Weitere ähnliche Inhalte Ähnlich wie Pharmcare in TB/HIV patient (20) Mehr von Rachanont Hiranwong (20) Pharmcare in TB/HIV patient5. Acute Care
ผู้ป่วย TB/HIV รายใหม่
อธิบายแผนการรักษา ให้ความรู้เรื่องยา วิธี
การรับประทานยา ข้อควรระวัง ผลข้างเคียงที่
อาจเกิดขึ้นและการจัดการเมื่อเกิดอาการ
7. Ambulatory Care
ผู้ป่วย TB/HIV รายใหม่
อธิบายแผนการรักษา ให้ความรู้เรื่องยา วิธี
การรับประทานยา ข้อควรระวัง ผลข้างเคียงที่
อาจเกิดขึ้นและการจัดการเมื่อเกิดอาการ
29. Case #1
ชายไทยคู่อายุ 29 ปี นํ้าหนัก 54 กิโลกรัม มารับยาวัณโรคเดือนที่ 6
Current Medication
Isoniazid 100 mg 3 x 1 hs
Rifampicin 300 mg 1 x 1 hs
Vitamin B6 50 mg 1 x 1 pc เ้า
33. ให้ยาถูกต้องตามขนาดการรักษา ?
ขนาดยา rifampicin คือ 8 - 12 mg/day นํ้าหนักล่าสุดของผู้ป่วยเท่ากับ 54 kg
ควรได้รับ rifampicin 432-648 mg/วัน ึ่งผู้ป่วยรายนี้ได้รับเพียง 300 mg/day
ดังนั้นนั้นผู้ป่วยรายนี้ควรได้รับ rifampicin 600 mg/day ึ่งเป็นขนาดยาที่
คํานวณได้จากนํ้าหนักล่าสุดของผู้ป่วย
่วนขนาดยา isoniazid คือ 4 -6 mg/day เมื่อคํานวณตามนํ้าหนักล่าสุดจะได้
216 - 324 mg/day ึ่งผู้ป่วยรายนี้ได้รับ isoniazid 300 mg/day จึงมีความ
เหมาะสม
Case #1
34. Case #1
รายการ 9/8/59 21/9/59 26/10/59 14/12/59 18/1/60
Body weight (kg) 46 49 51 54.7 54
Rifampicin 8-12
mg/วัน
368-552 392-588 408-612 437.6-656.4 432-648
Rifampicin 450 mg
1x1 hs
/ / /
Rifampicin 300 mg
1x1 hs
/ / (off)
Rifampicin 300 MG
2x1 hs
/
38. Case #2
ชายไทยเดี่ยวอายุ 28 ปี นํ้าหนัก 52 กิโลกรัม ถูก่งต่อมาจากรพศ.
เพื่อมารับยาต่อเนื่อง
Current Medication
Tenofovir 300 mg 1 tab q 24 hr
Lamivudine 150 mg 1 tab q 12 hr
Lopinavir/ritonavir 200/50 mg 1 tab q 12 hr
47. วินิจฉัยผื่นแพ้ยา
ผื่นชนิด MP rash จะมีรอยโรคเป็นตุ่มนูน (Macule) และมีรอย
แดง (Papule) ทั้งอยู่เดี่ยวๆ และรวมกันจนเป็นปื้นขนาดใหญ่
ขอบผื่นแยกจากผิวปกติได้ไม่ัดเจน ผื่นมักจะเป็นทั้งสองข้างของ
ร่างกายเท่าๆ กัน กระจายทั่วร่างกาย โดยบริเวณที่ไม่พบผื่นชนิดนี้
คือ บริเวณเยื่อบุต่างๆ เ่น ใน่องปากเยื่อบุตา หรือที่อวัยวะเพศ
โดย Onset อยู่ที่ 4-14 วัน
Case #3
48. หายาที่สงัย
จากการพิจารณา Timeline พบว่าในวันที่ 13/6/60 ผู้ป่วยมาได้
รับยา TB สูตร IRZE ในวันที่ 15/6/60 ได้รับ Clotrimazole
วันที่ 21/6/60 ได้รับยา Bactrim และ Azithromycin หลัง
จากนั้นเกิดผื่นขึ้นในวันที่ 26/6/60 ึ่งระยะเวลาเริ่มยากับอาการ
แพ้ที่เกิดขึ้นของยาทั้งหมดที่ผู้ป่วยได้รับมีความัมพันธ์กัน ต่อมา
พิจารณาจากรายงานการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ปี พ.ศ. 2558
Case #3
55. Case #4
หญิงไทยอายุ 24 ปี มาที่ ARV คลินิก ด้วยผื่นแดงขึ้นทั่วตัว มี
แผลในปาก และเจ็บ
- มีประวัติแพ้ยา Bactrim
56. Case #4
ค่า Lab 17/5/60 27/6/60 4/7/60
BUN (6-23 mg/dL) 12 8 -
Cr (0.7-1.2 mg/dL) 0.61 0.77 0.83
GFR 139.773 127.013 123.155
SGOT (0-40 U/L) 20 51 31
SGPT (0-40 U/L) 16 32 21
Eosinophil (1-3 %) 0.9 - 6.2
WBC.count (5-10X103
/uL) 5.4 - 7.6
CD4 count 54, 4% - -
59. วินิจฉัยผื่นแพ้ยา
Stevens Johson Syndrome จะมีลักษณะของผื่นคล้าย
กับ MP rash แต่จะมีความแตกต่างตรงที่ผื่นชนิดนี้จะมีการ
พบที่บริเวณเยื่อบุอ่อนๆ เ่น ใน่องปาก เยื่อบุตาหรือที่
อวัยวะเพศ
พบการหลุดลอกของผิวหนังน้อยกว่าร้อยละ 10 ของร่างกาย
Case #4
60. หายาที่สงัย
เนื่องจากการเกิด SJS มี Onset 1 - 3 ัปดาห์ จึงจําเป็นต้อง
พิจารณายาของผู้ป่วยรายนี้ที่เริ่มใ้ใน่วง 1 - 3 ัปดาห์ก่อนมี
อาการด้วย พบว่ามียา Dapsone และ Omeprazole แต่
Omeprazole หยุดใ้ยาไปแล้ว จึงเหลือยาที่สงัยคือ
Dapsone ต่อมาพิจารณาจากรายงานการเกิดอาการไม่พึง
ประสงค์ปี พ.ศ. 2558
Case #4
66. Case #5
เด็กผู้ชายอายุ 1 ปี 1 เดือน contact พ่อที่กําลังรักษาวัณโรค
เดือนแรก นํ้าหนัก 9.3 kg
- Tuberculin skin test negative
70. Case #6
ทารกแรกเกิด GA 38 wk นน.แรกเกิด 3372 gm
มารดาใ้ยาต้านไวรัสสูตร TDF/FTC/EFV
Good compliance
CD4 683,36%
VL < 20
74. Drug interaction - Anti TB with ARV
- ARV with Drug in Pharmacy
Non-adherence - TB/HIV Patients
Dosage to high - Anti TB medication
Failure to receive medication - Herbal
- dietary supplements
Others DRPs
75. แนวทางการ Re-Challenge ยาต้านวัณโรค : เมื่อเกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ทางผิวหนัง
Guidelines คําแนะนํา เพิ่มเติม
World Health
Organization
แนะนําการทํา Re-Challenge โดยวิธี One-by-one ด้วย
ยาทีละหนึ่งตัวยา และเริ่มจากขนาดยาตํ่าสุด (Minimum
dose) ไปถึงขนาดยาสูงสุด (Full dose) ใน 3 วัน
•หากเกิดผื่นแพ้จากยาตัวใดให้หยุดยาตัวนั้นทันที
•เมื่อเกิดอาการแพ้ขึ้นให้รอจนกว่าอาการแพ้จะดีขึ้นแล้วจึง
Re-Challenge ยาตัวต่อไป
American
Thoracic
Society
แนะนําเริ่มต้นด้วย Rifampicin ตามด้วย Isoniazid และ
ตามด้วย Ethambutol หรือ Pyrazinamide โดยเริ่มจาก
ขนาดยาตํ่าสุด-สูงสุด ใน 2-3 วัน
•ผื่นที่พบร่วมกับการอักเสบของ Mucous membrane
•หาก Re-Challenge ยาครบสามตัวแล้วตัวที่ี่ไม่ต้อง
ทําการ Re-Challenge
•ตรวจ Platelet count ในแต่ละวันโดยเทียบกับ
Baseline
76. แนวทางการ Re-Challenge ยาต้านวัณโรค : เมื่อเกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ทางผิวหนัง
Guidelines คําแนะนํา
National Tuberculosis Control
Programme Guidelines
•เมื่อเกิดอาการผื่นขึ้น แนะนําให้ใ้ Antihistamine เพื่อบรรเทาอาการแพ้ หรือใ้ low-dose
prednisolone เพื่อลดอาการอักเสบจนกว่าจะอาการจะดีขึ้น จึงจะเริ่มทําการ Re-
Challenge
•หากเกิดการแพ้ยาในวัณโรคที่รุนแรงแนะนําให้ใ้ยาํารองกลุ่มอื่นไปก่อน
•เมื่อผื่นหายดีแล้วจะเริ่มการทํา Re-Challenge โดยเริ่มต้นด้วย Isoniazid ตามด้วย
Rifampicin และตามด้วย Ethambutol หรือ Pyrazinamide
77. แนวทางการ Re-Challenge ยาต้านวัณโรค : เมื่อตับอักเสบ
Guidelines คําแนะนํา
แนวทางการดําเนินงาน
ควบคุมวัณโรคแห่งชาติ
พ.ศ. 2556
- เมื่อ AST/ALT ลดลงจน < 2 เท่าของค่าปกติและtotal bilirubin ลดลงจน < 1.5 มก./ดล.ท่ทททททท
- เริ่มให้ยาจาก H, R และ Z ตามลําดับ
- ให้เริ่มจากขนาดยาปกติได้เลยหลังการให้ยาแต่ละชนิดเจาะเลือดดู AST/ALT และ total bilirubinภายใน 1
ัปดาห์ ถ้าไม่พบความผิดปกติ จึงเริ่มยาตัวต่อไปได้
- ระหว่าง re-challenge ถ้าค่า AST/ALT หรือto-tal bilirubin กลับสูงขึ้นตามเกณฑ์ให้หยุดยาและไม่กลับ
มาให้ยานี้อีก
78. แนวทางการ Re-Challenge ยาต้านวัณโรค : เมื่อตับอักเสบ
Guidelines คําแนะนํา
American Thoracic
Society
- เมื่อ ALT ลดลงจน < 2 เท่าของค่าปกติให้เริ่มด้วยยา Rifampicin ึ่งจะรับประทานคู่กับ Ethambutol หรือไม่
ก็ได้
- หลังจากนั้น 3-7 วัน ให้เริ่มยา Isoniazid และต้องทําการติดตามค่า ALT ของผู้ป่วยอย่างใกล้ิด
- ในกรณีที่หลังรับประทานยาไปแล้วมีค่า ALT ที่เพิ่มมากว่าขึ้น ให้หยุดยาตัวสุดท้ายที่รับประทาน
- ําหรับผู้ป่วยที่เคยมีประวัติการเกิดภาวะตับอักเสบที่รุนแรง แต่สามารถทนทานต่อการรับประทานยา
Rifampicin และ Isoniazid ได้ การ Rechallenge ยา Pyrazinamide อาจจะมีอันตรายได้ โดยไม่แนะนําให้
ใ้ Pyrazinamide ในผู้ป่วยดังกล่าว (การรักษาจะยืดออกไปเป็น 9 เดือน) ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการตับอักเสบเล็ก
น้อยอาจจะพิจารณาให้ Pyrazinamide ได้
79. แนวทางการ Re-Challenge ยาต้านวัณโรค : เมื่อตับอักเสบ
Guidelines คําแนะนํา
World Health
Organization
- หากคิดว่าเกิด Hepatitis จาก ยา TB ให้หยุดยา TB ทุกตัว (ในกรณีที่เป็นอาการ TB รุนแรง พิจารณาให้ใ้สูตร
E+S ไปก่อนแต่ถ้าอาการยังรุนแรงค่อยเพิ่มเป็นสูตร E+S+FQs)
- รอให้ LFT ดีขึ้น หากไม่ได้ตรวจให้ทําการรอ 2 อาทิตย์แล้วอาการดีขึ้น ค่อยเริ่มการทํา Rechallenge
- โดยเริ่มทําการให้ Rifampicin ตัวแรกก่อน หลังจากนั้นรอ 3-7 วัน ค่อยให้ Isoniazid หลังจากนั้นรอ 3-7 วัน
ค่อยให้ Pyrazinamide ในกรณีที่ผู้ป่วยสามารถทนต่อ Rifampicin และ Isoniazid ไม่ต้องทําการ
Rechallenge Pyrazinamide อีก