Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie การสืบพันธุ์ของพืช (20)
การสืบพันธุ์ของพืช
- 4. การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ ( Sexual reproduction ) การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชเป็นการสืบพันธุ์ที่เกิดจากการผสมกันระหว่าง เซลล์สืบพันธุ์ เพศผู้ คือ สเปิร์ม ( Sperm ) กับ เซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย คือ ไข่ ( Egg ) ได้เป็น เอมบริโอ ( Embryo ) ซึ่งจะเจริญเติบโตเป็นพืชต้นใหม่ที่ได้ลักษณะทางพันธุกรรมจากต้นพ่อและต้นแม่ ซึ่งโครงสร้างของพืชส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ของพืชดอก คือ ดอก ( Flower ) เป็นอวัยวะสืบพันธุ์ ( Reproductive organ)
- 5. ดอก คือ อวัยวะหรือส่วนของพืชที่เจริญเปลี่ยนแปลงมาจากใบและกิ่ง เพื่อทำหน้าที่ในการสืบพันธุ์ โดยทั่วไปดอกจะมี ก้านดอก ( Peduncle ) ทำหน้าที่ชูดอก ก้านดอกเป็นส่วนของดอกที่อยู่ติดกับ ลำต้นหรือกิ่ง ตรงปลายก้านดอกจะแผ่ออกเป็นส่วนที่รองรับส่วนต่างๆของดอก เรียกว่า ฐานรองดอก ( Receptacle ) เราอาจแบ่งดอกออกเป็น 2 กลุ่มดังนี้ 1. ดอกเดี่ยว คือ ดอกที่มีดอกอยู่ดอกเดียวติดอยู่บนก้านชูดอก เช่น 2. ดอกช่อ คือ ดอกที่มีดอกย่อยหลายๆดอกที่ติดอยู่บนก้านชูดอก ย่อย
- 7. กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรตัวผู้ อับเรณู ก้านชูอับเรณู ยอดเกสรตัวเมีย ก้านชูเกสรตัวเมีย ออวุล ฐานรองดอก เกสรตัวเมีย ( Pistil ) รังไข่
- 14. 2. การถ่ายละอองเรณูต่างดอกหรือข้ามดอกกัน ( Cross-pollination ) เป็นการถ่ายละอองเรณูของพืชชนิดเดียวกันแต่ต่างต้นกันและมีคุณสมบัติทางพันธุกรรมต่างกันคือ มีจีนไม่เหมือนกัน ปัจจัยที่ช่วยในการถ่ายละอองเรณู ได้แก่ ลม น้ำ สัตว์ คน ซึ่งการถ่ายละอองเรณูสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน
- 19. ภายในรังไข่มีออวุล ( ovule) และภายในออวุลเนื้อเยื่อนิวซลลัส ( nucellus) ซึ่งไปเจริญเป็นเซลล์แม่ของเมกะสปอร์หรือเมกะสปอร์มาเทอร์เซลล์ ( megaspore mother cell) ซึ่งมีโครโมโซม 2 n เมกะสปอร์มาเทอร์เซลล์จะ แบ่งตัว แบบไมโอซิสได้ 4 เซลล์ แต่ละเซลล์เรียกว่า เมกะสปอร์ ( megaspore) ซึ่งจะสลายไป 3 เซลล์ เซลล์ที่เหลือจะขยายขึ้นแล้วมีการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซีส 3 ครั้ง ได้ 8 นิวเคลียส และจะมีการแยกย้ายของนิวเคลียสไปยังบริเวณต่างๆ ของเซลล์ดังนี้ การสร้างไข่หรือเซลล์สืบพันธ์เพศเมีย (1) แอนติโพแดล ( antipodal) มี 3 นิวเคลียส อยู่ตรงข้ามกับรูไมโครไพล์ ( micropile) (2) โพลาร์นิวคลีไอ ( polar nuclei) มี 2 นิวเคลียส อยู่บริเวณกลางเซลล์ (3) ไข่ ( egg) มี 1 นิวเคลียสอยู่บิเวณรูไมโครไพล์ (4) ซินเนร์จิด ( synergid) มี 2 นิวเคลียสอยู่ด้านข้างของไข่ เมกะสปอร์ระยะนี้เรียกว่า ถุงเอมบริโอ ( embryo sac) หรือแกมีโทไฟต์เพศเมีย ( female sametophyte)
- 20. (1) แอนติโพแดล ( antipodal) มี 3 นิวเคลียส อยู่ตรงข้ามกับรูไมโครไพล์ ( micropile) (2) โพลาร์นิวคลีไอ ( polar nuclei) มี 2 นิวเคลียส อยู่บริเวณกลางเซลล์ (3) ไข่ ( egg) มี 1 นิวเคลียสอยู่บิเวณรูไมโครไพล์ (4) ซินเนร์จิด ( synergid) มี 2 นิวเคลียสอยู่ด้านข้างของไข่ เมกะสปอร์ระยะนี้เรียกว่า ถุงเอมบริโอ ( embryo sac) หรือแกมีโทไฟต์เพศเมีย ( female gametophyte)
- 21. เมื่อละอองเรณูตกลงสู่ยอดเกสรตัวเมีย ละอองเรณูจะงอกท่อยาว เรียกว่า พอลเลนทิวบ์ ( pollen tube) ลงสู่คอเกสรตัวเมีย ทิวบ์นิวเคลียสจะเคลื่อนตัวไปตามท่อในขณะที่เจเนเรทีฟนิวเคลียส จะแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซีสได้สเปิร์มนิวเคลียส ( sperm nucleus) 2 ตัว เข้าผสมกันนิวเคลียสของไข่ได้ไซโกต (2 n) ซึ่งจะเจริญเป็นเอมบริโอต่อไป ส่วนอีกนิวเคลียสจะเจริญเป็นเอนโดสเปิร์มซึ่งเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงเอมบริโอ การผสมซึ่งเกิดจากการผสม 2 ครั้งนี้เรียกว่า การปฏิสนธิซ้อน ( double fertilization) ซึ่งพบเฉพาะในพืชดอกเท่านั้น การปฏิสนธิ ( fertilization)
- 27. ผลเดี่ยว ( Simple fruit ) คือ ผลที่เกิดจากรัง ไข่อันเดียว ที่อยู่ภายในดอกเดียว ซึ่งถ้าภายใน รังไข่มีออวุลอันเดียวจะเจริญไปเป็นผลเดี่ยวที่มีเมล็ดเดียว เช่น มะยม มะม่วง เงาะ มะพร้าว ลำไย เป็นต้น ถ้าภายใน รังไข่มีหลายออวุลจะเจริญไปเป็นผลเดี่ยวที่มีหลายเมล็ด เช่น แตงโม องุ่น มะเขือ มะละกอ ส้ม ถั่ว ทุเรียน มังคุด มะขาม ละมุด เป็นต้น ผลกลุ่ม ( Aggregate fruit ) คือ ผลที่เกิดจากรังไข่หลายอันที่ยู่ในภายในดอกเดียวกัน รังไข่แต่ละอันเมื่อได้รับการผสมแล้วจะเจริญไปเป็นผลหนึ่งผล ทำให้มี ลักษณะเหมือนผลหลายๆผลอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม หรือกระจุกบนฐานรองดอกเดียวกัน แต่ไม่หลอมรวมกัน เช่น ลูกจาก
- 28. ผลรวม ( Multiple fruit ) คือ ผลที่เกิดจากกลุ่มรังไข่ของดอกช่อหลายๆดอก โดยแต่ละดอกมีรังไข่อันเดียว รังไข่ของแต่ละดอกเมื่อเจริญไปเป็นผลจะเชื่อมรวมเป็นเนื้อเดียวกันจนดูคล้ายเป็นผลเดี่ยว เช่น สับปะรด ขนุน สาเก ลูกยอ มะเดื่อ เป็นต้น