Excel
จากการจัดท�ำ Dashboard หรือข้อมูลเชิงสรุปที่ดู
ได้ง่าย
เมื่อได้เรียนรู้แล้ว จากนั้นให้ท�ำโครงการเพื่อ
น�ำเสนอต่อผู้บริหาร มีตัวแทนน�ำเสนองานต่อ CTO
และCFOขององค์กรมีการประกาศผู้ที่เป็นเดอะสตาร์
การท�ำโครงการ Data Champion ท�ำให้
แสนสิริได้ทีมนักวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มขึ้นอีก 35 คน
ที่ผ่านโครงการนี้ ทุกคนรู้และเข้าใจประโยชน์ของ
ข้อมูล เกิดการน�ำข้อมูลไปใช้ในการท�ำงาน และได้ท�ำ
โครงการ Data Champion รุ่นต่อไปบนเป้าหมาย
6 เดือนครั้ง
ทฤษฎี 15%
คุณโกเมษกล่าวว่าทฤษฎีของการพัฒนาบุคลากร
หรือ Data Team เพื่อให้คนในองค์กรใช้ข้อมูลและ
เกิดการสร้างมูลค่าจากข้อมูลด้วยคน 15% ของ
บุคลากรทั้งหมด จะกระตุ้นให้บุคลากรส่วนที่เหลือ
เรียนรู้ไปด้วย เป็นการสร้างวัฒนธรรมด้านการ
ใช้ข้อมูล วิธีการนี้จะท�ำให้องค์กรประสบความส�ำเร็จ
ต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กลายเป็นData-Driven
Organization ได้อย่างรวดเร็ว
IT TRENDS | HOT ISSUE18

19. BIG DATA & AI : FUTURE OF THAILAND
รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อ�ำนวยการ สถาบันไอเอ็มซี กล่าวในงานสัมมนาว่า
เมกะเทรนด์ที่จะเป็นหัวใจส�ำคัญในการพัฒนาประเทศของไทยมี2ด้านที่ทั้งภาครัฐ
และภาคธุรกิจต้องเร่งพัฒนา นั่นคือ Big Data และ AI
AI อนาคตของประเทศไทย
เรามักพบว่าอุปกรณ์ในปัจจุบันสามารถต่ออินเทอร์เน็ตได้ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า
ตู้เย็น ทีวี และอื่นๆ อีกมากมาย หรือแม้แต่แอร์ อุปกรณ์ต่างๆ ฝังเซนเซอร์เอาไว้
มีความสามารถในการรับและส่งข้อมูลขึ้นคลาวด์เพื่อน�ำไปประมวลได้ ยิ่งกว่านั้น
อุปกรณ์ต่างๆ มีความฉลาดมากขึ้นทุกวัน เพราะมีการเรียนรู้ด้วยตัวเองด้วยการ
ประมวลผลจากข้อมูลที่มี นั่นคืออุปกรณ์เหล่านั้นก�ำลังก้าวสู่ AI เป็นเทคโนโลยี
ขั้นสูงระดับ Deep Learning ซึ่ง AI ในปัจจุบันเก่งจนคนต้องกลัว เพราะสิ่งที่จะ
เกิดขึ้นคือการเข้ามาท�ำงานบางอย่างแทนคน
ความส�ำเร็จของบริษัทเหล่านี้เกิดจากการน�ำ
Data ไปวิเคราะห์ เช่น Netflix ใช้ข้อมูลการดูรายการ
ของลูกค้าน�ำมาศึกษาพฤติกรรมเพื่อจัดโปรโมต หรือ
แม้แต่การผลิตรายการต่างๆ ที่ลูกค้าชอบ
โดยข้อมูลที่เกิดขึ้นมหาศาลนั้นมีข้อมูลอยู่
2.7 ZetaBytes ทั่วโลก, Walmart ค้าปลีกรายใหญ่มี
ข้อมูลธุรกรรมลูกค้าชั่วโมงละ 1 ล้านครั้ง, มีข้อมูล
อัปโหลดขึ้น Facebook วันละ 100 TeraBytes
ทั้งนี้การแข่งขันในยุคปัจจุบันใช้ Data เป็นแต้มต่อ
ทางธุรกิจ
อาจปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยแห่งความส�ำเร็จของ
DigitalTransformationอยู่ที่การใช้BigDataซึ่งการ
ท�ำ Big Data ต้องเริ่มต้นด้วยการท�ำกลยุทธ์ด้านข้อมูล
ขององค์กร วางเป้าหมาย และพิจารณาว่าข้อมูลใดที่
จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายนั้น กล่าวคือ ไม่ได้เริ่มต้นที่
เทคโนโลยี หรือการลงทุนจ�ำนวนมาก โดยการเริ่มต้น
ท�ำ Big Data ที่ดีคือ คิดใหญ่ เริ่มจากเล็กๆ แต่ต้องท�ำ
อย่างรวดเร็ว
ข้อค�ำนึงของการท�ำ Big Data คือ ต้องท�ำให้เกิด
ความสมดุลระหว่างการน�ำด้วยเทคโนโลยีกับการน�ำ
ด้วยธุรกิจและไม่มีเทคโนโลยีใดที่ให้ค�ำนิยามBigData
ได้ ควรเลือกเทคโนโลยีที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ และ
BigDataคือโครงการระยะยาวที่ไม่ได้จบลงง่ายๆทั้งนี้
ต้องตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ด้วย
หากเปรียบเทียบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เสมือน
เป็นจรวด จะเห็นว่าการส่งจรวดขึ้นไปจ�ำเป็นต้องมี
เชื้อเพลิง ดังนั้น AI ก็จะต้องมี Big Data ด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันหุ่นยนต์เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ถูกพัฒนาให้ท�ำงานได้หลายด้านโดยการฝัง
AI เข้าไป ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2025 ทั่วโลกจะมีการใช้จ่ายด้านหุ่นยนต์มีมูลค่าสูง
ถึง 66.9 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่รถยนต์ไร้คนขับซึ่งฝังเทคโนโลยี AI ด้วยเช่นกัน
จะใช้งานในอเมริการาว 569,000 คันในปีเดียวกัน ซึ่งหมายถึงอนาคตอีกไม่นานนี้
ส�ำหรับประเทศไทยต้องกลับมามองยุทธศาตร์ด้าน AI ว่าจะท�ำอย่างไรเพื่อ
ก้าวให้ทันประเทศอื่นๆ ซึ่งควรจะต้องเริ่มจากการพัฒนาคนด้าน AI เป็นอันดับแรก
Big Data แต้มต่อทางธุรกิจ
หากกล่าวถึง Tech Company ในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก พบว่าบริษัทที่มี
เสน่ห์ที่สุดคือ FANG หมายถึง Facebook, Amazon, Netflix และ Google ต่างก็
เป็นบริษัทที่มีรากฐานมาจาก Data ทั้งสิ้น Google มี Data ใหญ่ที่สุดคือราว
15 ExaByte รองลงมาเป็น Amazon, Facebook และ Netflix โดย Google
มีการประมวลผลในแต่ละวันสูงถึง 100 PetaByte ซึ่งตัวเลขนี้เป็นข้อมูลตั้งแต่
ปี 2014
HOT ISSUE | IT TRENDS 19

20. การแข่งขันในมิติแห่งเทคโนโลยีระดับโลก กล่าวได้ว่า Silicon Valley เป็นแหล่งรวมนวัตกรรม
ชั้นน�ำจ�ำนวนมาก เมื่อถึงยุคนี้ที่จีนก�ำลังสร้างตัวตนทางเทคโนโลยี ชูธง 3 เมือง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้
และนานจิง ทุ่มงบมหาศาลในการสร้างเมืองวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ผลักดันด้วยมาตรการภาษี
ปั้นสตาร์ทอัพ พัฒนาบุคลากร กระทั่งถูกมองว่าจีนจะเป็น The New Silicon Valley หรือไม่ ?
ประเทศจีนบนเส้นทาง…
The New
Silicon Valley
IT TRENDS | SPECIAL REPORT20

21. บนเวทีการแข่งขันทางการค้าของสองยักษ์มหาอ�ำนาจอย่าง
สหรัฐอเมริกาและจีนคุกรุ่นขึ้นแล้ว ต่างฝ่ายต่างออกมาตรการทางการค้า
เพื่อสร้างกลไกตลาดที่จะเอาชนะกันให้ได้ ในขณะที่ด้านเทคโนโลยี
ก็มีการแข่งขันกันไม่น้อย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจีนมีความพยายามที่จะเป็นSiliconValley
แห่งใหม่ของโลกมาอย่างต่อเนื่องมีการสร้างเมืองนวัตกรรมด้วยการทุ่ม
งบประมาณมหาศาลที่เดินควบคู่กับนโยบายด้านภาษีด้านการสร้างคน
เปิดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน และน�ำไปสู่การสร้างนวัตกรรม ท�ำให้เกิด
เทคสตาร์ทอัพขึ้นจ�ำนวนมาก
จุดตั้งต้นที่เป็นทางลัดของจีนคือ นโยบายที่เปิดให้ต่างชาติเข้ามา
ลงทุน พร้อมกับการถ่ายทอดเทคโนโลยีในอดีตนับสิบๆ ปี วันนี้กลาย
เป็นแต้มต่อให้จีนคิดต่อยอดบนพื้นฐานทางเทคโนโลยีเหล่านั้น แต่หาก
จะเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกาที่บ่มเพาะSiliconValleyมานานอาจ
จะมองความได้เปรียบเสียเปรียบได้ในหลายแง่มุม
แต่ดูเหมือนว่าอเมริกาเคลื่อนไหวช้าเกินไป เพราะขณะนี้บริษัท
ยักษ์ใหญ่ของจีน 2 บริษัท คือ อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง และเทนเซ็นต์
โฮลดิ้ง ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุด 10 อันดับ
แรกของโลก ไล่หลังแอปเปิล อิงค์ และอเมซอนดอตคอม อิงค์ ที่น่ากลัว
คือ 3 ใน 4 ของบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดของโลก เป็นบริษัทของจีน น�ำโดย
แอ็นท์ไฟแนนเชียล(AntFinancial)(บริษัทแม่ของอาลีเพย์)ด้วยมูลค่า
บริษัท 150 พันล้านดอลลาร์
ปัจจัยหลักที่เอื้อหนุนให้จีนกลายเป็น
มหาอ�ำนาจใหม่ และก�ำลังสร้าง
SILICON VALLEY แห่งใหม่ของโลก
นั่นคือการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
กลยุทธ์จีนสร้าง New Silicon Valley
ปัจจัยหลักที่เอื้อหนุนให้จีนกลายเป็นมหาอ�ำนาจใหม่ และก�ำลัง
สร้าง Silicon Valley แห่งใหม่ของโลก นั่นคือการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
ทั้งในเชิงนโยบายที่เปิดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนและให้ถ่ายทอด
เทคโนโลยีที่จูงใจด้วยแรงงานราคาถูกเกิดขึ้นนับสิบปีก่อนตามที่เกริ่น
น�ำไว้แล้ว
นอกจากนี้ จีนยังมีนโยบายต่อเนื่องด้วยการลงทุนสร้างศูนย์
บ่มเพาะสตาร์ทอัพ ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมแห่งอนาคตใน
3 เมืองหลัก คือ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และนานจิง
ส่วนวิธีการดึงดูดให้คนจีนที่มีการศึกษาสูงเดินทางกลับมาท�ำงาน
ในประเทศมากขึ้นคือ การออกมาตรการด้านภาษีธุรกิจภาษีส่วนบุคคล
ของแรงงานไฮเทค ซึ่งนับว่าได้ผลเพราะคนกลุ่มนี้มุ่งหน้ากลับประเทศ
สูงขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา
photo : freepik.com
photo : www.freepik.com
SPECIAL REPORT | IT TRENDS 21

22. photo : wikimedia.org
เซี่ยงไฮ้ สร้างแวลูเชนเชิงนวัตกรรม
ในขณะที่เซี่ยงไฮ้ เมืองศูนย์กลางความเจริญของจีน มีจ้านเจียง
ไฮเทค พาร์ค (Zhangjiang Hi-Tech Park) ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่เดือน
กรกฎาคม ปี 2535 ตั้งอยู่ในเขตเมืองใหม่ Pudong มีเนื้อที่ 25 ตาราง
กิโลเมตร แบ่งออกเป็นหลายโซน เช่น โซนนวัตกรรมด้านเทคนิค โซน
อุตสาหกรรมไฮเทค โซนวิจัยและการศึกษา โซนที่อยู่อาศัย
ต่อมาในปี 2542 คณะกรรมการเทศบาลเซี่ยงไฮ้ และรัฐบาล
ได้ตัดสินใจวางกลยุทธ์ให้โฟกัสเมืองจ้านเจียง และประกาศให้
เขตอุตสาหกรรมจ้านเจียงสร้างความเป็นผู้น�ำในอุตสาหกรรมด้าน
ต่างๆ ประกอบด้วย วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ ชีวการแพทย์
เพื่อสร้างให้จ้านเจียงเป็นศูนย์นวัตกรรมอย่างเต็มรูปแบบ และสร้าง
ผู้ประกอบการสายพันธุ์ใหม่ที่จะท�ำให้เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนา
อย่างรวดเร็ว
จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจ้านเจียงพาร์คได้สร้างแวลูเชนด้าน
นวัตกรรมเช่นแวลูเชนนวัตกรรมด้านชีวการแพทย์วงจรอิเล็กทรอนิกส์
และซอฟต์แวร์ โดยปัจจุบันมีศูนย์ต่างๆ เกิดขึ้นจ�ำนวนมาก ประกอบ
ด้วย ศูนย์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและวิทยาศาตร์ชีวการแพทย์แห่ง
เซี่ยงไฮ้,ศูนย์อุตสาหกรรมสารสนเทศแห่งชาติ(NationalInformation
Industry Base), ศูนย์อุตสาหกรรมวงจรอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ
(National Integrated Circuit Industry Base), ศูนย์อุตสาหกรรม
เซมิคอนดักเตอร์ระบบแสงสว่างแห่งชาติ (National Semiconductor
Lighting Industry Base), ศูนย์อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ
(National Software Industry Base), ศูนย์ส่งออกซอฟต์แวร์แห่งชาติ
(National Software Export Base), ศูนย์บ่มเพาะอุตสาหกรรมโมเดล
เบส (National Cultural Industry Model Base), ศูนย์พัฒนา
อุตสาหกรรมเกมออนไลน์และแอนิเมชั่นแห่งชาติ (National Online
Games and Animation Industry Development Base) และ
ศูนย์ต่างๆ
ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จีนทุ่มทุนหลายพันล้าน
ดอลลาร์ในการยกเครื่องอุตสาหกรรมการผลิต อีกทั้งยังสร้างศูนย์
เทคโนโลยีที่มุ่งเน้นลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพียง
อย่างเดียว ด้วยเงินลงทุน 2.1 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ในประเทศจีนยังมีเทคโซนมากถึง156แห่งทั่วประเทศ
ซึ่งด�ำเนินการและสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานเหมือนที่ท�ำในเมืองใหญ่
เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมไฮเทค และจัดเป็นนโยบายระดับชาติ โดย
รัฐบาลกลางของจีนได้ออกนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจทั้งในระดับเมือง
และระดับท้องถิ่น ตัวอย่างเช่น สนับสนุนช่วยเหลือค่าเช่า มาตรการ
ปลอดภาษี และการคืนเงินภาษีให้กับผู้ท�ำงานในเทคโซน
3 เมืองยุทธศาสตร์แหล่งผุดไฮเทค
ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และนานจิง เป็นเมืองยุทธศาสตร์ในการสร้าง
อุตสาหกรรมไฮเทคที่รัฐบาลปลุกปั้นเป็นเมืองหัวหอก
ปักกิ่ง สร้างคน
มีศูนย์ทดลองเทคโนโลยีใหม่หลายแห่งตัวอย่างเช่นเขตศูนย์กลาง
ทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์จงกวนชุน (Zhongguancun Science
Park) หรือ Z-Park ซึ่งนับว่าเป็น Silicon Valley แห่งแรกในจีน โดย
รัฐบาลลงทุนสร้างด้วยงบประมาณ 36 ล้านดอลลาร์ในปี 2013 และ
กลายเป็นแหล่งที่มีเงินลงทุนจากนักลงทุนเข้ามาเฉพาะที่ Z-Park เพียง
แห่งเดียวถึง 17% จากแหล่งเงินลงทุนทั้งหมดที่เข้ามาในจีน
ในกรุงปักกิ่งมีมหาวิทยาลัย32แห่งและห้องทดลองวิทยาศาสตร์
84 แห่ง หนึ่งในนั้นเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลกอย่างมหาวิทยาลัย
ชิงหัว (Tshinghua University) ซึ่งเป็นหัวแรงหลักอีกแห่งในการปลุกปั้น
นวัตกรรม ด้วยการก่อตั้ง ชิงหัว เอ็กซ์ แล็บ (Tshinghua x Lab) ซึ่งเป็น
ศูนย์ทดลองนวัตกรรมให้กับนักศึกษา และเรียกได้ว่าประสบความ
ส�ำเร็จเป็นอย่างดี หลังก่อตั้งศูนย์นี้เพียง 18 เดือน มีสตาร์ทอัพเกิดขึ้น
400 ราย และยังคงสามารถด�ำเนินกิจการอยู่ 300 ราย และ 30 ราย
สามารถระดมทุนจากนักลงทุนต่างชาติได้
photo : www.researchgate.net
เขตศูนย์กลางทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์จงกวนชุน ซึ่งนับว่าเป็น Silicon Valley แห่งแรกในจีน
จ้านเจียง ไฮเทค พาร์ค (Zhangjiang Hi-Tech Park) ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2535
ตั้งอยู่ในเขตเมืองใหม่ Pudong มีเนื้อที่ 25 ตารางกิโลเมตร
IT TRENDS | SPECIAL REPORT22