Weitere ähnliche Inhalte Ähnlich wie เติมเต็มห้องสมุดยุคใหม่ด้วย Wiki (20) Mehr von Satapon Yosakonkun (20) เติมเต็มห้องสมุดยุคใหม่ด้วย Wiki1. เติมเต็มห้ องสมุดยุคใหม่ ด้วย Wiki
ศตพล ยศกรกุล
บทนำ
ปั จจุบนห้องสมุดมีการดาเนิ นงานโดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร
ั
รวมทั้งเทคโนโลยเว็บเพื่อการจัดการและดาเนิ นงานห้องสมุด โดยใช้เว็บไซต์เป็ นเครื่ องมือหลักใน
การให้บ ริ ก ารผูใ ช้และติ ด ต่ อสื่ อ สาร ประชาสั ม พัน ธ์ กิ จ กรรมของห้อ งสมุ ด แต่ ก็ ท าได้ใ นตาม
้
ความสามารถของเทคโนโลยีเว็บแบบเดิ มเท่านั้น เมื่อพัฒนาการเว็บยุคใหม่ คือ เว็บ 2.0 เข้ามามี
บทบาทกับวงการต่างๆ มากขึ้น เครื่ องมือเว็บ 2.0 ซึ่ งเป็ นในกลุ่มของ Social Software ให้เลือก
ประยุกต์ใช้ตามความเหมาะสมทั้ง Blog , Flickr, Social Bookmarking, Google Docs, Youtube
เป็ นต้น Social Software อีกตัวที่มีความโดดเด่น น่าสนใจซึ่ งห้องสมุดสามารถนามาประยุกต์ใช้ใน
การให้บริ การ ในรู ปแบบของการร่ วมสร้างสรรค์ออนไลน์ คือ Wiki ซึ่ งเป็ นบทความนี้ กล่าวถึง คา
จากัดความของวิกิ ความเป็ นมาของวิกิ ลักษณะเด่น ซอฟท์แวร์ วิกิและการประยุกต์ใช้วิกิกบงาน ั
ห้องสมุดเพื่อเพิ่มคุณค่าให้งานบริ การห้องสมุดต่อไป
วิกิ คืออะไร
คาว่าวิกิ หรื อ Wiki หลายท่า นคงนึ ก ถึ ง เว็บไซต์ Wikipedia ซึ่ งเป็ นสารานุ ก รมเสรี
หลากหลายภาษา ที่ ร่วมกันสร้ างขึ้ นโดยผูอ่าน มี คนหลายๆ คนร่ วมกันปรั บปรุ งวิกิพีเดี ยอย่า ง
้
สม่าเสมอ โดยบทความจะสมบูรณ์ยิ่งขึ้นทุกๆ การแก้ไขโดยการเปลี่ยนแปลง ทั้งหมดถูกบันทึกไว้
ในหน้าประวัติ ซึ่ งจะเก็บไว้ทุกครั้งและสามารถย้อนกลับไปดูการแก้ไขที่ท่านหรื อผูอื่นสร้างสรรค์
้
ไว้ เทคโนโลยีวิ กิ อานวยความสะดวกในการแก้ไ ขหน้า เว็บ ได้อย่า งรวดเร็ ว นอกจากนี้ ผูใ ช้ย ง้ ั
สามารถเพิ่มลิงค์ในหน้าเว็บได้ดวย วิกิเป็ นนวัตกรรมที่สร้างการมีส่วนร่ วม แนวคิด “ทุกคนสามารถ
้
เข้าไปแก้ไขสิ่ งที่คนอื่นเขียนได้” เป็ นแนวคิดใหม่ท่ีนามาสู่ การสร้างสรรค์แบ่งปั น
คำจำกัดควำมของวิกิ
วิกิ หรื อ วิก้ ี (Wiki) คือ ลักษณะของเว็บไซต์แบบหนึ่ง ที่อนุญาต ให้ผใช้ เพิ่มและแก้ไข
ู้
เนื้อหาได้โดยง่าย ซึ่ งบางครั้งไม่จาเป็ นต้องการลงทะเบียนเพื่อแก้ไข ด้วยความง่ายในการแก้ไขและ
โต้ตอบ วิกิเว็บไซต์ส่วนใหญ่นามาใช้ในการร่ วมเขียนบทความ คาว่า “ วิกิ ” ยังหมายรวมถึงวิกิ
ซอฟต์แวร์ซ่ ึงเป็ น ตัวซอฟต์แวร์ รองรับการทางานระบบนี้ หรื อยังสามารถหมายถึงตัวเว็บไซต์เองที่
นาระบบนี้มาใช้งาน (WhatIsWiki , 2002)
2. 2
ควำมเป็ นมำของวิกิ
วิกิตวแรกถื อกาเนิ ดเมื่อพ.ศ. 2537 ชื่ อว่า WikiWikiWeb สร้างโดยวิศวกรชื่ อ Ward
ั
Cunningham ซึ่ ง ถื อว่า เป็ นหนึ่ ง ในผูที่ ได้รับ ยกย่องว่าเป็ นผูบุ กเบิ ก เทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ
้ ้
่
WikiWikiWeb อยูภายใต้โครงการ Portland Pattern Repository โดยได้เขียนโปรแกรมขึ้นด้วย
ภาษาเพิร์ลและติดตั้งลงที่เว็บ c2.com โดยชื่อของ วิกิ นั้นมาจากชื่ อรถประจาทางสาย "วิกิ วิกิ"
(Wiki Wiki) ของระบบรถขนส่ งแชนซ์ อาร์ที-52 ที่ สนามบินฮอโนลูลูในรัฐฮาวาย คาว่าวิกิในภาษา
ฮาวายมีความหมายว่าเร็ ว ดังนั้นคาว่า "วิกิวกิ" หมายถึง "เร็ วเร็ ว" นันเอง
ิ ่
วิกิตวแรกของโลก เปิ ดใช้งานวันที่ 25 มีนาคม 2537 เป็ นต้นมาจนถึงปั จจุบน ระบบวิกิเริ่ ม
ั ั
เป็ นที่รู้จกภายหลังจากที่สารานุ กรมวิกิพีเดียซึ่ งผูก่อตั้ง คือ Jimmy Walesได้นามาใช้ ซึ่ งต่อมาได้มี
ั ้
หน่วยงานหลายส่ วนได้นาระบบวิกิมาใช้ไม่วาในการจัดการเอกสาร การติดต่อสื่ อสาร การจัดการ
่
องค์กรหรื อแม้แต่การร่ วมเขียนโปรแกรม (วิกิ , 2008)
จิระเดช เกิดศรี และสมัญญา พันธุ วฒนา (2550) ได้ยกตัวอย่างการนาวิกิมาประยุกต์ใช้งาน
ั
ในระบบ ยกตัวอย่าง เช่น
Wiktionary พจนานุกรมออนไลน์(http://www.wiktionary.org)
Wikitravel แนะนาการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ(http://www.wikitravel.org)
Wikitosh วิธีการใช้งานเครื่ องคอมพิวเตอร์ แมคของแอปเปิ้ ล(http://www.wikitosh.org)
Wikiversity กิจกรรมและสื่ อความรู ้(http://en.wikiversity.org/wiki/Wikiversity:Main_Page)
Wikisource ห้องสมุดแบบออนไลน์ที่ทุกคนแก้ไขได้ (http://en.wikisource.org/wiki/ Main_Page)
JuraWiki แหล่งรวมข้อมูลสาหรับนักกฎหมาย (http://www.jurawiki.de)
Wikinews ข้อมูลข่าวสารต่างๆ (http://en.wikinews.org/wiki/Main_Page)
Wikispecies รวมข้อมูลสปี ชีส์ต่างๆ (http://species.wikimedia.org/wiki/Main_Page)
Wikiquote รวบรวมคากล่าวขอบคุณของบุคคลที่มีชื่อเสี ยง
(http://en.wikiquote.org/wiki/Main_Page)
ซอฟท์แวร์ วกิ ิ
ซอฟท์แวร์ ของวิกิส่วนใหญ่เป็ นฟรี แวร์ ที่ข้ ึ นอยู่กบ GNU “GNU Free Documentation
ั
License” หรื อ GFDL ซึ่ งทางานอยู่บนเซิ ร์ฟเวอร์ รูปแบบของสคริ ปต์ (Programming Script)
ปั จจุบนมีซอฟท์แวร์ ในกลุ่มของ Wiki ให้เลือกมากมาย เช่ น MediaWiki, PBwiki, Wikispaces,
ั
EditMe,WetPaint, DokuWiki, TikiWiki เป็ นต้น ที่ยกตัวอย่างเป็ นเพียงเสี้ ยวหนึ่ งของซอฟท์แวร์ ทา
วิกิเท่านั้น ซึ่งสามารถเลือกและศึกษา รวมทั้งเปรี ยบเทียบความสามารถที่เหมาะสมได้ที่ Wikimatrix
(http://www.wikimatrix.org/)
3. 3
ทำไมต้ องวิกิ
ปั จจัยที่ ทาให้วิกิได้รับความนิ ยมในการประยุกต์ใช้กบองค์กรต่างๆ คื อความง่ ายในการ
ั
สร้ างสรรค์ออนไลน์ เหมือนเขียนเอกสารทัวไปวิกิได้ออกแบบระบบการสร้างเว็บที่สามารถคลิ ก
่
เพื่อสร้างหน้าใหม่ แล้วบันทึก โดยไม่ตองเขียนคาสั่ง ระบบจะเชื่ อมโยงเข้ากับเว็บไซต์ให้ (ถ้าเป็ น
้
การเขียนด้วยโปรแกรมอื่น ผูเ้ ขียนจะต้องเขียนเชื่อมโยง จากหน้าหลัก ไปสู่ หน้าเนื้ อหา และเชื่อม
จากเนื้ อหาไปสู่ หน้าหลักเอง) โดยไม่จากัดจานวนผูเ้ ขียน ผูที่ใช้งานโปรแกรมพิมพ์เอกสารได้ ก็
้
สามารถเขียนเว็บวิกิได้
มีระบบหมวดหมู่ การมีหมวดหมู่ ช่วยให้เชื่ อมโยงเนื้ อหาได้สะดวก รวดเร็ ว โดยไม่ตอง ้
เขียนคาสั่งที่ยงยาก ยืดยาวอย่างโปรแกรมอื่นๆ และทาให้สามารถจัดระบบฐานข้อมูลได้ง่ายด้วย
ุ่
แก้ไขได้ง่าย ปกติแล้ว เว็บทัวไป ต้องเข้ารหัสก่อน จึงจะแก้ไข หรื อเพิ่มเนื้ อหาได้ แต่วิกิให้
่
ผูใช้งานสามารถแก้ไขได้ทนที เพื่อให้เนื้ อหา ข้อมูลมีความถูกต้อง ได้รับการตรวจแก้อย่างรวดเร็ ว
้ ั
เมื่อพบที่ผด หรื อต้องการเพิ่มเติม ปรับเปลี่ยนเนื้อหา
ิ
มีระบบป้ องกันข้อมูล วิกิมีระบบป้ องกันข้อมูลหลายระดับ ดังนี้
มีบนทึกการใช้งาน (เรี ยกว่า ประวัติ) ของการแก้ไขทุกครั้งที่เกิ ดขึ้น หากแก้ไข
ั
แล้วยังไม่สมบูรณ์ ก็สามารถกลับไปใช้ขอมูลครั้งก่อนหน้านั้นครั้งใดก็ได้ เพราะมี
้
บันทึกไว้ ประวัติในการใช้งานนี้ ไม่สามารถลบได้ ยกเว้นผูดูแลเว็บไซต์ คือผูที่
้ ้
ติดตั้งและลงโปรแกรมนี้เท่านั้น
สามารถล็อกการแก้ไขได้ ข้อมูลเอกสารที่ สมบูรณ์ แล้ว สามารถล็อกหน้า เพื่อ
ป้ องกันการแก้ไขได้ จึงไม่ตองห่วง ว่าข้อมูลจะถูกแก้ไขตามใจชอบ
้
กำรประยุกต์ ใช้ วกในกำรจัดกำรห้ องสมุด
ิิ
แรกเริ่ มวิกิจะถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่เมื่อมีการพัฒนาอย่าง
ต่อเนื่อง วิกิจึงมีความสามารถสู งขึ้น ในการรองรับการใช้งานได้หลายรู ปแบบ
โดยทัวไปอาจแบ่งการใช้งานวิกิออกเป็ น 2 ประเภท คือ
่
1. ใช้งานในกลุ่มคนเฉพาะ (intranet)
2. ใช้งานเป็ นสาธารณะบนอินเทอร์ เน็ต (internet)
วิกิสามารถนาไปใช้งานได้หลายรู ปแบบ เช่น ใช้งานเป็ นเครื่ องมือในการบริ หารจัดการ
ความรู ้ ใช้ในการจัดการกับเอกสารต่าง ๆ ใช้ในระบบการจัดการเนื้ อหา (Content Management
System) ใช้จดทากระดานสนทนา ใช้จดทาบล็อก และที่โด่งดังมากคือทาสารานุกรมออนไลน์
ั ั
4. 4
ห้องสมุดสามารถนาวิกิมาประยุกต์ใช้ในการบริ หารจัดการห้องสมุดจากการศึกษานวัตกรรม
ของ Wiki สามารถสรุ ปเป็ นแนวทางในการนามาประยุกต์ใช้งานได้ ดังนี้
1. วิกเิ ป็ นแหล่งแลกเปลียนเรียนรู้ ของผู้ใช้ และบรรณำรักษ์
่
ด้วยความสามารถของวิกิหองสมุดสามารถประยุกต์เป็ นช่องทางการติดต่อกับผูใช้
้ ้
ด้วยการใช้วกิทาเป็ นเว็บไซต์ซ่ ึงเป็ นลักษณะของระบบการจัดการเนื้ อหา (CMS) และใช้วิกิ
ิ
ในการจัดทา Blog ของห้องสมุด ซึ่ งวิกิมีฟังก์ชนเสริ มประสิ ทธิ ภาพในการใช้งานของผูใช้
ั ้
ด้วย Plugin ที่หลากหลาย เช่น Youtube, Tags, Calendar, สู ตรทางเคมี คณิ ตศาสตร์ เป็ นต้น
สาหรับบริ การที่จดให้ผูใช้ เช่ น บริ การข่าวสารทันสมัย บริ การความรู ้ ต่างๆ บริ การสอน
ั ้
การใช้ห้ อ งสมุ ด บริ ก ารตอบค าถามและช่ วยค้น คว้า ที่ ส าคัญ วิ กิ ร องรั บ การบริ ก ารใน
รู ปแบบ Virtual Reference
นอกจากนี้ ห้องสมุ ดสามารถจัดทาสารานุ กรมต่อยอดของห้องสมุด ซึ่ งผูใช้และ ้
บรรณารั ก ษ์มี บ ทบาทเป็ นทั้ง ผู ้เ ขี ย นและผู ้อ่ า น สามารถเป็ นทั้ง ผู ้ใ ห้ แ ละผู ้รั บ สร้ า ง
วัฒนธรรมในการแบ่งปั นความรู ้ในสังคม
ตัวอย่ ำงของหน่ วยงำนทีนำวิกมำประยุกต์ ใช้ เพือให้ บริกำร
่ ิ ่
The Ohio University Libraries Biz Wiki
(http://www.library.ohiou.edu/subjects/bizwiki/index.php/Main_Page)
ALA wikis (http://wikis.ala.org/readwriteconnect/index.php/ALA_wikis)
The Blogging Libraries Wiki
(http://www.blogwithoutalibrary.net/links/index.php?title=Welcome_to_the_Blogging_Libraries_Wiki)
2. วิกเิ ป็ นเครื่ องมือในกำรสร้ ำงกิจกรรมกำรแลกเปลียนเรียนรู้ แบบร่ วมมือกัน
่
ทาให้เกิดองค์ความรู ้ใหม่ได้ เนื่องจากหลักการของวิกิ คือการให้เสรี แก่ผใช้ ใน
ู้
การสร้างและแก้ไขเนื้ อหา
3. วิกเิ ป็ นเครื่ องมือในกำรจัดกำรองค์ ควำมรู้ ในห้ องสมุด
ทั้งองค์ความรู้ประเภท Explicit Knowledge และ Tacit Knowledge รวมทั้ง
นาไปใช้ในการจัดการองค์ความรู ้เฉพาะกลุ่มที่สนใจในด้านเดียวกัน
บทบาทใหม่ของห้องสมุดในยุคเว็บ 2.0 หรื อการเติมเต็มห้องสมุดด้วยวิกิ สิ่ งสาคัญคงไม่ใช่
แค่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว หากแต่ตองหันกลับมามองการสร้างวัฒนธรรมในการ
้
แบ่งปั น บทบาทของบรรณารักษ์ที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่เป็ นผูลงรายการ จัดหา จัดหมวดหมู่แต่เพียง
้
กลุ่มเดียวเปลี่ยนเป็ นการให้ผูใช้เข้ามามีส่วนร่ วมในการจัดการกับห้องสมุดซึ่ งผูใช้สามารถใช้และ
้ ้
ให้บ ริ ก ารตนเองและผูใ ช้ผูอื่นได้ด้วย Social Software สร้ า งเครื อข่ า ยหรื อชุ ม ชนออนไลน์
้ ้
เปรี ยบเสมือนว่าบรรณารักษ์เป็ น “ปัญญารักษ์”
------------------------------------------------------
5. 5
บรรณำนุกรม
จิระเดช เกิดศรี และสมัญญา พันธุ วฒนา. (2550). Wiki คลังควำมรู้ ค่ ูองค์ กร. กรุ งเทพฯ : ชัยพฤกษ์
ั
ทวีศกดิ์ กออนันตกูล.(2551).บทบำทห้ องสมุดในยุค Web 2.0 ค้นข้อมูลวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555
ั
จากhttp://www.stks.or.th/web/index.php?option=com_docman&task=
doc_download&gid=190&Itemid=31
บุญเลิศ อรุ ณพิบูลย์.(2551).Wiki ค้นข้อมูลวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 จาก
http://stks.or.th/wiki/doku.php?id=wiki:start
วิกิ. (2008, กันยายน 26). วิกิพเี ดีย, สำรำนุกรมเสรี. ค้นข้อมูลวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 จาก
http://th.wikipedia.org/wiki/Wiki
สุ ภาพร ชัยธัมมะปกรณ์.(2551).Library 2.0 ค้นข้อมูลวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 จาก
http://www.stks.or.th/web/index.php?option=com_docman&stask=doc_download&gid=
762&Itemid=31
Anderson, C. (2004, October). The Long Tail. Wired, 12(10). Retrieved February 24, 2012 from
http://www.wired.com/wired/archive/12.10/tail.html.
Crawford, W. (2006). Library 2.0 and “Library 2.0”. Cites & Insights: Crawford at Large, 6(2).
Retrieved February 24, 2012 from http://cites.boisestate.edu/v6i2a.htm
Chawner, B., Gorman, G.E. (2002), "Wikis are wicked", New Library World, Vol. 103
No.1182/1183, pp.483.
Maness, J. M. (2006). Library 2.0 Theory: Web 2.0 and Its Implications for Libraries. Webology,
3(2). Retrieved February 24, 2012 from http://www.webology.ir/2006/v3n2/a25.html.
Michael C. Habib.(2006)Toward Academic Library 2.0: Development and Application of a
Library 2.0 Methodology. A Master’s Paper for the M.S. in L.S degree.,
Nicol, D., Littlejohn, A. & Grierson, H. (2005). The importance of structuring information and
resourceswithin shared workspaces during collaborative design learning. Open Learning
20(1), 31-49.
WhatIsWiki.(2002). Retrieved February 24, 2012 from http://www.wiki.org/wiki.cgi?WhatIsWiki
WikiHistory .(2008). Retrieved February 24, 2012 from http://c2.com/cgi/wiki?WikiHistory