SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 9
หลักการของไดนาโม
เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำหรือไดนำโม สำมำรถเปลี่ยนพลังงำนกลเป็นพลังงำน
ไฟฟ้ำ ใช้หลักกำรเหมือนกับแรงกระทำำบนขดลวด เพียงแต่ทำำหน้ำที่เปลี่ยน
พลังงำนไฟฟ้ำเป็นพลังงำนกลเท่ำนั้นเองประกอบด้วยขดลวดเหนี่ยวนำำ
เคลื่อนที่สัมพัทธ์กับแท่งแม่เหล็ก โดยอำศัยกำรเหนี่ยวนำำในขดลวดของ
เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำ จะทำำให้เกิดกระแสไฟฟ้ำ ซึงสำมำรถจัดกระแสไฟได้สอง
แบบคือกระแสตรง และกระแสสลับ พลังงำนไฟฟ้ำจำกเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำเป็น
ไปตำมกฎกำรอนุรักษ์พลังงำน

เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำและไดนำโม สำมำรถเปลี่ยนพลังงำนกลเป็นพลังงำนไฟฟ้ำ
เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำประกอบด้วยขดลวดเหนี่ยวนำำเคลื่อนที่สัมพัทธ์กับแท่งแม่
เหล็กทำำให้เกิดไฟฟ้ำ ตัวอย่ำงกำรใช้งำน เช่น กรณีไฟฟ้ำพลังนำ้ำ จะมีนำ้ำตก
ลงมำหมุนใบพัดของเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำ




เรำสำมำรถคำำนวณแรงเคลื่อนไฟฟ้ำจำกเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำได้ดังนี้
สมมติ ขดลวดมี N รอบ และแต่ละรอบมีพื้นที่ A ให้ขดลวดหมุนด้วยอัตรำเร็ว
เชิงมุม       รอบแกนที่ตั้งฉำกกับสนำมแม่เหล็ก B แรงเคลื่อนไฟฟ้ำคือ

          E = E0sin(ω.t) เมื่อ E0 คือ แรงเคลื่อนไฟฟ้ำสูงสุด
การผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยไดนาโม



       ไฟฟ้ำที่เรำใช้กันทั่วไปตำมบ้ำนเรือน หรือสถำนที่ต่ำงๆ หรือกระแสไฟฟ้ำที่
ใช้ในกำรประกอบกิจกำรต่ำง ๆนั้น ทั้งหมดเป็นกระแสไฟฟ้ำที่ผลิตด้วยไดนำโม
ดังนั้นเรำควรรูสักนิดครับว่ำ เจ้ำไดนำโม ( หรือบำงคนอำจเรียกว่ำเครื่องกำำเนิด
                ้
ไฟฟ้ำก็ได้) มันทำำประกอบด้วยสิ่งใดบ้ำงและมันทำำให้เกิดกระแสไฟฟ้ำได้
อย่ำงไรส่วนประกอบหลักๆ หรือส่วนที่สำำคัญของเจ้ำไดนำโมนี้ไม่มีอะไรมำกหรือ
ไม่ซับซ้อนเลยครับ มันประกอบด้วย

1 แม่เหล็ก ไว้สำำหรับทำำให้เกิดสนำมแม่เหล็กครับ

2 ขดลวด ซึงต้องเป็นขดลวดทีมีฉนวนหุ้มหรือเคลือบด้วยฉนวน
          ่               ่

3 พวกส่วนประกอบย่อยๆ คือ แปรง , แหวน เป็นต้นดูภำพ




    กำรเกิดกระแสไฟฟ้ำนั้นก็คือเกิดกระแสไฟฟ้ำเหนี่ยวนำำนั่นเอง ........โดยเมือ
ออกแรงหมุนที่แกนเพื่อให้ขดลวดหมุน ขดลวดก็จะเคลื่อน ที่ตดกับสนำมหรือ
                                                           ั
เส้นแรงแม่เหล็ก ซึ่งได้จำกแท่งแม่เหล็กซึ่งวำงตำำแหน่งดังภำพครับ...........

  เมื่อขดลวดหมุนตัดกับเส้นแรงหรือสนำมแม่เหล็ก ก็จะเป็นกำรทำำให้เพิ่มและ
ลดควำมเข้มของสนำมแม่เหล็กให้แก่ขดลวด ก็จะเกิดกระแสไฟฟ้ำขึ้นในขดลวด
ตำมหลักของกำรเกิดกระแสไฟฟ้ำเหนี่ยวนำำ ที่กล่ำวแล้วในเรื่องกระแสไฟฟ้ำ
เหนี่ยวนำำ
การกำาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ[
ค่ำของแรงดันไฟฟ้ำกระแสสลับจะเกิดขึ้นมำกหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับตำำแหน่งของขด
ลวดตัวนำำขณะหมุนตัดกับเส้นแรงแม่เหล็กในสนำมแม่เหล็กนั้น ถ้ำทิศทำงกำรเคลื่อนที่
ของขดลวดตัวนำำตั้งฉำกกับเส้นแรงแม่เหล็ก แรงดันไฟฟ้ำที่เกิดขึ้นจะมีค่ำสูงสุดและจะมี
ค่ำน้อยลง เมื่อทิศทำงกำรเคลื่อนที่ของขดลวดตัวนำำตัดกับเส้นแรงแม่เหล็กในมุมน้อย
กว่ำ 90 ๐ และจะมีค่ำเป็นศูนย์เมื่อขดลวดตัวนำำวำงขนำนกับเส้นแรงแม่เหล็ก




       จะเห็นว่ำใน 1 วัฎจักรของกำรหมุนขดลวดตัวนำำ คือ หมุนไป 360 ๐ ทำงกลนำ้ำจะ
เกิดรูปคลื่นไซน์ 1 ลูกคลื่น หรือ 1 วัฎจักร ถ้ำขดลวดตัวนำำนี้หมุนด้วยควำมเร็วคงที่และ
สภำพของเส้นแรงแม่เหล็กมีควำมหนำแน่นเท่ำกันตลอด รอบพื้นที่ของกำรตัดแรงดัน
ไฟฟ้ำสลับรูปคลื่นไซน์ที่จะมีค่ำคงที่และถ้ำมีกำรหมุนของขดลวดต่อเนื่องตลอดไป จะ
ทำำให้เกิดจำำนวนรอบของแรงดันไฟฟ้ำเหนี่ยวนำำต่อเนื่องกันไป นั่นคือกำรเกิดแรงดัน
ไฟฟ้ำกระแสสลับ




      ค่ำแรงดันไฟฟ้ำกระแสสลับชั่วขณะ คือ ค่ำของแรงไฟฟ้ำกระแสสลับรูปคลื่นไซน์
ที่เรำวัดได้ในแต่ละมุมของกำรหมุนของขดลวดตัวนำำในเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำ โดยมุมของ
กำรเคลื่อนที่นี้วันเป็นองศำ ซึงค่ำของแรงดันชั่วขณะสำมำรถหำได้จำกสมกำร
                              ่




    เมื่อแบ่งกำรหมุนของขดลวดตัวนำำใน 1 วัฎจักร (360 ๐) เมื่อคำำนวณค่ำแรงดันชั่ว
ขณะที่เกิดขึ้น ณ มุมต่ำงๆ ตั้งแต่ตำำแหน่ง 0 ( 0 องศำ) ตำำแหน่ง 1 (30 องศำ) และ
ตำำแหน่ง 2, 3, 4 จนถึงตำำแหน่งที่ 12 โดยเพิ่มค่ำมุมทีละ 30 ๐ เรำจะได้รูปคลื่นไซน์
ของแรงดันไฟฟ้ำสลับที่เกิดขึ้นมีขนดดังรูป




       ควำมถี่ของกระแสสลับ (Frequency ตัวย่อ f) หมำยถึง จำำนวนวัฏจักรของกำรเกิด
รูปคลื่นไซน์ต่อเวลำ 1 วินำที




       ถ้ำเกิดรูปคลื่นไซน์ 2 วัฏจักรต่อเวลำ 1 วินำที ก็แสดงว่ำไฟฟ้ำกระแสสลับที่เกิด
ขึ้นมีควำมถี่ 2 วัฏจักรต่อเวลำ 1 วินำที หรือเรียกแทนในหน่วยเฮิรตซ์ (Hz) หรือควำมถี่
ไฟฟ้ำกระแสสลับ 50 เฮิรตซ์ ก็คือกำรเกิดรูปคลื่นไซน์จำำนวน 50 วัฏจักรต่อเวลำ 1
วินำที และจำกรูป 4.2 รูปคลื่นไซน์นี้มีควำมถี่เท่ำกับ 1 เฮิรตซ์ เป็นต้น

      ค่ำต่ำงๆ ที่สำำคัญของรูปคลื่นไซน์ นอกจำกควำมถี่และคำบเวลำนั้นมีอีก 4 ค่ำ คือ
ค่ำสูงสุด(Maximum) ค่ำยอดถึงยอด(Peak-to-Peak) ค่ำเฉลี่ย(Average) และค่ำใช้
งำน(Effective)
ค่ำยอดถึงยอด วัตถุจำกจุดยอดของรูปคลื่นไซน์ด้ำนบวกจนถึงจุดยอดของรูปคลื่น
ไซน์ด้ำนลบ นั่นคือ ค่ำยอดถึงยอดเท่ำกับ 2 เท่ำของค่ำสูงสุด
       ค่ำเฉลีย ค่ำเฉลี่ยของรูปคลื่นไซน์นั้นเรำพิจำรณำเฉพำะด้ำนใดด้ำนหนึ่ง คือด้ำน
              ่
บวกหรือด้ำนลบเพียงด้ำนเดียว เพรำะถ้ำพิจำรณำทั้งวัฏจักรจะได้ค่ำเฉลี่ยเท่ำกับศูนย์
ดังนั้นค่ำเฉลี่ยจึงเป็นปริมำณทำงไฟตรง พิจำรณำตั้งแต่ 0 องศำ ถึง 180 องศำ




     ค่ำแรงดันใช้งำน (Effective Voltage) ปกติเมื่อนำำมิเตอร์ไฟฟ้ำกระแสสลับ เช่น
AC.Voltmeter หรือ RMS. Voltmeter ไปวัดแรงดันไฟฟ้ำกระแสสลับที่เต้ำรับในบ้ำนจะ
อ่ำนค่ำได้ 220 V เมื่อนำำเครื่องมือวัดรูปร่ำงของรูปคลื่นไฟสลับ (ไซน์) ดังกล่ำว เช่น นำำ
ออสซิลโลสโคปไปวัดจะได้รูปคลื่นไซน์
หลักกำรของไฟฟ้ำกระแสตรง

ไฟฟ้ำกระแสตรง หมำยถึง กระแสไฟฟ้ำที่มีทิศทำงไหลไปในทิศทำงเดียวเสมอคือไหล
จำกขั้วบวกไปสู่ขั้วลบ (กระแสสมมุต) กระแสจะไหลจำกแหล่งกำำเนิดไฟฟ้ำผ่ำนตัวนำำ
                                 ิ
เข้ำไปทำำงำนยังอุปกรณ์ไฟฟ้ำแล้วไหลกลับแหล่งกำำเนิดโดยไม่มีกำรไหลกลับขั้วจำก
ลบไปบวก

    ในงำนควบคุมมอเตอร์มักจะนำำไฟฟ้ำกระแสตรงไปใช้ในวงจรควบคุม




 แหล่งจ่ายกำาลังไฟฟ้ากระแสตรง




          คือ แหล่งพลังงำนไฟฟ้ำที่ไม่มีกำรเปลี่ยนทิศทำงกำรไหลของกระแสในช่วง
กำรจ่ำย
          ตัวอย่ำง เช่น แบตเตอรี่และแผงเซลล์แสงอำทิตย์


  กำาลังไฟฟ้าที่อุปกรณ์ไฟฟ้าต้องการใช้
     กำำลังไฟฟ้ำที่อุปกรณ์ไฟฟ้ำกระแสตรงใช้ คำำนวณได้จำก ควำมต่ำงศักย์ไฟฟ้ำหรือ
แรงดันไฟฟ้ำและกระแสไฟฟ้ำที่ใช้ไป
วงจรไฟฟ้ากระแสตรง
   วงจรไฟฟ้ำกระแสตรงประกอบด้วย วงจรอันดับหรืออนุกรม วงจรขนำน และวงจร
ผสม
วงจรอันดับ หรือ อนุกรม




      วงจรอันดับ เป็นวงจรที่ต่อตัวต้ำนทำนแบบอนุกรมหรืออันดับโดยเอำปลำยด้ำน
หนึ่งต่อกับอีกปลำยด้ำนหนึ่งไปเรื่อยๆ สรุปผลที่ได้จำกกำรต่อวงจรแบบอันดับ

        1. ควำมต้ำนทำนรวมของวงจรเท่ำกับค่ำของควำมต้ำนทำนย่อยทั้งหมดรวมกัน
        2. กระแสที่ไหลในวงจรเท่ำกันตลอดหรือกระแสที่ไหลผ่ำนจุด
แต่ละจุดในวงจรมีค่ำเดียวกัน
        3. แรงดันที่ตกคร่อมตัวต้ำนทำนแต่ละตัวรวมกันเท่ำกับแรงดันไฟฟ้ำที่ป้อนให้
กับวงจร

วงจรขนาน




      วงจรขนำน เป็นวงจรทีมีกระแสไฟฟ้ำไหลผ่ำนปลำยทำงหรือตั้งแต่ 2 ทำงขึ้นไป
                          ่
จนครบวงจร
สรุปผลที่ได้จำกกำรต่อวงจรแบบขนำน
1. แรงดันไฟฟ้ำตกคร่อมที่มำจำกวงจรย่อยเท่ำกับแรงดันไฟฟ้ำของแหล่งจ่ำย
นั่นเอง
เพรำะว่ำควำมต้ำนทำนแต่ละตัวต่ำงก็ขนำนกับแหล่งกำำเนิด
          2. กระไฟฟ้ำรวมในวงจรขนำนเท่ำกับกระแสไฟฟ้ำทั้งหมดรวมกัน
          3. ควำมต้ำนทำนรวมของวงจรขนำนจะมีค่ำน้อยกว่ำหรือเท่ำกับตัวต้ำนทำนที่มี
ค่ำน้อยที่สุดในวงจร
วงจรผสม




      วงจรผสม หมำยถึง กำรต่อวงจรทั้งแบบอนุกรมและขนำนเข้ำไปในวงจรเดียวกัน
เช่นตัวต้ำนทำนตัวหนึ่งต่ออนุกรมกับตัวต้ำนทำนอีกตัวหนึ่ง แล้วนำำตัวต้ำนทำนทั้งสอง
ไปต่อขนำนกับตัวต้ำนทำนอีกตัวหนึ่ง
หลักการของไดนาโม

Weitere ähnliche Inhalte

Was ist angesagt?

Power point การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
Power point   การถ่ายทอดทางพันธุกรรมPower point   การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
Power point การถ่ายทอดทางพันธุกรรมThanyamon Chat.
 
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืชเนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืชThanyamon Chat.
 
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)Thitaree Samphao
 
โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3Wuttipong Tubkrathok
 
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าChapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าNapasorn Juiin
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือดระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือดWan Ngamwongwan
 
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )พัน พัน
 
เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)Thitaree Samphao
 
วิทยาศาสตร์ ม.3 วัฏจักรสาร
วิทยาศาสตร์ ม.3 วัฏจักรสารวิทยาศาสตร์ ม.3 วัฏจักรสาร
วิทยาศาสตร์ ม.3 วัฏจักรสารWuttipong Tubkrathok
 
บทท 8 ระบบประสาท (1)
บทท   8 ระบบประสาท (1)บทท   8 ระบบประสาท (1)
บทท 8 ระบบประสาท (1)Natthaya Khaothong
 
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียนEvolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียนThanyamon Chat.
 
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอดการศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอดpitsanu duangkartok
 
1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพว
1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพว1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพว
1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพวSircom Smarnbua
 
วิวัฒนาการ
วิวัฒนาการวิวัฒนาการ
วิวัฒนาการWichai Likitponrak
 
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบโครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบThanyamon Chat.
 
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืชการลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืชThanyamon Chat.
 
บรรยากาศ
บรรยากาศบรรยากาศ
บรรยากาศSupaluk Juntap
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 

Was ist angesagt? (20)

Power point การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
Power point   การถ่ายทอดทางพันธุกรรมPower point   การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
Power point การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
 
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืชเนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
 
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
 
โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3
 
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าChapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
Chapter 1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือดระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
 
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
 
เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)
 
วิทยาศาสตร์ ม.3 วัฏจักรสาร
วิทยาศาสตร์ ม.3 วัฏจักรสารวิทยาศาสตร์ ม.3 วัฏจักรสาร
วิทยาศาสตร์ ม.3 วัฏจักรสาร
 
บทท 8 ระบบประสาท (1)
บทท   8 ระบบประสาท (1)บทท   8 ระบบประสาท (1)
บทท 8 ระบบประสาท (1)
 
translocation in plant
translocation in planttranslocation in plant
translocation in plant
 
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียนEvolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
 
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอดการศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
 
1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพว
1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพว1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพว
1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพว
 
คลื่นกล
คลื่นกลคลื่นกล
คลื่นกล
 
วิวัฒนาการ
วิวัฒนาการวิวัฒนาการ
วิวัฒนาการ
 
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบโครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
 
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืชการลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
 
บรรยากาศ
บรรยากาศบรรยากาศ
บรรยากาศ
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 

Ähnlich wie หลักการของไดนาโม

หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpipopsin163
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอKunthida Kik
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าThitikan
 
งานนำเสนอ กลุ่มที่6
งานนำเสนอ กลุ่มที่6งานนำเสนอ กลุ่มที่6
งานนำเสนอ กลุ่มที่6Thitikan
 
ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์nom11
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดาbo222
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดาbo222
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าAtjimaice
 
พลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ดพลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ดpanawan306
 
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2Apinya Phuadsing
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)Nontawat Rupsung
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)Nontawat Rupsung
 
พัชรินทร์
พัชรินทร์พัชรินทร์
พัชรินทร์Muk52
 

Ähnlich wie หลักการของไดนาโม (20)

หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอ
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้า
 
งานนำเสนอ กลุ่มที่6
งานนำเสนอ กลุ่มที่6งานนำเสนอ กลุ่มที่6
งานนำเสนอ กลุ่มที่6
 
ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์ศุภาลักษณ์
ศุภาลักษณ์
 
Lesson16
Lesson16Lesson16
Lesson16
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดา
 
นิดชุดา
นิดชุดานิดชุดา
นิดชุดา
 
พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้า
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้า
 
พลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ดพลังงานไฟฟ้า เส๊ด
พลังงานไฟฟ้า เส๊ด
 
54101 unit10
54101 unit1054101 unit10
54101 unit10
 
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)
 
พัชรินทร์
พัชรินทร์พัชรินทร์
พัชรินทร์
 

หลักการของไดนาโม

  • 1. หลักการของไดนาโม เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำหรือไดนำโม สำมำรถเปลี่ยนพลังงำนกลเป็นพลังงำน ไฟฟ้ำ ใช้หลักกำรเหมือนกับแรงกระทำำบนขดลวด เพียงแต่ทำำหน้ำที่เปลี่ยน พลังงำนไฟฟ้ำเป็นพลังงำนกลเท่ำนั้นเองประกอบด้วยขดลวดเหนี่ยวนำำ เคลื่อนที่สัมพัทธ์กับแท่งแม่เหล็ก โดยอำศัยกำรเหนี่ยวนำำในขดลวดของ เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำ จะทำำให้เกิดกระแสไฟฟ้ำ ซึงสำมำรถจัดกระแสไฟได้สอง แบบคือกระแสตรง และกระแสสลับ พลังงำนไฟฟ้ำจำกเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำเป็น ไปตำมกฎกำรอนุรักษ์พลังงำน เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำและไดนำโม สำมำรถเปลี่ยนพลังงำนกลเป็นพลังงำนไฟฟ้ำ เครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำประกอบด้วยขดลวดเหนี่ยวนำำเคลื่อนที่สัมพัทธ์กับแท่งแม่ เหล็กทำำให้เกิดไฟฟ้ำ ตัวอย่ำงกำรใช้งำน เช่น กรณีไฟฟ้ำพลังนำ้ำ จะมีนำ้ำตก ลงมำหมุนใบพัดของเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำ เรำสำมำรถคำำนวณแรงเคลื่อนไฟฟ้ำจำกเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำได้ดังนี้ สมมติ ขดลวดมี N รอบ และแต่ละรอบมีพื้นที่ A ให้ขดลวดหมุนด้วยอัตรำเร็ว เชิงมุม รอบแกนที่ตั้งฉำกกับสนำมแม่เหล็ก B แรงเคลื่อนไฟฟ้ำคือ E = E0sin(ω.t) เมื่อ E0 คือ แรงเคลื่อนไฟฟ้ำสูงสุด
  • 2. การผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยไดนาโม ไฟฟ้ำที่เรำใช้กันทั่วไปตำมบ้ำนเรือน หรือสถำนที่ต่ำงๆ หรือกระแสไฟฟ้ำที่ ใช้ในกำรประกอบกิจกำรต่ำง ๆนั้น ทั้งหมดเป็นกระแสไฟฟ้ำที่ผลิตด้วยไดนำโม ดังนั้นเรำควรรูสักนิดครับว่ำ เจ้ำไดนำโม ( หรือบำงคนอำจเรียกว่ำเครื่องกำำเนิด ้ ไฟฟ้ำก็ได้) มันทำำประกอบด้วยสิ่งใดบ้ำงและมันทำำให้เกิดกระแสไฟฟ้ำได้ อย่ำงไรส่วนประกอบหลักๆ หรือส่วนที่สำำคัญของเจ้ำไดนำโมนี้ไม่มีอะไรมำกหรือ ไม่ซับซ้อนเลยครับ มันประกอบด้วย 1 แม่เหล็ก ไว้สำำหรับทำำให้เกิดสนำมแม่เหล็กครับ 2 ขดลวด ซึงต้องเป็นขดลวดทีมีฉนวนหุ้มหรือเคลือบด้วยฉนวน ่ ่ 3 พวกส่วนประกอบย่อยๆ คือ แปรง , แหวน เป็นต้นดูภำพ กำรเกิดกระแสไฟฟ้ำนั้นก็คือเกิดกระแสไฟฟ้ำเหนี่ยวนำำนั่นเอง ........โดยเมือ ออกแรงหมุนที่แกนเพื่อให้ขดลวดหมุน ขดลวดก็จะเคลื่อน ที่ตดกับสนำมหรือ ั เส้นแรงแม่เหล็ก ซึ่งได้จำกแท่งแม่เหล็กซึ่งวำงตำำแหน่งดังภำพครับ........... เมื่อขดลวดหมุนตัดกับเส้นแรงหรือสนำมแม่เหล็ก ก็จะเป็นกำรทำำให้เพิ่มและ ลดควำมเข้มของสนำมแม่เหล็กให้แก่ขดลวด ก็จะเกิดกระแสไฟฟ้ำขึ้นในขดลวด ตำมหลักของกำรเกิดกระแสไฟฟ้ำเหนี่ยวนำำ ที่กล่ำวแล้วในเรื่องกระแสไฟฟ้ำ เหนี่ยวนำำ
  • 3. การกำาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ[ ค่ำของแรงดันไฟฟ้ำกระแสสลับจะเกิดขึ้นมำกหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับตำำแหน่งของขด ลวดตัวนำำขณะหมุนตัดกับเส้นแรงแม่เหล็กในสนำมแม่เหล็กนั้น ถ้ำทิศทำงกำรเคลื่อนที่ ของขดลวดตัวนำำตั้งฉำกกับเส้นแรงแม่เหล็ก แรงดันไฟฟ้ำที่เกิดขึ้นจะมีค่ำสูงสุดและจะมี ค่ำน้อยลง เมื่อทิศทำงกำรเคลื่อนที่ของขดลวดตัวนำำตัดกับเส้นแรงแม่เหล็กในมุมน้อย กว่ำ 90 ๐ และจะมีค่ำเป็นศูนย์เมื่อขดลวดตัวนำำวำงขนำนกับเส้นแรงแม่เหล็ก จะเห็นว่ำใน 1 วัฎจักรของกำรหมุนขดลวดตัวนำำ คือ หมุนไป 360 ๐ ทำงกลนำ้ำจะ เกิดรูปคลื่นไซน์ 1 ลูกคลื่น หรือ 1 วัฎจักร ถ้ำขดลวดตัวนำำนี้หมุนด้วยควำมเร็วคงที่และ สภำพของเส้นแรงแม่เหล็กมีควำมหนำแน่นเท่ำกันตลอด รอบพื้นที่ของกำรตัดแรงดัน ไฟฟ้ำสลับรูปคลื่นไซน์ที่จะมีค่ำคงที่และถ้ำมีกำรหมุนของขดลวดต่อเนื่องตลอดไป จะ ทำำให้เกิดจำำนวนรอบของแรงดันไฟฟ้ำเหนี่ยวนำำต่อเนื่องกันไป นั่นคือกำรเกิดแรงดัน ไฟฟ้ำกระแสสลับ ค่ำแรงดันไฟฟ้ำกระแสสลับชั่วขณะ คือ ค่ำของแรงไฟฟ้ำกระแสสลับรูปคลื่นไซน์ ที่เรำวัดได้ในแต่ละมุมของกำรหมุนของขดลวดตัวนำำในเครื่องกำำเนิดไฟฟ้ำ โดยมุมของ กำรเคลื่อนที่นี้วันเป็นองศำ ซึงค่ำของแรงดันชั่วขณะสำมำรถหำได้จำกสมกำร ่ เมื่อแบ่งกำรหมุนของขดลวดตัวนำำใน 1 วัฎจักร (360 ๐) เมื่อคำำนวณค่ำแรงดันชั่ว ขณะที่เกิดขึ้น ณ มุมต่ำงๆ ตั้งแต่ตำำแหน่ง 0 ( 0 องศำ) ตำำแหน่ง 1 (30 องศำ) และ
  • 4. ตำำแหน่ง 2, 3, 4 จนถึงตำำแหน่งที่ 12 โดยเพิ่มค่ำมุมทีละ 30 ๐ เรำจะได้รูปคลื่นไซน์ ของแรงดันไฟฟ้ำสลับที่เกิดขึ้นมีขนดดังรูป ควำมถี่ของกระแสสลับ (Frequency ตัวย่อ f) หมำยถึง จำำนวนวัฏจักรของกำรเกิด รูปคลื่นไซน์ต่อเวลำ 1 วินำที ถ้ำเกิดรูปคลื่นไซน์ 2 วัฏจักรต่อเวลำ 1 วินำที ก็แสดงว่ำไฟฟ้ำกระแสสลับที่เกิด ขึ้นมีควำมถี่ 2 วัฏจักรต่อเวลำ 1 วินำที หรือเรียกแทนในหน่วยเฮิรตซ์ (Hz) หรือควำมถี่ ไฟฟ้ำกระแสสลับ 50 เฮิรตซ์ ก็คือกำรเกิดรูปคลื่นไซน์จำำนวน 50 วัฏจักรต่อเวลำ 1 วินำที และจำกรูป 4.2 รูปคลื่นไซน์นี้มีควำมถี่เท่ำกับ 1 เฮิรตซ์ เป็นต้น ค่ำต่ำงๆ ที่สำำคัญของรูปคลื่นไซน์ นอกจำกควำมถี่และคำบเวลำนั้นมีอีก 4 ค่ำ คือ ค่ำสูงสุด(Maximum) ค่ำยอดถึงยอด(Peak-to-Peak) ค่ำเฉลี่ย(Average) และค่ำใช้ งำน(Effective)
  • 5. ค่ำยอดถึงยอด วัตถุจำกจุดยอดของรูปคลื่นไซน์ด้ำนบวกจนถึงจุดยอดของรูปคลื่น ไซน์ด้ำนลบ นั่นคือ ค่ำยอดถึงยอดเท่ำกับ 2 เท่ำของค่ำสูงสุด ค่ำเฉลีย ค่ำเฉลี่ยของรูปคลื่นไซน์นั้นเรำพิจำรณำเฉพำะด้ำนใดด้ำนหนึ่ง คือด้ำน ่ บวกหรือด้ำนลบเพียงด้ำนเดียว เพรำะถ้ำพิจำรณำทั้งวัฏจักรจะได้ค่ำเฉลี่ยเท่ำกับศูนย์ ดังนั้นค่ำเฉลี่ยจึงเป็นปริมำณทำงไฟตรง พิจำรณำตั้งแต่ 0 องศำ ถึง 180 องศำ ค่ำแรงดันใช้งำน (Effective Voltage) ปกติเมื่อนำำมิเตอร์ไฟฟ้ำกระแสสลับ เช่น AC.Voltmeter หรือ RMS. Voltmeter ไปวัดแรงดันไฟฟ้ำกระแสสลับที่เต้ำรับในบ้ำนจะ อ่ำนค่ำได้ 220 V เมื่อนำำเครื่องมือวัดรูปร่ำงของรูปคลื่นไฟสลับ (ไซน์) ดังกล่ำว เช่น นำำ ออสซิลโลสโคปไปวัดจะได้รูปคลื่นไซน์
  • 6. หลักกำรของไฟฟ้ำกระแสตรง ไฟฟ้ำกระแสตรง หมำยถึง กระแสไฟฟ้ำที่มีทิศทำงไหลไปในทิศทำงเดียวเสมอคือไหล จำกขั้วบวกไปสู่ขั้วลบ (กระแสสมมุต) กระแสจะไหลจำกแหล่งกำำเนิดไฟฟ้ำผ่ำนตัวนำำ ิ เข้ำไปทำำงำนยังอุปกรณ์ไฟฟ้ำแล้วไหลกลับแหล่งกำำเนิดโดยไม่มีกำรไหลกลับขั้วจำก ลบไปบวก ในงำนควบคุมมอเตอร์มักจะนำำไฟฟ้ำกระแสตรงไปใช้ในวงจรควบคุม แหล่งจ่ายกำาลังไฟฟ้ากระแสตรง คือ แหล่งพลังงำนไฟฟ้ำที่ไม่มีกำรเปลี่ยนทิศทำงกำรไหลของกระแสในช่วง กำรจ่ำย ตัวอย่ำง เช่น แบตเตอรี่และแผงเซลล์แสงอำทิตย์ กำาลังไฟฟ้าที่อุปกรณ์ไฟฟ้าต้องการใช้ กำำลังไฟฟ้ำที่อุปกรณ์ไฟฟ้ำกระแสตรงใช้ คำำนวณได้จำก ควำมต่ำงศักย์ไฟฟ้ำหรือ แรงดันไฟฟ้ำและกระแสไฟฟ้ำที่ใช้ไป
  • 7. วงจรไฟฟ้ากระแสตรง วงจรไฟฟ้ำกระแสตรงประกอบด้วย วงจรอันดับหรืออนุกรม วงจรขนำน และวงจร ผสม วงจรอันดับ หรือ อนุกรม วงจรอันดับ เป็นวงจรที่ต่อตัวต้ำนทำนแบบอนุกรมหรืออันดับโดยเอำปลำยด้ำน หนึ่งต่อกับอีกปลำยด้ำนหนึ่งไปเรื่อยๆ สรุปผลที่ได้จำกกำรต่อวงจรแบบอันดับ 1. ควำมต้ำนทำนรวมของวงจรเท่ำกับค่ำของควำมต้ำนทำนย่อยทั้งหมดรวมกัน 2. กระแสที่ไหลในวงจรเท่ำกันตลอดหรือกระแสที่ไหลผ่ำนจุด แต่ละจุดในวงจรมีค่ำเดียวกัน 3. แรงดันที่ตกคร่อมตัวต้ำนทำนแต่ละตัวรวมกันเท่ำกับแรงดันไฟฟ้ำที่ป้อนให้ กับวงจร วงจรขนาน วงจรขนำน เป็นวงจรทีมีกระแสไฟฟ้ำไหลผ่ำนปลำยทำงหรือตั้งแต่ 2 ทำงขึ้นไป ่ จนครบวงจร สรุปผลที่ได้จำกกำรต่อวงจรแบบขนำน
  • 8. 1. แรงดันไฟฟ้ำตกคร่อมที่มำจำกวงจรย่อยเท่ำกับแรงดันไฟฟ้ำของแหล่งจ่ำย นั่นเอง เพรำะว่ำควำมต้ำนทำนแต่ละตัวต่ำงก็ขนำนกับแหล่งกำำเนิด 2. กระไฟฟ้ำรวมในวงจรขนำนเท่ำกับกระแสไฟฟ้ำทั้งหมดรวมกัน 3. ควำมต้ำนทำนรวมของวงจรขนำนจะมีค่ำน้อยกว่ำหรือเท่ำกับตัวต้ำนทำนที่มี ค่ำน้อยที่สุดในวงจร วงจรผสม วงจรผสม หมำยถึง กำรต่อวงจรทั้งแบบอนุกรมและขนำนเข้ำไปในวงจรเดียวกัน เช่นตัวต้ำนทำนตัวหนึ่งต่ออนุกรมกับตัวต้ำนทำนอีกตัวหนึ่ง แล้วนำำตัวต้ำนทำนทั้งสอง ไปต่อขนำนกับตัวต้ำนทำนอีกตัวหนึ่ง