Health Eco2. สอบกลางภาค
1 คะแนนเก็บ 15 คะแนนสอบ 10
2 คะแนนเก็บ 15 คะแนนสอบ 10
3 คะแนนเก็บ 15 คะแนนสอบ 10
4 คะแนนเก็บ – คะแนนสอบ 25
รวม 100 คะแนน
6 สอบปลายภาคจะแจ้งทางหัวหน้าภายหลัง
เกณฑ์การสอบและการให้คะแนน
3. การประยุกต์หลักเศรษฐศาสตร์ในกา
รกำาหนดนโยบาย
การวางแผนและการจัดบริการสุขภา
พ
เพื่อให้ทรัพยากรที่ใช้ในการจัดบริก
ารสุขภาพเกิดประโยชน์สูงสุด
ต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน
3
11. ร” ( w a n t ) และ “ อำานาจซื้อ” ( p u r c h a s in g p
La w o f D e m a n d ) ความสัมพันธ์ระหว
อซื้อ( Q ) จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงกันข้าม (P
ปริมาณสินค้าที่ผู้ผลิตยินดีที่จะนำาออกเสนอขาย
ในตลาด ณ ระดับราคาต่าง ๆ
( L a ของสินค้าชนิดนั้นly ) ความสัมพันธ์ระหว่างราคา (
กัน w o f S u p p ๆ
าย ( Q ) จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกัน (P Q
11
12. A la n W illia m s
ความจำาเป็นโดยหลักของอุปสงค์
1 . ความจำาเป็นที่ควรมี
( n o r m a t iv e n e e d )
ซึ่งเป็นการประเมินผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์
2 . ความจำาเป็นที่ตระหนัก ( f e lt
ne e d)
เป็นความจำาเป็นที่ผู้บริโภครู้สึกว่าต้องมี
3 . ความจำาเป็นที่แสดงออก
(e x p re s s n e e d )
12
13. 1 . อุปสงค์ตอสุขภาพ ( d e m a n d
่
f o r h e a lt h )
2 . อุปสงค์ตอการรักษาพยาบาล
่
( d e m a n d f o r h e a lt h
c a re )
อุปสงค์ต่อการรักษาพยาบาลนั้นเปรียบเสมือ
นส่วนย่อยของ
อุปสงค์ต่อสุขภาพ
13
14. 1 . อุปสงค์ต่อสุขภาพ
( d e m a n d f o r h e a lt h )
G ro s s m a n : 1.
การมีสขภาพสมบูรณ์ทำาให้ผู้บริโภคได้รับ
ุ
ความพอใจ มีคณภาพชีวิตทีดี
ุ ่
( เหมือนความต้องการสินค้าอุปโภค
บริโภค C o n s u m p t io n
goods )
2 .
ผู้บริโภคลงทุนเพือรักษาระดับสุขภาพให้ใ
่
นระดับเดิมหรือดีขึ้น
14
15. 2 . อุปสงค์ต่อการรักษาพยาบาล
( d e m a n d f o r h e a lt h c a r e )
ษาพยาบาลทีผู้บริโภคต้องการ จะบริโภคสินค้าและบริการสาธารณ
่
ต่าง ๆ กัน ของสินค้าและบริการนั้น ภายใต้งบประมาณทีมอยูของผู้บ
่ ี ่
QM :
ระดับการรักษาพยาบาลที่ตำำ
ำีำ่ผู้บริโภคพึงได้รับเพื่อรักษาสถานะของสุขภ
าพ
Q1 :
ผู้บริโภคไม่เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
Q 0 : เสียค่าใช้จ่ายเท่ากับ P 0
D 1 ไปเส้น D 2 เส้นอุปสงค์เลื่อนระดับ
เช่นการเลือกคลอดโดยวิธผ่าตัด ี
15
16. อุปทานของการรักษาพยาบาล
นในด้านบริการทางการแพทย์และอุปทานในด้านการบริการสาธารณ
ถ้าค่าตอบแทนในการให้บริก
ค่าตอบแทน ารตำำ
ำำ
(ต่อชัวโมง)
่ จำานวนชั่วโมงของการให้บริก
เส้นอุปทาน ารจะน้อยลง
ปัจจัยอื่น ๆ
ทีมผลต่อการเลื่อนระดับของเ
่ ี
ส้นอุปทาน
- จำานวนของผู้ให้บริการ
หากมีจำานวนมากขึ้น
จำานวนชั่วโมงบริการ
เส้นอุปทานของการรักษาพยา
เส้นอุปทานของบริการทางการแ จะเลื่อนระดับไปทางขวา
บาลก็
พทย์
16
20. นิยามและแนวคิดด้านต้นทุนการผลิต
ต้นทุน ลักษณะต่าง ๆ
ที่มีการกล่าวถึงในทางเศรษฐศาสตร์
ยโอกาส
ญชีและต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์
ost ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จ่ายออกไป และได้บันทึก รายการจ
รียกต้นทุนทางบัญชีว่า ต้นทุนที่ชัดแจ้ง (explicit cost)
t นั้นนอกจากจะรวมต้นทุนทางบัญชีแล้ว ยังรวมต้นทุนค่า
นทุกชนิดที่จำาเป็นต่อการผลิต ไม่ว่าจะได้มีการจ่ายเงินออก
ทางเศรษฐศาสตร์รวมต้นทุนที่ชดแจ้ง และต้นทุนที่ไม่ชดแจ
ั ั
plicit cost)
20
22. แนวคิดต้นทุนการผลิตภายในและภายนอก
ด้านต้นทุน
ระต้นทุน
กิดขึ้นภายในองค์กรทีให้บริการ เช่น โรงพยาบาล สถานีอนามัย เร
่
(internal cost)
ายนอกองค์กรทีให้บริการสุขภาพ เช่น ต้นทุนที่เกิดขึ้นกับผู้รับบริก
่
ไข้ในและคนไข้นอกหรือต่อชุมชน จะเรียกว่า ต้นทุนภายนอก (ext
ต้นทุนการผลิตทางตรงและทางอ้อม
(internal cost)
internal
ารที่เป็นต้นทุนทางตรงต่อกิจกรรม (direct cost) เช่น ค่าเบี้ยเลี้ยง
รที
นเจ้าหน้าที่ ค่ายาและเวชภัณฑ์
กิจกรรมเสริม ซึงเป็นต้นทุนทางอ้อม (indirect cost) ค่าใช้จ่ายใ
่
จ้าหน้าที่ที่ออกหน่วย ค่าใช้จ่ายในการนิเทศงาน
าหน้
22
23. external cost)
ต้นทุนทางตรงต่อกิจกรรม (external direct cost) เช่น
ค่าเดินทางของผู้มารับบริการจากหน่วยเคลื่อนที่
รายได้ทสูญเสียไปของผู้มารับบริการจากการมารับบริการ
ี่
นการผลิตที่ชดแจ้งและที่ไม่ชัดแจ้ง
ั
หรือต้นทุนทีจ่ายจริงและมองเห็น (explicit cost หรือ tangible
่
ดียวกับต้นทุน ทางบัญชี
หรือต้นทุนทีไม่ได้จ่ายไปจริง เป็นต้นทุนจำาบังหรือต้นทุนทีแฝงอยู่
่ ่
หรือ intangible cost) จำาเป็นต้องประเมินและนับรวมเป็นต้นทุน
พือให้ได้ต้นทุนทีแท้จริง เป็นต้นทุนทีสะท้อนให้เห็นถึงการใช้ทรัพย
่ ่ ่
ารสุขภาพ รายการต้นทุนเกี่ยวกับค่าเสื่อมราคาและรายได้ซงสูญเสึ่
ญาตินน นับเป็นต้นทุนไม่ชดแจ้งไม่ได้จ่ายจริง มองไม่เห็น ส่วนรายก
ั้ ั
ง จ่ายไปจริง โดยต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์จะนับรวมทังทุนชัดแจ้งแ
้
23
25. ต้นทุนของโรงพยาบาล แตกต่างกับการหาต้นทุนของกิจกา
ต้องมีการรับและส่งต้นทุนของหน่วยงานในระหว่างหน่ว
ยงานนั้น
ในที่สุดต้นทุนทั้งหมดก็จะไปรวมกันอยู่ที่หน่วยงานซึงใ
่
ห้ บริการผูป่วย (patient service) โดยตรง และ
้
เมื่อเปรียบเทียบกับจำานวนผู้ป่วยหรือจำานวนครั้งของกา
รมารับบริการผูป่วยจะทำาให้สามารถคำานวณ
้
หาต้นทุนต่อหน่วยได้
ต้นทุนต่อหน่วยหรือต้นทุนเฉลี่ยของการให้บริการ
(average cost) จึงเป็นการคำานวณ
หาค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นของสถานพยาบาลในการดำาเนิ
นงานจัดบริการเพื่อสุขภาพอนามัยแก่ผู้มารับบริการ 1
25
26. การวิเคราะห์ต้นทุนในสถานพยาบาล
กำาหนดหน่วยงานต้นทุนและกลุ่มของหน่วยงานต้นท
1. หน่วยงานต้นทุนทีไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-
่
Revenue Producing Cost Center : NRPCC)
หมายถึง หน่วยงานทีมลักษณะงานในด้านธุรการ
่ ี
การบริหารจัดการหรือสนับสนุนปฏิบัติงาน ของหน่วยงานอื่น
ๆ โดยมิได้เรียกเก็บค่าบริการจากผู้ป่วยโดยตรง
หรือโดยทีตนเองไม่กอให้เกิดรายได้ แก่องค์กร เช่น
่ ่
ฝ่ายบริหารงานทัวไป ฝ่ายวิชาการ ฝ่ายการพยาบาล
่
งานการเงินและการบัญชี งาน โทรศัพท์
หน่วยรักษาความปลอดภัย งานรักษาความสะอาด
งานประชาสัมพันธ์ งานสังคมสงเคราะห์ งานสุขศึกษา
เป็นต้น
26
2. หน่วยงานต้นทุนทีก่อให้เกิดรายได้ (Revenue
่
27. บริการผู้ป่วย (Patient Service Area ; PS) หมายถึง
ผู้ป่วยโดยตรงในด้านการรักษาพยาบาล ได้แก่ แผนกผู้ป่วยนอกแล
ลและป้องกันโรค งานด้านส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และงานท
อื่น ๆ (Non Patient-Service Area ; NPS) หมายถึง หน่วยงาน
าบาล ต้องการคำานวณต้นทุนของการบริการ เช่น การทำาวิจัย การใ
จายต้นทุนของตนเองไปให้ผู้อื่นจนหมดว่า “ หน่วยส่งผ่านต้นทุน”
Center ; TCCS) (หน่วยงานทีไม่ก่อให้เกิดรายได้ และหน่วยงานท
่
ป็นผู้รับต้นทุนมาทังหมดจะเรียกว่า “ หน่วยรับต้นทุน”
้
Center ; ACCS) (หน่วยงานให้บริการผู้ป่วย)
27
28. 2. การหาต้นทุนทางตรง ของ แต่ละหน่วยงาน
นทางตรงทั้งหมด = ต้นทุนค่าแรง + ต้นทุนวัสดุ + ต้นทุนลงท
ct cost(TDC) Labor Cost(LC) Material Cost(MC) Capital
น เงินเดือน ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา เบี้ยเลี้ยง เงินช่วยเหลือบุตร
ษาพยาบาล ค่าเช่าบ้าน
เช่น วัสดุสำานักงาน งานบ้านงานครัว ยา เวชภัณฑ์ อาหาร
พทย์ งานช่าง นำำ ำำ เป็นต้นรวมถึงค่าสา
า ค่าโทรศัพท์ นอกจากนียงได้แก่ ค่าซ่อมบำารุง รวมทังเครื่องมือ
้ ั ้
ดุดวย
้
าของการเสือมราคา ของอาคาร สิ่งก่อสร้างและครุภณฑ์ต่าง ๆ
่ ั
28
29. ารวางเกณฑ์การจัดสรรต้นทุนและวิธีการจัดสรรต้นท
การหาวิธีกระจายต้นทุนที่เหมาะสมเพือจัดสรร
่
หรือส่งผ่านต้นทุนทางตรงจากหน่วยส่งผ่านต้นทุน (TCCS)
ได้แก่ หน่วยงานต้นทุนที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NRPCC)
และหน่วยงานต้นทุนทีก่อให้เกิดรายได้ (RPCC)
่
กระจายไปเป็นต้นทุนทางอ้อมของ หน่วยงานอื่น ๆ
รวมถึงหน่วยให้บริการผู้ป่วย (PS) ซึ่งเป็นหน่วยรับต้นทุน
(ACCS) ตามลักษณะของ
ความสัมพันธ์ในการให้บริการหรือสนับสนุนระหว่างหน่วยง
านภายในสถานพยาบาลด้วยกัน
4. การคำานวณต้นทุนโดยรวม
29
ต้นทุนรวม = Direct Cost (DC) + Indirect
32. ABC
จะเน้นตัววัดผลการปฏิบัติงานทีสะท้อนถึงต้นทุน คุณภาพ
่
เวลาทีใช้ในการ
่
ประกอบกิจกรรมและความยืดหยุนของกิจกรรมต่อการเปลี่
่
ยนแปลงต่าง ๆ
ระบบ ABC
จึงเป็นระบบทีเชื่อมโยงตัววัดผลการปฏิบัติงาน
่
ทังทีเป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงินเข้าด้วยกัน
้ ่
ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารสามารถประเมินผลการปฏิบัติงานขอ
งแต่ละกิจกรรม หรือ
แต่ละกระบวนการขององค์กรโดยรวมได้อย่างถูกต้อง
32
33. การใช้ประโยชน์ข้อมูลต้นทุนในการบริหารจัดก
ารภายในสถานพยาบาล
1. ข้อมูลภาพรวมทังโรงพยาบาล
้
ทราบถึงโครงสร้างด้านต้นทุนประเภทต่าง ๆ
ของโรงพยาบาลได้เป็นอย่างดี
สามารถนำามาวิเคราะห์หาแนวทางการควบคุมต้นทุนได้ต่อไป
2. ข้อมูลระหว่างหน่วยต้นทุนต่าง ๆ
การจัดสรรทรัพยากรสอดคล้องกับผลลัพธ์ของงานหรือไม่
ใช้ประโยชน์ในการพิจาณาตั้งแผนเงินบำารุง
และแผนเงินงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ (Performance
Based Budgeting System)
3. ข้อมูลต้นทุนต่อหน่วยของหน่วยบริการผู้ป่วย
การเปรียบเทียบกันระหว่างหน่วย ต้นทุน
ควรเปรียบเทียบกันที่ต้นทุนค่าบริการตามปกติ (Routine Service
Cost ; RSC) ซึ่งเป็นต้นทุน
ที่เกิดขึ้นเป็นประจำาไม่ว่าจะมีผู้ป่วยมารับบริการหรือไม่ก็ตาม
33
34. 1. ให้มการเรียนรู้ การวางแผน การรวบรวมข้อมูล
ี
การตรวจสอบข้อมูล และการวิเคราะห์
ข้อมูลร่วมกันกับผู้ที่มสวนเกี่ยวข้องกับข้อมูลทังหมด
ี ่ ้
2. นำาความต้องการข้อมูลไปสอดแทรกในการพัฒนาระบ
บข้อมูลต่าง ๆ ให้ยั่งยืน เพราะ
กระบวนการนีเป็นการประสานข้อมูลเกียวกับทรัพยาก
้ ่
รและผลลัพธ์การทำางานทัวทั้งโรงพยาบาล
่
เมือทำางานนี้รอบแรกจบลง
่
ผู้เกี่ยวข้องทังหมดควรมาพิจารณาร่วมกันว่าจะสร้างฐา
้
นข้อมูลที่จำาเป็น
เพือง่ายต่อการวิเคราะห์ในรอบต่อไปอย่างไร
่
3. นำาข้อมูลทีได้เสนอต่อทีประชุมผู้บริหารและผู้ประกอบวิ
่ ่
ชาชีพสาขาต่าง ๆ เพื่อ
34
Hinweis der Redaktion 1 1 1 1