SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 36
วิชา ภาษาไทย 
รหัส ท๓๑๑๐๑ ท๓๑๑๐๒ 
ชชั้นั้นมมัธัธยมศศึึกษษาาปปีทีทีี่่ ๔๔
ความหมาย 
สัทพจน์ อุปมา 
อติพจน์ 
คำาซำ้า คำาพ้องเสียง บุคคลวัต 
อวพจน์ ปฏิพจน์ อุปลักษณ์ 
อัพภาส 
เล่นวรรณยุกตส์ัญลักษณ์ 
อุปมานิทัศน์ สัมผัส 
ตัวอย่างอัพภาส 
นามนัย 
ไวพจน์ 
ตัวอย่างไวพจน์
คววาามหมมาาย
ถถ้อ้อยคคำาำาใในนภภาาษษาาทที่กี่กววีี 
ใใชช้้เเรรีียบเเรรีียงวรรณกรรม 
ททั้งั้งรร้้อยแแกก้ว้วแแลละะรร้อ้อยกรอง 
ใใหห้เ้เกกิดิดคววาามไไพพเเรราาะะ 
ปรระะททัับใใจจ เเกกิดิดคววาามรรู้สู้สึกึก 
ออาารมณณ์์ บบาางครรั้งั้งออาาจใใชช้้ 
ภภาาษษาาทที่แี่แปปลกออกไไปปจจาาก 
ภภาาษษาาปกตติิ เเรรีียกวว่่าา กกาาร 
ใใชช้้โโววหหาาร
คคำาำาไไววพจนน์์ 
หมายถึง คำาที่เขียนต่างกัน แต่ความ 
หมายเหมือนกัน นำามาใช้ 
ในการแต่งบทประพันธ์บทเดียวกัน เช่น 
ม้า - พาชี อาชา สินธพ มโนมัย 
เดิน - จรลี จรัล จรก คลา ดำาเนิน 
ยุรยาตร 
ทองคำา - กนก กาญจน์ จารุ จมี 
กร มาศ สุพรรณ 
สุวรรณ อุไร เหม หาดก 
ดอกไม้- บุปผา บุษบา บุษบง
ตตัวัวอยย่า่างไไววพจนน์์ 
แล้วให้ผูกสินธพอาชา คอยท่า 
รับเสด็จผายผัน 
พรั่งพร้อมพหลพลนิกาย ตัวนาย 
ตรวจตราในราตรี 
(อิเหนา : พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศ 
หล้านภาลัย) 
นำาคำา สินธพ อาชา ซึ่งมีความ 
หมายว่า ม้า มาแต่ง
สสัทัทพจนน์์ 
หมายถึง การเลียนเสียงธรรมชาติ กวีใช้ 
คำาเลียนเสียงธรรมชาติ ทำาให้เสียง 
ไพเราะเกิดจินตภาพได้ชัดเจน เกิดความรู้สึก 
คล้อยตาม เช่น 
เกือบรุ่งฝูงช้างแซ่ แปร๋ 
แปร๋น 
กรวดป่ามาแกร๋นแกร๋น เก 
ริ่นหย้าน 
ฮูมฮูมอู่มอึงแสน สนั่นรอบ 
ขอบแฮ
อัพภาส 
หมายถึง การกร่อนเสียงคำา 
ซำ้าในงานประพันธ์ 
เรื่อยเรื่อย -- ระเรื่อย 
แจ้วแจ้ว -- จะแจ้ว 
ครืนครืน -- คระครืน
ตตััวอยย่า่าง 
ออัพัพภภาาส 
รร่่าายขึ้นช้างไปผะผ้าย มาคะคล้ายโดย 
ทาง ถับถึงทางจรอกปู่ 
หมอเฒ่าอยแู่ลเห็น แสร้งแปรเป็น 
โฉมมลาก เป็นบ่าวภาคย์บ่าวงาม 
สองถึงถามหาปู่ ปู่หัวอยู่ยะแย้ม ค่อย 
ว่าสองแสล้ม มาแต่ด้าวแดนใด 
ลิลิตพระลอ 
คำา ผะผ้าย คะคล้าย ยะ 
แย้ม เป็นอัพภาส
คือการเปรียบเทียบว่าสิ่งหนึ่ง 
ออุุปมมาา 
เหมือนกับสงิ่หนึ่ง โดยใช้ 
คำาว่า เหมือน เสมือน ดุจ ประดุจ ดั่ง 
ปูน เพียง เพี้ยง ราว เฉก 
ออกจากคลองขุดข้าม 
ครรไล 
เรือวิ่งอกว้าใจ 
หวาดขวำ้า 
เด็ดแดดั่งเด็ดใย บัวแบ่ง 
มาแม่ 
จากแต่อกใจปลำ้า เปลี่ยน 
ไว้ในนางฯ 
โคลงนิราศนรินทร์ : นาย
คือการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่ง 
ออุหปุปนลลัังึ่ กกวีษจะใช้ 
ณณ์์ 
การเปรียบเทียบโดยตรง นำาเสนอลักษณะ 
เด่นของสิ่งที่ต้องการเปรียบเทียบมากล่าว 
ทันทีโดยไม่มีคำาเชอื่มโยง บางครั้งอาจใช้ 
คำาว่า เป็น และ คือ เชอื่มโยงก็ได้ เช่น 
ถ้าเรามีนาวาทิพย์ทำาด้วยมุกดา มี 
ความปรารถนาเป็นใบ 
มีความอำาเภอใจเป็นหางเสือ 
กามนิต : เสถียรโกเศศ – นาคะ 
ประทีป 
กวีเปรียบความปรารถนากับใบเรือ และ 
ความอำาเภอใจกับ 
หางเสือเรือ โดยใช้คำาว่า เป็น 
เป็นคำาเชื่อม
บบุุคลลาาคือกาธธิษิษรสฐฐาามมุติน สิ่งต่าหงรรืๆ อือ ที่ไม่บบุุใช่คคมนุลษววััย์ 
ต 
ให้มีกิริยามนุษย์ หรรือาอือ กาบบุุร คควาคลมรู้สสึมกเหเช่น 
มมุุมืตติิ 
อน 
บรรจถรณ์หมอนม่านมุ้ง เตียงสมร 
เตียงช่วยเตือนนุชนอน แท่น 
น้อง 
ฉุกโฉมแม่จักจร จากม่าน 
มาแฮ 
ม่านอย่าเบิกบังห้อง หับ 
ให้คอยหน 
โคลงนิราศนรินทร์ : นายนริ 
นทรธิเบศร์ (อิน) 
เตียงช่วยเตือนนุชนอน เป็นบุคคล
ถ้อยคำากระทบอารมณ์ 
ของผู้อ่านให้มีความรู้สึกเพิ่มขึ้น 
อตติิพจนน์์,, อธธิิพจนน์์ 
เช่น 
เอียงอกเทออกอ้าง 
อวดองค์ อรเอย 
เมรุชุบสมุทรดินลง 
เลขแต้ม 
อากาศจักจารผจง 
จารึก พ่อฤๅ 
โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม 
อยู่ร้อนฤๅเห็น 
โคลงนิราศนรินทร์ : นายนริ 
นทรธิเบศร์ (อิน) 
การใช้คำา เอียงอกเท แทนสิ่งที่อยู่ในใจ
อวพ จนน์์ 
คคือือกกาารกลล่า่าวนน้อ้อยกวว่า่าคววาามเเปป็น็น 
จรริงิง เเชช่น่น 
คอยสสักักออึดึดใใจจเเดดียียว 
มทีองเเทท่า่าหนวดกกุ้งุ้ง นอน 
สสะะดดุ้งุ้งจนเเรรือือนไไหหว 
นอนสสะะดดุ้งุ้งจนเเรรือือนไไหหว เเปป็น็นอว 
พจนน์์
คือการนำาคุณสมบัติที่เด่นของสิ่งหนึ่งมา 
นนาามนนััย 
กล่าวแทนการเอ่ยชื่อ 
ของสิ่งนั้นๆทั้งหมด 
นายกรัฐมนตรีมัวแต่ห่วงเก้าอี้ จึง 
ไม่ยอมวางแผนใหม่ที่เสี่ยงต่อความผิด 
พลาด 
...ว่านครามินทร์ ผลัดแผ่นดินเปลี่ยน 
ราช เยียววิวาทชิงฉัตร... 
เก้าอี้หมายถึง ตำาแหน่ง 
อำานาจ หน้าที่ 
ฉัตร หมายถึง ความเป็นกษัตริย์ 
แผ่นดิน ประเทศ 
ทรัพย์สมบัติ
สสัญัญลลักักษณณ์์ 
คือการใช้สิ่งหนึ่งแทนอีกสิ่งหนึ่งที่มี 
คุณสมบัติหรือลักษณะภาวะบางอย่าง 
ร่วมกัน 
 ดอกไม้ - ผู้หญิง 
 ดอกมะลิ- ความบริสุทธิ์ 
 ดอกกุหลาบ - ความรักของ 
หนุ่มสาว 
 กา - คนคด ใจดำา 
 กระต่าย - คนตำ่าต้อย 
เมฆ หมอก อุปสรรค
ปฏฏิพิพาากยย์์ หรรืือ ปฏฏิพิพจนน์์ 
คือการเปรียบเทียบโดยใช้คำาที่มีความหมาย 
ตรงกันข้ามกันหรือขัดแย้งกัน นำามาแต่งให้เข้า 
คู่กันเพื่อให้เกิดความหมายขนานหรือ 
เกิดภาพตัดต่อกันที่ก่อให้เกิดความรู้สึกหรือให้ 
จินตภาพที่ชัดเจนขึ้น เช่น 
รอยบุญเราร่วมพ้อง พบกัน 
บาปแบ่งสองทำาทัน เท่าสร้าง 
เพรงพรากสัตว์จำาผัน พลัดคู่ เขาฤๅ 
บุญร่วมบาปจำาร้าง นุชร้างเรียม 
ไกล 
โคลงนิราศนรินทร์ : นายนรินทร์ธิเบศร์
อุปมานิทัศน์ 
คือการใช้เรื่องราวหรือนิทาน 
ขนาดสั้นหรือ 
ขนาดยาว ประกอบขยายหรือแนะ 
โดยนัยให้ผู้อ่าน 
หรือผู้ฟังข้อเขียนเกิดความเข้าใจ 
แนวคิดชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น 
เล่านิทานเรื่องตาบอดคลำาช้าง
คคำำำำพพ้อ้องเเสสียียง 
คือกำรนำำคำำที่มีเสียงเดียวกันมำเรียบ 
เรียงหรือร้อยกรอง 
เข้ำด้วยกัน เช่น 
บรรลุอำวำสแจ้ง เจ็บกำม 
แจ้งจำกจงอำรำม พระรู้ 
เวรำนุเวรตำม ตัดสวำท แล 
ฤๅ 
วำนวัดแจ้งใจชู้ จำกช้ำ 
สงวนโฉม 
โคลงนิรำศนรินทร์ : นำยนรินทรธิเบศร์ (อิน) 
คำำว่ำ “แจ้ง” เป็นคำำพ้องเสียงแต่ละที่จะมี 
ควำมหมำยต่ำงกัน
คคำำำำซซำ้ำำ้ำ 
คอื กำรเล่นคำำเพอื่ทำำให้เกิดควำมรู้สึก 
สะเทือนอำรมณ์ เช่น 
ลับยักษ์ลับเยำว์ให้เรียมหำ แม่ 
แฮ 
ฤๅอสูรพำลพำ แวะเว้น 
ลับหลังพี่ลับตำ แสนโยชน์ 
รำำลึกลับนุชเร้น ร่วมรู้ในใจ 
โคลงนิรำศนรินทร์ : นำยนรินทรธิเบ 
ศร์ (อิน)
เเลล่คืน่นอกำเเสสีรเล่ยียนงคำำวด้วรยรกำณรไล่ยยุเสียกุกง 
ตต์์ 
วรรณยุกต์ เพื่อให้เกิดควำมไพเรำะ 
เพลิดเพลินและเกิดจินตภำพ เช่น 
นึกระกำำนำมไม้ แม่นแม้น 
ทรวงเรียม 
เรียมจักแนะนั่นนี้ โน่นโน้น 
แนวพนม
เเลล่น่นเเสสียียงสสัมัมผผััส 
คือ กำรเล่นเสียงให้สัมผัสคล้องจองกัน 
ในบทประพันธจ์ะเล่นสัมผัสใน ซึ่งเล่นได้ 
ทั้งสัมผัสอักษรและสมัผัสสระ เช่น 
ศรีสิทธิ์พิศำลภพ เลอหล้ำลบล่มสวรรค์ 
จรรโลงโลกกว่ำกว้ำง แผนแผ่นผ้ำงเมืองเมรุ 
ฯลฯ 
ใดใดโอษฐ์โอ่อ้ำง ตนดี 
เอำปำกเป็นกวี ขล่อย 
คล้อย 
หำกหำญแต่วำที เฉลย 
กล่ำว ไฉนนำ
โคลงบทที่ 2 กรุงศรีอยุธยำ 
ล่มสลำยไปจำกกำรเสียกรุง 
แต่ก็มีเมืองล่องลอยมำจำก 
สวรรค์อันมีพระที่นั่งสถูป 
แก้วอันสวยงำม ด้วยบุญ 
บำรมีที่สั่งสมของพระเจ้ำ 
แผ่นดินก็ได้ทำำนุบำำรุง 
ศำสนำให้เจริญรุ่งเรือง เปิด
โคลงบทที่ 3 ควำมรุ่งเรืองของ 
ศำสนำนั้นมีมำกไปทั่วยิ่งกว่ำ 
แสงอำทิตย์ ผู้คนได้รับพระธรรม 
จำกกำรฟังธรรมอยู่เป็นประจำำ 
เจดีย์มำกมำยได้ถูกสร้ำงขึ้นสูง 
ตระหง่ำนฟ้ำยอดเจดีย์สวยงำม 
ยิ่งกว่ำแสงนพเก้ำ เสมือนเป็น 
หลักแห่งโลกและเป็นที่
โคลงบทที่ 4 โบสถ์ วิหำร 
ระเบียง ธรรมำสน์และศำลำ 
ต่ำงๆนั้น กว้ำงใหญ่ขยำยไปถึง 
สวรรค์ หอพระไตรปิฎก เสียง 
ระฆังในหอระฆังยำมพลบคำ่ำ 
และแสงตะเกียงจำกโคมแก้ว 
อันมำกมำยนั้นสำมำรถทำำให้ 
แสงจันทร์สว่ำงน้อยลง
โคลงบทที่ 8 เมื่อจำำต้องจำกนำงอัน 
เป็นที่รักไปด้วยควำมอำลัยเหมือน 
กับต้องปลิดหัวใจของตนออกไป 
กับนำง ถ้ำหำกว่ำดวงใจสำมำรถ 
แบ่งออกได้ก็จะผ่ำออกเป็นสองซีก 
ซีกหนึ่งจะเก็บไว้กับตนเอง แต่อีก 
ซีกหนึ่งจะมองให้นำงรักษำไว้ 
โคลง
บทที่ 10 จะฝำกนำงไว้กับฟำก 
ฟ้ำหรือผืนดินดี เพรำะกลัวว่ำ 
พระเจ้ำแผ่นดินจะมำลอบ 
เชยชมนำง จะฝำกนำงไว้กับ 
สำยลมช่วยพัดพำนำงบินหนีไป 
บนฟ้ำ แต่ก็กลัวลมพัดทำำให้ผิว 
นำงมีรอยชำ้ำ
โคลงบทที่ 11 จะฝากนางไว้กับใคร 
ดี จะฝากนางไว้กับนางอุมาหรือ 
ชายาพระนารายณ์ ก็เกรงว่าจะเข้า 
ใกล้ชิดนาง พี่คิดจนสามโลกจะล่วง 
ลับไปก็คิดได้ว่าจะฝากนางไว้ในใจ 
ตนเองดีกว่าฝากไว้กับคนอื่น
โคลงบทที่ 22 เดินทางมาโดยทาง 
นำ้าล่วงหน้ามาจนถึงตำาบลบางยี่เรือ 
ขอให้เรือแผงช่วยพานางมาด้วย 
แต่บางยี่เรือไม่รับคำาขอ นำ้าตาพี่จึง 
ไหลนอง
โคลงบทที่ 37 เดินทางต่อไปจนถึง 
ตำาบลบางพ่อ ซึ่งนำ้าแห้งเหือดจน 
มองไม่เห็น มีแต่บ่อนำ้าตาที่คงเต็ม 
ไปด้วยเลือด พี่ก็อยากให้นางผู้มี 
ความงาม5ประการมาซับนำ้าตาพี่ 
แล้วค่อยจากไป
โคลงบทที่ 41 เห็นต้นจากแตกกิ่ง 
ก้านสลับกับต้นระกำา ทำาให้ชอกชำ้า 
ระกำาใจ ว่าเคยเป็นเวรกรรมที่คง 
เคยทำากันมาทำาให้เราต้องจากกัน 
ไกล ขอให้ครั้งหน้าเราคงได้อยู่ 
ด้วยกัน
โคลงบทที่ 45 เป็นการเปรียบเทียบ 
ของหน้านางกับดวงจันทร์ แต่ดวง 
จันทร์มีรอยตำาหนิเป็นรอยกระต่าย 
แต่ใบหน้าของน้องนางสวยงาม 
ไม่มีตำาหนิ ไม่มีสิ่งใดมาเปรียบ 
เทียบ เพราะหน้าของน้องงามกว่า 
ดวงจันทร์ ยิ่งมองยิ่งงามกว่า 
นางฟ้า โคลงบทที่ 118 เดินทางมา 
ถึงตระนาวศรีความโศกเศร้าก็
โคลงบทที่ 122 ไม่ว่าจะเป็น 
พระอินทร์ ผู้มีพันตา ผู้เฝ้าดูระวัง 
โลก พระพรหมผู้มีสี่หน้าแปดหูที่ 
คอยฟังสรรพเสียงใดๆ หรือจะเป็น 
พระนารายณ์ทบี่รรทมอยู่หลังนาค 
เมื่อเราทั้งสองต้องพลัดพรากจาก 
กัน เราสองครำ่าครวญอยู่ซำ้าซากแต่ 
เทพพระองค์ก็ไม่สนใจ
โคลงบทที่ 139 ในอกของพี่นั้นมัน 
เต็มไปด้วยความรู้สึกที่อยากจะ 
ระบายยออกมาบรรยายให้น้องได้ 
ทราบ ความรู้สึกของพี่นั้นมากมาย 
ดังนั้น พี่จึงเอาเขาพระสุเมรุมาเป็น 
ปากกา เอามหาสมุทรเป็นนำ้าหมึก 
แล้วเขียนเป็นตัวหนังสือไนอากาศ 
เป็นแผ่นกระดาษ จารึกลงไปก็ยัง 
ไม่พอ เพราะความรู้สึกของพี่นั้นมี
โคลงบทที่ 140 ภูเขาพังทลาย 
สวรรค์ 6 ชั้น ดวงจันทร์ ดวง 
อาทิตย์ จะหายไปจากโลก ความ 
รักของพี่นั้นก็ไม่หาย ถึงไฟมา 
ผลาญล้างทวีปทงั้ 4 ก็ไม่สามารถ 
ล้างความอาลัยของพี่ได้
โคลงบทที่ 141 พไี่ด้ครำ่าครวญถึง 
ความรักของพี่จนสั่นกึกก้องทั้ง 
แผ่นดิน และท้องฟ้า เป็นข้อความที่ 
บรรยายถึงความโศกเศร้าของพี่ 
ข้อความเหล่านั้นขอให้น้องรับไว้ 
เป็นต่างหน้า ให้นึกถึงอดีตระหว่าง 
เรา

Weitere ähnliche Inhalte

Was ist angesagt?

กัณฑ์มัทรี2๕๗
กัณฑ์มัทรี2๕๗กัณฑ์มัทรี2๕๗
กัณฑ์มัทรี2๕๗
Milky' __
 
ศาสนาเปรียบเทียบ
ศาสนาเปรียบเทียบศาสนาเปรียบเทียบ
ศาสนาเปรียบเทียบ
thnaporn999
 
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
krubuatoom
 
(M5) แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
(M5) แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี(M5) แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
(M5) แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
Sivagon Soontong
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
อิ่' เฉิ่ม
 
สรุปนิราศภูเขาทอง
สรุปนิราศภูเขาทองสรุปนิราศภูเขาทอง
สรุปนิราศภูเขาทอง
kanchana13
 
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
sapatchanook
 
โวหารในการเขียน
โวหารในการเขียนโวหารในการเขียน
โวหารในการเขียน
krubuatoom
 
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัดวรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
Thiranan Suphiphongsakorn
 
โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์
krubuatoom
 
แบบทดสอบหลังเรียนเรื่องบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจาริยคุณ_ม.4
แบบทดสอบหลังเรียนเรื่องบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจาริยคุณ_ม.4แบบทดสอบหลังเรียนเรื่องบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจาริยคุณ_ม.4
แบบทดสอบหลังเรียนเรื่องบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจาริยคุณ_ม.4
Sivagon Soontong
 

Was ist angesagt? (20)

กัณฑ์มัทรี2๕๗
กัณฑ์มัทรี2๕๗กัณฑ์มัทรี2๕๗
กัณฑ์มัทรี2๕๗
 
ศาสนาเปรียบเทียบ
ศาสนาเปรียบเทียบศาสนาเปรียบเทียบ
ศาสนาเปรียบเทียบ
 
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
 
(M5) แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
(M5) แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี(M5) แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
(M5) แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
 
ไทย
ไทยไทย
ไทย
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
 
รายงาน ฟุตซอล
รายงาน ฟุตซอลรายงาน ฟุตซอล
รายงาน ฟุตซอล
 
สรุปนิราศภูเขาทอง
สรุปนิราศภูเขาทองสรุปนิราศภูเขาทอง
สรุปนิราศภูเขาทอง
 
การใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์และการไม่ใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์
การใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์และการไม่ใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์การใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์และการไม่ใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์
การใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์และการไม่ใช้คำว่า “ทรง” ในคำราชาศัพท์
 
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
 
โวหารในการเขียน
โวหารในการเขียนโวหารในการเขียน
โวหารในการเขียน
 
อิเหนา
อิเหนาอิเหนา
อิเหนา
 
1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)
1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)
1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)
 
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัดวรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
 
โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์
 
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ 1
 
แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัดแบบฝึกหัด
แบบฝึกหัด
 
วรรณคดีสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
วรรณคดีสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นวรรณคดีสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
วรรณคดีสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
 
พัฒนาการอาณาจักรอยุธยา
พัฒนาการอาณาจักรอยุธยาพัฒนาการอาณาจักรอยุธยา
พัฒนาการอาณาจักรอยุธยา
 
แบบทดสอบหลังเรียนเรื่องบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจาริยคุณ_ม.4
แบบทดสอบหลังเรียนเรื่องบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจาริยคุณ_ม.4แบบทดสอบหลังเรียนเรื่องบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจาริยคุณ_ม.4
แบบทดสอบหลังเรียนเรื่องบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจาริยคุณ_ม.4
 

Ähnlich wie ความงามกับภาษา ม. ๔ นิราศนรินทร์คำโคลง

สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]
สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]
สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]
Nongkran Jarurnphong
 
งานนำเสนอคำไวพจน์
งานนำเสนอคำไวพจน์งานนำเสนอคำไวพจน์
งานนำเสนอคำไวพจน์
phornphan1111
 
จิตรปทา ฉันท์ 8
จิตรปทา ฉันท์ 8จิตรปทา ฉันท์ 8
จิตรปทา ฉันท์ 8
MilkOrapun
 
นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52
panneem
 
นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52
panneem
 
สมพร
สมพรสมพร
สมพร
Nat Ty
 
โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12
MilkOrapun
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
kutoyseta
 
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จวิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
Nat Ty
 
งานนำเสนอไทย ตุกติก & เบล
งานนำเสนอไทย ตุกติก &  เบลงานนำเสนอไทย ตุกติก &  เบล
งานนำเสนอไทย ตุกติก & เบล
อิ่' เฉิ่ม
 
สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1
Sirisak Promtip
 

Ähnlich wie ความงามกับภาษา ม. ๔ นิราศนรินทร์คำโคลง (20)

สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]
สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]
สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]
 
งานนำเสนอคำไวพจน์
งานนำเสนอคำไวพจน์งานนำเสนอคำไวพจน์
งานนำเสนอคำไวพจน์
 
โวหาร19 กพ
โวหาร19 กพโวหาร19 กพ
โวหาร19 กพ
 
9789740336389
97897403363899789740336389
9789740336389
 
จิตรปทา ฉันท์ 8
จิตรปทา ฉันท์ 8จิตรปทา ฉันท์ 8
จิตรปทา ฉันท์ 8
 
Test 6
Test 6Test 6
Test 6
 
นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52
 
นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52
 
สมพร
สมพรสมพร
สมพร
 
โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12
 
ใบความรู้ไตรภูมิพระร่วง
ใบความรู้ไตรภูมิพระร่วงใบความรู้ไตรภูมิพระร่วง
ใบความรู้ไตรภูมิพระร่วง
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จวิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
 
01
0101
01
 
งานนำเสนอไทย ตุกติก & เบล
งานนำเสนอไทย ตุกติก &  เบลงานนำเสนอไทย ตุกติก &  เบล
งานนำเสนอไทย ตุกติก & เบล
 
สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1
 
ใบความรู้ หนังตะลุง ม52
ใบความรู้  หนังตะลุง ม52ใบความรู้  หนังตะลุง ม52
ใบความรู้ หนังตะลุง ม52
 
ใบความรู้ไตรภูมิพระร่วง
ใบความรู้ไตรภูมิพระร่วงใบความรู้ไตรภูมิพระร่วง
ใบความรู้ไตรภูมิพระร่วง
 
กวีพเนจร เล่มที่ 1
กวีพเนจร เล่มที่ 1กวีพเนจร เล่มที่ 1
กวีพเนจร เล่มที่ 1
 
ประวัติของวรรณคดี
ประวัติของวรรณคดีประวัติของวรรณคดี
ประวัติของวรรณคดี
 

ความงามกับภาษา ม. ๔ นิราศนรินทร์คำโคลง

  • 1. วิชา ภาษาไทย รหัส ท๓๑๑๐๑ ท๓๑๑๐๒ ชชั้นั้นมมัธัธยมศศึึกษษาาปปีทีทีี่่ ๔๔
  • 2.
  • 3. ความหมาย สัทพจน์ อุปมา อติพจน์ คำาซำ้า คำาพ้องเสียง บุคคลวัต อวพจน์ ปฏิพจน์ อุปลักษณ์ อัพภาส เล่นวรรณยุกตส์ัญลักษณ์ อุปมานิทัศน์ สัมผัส ตัวอย่างอัพภาส นามนัย ไวพจน์ ตัวอย่างไวพจน์
  • 4. คววาามหมมาาย ถถ้อ้อยคคำาำาใในนภภาาษษาาทที่กี่กววีี ใใชช้้เเรรีียบเเรรีียงวรรณกรรม ททั้งั้งรร้้อยแแกก้ว้วแแลละะรร้อ้อยกรอง ใใหห้เ้เกกิดิดคววาามไไพพเเรราาะะ ปรระะททัับใใจจ เเกกิดิดคววาามรรู้สู้สึกึก ออาารมณณ์์ บบาางครรั้งั้งออาาจใใชช้้ ภภาาษษาาทที่แี่แปปลกออกไไปปจจาาก ภภาาษษาาปกตติิ เเรรีียกวว่่าา กกาาร ใใชช้้โโววหหาาร
  • 5. คคำาำาไไววพจนน์์ หมายถึง คำาที่เขียนต่างกัน แต่ความ หมายเหมือนกัน นำามาใช้ ในการแต่งบทประพันธ์บทเดียวกัน เช่น ม้า - พาชี อาชา สินธพ มโนมัย เดิน - จรลี จรัล จรก คลา ดำาเนิน ยุรยาตร ทองคำา - กนก กาญจน์ จารุ จมี กร มาศ สุพรรณ สุวรรณ อุไร เหม หาดก ดอกไม้- บุปผา บุษบา บุษบง
  • 6. ตตัวัวอยย่า่างไไววพจนน์์ แล้วให้ผูกสินธพอาชา คอยท่า รับเสด็จผายผัน พรั่งพร้อมพหลพลนิกาย ตัวนาย ตรวจตราในราตรี (อิเหนา : พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศ หล้านภาลัย) นำาคำา สินธพ อาชา ซึ่งมีความ หมายว่า ม้า มาแต่ง
  • 7. สสัทัทพจนน์์ หมายถึง การเลียนเสียงธรรมชาติ กวีใช้ คำาเลียนเสียงธรรมชาติ ทำาให้เสียง ไพเราะเกิดจินตภาพได้ชัดเจน เกิดความรู้สึก คล้อยตาม เช่น เกือบรุ่งฝูงช้างแซ่ แปร๋ แปร๋น กรวดป่ามาแกร๋นแกร๋น เก ริ่นหย้าน ฮูมฮูมอู่มอึงแสน สนั่นรอบ ขอบแฮ
  • 8. อัพภาส หมายถึง การกร่อนเสียงคำา ซำ้าในงานประพันธ์ เรื่อยเรื่อย -- ระเรื่อย แจ้วแจ้ว -- จะแจ้ว ครืนครืน -- คระครืน
  • 9. ตตััวอยย่า่าง ออัพัพภภาาส รร่่าายขึ้นช้างไปผะผ้าย มาคะคล้ายโดย ทาง ถับถึงทางจรอกปู่ หมอเฒ่าอยแู่ลเห็น แสร้งแปรเป็น โฉมมลาก เป็นบ่าวภาคย์บ่าวงาม สองถึงถามหาปู่ ปู่หัวอยู่ยะแย้ม ค่อย ว่าสองแสล้ม มาแต่ด้าวแดนใด ลิลิตพระลอ คำา ผะผ้าย คะคล้าย ยะ แย้ม เป็นอัพภาส
  • 10. คือการเปรียบเทียบว่าสิ่งหนึ่ง ออุุปมมาา เหมือนกับสงิ่หนึ่ง โดยใช้ คำาว่า เหมือน เสมือน ดุจ ประดุจ ดั่ง ปูน เพียง เพี้ยง ราว เฉก ออกจากคลองขุดข้าม ครรไล เรือวิ่งอกว้าใจ หวาดขวำ้า เด็ดแดดั่งเด็ดใย บัวแบ่ง มาแม่ จากแต่อกใจปลำ้า เปลี่ยน ไว้ในนางฯ โคลงนิราศนรินทร์ : นาย
  • 11. คือการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่ง ออุหปุปนลลัังึ่ กกวีษจะใช้ ณณ์์ การเปรียบเทียบโดยตรง นำาเสนอลักษณะ เด่นของสิ่งที่ต้องการเปรียบเทียบมากล่าว ทันทีโดยไม่มีคำาเชอื่มโยง บางครั้งอาจใช้ คำาว่า เป็น และ คือ เชอื่มโยงก็ได้ เช่น ถ้าเรามีนาวาทิพย์ทำาด้วยมุกดา มี ความปรารถนาเป็นใบ มีความอำาเภอใจเป็นหางเสือ กามนิต : เสถียรโกเศศ – นาคะ ประทีป กวีเปรียบความปรารถนากับใบเรือ และ ความอำาเภอใจกับ หางเสือเรือ โดยใช้คำาว่า เป็น เป็นคำาเชื่อม
  • 12. บบุุคลลาาคือกาธธิษิษรสฐฐาามมุติน สิ่งต่าหงรรืๆ อือ ที่ไม่บบุุใช่คคมนุลษววััย์ ต ให้มีกิริยามนุษย์ หรรือาอือ กาบบุุร คควาคลมรู้สสึมกเหเช่น มมุุมืตติิ อน บรรจถรณ์หมอนม่านมุ้ง เตียงสมร เตียงช่วยเตือนนุชนอน แท่น น้อง ฉุกโฉมแม่จักจร จากม่าน มาแฮ ม่านอย่าเบิกบังห้อง หับ ให้คอยหน โคลงนิราศนรินทร์ : นายนริ นทรธิเบศร์ (อิน) เตียงช่วยเตือนนุชนอน เป็นบุคคล
  • 13. ถ้อยคำากระทบอารมณ์ ของผู้อ่านให้มีความรู้สึกเพิ่มขึ้น อตติิพจนน์์,, อธธิิพจนน์์ เช่น เอียงอกเทออกอ้าง อวดองค์ อรเอย เมรุชุบสมุทรดินลง เลขแต้ม อากาศจักจารผจง จารึก พ่อฤๅ โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม อยู่ร้อนฤๅเห็น โคลงนิราศนรินทร์ : นายนริ นทรธิเบศร์ (อิน) การใช้คำา เอียงอกเท แทนสิ่งที่อยู่ในใจ
  • 14. อวพ จนน์์ คคือือกกาารกลล่า่าวนน้อ้อยกวว่า่าคววาามเเปป็น็น จรริงิง เเชช่น่น คอยสสักักออึดึดใใจจเเดดียียว มทีองเเทท่า่าหนวดกกุ้งุ้ง นอน สสะะดดุ้งุ้งจนเเรรือือนไไหหว นอนสสะะดดุ้งุ้งจนเเรรือือนไไหหว เเปป็น็นอว พจนน์์
  • 15. คือการนำาคุณสมบัติที่เด่นของสิ่งหนึ่งมา นนาามนนััย กล่าวแทนการเอ่ยชื่อ ของสิ่งนั้นๆทั้งหมด นายกรัฐมนตรีมัวแต่ห่วงเก้าอี้ จึง ไม่ยอมวางแผนใหม่ที่เสี่ยงต่อความผิด พลาด ...ว่านครามินทร์ ผลัดแผ่นดินเปลี่ยน ราช เยียววิวาทชิงฉัตร... เก้าอี้หมายถึง ตำาแหน่ง อำานาจ หน้าที่ ฉัตร หมายถึง ความเป็นกษัตริย์ แผ่นดิน ประเทศ ทรัพย์สมบัติ
  • 16. สสัญัญลลักักษณณ์์ คือการใช้สิ่งหนึ่งแทนอีกสิ่งหนึ่งที่มี คุณสมบัติหรือลักษณะภาวะบางอย่าง ร่วมกัน  ดอกไม้ - ผู้หญิง  ดอกมะลิ- ความบริสุทธิ์  ดอกกุหลาบ - ความรักของ หนุ่มสาว  กา - คนคด ใจดำา  กระต่าย - คนตำ่าต้อย เมฆ หมอก อุปสรรค
  • 17. ปฏฏิพิพาากยย์์ หรรืือ ปฏฏิพิพจนน์์ คือการเปรียบเทียบโดยใช้คำาที่มีความหมาย ตรงกันข้ามกันหรือขัดแย้งกัน นำามาแต่งให้เข้า คู่กันเพื่อให้เกิดความหมายขนานหรือ เกิดภาพตัดต่อกันที่ก่อให้เกิดความรู้สึกหรือให้ จินตภาพที่ชัดเจนขึ้น เช่น รอยบุญเราร่วมพ้อง พบกัน บาปแบ่งสองทำาทัน เท่าสร้าง เพรงพรากสัตว์จำาผัน พลัดคู่ เขาฤๅ บุญร่วมบาปจำาร้าง นุชร้างเรียม ไกล โคลงนิราศนรินทร์ : นายนรินทร์ธิเบศร์
  • 18. อุปมานิทัศน์ คือการใช้เรื่องราวหรือนิทาน ขนาดสั้นหรือ ขนาดยาว ประกอบขยายหรือแนะ โดยนัยให้ผู้อ่าน หรือผู้ฟังข้อเขียนเกิดความเข้าใจ แนวคิดชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น เล่านิทานเรื่องตาบอดคลำาช้าง
  • 19. คคำำำำพพ้อ้องเเสสียียง คือกำรนำำคำำที่มีเสียงเดียวกันมำเรียบ เรียงหรือร้อยกรอง เข้ำด้วยกัน เช่น บรรลุอำวำสแจ้ง เจ็บกำม แจ้งจำกจงอำรำม พระรู้ เวรำนุเวรตำม ตัดสวำท แล ฤๅ วำนวัดแจ้งใจชู้ จำกช้ำ สงวนโฉม โคลงนิรำศนรินทร์ : นำยนรินทรธิเบศร์ (อิน) คำำว่ำ “แจ้ง” เป็นคำำพ้องเสียงแต่ละที่จะมี ควำมหมำยต่ำงกัน
  • 20. คคำำำำซซำ้ำำ้ำ คอื กำรเล่นคำำเพอื่ทำำให้เกิดควำมรู้สึก สะเทือนอำรมณ์ เช่น ลับยักษ์ลับเยำว์ให้เรียมหำ แม่ แฮ ฤๅอสูรพำลพำ แวะเว้น ลับหลังพี่ลับตำ แสนโยชน์ รำำลึกลับนุชเร้น ร่วมรู้ในใจ โคลงนิรำศนรินทร์ : นำยนรินทรธิเบ ศร์ (อิน)
  • 21. เเลล่คืน่นอกำเเสสีรเล่ยียนงคำำวด้วรยรกำณรไล่ยยุเสียกุกง ตต์์ วรรณยุกต์ เพื่อให้เกิดควำมไพเรำะ เพลิดเพลินและเกิดจินตภำพ เช่น นึกระกำำนำมไม้ แม่นแม้น ทรวงเรียม เรียมจักแนะนั่นนี้ โน่นโน้น แนวพนม
  • 22. เเลล่น่นเเสสียียงสสัมัมผผััส คือ กำรเล่นเสียงให้สัมผัสคล้องจองกัน ในบทประพันธจ์ะเล่นสัมผัสใน ซึ่งเล่นได้ ทั้งสัมผัสอักษรและสมัผัสสระ เช่น ศรีสิทธิ์พิศำลภพ เลอหล้ำลบล่มสวรรค์ จรรโลงโลกกว่ำกว้ำง แผนแผ่นผ้ำงเมืองเมรุ ฯลฯ ใดใดโอษฐ์โอ่อ้ำง ตนดี เอำปำกเป็นกวี ขล่อย คล้อย หำกหำญแต่วำที เฉลย กล่ำว ไฉนนำ
  • 23. โคลงบทที่ 2 กรุงศรีอยุธยำ ล่มสลำยไปจำกกำรเสียกรุง แต่ก็มีเมืองล่องลอยมำจำก สวรรค์อันมีพระที่นั่งสถูป แก้วอันสวยงำม ด้วยบุญ บำรมีที่สั่งสมของพระเจ้ำ แผ่นดินก็ได้ทำำนุบำำรุง ศำสนำให้เจริญรุ่งเรือง เปิด
  • 24. โคลงบทที่ 3 ควำมรุ่งเรืองของ ศำสนำนั้นมีมำกไปทั่วยิ่งกว่ำ แสงอำทิตย์ ผู้คนได้รับพระธรรม จำกกำรฟังธรรมอยู่เป็นประจำำ เจดีย์มำกมำยได้ถูกสร้ำงขึ้นสูง ตระหง่ำนฟ้ำยอดเจดีย์สวยงำม ยิ่งกว่ำแสงนพเก้ำ เสมือนเป็น หลักแห่งโลกและเป็นที่
  • 25. โคลงบทที่ 4 โบสถ์ วิหำร ระเบียง ธรรมำสน์และศำลำ ต่ำงๆนั้น กว้ำงใหญ่ขยำยไปถึง สวรรค์ หอพระไตรปิฎก เสียง ระฆังในหอระฆังยำมพลบคำ่ำ และแสงตะเกียงจำกโคมแก้ว อันมำกมำยนั้นสำมำรถทำำให้ แสงจันทร์สว่ำงน้อยลง
  • 26. โคลงบทที่ 8 เมื่อจำำต้องจำกนำงอัน เป็นที่รักไปด้วยควำมอำลัยเหมือน กับต้องปลิดหัวใจของตนออกไป กับนำง ถ้ำหำกว่ำดวงใจสำมำรถ แบ่งออกได้ก็จะผ่ำออกเป็นสองซีก ซีกหนึ่งจะเก็บไว้กับตนเอง แต่อีก ซีกหนึ่งจะมองให้นำงรักษำไว้ โคลง
  • 27. บทที่ 10 จะฝำกนำงไว้กับฟำก ฟ้ำหรือผืนดินดี เพรำะกลัวว่ำ พระเจ้ำแผ่นดินจะมำลอบ เชยชมนำง จะฝำกนำงไว้กับ สำยลมช่วยพัดพำนำงบินหนีไป บนฟ้ำ แต่ก็กลัวลมพัดทำำให้ผิว นำงมีรอยชำ้ำ
  • 28. โคลงบทที่ 11 จะฝากนางไว้กับใคร ดี จะฝากนางไว้กับนางอุมาหรือ ชายาพระนารายณ์ ก็เกรงว่าจะเข้า ใกล้ชิดนาง พี่คิดจนสามโลกจะล่วง ลับไปก็คิดได้ว่าจะฝากนางไว้ในใจ ตนเองดีกว่าฝากไว้กับคนอื่น
  • 29. โคลงบทที่ 22 เดินทางมาโดยทาง นำ้าล่วงหน้ามาจนถึงตำาบลบางยี่เรือ ขอให้เรือแผงช่วยพานางมาด้วย แต่บางยี่เรือไม่รับคำาขอ นำ้าตาพี่จึง ไหลนอง
  • 30. โคลงบทที่ 37 เดินทางต่อไปจนถึง ตำาบลบางพ่อ ซึ่งนำ้าแห้งเหือดจน มองไม่เห็น มีแต่บ่อนำ้าตาที่คงเต็ม ไปด้วยเลือด พี่ก็อยากให้นางผู้มี ความงาม5ประการมาซับนำ้าตาพี่ แล้วค่อยจากไป
  • 31. โคลงบทที่ 41 เห็นต้นจากแตกกิ่ง ก้านสลับกับต้นระกำา ทำาให้ชอกชำ้า ระกำาใจ ว่าเคยเป็นเวรกรรมที่คง เคยทำากันมาทำาให้เราต้องจากกัน ไกล ขอให้ครั้งหน้าเราคงได้อยู่ ด้วยกัน
  • 32. โคลงบทที่ 45 เป็นการเปรียบเทียบ ของหน้านางกับดวงจันทร์ แต่ดวง จันทร์มีรอยตำาหนิเป็นรอยกระต่าย แต่ใบหน้าของน้องนางสวยงาม ไม่มีตำาหนิ ไม่มีสิ่งใดมาเปรียบ เทียบ เพราะหน้าของน้องงามกว่า ดวงจันทร์ ยิ่งมองยิ่งงามกว่า นางฟ้า โคลงบทที่ 118 เดินทางมา ถึงตระนาวศรีความโศกเศร้าก็
  • 33. โคลงบทที่ 122 ไม่ว่าจะเป็น พระอินทร์ ผู้มีพันตา ผู้เฝ้าดูระวัง โลก พระพรหมผู้มีสี่หน้าแปดหูที่ คอยฟังสรรพเสียงใดๆ หรือจะเป็น พระนารายณ์ทบี่รรทมอยู่หลังนาค เมื่อเราทั้งสองต้องพลัดพรากจาก กัน เราสองครำ่าครวญอยู่ซำ้าซากแต่ เทพพระองค์ก็ไม่สนใจ
  • 34. โคลงบทที่ 139 ในอกของพี่นั้นมัน เต็มไปด้วยความรู้สึกที่อยากจะ ระบายยออกมาบรรยายให้น้องได้ ทราบ ความรู้สึกของพี่นั้นมากมาย ดังนั้น พี่จึงเอาเขาพระสุเมรุมาเป็น ปากกา เอามหาสมุทรเป็นนำ้าหมึก แล้วเขียนเป็นตัวหนังสือไนอากาศ เป็นแผ่นกระดาษ จารึกลงไปก็ยัง ไม่พอ เพราะความรู้สึกของพี่นั้นมี
  • 35. โคลงบทที่ 140 ภูเขาพังทลาย สวรรค์ 6 ชั้น ดวงจันทร์ ดวง อาทิตย์ จะหายไปจากโลก ความ รักของพี่นั้นก็ไม่หาย ถึงไฟมา ผลาญล้างทวีปทงั้ 4 ก็ไม่สามารถ ล้างความอาลัยของพี่ได้
  • 36. โคลงบทที่ 141 พไี่ด้ครำ่าครวญถึง ความรักของพี่จนสั่นกึกก้องทั้ง แผ่นดิน และท้องฟ้า เป็นข้อความที่ บรรยายถึงความโศกเศร้าของพี่ ข้อความเหล่านั้นขอให้น้องรับไว้ เป็นต่างหน้า ให้นึกถึงอดีตระหว่าง เรา