Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie เทศกาลชักพระ - ลากพระ (20)
Mehr von พระอภิชัช ธมฺมโชโต (12)
เทศกาลชักพระ - ลากพระ
- 1. เทศกาลชักพระ-ลากพระ
เทศกาลชักพระ - ลากพระ เป็ นเทศกาลที่สืบ
เนื่องมาจากประเพณี ที่ยังคงอนุรักษ์สืบสานไว้ด้วย
การจัดเป็ นเทศกาลขึ้น เพื่อให้มีการทาบุญและเป็ น
งานรื่นเริงในท้องถิ่นชนของ ภาคใต้ เป็ นเทศกาล
ทาบุญในวันออกพรรษา ตรงกับวัน แรม ๑ ค่า เดือน
๑๑ ของทุกปี
- 10. ยังสันนิษฐานว่า น่าจะมี คตินิยมดั้งเดิมอย่างอื่นเป็นพื้นฐานอยู่ด้วย
กล่าวคือ ในเดือน 11 นั้น เป็นช่วงที่ภาคใต้ ยังเข้าสู่ฤดูฝน ประชาชน
ส่วนมากประกอบอาชีพการเกษตร มีสิ่งปรารถนาที่พ้องกัน
ก็คือ การขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล งานลากพระจึงมุ่ง
ขอฝนเพื่อการเกษตร จนเกิดเป็นคติความเชื่อว่า
การลากพระ ทาให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล
ประเพณีลากพระเกิดขึ้นใน
ภาคใต้ และกลายเป็นประเพณี
สาคัญสืบมานั้น ซึ่งนอกจาก
เนื่องด้วยพุทธตานานและ
ลัทธิศาสนาพราหมณ์ แล้ว
- 11. ประเพณีลากพระของชาวภาคใต้มีอยู่ ๒ แบบ คือ
ลากพระทางบก กับ ลากพระทางน้า
ลากพระทางบก คือการอัญเชิญพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขึ้นประดิษฐาน บน นมพระ
หรือบุษบก แล้วแห่แหน โดยการลากไปบนบก วัดส่วนใหญ่ ที่ดาเนินการประเพณี
ลากพระวิธีนี้ มักตั้งอยู่ในที่ไกลแม่น้าลาคลอง
ลากพระทางน้า เป็นการอัญเชิญพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขึ้นประดิษฐาน บนบุษบก
ในเรือเรียก “เรือพระ” แล้วแห่แหนโดยการลากไปทางน้า ประเพณีลากพระ
ที่มักกระทาด้วยวิธีนี้ เป็นของวัดที่ส่วนใหญ่อยู่ใกล้แม่น้าลาคลอง
- 13. การทาเรือพระ
เรื อพระ คื อ ร ถ ห รื อ
ล้อเลื่อนที่ประดับตกแต่งให้
เป็ นรูปเรือ แล้ววางบุษบก
ซึ่งภาษาพื้นเมืองของภาคใต้
เรียกว่า "นมพระ" ยอด
บุษบก เรียกว่า "ยอดนม" ใช้
ส า ห รั บ อ า ร า ธ น า
พระพุทธรูปขึ้นประดิษฐาน
แล้วลากในวันออกพรรษา
นมพระ สร้างเป็นร้านม้า มีไม้สองท่อนรองรับข้างล่าง ทาเป็นรูปพญานาค
มีการตกแต่งลวดลายระบายสีสวย รอบ ๆ ประดับด้วยผ้าแพรสี ธงริ้ว
ธงสามชาย ธงราว ธงยืน ต้นกล้วย ต้นอ้อย ทางมะพร้าว ดอกไม้สด
ทาอุบะห้อยเป็นระย้า ห้อยระยาง
- 18. สิ่งที่ทุกครอบครัวจะต้องทา คือ การเตรียม "แทงต้ม" หรือ
"ทาต้ม" หรือ "ขนมต้ม" โดยต้องเตรียมหา ยอดกระพ้อ
ไว้ให้พร้อมก่อนถึงวันลากพระ 2-3 วัน
นาข้าวสารเหนียวแช่ให้อ่อนตัว แล้วผัด
ด้วยน้ากระทิให้พอเกือบสุก จึงนามาห่อ
ด้วยใบกะพ้อเป็นรูป 3 มุมคล้ายฝัก
กระจับ แต่ละลูก มีขนาดโต-เล็ก ตามแต่
ต้องการและตามขนาด ของใบกะพ้อ
เมื่อห่อเสร็จนาไปนึ่งให้สุกอีกทีหนึ่ง
การทาต้มดังกล่าว เพื่อใช้ใส่บาตรหรือ
แขวนเรือพระเป็นพุทธบูชา
- 19. การอัญเชิญพระลากขึ้นประดิษฐานบนบุษบก
วันขึ้น 15 ค่า เดือน 11 การเตรียมเรือพระจะต้องเสร็จ
เรียบร้อย ชาวบ้าน ซึ่งไปทาบุญออกพรรษาที่วัด เมื่อ
เสร็จการบุญ ก็จะพร้อมกันอัญเชิญพระพุทธรูป สาหรับ
ใช้ลากพระมายังพระวิหารหรือศาลา เพื่อทาพิธีสรงน้า
เปลี่ยนผ้าทรง แล้วสมโภชในตอนค่า พระสงฆ์จะเทศนา
เกี่ยวกับการเสด็จสู่ดาวดึงส์ จนกระทั่ง เสด็จกลับยัง
มนุษยโลกของพระพุทธองค์
พระพุทธรูปที่นิยมใช้ในพิธี
ลากพระ นิยมใช้ปางอุ้ม
บาตร แต่มีหลายท้องถิ่น
นิยมใช้ปางคันธารราษฎร์
ซึ่งเป็นปางขอฝน ที่ใช้ในพิธี
พิรุณศาสตร์ของภาค
กลาง แต่บางวัดใช้
พระพุทธรูปปางห้ามสมุทร
และปางอื่น ๆ นอกจากนี้
อาจจะใช้ 1 องค์ 2 องค์ หรือ
3 องค์ ก็ได้
- 20. ก่อนถึงวันลากพระคือ จะมี "การคุมพระ" ที่วัด การคุมพระ คือการตีตะโพน
ประโคมก่อนจะถึงวันลากพระประมาณ 10 - 15 วัน เพื่อเป็นการเตือนให้ชาวบ้าน
ทราบว่า จะมีการลากพระ เพื่อปลุกใจชาวบ้าน ให้กระตือรือร้นร่วมพิธีลากพระ
และเพื่อชาวบ้านจะได้มาช่วยกันเตรียมการต่างๆล่วงหน้า ผู้คุมพระได้แก่เด็กวัด
และประชาชนที่อยู่ใกล้วัด
การคุมพระ จะมีทั้งกลางวันและกลางคืนติดต่อกันไป
จนถึงวันลากพระ ในช่วงที่มีการคุมพระ พระสงฆ์
สามเณร และชาวบ้านจะช่วยกันเตรียมเรือพระ ซึ่งถ้าเป็น
เรือพระบก จะหมายรวมถึง "นมพระ" หรือบุษบก ร้าน
ไม้ และ "หัวเฆ่ " หรือไม้ขนาดใหญ่สองท่อน
ในปัจจุบันมักใช้ล้อเลื่อน หรือรถ แทน "หัวเฆ่"
ถ้าเป็นเรือพระน้า จะ
หมายถึง "นมพระ" ร้าน
ไม้ และลาเรือ ซึ่งอาจจะ
ใช้ลาเดียวหรือนามาผูก
ติดกัน 3 ลา การเตรียม
เรือพระ จะต้องทาให้
เสร็จทันวันลากพระ
- 21. การลากพระเริ่มในตอนเช้าตรู่ของ วันแรม 1 ค่า เดือน 11 อันเป็น
วันออกพรรษา และเริ่มลากพระเป็นวันแรก ประชาชนจะเดินทางไป
วัดเพื่อนาภัตตาหารไปใส่บาตรที่จัดเรียงไว้ตรงหน้าพระลาก บางที
จะอาราธนาพระลากขึ้นประดิษฐานบนนมพระ หรือบางทีรอให้
พระฉันภัตตาหารเช้าเสียก่อน จึงอาราธนา การตักบาตร ตอน
เช้าตรู่วันนี้ บางท้องที่ เรียกว่า "ตักบาตรหน้าล้อ"
ขณะที่ลากเรือผ่านไปทางใด ประชาชนที่รออยู่ จะนาต้มมา
แขวนที่เรือพระ เพื่อทาบุญกันไปตลอดทาง สาหรับการลาก
พระทางน้า เรือพายหรือเรือแจว จะเข้าไปชิดเรือพระที่กาลัง
ลากอยู่ไม่ได้ จึงใช้วิธีปาต้ม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "ซัดต้ม"
ไปยังเรือพระให้คนคอยรับ
- 22. อาเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร อาเภอกระบุรี จังหวัดระนอง
อาเภอปากพนัง อาเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
อาเภอระโนด อาเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
และอาเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง
เทศกาลลากพระ - ชักพระ
กระทากันแทบทุกจังหวัด ของ
ภาคใต้ แต่แหล่งลากพระที่มี
ชื่อเสียงอย่างมาก คือ
อาเภอเกาะพงัน อาเภอเมือง
อาเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- 25. สรุป
เทศกาลชักพระ - ลากพระ ของภาคใต้นั้น แสดงให้
เห็นถึงวิถีความเชื่อและความศรัทธาในพระพุทธศาสนา เป็ นการ
แสดงออกถึงความพร้อมเพรียง สามัคคี พร้อมใจกันในการ
ทาบุญทาทาน เป็ นประเพณีที่ส่งเสริมการทาซึ่งคุณงามความ
ดี เกิดแรงบันดาลใจ แต่งบทร้อยกรอง ทั้งยังส่งเสริม อนุรักษ์
สืบสาน สืบทอดภูมิปัญญาเรือพระ ที่มีมาตั้งแต่อดีต โดยชุมชน
หรือช่างฝี มือที่ทาด้วยจิตศรัทธา ทั้งยังเป็ นการสืบทอด
พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า
ให้มั่นคง ยั่งยืนอยู่คู่ประเทศไทยต่อไป