SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 52
โครงการฝึกอบรมหลักสูตรพัฒนาศักยภาพบุคลากรสาหรับอุตสาหกรรมที่
พักแรม
วันที่ 29 มีนาคม 2557
การสร้างวัฒนธรรมในงานบริการด้วย CUSTOMER
RELATIONSHIP MANAGEMENT
บรรยายโดย : รศ. อรชร มณีสงฆ์ ภาควิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
การสร้างวัฒนธรรมในงานบริการด้วย
Customer Relationship Management (CRM)
แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1. Consumer Relationship
Management
2. วัฒนธรรมองค์กร
1. Consumer Relationship Management
วิชาการตลาด เป็นวิชาที่เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นานนัก ในอดีต การตลาด
เกิดขึ้นเพราะสินค้าที่มีอยู่ในท้องตลาดนั้นคล้ายคลึงกัน ไม่สามารถขาย
ได้ ทาให้ผู้ขายเริ่มมองลูกค้าเป็นกลุ่มๆ และพิจารณาว่าควรจะนาเสนอ
สินค้าและบริการอะไรให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ ให้ได้
มากกว่ากลุ่มอื่นๆ เพื่อที่ลูกค้าจะได้ซื้ อสินค้าจากตน ไม่ซื้ อจากผู้ขาย
รายอื่น จึงเริ่มมีการแบ่งกลุ่มลูกค้าขึ้น
1. Consumer Relationship Management
ในภายหลังได้มีการคานึงถึงคนในกลุ่มต่างๆ และได้แบ่ง
ประเภทของส่วนประสมทางการตลาด ประกอบไปด้วย สินค้า
หรือผลิตภัณฑ์ จะต้องมีราคาที่เหมาะสมตรงกับความต้องการ
ของลูกค้า และลูกค้ามีกาลังในการซื้ อ สถานที่ขายเข้าถึงได้
สะดวก และการที่มีคู่แข่งนั้น สิ่งสาคัญ คือ จะต้องมีการส่งเสริม
ทางการตลาด เช่น การลดแลกแจกแถม การใช้พนักงานขายที่
เก่งกว่า มาช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่สินค้านั้นๆ
แนวคิดของ CRM
เป็นการต่อยอดจากแนวคิดเดิมของการตลาด ที่จะต้องมีการ
ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพราะ ในการหาลูกค้าใหม่ 1
คนนั้น ผู้ขายจะต้องใช้เงินทุนมากขึ้นในการโฆษณาสินค้าให้เป็น
ที่รู้จัก
ผู้ประกอบการเริ่มมองว่า การรักษาลูกค้าเดิมไว้เป็นสิ่งที่คุ้มค่า
กว่า เพราะ ลูกค้าเดิมรู้จักสินค้าของเราอยู่แล้ว มีความไว้ใจใน
สินค้า
การบริหารลูกค้าสัมพันธ์
1. จะเริ่มจากลูกค้าที่ยังไม่เคยเป็น
ลูกค้าของเรามาก่อน หรือ
non-visitor ผู้ขายจะต้อง
มองหาเป้ าหมาย และพิจารณา
ว่าสินค้าและบริการ หรือ
โรงแรมของเราที่สร้างขึ้นมา อยู่
ในระดับไหน ใครที่จะมาเข้าพัก
www.acornsys.com
การบริหารลูกค้าสัมพันธ์
เช่น บางโรงแรมที่เปิ ดใหม่ก็จะมีการ
โฆษณาทางอินเตอร์เน็ตให้มาเข้าพักฟรี
โดยต้องร่วมกิจกรรมของทางโรงแรม
เพื่อที่จะได้รับสิทธิพิเศษเข้าพักโรงแรม
ฟรี 2 คน 1 ห้อง โดยคืนแรกฟรี และ
คืนที่ 2 จ่าย 50% ทาให้เกิดการ
ทดลองใช้ และทาอย่างไรให้ลูกค้ากลุ่มนี้
เกิดความประทับใจ และกลับมาใช้
บริการอีก หรือที่เรียกว่า repeat
customer
cutideals.com
การบริหารลูกค้าสัมพันธ์
ถ้าลูกค้ากลับมาใช้บริการมากกว่า 2-3 ครั้ง แสดงว่าลูกค้าเริ่ม
จงรักภักดีกับกิจการของเราแล้ว
แต่ในเชิงการตลาดแล้วยังเรียกว่าความภักดีไม่ได้ เพราะต้องวัดด้วยว่า
ลูกค้าพึงพอใจหรือไม่ ที่ลูกค้ามาพักโรงแรมนี้ หลายครั้ง อาจเป็นเพราะ
โรงแรมนี้ มีราคาถูกที่สุด
ในเรื่องของความภักดีนั้นจะต้องมีการวัดระดับของความชื่นชอบ
ของลูกค้าจากความคิดเห็น เช่น พนักงานบริการดี อาหารเช้าอร่อย
ห้องพักสะอาด เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ จะทาให้ลูกค้าเกิดความภักดีได้
การบริหารลูกค้าสัมพันธ์
2. เมื่อได้ข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าที่สนใจแล้ว ก็จะนามาวิเคราะห์ว่ากลุ่ม
ลูกค้าเป็นอย่างไร มีทาการวิจัยตลาดทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ
นามาทาเป็นแผนปฏิบัติการเพื่อเอาไปปฏิบัติจริง โดยจะต้องมีการดูผล
ตอบรับด้วยว่าประสบความสาเร็จหรือไม่เพื่อที่จะนาไปปรับปรุงแผน
ใหม่ต่อไป
ซึ่งลูกค้าที่มาใช้บริการซ้าๆ จะเป็นลูกค้าที่จงรักภักดีกับองค์กร ลักษณะ
หนึ่งของลูกค้าที่จงรักภักดีกับองค์กร คือ จะมีความชื่นชมต่อองค์กร
เป็นกลุ่มคนที่ช่วยบอกต่อ กระจายข่าว รวมถึงปกป้ ององค์กรด้วย
เป้ าหมายของการทา CRM
 การเก็บข้อมูลของลูกค้า หรือ database
ในการทา CRM นั้น เป้ าหมายอันหนึ่ง ไม่ใช่เฉพาะแค่
ให้บริการลูกค้าเท่านั้น การที่จะทาให้ CRM ประสบ
ความสาเร็จได้ หัวใจหลักอยู่ที่ข้อมูลของลูกค้า หรื อ
database ว่ามีการเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้หรือไม่
เป้ าหมายของการทา CRM
เช่น มีรายชื่อลูกค้าที่มาพักโรงแรม
ในระยะเวลา 3 ปี สามารถดูได้ว่ามี
ลูกค้ารายไหนที่มาพักซ้าบ้าง มาพัก
ห้องไหน ช่วงใด มากันกี่คน เช่น
ลูกค้าคนนี้ มาพักช่วงสงกรานต์
ตลอด 3 ปี โรงแรมก็จะทราบว่า
ควรจะทาอย่างไรให้ลูกค้าประทับใจ
เช่น ส่งบัตรเชิญแจ้งกิจกรรมช่วง
สงกรานต์ให้แก่ลูกค้าqueenbeecoupons.com
เป้ าหมายของการทา CRM
การทา CRM นั้น ไม่จาเป็นต้องลด
ราคาเสมอไป แต่เน้นที่การทาให้ลูกค้า
รู้สึกเหมือนเป็นคนสาคัญ ในโรงแรม 5
ดาวบางแห่งที่นาระบบ CRM มาใช้นั้น
ลูกค้าไม่จาเป็นต้องสั่งอาหารเช้า เพราะ
โรงแรมมีข้อมูลอยู่แล้วว่าลูกค้าต้องการ
อะไร แค่ถามว่าต้องการแบบเดิมใช่
หรือไม่ พนักงานก็จะให้บริการได้ทันที
ทาให้ลูกค้าเกิดความประทับใจขึ้นได้
www.tripadvisor.com
เป้ าหมายของการทา CRM
 การเปลี่ยนลูกค้าทั่วไปให้เป็นลูกค้าตลอดกาล
หากธุรกิจที่ทาเป็นธุรกิจที่ต้องมีบริการหลังการขาย
ก็จะต้องมีการสารวจความพึงพอใจของลูกค้า เช่น
การโทรไปสอบถามลูกค้า ทาให้ลูกค้าเกิดความ
ประทับใจว่าโรงแรมให้ความสนใจ และรับฟังปัญหา
ของตน เป็นวิธีที่จะรักษาลูกค้าเอาไว้ได้
www.northgate-salesnet.com
การวางแผนกลยุทธ์ของ CRM
คือ การให้ลูกค้าเป็น “ศูนย์กลาง” ในการที่จะทาให้ลูกค้าพึง
พอใจ และกลับมาใช้บริการอีก ขึ้นอยู่กับคน หรือพนักงานที่ให้บริการ
ว่าสามารถให้บริการที่ดีแก่ลูกค้าได้หรือไม่ พนักงานจะต้องมีความเต็ม
ใจในการให้บริการ เพื่อสร้างความประทับใจและความพึงพอใจให้กับ
ลูกค้าได้
การประยุกต์ CRM มาใช้ในองค์กร
สิ่งสาคัญ คือ “Leadership” หรือ “ผู้นา” จะต้องเป็นตัวตั้งตัวตีใน
การทาเป็นตัวอย่าง เพื่อให้พนักงานสามารถเชื่อได้ว่านี่เป็นสิ่งที่กิจการ
ต้องการจริงๆ กลยุทธ์ต่างๆ ที่วางแผนไว้ จะต้องมุ่งเน้นในเรื่องของการ
สร้างความพึงพอใจและรักษาความสัมพันธ์ของลูกค้า ซึ่งจะนาไปสู่การ
สร้างวัฒนธรรมขององค์กรขึ้น
www.beyondnlptraining.co.uk
ข้อดีของการนา CRM มาใช้ในองค์กร
 มีการกระจายอานาจ มีการแบ่งงานให้พนักงานออกแบบแผนงาน
การแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยทาเป็นระบบ และให้มี feedback
กลับมา พนักงานสามารถใช้ข้อมูลต่างๆ มาบริหารจัดการเพื่อแยก
กลุ่มของลูกค้าได้ เช่น ฝ่ายการตลาด ฝ่ายบริหารงาน เป็นต้น
 การที่รู้จักลูกค้านั้นจะทาให้สามารถพยากรณ์ยอดขายได้ล่วงหน้า
เช่น ลูกค้าที่เคยมาพักซ้าเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ อาจจะกลับมาอีก และ
จะต้องหาลูกค้าใหม่อีกเท่าไหร่
ปัจจัยที่ทาให้ CRM ประสบความสาเร็จ
 ผู้บริหารจะต้องให้ความร่วมมือ
อย่างใกล้ชิด
 มีการกาหนดกระบวนการต่างๆ
ในการนาแผนมาใช้
 การประเมินว่าแผนที่ใช้นั้นมี
ปัญหาหรือไม่ ควรแก้ไข
ปรับปรุงอย่างไร ซึ่งควรมีการ
ตรวจสอบระบบตลอดเวลา
www.damarque.com
ปัจจัยที่ทาให้ CRM ประสบความสาเร็จ
เพราะว่าการให้บริการลูกค้าเป็ นสิ่งสาคัญ เมื่อลูกค้ามาใช้บริการ
พนักงานจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่วางไว้ จนเวลาผ่านไป 15 ปี
พนักงานก็ยังให้บริการแบบเดิม หรือเมื่อก่อนโรงแรมไม่มี
wifi- internet จนปัจจุบันก็ยังไม่มีเหมือนเดิม จุดนี้ อาจทาให้
ลูกค้าไม่พึงพอใจได้ เพราะความต้องการของลูกค้านั้นเปลี่ยนแปลง
ตลอดเวลา ประกอบกับคู่แข่งที่มากขึ้ น ดังนั้นจึงควรมีการปรับปรุง
ระบบให้มีความทันสมัย และตรงกับความต้องการของลูกค้า
ปัจจัยที่ทาให้ CRM ประสบความสาเร็จ
ระบบ CRM นั้น ถ้าจะให้ได้ผลดีแล้ว ส่วนมากจะใช้ในงานที่มีขนาด
ใหญ่ เช่น การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ เพราะ สามารถดึงข้อมูล
ได้ง่าย นามาวิเคราะห์ได้ง่าย ว่าลูกค้าแต่ละคนต้องการอะไร
เช่น มีบัตรสมาชิก ก็จะสามารถทราบได้ว่าลูกค้ามาซื้อบ่อยแค่ไหน ใช้
จ่ายเท่าไหร่ ซื้อสินค้าอะไรบ้าง แต่ถ้าเป็นผู้ประกอบการเล็กๆ ก็อาจจะ
ไม่คุ้มค่าที่จะใช้โปรแกรมเหล่านี้ แต่ก็สามารถใช้โปรแกรม Microsoft
Excel หรือ Microsoft Access ในการเก็บข้อมูล และนามา
วิเคราะห์พื้นฐานได้
ปัจจัยที่ทาให้ CRM ประสบความสาเร็จ
 การที่จะทา CRM ให้
ประสบความสาเร็จ จะต้องมี
การเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร
ด้วย ว่าแต่ละองค์กรมี
วัฒนธรรมในการให้บริการ
แก่ลูกค้าอย่างจริงจังมากน้อย
เพียงใดwww.moderncourse.com
2. วัฒนธรรมองค์กร
คือการที่พนักงานในองค์กรหลายๆ คน
มีการรับรู้ร่วมกัน และมีการปฏิบัติที่
คล้ายๆ กัน คนที่ทาไม่เหมือนกับคนใน
องค์กรนั้นจะรู้สึกไม่ค่อยสะดวกใจ
เช่น พนักงานใหม่ที่เข้าไปทางานใน
องค์กร ซึ่งในองค์กรนั้นทุกคนแต่งตัว
เรียบร้อย แต่พนักงานคนนี้ ใส่กางเกง
ยีนขาดไปทางาน ก็จะรู้สึกถึงความ
แตกต่างbarry-overstreet.com
2. วัฒนธรรมองค์กร
วัฒนธรรมองค์กรสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ เช่น ธนาคารออม
สิน มีวัฒนธรรมองค์กรแบบเดิม คือ แบบราชการ เพราะก่อตั้งมาด้วยทุนของ
รัฐบาล จะมีการแบ่งขั้น ตาแหน่งต่างๆ ไม่ค่อยให้บริการลูกค้าเท่าไหร่ จะมอง
ลูกค้าเหมือนราษฎรที่มาติดต่องานราชการ แต่ในตอนหลังมีการปรับปรุง มีการ
ปลูกสร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ในเรื่องของการให้บริการ ซึ่งก็พัฒนาขึ้นในระดับ
หนึ่ง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับธนาคารอื่นๆ อย่างธนาคารไทยพาณิชย์ ก็จะเห็นถึง
การให้บริการที่แตกต่างกว่า การให้บริการไม่ได้ขึ้นอยู่ที่คนอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่
กับสิ่งอานวยความสะดวกภายนอก หรือ Physical evidence ด้วย แต่ถ้า
เทียบระหว่างคนกับคน ก็จะเห็นความแตกต่างอยู่เหมือนกัน
ความเกี่ยวข้องของวัฒนธรรมองค์กร ต่อธุรกิจ และ
CRM
 จะเห็นได้ว่าปัจจุบันธุรกิจต่างๆ
มุ่งเน้นในการสร้างความ
แตกต่างให้กับลูกค้า ว่าจะทา
อย่างไรให้เกิดความแตกต่าง ที่
ทาให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ
และลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้า
อีก สิ่งที่สาคัญ คือ พนักงานใน
องค์กร
bookboon.com
 เมื่อเราวางระบบเทคโนโลยีเสร็จ
แล้ว ระบบไม่สามารถทางานเองได้
พนักงานเป็นตัวกลางระหว่างระบบ
กับผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการ
 พนักงานในองค์กรจะเป็นตัวที่ทา
ให้เกิดความแตกต่าง ทาให้เกิด
ความประทับใจต่อลูกค้าที่มาใช้
บริการ
 ต้องมีการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ที่
ทาให้พนักงานทางานด้วยความ
เต็มใจ ไม่ใช่ทาเพราะถูกสั่งเท่านั้นhttp://www.technologyreview360.com/
career-directions.org
สายการบิน Singapore Airlines
ที่มุ่งเน้นในการสร้างภาพลักษณ์ในการบริการที่ดีกว่า ซึ่งเริ่มให้บริการ
ตั้งแต่ปี 1972 โดยแยกมาจากสายการบินของมาเลเซีย เน้นเรื่องของการ
บริการเป็นหัวใจสาคัญของกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก สิ่งที่สาย
การบินนี้ ทา คือ การให้บริการบนเครื่องบินที่เป็นธรรมชาติ ดูแลอย่างใกล้ชิด มี
ความเป็นปัจเจกบุคคลในการให้บริการ และเครื่องแบบของพนักงานต้อนรับ ที่
ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดัง
สายการบิน Singapore Airlines
พนักงานต้อนรับได้ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี ต้องสวยธรรมชาติแบบเอเชีย
รูปร่างดี กริยามารยาทดี เป็นกันเองกับผู้โดยสาร และมีใจรักในงานบริการ ซึ่ง
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะต้องถูกถ่ายทอดและสั่งสอนให้พนักงานทุกคนที่ทางานให้กับ
Singapore Airlines นั้นเกิดความเข้าใจตรงกัน ว่าบริษัทต้องการเป็ น
เลิศในด้านบริการ มีหัวใจในการให้บริการ มีใจรักในงานบริการ เป็นสิ่งที่สาย
การบินนี้ ใช้เป็นแนวคิดหลักในการสร้างแบรนด์ และในการโฆษณาต่างๆ ด้วย
สายการบิน Singapore Airlines
ซึ่งภาพยนตร์โฆษณาของ Singapore Airlines นั้น จะมุ่งเน้นไปในภาพ
ของ Singapore Girl ว่าอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก จะสื่อให้เห็นว่าสาย
การบินนี้ เป็นเลิศในด้านการให้บริการ เป็นมิตรไมตรี มีความสัมพันธ์ที่ดี
เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่า Singapore Airlines เป็นสายการบินระดับโลก
ที่มุ่งเน้นในเรื่องของผู้ให้บริการที่มีความเต็มใจ จะเป็นสิ่งที่ทาให้สายการบินนี้
แตกต่างจากสายการบินอื่น
การสร้างวัฒนธรรมในการบริการ
แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่
ผู้บริหาร มาตรฐานที่
กาหนดไว้ และการ
อบรม
www.jenoptik.com
www.awardslimo.com
1. ผู้บริหาร
เป็ นส่วนที่สาคัญที่สุด เพราะ ถ้า
ผู้บริหารไม่เห็นความสาคัญของ
การพัฒนาในส่วนของวัฒนธรรม
องค์กรให้เป็ นองค์กรแห่งการ
ให้บริการแล้ว ทั้งหมดที่เกิดขึ้ นก็
จะเป็ นไปไม่ได้ ถ้าผู้บริหารเป็ น
ตัวอย่างที่ไม่ดี หยิ่ง ไม่ไหว้ลูกค้า
พนักงานก็จะทาตามแบบผู้บริหาร
career-directions.org
1. ผู้บริหาร
 ผู้บริหารจะต้องเป็ นต้นแบบใน “การมองลูกค้าเป็ นศูนย์กลาง” หรือ
“Customer Centric” คือ มองว่าลูกค้าต้องการอะไร เพื่อที่จะไป
กาหนดนโยบาย กลยุทธ์ต่างๆ ขององค์กร ในการตอบสนองความต้องการ
ของลูกค้าได้ ในการวางแผนนั้น อย่ามองว่าทาแบบนี้ แล้วจะลดต้นทุน ให้
มองว่าทาแบบนี้ แล้วลูกค้าจะได้อะไร ในความเป็นจริงแล้วทุกธุรกิจต้องการ
ผลกาไร แต่ถ้าสิ่งที่ทาให้ลูกค้าพอใจและสามารถลดต้นทุนได้ด้วย ก็จะยิ่ง
เป็นผลดีต่อกิจการ
1. ผู้บริหาร
 เช่น การจาหน่ายตั๋วเครื่องบิน มีลูกค้าต่อแถวซื้อเยอะ และเร่งรีบ ควรจะหา
วิธีไหนที่จะลดในส่วนของต้นทุนได้ อย่างเช่น ช่องทางการจาหน่ายตั๋ว
เครื่องบินทางอินเตอร์เนต สาหรับคนที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญ ถ้า
หากลูกค้าคุ้นเคยกับการซื้อตั๋วผ่านทางอินเตอร์เน็ตแล้ว เคาน์เตอร์ขายตั๋ว
เครื่องบินจากเดิมมี 5 ช่อง ก็อาจจะลดเหลือ 3 ช่อง ก็จะลดต้นทุนในเรื่อง
ของจานวนพนักงานไปด้วย ลูกค้าก็ได้รับความพึงพอใจ เพราะสามารถซื้อ
เวลาไหนก็ได้ มีทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น สิ่งที่วางแผนนั้นให้คานึงถึง
ประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก
1. ผู้บริหาร
 ผู้บริหารจะต้อง “Buy in” คือ ต้องเห็นด้วยอย่างแรงกับการนาระบบนี้ มา
ใช้ ต้องมีความเชื่อมั่น และปฏิบัติเป็นแบบอย่าง เช่น ผู้บริหารจะต้องคอย
บอกลูกน้องว่า ลูกค้านั้นมาเป็นลูกค้า ไม่ใช่มาเป็นคนที่รบกวนการทางาน
ของเรา อย่างธนาคารไทยพาณิชย์นั้น ในช่วงที่มีการปรับปรุงระบบ ผู้จัดการ
ธนาคารจะมายืนต้อนรับลูกค้าอยู่ที่หน้าประตูทางเข้า หรือการฝากถอนเงิน
ที่จะต้องเขียนใบฝากถอนเอง แต่ปัจจุบันแค่นาสมุดบัญชีไป ก็สามารถฝาก
ถอนเงินได้แล้ว ทาให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
2. มาตรฐาน (Standard)
คือ เอกสารหรือลายลักษณ์อักษรที่อ้างอิงได้ เป็นสิ่งที่จะบอกถึงวิธีการ
ทางานของพนักงานตั้งแต่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการจนลูกค้าออกไป ว่ามีขั้นตอน
อะไรบ้าง แต่ละขั้นตอนต้องทาอย่างไร ซึ่งเรียกว่าเป็ น Service
Standard , Service Workflow หรือ Work Instruction
2. มาตรฐาน (Standard)
เช่น โรงแรมแห่งหนึ่ง มีมาตรฐานในการทางาน คือ ถ้าลูกค้าเข้าพัก
แล้วเกิดปัญหาขึ้นว่าน้าในตู้เย็นไม่มี แล้วโทรแจ้งไปยัง Operation ซึ่งระบบ
จะวางไว้แล้วว่า Operator จะต้องรับสายภายใน 3 กริ่งสัญญาณ เมื่อได้รับ
โทรศัพท์จากลูกค้าแล้ว Operator จะต้องติดต่อแม่บ้านทันที เมื่อแม่บ้าน
ทราบแล้ว จะต้องรีบไปหาลูกค้าภายใน 5 นาที เมื่อไปถึงห้องก็รีบจัดการ
ปัญหาให้เรียบร้อย และแจ้งกับ Operator ว่าเรียบร้อยแล้ว Operator
ก็จะโทรไปแจ้งและสอบถามถึงความต้องการเพิ่มเติมของลูกค้าอีกครั้ง ในส่วน
ของมาตรฐานนั้น จะเป็นสิ่งที่ทาให้บริการนั้นคงเส้นคงวา
2. มาตรฐาน (Standard)
 Operational Level Agreement (OLA) คือ การกาหนด
ระยะเวลาในแต่ละกิจกรรม เช่น การรับสายโทรศัพท์ลูกค้าภายใน 3 กริ่ง
สัญญาณ
 Service Level Agreement (SLA) คือ เวลาโดยรวมในการ
ให้บริการลูกค้าในแต่ละกระบวนการ เช่น กระบวนการให้บริการแก่ลูกค้า
โดยรวมต้องไม่เกิน 15 นาที
3. การอบรม (Training)
เป็ นสิ่งสาคัญนอกจากเนื้ อหาที่ได้รับแล้ว ยังทาให้พนักงานเกิด
ความคุ้นเคยกัน รู้จักกันทั้งในฝ่ายและต่างฝ่ายกัน ซึ่งการรู้จักและการมี
ความสัมพันธ์ที่ดี จะช่วยให้งานราบรื่นมากขึ้ น เช่น แม่บ้านรู้จักกับ
Operator , Front หรือผู้จัดการฝ่ายห้องพัก ก็จะทาให้ประสานงานง่าย
ขึ้น ในบางครั้ง การอบรมนั้น ผู้บริหารระดับสูงจะต้องร่วมในการอบรมด้วย
เพื่อที่ลูกน้องจะได้รู้จักและทาความคุ้นเคยกัน
3. การอบรม (Training)
 ข้อแนะนาของการอบรม คือ ไม่ควรใช้โปรแกรมสาเร็จรูปในการอบรม
เพราะอาจจะไม่เหมาะสมกับธุรกิจของเรา เช่น ธุรกิจรีสอร์ทขนาดเล็ก แต่
นาระบบของโรงแรมขนาดใหญ่มาใช้ อาจจะไม่ได้ผล ควรนาระบบมา
ประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของเรา จะทาให้เกิดประสิทธิภาพมากกว่า
3. การอบรม (Training)
 หลักสูตรที่อบรมพนักงาน
แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1. ค่านิยมขององค์กร:ว่าจะสามารถสร้างความคิดเห็นและ
ความชอบที่ตรงกันเกี่ยวกับวัฒนธรรมภายในองค์กรได้อย่างไร ว่าองค์กรนี้ เป็น
องค์กรแห่งการเรียนรู้ เป็นองค์กรแห่งการให้บริการเป็นเลิศ หรือเป็นองค์กรที่
มีนวัตกรรมเป็นเลิศ
การอบรมมีหลายประเภท เช่น หลักสูตรการพัฒนาตนเอง หลักสูตร
Creative Thinking หรือหลักสูตรการทางานเป็นทีม เป็นต้น
3. การอบรม (Training)
2. หลักในการทางาน
ถึงแม้พนักงานจะมีค่านิยมที่ดี มีความ
อยากที่จะให้บริการ แต่ถ้าทาไม่เป็น ก็
จะไม่ประสบความสาเร็จในการทางาน
ดังนั้นอีกส่วนหนึ่งที่สาคัญ คือ หลักใน
การทางาน ว่าหลักการทางานที่
เกี่ยวข้องในการทางานนั้น ควรจะรู้
อะไรบ้าง
www.trimblelms.com www.sales-ology.com
3. การอบรม (Training)
เช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ของบริษัท การวางแผนการควบคุมการ
บริการ การจัดการข้อร้องเรียน หรือหลักสูตรที่เสริมการทางานให้ดีขึ้น เช่น
เทคนิคการบริการให้ลูกค้าประทับใจ การปรับปรุงกระบวนการทางาน
บุคลิกภาพ เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น บริษัท AIS มีการปรับภาพลักษณ์ของพนักงาน คือ
พนักงานทุกคนจะต้องมีทักษะด้านภาษาและการใช้คอมพิวเตอร์ที่ดี โดยมีการ
อบรมให้ฟรี และมีการทดสอบด้วย อีกทั้งยังมีการอบรมการแต่งหน้า เพื่อให้มี
บุคลิกภาพที่ดี
สรุป
 การสร้างวัฒนธรรมองค์กร สามารถทาได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลา
เพราะในแต่ละองค์กรมีทั้งพนักงานเก่าและใหม่ ซึ่งวัฒนธรรมองค์กร
แบบเดิมๆ ก็ยังมีอยู่ การที่จะเปลี่ยนให้คนที่คุ้นเคยกับวัฒนธรรม
องค์กรแบบเดิมนั้นเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นมาใหม่ มี
วัฒนธรรมแบบใหม่ ก็จะสามารถสร้างวัฒนธรรมองค์กรได้ง่ายกว่า
สรุป
 หัวใจในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรในการให้บริการ คือ การ
สื่อสาร
เป็นการสร้างสิ่งที่เราอยากจะบอกพนักงานว่าต้องการอะไร อยากให้
พนักงานบริการลูกค้าด้วยความเต็มใจ ส่วนรูปแบบวิธีการแนวทาง
ในการให้บริการนั้น ถ้าเรามีมาตรฐานอยู่แล้ว พนักงานก็สามารถยึด
มาตรฐานอันนี้ ในการทางานได้ ว่าควรจะทาอย่างไรบ้างในแต่ละ
กระบวนการ แต่ความใส่ใจ ความจริงใจ ความเป็นธรรมชาติ ก็ควร
จะต้องมีอยู่ในตัวของพนักงานทุกคน หรือที่เรียกว่า Service
Mind
สรุป
 การที่ต้องการให้พนักงานปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรนั้น ต้อง
มีเครื่องมือหรือกิจกรรมเข้ามาช่วย เพื่อกระตุ้นเตือนพนักงาน
เช่น เสียงของลูกค้า เป็นการสารวจความคิดเห็นของลูกค้าว่ามี
ความ พึงพอใจในการให้บริการหรือไม่ แล้วนา feedback มาให้
พนักงานดู เพื่อที่พนักงานจะสามารถนาไปปรับปรุงกระบวนการ
ทางานต่อไป
สรุป
- การทานิตยสาร ที่มีเนื้ อหาสาระเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรว่าเป็น
อย่างไร องค์กรต้องการอะไร มีการยกตัวอย่างองค์กรที่ประสบความสาเร็จใน
การสร้างวัฒนธรรมองค์กร เป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจและอยากที่จะทา
อย่างนั้นบ้าง อาจจะมีการนาพนักงานต้นแบบมาขึ้นปกนิตยสารทุกๆ 3 เดือน
อย่างเช่น Amway จะนาคนที่ทายอดขายได้มากมาขึ้นปก เป็นการชื่นชม
ยินดีว่าบุคคลนั้นประสบความสาเร็จในระดับหนึ่งแล้ว
สรุป
การใช้ Intranet , Internet หรือ E-mail ในการกระตุ้นเตือน
อาจจะเป็นบทความ คาพูดสั้นๆ หรือรูปภาพสั้นๆ ที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม
องค์กร ว่าองค์กรต้องการให้พนักงานเป็นอย่างไร
การทา Service Culture Book หรือ คู่มือวัฒนธรรมขององค์กร
ว่าองค์กรต้องการอะไร ต้องทาอะไรบ้าง เพื่อที่พนักงานสามารถอ่านได้
หรือถ้าลูกค้ามาเห็น ก็จะชื่นชมว่าองค์กรนี้ มีความต้องการที่จะ
ให้บริการอย่างเต็มที่
สรุป
การใช้โบรชัวร์ ป้ าย แผ่นพับต่างๆ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถเห็นได้
ทุกที่ ควรจะติดในจุดที่คนเดินผ่านจานวนมาก เช่น หน้าห้องน้า
ลิฟท์ หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ข้อความควรจะสั้น กระชับ
เข้าใจง่าย ต้องพยายามทาให้พนักงานเกิดความรู้ความเข้าใจ
การที่ผู้บริหารจะต้องตอกย้าและนามาพูดบ่อยๆ ในห้องประชุมเป็น
ประจา เพื่อแสดงถึงความใส่ใจของผู้บริหารที่มีต่อพนักงานและ
องค์กร
สรุป
การดูงานระหว่างหน่วยงาน อาจมีการ
จัดประกวดระหว่างหน่วยงาน เช่น
ธนาคารที่มีหลายสาขา ก็จะแข่งขันกัน
ว่าธนาคารสาขาใดได้คะแนนการ
ให้บริการสูงสุด เพื่อที่สาขาอื่นจะได้
เข้าไปดูงาน จะช่วยให้เกิดการสร้าง
ประสิทธิภาพในการทางานได้ หรือวิธี
อื่นๆ ก็สามารถทาได้เช่นกัน
สรุป
กรณีตัวอย่าง : โรงแรมแห่งหนึ่ง ในกรณีที่ต้องการจะให้บริการลูกค้า
 มีการกาหนดตั้งแต่แรกว่ากลยุทธ์ของโรงแรมเป็ นอย่างไร Brand
Strategy ต้องการสร้างอะไร เช่น การสร้างบริการที่ดีที่สุด ก็จะ
นาไปสู่เรื่องของ Service Experience ว่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ
จะมีความรู้สึกเหมือนกับโรงแรมหรือไม่ว่าโรงแรมแห่งนี้ ให้บริการที่ดี
ที่สุด
 มีการออกแบบระบบ ตั้งแต่ขอบเขตการให้บริการ นโยบายของกิจการ มี
การสร้างระบบและนาเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วย
สรุป
 การนาไปใช้ หรือ Delivery ก็จะเกี่ยวข้องกับคน มีการสรรหาบุคคล ว่า
ต้องการบุคคลแบบไหนเข้ามาในองค์กร ต้องเลือกคนที่เหมาะสมกับงาน มี
การอบรม ซึ่งหัวหน้างานจะต้องมีส่วนร่วมด้วย เพื่อที่จะได้ทราบถึงปฏิกิริยา
ของพนักงานว่าการทางานเป็นอย่างไรบ้าง หัวหน้างานจะต้องความเป็นผู้นา
สามารถแนะนาวิธีการและการแก้ปัญหาให้กับพนักงานได้ ซึ่งเป็ น
กระบวนการของการส่งมอบบริการ
 การควบคุมคุณภาพจะต้องมีการประเมินผลพนักงานแต่ละคนที่ได้จากลูกค้า
ซึ่งเมื่อประเมินแล้ว ก็จะนาผลการประเมินที่ได้มาปรับปรุงระบบขององค์กร
ต่อไป
สรุป
 มาตรฐานการทางานของโรงแรม จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ
ก่อนการเข้าพัก ระหว่างการเข้าพัก และหลังจากออกโรงแรม
ไปแล้ว ก็จะมีการวางระบบแต่ละอันไว้ย่อยๆ
เช่น ก่อนการเข้ามาพัก ลูกค้าจะได้รับข้อมูลข่าวสารจากที่ไหน จองโรงแรมผ่าน
ช่องทางใดได้บ้าง ระบบของแต่ละช่องทางเป็นอย่างไร ข้อมูลที่ลูกค้าต้องการ
ทราบคืออะไร
สรุป
- ช่วงระหว่างการเข้าพัก จะเริ่มตั้งแต่การ Check in ต้องมี
กระบวนการอะไรบ้าง การส่งแขกเข้าห้องพักมีขั้นตอนอย่างไร สิ่งอานวยความ
สะดวกในห้องพัก การจัดการเรื่องอาหารเช้า บริการอื่นๆ ของโรงแรม การ
Check out ออกจากโรงแรม
- หลังจากการเข้าพักแล้ว อาจจะมีการให้ลูกค้า reviewโรงแรมจาก
ที่ไหนได้บ้าง เช่น เว็บไซต์ท่องเที่ยว (tripadvisor.com ,
agoda.com) การส่ง E-mail ถึงโรงแรมโดยตรง เพื่อที่จะได้ทราบถึง
ความคิดเห็นของลูกค้า
สรุป
ในกระบวนการ Check out นั้น จะมีจุด touch point ที่
พนักงานสามารถพบกับลูกค้าได้ คือ front office และพนักงานในส่วนนี้
จะต้องทาอะไรบ้าง จนสุดท้ายที่พนักงานขนกระเป๋ าไปส่งลูกค้าที่รถ ถ้าหากวันที่
ลูกค้า Check out ตรงกับวันเกิด ทางโรงแรมก็มีการกาหนดในแผนไว้ว่าควร
จะมีการทาให้ลูกค้าประทับใจในรูปแบบต่างๆ เช่น การร้องเพลงอวยพรวันเกิด
การให้ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เป็ นต้น ซึ่งเป็ นสิ่งที่ทางโรงแรมให้เกินความ
คาดหวังของลูกค้า และทาให้ลูกค้าเกิดความประทับใจได้ทั้งหมดนี้ คือ การสร้าง
วัฒนธรรมในงานบริการด้วย Customer Relationship
Management (CRM)

Weitere ähnliche Inhalte

Was ist angesagt?

มัดใจ ลูกค้าด้วย Crm & cem
มัดใจ  ลูกค้าด้วย Crm & cemมัดใจ  ลูกค้าด้วย Crm & cem
มัดใจ ลูกค้าด้วย Crm & cemWICEFreight
 
การทำการตลาดบนมือถือสำหรับธุรกิจบริการ (Mobile Marketing for Service Business)
การทำการตลาดบนมือถือสำหรับธุรกิจบริการ (Mobile Marketing for Service Business)การทำการตลาดบนมือถือสำหรับธุรกิจบริการ (Mobile Marketing for Service Business)
การทำการตลาดบนมือถือสำหรับธุรกิจบริการ (Mobile Marketing for Service Business)Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai
 
การสร้างระบบ CRM
การสร้างระบบ CRMการสร้างระบบ CRM
การสร้างระบบ CRMSaran Yuwanna
 
การจัดการร้านค้าปลีก
การจัดการร้านค้าปลีกการจัดการร้านค้าปลีก
การจัดการร้านค้าปลีกsuttinun jiyaamorndach
 
ตัวอย่างแผนธุรกิจบ้านใร่กาแฟ
ตัวอย่างแผนธุรกิจบ้านใร่กาแฟตัวอย่างแผนธุรกิจบ้านใร่กาแฟ
ตัวอย่างแผนธุรกิจบ้านใร่กาแฟNattakorn Sunkdon
 
การวางแผนการตลาดและการประชาสัมพันธ์
การวางแผนการตลาดและการประชาสัมพันธ์การวางแผนการตลาดและการประชาสัมพันธ์
การวางแผนการตลาดและการประชาสัมพันธ์tra thailand
 
วิทยาการคำนวณ ม.5 - บทที่ 4 การทำข้อมูลให้เป็นภาพ และการสื่อสารด้วยข้อมูล
วิทยาการคำนวณ ม.5 - บทที่ 4 การทำข้อมูลให้เป็นภาพ และการสื่อสารด้วยข้อมูลวิทยาการคำนวณ ม.5 - บทที่ 4 การทำข้อมูลให้เป็นภาพ และการสื่อสารด้วยข้อมูล
วิทยาการคำนวณ ม.5 - บทที่ 4 การทำข้อมูลให้เป็นภาพ และการสื่อสารด้วยข้อมูลCoco Tan
 
ตลาดประเภทต่างๆ
ตลาดประเภทต่างๆตลาดประเภทต่างๆ
ตลาดประเภทต่างๆSukanda Panpetch
 
ทัศนคติกับพฤติกรรมผู้บริโภค (Attitude and Consumer Behavior : Ch 9)
ทัศนคติกับพฤติกรรมผู้บริโภค (Attitude and Consumer Behavior : Ch 9)ทัศนคติกับพฤติกรรมผู้บริโภค (Attitude and Consumer Behavior : Ch 9)
ทัศนคติกับพฤติกรรมผู้บริโภค (Attitude and Consumer Behavior : Ch 9)Mahasarakham Business School, Mahasarakham University
 
อินโฟกราฟิก (Infographic) และหลักการออกแบบ
อินโฟกราฟิก (Infographic) และหลักการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) และหลักการออกแบบ
อินโฟกราฟิก (Infographic) และหลักการออกแบบDr.Kridsanapong Lertbumroongchai
 
ตัวอย่างแผนธุรกิจPocket tissue
ตัวอย่างแผนธุรกิจPocket tissueตัวอย่างแผนธุรกิจPocket tissue
ตัวอย่างแผนธุรกิจPocket tissueNattakorn Sunkdon
 
ตัวอย่างแผนธุรกิจร้านBakery
ตัวอย่างแผนธุรกิจร้านBakeryตัวอย่างแผนธุรกิจร้านBakery
ตัวอย่างแผนธุรกิจร้านBakeryNattakorn Sunkdon
 
การนำเสนอผลการวิจัย
การนำเสนอผลการวิจัยการนำเสนอผลการวิจัย
การนำเสนอผลการวิจัยNU
 
การรับรู้สิ่งเร้าของผู้บริโภค
การรับรู้สิ่งเร้าของผู้บริโภคการรับรู้สิ่งเร้าของผู้บริโภค
การรับรู้สิ่งเร้าของผู้บริโภคRatchadaporn Khwanpanya
 
การติดต่อสื่อสารในองค์กร
การติดต่อสื่อสารในองค์กรการติดต่อสื่อสารในองค์กร
การติดต่อสื่อสารในองค์กรChainarong Maharak
 
เถ้าแก่น้อย บ่าย
เถ้าแก่น้อย บ่ายเถ้าแก่น้อย บ่าย
เถ้าแก่น้อย บ่ายsutaphat neamhom
 

Was ist angesagt? (20)

มัดใจ ลูกค้าด้วย Crm & cem
มัดใจ  ลูกค้าด้วย Crm & cemมัดใจ  ลูกค้าด้วย Crm & cem
มัดใจ ลูกค้าด้วย Crm & cem
 
บทที่7ช่องทางการจัดจำหน่าย
บทที่7ช่องทางการจัดจำหน่ายบทที่7ช่องทางการจัดจำหน่าย
บทที่7ช่องทางการจัดจำหน่าย
 
การทำการตลาดบนมือถือสำหรับธุรกิจบริการ (Mobile Marketing for Service Business)
การทำการตลาดบนมือถือสำหรับธุรกิจบริการ (Mobile Marketing for Service Business)การทำการตลาดบนมือถือสำหรับธุรกิจบริการ (Mobile Marketing for Service Business)
การทำการตลาดบนมือถือสำหรับธุรกิจบริการ (Mobile Marketing for Service Business)
 
การสร้างระบบ CRM
การสร้างระบบ CRMการสร้างระบบ CRM
การสร้างระบบ CRM
 
การจัดการร้านค้าปลีก
การจัดการร้านค้าปลีกการจัดการร้านค้าปลีก
การจัดการร้านค้าปลีก
 
ตัวอย่างแผนธุรกิจบ้านใร่กาแฟ
ตัวอย่างแผนธุรกิจบ้านใร่กาแฟตัวอย่างแผนธุรกิจบ้านใร่กาแฟ
ตัวอย่างแผนธุรกิจบ้านใร่กาแฟ
 
การวางแผนการตลาดและการประชาสัมพันธ์
การวางแผนการตลาดและการประชาสัมพันธ์การวางแผนการตลาดและการประชาสัมพันธ์
การวางแผนการตลาดและการประชาสัมพันธ์
 
วิทยาการคำนวณ ม.5 - บทที่ 4 การทำข้อมูลให้เป็นภาพ และการสื่อสารด้วยข้อมูล
วิทยาการคำนวณ ม.5 - บทที่ 4 การทำข้อมูลให้เป็นภาพ และการสื่อสารด้วยข้อมูลวิทยาการคำนวณ ม.5 - บทที่ 4 การทำข้อมูลให้เป็นภาพ และการสื่อสารด้วยข้อมูล
วิทยาการคำนวณ ม.5 - บทที่ 4 การทำข้อมูลให้เป็นภาพ และการสื่อสารด้วยข้อมูล
 
ตลาดประเภทต่างๆ
ตลาดประเภทต่างๆตลาดประเภทต่างๆ
ตลาดประเภทต่างๆ
 
Business Model Canvas Tools
Business Model Canvas ToolsBusiness Model Canvas Tools
Business Model Canvas Tools
 
ทัศนคติกับพฤติกรรมผู้บริโภค (Attitude and Consumer Behavior : Ch 9)
ทัศนคติกับพฤติกรรมผู้บริโภค (Attitude and Consumer Behavior : Ch 9)ทัศนคติกับพฤติกรรมผู้บริโภค (Attitude and Consumer Behavior : Ch 9)
ทัศนคติกับพฤติกรรมผู้บริโภค (Attitude and Consumer Behavior : Ch 9)
 
อินโฟกราฟิก (Infographic) และหลักการออกแบบ
อินโฟกราฟิก (Infographic) และหลักการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) และหลักการออกแบบ
อินโฟกราฟิก (Infographic) และหลักการออกแบบ
 
ตัวอย่างแผนธุรกิจPocket tissue
ตัวอย่างแผนธุรกิจPocket tissueตัวอย่างแผนธุรกิจPocket tissue
ตัวอย่างแผนธุรกิจPocket tissue
 
ตัวอย่างแผนธุรกิจร้านBakery
ตัวอย่างแผนธุรกิจร้านBakeryตัวอย่างแผนธุรกิจร้านBakery
ตัวอย่างแผนธุรกิจร้านBakery
 
Branding&Positioning (Ch 4) for IMC student Class
Branding&Positioning  (Ch 4) for IMC student ClassBranding&Positioning  (Ch 4) for IMC student Class
Branding&Positioning (Ch 4) for IMC student Class
 
กลยุทธ์ CRM ของ CPF
กลยุทธ์ CRM ของ CPFกลยุทธ์ CRM ของ CPF
กลยุทธ์ CRM ของ CPF
 
การนำเสนอผลการวิจัย
การนำเสนอผลการวิจัยการนำเสนอผลการวิจัย
การนำเสนอผลการวิจัย
 
การรับรู้สิ่งเร้าของผู้บริโภค
การรับรู้สิ่งเร้าของผู้บริโภคการรับรู้สิ่งเร้าของผู้บริโภค
การรับรู้สิ่งเร้าของผู้บริโภค
 
การติดต่อสื่อสารในองค์กร
การติดต่อสื่อสารในองค์กรการติดต่อสื่อสารในองค์กร
การติดต่อสื่อสารในองค์กร
 
เถ้าแก่น้อย บ่าย
เถ้าแก่น้อย บ่ายเถ้าแก่น้อย บ่าย
เถ้าแก่น้อย บ่าย
 

Andere mochten auch

Document king power
Document king powerDocument king power
Document king powerRatcha Khwan
 
แผนกลยุทธ์ งานทรัพยากรบุคคล สสส
แผนกลยุทธ์ งานทรัพยากรบุคคล สสสแผนกลยุทธ์ งานทรัพยากรบุคคล สสส
แผนกลยุทธ์ งานทรัพยากรบุคคล สสสRatcha Khwan
 
Smart workshop document
Smart workshop documentSmart workshop document
Smart workshop documentRatcha Khwan
 
รายงานการศึกษา ปรัชญา ความเชื่อโตโยต้า
รายงานการศึกษา ปรัชญา ความเชื่อโตโยต้า รายงานการศึกษา ปรัชญา ความเชื่อโตโยต้า
รายงานการศึกษา ปรัชญา ความเชื่อโตโยต้า DrDanai Thienphut
 
The toyota way presentation
The toyota way presentationThe toyota way presentation
The toyota way presentationKewin Nick
 
การปฏิบัติงานในแผนกต่างๆ ของธุรกิจการบิน
การปฏิบัติงานในแผนกต่างๆ ของธุรกิจการบินการปฏิบัติงานในแผนกต่างๆ ของธุรกิจการบิน
การปฏิบัติงานในแผนกต่างๆ ของธุรกิจการบินMint NutniCha
 
Starbucks - Customer Relationship Management
Starbucks - Customer Relationship ManagementStarbucks - Customer Relationship Management
Starbucks - Customer Relationship ManagementVincent Thai
 
Customer Relationship Management (CRM) In Starbucks 1
Customer Relationship Management (CRM) In Starbucks 1Customer Relationship Management (CRM) In Starbucks 1
Customer Relationship Management (CRM) In Starbucks 1Trevor Prescod
 
50 Customer Service Quotes You Need to Hang In Your Office
50 Customer Service Quotes You Need to Hang In Your Office50 Customer Service Quotes You Need to Hang In Your Office
50 Customer Service Quotes You Need to Hang In Your OfficeDesk
 
What Makes Great Infographics
What Makes Great InfographicsWhat Makes Great Infographics
What Makes Great InfographicsSlideShare
 
Masters of SlideShare
Masters of SlideShareMasters of SlideShare
Masters of SlideShareKapost
 
STOP! VIEW THIS! 10-Step Checklist When Uploading to Slideshare
STOP! VIEW THIS! 10-Step Checklist When Uploading to SlideshareSTOP! VIEW THIS! 10-Step Checklist When Uploading to Slideshare
STOP! VIEW THIS! 10-Step Checklist When Uploading to SlideshareEmpowered Presentations
 
10 Ways to Win at SlideShare SEO & Presentation Optimization
10 Ways to Win at SlideShare SEO & Presentation Optimization10 Ways to Win at SlideShare SEO & Presentation Optimization
10 Ways to Win at SlideShare SEO & Presentation OptimizationOneupweb
 
How To Get More From SlideShare - Super-Simple Tips For Content Marketing
How To Get More From SlideShare - Super-Simple Tips For Content MarketingHow To Get More From SlideShare - Super-Simple Tips For Content Marketing
How To Get More From SlideShare - Super-Simple Tips For Content MarketingContent Marketing Institute
 
How to Make Awesome SlideShares: Tips & Tricks
How to Make Awesome SlideShares: Tips & TricksHow to Make Awesome SlideShares: Tips & Tricks
How to Make Awesome SlideShares: Tips & TricksSlideShare
 

Andere mochten auch (17)

Document king power
Document king powerDocument king power
Document king power
 
แผนกลยุทธ์ งานทรัพยากรบุคคล สสส
แผนกลยุทธ์ งานทรัพยากรบุคคล สสสแผนกลยุทธ์ งานทรัพยากรบุคคล สสส
แผนกลยุทธ์ งานทรัพยากรบุคคล สสส
 
Smart workshop document
Smart workshop documentSmart workshop document
Smart workshop document
 
Draft programme
Draft programmeDraft programme
Draft programme
 
รายงานการศึกษา ปรัชญา ความเชื่อโตโยต้า
รายงานการศึกษา ปรัชญา ความเชื่อโตโยต้า รายงานการศึกษา ปรัชญา ความเชื่อโตโยต้า
รายงานการศึกษา ปรัชญา ความเชื่อโตโยต้า
 
The toyota way presentation
The toyota way presentationThe toyota way presentation
The toyota way presentation
 
การปฏิบัติงานในแผนกต่างๆ ของธุรกิจการบิน
การปฏิบัติงานในแผนกต่างๆ ของธุรกิจการบินการปฏิบัติงานในแผนกต่างๆ ของธุรกิจการบิน
การปฏิบัติงานในแผนกต่างๆ ของธุรกิจการบิน
 
Starbucks - Customer Relationship Management
Starbucks - Customer Relationship ManagementStarbucks - Customer Relationship Management
Starbucks - Customer Relationship Management
 
Customer Relationship Management (CRM) In Starbucks 1
Customer Relationship Management (CRM) In Starbucks 1Customer Relationship Management (CRM) In Starbucks 1
Customer Relationship Management (CRM) In Starbucks 1
 
50 Customer Service Quotes You Need to Hang In Your Office
50 Customer Service Quotes You Need to Hang In Your Office50 Customer Service Quotes You Need to Hang In Your Office
50 Customer Service Quotes You Need to Hang In Your Office
 
What Makes Great Infographics
What Makes Great InfographicsWhat Makes Great Infographics
What Makes Great Infographics
 
Masters of SlideShare
Masters of SlideShareMasters of SlideShare
Masters of SlideShare
 
STOP! VIEW THIS! 10-Step Checklist When Uploading to Slideshare
STOP! VIEW THIS! 10-Step Checklist When Uploading to SlideshareSTOP! VIEW THIS! 10-Step Checklist When Uploading to Slideshare
STOP! VIEW THIS! 10-Step Checklist When Uploading to Slideshare
 
You Suck At PowerPoint!
You Suck At PowerPoint!You Suck At PowerPoint!
You Suck At PowerPoint!
 
10 Ways to Win at SlideShare SEO & Presentation Optimization
10 Ways to Win at SlideShare SEO & Presentation Optimization10 Ways to Win at SlideShare SEO & Presentation Optimization
10 Ways to Win at SlideShare SEO & Presentation Optimization
 
How To Get More From SlideShare - Super-Simple Tips For Content Marketing
How To Get More From SlideShare - Super-Simple Tips For Content MarketingHow To Get More From SlideShare - Super-Simple Tips For Content Marketing
How To Get More From SlideShare - Super-Simple Tips For Content Marketing
 
How to Make Awesome SlideShares: Tips & Tricks
How to Make Awesome SlideShares: Tips & TricksHow to Make Awesome SlideShares: Tips & Tricks
How to Make Awesome SlideShares: Tips & Tricks
 

Ähnlich wie Crm

การบริหารสปา โครงการพัฒนาวิทยากร
การบริหารสปา โครงการพัฒนาวิทยากรการบริหารสปา โครงการพัฒนาวิทยากร
การบริหารสปา โครงการพัฒนาวิทยากรWichien Juthamongkol
 
การออกแบบบริการ (Service design)
การออกแบบบริการ (Service design) การออกแบบบริการ (Service design)
การออกแบบบริการ (Service design) Dr.Krisada [Hua] RMUTT
 
แผนธุรกิจ Business Plan
แผนธุรกิจ Business Planแผนธุรกิจ Business Plan
แผนธุรกิจ Business Planinnoobecgoth
 
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจ
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจหลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจ
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจthanathip
 
การจัดการแบบบูรณาการ The integrated management system
การจัดการแบบบูรณาการ The integrated management systemการจัดการแบบบูรณาการ The integrated management system
การจัดการแบบบูรณาการ The integrated management systemmaruay songtanin
 
KM Project present by Tiparat KU MSIT11
KM Project present by Tiparat KU  MSIT11KM Project present by Tiparat KU  MSIT11
KM Project present by Tiparat KU MSIT11Amp Tiparat
 
804501 ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
804501 ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน)804501 ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
804501 ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน)pattarawadee
 
Crm กับบริการสารสนเทศ
Crm กับบริการสารสนเทศCrm กับบริการสารสนเทศ
Crm กับบริการสารสนเทศNaresuan University Library
 
(Vision.mission,goal,strategy sales team)
(Vision.mission,goal,strategy sales team)(Vision.mission,goal,strategy sales team)
(Vision.mission,goal,strategy sales team)Nipat Supatkosit
 
AIM3304 – ธุรกิจงานการสื่อสารการตลาด
AIM3304 – ธุรกิจงานการสื่อสารการตลาดAIM3304 – ธุรกิจงานการสื่อสารการตลาด
AIM3304 – ธุรกิจงานการสื่อสารการตลาดBussakornHiranchai
 
การมุ่งเน้นลูกค้า Customer from role models
 การมุ่งเน้นลูกค้า Customer from role models การมุ่งเน้นลูกค้า Customer from role models
การมุ่งเน้นลูกค้า Customer from role modelsmaruay songtanin
 
สิ่งที่ลูกค้าต้องการที่แท้จริงคืออะไร? What does your customer really want
สิ่งที่ลูกค้าต้องการที่แท้จริงคืออะไร? What does your customer really want สิ่งที่ลูกค้าต้องการที่แท้จริงคืออะไร? What does your customer really want
สิ่งที่ลูกค้าต้องการที่แท้จริงคืออะไร? What does your customer really want maruay songtanin
 
Industrial 4.0 For OTOP SME Startup
Industrial 4.0 For OTOP SME StartupIndustrial 4.0 For OTOP SME Startup
Industrial 4.0 For OTOP SME StartupWeera Chearanaipanit
 

Ähnlich wie Crm (20)

Crm
CrmCrm
Crm
 
การบริหารสปา โครงการพัฒนาวิทยากร
การบริหารสปา โครงการพัฒนาวิทยากรการบริหารสปา โครงการพัฒนาวิทยากร
การบริหารสปา โครงการพัฒนาวิทยากร
 
Case Study : Customer Centric & Lead User 2
Case Study : Customer Centric & Lead User 2Case Study : Customer Centric & Lead User 2
Case Study : Customer Centric & Lead User 2
 
Chapter1 kc
Chapter1 kcChapter1 kc
Chapter1 kc
 
การสื่อสารการตลาดแบบบูรณการ
การสื่อสารการตลาดแบบบูรณการการสื่อสารการตลาดแบบบูรณการ
การสื่อสารการตลาดแบบบูรณการ
 
Business model to Business plan
Business model to Business planBusiness model to Business plan
Business model to Business plan
 
การออกแบบบริการ (Service design)
การออกแบบบริการ (Service design) การออกแบบบริการ (Service design)
การออกแบบบริการ (Service design)
 
แผนธุรกิจ Business Plan
แผนธุรกิจ Business Planแผนธุรกิจ Business Plan
แผนธุรกิจ Business Plan
 
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจ
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจหลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจ
หลักสูตรที่ 2 หน่วยที่ 4: ความเข้าใจแผนธุรกิจ
 
การจัดการแบบบูรณาการ The integrated management system
การจัดการแบบบูรณาการ The integrated management systemการจัดการแบบบูรณาการ The integrated management system
การจัดการแบบบูรณาการ The integrated management system
 
KM Project present by Tiparat KU MSIT11
KM Project present by Tiparat KU  MSIT11KM Project present by Tiparat KU  MSIT11
KM Project present by Tiparat KU MSIT11
 
804501 ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
804501 ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน)804501 ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
804501 ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
 
Crm กับบริการสารสนเทศ
Crm กับบริการสารสนเทศCrm กับบริการสารสนเทศ
Crm กับบริการสารสนเทศ
 
(Vision.mission,goal,strategy sales team)
(Vision.mission,goal,strategy sales team)(Vision.mission,goal,strategy sales team)
(Vision.mission,goal,strategy sales team)
 
AIM3304 – ธุรกิจงานการสื่อสารการตลาด
AIM3304 – ธุรกิจงานการสื่อสารการตลาดAIM3304 – ธุรกิจงานการสื่อสารการตลาด
AIM3304 – ธุรกิจงานการสื่อสารการตลาด
 
การมุ่งเน้นลูกค้า Customer from role models
 การมุ่งเน้นลูกค้า Customer from role models การมุ่งเน้นลูกค้า Customer from role models
การมุ่งเน้นลูกค้า Customer from role models
 
สิ่งที่ลูกค้าต้องการที่แท้จริงคืออะไร? What does your customer really want
สิ่งที่ลูกค้าต้องการที่แท้จริงคืออะไร? What does your customer really want สิ่งที่ลูกค้าต้องการที่แท้จริงคืออะไร? What does your customer really want
สิ่งที่ลูกค้าต้องการที่แท้จริงคืออะไร? What does your customer really want
 
คำศัพท์ ต้องรู้
คำศัพท์ ต้องรู้คำศัพท์ ต้องรู้
คำศัพท์ ต้องรู้
 
แผนธุรกิจ
แผนธุรกิจแผนธุรกิจ
แผนธุรกิจ
 
Industrial 4.0 For OTOP SME Startup
Industrial 4.0 For OTOP SME StartupIndustrial 4.0 For OTOP SME Startup
Industrial 4.0 For OTOP SME Startup
 

Mehr von Mint NutniCha

8 1 บทบาทและหน้าที่ของมัคคุเทศก์อาสา
8 1 บทบาทและหน้าที่ของมัคคุเทศก์อาสา8 1 บทบาทและหน้าที่ของมัคคุเทศก์อาสา
8 1 บทบาทและหน้าที่ของมัคคุเทศก์อาสาMint NutniCha
 
8 4 แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในท้องถิ่น
8 4 แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในท้องถิ่น8 4 แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในท้องถิ่น
8 4 แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในท้องถิ่นMint NutniCha
 
Conference programme
Conference programme Conference programme
Conference programme Mint NutniCha
 
6 5 ที่พักแรมแบบโฮมสเตย์และการจัดการ
6 5 ที่พักแรมแบบโฮมสเตย์และการจัดการ6 5 ที่พักแรมแบบโฮมสเตย์และการจัดการ
6 5 ที่พักแรมแบบโฮมสเตย์และการจัดการMint NutniCha
 
8 3 สังคมและวัฒนธรรมไทย
8 3  สังคมและวัฒนธรรมไทย8 3  สังคมและวัฒนธรรมไทย
8 3 สังคมและวัฒนธรรมไทยMint NutniCha
 
6 6 กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์
6 6 กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์6 6 กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์
6 6 กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์Mint NutniCha
 
7 5 มาตรฐานและการประเมินแหล่งท่องเที่ยว
7 5 มาตรฐานและการประเมินแหล่งท่องเที่ยว7 5 มาตรฐานและการประเมินแหล่งท่องเที่ยว
7 5 มาตรฐานและการประเมินแหล่งท่องเที่ยวMint NutniCha
 
7 6 การพัฒนาผลิตภัณฑ์แหล่งท่องเที่ยว
7 6 การพัฒนาผลิตภัณฑ์แหล่งท่องเที่ยว7 6 การพัฒนาผลิตภัณฑ์แหล่งท่องเที่ยว
7 6 การพัฒนาผลิตภัณฑ์แหล่งท่องเที่ยวMint NutniCha
 
7 7 การกำหนดตำแหน่งและการสร้างตราสินค้า
7 7 การกำหนดตำแหน่งและการสร้างตราสินค้า7 7 การกำหนดตำแหน่งและการสร้างตราสินค้า
7 7 การกำหนดตำแหน่งและการสร้างตราสินค้าMint NutniCha
 
7 8 การตลาดสำหรับการท่องเที่ยว
7 8 การตลาดสำหรับการท่องเที่ยว7 8 การตลาดสำหรับการท่องเที่ยว
7 8 การตลาดสำหรับการท่องเที่ยวMint NutniCha
 
7 3 การเขียนโครงการเพื่อของบประมาณสนับสนุน
7 3 การเขียนโครงการเพื่อของบประมาณสนับสนุน7 3 การเขียนโครงการเพื่อของบประมาณสนับสนุน
7 3 การเขียนโครงการเพื่อของบประมาณสนับสนุนMint NutniCha
 
7 2 การท่องเที่ยวโดยชุมชน
7 2 การท่องเที่ยวโดยชุมชน7 2 การท่องเที่ยวโดยชุมชน
7 2 การท่องเที่ยวโดยชุมชนMint NutniCha
 
6 2 การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและการท่องเที่ยวโดยชุมชน
6 2 การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและการท่องเที่ยวโดยชุมชน6 2 การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและการท่องเที่ยวโดยชุมชน
6 2 การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและการท่องเที่ยวโดยชุมชนMint NutniCha
 
6 1 แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการจัดการ
6 1 แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการจัดการ6 1 แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการจัดการ
6 1 แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการจัดการMint NutniCha
 
6 3 การตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์
6 3 การตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์6 3 การตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์
6 3 การตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์Mint NutniCha
 
8 5 ภาษาอังกฤษเบื้องต้น สำหรับมัคคุเทศก์อาสา
8 5 ภาษาอังกฤษเบื้องต้น สำหรับมัคคุเทศก์อาสา8 5 ภาษาอังกฤษเบื้องต้น สำหรับมัคคุเทศก์อาสา
8 5 ภาษาอังกฤษเบื้องต้น สำหรับมัคคุเทศก์อาสาMint NutniCha
 
8 2 พฤติกรรมนักท่องเที่ยว
8 2 พฤติกรรมนักท่องเที่ยว 8 2 พฤติกรรมนักท่องเที่ยว
8 2 พฤติกรรมนักท่องเที่ยว Mint NutniCha
 
7 1 แนวคิดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว
7 1  แนวคิดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว7 1  แนวคิดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว
7 1 แนวคิดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวMint NutniCha
 
5 ทักษะการสื่อสารสำหรับบุคลากรธุรกิจท่องเที่ยว
5 ทักษะการสื่อสารสำหรับบุคลากรธุรกิจท่องเที่ยว5 ทักษะการสื่อสารสำหรับบุคลากรธุรกิจท่องเที่ยว
5 ทักษะการสื่อสารสำหรับบุคลากรธุรกิจท่องเที่ยวMint NutniCha
 
4 การตลาดธุรกิจท่องเที่ยว
4 การตลาดธุรกิจท่องเที่ยว4 การตลาดธุรกิจท่องเที่ยว
4 การตลาดธุรกิจท่องเที่ยวMint NutniCha
 

Mehr von Mint NutniCha (20)

8 1 บทบาทและหน้าที่ของมัคคุเทศก์อาสา
8 1 บทบาทและหน้าที่ของมัคคุเทศก์อาสา8 1 บทบาทและหน้าที่ของมัคคุเทศก์อาสา
8 1 บทบาทและหน้าที่ของมัคคุเทศก์อาสา
 
8 4 แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในท้องถิ่น
8 4 แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในท้องถิ่น8 4 แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในท้องถิ่น
8 4 แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในท้องถิ่น
 
Conference programme
Conference programme Conference programme
Conference programme
 
6 5 ที่พักแรมแบบโฮมสเตย์และการจัดการ
6 5 ที่พักแรมแบบโฮมสเตย์และการจัดการ6 5 ที่พักแรมแบบโฮมสเตย์และการจัดการ
6 5 ที่พักแรมแบบโฮมสเตย์และการจัดการ
 
8 3 สังคมและวัฒนธรรมไทย
8 3  สังคมและวัฒนธรรมไทย8 3  สังคมและวัฒนธรรมไทย
8 3 สังคมและวัฒนธรรมไทย
 
6 6 กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์
6 6 กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์6 6 กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์
6 6 กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์
 
7 5 มาตรฐานและการประเมินแหล่งท่องเที่ยว
7 5 มาตรฐานและการประเมินแหล่งท่องเที่ยว7 5 มาตรฐานและการประเมินแหล่งท่องเที่ยว
7 5 มาตรฐานและการประเมินแหล่งท่องเที่ยว
 
7 6 การพัฒนาผลิตภัณฑ์แหล่งท่องเที่ยว
7 6 การพัฒนาผลิตภัณฑ์แหล่งท่องเที่ยว7 6 การพัฒนาผลิตภัณฑ์แหล่งท่องเที่ยว
7 6 การพัฒนาผลิตภัณฑ์แหล่งท่องเที่ยว
 
7 7 การกำหนดตำแหน่งและการสร้างตราสินค้า
7 7 การกำหนดตำแหน่งและการสร้างตราสินค้า7 7 การกำหนดตำแหน่งและการสร้างตราสินค้า
7 7 การกำหนดตำแหน่งและการสร้างตราสินค้า
 
7 8 การตลาดสำหรับการท่องเที่ยว
7 8 การตลาดสำหรับการท่องเที่ยว7 8 การตลาดสำหรับการท่องเที่ยว
7 8 การตลาดสำหรับการท่องเที่ยว
 
7 3 การเขียนโครงการเพื่อของบประมาณสนับสนุน
7 3 การเขียนโครงการเพื่อของบประมาณสนับสนุน7 3 การเขียนโครงการเพื่อของบประมาณสนับสนุน
7 3 การเขียนโครงการเพื่อของบประมาณสนับสนุน
 
7 2 การท่องเที่ยวโดยชุมชน
7 2 การท่องเที่ยวโดยชุมชน7 2 การท่องเที่ยวโดยชุมชน
7 2 การท่องเที่ยวโดยชุมชน
 
6 2 การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและการท่องเที่ยวโดยชุมชน
6 2 การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและการท่องเที่ยวโดยชุมชน6 2 การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและการท่องเที่ยวโดยชุมชน
6 2 การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและการท่องเที่ยวโดยชุมชน
 
6 1 แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการจัดการ
6 1 แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการจัดการ6 1 แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการจัดการ
6 1 แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการจัดการ
 
6 3 การตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์
6 3 การตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์6 3 การตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์
6 3 การตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโฮมสเตย์
 
8 5 ภาษาอังกฤษเบื้องต้น สำหรับมัคคุเทศก์อาสา
8 5 ภาษาอังกฤษเบื้องต้น สำหรับมัคคุเทศก์อาสา8 5 ภาษาอังกฤษเบื้องต้น สำหรับมัคคุเทศก์อาสา
8 5 ภาษาอังกฤษเบื้องต้น สำหรับมัคคุเทศก์อาสา
 
8 2 พฤติกรรมนักท่องเที่ยว
8 2 พฤติกรรมนักท่องเที่ยว 8 2 พฤติกรรมนักท่องเที่ยว
8 2 พฤติกรรมนักท่องเที่ยว
 
7 1 แนวคิดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว
7 1  แนวคิดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว7 1  แนวคิดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว
7 1 แนวคิดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว
 
5 ทักษะการสื่อสารสำหรับบุคลากรธุรกิจท่องเที่ยว
5 ทักษะการสื่อสารสำหรับบุคลากรธุรกิจท่องเที่ยว5 ทักษะการสื่อสารสำหรับบุคลากรธุรกิจท่องเที่ยว
5 ทักษะการสื่อสารสำหรับบุคลากรธุรกิจท่องเที่ยว
 
4 การตลาดธุรกิจท่องเที่ยว
4 การตลาดธุรกิจท่องเที่ยว4 การตลาดธุรกิจท่องเที่ยว
4 การตลาดธุรกิจท่องเที่ยว
 

Crm

  • 1. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรพัฒนาศักยภาพบุคลากรสาหรับอุตสาหกรรมที่ พักแรม วันที่ 29 มีนาคม 2557 การสร้างวัฒนธรรมในงานบริการด้วย CUSTOMER RELATIONSHIP MANAGEMENT บรรยายโดย : รศ. อรชร มณีสงฆ์ ภาควิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • 2. การสร้างวัฒนธรรมในงานบริการด้วย Customer Relationship Management (CRM) แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1. Consumer Relationship Management 2. วัฒนธรรมองค์กร
  • 3. 1. Consumer Relationship Management วิชาการตลาด เป็นวิชาที่เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นานนัก ในอดีต การตลาด เกิดขึ้นเพราะสินค้าที่มีอยู่ในท้องตลาดนั้นคล้ายคลึงกัน ไม่สามารถขาย ได้ ทาให้ผู้ขายเริ่มมองลูกค้าเป็นกลุ่มๆ และพิจารณาว่าควรจะนาเสนอ สินค้าและบริการอะไรให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ ให้ได้ มากกว่ากลุ่มอื่นๆ เพื่อที่ลูกค้าจะได้ซื้ อสินค้าจากตน ไม่ซื้ อจากผู้ขาย รายอื่น จึงเริ่มมีการแบ่งกลุ่มลูกค้าขึ้น
  • 4. 1. Consumer Relationship Management ในภายหลังได้มีการคานึงถึงคนในกลุ่มต่างๆ และได้แบ่ง ประเภทของส่วนประสมทางการตลาด ประกอบไปด้วย สินค้า หรือผลิตภัณฑ์ จะต้องมีราคาที่เหมาะสมตรงกับความต้องการ ของลูกค้า และลูกค้ามีกาลังในการซื้ อ สถานที่ขายเข้าถึงได้ สะดวก และการที่มีคู่แข่งนั้น สิ่งสาคัญ คือ จะต้องมีการส่งเสริม ทางการตลาด เช่น การลดแลกแจกแถม การใช้พนักงานขายที่ เก่งกว่า มาช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่สินค้านั้นๆ
  • 5. แนวคิดของ CRM เป็นการต่อยอดจากแนวคิดเดิมของการตลาด ที่จะต้องมีการ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพราะ ในการหาลูกค้าใหม่ 1 คนนั้น ผู้ขายจะต้องใช้เงินทุนมากขึ้นในการโฆษณาสินค้าให้เป็น ที่รู้จัก ผู้ประกอบการเริ่มมองว่า การรักษาลูกค้าเดิมไว้เป็นสิ่งที่คุ้มค่า กว่า เพราะ ลูกค้าเดิมรู้จักสินค้าของเราอยู่แล้ว มีความไว้ใจใน สินค้า
  • 6. การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ 1. จะเริ่มจากลูกค้าที่ยังไม่เคยเป็น ลูกค้าของเรามาก่อน หรือ non-visitor ผู้ขายจะต้อง มองหาเป้ าหมาย และพิจารณา ว่าสินค้าและบริการ หรือ โรงแรมของเราที่สร้างขึ้นมา อยู่ ในระดับไหน ใครที่จะมาเข้าพัก www.acornsys.com
  • 7. การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ เช่น บางโรงแรมที่เปิ ดใหม่ก็จะมีการ โฆษณาทางอินเตอร์เน็ตให้มาเข้าพักฟรี โดยต้องร่วมกิจกรรมของทางโรงแรม เพื่อที่จะได้รับสิทธิพิเศษเข้าพักโรงแรม ฟรี 2 คน 1 ห้อง โดยคืนแรกฟรี และ คืนที่ 2 จ่าย 50% ทาให้เกิดการ ทดลองใช้ และทาอย่างไรให้ลูกค้ากลุ่มนี้ เกิดความประทับใจ และกลับมาใช้ บริการอีก หรือที่เรียกว่า repeat customer cutideals.com
  • 8. การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ ถ้าลูกค้ากลับมาใช้บริการมากกว่า 2-3 ครั้ง แสดงว่าลูกค้าเริ่ม จงรักภักดีกับกิจการของเราแล้ว แต่ในเชิงการตลาดแล้วยังเรียกว่าความภักดีไม่ได้ เพราะต้องวัดด้วยว่า ลูกค้าพึงพอใจหรือไม่ ที่ลูกค้ามาพักโรงแรมนี้ หลายครั้ง อาจเป็นเพราะ โรงแรมนี้ มีราคาถูกที่สุด ในเรื่องของความภักดีนั้นจะต้องมีการวัดระดับของความชื่นชอบ ของลูกค้าจากความคิดเห็น เช่น พนักงานบริการดี อาหารเช้าอร่อย ห้องพักสะอาด เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ จะทาให้ลูกค้าเกิดความภักดีได้
  • 9. การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ 2. เมื่อได้ข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าที่สนใจแล้ว ก็จะนามาวิเคราะห์ว่ากลุ่ม ลูกค้าเป็นอย่างไร มีทาการวิจัยตลาดทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ นามาทาเป็นแผนปฏิบัติการเพื่อเอาไปปฏิบัติจริง โดยจะต้องมีการดูผล ตอบรับด้วยว่าประสบความสาเร็จหรือไม่เพื่อที่จะนาไปปรับปรุงแผน ใหม่ต่อไป ซึ่งลูกค้าที่มาใช้บริการซ้าๆ จะเป็นลูกค้าที่จงรักภักดีกับองค์กร ลักษณะ หนึ่งของลูกค้าที่จงรักภักดีกับองค์กร คือ จะมีความชื่นชมต่อองค์กร เป็นกลุ่มคนที่ช่วยบอกต่อ กระจายข่าว รวมถึงปกป้ ององค์กรด้วย
  • 10. เป้ าหมายของการทา CRM  การเก็บข้อมูลของลูกค้า หรือ database ในการทา CRM นั้น เป้ าหมายอันหนึ่ง ไม่ใช่เฉพาะแค่ ให้บริการลูกค้าเท่านั้น การที่จะทาให้ CRM ประสบ ความสาเร็จได้ หัวใจหลักอยู่ที่ข้อมูลของลูกค้า หรื อ database ว่ามีการเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้หรือไม่
  • 11. เป้ าหมายของการทา CRM เช่น มีรายชื่อลูกค้าที่มาพักโรงแรม ในระยะเวลา 3 ปี สามารถดูได้ว่ามี ลูกค้ารายไหนที่มาพักซ้าบ้าง มาพัก ห้องไหน ช่วงใด มากันกี่คน เช่น ลูกค้าคนนี้ มาพักช่วงสงกรานต์ ตลอด 3 ปี โรงแรมก็จะทราบว่า ควรจะทาอย่างไรให้ลูกค้าประทับใจ เช่น ส่งบัตรเชิญแจ้งกิจกรรมช่วง สงกรานต์ให้แก่ลูกค้าqueenbeecoupons.com
  • 12. เป้ าหมายของการทา CRM การทา CRM นั้น ไม่จาเป็นต้องลด ราคาเสมอไป แต่เน้นที่การทาให้ลูกค้า รู้สึกเหมือนเป็นคนสาคัญ ในโรงแรม 5 ดาวบางแห่งที่นาระบบ CRM มาใช้นั้น ลูกค้าไม่จาเป็นต้องสั่งอาหารเช้า เพราะ โรงแรมมีข้อมูลอยู่แล้วว่าลูกค้าต้องการ อะไร แค่ถามว่าต้องการแบบเดิมใช่ หรือไม่ พนักงานก็จะให้บริการได้ทันที ทาให้ลูกค้าเกิดความประทับใจขึ้นได้ www.tripadvisor.com
  • 13. เป้ าหมายของการทา CRM  การเปลี่ยนลูกค้าทั่วไปให้เป็นลูกค้าตลอดกาล หากธุรกิจที่ทาเป็นธุรกิจที่ต้องมีบริการหลังการขาย ก็จะต้องมีการสารวจความพึงพอใจของลูกค้า เช่น การโทรไปสอบถามลูกค้า ทาให้ลูกค้าเกิดความ ประทับใจว่าโรงแรมให้ความสนใจ และรับฟังปัญหา ของตน เป็นวิธีที่จะรักษาลูกค้าเอาไว้ได้ www.northgate-salesnet.com
  • 14. การวางแผนกลยุทธ์ของ CRM คือ การให้ลูกค้าเป็น “ศูนย์กลาง” ในการที่จะทาให้ลูกค้าพึง พอใจ และกลับมาใช้บริการอีก ขึ้นอยู่กับคน หรือพนักงานที่ให้บริการ ว่าสามารถให้บริการที่ดีแก่ลูกค้าได้หรือไม่ พนักงานจะต้องมีความเต็ม ใจในการให้บริการ เพื่อสร้างความประทับใจและความพึงพอใจให้กับ ลูกค้าได้
  • 15. การประยุกต์ CRM มาใช้ในองค์กร สิ่งสาคัญ คือ “Leadership” หรือ “ผู้นา” จะต้องเป็นตัวตั้งตัวตีใน การทาเป็นตัวอย่าง เพื่อให้พนักงานสามารถเชื่อได้ว่านี่เป็นสิ่งที่กิจการ ต้องการจริงๆ กลยุทธ์ต่างๆ ที่วางแผนไว้ จะต้องมุ่งเน้นในเรื่องของการ สร้างความพึงพอใจและรักษาความสัมพันธ์ของลูกค้า ซึ่งจะนาไปสู่การ สร้างวัฒนธรรมขององค์กรขึ้น www.beyondnlptraining.co.uk
  • 16. ข้อดีของการนา CRM มาใช้ในองค์กร  มีการกระจายอานาจ มีการแบ่งงานให้พนักงานออกแบบแผนงาน การแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยทาเป็นระบบ และให้มี feedback กลับมา พนักงานสามารถใช้ข้อมูลต่างๆ มาบริหารจัดการเพื่อแยก กลุ่มของลูกค้าได้ เช่น ฝ่ายการตลาด ฝ่ายบริหารงาน เป็นต้น  การที่รู้จักลูกค้านั้นจะทาให้สามารถพยากรณ์ยอดขายได้ล่วงหน้า เช่น ลูกค้าที่เคยมาพักซ้าเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ อาจจะกลับมาอีก และ จะต้องหาลูกค้าใหม่อีกเท่าไหร่
  • 17. ปัจจัยที่ทาให้ CRM ประสบความสาเร็จ  ผู้บริหารจะต้องให้ความร่วมมือ อย่างใกล้ชิด  มีการกาหนดกระบวนการต่างๆ ในการนาแผนมาใช้  การประเมินว่าแผนที่ใช้นั้นมี ปัญหาหรือไม่ ควรแก้ไข ปรับปรุงอย่างไร ซึ่งควรมีการ ตรวจสอบระบบตลอดเวลา www.damarque.com
  • 18. ปัจจัยที่ทาให้ CRM ประสบความสาเร็จ เพราะว่าการให้บริการลูกค้าเป็ นสิ่งสาคัญ เมื่อลูกค้ามาใช้บริการ พนักงานจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่วางไว้ จนเวลาผ่านไป 15 ปี พนักงานก็ยังให้บริการแบบเดิม หรือเมื่อก่อนโรงแรมไม่มี wifi- internet จนปัจจุบันก็ยังไม่มีเหมือนเดิม จุดนี้ อาจทาให้ ลูกค้าไม่พึงพอใจได้ เพราะความต้องการของลูกค้านั้นเปลี่ยนแปลง ตลอดเวลา ประกอบกับคู่แข่งที่มากขึ้ น ดังนั้นจึงควรมีการปรับปรุง ระบบให้มีความทันสมัย และตรงกับความต้องการของลูกค้า
  • 19. ปัจจัยที่ทาให้ CRM ประสบความสาเร็จ ระบบ CRM นั้น ถ้าจะให้ได้ผลดีแล้ว ส่วนมากจะใช้ในงานที่มีขนาด ใหญ่ เช่น การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ เพราะ สามารถดึงข้อมูล ได้ง่าย นามาวิเคราะห์ได้ง่าย ว่าลูกค้าแต่ละคนต้องการอะไร เช่น มีบัตรสมาชิก ก็จะสามารถทราบได้ว่าลูกค้ามาซื้อบ่อยแค่ไหน ใช้ จ่ายเท่าไหร่ ซื้อสินค้าอะไรบ้าง แต่ถ้าเป็นผู้ประกอบการเล็กๆ ก็อาจจะ ไม่คุ้มค่าที่จะใช้โปรแกรมเหล่านี้ แต่ก็สามารถใช้โปรแกรม Microsoft Excel หรือ Microsoft Access ในการเก็บข้อมูล และนามา วิเคราะห์พื้นฐานได้
  • 20. ปัจจัยที่ทาให้ CRM ประสบความสาเร็จ  การที่จะทา CRM ให้ ประสบความสาเร็จ จะต้องมี การเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร ด้วย ว่าแต่ละองค์กรมี วัฒนธรรมในการให้บริการ แก่ลูกค้าอย่างจริงจังมากน้อย เพียงใดwww.moderncourse.com
  • 21. 2. วัฒนธรรมองค์กร คือการที่พนักงานในองค์กรหลายๆ คน มีการรับรู้ร่วมกัน และมีการปฏิบัติที่ คล้ายๆ กัน คนที่ทาไม่เหมือนกับคนใน องค์กรนั้นจะรู้สึกไม่ค่อยสะดวกใจ เช่น พนักงานใหม่ที่เข้าไปทางานใน องค์กร ซึ่งในองค์กรนั้นทุกคนแต่งตัว เรียบร้อย แต่พนักงานคนนี้ ใส่กางเกง ยีนขาดไปทางาน ก็จะรู้สึกถึงความ แตกต่างbarry-overstreet.com
  • 22. 2. วัฒนธรรมองค์กร วัฒนธรรมองค์กรสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ เช่น ธนาคารออม สิน มีวัฒนธรรมองค์กรแบบเดิม คือ แบบราชการ เพราะก่อตั้งมาด้วยทุนของ รัฐบาล จะมีการแบ่งขั้น ตาแหน่งต่างๆ ไม่ค่อยให้บริการลูกค้าเท่าไหร่ จะมอง ลูกค้าเหมือนราษฎรที่มาติดต่องานราชการ แต่ในตอนหลังมีการปรับปรุง มีการ ปลูกสร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ในเรื่องของการให้บริการ ซึ่งก็พัฒนาขึ้นในระดับ หนึ่ง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับธนาคารอื่นๆ อย่างธนาคารไทยพาณิชย์ ก็จะเห็นถึง การให้บริการที่แตกต่างกว่า การให้บริการไม่ได้ขึ้นอยู่ที่คนอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่ กับสิ่งอานวยความสะดวกภายนอก หรือ Physical evidence ด้วย แต่ถ้า เทียบระหว่างคนกับคน ก็จะเห็นความแตกต่างอยู่เหมือนกัน
  • 23. ความเกี่ยวข้องของวัฒนธรรมองค์กร ต่อธุรกิจ และ CRM  จะเห็นได้ว่าปัจจุบันธุรกิจต่างๆ มุ่งเน้นในการสร้างความ แตกต่างให้กับลูกค้า ว่าจะทา อย่างไรให้เกิดความแตกต่าง ที่ ทาให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้า อีก สิ่งที่สาคัญ คือ พนักงานใน องค์กร bookboon.com
  • 24.  เมื่อเราวางระบบเทคโนโลยีเสร็จ แล้ว ระบบไม่สามารถทางานเองได้ พนักงานเป็นตัวกลางระหว่างระบบ กับผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการ  พนักงานในองค์กรจะเป็นตัวที่ทา ให้เกิดความแตกต่าง ทาให้เกิด ความประทับใจต่อลูกค้าที่มาใช้ บริการ  ต้องมีการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ที่ ทาให้พนักงานทางานด้วยความ เต็มใจ ไม่ใช่ทาเพราะถูกสั่งเท่านั้นhttp://www.technologyreview360.com/ career-directions.org
  • 25. สายการบิน Singapore Airlines ที่มุ่งเน้นในการสร้างภาพลักษณ์ในการบริการที่ดีกว่า ซึ่งเริ่มให้บริการ ตั้งแต่ปี 1972 โดยแยกมาจากสายการบินของมาเลเซีย เน้นเรื่องของการ บริการเป็นหัวใจสาคัญของกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก สิ่งที่สาย การบินนี้ ทา คือ การให้บริการบนเครื่องบินที่เป็นธรรมชาติ ดูแลอย่างใกล้ชิด มี ความเป็นปัจเจกบุคคลในการให้บริการ และเครื่องแบบของพนักงานต้อนรับ ที่ ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดัง
  • 26. สายการบิน Singapore Airlines พนักงานต้อนรับได้ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี ต้องสวยธรรมชาติแบบเอเชีย รูปร่างดี กริยามารยาทดี เป็นกันเองกับผู้โดยสาร และมีใจรักในงานบริการ ซึ่ง สิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะต้องถูกถ่ายทอดและสั่งสอนให้พนักงานทุกคนที่ทางานให้กับ Singapore Airlines นั้นเกิดความเข้าใจตรงกัน ว่าบริษัทต้องการเป็ น เลิศในด้านบริการ มีหัวใจในการให้บริการ มีใจรักในงานบริการ เป็นสิ่งที่สาย การบินนี้ ใช้เป็นแนวคิดหลักในการสร้างแบรนด์ และในการโฆษณาต่างๆ ด้วย
  • 27. สายการบิน Singapore Airlines ซึ่งภาพยนตร์โฆษณาของ Singapore Airlines นั้น จะมุ่งเน้นไปในภาพ ของ Singapore Girl ว่าอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก จะสื่อให้เห็นว่าสาย การบินนี้ เป็นเลิศในด้านการให้บริการ เป็นมิตรไมตรี มีความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่า Singapore Airlines เป็นสายการบินระดับโลก ที่มุ่งเน้นในเรื่องของผู้ให้บริการที่มีความเต็มใจ จะเป็นสิ่งที่ทาให้สายการบินนี้ แตกต่างจากสายการบินอื่น
  • 28. การสร้างวัฒนธรรมในการบริการ แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ผู้บริหาร มาตรฐานที่ กาหนดไว้ และการ อบรม www.jenoptik.com www.awardslimo.com
  • 29. 1. ผู้บริหาร เป็ นส่วนที่สาคัญที่สุด เพราะ ถ้า ผู้บริหารไม่เห็นความสาคัญของ การพัฒนาในส่วนของวัฒนธรรม องค์กรให้เป็ นองค์กรแห่งการ ให้บริการแล้ว ทั้งหมดที่เกิดขึ้ นก็ จะเป็ นไปไม่ได้ ถ้าผู้บริหารเป็ น ตัวอย่างที่ไม่ดี หยิ่ง ไม่ไหว้ลูกค้า พนักงานก็จะทาตามแบบผู้บริหาร career-directions.org
  • 30. 1. ผู้บริหาร  ผู้บริหารจะต้องเป็ นต้นแบบใน “การมองลูกค้าเป็ นศูนย์กลาง” หรือ “Customer Centric” คือ มองว่าลูกค้าต้องการอะไร เพื่อที่จะไป กาหนดนโยบาย กลยุทธ์ต่างๆ ขององค์กร ในการตอบสนองความต้องการ ของลูกค้าได้ ในการวางแผนนั้น อย่ามองว่าทาแบบนี้ แล้วจะลดต้นทุน ให้ มองว่าทาแบบนี้ แล้วลูกค้าจะได้อะไร ในความเป็นจริงแล้วทุกธุรกิจต้องการ ผลกาไร แต่ถ้าสิ่งที่ทาให้ลูกค้าพอใจและสามารถลดต้นทุนได้ด้วย ก็จะยิ่ง เป็นผลดีต่อกิจการ
  • 31. 1. ผู้บริหาร  เช่น การจาหน่ายตั๋วเครื่องบิน มีลูกค้าต่อแถวซื้อเยอะ และเร่งรีบ ควรจะหา วิธีไหนที่จะลดในส่วนของต้นทุนได้ อย่างเช่น ช่องทางการจาหน่ายตั๋ว เครื่องบินทางอินเตอร์เนต สาหรับคนที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญ ถ้า หากลูกค้าคุ้นเคยกับการซื้อตั๋วผ่านทางอินเตอร์เน็ตแล้ว เคาน์เตอร์ขายตั๋ว เครื่องบินจากเดิมมี 5 ช่อง ก็อาจจะลดเหลือ 3 ช่อง ก็จะลดต้นทุนในเรื่อง ของจานวนพนักงานไปด้วย ลูกค้าก็ได้รับความพึงพอใจ เพราะสามารถซื้อ เวลาไหนก็ได้ มีทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น สิ่งที่วางแผนนั้นให้คานึงถึง ประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก
  • 32. 1. ผู้บริหาร  ผู้บริหารจะต้อง “Buy in” คือ ต้องเห็นด้วยอย่างแรงกับการนาระบบนี้ มา ใช้ ต้องมีความเชื่อมั่น และปฏิบัติเป็นแบบอย่าง เช่น ผู้บริหารจะต้องคอย บอกลูกน้องว่า ลูกค้านั้นมาเป็นลูกค้า ไม่ใช่มาเป็นคนที่รบกวนการทางาน ของเรา อย่างธนาคารไทยพาณิชย์นั้น ในช่วงที่มีการปรับปรุงระบบ ผู้จัดการ ธนาคารจะมายืนต้อนรับลูกค้าอยู่ที่หน้าประตูทางเข้า หรือการฝากถอนเงิน ที่จะต้องเขียนใบฝากถอนเอง แต่ปัจจุบันแค่นาสมุดบัญชีไป ก็สามารถฝาก ถอนเงินได้แล้ว ทาให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
  • 33. 2. มาตรฐาน (Standard) คือ เอกสารหรือลายลักษณ์อักษรที่อ้างอิงได้ เป็นสิ่งที่จะบอกถึงวิธีการ ทางานของพนักงานตั้งแต่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการจนลูกค้าออกไป ว่ามีขั้นตอน อะไรบ้าง แต่ละขั้นตอนต้องทาอย่างไร ซึ่งเรียกว่าเป็ น Service Standard , Service Workflow หรือ Work Instruction
  • 34. 2. มาตรฐาน (Standard) เช่น โรงแรมแห่งหนึ่ง มีมาตรฐานในการทางาน คือ ถ้าลูกค้าเข้าพัก แล้วเกิดปัญหาขึ้นว่าน้าในตู้เย็นไม่มี แล้วโทรแจ้งไปยัง Operation ซึ่งระบบ จะวางไว้แล้วว่า Operator จะต้องรับสายภายใน 3 กริ่งสัญญาณ เมื่อได้รับ โทรศัพท์จากลูกค้าแล้ว Operator จะต้องติดต่อแม่บ้านทันที เมื่อแม่บ้าน ทราบแล้ว จะต้องรีบไปหาลูกค้าภายใน 5 นาที เมื่อไปถึงห้องก็รีบจัดการ ปัญหาให้เรียบร้อย และแจ้งกับ Operator ว่าเรียบร้อยแล้ว Operator ก็จะโทรไปแจ้งและสอบถามถึงความต้องการเพิ่มเติมของลูกค้าอีกครั้ง ในส่วน ของมาตรฐานนั้น จะเป็นสิ่งที่ทาให้บริการนั้นคงเส้นคงวา
  • 35. 2. มาตรฐาน (Standard)  Operational Level Agreement (OLA) คือ การกาหนด ระยะเวลาในแต่ละกิจกรรม เช่น การรับสายโทรศัพท์ลูกค้าภายใน 3 กริ่ง สัญญาณ  Service Level Agreement (SLA) คือ เวลาโดยรวมในการ ให้บริการลูกค้าในแต่ละกระบวนการ เช่น กระบวนการให้บริการแก่ลูกค้า โดยรวมต้องไม่เกิน 15 นาที
  • 36. 3. การอบรม (Training) เป็ นสิ่งสาคัญนอกจากเนื้ อหาที่ได้รับแล้ว ยังทาให้พนักงานเกิด ความคุ้นเคยกัน รู้จักกันทั้งในฝ่ายและต่างฝ่ายกัน ซึ่งการรู้จักและการมี ความสัมพันธ์ที่ดี จะช่วยให้งานราบรื่นมากขึ้ น เช่น แม่บ้านรู้จักกับ Operator , Front หรือผู้จัดการฝ่ายห้องพัก ก็จะทาให้ประสานงานง่าย ขึ้น ในบางครั้ง การอบรมนั้น ผู้บริหารระดับสูงจะต้องร่วมในการอบรมด้วย เพื่อที่ลูกน้องจะได้รู้จักและทาความคุ้นเคยกัน
  • 37. 3. การอบรม (Training)  ข้อแนะนาของการอบรม คือ ไม่ควรใช้โปรแกรมสาเร็จรูปในการอบรม เพราะอาจจะไม่เหมาะสมกับธุรกิจของเรา เช่น ธุรกิจรีสอร์ทขนาดเล็ก แต่ นาระบบของโรงแรมขนาดใหญ่มาใช้ อาจจะไม่ได้ผล ควรนาระบบมา ประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของเรา จะทาให้เกิดประสิทธิภาพมากกว่า
  • 38. 3. การอบรม (Training)  หลักสูตรที่อบรมพนักงาน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1. ค่านิยมขององค์กร:ว่าจะสามารถสร้างความคิดเห็นและ ความชอบที่ตรงกันเกี่ยวกับวัฒนธรรมภายในองค์กรได้อย่างไร ว่าองค์กรนี้ เป็น องค์กรแห่งการเรียนรู้ เป็นองค์กรแห่งการให้บริการเป็นเลิศ หรือเป็นองค์กรที่ มีนวัตกรรมเป็นเลิศ การอบรมมีหลายประเภท เช่น หลักสูตรการพัฒนาตนเอง หลักสูตร Creative Thinking หรือหลักสูตรการทางานเป็นทีม เป็นต้น
  • 39. 3. การอบรม (Training) 2. หลักในการทางาน ถึงแม้พนักงานจะมีค่านิยมที่ดี มีความ อยากที่จะให้บริการ แต่ถ้าทาไม่เป็น ก็ จะไม่ประสบความสาเร็จในการทางาน ดังนั้นอีกส่วนหนึ่งที่สาคัญ คือ หลักใน การทางาน ว่าหลักการทางานที่ เกี่ยวข้องในการทางานนั้น ควรจะรู้ อะไรบ้าง www.trimblelms.com www.sales-ology.com
  • 40. 3. การอบรม (Training) เช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ของบริษัท การวางแผนการควบคุมการ บริการ การจัดการข้อร้องเรียน หรือหลักสูตรที่เสริมการทางานให้ดีขึ้น เช่น เทคนิคการบริการให้ลูกค้าประทับใจ การปรับปรุงกระบวนการทางาน บุคลิกภาพ เป็นต้น ตัวอย่างเช่น บริษัท AIS มีการปรับภาพลักษณ์ของพนักงาน คือ พนักงานทุกคนจะต้องมีทักษะด้านภาษาและการใช้คอมพิวเตอร์ที่ดี โดยมีการ อบรมให้ฟรี และมีการทดสอบด้วย อีกทั้งยังมีการอบรมการแต่งหน้า เพื่อให้มี บุคลิกภาพที่ดี
  • 41. สรุป  การสร้างวัฒนธรรมองค์กร สามารถทาได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลา เพราะในแต่ละองค์กรมีทั้งพนักงานเก่าและใหม่ ซึ่งวัฒนธรรมองค์กร แบบเดิมๆ ก็ยังมีอยู่ การที่จะเปลี่ยนให้คนที่คุ้นเคยกับวัฒนธรรม องค์กรแบบเดิมนั้นเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นมาใหม่ มี วัฒนธรรมแบบใหม่ ก็จะสามารถสร้างวัฒนธรรมองค์กรได้ง่ายกว่า
  • 42. สรุป  หัวใจในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรในการให้บริการ คือ การ สื่อสาร เป็นการสร้างสิ่งที่เราอยากจะบอกพนักงานว่าต้องการอะไร อยากให้ พนักงานบริการลูกค้าด้วยความเต็มใจ ส่วนรูปแบบวิธีการแนวทาง ในการให้บริการนั้น ถ้าเรามีมาตรฐานอยู่แล้ว พนักงานก็สามารถยึด มาตรฐานอันนี้ ในการทางานได้ ว่าควรจะทาอย่างไรบ้างในแต่ละ กระบวนการ แต่ความใส่ใจ ความจริงใจ ความเป็นธรรมชาติ ก็ควร จะต้องมีอยู่ในตัวของพนักงานทุกคน หรือที่เรียกว่า Service Mind
  • 43. สรุป  การที่ต้องการให้พนักงานปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรนั้น ต้อง มีเครื่องมือหรือกิจกรรมเข้ามาช่วย เพื่อกระตุ้นเตือนพนักงาน เช่น เสียงของลูกค้า เป็นการสารวจความคิดเห็นของลูกค้าว่ามี ความ พึงพอใจในการให้บริการหรือไม่ แล้วนา feedback มาให้ พนักงานดู เพื่อที่พนักงานจะสามารถนาไปปรับปรุงกระบวนการ ทางานต่อไป
  • 44. สรุป - การทานิตยสาร ที่มีเนื้ อหาสาระเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรว่าเป็น อย่างไร องค์กรต้องการอะไร มีการยกตัวอย่างองค์กรที่ประสบความสาเร็จใน การสร้างวัฒนธรรมองค์กร เป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจและอยากที่จะทา อย่างนั้นบ้าง อาจจะมีการนาพนักงานต้นแบบมาขึ้นปกนิตยสารทุกๆ 3 เดือน อย่างเช่น Amway จะนาคนที่ทายอดขายได้มากมาขึ้นปก เป็นการชื่นชม ยินดีว่าบุคคลนั้นประสบความสาเร็จในระดับหนึ่งแล้ว
  • 45. สรุป การใช้ Intranet , Internet หรือ E-mail ในการกระตุ้นเตือน อาจจะเป็นบทความ คาพูดสั้นๆ หรือรูปภาพสั้นๆ ที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม องค์กร ว่าองค์กรต้องการให้พนักงานเป็นอย่างไร การทา Service Culture Book หรือ คู่มือวัฒนธรรมขององค์กร ว่าองค์กรต้องการอะไร ต้องทาอะไรบ้าง เพื่อที่พนักงานสามารถอ่านได้ หรือถ้าลูกค้ามาเห็น ก็จะชื่นชมว่าองค์กรนี้ มีความต้องการที่จะ ให้บริการอย่างเต็มที่
  • 46. สรุป การใช้โบรชัวร์ ป้ าย แผ่นพับต่างๆ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถเห็นได้ ทุกที่ ควรจะติดในจุดที่คนเดินผ่านจานวนมาก เช่น หน้าห้องน้า ลิฟท์ หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ข้อความควรจะสั้น กระชับ เข้าใจง่าย ต้องพยายามทาให้พนักงานเกิดความรู้ความเข้าใจ การที่ผู้บริหารจะต้องตอกย้าและนามาพูดบ่อยๆ ในห้องประชุมเป็น ประจา เพื่อแสดงถึงความใส่ใจของผู้บริหารที่มีต่อพนักงานและ องค์กร
  • 47. สรุป การดูงานระหว่างหน่วยงาน อาจมีการ จัดประกวดระหว่างหน่วยงาน เช่น ธนาคารที่มีหลายสาขา ก็จะแข่งขันกัน ว่าธนาคารสาขาใดได้คะแนนการ ให้บริการสูงสุด เพื่อที่สาขาอื่นจะได้ เข้าไปดูงาน จะช่วยให้เกิดการสร้าง ประสิทธิภาพในการทางานได้ หรือวิธี อื่นๆ ก็สามารถทาได้เช่นกัน
  • 48. สรุป กรณีตัวอย่าง : โรงแรมแห่งหนึ่ง ในกรณีที่ต้องการจะให้บริการลูกค้า  มีการกาหนดตั้งแต่แรกว่ากลยุทธ์ของโรงแรมเป็ นอย่างไร Brand Strategy ต้องการสร้างอะไร เช่น การสร้างบริการที่ดีที่สุด ก็จะ นาไปสู่เรื่องของ Service Experience ว่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ จะมีความรู้สึกเหมือนกับโรงแรมหรือไม่ว่าโรงแรมแห่งนี้ ให้บริการที่ดี ที่สุด  มีการออกแบบระบบ ตั้งแต่ขอบเขตการให้บริการ นโยบายของกิจการ มี การสร้างระบบและนาเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วย
  • 49. สรุป  การนาไปใช้ หรือ Delivery ก็จะเกี่ยวข้องกับคน มีการสรรหาบุคคล ว่า ต้องการบุคคลแบบไหนเข้ามาในองค์กร ต้องเลือกคนที่เหมาะสมกับงาน มี การอบรม ซึ่งหัวหน้างานจะต้องมีส่วนร่วมด้วย เพื่อที่จะได้ทราบถึงปฏิกิริยา ของพนักงานว่าการทางานเป็นอย่างไรบ้าง หัวหน้างานจะต้องความเป็นผู้นา สามารถแนะนาวิธีการและการแก้ปัญหาให้กับพนักงานได้ ซึ่งเป็ น กระบวนการของการส่งมอบบริการ  การควบคุมคุณภาพจะต้องมีการประเมินผลพนักงานแต่ละคนที่ได้จากลูกค้า ซึ่งเมื่อประเมินแล้ว ก็จะนาผลการประเมินที่ได้มาปรับปรุงระบบขององค์กร ต่อไป
  • 50. สรุป  มาตรฐานการทางานของโรงแรม จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ ก่อนการเข้าพัก ระหว่างการเข้าพัก และหลังจากออกโรงแรม ไปแล้ว ก็จะมีการวางระบบแต่ละอันไว้ย่อยๆ เช่น ก่อนการเข้ามาพัก ลูกค้าจะได้รับข้อมูลข่าวสารจากที่ไหน จองโรงแรมผ่าน ช่องทางใดได้บ้าง ระบบของแต่ละช่องทางเป็นอย่างไร ข้อมูลที่ลูกค้าต้องการ ทราบคืออะไร
  • 51. สรุป - ช่วงระหว่างการเข้าพัก จะเริ่มตั้งแต่การ Check in ต้องมี กระบวนการอะไรบ้าง การส่งแขกเข้าห้องพักมีขั้นตอนอย่างไร สิ่งอานวยความ สะดวกในห้องพัก การจัดการเรื่องอาหารเช้า บริการอื่นๆ ของโรงแรม การ Check out ออกจากโรงแรม - หลังจากการเข้าพักแล้ว อาจจะมีการให้ลูกค้า reviewโรงแรมจาก ที่ไหนได้บ้าง เช่น เว็บไซต์ท่องเที่ยว (tripadvisor.com , agoda.com) การส่ง E-mail ถึงโรงแรมโดยตรง เพื่อที่จะได้ทราบถึง ความคิดเห็นของลูกค้า
  • 52. สรุป ในกระบวนการ Check out นั้น จะมีจุด touch point ที่ พนักงานสามารถพบกับลูกค้าได้ คือ front office และพนักงานในส่วนนี้ จะต้องทาอะไรบ้าง จนสุดท้ายที่พนักงานขนกระเป๋ าไปส่งลูกค้าที่รถ ถ้าหากวันที่ ลูกค้า Check out ตรงกับวันเกิด ทางโรงแรมก็มีการกาหนดในแผนไว้ว่าควร จะมีการทาให้ลูกค้าประทับใจในรูปแบบต่างๆ เช่น การร้องเพลงอวยพรวันเกิด การให้ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เป็ นต้น ซึ่งเป็ นสิ่งที่ทางโรงแรมให้เกินความ คาดหวังของลูกค้า และทาให้ลูกค้าเกิดความประทับใจได้ทั้งหมดนี้ คือ การสร้าง วัฒนธรรมในงานบริการด้วย Customer Relationship Management (CRM)