นิตยสาร Digital Trends Vol 4. No. 13 ของ IMC Institute

1. AI
2019
70% AI
eMagazine by IMC Institute
นิตยสารยุคดิจิทัล ราย 4 เดือน VOL.4 NO.13 SEPTEMBER-DECEMBER 2019
20
Building the Infrastructure
of the Digital Economy
25
“ - ”
phphootooto : ff: anjanjanjianiannhuahu // frefreepiepikk
นิตยสาร IT Trends เปลี่ยนชื่อเป็น Digital Trends eMagazine by IMC Institute

2. App-focused Management
ใน vSphere Environment เราสามารถ vMotion, Snapshot, จัดการหรือ
จ�ำกัดทรัพยากร CPU, Memory, เข้ารหัส Virtual Machine หรือ ท�ำการ Snapshot,
สร้างStoragePoliciesของVMได้แต่ส�ำหรับModernApplicationนั้นไม่ได้มีลักษณะ
เหมือนกันกับ 1 VM แต่ในความจริงอาจจะอยู่ใน VM หลายสิบ VM ก็เป็นได้
ProjectPacificได้น�ำรูปแบบการจัดการของKubernetesมาประยุกต์ใช้งานบน
vSphere เพื่อให้สามารถจัดการทรัพยากรรูปแบบ Namespace ทั้งในส่วนของ
Container,VM,Diskและอื่นๆหมายความว่าAdminสามารถบริหารจัดการทรัพยากร
ที่เกี่ยวข้องกับ Modern Application ได้ทั้งหมดโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มอื่นเลย
ทั้งยังคงความสามารถของ vSphere Environment ในส่วนของการจองทรัพยากร,
vMotion, การเข้ารหัส, HA และ Snapshot
Modern Application
เมื่อองค์กรต้องการพัฒนา Modern Application สิ่งแรกที่มองหาคือ
การเลือกใช้แพลตฟอร์มที่สามารถตอบโจทย์ได้ ซึ่งในปัจจุบันคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า
Container และ Kubernetes ได้รับความนิยมสูง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยง
การใช้ Legacy Application และ Application ที่ไม่ซัพพอร์ต Containerization ได้
ซึ่งแพลตฟอร์มปัจจุบันไม่สามารถรองรับลักษณะการท�ำงานทุกรูปแบบได้ใน
แพลตฟอร์มเดียว จึงกลายเป็นการสร้างความซับซ้อนให้กับการบริหารจัดการระบบ
มากขึ้น
Project Pacific เป็นการ Re-architecture ของ vSphere โดยการใส่ Kubernetes API เข้าไปใน Control Plane ของ vSphere ท�ำให้ Developer สามารถจัดการ
vSphere Service ได้ผ่าน Kubernetes Configuration File Format ในส่วนของ IT Admin, Project Pacific ยังสามารถบริหารจัดการได้เหมือนปกติ
Project Pacific เกิดขึ้นมาด้วยแนวคิดที่ต้องการให้ผู้ใช้สามารถบริหารจัดการ Modern Application บน vSphere Platform ได้ด้วยเครื่องมือที่บุคลากรในองค์กร
มีความคุ้นเคย
Project Pacific เป็นส่วนหนึ่งของ Project Tanzu ที่ทาง VMware ต้องการสร้างเฟรมเวิร์กส�ำหรับการพัฒนา Modern Application ซึ่งในส่วนของ Project Pacific
เป็นในส่วนของแพลตฟอร์มที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของทั้งฝั่ง Developer และ Operation ได้เพื่อสะดวกในการสร้างและดูแล Services Workload ในทุกความต้องการ
Kubernetes as a Platform
ProjectPacificท�ำให้ฝั่งDevOpsAdminสามารถใช้งานKubernetesYAML
File Format ผ่าน Tool Kubectl ที่ใช้ในการบริหารจัดการ Kubernetes Cluster เพื่อ
บริหารจัดการทรัพยากรใน vSphere Environment ซึ่งไม่ใช่เฉพาะ Container เท่านั้น
ยังรวมทั้ง การจัดการ VM, Function และ 3rd Parties Service อีกด้วย
ส�ำหรับProjectPacificนี้ได้ท�ำการเพิ่มประสิทธิภาพและการเข้าถึงสองประการ
ให้กับผู้ดูแลระบบ (VI Admin)
Project Pacific

3. Supervisor Clusters
ในแต่ละ ESXi ทาง VMware ได้ท�ำการปรับปรุง kubelet หรือ Kubernetes
Worker Agent และได้ท�ำการเปลี่ยนชื่อเป็น Spherelet ติดตั้งลงบน ESXi เพื่อให้
vSphere ESXi เป็น Worker Node ของ Kubernetes โดย Spherelet นี้ท�ำงานอยู่ใน
ระดับ Kernel ของ ESXi โดย Kubernetes Cluster ที่ท�ำงานบน ESXi แทน Linux นี้
เรียกว่า Supervisor Cluster
ESXi Native Pods
การใช้งาน Workload โดย Deploy ผ่าน Supervisor รวมทั้ง Pods (กลุ่มของ
Container ที่รันบน Kubernetes Cluster) จะท�ำงานแยกจาก VM บน ESXi
Hypervisor โดยทาง VMware ได้พัฒนา Container Engine ที่เรียกว่า CRX ขึ้นมา
โดยCRXนั้นจะท�ำงานบนVMและมีLinuxKernelผ่านการOptimizeเพื่อให้สามารถ
ท�ำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากการทดสอบสามารถรองรับการท�ำงานแบบ Container ได้มากกว่า 1000
Pods ต่อ ESXi Host และเมื่อท�ำการทดสอบด้วย Java Benchmark พบว่าสามารถ
รองรับ Throughput ได้มากกว่า Pods ที่ติดตั้งบน Virtual Machine ทั่วไป 30%
และ มากกว่า Pods ที่ติดตั้งแบบ Bare-metal 8%
Virtual Machines
Supervisor ยังรองรับการบริหารจัดการ Virtual Machine ท�ำให้สามารถ
ปรับแต่งค่าต่างๆ ของ Virtual Machine และสามารถ Deploy ผ่าน API ด้วย
Kubernetes YAML File Format
Guest Clusters
ถึงแม้ Supervisor Cluster จะประกอบด้วยส่วนของ Kubernetes แต่ก็เพื่อ
เพิ่มความสามารถของ vSphere Cluster เท่านั้น บางความสามารถของ Kubernetes
จึงไม่สามารถใช้งานได้อย่างอิสระทั้งหมด
VMware จึงพัฒนา Guest Cluster ขึ้นมาเพื่อให้สามารถสร้าง Kubernetes
Cluster ซึ่งถูกติดตั้งบน Virtual Machine และสามารถท�ำงานร่วมกับ Supervisor ได้
โดย Guest Cluster นี้สามารถ Deploy ได้จาก Console ของ vCenter และมีความ
สามารถในการใช้งานได้เทียบเท่า Kubernetes Cluster ทั่วไป
Guest Cluster ใน vSphere สนับสนุนโดย Open Source Cluster API
Project เพื่อให้สามารถจัดการในส่วนของ Lifecycle Management (Patching,
Upgrade)
ประการแรกคือ ท�ำให้สามารถจัดการได้ถึงในระดับ Application และสามารถ
บริหารจัดการทรัพยากรในปริมาณครั้งละมากๆ โดยจัดการผ่าน Namespace
ประการต่อมาคือท�ำให้Developerสามารถใช้งานทรัพยากรได้อย่างรวดเร็วตาม
ความต้องการ โดยยังถูกก�ำหนดสิทธิ์ต่างๆผ่านPoliciesที่ถูกก�ำหนดไว้ในNamespace
A Kubernetes Native vSphere Platform
ดังที่กล่าวมาข้างต้น Project Pacific ท�ำการปรับปรุง vSphere ใช้งาน
Kubernetes ได้ในระดับเดียวกันกับ VM เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และเพื่อให้รองรับ
ความต้องการของ Users ที่เปลี่ยนไป
Container Registry
การใช้งาน Container ยังมีส่วนประกอบที่ส�ำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือ Container
Registry เพื่อท�ำการเก็บ Container Image ซึ่งใน Project Pacific ผู้ใช้งานสามารถ
Enable ขึ้นมาใช้งานได้จากหน้า vCenter Console.
Ref.https://blogs.vmware.com/vsphere/2019/08/project-pacific-
technical-overview.html
photo : www.freepik.com
photo : www.freepik.com

4. Gartner Top 10 Strategic Technology Trends ประกาศออกมา
ทุกๆ ปีในช่วงเดือนตุลาคม เป็นแนวโน้มที่กล่าวถึงเทคโนโลยีที่จะมีผลต่อ
องค์กรธุรกิจ โดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้แนวโน้ม
ต่างๆไม่ได้จ�ำกัดอยู่ในวงขององค์กรธุรกิจเท่านั้นแต่คืบเข้าไปยังบุคคลมากขึ้น
นับตั้งแต่ยุค BYOD การใช้อุปกรณ์ส่วนตัวในการท�ำงาน
เมื่อมาถึงวันนี้กล่าวได้ว่าเทคโนโลยีเข้ามาเป็นองค์ประกอบส�ำคัญในชีวิต
ประจ�ำวัน ซึ่ง Top 10 Strategic Technology Trends 2020 ล่าสุดที่
Gartner ประกาศออกมานั้น ได้จัดกลุ่มเป็น 2 ส่วนหลัก นั่นก็คือ People
CentricและSmartSpaceเป็นความชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเส้นแบ่งทางเทคโนโลยี
ระหว่างเทคโนโลยีส�ำหรับองค์กรและเทคโนโลยีส�ำหรับการใช้งานส่วนบุคคล
ค่อยๆ เลือนลางลงไปอีก
ฝั่ง People Centric มี 5 แนวโน้มคือ Hyperautomation,
Multiexperience, Democratization, Human Augmentation และ
Transparency and Traceability
ฝั่ง Smart Space มี 5 แนวโน้ม ดังนี้ The Empowered Edge,
The Distributed Cloud, Autonomous Things, Practical Blockchain
และ AI Security
AI เป็นเทคโนโลยีตัวอย่างหนึ่งที่เข้ามาถึงตัวบุคคล (ไม่ได้ใช้งานอยู่ใน
องค์กรเท่านั้น) ซึ่งในบทบรรณาธิการของ IT Trends ฉบับที่แล้วก็ได้เขียนถึง
AI ก�ำลังถูกพัฒนาให้เก่งขึ้น และต่อไปจะเก่งเหนือมนุษย์ในหลายๆ เรื่อง และ
ที่ต้องจับตามองคือ การน�ำสมองคนเชื่อมกับ AI เมื่อถึงยุคนั้นทั้งคนและ
เทคโนโลยีจะแยกกันไม่ออก
นิตยสารDigitalTrendsซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจากITTrends(eMagazine
by IMC Institute) น�ำเสนอผลส�ำรวจการประยุกต์ใช้งาน AI ในองค์กร
ประเทศไทย 2019 ซึ่งทางสถาบันไอเอ็มซีได้ด�ำเนินการส�ำรวจเมื่อช่วงเดือน
กันยายนที่ผ่านมา (แต่ผลส�ำรวจไม่ได้เกี่ยวกับการใช้งานส่วนบุคคล) พบกว่า
70% รับรู้ว่า AI ส่งผลให้อุตสาหกรรมในธุรกิจเปลี่ยนแปลง และในจ�ำนวนที่
ตอบแบบสอบถามมีองค์กรราว10%ที่ใช้งานAIแล้วซึ่งส่วนใหญ่ท�ำChatbot
ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงถึง 60% รองลงมาใช้ RPA (Robot Process Automation)
ราว 49% นับว่าเป็นไปตามแนวทางเดียวกับกระแสโลกจากผลส�ำรวจของ
Gartner เมื่อต้นปีเช่นกัน โดยด้านที่มีสัดส่วนใช้ AI สูงคือ Chatbot และ
Process Optimisation
ผลส�ำรวจของประเทศไทยมีรายละเอียดต่างๆ อยู่ใน Digital Trends
(eMagazine by IMC Institute) ฉบับนี้ ซึ่งท่านสามารถอ่านได้ทั้งในรูปเล่ม
บนกระดาษ และ eBook ที่ http://www.imcinstitute.com/index.php/
research-menu/e-magazine
EDITOR NOTE
นัยนา แย้มอรุณ
บรรณาธิการ
IMC NEWS
IT NEWS
INTERVIEW
SPECIAL REPORT
ผลส�ำรวจการประยุกต์ใช้งาน AI
ในองค์กรประเทศไทย 2019
DIGITAL TRANSFORMATION
Building the infrastructure of
the Digital Economy
KNOWLEDGE VANTAGE
พร้อมรับปรับใช้ Blockchain
Data Privacy Law ภาคธุรกิจพร้อมหรือยัง?
INSTRUCTOR
รู้-ปฏิบัติ DATA SCIENCE
หนึ่งในหนทาง DIGITAL TRANSFORMATION
INNOVATION CORNER
โชว์ “นวัตกรรม-เอไอ” ผู้ค้าอาหาร รับสังคมดิจิทัล
นวัตกรรมหนุนอาชีพขายหมูปิ้ง
“รถเข็นหมูปิ้ง-รถเข็นผลไม้” ไฮเทค
อาหารสะอาด ปลอดภัย
TRAINING
IMC UPCOMING COURSES
5
9
13
16
20
23
32
34
37
39
นิตยสารยุคดิจิทัล ราย 4 เดือน
VOL.4 NO.13 SEPTEMBER-DECEMBER 2019
CONTENTS
AI
2019
70% AI
eMagazine by IMC Institute
นิตยสารยุคดิจิทัล ราย 4 เดือน VOL.4 NO.13 SEPTEMBER-DECEMBER 2019
20
Building the Infrastructure
of the Digital Economy
25
“ - ”
phphootooto : ff: anjanjanjianiannhuahu // frefreepiepikk
นิตยสาร IT Trends เปลี่ยนชื่อเป็น Digital Trends eMagazine by IMC Institute
เทคโนโลยีละลายเส้นแบ่งเวลา
photo : fanjianhua / freepik

5. IMC NEWS | DIGITAL TRENDS 5
AI for Everyone
อบรม Big Data 120 ชั่วโมง
หลักสูตร Big Data Certification
120 ชั่วโมง ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
ซึ่งสถาบันไอเอ็มซีได้จัดอบรมหลายรุ่นในช่วง
หลายปีที่ผ่านมา ท�ำให้ผู้ผ่านการอบรมสามารถ
วางแผนการออกแบบ Big Data Infrastructure
ในองค์กรได้เรียนรู้การใช้งานเทคโนโลยีHadoop
และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องต่างๆ เรียนรู้การใช้
Big Data as a Service บน Cloud Platform
รวมทั้งเรียนรู้หลักการของ Data Science และ
อัลกอริทึมในการพยากรณ์ข้อมูลต่างๆ เรียนรู้
Deep Learning และรู้จักเครื่องมือในการท�ำ
Data Visualization อย่าง Tableau
โดยหลักสูตรนี้มีการบรรยายเพียง 30%
และปฏิบัติการ 70% มีการท�ำ Hand-on Lab
ติดตั้งระบบจริง ท�ำเวิร์กชอป Mini-Project
ทางด้าน Data Science
เมื่อเร็วๆ นี้สถาบันไอเอ็มซีได้จัดอบรมหลักสูตร AI for Everyone มีเนื้อหาเกี่ยวกับ AI, Machine Learning, Deep Learning, Data
Science ตลอดจนการประยุกต์ใช้งาน AI ด้านต่างๆ ทั้ง Computer Vision, Speech, Natural Language Processing และ Robotics
พร้อมทั้งสาธิตการใช้งานจากอุปกรณ์และแอปพลิเคชัน รวมทั้งเครื่องมือต่างๆ ในการท�ำ AI อีกทั้งเรียนรู้แนวทางการเปลี่ยนแปลงองค์กรให้
เข้าสู่ AI Company และการพัฒนา Data Strategy
หลักสูตรใช้เวลาในการอบรม2วันบรรยายโดยรศ.ดร.ธนชาตินุ่มนนท์ผู้อ�ำนวยการสถาบันไอเอ็มซีซึ่งท�ำให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้มีแนวทาง
การท�ำ AI Pilot Project ในองค์กร

6. DIGITAL TRENDS | IMC NEWS6
หลักสูตร Cloud Computing สำ�หรับผู้บริหาร
การออกแบบ Reactive Microservices
หลักสูตร Reactive Microservices Design มุ่งเน้นถึงการออกแบบ Microservices ตามแนวคิด Reactive System ซึ่งท�ำให้แต่ละ
Module นั้นแยกออกจากกันอย่างอิสระ และสื่อสารกันด้วย Event ซึ่งใน Module แต่ละส่วนสามารถเลือกตอบสนองกับ Event ต่างๆ ใน
รูปแบบ Asynchronous ท�ำให้แต่ละ Module ไม่จ�ำเป็นต้องรอซึ่งกันและกัน หรือเป็นอิสระต่อกันทั้งในด้าน Source Code และในด้านการ
เรียกใช้ระหว่างกัน ดังนั้นการขยาย Module จึงไม่ต้องยึดติดซึ่งกันและกัน โดยผลที่ได้คือความยืดหยุ่นในการเพิ่ม-ลด Module (Elasticity)
และการ Recover ปัญหาภายใน Module ที่ไม่กระทบกับ Module อื่นๆ
หลักสูตร Practical Cloud Computing for Management
ได้รับการออกแบบเพื่อผู้บริหารไอทีที่มีความสนใจศึกษาแนวทางการ
พัฒนา Cloud Computing และต้องการที่จะเรียนรู้หลักการการให้
บริการ Cloud ทั้งส่วนที่เป็น IaaS, PaaS และ SaaS การวางแผน
การเข้าสู่ระบบ Cloud ขององค์กร หลักการด้านความปลอดภัย
รวมถึงตัวอย่างการประยุกต์ใช้ของหน่วยงานต่างๆ
ใช้เวลาในการอบรม3วันซึ่งผู้ร่วมคอร์สจะได้เรียนรู้ภาคทฤษฎี
และปฏิบัติ รวมทั้งมีการจัดกลุ่มอภิปรายกรณีศึกษาของหน่วยงานที่
ต้องการพัฒนาระบบCloudComputingมีการบรรยายจากวิทยากร
จากภาคอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่ประสบความส�ำเร็จในการ
พัฒนามาแล้ว

7. IMC NEWS | DIGITAL TRENDS 7
อบรม Big Data สำ�หรับนักพัฒนา
Basic Software Testing
Big Data Analytics as a Services for
Developer เป็นหลักสูตรที่สอนหลักการและ
ปฏิบัติการด้าน Big Data Analytics โดยใช้ Public
Cloud อย่าง Google Cloud Platform ผู้เรียน
สามารถกลับไปท�ำงานในหน่วยงานและสามารถ
ปฏิบัติได้จริง โดยองค์กรเริ่มท�ำ Big Data Project
ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายมากนัก ไม่จ�ำเป็นต้องลงทุนติดตั้ง
IT Infrastructure หรือติดตั้ง Hadoop Cluster
ผู้เรียนจะได้เรียนรู้หลักการของBigDataasaService
และเครื่องมือต่างๆ เช่น Cloud Storage, Hadoop
as a Service อย่าง DataProc และการใช้เครื่องมือ
วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่อย่าง Hive, Spark และ
Google BigQuery
หลักสูตรนี้บรรยายโดยผู้มีประสบการณ์สูงได้แก่
รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ และคุณเอกอนันต์ ทองแท้
เป็นต้น ใช้เวลาในการอบรม 3 วัน
Basic Software Testing มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทดสอบ
และควบคุมคุณภาพซอฟต์แวร์ ซึ่งได้สร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เข้าอบรม
และเข้าใจถึงแนวคิดและความส�ำคัญของการทดสอบระบบงาน
ทั่วไป รวมถึงขั้นตอนต่างๆ ทั้งการวางแผน การจัดท�ำกรณีทดสอบ
การเตรียมข้อมูลและอุปกรณ์ระบบต่างๆ รวมถึงแนวทางในการ
ท�ำการทดสอบ เทคนิคการวิเคราะห์ผลและการจัดท�ำรายงาน
โดยจะเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ตรงที่ได้จากการท�ำงานจริง
ทั้งในเชิงทฤษฎีและเชิงปฏิบัติเพื่อให้ผู้เรียนสามารถน�ำไปประยุกต์
ใช้ได้ต่อไป
ผู้อบรมเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามกระบวนการต่างๆ ทุก
ขั้นตอนได้อย่างถูกต้อง เข้าใจพื้นฐานในการท�ำงานทดสอบระบบ
เบื้องต้น และสามารถพัฒนาตนเองไปสู่การจัดการและการวิเคราะห์
ทดสอบในระดับสูงต่อไป

8. DIGITAL TRENDS | IMC NEWS8
Project Management Essentials
กลยุทธ์ในการขับเคลื่อน Digital Transformation
DigitalTransformationStrategyforManagementsถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มความรู้ความเข้าใจและสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้บริหาร
องค์กร เพื่อให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในโลกดิจิทัล รับรู้ถึงแนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ ทั้งที่ก�ำลังจะ
เข้ามา Disrupt การท�ำธุรกิจ และช่วยสร้างมูลค่าในการท�ำธุรกิจ อีกทั้งขยายความรู้ด้วยนโยบายและกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เรียนรู้จาก
กรณีศึกษาส�ำคัญซึ่งเป็นบทเรียนที่เป็นประโยชน์ต่อการประยุกต์ใช้เพื่อการตั้งรับกับการเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิทัล ที่ส�ำคัญยังท�ำให้ผู้บริหาร
สามารถก�ำหนดทิศทางวางแผนการสร้างกลยุทธ์ด้านดิจิทัลให้กับองค์กร การสร้างวัฒนธรรมและการพัฒนาบุคลากรซึ่งเป็นรากฐานที่ส�ำคัญ
ทั้งนี้ในหลักสูตรมีเวิร์กชอปเชิงปฏิบัติเพื่อให้ผ่านประสบการณ์จริง
หลักสูตร Project Management Essentials น�ำเสนอ
ข้อมูลพื้นฐานที่จ�ำเป็นเกี่ยวกับการจัดการโครงการ เพื่อเข้าใจ
วิธีการเริ่มต้นโครงการการวางแผนและกิจกรรมการด�ำเนินการ
เพื่อให้โครงการประสบความส�ำเร็จบรรยายโดยอ.ปิยะชิวชรัตน์
ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการท�ำงานจริงมาแล้ว และพร้อมจะน�ำ
ประสบการณ์มาถ่ายทอด เผยแพร่ความรู้ในแง่มุมต่างๆ ให้แก่
ผู้เข้ารับการอบรม
ผู้เข้าอบรมได้แก่ผู้ที่มีหน้าที่ในการวางแผนงาน ผู้จัดการ
โครงการรองผู้จัดการโครงการตลอดจนผู้ประสานงานโครงการ
นักวิเคราะห์ ผู้สนับสนุนโครงการ เป็นต้น ผู้เข้ารับการอบรมได้
เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการโครงการ ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึง
ภาพรวมของการจัดการโครงการองค์ความรู้ (PMBOK)
กระบวนการบริหารโครงการ เพื่อให้ด�ำเนินโครงการไปสู่
ความส�ำเร็จ

9. IT NEWS | DIGITAL TRENDS 9
รายงานข่าวแจ้งว่า ส�ำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การ
มหาชน) หรือ NIA ร่วมกับบริษัท เนสท์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จ�ำกัด
ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน และบริษัท
สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จ�ำกัด เปิดตัวโครงการบ่มเพาะ
สตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมการเกษตรระดับนานาชาติ หรือ AGrowth
ครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนธุรกิจ
และผู้ประกอบการจากทั่วโลกในการส่งผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี
อันทันสมัยที่จะขับเคลื่อนไปสู่ผลลัพธ์เชิงบวกต่ออนาคตของ
อุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศไทย
นอกจากนี้ NIA และหน่วยงานพันธมิตรได้ร่วมกันพัฒนา 10
สตาร์ทอัพจาก 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินเดีย ไนจีเรีย และ
ออสเตรเลีย ให้มีการเติบโตทั้งในด้านช่องทางการขยายธุรกิจ
การตลาดและน�ำโซลูชันมาทดลองและแก้ปัญหาจริงให้กับเกษตรกร
ที่อยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ พัฒนา
ให้เป็น “เกษตรอัจฉริยะ”
ดร.พันธุ์อาจชัยรัตน์ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
(องค์การมหาชน) กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตผลผลิต
ทางการเกษตรที่ส�ำคัญของโลก สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้
หลายแสนล้านบาทต่อปี จึงนับว่ามีบทบาทส�ำคัญในการขับเคลื่อน
เศรษฐกิจไทย และยังสร้างให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกมากมาย
รัฐบาลจึงมีนโยบายเกษตร 4.0 ที่เน้นการบริหารจัดการโดยใช้
เทคโนโลยี เช่น การน�ำข้อมูลสภาพภูมิอากาศมาวิเคราะห์โดยอาศัย
NIA มุ่งพัฒนา “เกษตรอัจฉริยะ”
เซนเซอร์ในรูปแบบต่างๆ และประมวลผลเพื่อให้เกษตรกรสามารถ
บริหารการเกษตรให้สอดคล้องกับพื้นที่และสภาพอากาศให้ได้มากที่สุด
NIA จึงได้จัดตั้งศูนย์สร้างสรรค์ธุรกิจนวัตกรรมการเกษตร
(Agro Business Creative Center; ABC Center) ซึ่งเป็นศูนย์ความ
เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการเกษตรที่มุ่งเน้นส่งเสริมศักยภาพและ
ยกระดับภาคการเกษตรของประเทศ โดยมีเป้าหมายส�ำคัญในการ
พลิกโฉมการเกษตรของไทย 5 ด้าน ดังภาพประกอบ
5 ปัจจัย พลิกโฉมการเกษตรของไทย
1. ด้านเทคโนโลยี เปลี่ยนจากเกษตรที่ใช้แรงงาน พึ่งพาฤดูกาล เป็นการใช้
เทคโนโลยีต่างๆ มาควบคุม และปรับปรุงระบบเกษตรให้แม่นย�ำมากขึ้น
2. ด้านเศรษฐกิจการเปลี่ยนจากการเกษตรที่ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลางในการผลิต
และการขาย เป็นการสร้างเกษตรที่เกิดรายได้ในตัวเอง
3. ด้านการตลาด เปลี่ยนจากตลาดการเกษตรเป็นแบบเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะ
กลุ่มทุนขนาดใหญ่มาสู่ตลาดที่กระจายแบบเท่าเทียมกัน
4. ด้านสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย มาใช้ให้คุ้มค่า เช่น
การเพาะปลูกในระบบปิดที่มีการประหยัดน�้ำมากกว่าร้อยละ 95
5. ด้านการวางต�ำแหน่ง เปลี่ยนจากผู้ตามเป็นผู้น�ำ ประเทศไทยมีความพร้อม
และการเกษตรที่หลากหลาย ถ้าเราสามารถน�ำเทคโนโลยีและนวัตกรรมไป
ประยุกต์ใช้ได้ เราจะเป็นผู้น�ำทางการเกษตร เหมือนอย่างประเทศต่างๆ เช่น
เนเธอร์แลนด์ อิสราเอล
photo : freepik.com

10. DIGITAL TRENDS | IT NEWS10
ดร.พันธุ์อาจ กล่าวเพิ่มเติมว่า การร่วมมือกับผู้ประกอบการ
ต่างๆ ในการด�ำเนินงานโครงการ “AGrowth” เพื่อสร้างวิสาหกิจ
เริ่มต้นด้านการเกษตรระดับนานาชาติ(GlobalAgTechAcceleration
Program : AGrowth) เป็นหนึ่งในโครงการเพื่อพัฒนาสตาร์ทอัพ
ด้านการเกษตรหรือAgTechStartupให้มีความพร้อมและศักยภาพ
ในเชิงพาณิชย์ สามารถพัฒนาแผนธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการ
ของตลาดได้อย่างเป็นรูปธรรมและเป็นไปได้จริง และสามารถขยายผล
ไปสู่ตลาดระดับสากลได้
ทั้งนี้ NIA จะมีบทบาทในการเป็นตัวกลางที่จะเชื่อมประสาน
ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเร่งให้เกิดระบบนิเวศที่
เอื้อต่อการสร้าง AgTech Startup ที่เหมาะสมกับประเทศไทย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามามีส่วนร่วมของบริษัทขนาดใหญ่ หรือ
องค์กรที่ประสบความส�ำเร็จในการแชร์ประสบการณ์เพื่อน�ำรูปแบบ
ด�ำเนินงานของ AgTech Startup มาใช้แก้ไขปัญหาในแนวทาง
ใหม่ๆ เพื่อให้เกิดการพลิกโฉมภาคการเกษตรของประเทศไทยขึ้น
อย่างยั่งยืน
ในการด�ำเนินโครงการดังกล่าว NIA และหน่วยงานพันธมิตร
จะร่วมกันพัฒนา 10 สตาร์ทอัพจาก 5 ประเทศ ได้แก่ Evergrow,
GetzTrac, Fresh Produce Kings จากประเทศไทย Agrisource
Data, Pola Drone, Plant Cartridge จากประเทศมาเลเซีย
Ubreath, Cropin จากอินเดีย Hello Tractor จากไนจีเรีย และ
Food Cube จากออสเตรเลีย ให้มีการเติบโตทั้งในด้านช่องทางการ
ขยายธุรกิจ การตลาด และน�ำโซลูชันที่สตาร์ทอัพแต่ละรายมีอยู่
มาทดลองและแก้ปัญหาจริงให้กับเกษตรกรที่อยู่ตามพื้นที่ต่างๆ
ในประเทศไทยให้ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะเกิดประโยชน์และได้
ผลลัพธ์เชิงบวกในหลากหลายมิติ ทั้งศักยภาพของสตาร์ทอัพที่จะมี
ความเข้มแข็งและมีความพร้อมในการเดินหน้าธุรกิจมากขึ้น
เกษตรกรได้รับการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด เป็นแรงบันดาลใจให้เกิด
จ�ำนวนธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเกษตรมากขึ้นในประเทศไทย ตลอด
จนท�ำให้ภาคการเกษตรเห็นความส�ำคัญในการผันตัวไปสู่การเป็น
“เกษตรอัจฉริยะ” ในอนาคต
ด้าน มร. ลอเรนซ์ มอร์แกน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท เนสท์ กรุ๊ป จ�ำกัด กล่าวว่า โครงการ AGrowth สามารถ
ช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมการเกษตรซึ่งจะส่งผลในวงกว้าง
ต่อประเทศไทยและทั่วโลก ในฐานะที่โครงการนี้เป็นโครงการ
นวัตกรรมการเกษตรโครงการแรกของประเทศไทย เรามีความยินดี
เป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับภาครัฐ องค์กรระหว่างประเทศ และ
ภาคเอกชนที่เล็งเห็นถึงความส�ำคัญของนวัตกรรมในการช่วย
แก้ไขปัญหาในอุตสาหกรรมการเกษตร ผู้เข้าร่วมโครงการ AGrowth
จะได้รับค�ำชี้แนะในระหว่างที่สร้างและพัฒนาธุรกิจของตนให้
เติบโตจากผู้ช�ำนาญการของ NIA และเนสท์ ตลอดจนจากองค์กร
พันธมิตร
ขณะที่ นายสมศักดิ์ มาอุทธรณ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่
อาวุโส บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จ�ำกัด กล่าวว่า คูโบต้า
มุ่งมั่นที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอาหาร น�้ำ และสิ่งแวดล้อม
เราพร้อมที่จะน้อมรับนโยบายรัฐเพื่อน�ำพาอุตสาหกรรมการเกษตร
ของไทยไปสู่ยุค 4.0 เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสร่วมมือกับ
องค์กรพันธมิตรในการขับเคลื่อนนวัตกรรมสู่อุตสาหกรรมที่ต้องการ
เทคโนโลยีใหม่ เราหวังว่าโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ AGrowth จะ
ช่วยพัฒนาความคิดและนวัตกรรมการเกษตร เพื่อที่จะสามารถ
ทดลองใช้เทคโนโลยี และน�ำไปสู่การพลิกโฉมของอุตสาหกรรม
การเกษตรของประเทศไทย และประเทศในกลุ่มอาเซียนเพื่อการ
พัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืน
รองศาสตราจารย์ ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษา
ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน กล่าวว่า นวัตกรรมเป็นสาระ
ส�ำคัญของสิ่งที่เราปฏิบัติ และเราจึงเห็นด้วยอย่างยิ่งกับพันธกิจของ
โครงการ AGrowth โดยเฉพาะการเกษตรในเมืองมีส่วนส�ำคัญใน
การช่วยเหลือการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน และเปิดโอกาสให้ธุรกิจ
สตาร์ทอัพเปลี่ยนแปลงระบบห่วงโซ่อุปทานอาหารในพื้นที่ท้องถิ่น
เราเล็งเห็นโอกาสในการร่วมมือกับธุรกิจสตาร์ทอัพในการทดสอบ
และค้นหาความเป็นไปได้ในการน�ำเทคโนโลยีการเกษตรในเมืองมา
ใช้ปฏิบัติในประเทศไทย
ตลอดระยะเวลา 12 สัปดาห์ในการเข้าร่วมโครงการนี้ ผู้เข้า
ร่วมโครงการสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการท�ำตลาดในประเทศไทย
และเปิดช่องทางธุรกิจใหม่ รวมทั้งน�ำเสนอนวัตกรรมของตนแก่
บริษัท/องค์กรทางการเกษตรอีกด้วย

11. IT NEWS | DIGITAL TRENDS 11
ส�ำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า จัดอบรม
หลักสูตรผู้น�ำยุคใหม่เพื่อการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Young Digital
CEO) รุ่นที่ 1 ซึ่งมีผู้ผ่านการอบรม 65 คน โดยได้รับเกียรติจาก
นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ
และสังคม กล่าวแสดงความยินดี
“ผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้น�ำยุคใหม่เพื่อการส่งเสริมเศรษฐกิจ
ดิจิทัลล้วนเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่เล็งเห็นความส�ำคัญในการเตรียม
ความพร้อมสู่สังคมเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งถือเป็นก�ำลังส�ำคัญที่จะช่วย
ขับเคลื่อนองค์กร สังคม และประเทศไทยเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
อย่างเต็มรูปแบบ และหวังว่าทุกคนจะน�ำความรู้และประสบการณ์
ที่ได้รับจากการอบรมครั้งนี้มาปรับใช้ เผยแพร่ และต่อยอด เพื่อ
เป็นการแลกเปลี่ยน ช่วยเหลือ ตลอดจนพัฒนาสังคมเศรษฐกิจไทย
สู่ยุคดิจิทัลในที่สุด”
ดร.กษิติธร ภูภราดัย รองผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานส่งเสริม
เศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า ในการอบรมได้แบ่งกลุ่มน�ำเสนอ
ผลงานวิชาการ ในหัวข้อต่างๆ ประกอบด้วย 1. Digital Economy
การพัฒนา Digital Enterprises & Start up เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ
โรงพยาบาลชลบุรีร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยยกระดับบริการ
สู่ Smart Hospital พัฒนาแอป CBH PLUS ชูจุดเด่น เชื่อมต่อกับ
ฐานข้อมูลของส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
ให้ผู้ป่วยเช็กสิทธิ์รักษาพยาบาล 3 กองทุน ทั้งบัตรทอง ประกันสังคม
และสวัสดิการข้าราชการ ผ่านแอปได้เองเป็นครั้งแรกของไทย
โดยการใช้งานมีระบบระเบียนสุขภาพส่วนบุคคลอิเล็กทรอนิกส์
ให้เข้าถึงประวัติทางการแพทย์ได้ทุกที่ทุกเวลาระบบจองคิวที่อัปเดต
สถานะแบบเรียลไทม์ ลดเวลารอคิวพบแพทย์ รับยา พร้อมฟังก์ชัน
ช�ำระเงินผ่านแอปได้ทั้งบัตรเครดิตและเดบิต
CBH PLUS เป็นแอปที่ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการได้สะดวกยิ่ง
ขึ้น รองรับผู้ป่วยนอกของรพ.ชลบุรี ที่มีจ�ำนวนเฉลี่ยมากกว่า 4,000
รายต่อวันและขยายการเชื่อมต่อครอบคลุมทุกโรงพยาบาลทั่วชลบุรี
ฟังก์ชันการใช้งานที่ส�ำคัญ ได้แก่
-ตรวจสอบสิทธิ์การรักษาพยาบาลทั้ง3กองทุนให้ผู้ป่วยสามารถ
ท�ำผ่านแอปได้เอง จึงลดขั้นตอนและเวลาในการเข้ามาติดต่อ
โรงพยาบาลเพื่อเช็กสิทธิ์เป็นแอปพลิเคชันโรงพยาบาลแห่งแรกที่ท�ำได้
Young Digital CEO) รุ่นที่ 1
โรงพยาบาลชลบุรี เปิดระบบให้บริการผ่านแอป
ดร.กษิติธร ภูภราดัย นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย และ ดร.รัฐศาสตร์ กรสูต รองผู้อ�ำนวยการ ดีป้า
ในฐานะผู้อ�ำนวยการหลักสูตรผู้น�ำยุคใหม่เพื่อการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (จากซ้ายไปขวา)
2. Digital Society การส่งเสริม Digital Community & Social
DigitalInnovationในภาคสังคมและชุมชน3.DigitalTransformation
การสร้างให้เกิด Digital Ecosystem เพื่อผู้ประกอบการ 4. Digital
Manpower การส่งเสริมและพัฒนา Digital Manpower
ของประเทศ โดยในการน�ำเสนอผลงานวิชาการมีผู้ทรงคุณวุฒิใน
แวดวงธุรกิจร่วมรับฟัง พร้อมให้ค�ำแนะน�ำผลงานของแต่ละกลุ่ม
- ระบบระเบียนสุขภาพส่วนบุคคลอิเล็กทรอนิกส์ (Personal
Health Record: PHR) ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงข้อมูลทางการ
แพทย์ของตัวเองได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งในเฟสแรกจะแสดงข้อมูล 4 ด้าน
ได้แก่การนัดหมายพบแพทย์ประวัติการแพ้ยาประวัติการรับยาและ
ผลแลปทั้งนี้จะพัฒนาเพิ่มข้อมูลมากขึ้นในอนาคตโดยคาดว่าจะเสร็จ
สมบูรณ์ในปี 2563
-เช็กอิน-รับบัตรคิวผู้ป่วยสามารถท�ำได้ด้วยตนเองผ่านแอปทั้งหมด
-แจ้งเตือนนัดหมายพบแพทย์ระบบจะแจ้งล่วงหน้าก่อนถึงวัน
นัดหมาย และในวันนัด
CBH PLUS จะช่วยยกระดับการให้บริการ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้
แก่คนไทย พร้อมส่งเสริมการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล

12. DIGITAL TRENDS | IT NEWS12
ในงาน Thai GIS User Conference 2019 หรือ TUC 2019
ซึ่งจัดโดย บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จ�ำกัด ในกลุ่มบริษัทซีดีจี
น�ำเสนอสาระส�ำคัญเกี่ยวกับการน�ำเทคโนโลยี GIS มาช่วยขับเคลื่อน
และเปลี่ยนแปลงประเทศรอบด้านเพื่อฝ่าคลื่น Digital Disruption
โชว์ประเด็นหลักเรื่องโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ (Geospatial
Infrastructure) กุญแจส�ำคัญในการพัฒนาประเทศ ด้วยการ
ประยุกต์เทคโนโลยี GIS กับโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งภาคอุตสาหกรรม
การเกษตรกรรม การคมนาคม การสื่อสารโครงข่ายโทรคมนาคม
ระบบสาธารณูปโภคและระบบสาธารณสุข สอดรับแผนพัฒนา
โครงสร้างพื้นฐานระดับประเทศด้วยแพลตฟอร์ม ArcGIS ที่จะมีส่วน
ช่วยในการท�ำงานทุกหน่วยงาน ตั้งแต่การวางแผน วิเคราะห์ และ
แก้ไขปัญหาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการภาครัฐยกระดับ
ความมั่นคงและคุณภาพชีวิตของประชาชน ลดความเหลื่อมล�้ำและ
เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ
นางสาวธนพร ฐิติสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ
(ประเทศไทย) จ�ำกัด เปิดเผยว่า ด้วยกระแสการเปลี่ยนแปลงที่
รวดเร็ว โลกจึงต้องการเครื่องมือหรือระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ชาญ
ฉลาดเข้ามาเป็นตัวช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นภายในงานThai
GIS User Conference 2019 หรือ TUC 2019 ได้โชว์เทคโนโลยี
GIS ที่ใช้เพื่อการพัฒนาประเทศในภาพรวม สามารถน�ำไปใช้ได้ทั้ง
กับหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน เพื่อมุ่งขับเคลื่อนและ
เปลี่ยนแปลงประเทศฝ่าคลื่น Digital Disruption
GeospatialInfrastructure(จีโอสปาเชียลอินฟราสตรัคเจอร์)
ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลเชิงภูมิสารสนเทศ พื้นฐานการ
พัฒนาประเทศรอบด้าน เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยส�ำคัญในการ
พัฒนาประเทศ ซึ่งสนับสนุน Smart City, Indoor Positioning and
Mapping เช่น การใช้โดรนเพื่อการท�ำแผนที่ภายในอาคาร แผนที่
ภูมิประเทศ อุโมงค์ ถ�้ำ หรือในช่องต่างๆ โดยเริ่มมีให้เห็นในต่าง
ประเทศ และ Data Creation, Maintenance and Management
หรือการบูรณาการข้อมูลทางเศรษฐกิจ และข้อมูลทางสารสนเทศที่
ล้วนจะเข้ามามีผลต่อทุกภาคอุตสาหกรรมต่อไปจากนี้
ปัจจุบันเทรนด์การพัฒนาประเทศในภาพรวมจะโฟกัสไปที่
Geospatial Infrastructure หรือระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล
เชิงภูมิสารสนเทศ เป็นการประยุกต์เทคโนโลยีระบบ GIS หรือระบบ
ภูมิสารสนเทศ เข้ามาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ มีการท�ำ
นางสาวธนพร ฐิติสวัสดิ์
ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จ�ำกัด
Data Science หรือวิทยาศาสตร์ข้อมูล ซึ่งเป็นการน�ำความรู้ด้าน
วิทยาการคอมพิวเตอร์ ข้อมูลทางคณิตศาสตร์ สถิติ และวิทยาการ
ความรู้ต่างๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ จากนั้นน�ำข้อมูลวิเคราะห์มา
แสดงผลเป็น Dashboard ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องการระบบการตอบสนอง
ที่รวดเร็วพร้อมใช้งาน สามารถน�ำเทคโนโลยี GIS ผนวกกับโครงสร้าง
พื้นฐานซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ
นางสาวธนพรกล่าวเพิ่มเติมว่า อีเอสอาร์ไอได้พัฒนาโซลูชัน
ของ ArcGIS เพื่อให้ผู้ใช้งานน�ำไปประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนการ
ท�ำงานภายในองค์กรตั้งแต่การวางแผนวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา
เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจและลงมือท�ำงานอย่างเป็นระบบถูกต้อง
และแม่นย�ำมีการเชื่อมโยงและแสดงผลแบบเรียลไทม์โดยใช้ข้อมูล
พื้นที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงระบบไว้ด้วยกัน และสามารถ
ตอบสนองผู้ใช้งานที่หลากหลาย ส�ำหรับผู้ที่ต้องการใช้งาน
locationหรือแผนที่ในแบบง่ายๆพร้อมใช้เพื่อท�ำแผนที่ออนไลน์
หรือการวิเคราะห์ท�ำเลที่ตั้ง (location analytics) สามารถใช้
ArcGISที่มาพร้อมกับแอปพลิเคชันพร้อมใช้งานหลายรูปแบบตาม
ความต้องการ
Geospatial Infrastructure
กุญแจส�ำคัญในการพัฒนาประเทศ

13. สร้างวัฒนธรรมด้านนวัตกรรม
ทำ�ได้ง่ายสไตล์ AWS
โดย AWS ร่วมกับพันธมิตรในการให้ความช่วยเหลือลูกค้าเพื่อ
ปฏิรูปหรือทรานส์ฟอร์มธุรกิจด้วยการน�ำเทคโนโลยีทางด้านคลาวด์เข้า
มาใช้งาน เพื่อปรับการด�ำเนินธุรกิจให้ก้าวหน้าทันกับยุคดิจิทัล รวมไป
ถึงก้าวทันเกมการแข่งขันที่รูปแบบเปลี่ยนไปจากเดิม
ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ ผู้จัดการประจ�ำประเทศไทย บริษัท
อเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จ�ำกัด กล่าวว่า วิสัยทัศน์ใน
การสนับสนุนลูกค้ามาจากพันธกิจของ Amazon คือ “เราต้องการเป็น
บริษัทที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ในการให้บริการ
มากที่สุดในโลก”ยิ่งกว่านั้นยังมีแนวคิดในการด�ำเนินธุรกิจด้วยการเป็น
องค์กรที่มีวัฒนธรรมด้านนวัตกรรม หรือ Culture of Innovation
โดยในทุกๆ วันมีนวัตกรรมออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
4 ปีต่อการดำ�เนินธุรกิจในประเทศไทยของบริษัท อเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำ�กัด หรือ AWS
บริษัทในเครือ Amazon.com ปัจจุบัน AWS ในประเทศไทยมีลูกค้าทั้งที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาด
กลางและขนาดย่อม รวมถึงสตาร์ทอัพ และพันธมิตรที่แข็งแรงประสบความสำ�เร็จจากการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ
ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายในการผลักดันการขับเคลื่อนนวัตกรรม เพื่อรองรับการปรับตัวทางธุรกิจในยุค
ดิจิทัลดิสรัปชัน (Digital Disruption) ที่ภาคธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ในประเทศไทยกำ�ลังเผชิญ
และต้องการปรับตัวให้ก้าวข้ามไปสู่การเติบโตบนโลกดิจิทัลอย่างสมบูรณ์
ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์
AWS มีภารกิจในการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้าและ
ผู้ใช้งานโดยการน�ำเสนอแพลตฟอร์มและบริการที่หลากหลายบนคลาวด์
ซึ่งลูกค้าแต่ละรายสามารถน�ำไปใช้งานได้ในทันที อีกทั้งยังสามารถน�ำไป
ต่อยอดความคิดเพื่อสร้างนวัตกรรมของตนเองได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
“หลักการในการสร้างนวัตกรรมของ Amazon คือเกิดจากความคิด
ของลูกค้าหรือกระบวนการท�ำงานแบบย้อนกลับ(WorkingBackward)
จากนั้นน�ำมาสร้างเป็นนวัตกรรม โดยการท�ำเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วน�ำมา
ต่อกันเสมือนเลโก้ท�ำให้ลูกค้าสามารถน�ำไปต่อยอดสร้างเป็นนวัตกรรม
ต่อไปได้” ดร.ชวพล กล่าว
กุญแจสร้างวัฒนธรรมด้านนวัตกรรม
Amazon มีวัฒนธรรมด้านนวัตกรรม ประกอบด้วยกุญแจหลัก
4 ส่วน คือ 1. ความคลั่งไคล้ในลูกค้า ซึ่งลูกค้าจะถูกเสมอและส�ำคัญ
ที่สุด 2. การคิดระยะยาว มุมมองระยะยาวจะท�ำให้บรรลุถึงวิสัยทัศน์
และความส�ำเร็จในที่สุด 3. ความตั้งใจในการคิดค้น โดยยอมรับความ
ล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้น และเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ไปสู่เป้าหมาย เพราะ
คนที่ไม่เคยล้มเหลวคือคนที่ไม่เคยลงมือท�ำ 4. เต็มใจที่จะถูกเข้าใจผิด
เมื่อท�ำสิ่งที่แปลกใหม่อาจท�ำให้หลายฝ่ายเข้าใจผิดและคิดว่าเป็นไป
ไม่ได้
Amazon มีกระบวนการสร้างนวัตกรรมให้เกิดขึ้นทุกวันโดย
อาศัยวิธีการ 4 ส่วน ประกอบด้วย 1. วิธีการ (Mechanisms)
กระบวนการท�ำงานแบบย้อนกลับเริ่มจากการเขียนข่าวประชาสัมพันธ์
จากเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ไตร่ตรองมาเพื่อสร้างนวัตกรรม
2. สถาปัตยกรรม (Architecture) การออกแบบเครื่องมือที่ไม่ต่างจาก
เลโก้สามารถน�ำไปต่อยอดในการสร้างนวัตกรรม 3. วัฒนธรรม
(Culture) หลักการชี้น�ำในการปฏิบัติที่สร้างขึ้นจากทุกกระบวนการ
ท�ำงาน 4. องค์กร (Organization) การจัดทีมท�ำงานให้มีไม่เกิน 10 คน
หรือที่เรียกว่าทีมพิซซ่า 2 ถาด
INTERVIEW | DIGITAL TRENDS 13

14. Day 1 ทำ�ทุกวันให้เป็นวันแรกที่เริ่มต้นธุรกิจ
จากจดหมายของ เจฟฟ์ เบซอส ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน
เจ้าหน้าที่บริหาร Amazon.com Inc ถึงผู้ถือหุ้น เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า
AWS จะเติบโตบนแนวคิดด้านนวัตกรรมต่อไป ด้วยค�ำกล่าวที่ว่า
“การสร้างสรรค์เกิดขึ้นได้หลากหลายรูปแบบและมีผลลัพธ์หลายระดับ
แต่การสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่และมีผลในการเปลี่ยนแปลงได้มากที่สุด
คือการสร้างสิ่งที่สามารถเป็นพลังให้กับผู้อื่นในการต่อยอดความคิดเพื่อ
การไล่ตามความฝันของพวกเขา”
“ในจดหมายฉบับนั้นยังกล่าวถึง Day 1 คือ ท�ำทุกวันให้เป็น
วันแรกของการเริ่มต้นธุรกิจ และท�ำให้การพัฒนานวัตกรรมเกิดขึ้น
ทุกวัน” ดร.ชวพล กล่าวเสริมว่า AWS พยายามท�ำให้พนักงานทุกคน
รู้สึกว่านวัตกรรมเป็นสิ่งใกล้ตัว บริษัทต้องการนักสร้างไม่ใช่นักคิด
และทุกคนเป็นนักสร้างได้โดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ ด้วยการใช้เครื่องมือ
ที่ได้รับการออกแบบใหม่อยู่ตลอดเวลา ซึ่งอ�ำนวยความสะดวกให้กับ
นักสร้างนวัตกรรมได้สร้างสรรค์ผลงานได้ง่ายดาย
ภาพประกอบ : 4 องค์ประกอบของวิธีจัดการด้านนวัตกรรม
ปรัชญา Day 1 ให้ความส�ำคัญกับความคลั่งไคล้ในลูกค้า
(Customer Obsession) การรับฟังความคิดเห็นของลูกค้าและ
การเฝ้าสังเกตความต้องการพร้อมทั้งปรับปรุงประสบการณ์ของพวกเขา
ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การตัดสินใจด้วยความเร็วสูง ความเร็วมีผลอย่างมากต่อการท�ำ
ธุรกิจ การตัดสินใจจ�ำนวนมากสามารถย้อนกลับได้ และการตัดสินใจ
ส่วนใหญ่ควรท�ำเมื่อมีข้อมูลประมาณ70%เพราะหากคุณรอให้ได้ข้อมูล
มากถึง 90% คุณอาจจะช้าเกินไป
นวัตกรรมเป็นสิ่งจำ�เป็น
นายเดวิด จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านเทคโนโลยีและผู้ก่อตั้ง
EKO Communications กล่าวว่า ปัจจุบันการพัฒนานวัตกรรมเป็น
สิ่งจ�ำเป็นในการด�ำเนินธุรกิจ และเมื่อสร้างสรรค์ออกมาแล้วก็จะต้อง
ปรับปรุงหรือพัฒนาให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา เมื่อใดที่หยุดการพัฒนา
นวัตกรรมนั้นก็จะถูกลดความนิยมลงไปเรื่อยๆจนถึงวันหนึ่งก็จะล้าสมัย
DIGITAL TRENDS | INTERVIEW14

15. เช่นเดียวกับการแข่งขัน เมื่อบริษัทใดออกผลิตภัณฑ์หรือบริการ
ใหม่ บริษัทอื่นก็จะท�ำตาม เนื่องจากปัจจุบันเครื่องมือต่างๆ มีมากมาย
และพร้อมที่จะน�ำไปใช้ได้ทันที หากองค์กรไม่มีบุคลากรที่มีความคิด
สร้างสรรค์และสร้างนวัตกรรมออกมาอย่างต่อเนื่องธุรกิจก็มิอาจอยู่รอด
ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งนายเดวิดได้เปรียบเปรยไว้ว่า “หากธุรกิจใดปราศจาก
การสร้างนวัตกรรม ก็เสมือนกับว่าธุรกิจนั้นได้ตายไปแล้ว”
“วงการซอฟต์แวร์กับการสร้างนวัตกรรมเป็นความท้าทายอย่าง
มากและการจะท�ำให้เกิดวัฒนธรรมด้านนวัตกรรมก็เป็นเรื่องที่ยากมาก
เช่นกัน จากประสบการณ์ 6 ปีของบริษัท ท�ำให้รู้ว่าจะต้องเลือกคนที่
เหมาะสม คือต้องกล้าที่จะคิด กล้าที่จะท�ำ และมีวิสัยทัศน์ที่เหมาะสม
กับองค์กรของเรา และหากมีคนที่ไม่เหมาะสมเพียง 5-10% ก็อาจจะ
ท�ำให้องค์กรพังได้จึงต้องปล่อยให้คนเหล่านั้นเดินออกไปรวมทั้งหากมี
พนักงานหลายสัญชาติก็จะต้องผสมผสานวัฒนธรรมตั้งแต่เริ่มต้น”นาย
เดวิด กล่าว
สร้างสภาพแวดล้อมให้เกิดนวัตกรรม
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้
กล่าวว่า เราเป็นหนึ่งในรายแรกของกลุ่มธุรกิจธนาคารไทยที่ใช้
งบประมาณการลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ให้กับธุรกิจและ
ลูกค้า โดยให้ความส�ำคัญต่อการสร้างนวัตกรรมด้านการเงินมากว่า 50 ปี
ภายใต้ความร่วมมือกับ AWS ได้ออกแบบความคิดของบุคลากรใน
องค์กร และสร้างสภาพแวดล้อมให้เกิดการถ่ายทอดความคิดออกมา
เป็นนวัตกรรม รวมทั้งในบางครั้งยังสามารถออกแบบแนวทางในการ
แก้ปัญหาเพื่อให้องค์กรพัฒนาไปสู่เป้าหมายตามกลยุทธ์ที่ก�ำหนดไว้ได้
“เรามองว่าการสร้างสภาพแวดล้อมให้เกิดนวัตกรรม คือ ให้
พนักงานได้เปิดใจพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดระหว่างกันในโครงการที่
ด�ำเนินการอยู่ รวมทั้งเปิดรับฟังปัญหาจากพนักงานเพื่อส่งข้อมูลไปสู่
ผู้บริหารโดยตรง” นายศักดิ์ชัย กล่าว
นวัตกรรมเริ่มต้นจากการพัฒนาคน
นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกรณ์ ประธานกรรมการบริการบริษัทเอ็ม
เอฟ อี ซี จ�ำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันองค์กรธุรกิจต่างๆ กล่าวถึง
การปรับเปลี่ยนหรือทรานส์ฟอร์มองค์กร แต่ไม่ได้กล่าวถึงการพัฒนา
บุคลากรให้ก้าวไปสู่การสร้างนวัตกรรม และการสร้างนวัตกรรมจะไม่
สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่ปลูกฝังลงไปในวัฒนธรรมขององค์กร
“นวัตกรรมเป็นสิ่งจ�ำเป็นที่จะท�ำให้เกิดการทรานส์ฟอร์มองค์กร
ซึ่งเมื่อทรานส์ฟอร์มองค์กรแล้วอาจจะไม่เหลือโครงร่างธุรกิจแบบเดิม
อยู่เลย การสร้างนวัตกรรมเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยน Mind Set เราเรียนรู้
จาก AWS ในฐานะที่เป็นพันธมิตรทางเทคโนโลยี ท�ำให้รู้กระบวนการ
ต่างๆ มากมาย ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนจะต้องมีเรื่องการพัฒนาบุคลากร
การสร้างกฎกติกาใหม่ๆภายในองค์กรมีการสร้างสภาพแวดล้อมใหม่ๆ
ซึ่งตัวอย่างหนึ่งคือท�ำให้องค์กรเป็นสตาร์ทอัพ” นายศิริวัฒน์ กล่าว
ผู้บริหารจึงควรต้องเข้าใจเรื่องการพัฒนาบุคลากรควบคู่ไปกับการ
สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่จะท�ำให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อให้
องค์กรสามารถปรับเข้าสู่สภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด
เวลา และสิ่งส�ำคัญยิ่งคือเป้าหมายที่จะก้าวไปสู่การคิดค้นนวัตกรรมที่
สามารถแก้ปัญหาและปิดจุดบอดของลูกค้ารวมทั้งช่วยให้ลูกค้าสามารถ
ด�ำเนินธุรกิจได้ในภาวะที่การแข่งขันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกขณะ
ไขเคล็ดลับ พิซซ่า 2 ถาด
ดร.ชวพล กล่าวถึงการท�ำงานของ Amazon ว่าได้ใช้หลักการ
“ทีมพิซซ่า 2 ถาด” หมายถึง ทีมที่สามารถทานพิซซ่าได้ 2 ถาด หรือมี
คนจ�ำนวน4-10คนทีมใดก็ตามที่เติบโตไปถึง11คนจะเพิ่มความล่าช้า
เป็นทวีคูณดังนั้นเราจะมีผู้น�ำที่มีเป้าหมายหลักหนึ่งเดียวในการดูแลทีม
พิซซ่า 2 ถาด ที่สามารถดูแลก�ำกับตัวเอง และสามารถเพิ่มพลังการท�ำ
นวัตกรรมได้โดยอัตโนมัติ พร้อมกับเสริมว่า ทีมพิซซ่าจะท�ำงานแบบ
ออโตโนมัส ท�ำให้ไอเดียและงานต่างๆ เกิดขึ้นจริง
จากรายงานของการ์ตเนอร์ในช่วงปลายปี2018ที่ผ่านมาAWS
ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทด้าน Enterprise Technology ที่
เติบโตเร็วที่สุด โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดทั่วโลกถึง 52%
โดยมีผลประกอบการที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า (Revenue run rate)
ถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นการที่จะเติบโตกว่าตลาดเป็น
เรื่องที่ท�ำได้ยาก แต่อย่างไรก็ตาม AWS จะยึดหลัก Day 1 ผู้น�ำตลาด
ต้องท�ำทุกอย่างให้เร็วขึ้น โจทย์คือจะท�ำอย่างไรให้มีวิธีคิดที่เร็วขึ้น
วิธีท�ำงานที่เร็วขึ้น และวิธีการทดสอบที่เร็วขึ้น AWS พยายามหาสิ่งใหม่
ที่จะดิสรัปตัวเองอยู่ตลอดเวลา จึงท�ำให้ในแต่ละปีมีนวัตกรรมเกิดขึ้น
มากมาย ดร.ชวพล กล่าวสรุป
ทำ�งานย้อนกลับเกิดนวัตกรรม
การคิดเชิงนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ๆ ที่ Amazon มีตัวอย่าง
เป็นจำ�นวนมากจากหลายๆ ภาคส่วน ตัวอย่างหนึ่ง คือ เราไม่เคยมี
ความคิดที่จะเข้าสู่ธุรกิจการพัฒนาโดรน (Drone Development)
แต่ Amazon Go เริ่มต้นมาจากแนวความคิดในการส่งของให้ลูกค้า
ของเราในเวลา 30 นาที Amazon Go เกิดขึ้นจากความคิดที่ว่าไม่มี
ใครต้องการรอต่อแถวในร้านขายของชำ�เพื่อชำ�ระค่าใช้จ่าย
ขณะที่ Echo เกิดขึ้นจากความต้องการมอบประสบการณ์ที่ดี
ยิ่งขึ้นกว่าเดิมให้กับลูกค้าในการฟังเพลง และทุกสิ่งทั้งหมดเหล่านี้
เริ่มต้นจากกระบวนการการทำ�งานย้อนหลังของเรา ข่าวประชาสัมพันธ์
และการทำ�กระบวนการเหล่านี้ซ�้ำหลายๆ ครั้ง
INTERVIEW | DIGITAL TRENDS 15

16. ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา Alibaba Cloud ได้จัดงานสัมมนาประจำ�ปี ชื่อ Apsara
Conference 2019 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน โดยจัดขึ้นเป็นปีที่ 5 และกำ�หนดธีมของงาน
ปีนี้เป็น The Rise of Data Intelligence ซึ่งผมได้ติดตามดูงานสัมมนาผ่านเว็บไซต์ www.
alibabacloud.com/apsara-conference-2019 โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจอยู่จำ�นวนมาก
และสามารถที่จะเข้าไปชมย้อนหลังได้
Building the Infrastructure of
the Digital Economy
photo : www.freepik.com
DIGITAL TRENDS | DIGITAL TRANSFORMATION20

17. หนึ่งในหัวข้อของคีย์โน้ตที่น่าสนใจคือ Building the
infrastructure of the Digital Economy โดย Jeff Zhang ซึ่งเป็น
CTO ของ Alibaba Group อีกทั้งยังด�ำรงต�ำแหน่ง President ของ
Alibaba Cloud Intelligence โดยเริ่มต้นอธิบายให้เห็นเทคโนโลยี
ดิจิทัลใหม่ๆ ที่ก�ำลังขับเคลื่อนให้เกิด Digital Transformation
ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มในอนาคตที่จะมีจ�ำนวนอุปกรณ์เชื่อมต่อ
ที่เพิ่มขึ้นและจะมีจ�ำนวนข้อมูลทั่วโลกมากขึ้นไปถึง175 ZettaByte
ในปี 2025 ทั้งนี้ข้อมูลที่ผ่านมาพบว่ามูลค่าของเศรษฐกิจดิจิทัล
(Digital Economy) ในประเทศจีนคิดเป็นปริมาณถึง 67.9% ของ
มูลค่า GDP รวมของประเทศ
เทคโนโลยีดิจิทัลท�ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน 4 ด้าน คือ
Demand: ความต้องการของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไป
และจะต้องการจัดการบริหารสภาวะแวดล้อมระหว่าง
ผู้บริโภคและธุรกิจ (C2B) ที่เปลี่ยนไป
Production: กระบวนการผลิตเปลี่ยนแปลงไป ด้วย
เทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมกระบวนการได้
ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
Supply: ปริมาณความต้องการเสนอขายสินค้าและบริการ
ของผู้ขายสามารถตรวจสอบและท�ำให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น
ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่
Operation: กระบวนการท�ำงานก็เปลี่ยนแปลงเป็นแบบ
Dynamic Collaboration และมีการตัดสินใจได้ดีขึ้น
ดังนั้นองค์กรต่างๆ จึงต้องปรับตัวเองและน�ำเทคโนโลยีดิจิทัล
มาเปลี่ยนแปลงแนวคิดในการท�ำงานซึ่งการท�ำDigitalTransformation
ทาง Jeff Zhang ชี้ให้เห็นว่าจะต้องมีการวางพื้นฐานด้านเทคโนโลยี
ที่ดี ควรมีเสาหลักในการด�ำเนินงาน 4 ด้าน ประกอบด้วย
Reliable Cloud
Cloud เป็นโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเทคโนโลยี
Cloud Computing จะช่วยให้สามารถท�ำนวัตกรรมต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้น
ทั้งเรื่องของ IoT, Big Data, AI หรือ Blockchain การใช้ Cloud เป็นการ
ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่ส�ำคัญ ซึ่งเป็นการเปลี่ยน Mindset ด้านเทคโนโลยี
โดยมีการออกแบบและติดตั้งระบบในรูปแบบใหม่ที่จะมีความคล่องตัว
รวดเร็ว และสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจได้
DIGITAL TRANSFORMATION | DIGITAL TRENDS 21

18. photo : www.freepik.com
photo : www.freepik.com
Intelligent Big Data
ข้อมูลเป็นปัจจัยที่ส�ำคัญสุดในการท�ำDigitalTransformation
จะต้องสร้างคุณค่าจากข้อมูลในทุกขั้นตอนต่างๆ ทั้งการท�ำ Data
Collection, Data Cleansing, Data Classification & Storage,
Cognition & Mining รวมถึงการท�ำ Intelligent Application
จากการใช้ข้อมูล
Intelligent Cloud-end Network
ต้องมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆในองค์กรเข้าระบบอินเทอร์เน็ต
แบบเรียลไทม์ โดยเฉพาะอุปกรณ์ Internet of thing (IoT) เพื่อที่จะ
น�ำข้อมูลมาใช้งานให้ได้มากที่สุด
Unparalleled Mobility
การท�ำงานจะต้องเป็นแบบ Mobility และต้องมีเทคโนโลยี
ที่สามารถท�ำงานร่วมกันได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งก็อาจเป็น Mobile Apps
ที่สามารถสร้างที่ท�ำงานแบบไร้พรมแดนได้ (Borderless
Workplaces)
งาน Apsara Conference 2019 ยังมีหัวข้อที่น่าสนใจอีก
จ�ำนวนมากทั้งหัวข้อด้านMachineIntelligence,ChinaGateway,
AI & Big Data Intelligence, New Retail Ecosystems และ
Enterprise Digital Transformation ซึ่งผมได้เข้าไปดูการบรรยาย
ที่สามารถดูย้อนหลังได้
วันนี้ผู้น�ำขับเคลื่อนเทคโนโลยีโลกก�ำลังจะเปลี่ยนจาก
ตะวันตกสู่ตะวันออก หากเราจะเข้าใจเทคโนโลยีดิจิทัลได้ดีก็
ควรต้องศึกษาเทคโนโลยีของบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศจีนไปด้วย
ต้องมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ในองค์กร
เข้าระบบอินเทอร์เน็ตแบบเรียลไทม์ โดยเฉพาะ
อุปกรณ์ Internet of thing (IoT) เพื่อที่จะ
นำ�ข้อมูลมาใช้งานให้ได้มากที่สุด
ในโอกาสนี้ Digital Trends eMagazine by IMC Institute
ขอนำ�เสนอคอร์สอบรม Digital Transformation Strategy
Workshop ซึ่งจัดโดยสถาบันไอเอ็มซี ระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายนนี้
โดยสูตรถูกออกแบบมาเพื่อมุ่งเน้นที่จะช่วยเติมเต็มความรู้ความเข้าใจ
และแนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ ทั้งที่กำ�ลังจะเข้ามา
Disrupt การทำ�ธุรกิจ รวมถึงศึกษาวิธีการทำ� Workshop
เพื่อกำ�หนดทิศทางวางแผนการสร้างกลยุทธ์ด้านดิจิทัลให้กับ
องค์กร การสร้างวัฒนธรรมและการพัฒนาบุคลากร การติดตามและ
ประเมินผลความก้าวหน้า และการเปลี่ยนแปลงในองค์กรที่เกิดจาก
การวางกลยุทธ์ด้านดิจิทัล
Digital Transformation Strategy Workshop
DIGITAL TRENDS | DIGITAL TRANSFORMATION22

19. ปริญญา หอมเอนก
CISSP, CISA and ACIS Cyber LAB
ACIS Professional Center Co., Ltd. and Cybertron Co., Ltd.
Blockchain ถูกกล่าวถึงมาหลายปี และมีการนำ�มาใช้บ้างแล้วในหลาย
อุตสาหกรรม รวมทั้งมีตัวอย่างการใช้งานเกิดขึ้นในต่างประเทศอีกมากมาย
ในโอกาสนี้นิตยสาร Digital Trends eMagazine by IMC Institute จึงขอ
หยิบยกเนื้อหาจากหนังสือ Blockchain for Government Services
การใช้เทคโนโลยี Blockchain สำ�หรับภาครัฐ ที่จัดทำ�โดยสำ�นักงานพัฒนา
รัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. มาเผยแพร่ โดยนำ�เสนอบางส่วน
ที่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้อ่านในหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่อาจจะ
นำ�ไปเป็นแนวทางในการคิดสร้างสรรค์และพัฒนาต่อไป
พร้อมรับปรับใช้
Blockchain
photo : kjpargeter / Freepik
KNOWLEDGE VANTAGE | DIGITAL TRENDS 23