SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 8
Downloaden Sie, um offline zu lesen
บทที่ 2

                                        เอกสารที่เกี่ยวข้ อง

ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (                    WebBlog) ด้วย Wordpress
เรื่ อง ระบบคอมพิวเตอร์ นี้ ผูจดทาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
                              ้ั
ดังต่อไปนี้

         2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต
         2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media
         2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)

2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์ เน็ต

            เทคโนโลยีสารสนเทศมีความสาคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ เป็ นอย่างมาก
                      ่
ตัวอย่างเช่น
1. การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยในด้านการค้นคว้าศึกษาแหล่งข้อมูล ทาให้การศึกษา
ง่ายขึ้นและไร้ขีดจากัด ผูเ้ รี ยนมีความสะดวกในการค้นคว้าวิจย ั
2. การดารงชีวิตประจาวัน ทาให้มีความสะดวกคล่องตัวและรวดเร็ วในการทากิจกรรมต่าง ๆ ที่
เกิดขึ้นในชีวิตประจาวัน สามารถทางานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกันได้หรื อทางานใช้เวลาน้อยลง
3. การดาเนินธุรกิจ ทาให้มการแข่งขันระหว่างธุรกิจมากขึ้น ทาให้ตองมีการพัฒนาองค์กรเพื่อให้
                               ี                                   ้
ทันกับข้อมูลข่าวสารอยูตลอดเวลา
                        ่
อันส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง
4. อัตราการขยายตัวทุก ๆ ด้านที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ ว เพราะมีการติดต่อสื่อสารที่เจริ ญก้าวหน้า
ทันสมัย รวดเร็ วถูกต้องและ ทาให้
เป็ นโลกที่ไร้พรหรมแดน
5. ระบบการทางานมีคอมพิวเตอร์มาใช้ซื่อสามารถทางานได้มากขึ้น งานบางอย่างมนุษย์ทาไม่
ได ้้ก็ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยทางานแทนซึ่งได้ผลถูกต้องรวดเร็ ว
ขอบคุณ : http://a.1asphost.com/chalin623/drinking48/information1/techno1_1.htm
2.2 ข้ อมูลเกียวกับสื่อสังคม Social Media
                ่
          2.2.1 ความหมายของ Social Media
          “Social” หมายถึง สังคม ซึ่งในที่น้ ีจะหมายถึงสังคมออนไลน์ ซึ่งมีขนาดใหม่มากใน
ปัจจุบน ั
          “Media” หมายถึง สื่อ ซึ่งก็คือ เนื้อหา เรื่ องราว บทความ วีดีโอ เพลง รู ปภาพ เป็ นต้น
          Social Media หมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลายทิศทาง โดย
ผ่านเครื อข่ายอินเตอร์เน็ต พูดง่ายๆ ก็คือเว็บไซต์ที่บุคคลบนโลกนี้สามารถมีปฏิสมพันธ์โต้ตอบกัน
                                                                                   ั
ได้นนเอง พื้นฐานการเกิด Social Media ก็มาจากความต้องการของมนุษย์หรื อคนเราที่ตองการ
     ั่                                                                                   ้
ติดต่อสื่อสารหรื อมีปฏิสมพันธ์กน จากเดิมเรามีเว็บในยุค 1.0 ซึ่งก็คือเว็บที่แสดงเนื้อหาอย่างเดียว
                          ั       ั
บุคคลแต่ละคนไม่สามารถติดต่อหรื อโต้ตอบกันได้ แต่เมื่อเทคโนโลยีเว็บพัฒนาเข้าสู่ยค 2.0 ก็มีการ
                                                                                        ุ
พัฒนาเว็บไซต์ที่เรี ยกว่า web application ซึ่งก็คือเว็บไซต์มีแอพลิเคชันหรื อโปรแกรมต่างๆ ที่มีการ
โต้ตอบกับผูใช้งานมากขึ้น ผูใช้งานแต่ละคนสามารถโต้ตอบกันได้ผานหน้าเว็บ
              ้               ้                                        ่
ขอบคุณ : http://krunum.wordpress.com/2010/06/02/social-network/


        2.2.2 ประวัตความเป็ นมาและพัฒนาการของ Social Media
                    ิ
                 มีเดีย (“Media”) หมายถึงสื่อหรื อเครื่ องมือที่ใช้เพื่อการสื่อสาร โซเชียล (“Social”)
หมายถึงสังคม ในบริ บทของโซเชียลมีเดีย โซเชียลหมายถึงการแบ่งปันใน สังคม ซึ่งอาจจะเป็ นการ
แบ่งปันเนื้อหา (ไฟล์, รสนิยมม ควม เห็น…) หรื อปฏิสมพันธ์ในสังคม (การรวมกับเป็ น กลุ่ม…)
                                                           ั
โซเชียลมีเดียในที่น้ ีหมายถึงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ทาให้ผใช้แสดง ความเป็ นตัวตนของตนเองเพื่อที่จะ
                                                             ู้
มีปฏิสมพันธ์กบหรื อแบ่งปัน ข้อมูลกับบุคคลอื่น โซเชียลมีเดียส่วนใหญ่จะเป็ นเว็บแอปพลิเคชัน
        ั      ั
2.0 ซึ่งจะมีการ ปฏิสมพันธ์ระหว่างผูให้และผูรับข้อมูล
                       ั               ้          ้
                  - ทีวีและหนังสือพิมพ์ที่เป็ นกระดาษเป็ นสื่อ แต่เป็ นสื่อของการสื่อสาร ทางเดียว
ผูรับข้อมูลไม่สามารถตอบกลับผูให้ขอมูลทันทีทนใดได้
  ้                                 ้ ้              ั
                  - แต่โซเชียลมีเดียจะเป็ นสื่อที่มีการสื่อสาร 2 ทาง กล่าวคือผูรับ ข้อมูลสามารถ
                                                                                ้
แสดงความคิดเห็นหรื อตอบผูให้ ข้อมูลได้
                                ้
                  - การให้ขอคิดเห็นในบันทึกในบล็อกหรื อในวิดีโอ
                             ้
                 - การพูดคุยผ่านโปรแกรมสนทนาออนไลน์หรื อเว็บบอร์ด
                 - การให้ขอคิดเห็นและบันทึกว่าชอบสไลด์
                           ้
เครื่องมือและการบริการที่เป็ นโซเชียลมีเดีย
                - ตีพิมพ์: บล็อก, วิกิพีเดีย, เว็บรวมที่ให้ทุกคนโพสต์ข่าว
               - แบ่งปัน: วิดีโอ, รู ปภาพ, ดนตรี , ลิงก์
               - การอภิปราย: การเสวนา, โปรแกรมสนทนาออนไลน์
ขอขคุณ : http://www.slideshare.net/krunapon/social-media-5661152?from=ss_embed

            2.2.3 ประเภทเว็บไซต์ที่ให้ บริการ Social Media
                   (1) Blog – ซึ่งเป็ นการลดรู ปจากคาว่า Weblog ซึ่งถือเป็ นระบบจัดการเนื้อหา
(Content Management System: CMS) รู ปแบบหนึ่ง ซึ่งทาให้ผใช้สามารถเขียนบทความเรี ยกว่า
                                                                ู้
Post และทาการเผยแพร่ ได้โดยง่าย ไม่ยงยากในการที่จะต้องมานังเรี ยนรู้ถึงภาษา HTML หรื อ
                                          ุ่                       ่
โปรแกรมทา web site ทั้งนี้การเรี ยงของเนื้อหาจะเรี ยงจากเนื้อหาที่มาใหม่สุดก่อน จากนั้นก็
ลดหลันลงไปตามลาดับของเวลา (Chronological Order) การเกิดของ Blog เปิ ดโอกาสให้ใครๆที่มี
         ่
ความสามารถในด้านต่างๆ สามารถเผยแพร่ ความรู้ดงกล่าวด้วยการเขียนได้อย่างเสรี ไม่มีขีดจากัด
                                                         ั
เรื่ องเทคนิคอย่างในอดีตอีกต่อไป ทาให้เกิด Blog ขึ้นมาจานวนมากมาย และเพิ่มเนื้อหาให้กบโลก    ั
ออนไลน์ได้เป็ นจานวนมหาศาลอย่างที่ไม่ เคยมีมาก่อน นอกจากนี้เครื่ องมือที่สาคัญที่ทาให้เกิด
ลักษณะของ Social คือการเปิ ดให้เพื่อนๆเข้ามาแสดงความเห็นได้นนเอง ในแง่ของการตลาด Blog
                                                                     ั่
อาจจะถูกนามาใช้ได้ใน 2 รู ปแบบ คือ การที่บริ ษทจัดทา Blog (Corporate Blog) ขึ้นมาเพื่อพูดจากับ
                                                     ั
บรรดาลูกค้า และ Blog ที่เขียนจาก Blogger อิสระ ที่มีความสามารถเขียนเรื่ องที่ตนถนัดและมี
ผูติดตามจานวนมาก จนกลายเป็ น Marketing Influencer
  ้
                  (2) Twitter และ Microblog อื่นๆ – เป็ นรู ปแบบหนึ่งของ Blog ที่จากัดขนาดของ
การ Post แต่ละครั้งไว้ที่ 140 ตัวอักษร โดยแรกเริ่ มเดิมที ผูออกแบบ Twitter ต้องการให้ผใช้เขียน
                                                             ้                            ู้
เรื่ องราวว่าคุณกาลังทาอะไรอยูในขณะนี้ (What are you doing?) แต่กิจการต่างๆกลับนา Twitter ไป
                                  ่
ใช้ในทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็ นการสร้างการบอกต่อ เพิมยอดขาย สร้าง Brand หรื อเป็ นเครื่ องมือ
                                                           ่
สาหรับการบริ หารความสัมพันธ์ลกค้า (CRM) ทั้งนี้เรายังสามารถใช้เป็ นเครื่ องมือในการ
                                      ู
ประชาสัมพันธ์บทความใหม่ๆบน Blog ของเราได้ดวย Twitter นั้นเป็ นนิยมขึ้นมากอย่างรวดเร็ ว
                                                       ้
จนทาให้เว็บไซต์ประเภท Social Network ต่างๆ เพิ่ม Feature ที่ให้ผใช้สามารถบอกได้ว่าตอนนี้
                                                                        ู้
กาลังทาอะไรกันอยู่ นั้นก็คือการนา Microblog เข้าไปเป็ นส่วนหนึ่งด้วยนั้นเอง
                  (3) Social Networking – จากชื่อก็สามารถแปลความหมายได้ว่าเป็ นเครื อข่ายที่
เชื่อมโยงเรากับเพื่อนๆจนกลายเป็ นสังคม ทั้งนี้ผใช้จะเริ่ มต้นสร้างตัวตนของตนเองขึ้นในส่วนของ
                                                  ู้
Profile ซึ่งประกกอบด้วยข้อมูลส่วนตัว (Info) รู ป (Photo) การจดบันทึก (Note) หรื อการใส่วิดีโอ
(Video) และอื่นๆ นอกจากนี้ Social Networking ยังมีเครื่ องมือสาคัญในการสร้างจานวนเพื่อนให้
มากขึ้น คือ ในส่วนของ Invite Friend และ Find Friend รวมถึงการสร้างเพื่อนจากเพื่อนของเพื่อน
อีกด้วยนักการตลาดนา Social Networking มาใช้ในการมีปฏิสมพันธ์กบลูกค้า อาจจะอยูในรู ปของ
                                                                  ั     ั                   ่
การสร้าง Brand ผ่านเกมส์หรื อ Application ต่างๆ หรื ออาจใช้เป็ นเครื่ องมือของ CRM ผ่านทาง
Pages และนอกจากนี้ตวลูกค้าเอง หากชื่นชอบในสินค้าหรื อบริ การ ก็สามารถร่ วมกลุ่มกันจัดตั้ง
                           ั
Group ขึ้นมาได้ เว็บไซต์ที่มีลกษณะของ Social Networking มีมากมาย แต่อาจจะแบ่งได้เป็ น 2
                                ั
ประเภท คือ ประเภทแรกจะสนใจในการสร้างเครื อข่ายระหว่างเพื่อนๆหรื อครอบครัว เช่น
Facebook, Hi5 หรื อ Myspace และอีกประเภท คือสนใจในการสร้างเครื อข่ายในเชิงธุรกิจ ที่เปิ ดให้
ใส่ Resume และข้อมูลเชิงอาชีพต่างๆ เช่น Linkedin หรื อ Plaxo เป็ นต้น
                  (4) Media Sharing – เป็ นเว็บไซต์ที่เปิ ดโอกาสให้เราสามารถ upload รู ปหรื อวิดีโอ
เพื่อแบ่งปันให้กบครอบครัว เพื่อนๆ หรื อแม้กระทังเพื่อเผยแพร่ ต่อสาธารณชน นักการตลาด ณ
                   ั                                ่
ปัจจุบนไม่จาเป็ นจะต้องทุ่มทุนในการสร้างหนังโฆษณาที่มีตนทุนสูง เราอาจจะใช้กล้องดิจิตอล
        ั                                                       ้
ราคาถูกๆ ถ่ายทอดความคิดเป็ นรู ปแบบวิดีโอ จากนั้นนาขึ้นไปสู่เว็บไซต์ Media Sharing อย่าง
Youtube หากความคิดของเราเป็ นที่ชื่นชอบ ก็ทาให้เกิดการบอกต่ออย่างแพร่ หลาย หรื อกรณี หาก
กิจการคุณขายสินค้าที่เน้นดีไซน์ที่สวยงาม ก็อาจจะถ่ายรู ปแล้วนาขึ้นไปสู่เว็บไซต์อย่าง Flickr
เพื่อให้ลกค้าได้ชม หรื ออาจจะใช้เป็ นเครื่ องมือในการนาชมโรงงาน หรื อบรรยากาศในการทางาน
          ู
ของกิจการ เป็ นต้น หรื ออย่างกรณี ของ Multiply ที่คนไทยนิยมนารู ปภาพที่ตนเองถ่ายมาแสดงฝี มือ
เหมือนเป็ นแกลลอรี ส่วนตัว ทาให้ผว่าจ้างได้เห็นฝี มือก่อนที่จะทาการจ้าง
                                     ู้
                 (5) Social News and Bookmarking – เป็ นเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงไปยังบทความหรื อ
เนื้อหาใดในอินเทอร์เน็ต โดยผูใช้เป็ นผูส่งและเปิ ดโอกาสให้คะแนนและทาการโหวตได้ เป็ น
                                  ้       ้
เสมือนมหาชนช่วยกลันกรองว่าบทความหรื อเนื้อหาใดนั้นเป็ นที่น่าสนใจที่สุด ในส่วนของ Social
                         ่
Bookmarking นั้น เป็ นการที่เปิ ดโอกาสให้คุณสามารถทาการ Bookmark เนื้อหาหรื อเว็บไซต์ที่ชื่น
ชอบ โดยไม่ข้ ึนอยูกบคอมพิวเตอร์เครื่ องใดเครื่ องหนึ่ง แต่สามารถทาผ่านออนไลน์ และเนื้อหาใน
                     ่ ั
ส่วนที่เราทา Bookmark ไว้น้ ี สามารถที่จะแบ่งปันให้คนอื่นๆได้ดวย นักการตลาดจะใช้เป็ น
                                                                    ้
เครื่ องมือในการบอกต่อและสร้างจานวนคนเข้ามายังที่เว็บไซต์หรื อ Campaign การตลาดที่ตองการ        ้
                  (6) Online Forums – ถือเป็ นรู ปแบบของ Social Media ที่เก่าแก่ที่สุด เป็ นเสมือน
สถานที่ที่ให้ผคนเข้ามาพูดคุยในหัวข้อที่พวกเขาสนใจ ซึ่งอาจจะเป็ นเรื่ อง เพลง หนัง การเมือง กีฬา
              ู้
สุขภาพ หนังสือ การลงทุน และอื่นๆอีกมากมาย ได้ทาการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แสดงข้อมูล
ข่าวสาร ตลอดจนถึงการแนะนาสินค้าหรื อบริ การต่างๆ นักการตลาดควนสนใจเนื้อหาที่พดคุยใน           ู
Forums เหล่านี้ เพราะบางครั้งอาจจะเป็ นคาวิจารณ์เกี่ยวกับตัวสินค้าและบริ การของเรา ซึ่งเราเอง
สามารถเข้าไปทาความเข้าใจ แก้ไขปัญหา ตลอดจนถึงใช้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกบลูกค้า เว็บไซต์
                                                                         ั
ประเภท Forums อาจจะเป็ นเว็บไซต์ที่เปิ ดให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันโดยเฉพาะ หรื ออาจจะเป็ น
ส่วนหนึ่งในเว็บไซต์เนื้อหาต่างๆ
ขอบคุณ : http://whitemkt.com/2011

2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)
            2.3.1 ความหมายของเว็บบล็อก (WebBlog)
              บล็อก (อังกฤษ: blog) เป็ นคารวมมาจากคาว่า เว็บล็อก (อังกฤษ: weblog) เป็ นรู ปแบบ
เว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลาดับที่เรี ยงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียน
ล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่
ว่า เพลง หรื อวิดีโอในหลายรู ปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะ
เปิ ดให้ผเู้ ข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็ นคนเขียน
ซึ่งทาให้ผเู้ ขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คาว่า “บล็อก” ยังใช้เป็ นคากริ ยาได้ซ่ึงหมายถึง
การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผที่เขียนบล็อกเป็ นอาชีพก็จะถูกเรี ยกว่า “บล็อกเกอร์ ”
                                      ู้
             บล็อกเป็ นเว็บไซต์ท่ีมีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยูกบเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็ น
                                                          ่ ั
เครื่ องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ ผลงาน ในหลายด้านไม่
ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรื อข่าวปัจจุบน นอกจากนี้บล็อกที่ถกเขียนเฉพาะเรื่ องส่วนตัวหรื อ
                                                 ั                    ู
จะเรี ยกว่าไดอารี ออนไลน์ ซึ่งไดอารี ออนไลน์นี่เองเป็ นจุดเริ่ มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบน ั
นอกจากนี้ตามบริ ษทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทาบล็อกของทางบริ ษทขึ้น เพื่อเสนอแนว
                         ั                                              ั
ความเห็นใหม่ใหักบลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับการ
                       ั
ตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อ
ขอบคุณ : http://th.wikipedia.org/wiki

          2.3.2 ประเภทของเว็บบล็อก
          1. แบ่ งตามลักษณะของมีเดียที่มในบล็อก ได้ แก่
                                             ี
           1.1. Linklog บล็อกแบบนี้น่าจะเป็ นบล็อกรุ่ นแรก ๆ เป็ นบล็อกที่รวมลิ๊งก์ที่เจ้าของ
บล็อกสนใจเอาไว้ ถ้าคณยังจาผูให้กาเนิดคาว่า “บล็อก” ที่ชื่อ จอห์น บาจเจอร์ได้ นันแหล่ะครับ
                                 ้                                                ่
robotwisdom.com ของเขาคือตัวอย่างของ linklog นันเอง แม้ว่าจะบล็อกแบบนี้จะเป็ นการรวมลิ๊งก์
                                                       ่
เท่านั้น แต่ก็ไม่เรี ยงเหมือนว็บไดเร็ กทอรี่ เพราะเจ้าของบล็อกจะโพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อ
โพสต์เท่านั้นครับ ใครที่อยากมีบล็อกเป็ นของตนเองแต่ยงนึกไม่ออกว่าจะทาบล็อกแบบไหน
                                                          ั
linklog น่าจะเป็ นการเริ่ มต้นการทาบล็อกได้เป็ นอย่างดี
1.2 Photoblog ชื่อก็บอกอยูแล้วครับว่า Photo บล็อกประเภทนี้เน้นในโพสต์ภาพถ่ายที่
                                          ่
เจ้าของบล็อกอยากนาเสนอ และมักจะไม่เน้นที่จะเขียนข้อความมากนัก บางบล็อกเรี ยกได้ว่าภาพ
โดยเจ้าของบล็อกล้วน ๆ เลยครับ
              1.3. Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็ นบล็อกที่รวมวิดีโอคลิปไว้ในบล็อก Vlog เป็ น
บล็อกที่เรี ยกได้ว่าเป็ นบล็อกที่นิยมทากันมากในอนาคต เพราะการเจริ ญเติบโตของไฮสปี ด
อินเตอร์เน็ต หรื อ อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทาให้การถ่ายทอดเสียง ภาพเคลื่อนไหว movie […]
2. แบ่ งตามประเภทเนือหา ได้ แก่
                         ้
             2.1 บล็อกส่ วนตัว(Personal Blog) นาแสนอความคิดเห็น กิจวัตรประจาวันของเจ้าของ
บล็อกเป็ นหลัก
             2.2 บล็อกข่ าว(News Blog) บล็อกที่นาเสนอข่าวเป็ นหลัก
             2.3 บล็อกกลุ่ม(Collaborative Blog) เป็ นบล็อกที่เขียนกันเป็ นกลุ่ม เช่น blognone.com
             2.4 บล็อกการเมือง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่ องการเมืองล้วน ๆ
             2.5 บล็อกเพือสิ่งแวดล้อม(Environment Blog) พูดถึงเรื่ องราวของธรรมชาติและการ
                           ่
รักษาสิ่งแวดล้อม
             2.6 มีเดียบล็อก(Media Blog) เป็ นบล็อกที่วิเคราะห์สื่อต่างๆ สารคดีและสิ่งที่เกี่ยวกับ
สื่อ เช่น oknation.net/blog/black ของสุทธิชย หยุน
                                             ั ่
             2.7 บล็อกบันเทิง(Entertainment Blog) บล็อกที่นาเสนอเรื่ องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว
และจอเงิน เรื่ องซุบซุดารา กองถ่าย ฯลฯ
             2.8 บล็อกเพือการศึกษา(Educational Blog) ในโรงเรี ยน หรื อมหาวิทยาลัยใน
                             ่
ต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็ นสื่อในการสอนหรื อ แลกเปลี่ยน ความคิดกัน
              2.9 ติวเตอร์ บล็อก(Tutorial Blog) เป็ นบล็อกที่นาเสนอวิธีการต่าง
ขอบคุณ: http://jingjai-21.blogspot.com/2007/09/blog_7483.html

        2.3.3 เว็บไซต์ที่ให้ บริการเว็บบล็อก
              www.blogger.com

            www.exteen.com

            www.mapandy.com

            www.buddythai.com
www.imigg.com

           www.5iam.com

           www.blogprathai.com

             www.ndesignsblog.com

           www.idatablog.com

           www.inewblog.com

           www.onblogme.com

           www.freeseoblogs.com


ขอบคุณ : http://book.manacomputers.com/free-make-blog-list-and-adsense/



         2.3.4 ประวัตของเว็บไซต์ Wordpress
                      ิ
         WordPress คือ โปรแกรมสาเร็ จรู ปตัวหนึ่ง ที่เอาไว้สาหรับสร้าง บล็อก หรื อ เว็บไซต์
สามารถใช้งานได้ฟรี ถูกจัดอยูในประเภท CMS (Contents Management System) ซึ่งหมายถึง
                               ่
โปรแกรมสาเร็ จรู ปที่มีไว้สาหรับสร้างและบริ หารจัดการเนื้อหาและข้อมูลบนเว็บไซต์
       WordPress ได้รับการพัฒนาและเขียนชุดคาสังมาจากภาษา PHP (เป็ นภาษาโปรแกรมมิ่งตัว
                                                     ่
หนึ่ง) ทางานบนฐานข้อมูล MySQL ซึ่งเป็ นโปรแกรมสาหรับจัดการฐานข้อมูล มีหน้าที่เก็บ เรี ยกดู
แก้ไข เพิ่มและลบข้อมูล การใช้งานWordPress ร่ วมกับ MySQL อยูภายใต้สญญาอนุญาตใช้งาน
                                                                   ่         ั
แบบ GNU General Public License
       WordPress ปรากฏโฉมครั้งแรกในโลกเมื่อปี พ.ศ. 2546 (2003) เป็ นความร่ วมมือกันระหว่าง
Matt Mullenweg และ Mike Littlej มีเว็บไซต์หลักอยูที่ http://wordpress.org และยังมีบริ การ Free
                                                       ่
Hosting (พื้นที่สาหรับเก็บทุกอย่างของเว็บ/บล็อก) โดยขอใช้บริ การได้ที่ http://wordpress.com
       ปัจจุบนนี้ WordPress ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ ว จนมีผใช้งานมากกว่า 200 ล้าน
             ั                                                        ู้
เว็บบล็อกไปแล้ว แซงหน้า CMS ตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็ น Drupal , Mambo และ Joomla สาเหตุเป็ น
เพราะ ใช้งานง่าย ไม่จาเป็ นต้องมีความรู้ในเรื่ อง Programing มีรูปแบบที่สวยงาม อีกทั้งยังมีผพฒนา
                                                                                            ู้ ั
Theme (รู ปแบบการแสดงผล) และ Plugins (โปรแกรมเสริ ม) ให้เลือกใช้ฟรี อย่างมากมาย
        นอกจากนี้ สาหรับนักพัฒนา WordPress ยังมี Codex เอาไว้ให้เราได้เป็ นไกด์ไลน์ เพื่อศึกษา
องค์ประกอบส่วนต่าง ๆ ที่อยูภายใน สาหรับพัฒนาต่อยอด หรื อ นาไปสร้าง Theme และ Plugins
                             ่
ขึ้นมาเองได้อีกด้วย หนาซ้ า ยังมีรุ่นพิเศษ คือ WordPress MUสาหรับไว้ให้ผนาไปใช้ สามารถเปิ ด
                                                                          ู้
ให้บริ การพื้นที่ทาเว็บบล็อกเป็ นของตนเอง เพื่อให้ผอื่นมาสมัครขอร่ วมใช้บริ การในการสร้างเว็บ
                                                   ู้
บล็อก ภายใต้ชื่อโดเมนของเขา หรื อที่เรี ยกว่า Sub-Domain
ขอบคุณ : http://wordpress.9supawat.com/10/what-is-wordpress.html

Weitere ähnliche Inhalte

Was ist angesagt?

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Poonyapat Wongpong
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Chi Cha Pui Fai
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Chi Cha Pui Fai
 
แบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างแบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่าง
Kanistha Chudchum
 
Teenhiphop
TeenhiphopTeenhiphop
Teenhiphop
Print25
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Kot สุรศักดิ์
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
dargonbail
 
บทที่%202[1]
บทที่%202[1]บทที่%202[1]
บทที่%202[1]
teeraratWI
 

Was ist angesagt? (10)

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
แบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างแบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่าง
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
Teenhiphop
TeenhiphopTeenhiphop
Teenhiphop
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
 
บทที่%202[1]
บทที่%202[1]บทที่%202[1]
บทที่%202[1]
 
งาน
งานงาน
งาน
 

Andere mochten auch

Fhs hare and tortoise new version_jwensly@live.com
Fhs hare and tortoise new version_jwensly@live.comFhs hare and tortoise new version_jwensly@live.com
Fhs hare and tortoise new version_jwensly@live.com
Jwensly Dmello
 
Parts of plants
Parts of plantsParts of plants
Parts of plants
jugafoce
 
Parallel Session 1.6.4 Managed Clinical Networks and Quality Improvement: A D...
Parallel Session 1.6.4 Managed Clinical Networks and Quality Improvement: A D...Parallel Session 1.6.4 Managed Clinical Networks and Quality Improvement: A D...
Parallel Session 1.6.4 Managed Clinical Networks and Quality Improvement: A D...
NHSScotlandEvent
 
Parallel Session 1.2 Creating a Positive Employee Experience in NHSScotland
Parallel Session 1.2 Creating a Positive Employee Experience in NHSScotlandParallel Session 1.2 Creating a Positive Employee Experience in NHSScotland
Parallel Session 1.2 Creating a Positive Employee Experience in NHSScotland
NHSScotlandEvent
 
634062fall11copyrtcarmona2
634062fall11copyrtcarmona2634062fall11copyrtcarmona2
634062fall11copyrtcarmona2
cherubess
 
RISPEC Presentation @CEDEC 2011
RISPEC Presentation @CEDEC 2011RISPEC Presentation @CEDEC 2011
RISPEC Presentation @CEDEC 2011
Peichao Yu
 
Parallel Session 2.3.3 What's Your Problem? Lessons on How to Solve National ...
Parallel Session 2.3.3 What's Your Problem? Lessons on How to Solve National ...Parallel Session 2.3.3 What's Your Problem? Lessons on How to Solve National ...
Parallel Session 2.3.3 What's Your Problem? Lessons on How to Solve National ...
NHSScotlandEvent
 
Parallel Session 1.1 Technology Innovation in NHSScotland: The Big Debate
Parallel Session 1.1 Technology Innovation in NHSScotland: The Big DebateParallel Session 1.1 Technology Innovation in NHSScotland: The Big Debate
Parallel Session 1.1 Technology Innovation in NHSScotland: The Big Debate
NHSScotlandEvent
 

Andere mochten auch (20)

5.1 notes
5.1 notes5.1 notes
5.1 notes
 
5.5 notes
5.5 notes5.5 notes
5.5 notes
 
Fhs hare and tortoise new version_jwensly@live.com
Fhs hare and tortoise new version_jwensly@live.comFhs hare and tortoise new version_jwensly@live.com
Fhs hare and tortoise new version_jwensly@live.com
 
Parts of plants
Parts of plantsParts of plants
Parts of plants
 
CSS
CSSCSS
CSS
 
Gramm
GrammGramm
Gramm
 
Parallel Session 1.6.4 Managed Clinical Networks and Quality Improvement: A D...
Parallel Session 1.6.4 Managed Clinical Networks and Quality Improvement: A D...Parallel Session 1.6.4 Managed Clinical Networks and Quality Improvement: A D...
Parallel Session 1.6.4 Managed Clinical Networks and Quality Improvement: A D...
 
Prueba prezi
Prueba preziPrueba prezi
Prueba prezi
 
4.2 exponents
4.2 exponents4.2 exponents
4.2 exponents
 
Parallel Session 1.2 Creating a Positive Employee Experience in NHSScotland
Parallel Session 1.2 Creating a Positive Employee Experience in NHSScotlandParallel Session 1.2 Creating a Positive Employee Experience in NHSScotland
Parallel Session 1.2 Creating a Positive Employee Experience in NHSScotland
 
3.8 notes
3.8 notes3.8 notes
3.8 notes
 
634062fall11copyrtcarmona2
634062fall11copyrtcarmona2634062fall11copyrtcarmona2
634062fall11copyrtcarmona2
 
3.5 notes
3.5 notes3.5 notes
3.5 notes
 
Wirtualna gra - konkursowa aplikacja na Facebooka
Wirtualna gra - konkursowa aplikacja na FacebookaWirtualna gra - konkursowa aplikacja na Facebooka
Wirtualna gra - konkursowa aplikacja na Facebooka
 
RISPEC Presentation @CEDEC 2011
RISPEC Presentation @CEDEC 2011RISPEC Presentation @CEDEC 2011
RISPEC Presentation @CEDEC 2011
 
3.1 notes
3.1 notes3.1 notes
3.1 notes
 
Parallel Session 2.3.3 What's Your Problem? Lessons on How to Solve National ...
Parallel Session 2.3.3 What's Your Problem? Lessons on How to Solve National ...Parallel Session 2.3.3 What's Your Problem? Lessons on How to Solve National ...
Parallel Session 2.3.3 What's Your Problem? Lessons on How to Solve National ...
 
10.3 notes
10.3 notes10.3 notes
10.3 notes
 
K Rajashekhar
K RajashekharK Rajashekhar
K Rajashekhar
 
Parallel Session 1.1 Technology Innovation in NHSScotland: The Big Debate
Parallel Session 1.1 Technology Innovation in NHSScotland: The Big DebateParallel Session 1.1 Technology Innovation in NHSScotland: The Big Debate
Parallel Session 1.1 Technology Innovation in NHSScotland: The Big Debate
 

Ähnlich wie บทที่2

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Kot สุรศักดิ์
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Chi Cha Pui Fai
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Chi Cha Pui Fai
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง102 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
Thanggwa Taemin
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
dargonbail
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
teeraratWI
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรแบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
M'suKanya MinHyuk
 
แบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างแบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่าง
Kanistha Chudchum
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Tanyarad Chansawang
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
Wilaiporn Seehawong
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Chi Cha Pui Fai
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Chi Cha Pui Fai
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Chi Cha Pui Fai
 
บทที่1
บทที่1บทที่1
บทที่1
Tangkwa Tom
 
บทที่1
บทที่1บทที่1
บทที่1
Tangkwa Tom
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
Chalita Vitamilkz
 

Ähnlich wie บทที่2 (20)

บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2 ทวีชัย
บทที่ 2 ทวีชัยบทที่ 2 ทวีชัย
บทที่ 2 ทวีชัย
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง102 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรแบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
 
แบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างแบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่าง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่1
บทที่1บทที่1
บทที่1
 
บทที่1
บทที่1บทที่1
บทที่1
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 

Mehr von Tangkwa Tom

โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
Tangkwa Tom
 
ภาพผนวก
ภาพผนวกภาพผนวก
ภาพผนวก
Tangkwa Tom
 
บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรม
Tangkwa Tom
 
บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรม
Tangkwa Tom
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
Tangkwa Tom
 
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินงานบทที่ 4 ผลการดำเนินงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน
Tangkwa Tom
 
ส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงานส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงาน
Tangkwa Tom
 
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินงานบทที่ 4 ผลการดำเนินงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน
Tangkwa Tom
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Tangkwa Tom
 
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำบทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
Tangkwa Tom
 

Mehr von Tangkwa Tom (10)

โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
ภาพผนวก
ภาพผนวกภาพผนวก
ภาพผนวก
 
บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรม
 
บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรม
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินงานบทที่ 4 ผลการดำเนินงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน
 
ส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงานส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงาน
 
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินงานบทที่ 4 ผลการดำเนินงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำบทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
 

บทที่2

  • 1. บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้ อง ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก ( WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่ อง ระบบคอมพิวเตอร์ นี้ ผูจดทาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ้ั ดังต่อไปนี้ 2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) 2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์ เน็ต เทคโนโลยีสารสนเทศมีความสาคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ เป็ นอย่างมาก ่ ตัวอย่างเช่น 1. การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยในด้านการค้นคว้าศึกษาแหล่งข้อมูล ทาให้การศึกษา ง่ายขึ้นและไร้ขีดจากัด ผูเ้ รี ยนมีความสะดวกในการค้นคว้าวิจย ั 2. การดารงชีวิตประจาวัน ทาให้มีความสะดวกคล่องตัวและรวดเร็ วในการทากิจกรรมต่าง ๆ ที่ เกิดขึ้นในชีวิตประจาวัน สามารถทางานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกันได้หรื อทางานใช้เวลาน้อยลง 3. การดาเนินธุรกิจ ทาให้มการแข่งขันระหว่างธุรกิจมากขึ้น ทาให้ตองมีการพัฒนาองค์กรเพื่อให้ ี ้ ทันกับข้อมูลข่าวสารอยูตลอดเวลา ่ อันส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง 4. อัตราการขยายตัวทุก ๆ ด้านที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ ว เพราะมีการติดต่อสื่อสารที่เจริ ญก้าวหน้า ทันสมัย รวดเร็ วถูกต้องและ ทาให้ เป็ นโลกที่ไร้พรหรมแดน 5. ระบบการทางานมีคอมพิวเตอร์มาใช้ซื่อสามารถทางานได้มากขึ้น งานบางอย่างมนุษย์ทาไม่ ได ้้ก็ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยทางานแทนซึ่งได้ผลถูกต้องรวดเร็ ว ขอบคุณ : http://a.1asphost.com/chalin623/drinking48/information1/techno1_1.htm
  • 2. 2.2 ข้ อมูลเกียวกับสื่อสังคม Social Media ่ 2.2.1 ความหมายของ Social Media “Social” หมายถึง สังคม ซึ่งในที่น้ ีจะหมายถึงสังคมออนไลน์ ซึ่งมีขนาดใหม่มากใน ปัจจุบน ั “Media” หมายถึง สื่อ ซึ่งก็คือ เนื้อหา เรื่ องราว บทความ วีดีโอ เพลง รู ปภาพ เป็ นต้น Social Media หมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลายทิศทาง โดย ผ่านเครื อข่ายอินเตอร์เน็ต พูดง่ายๆ ก็คือเว็บไซต์ที่บุคคลบนโลกนี้สามารถมีปฏิสมพันธ์โต้ตอบกัน ั ได้นนเอง พื้นฐานการเกิด Social Media ก็มาจากความต้องการของมนุษย์หรื อคนเราที่ตองการ ั่ ้ ติดต่อสื่อสารหรื อมีปฏิสมพันธ์กน จากเดิมเรามีเว็บในยุค 1.0 ซึ่งก็คือเว็บที่แสดงเนื้อหาอย่างเดียว ั ั บุคคลแต่ละคนไม่สามารถติดต่อหรื อโต้ตอบกันได้ แต่เมื่อเทคโนโลยีเว็บพัฒนาเข้าสู่ยค 2.0 ก็มีการ ุ พัฒนาเว็บไซต์ที่เรี ยกว่า web application ซึ่งก็คือเว็บไซต์มีแอพลิเคชันหรื อโปรแกรมต่างๆ ที่มีการ โต้ตอบกับผูใช้งานมากขึ้น ผูใช้งานแต่ละคนสามารถโต้ตอบกันได้ผานหน้าเว็บ ้ ้ ่ ขอบคุณ : http://krunum.wordpress.com/2010/06/02/social-network/ 2.2.2 ประวัตความเป็ นมาและพัฒนาการของ Social Media ิ มีเดีย (“Media”) หมายถึงสื่อหรื อเครื่ องมือที่ใช้เพื่อการสื่อสาร โซเชียล (“Social”) หมายถึงสังคม ในบริ บทของโซเชียลมีเดีย โซเชียลหมายถึงการแบ่งปันใน สังคม ซึ่งอาจจะเป็ นการ แบ่งปันเนื้อหา (ไฟล์, รสนิยมม ควม เห็น…) หรื อปฏิสมพันธ์ในสังคม (การรวมกับเป็ น กลุ่ม…) ั โซเชียลมีเดียในที่น้ ีหมายถึงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ทาให้ผใช้แสดง ความเป็ นตัวตนของตนเองเพื่อที่จะ ู้ มีปฏิสมพันธ์กบหรื อแบ่งปัน ข้อมูลกับบุคคลอื่น โซเชียลมีเดียส่วนใหญ่จะเป็ นเว็บแอปพลิเคชัน ั ั 2.0 ซึ่งจะมีการ ปฏิสมพันธ์ระหว่างผูให้และผูรับข้อมูล ั ้ ้ - ทีวีและหนังสือพิมพ์ที่เป็ นกระดาษเป็ นสื่อ แต่เป็ นสื่อของการสื่อสาร ทางเดียว ผูรับข้อมูลไม่สามารถตอบกลับผูให้ขอมูลทันทีทนใดได้ ้ ้ ้ ั - แต่โซเชียลมีเดียจะเป็ นสื่อที่มีการสื่อสาร 2 ทาง กล่าวคือผูรับ ข้อมูลสามารถ ้ แสดงความคิดเห็นหรื อตอบผูให้ ข้อมูลได้ ้ - การให้ขอคิดเห็นในบันทึกในบล็อกหรื อในวิดีโอ ้ - การพูดคุยผ่านโปรแกรมสนทนาออนไลน์หรื อเว็บบอร์ด - การให้ขอคิดเห็นและบันทึกว่าชอบสไลด์ ้
  • 3. เครื่องมือและการบริการที่เป็ นโซเชียลมีเดีย - ตีพิมพ์: บล็อก, วิกิพีเดีย, เว็บรวมที่ให้ทุกคนโพสต์ข่าว - แบ่งปัน: วิดีโอ, รู ปภาพ, ดนตรี , ลิงก์ - การอภิปราย: การเสวนา, โปรแกรมสนทนาออนไลน์ ขอขคุณ : http://www.slideshare.net/krunapon/social-media-5661152?from=ss_embed 2.2.3 ประเภทเว็บไซต์ที่ให้ บริการ Social Media (1) Blog – ซึ่งเป็ นการลดรู ปจากคาว่า Weblog ซึ่งถือเป็ นระบบจัดการเนื้อหา (Content Management System: CMS) รู ปแบบหนึ่ง ซึ่งทาให้ผใช้สามารถเขียนบทความเรี ยกว่า ู้ Post และทาการเผยแพร่ ได้โดยง่าย ไม่ยงยากในการที่จะต้องมานังเรี ยนรู้ถึงภาษา HTML หรื อ ุ่ ่ โปรแกรมทา web site ทั้งนี้การเรี ยงของเนื้อหาจะเรี ยงจากเนื้อหาที่มาใหม่สุดก่อน จากนั้นก็ ลดหลันลงไปตามลาดับของเวลา (Chronological Order) การเกิดของ Blog เปิ ดโอกาสให้ใครๆที่มี ่ ความสามารถในด้านต่างๆ สามารถเผยแพร่ ความรู้ดงกล่าวด้วยการเขียนได้อย่างเสรี ไม่มีขีดจากัด ั เรื่ องเทคนิคอย่างในอดีตอีกต่อไป ทาให้เกิด Blog ขึ้นมาจานวนมากมาย และเพิ่มเนื้อหาให้กบโลก ั ออนไลน์ได้เป็ นจานวนมหาศาลอย่างที่ไม่ เคยมีมาก่อน นอกจากนี้เครื่ องมือที่สาคัญที่ทาให้เกิด ลักษณะของ Social คือการเปิ ดให้เพื่อนๆเข้ามาแสดงความเห็นได้นนเอง ในแง่ของการตลาด Blog ั่ อาจจะถูกนามาใช้ได้ใน 2 รู ปแบบ คือ การที่บริ ษทจัดทา Blog (Corporate Blog) ขึ้นมาเพื่อพูดจากับ ั บรรดาลูกค้า และ Blog ที่เขียนจาก Blogger อิสระ ที่มีความสามารถเขียนเรื่ องที่ตนถนัดและมี ผูติดตามจานวนมาก จนกลายเป็ น Marketing Influencer ้ (2) Twitter และ Microblog อื่นๆ – เป็ นรู ปแบบหนึ่งของ Blog ที่จากัดขนาดของ การ Post แต่ละครั้งไว้ที่ 140 ตัวอักษร โดยแรกเริ่ มเดิมที ผูออกแบบ Twitter ต้องการให้ผใช้เขียน ้ ู้ เรื่ องราวว่าคุณกาลังทาอะไรอยูในขณะนี้ (What are you doing?) แต่กิจการต่างๆกลับนา Twitter ไป ่ ใช้ในทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็ นการสร้างการบอกต่อ เพิมยอดขาย สร้าง Brand หรื อเป็ นเครื่ องมือ ่ สาหรับการบริ หารความสัมพันธ์ลกค้า (CRM) ทั้งนี้เรายังสามารถใช้เป็ นเครื่ องมือในการ ู ประชาสัมพันธ์บทความใหม่ๆบน Blog ของเราได้ดวย Twitter นั้นเป็ นนิยมขึ้นมากอย่างรวดเร็ ว ้ จนทาให้เว็บไซต์ประเภท Social Network ต่างๆ เพิ่ม Feature ที่ให้ผใช้สามารถบอกได้ว่าตอนนี้ ู้ กาลังทาอะไรกันอยู่ นั้นก็คือการนา Microblog เข้าไปเป็ นส่วนหนึ่งด้วยนั้นเอง (3) Social Networking – จากชื่อก็สามารถแปลความหมายได้ว่าเป็ นเครื อข่ายที่ เชื่อมโยงเรากับเพื่อนๆจนกลายเป็ นสังคม ทั้งนี้ผใช้จะเริ่ มต้นสร้างตัวตนของตนเองขึ้นในส่วนของ ู้ Profile ซึ่งประกกอบด้วยข้อมูลส่วนตัว (Info) รู ป (Photo) การจดบันทึก (Note) หรื อการใส่วิดีโอ
  • 4. (Video) และอื่นๆ นอกจากนี้ Social Networking ยังมีเครื่ องมือสาคัญในการสร้างจานวนเพื่อนให้ มากขึ้น คือ ในส่วนของ Invite Friend และ Find Friend รวมถึงการสร้างเพื่อนจากเพื่อนของเพื่อน อีกด้วยนักการตลาดนา Social Networking มาใช้ในการมีปฏิสมพันธ์กบลูกค้า อาจจะอยูในรู ปของ ั ั ่ การสร้าง Brand ผ่านเกมส์หรื อ Application ต่างๆ หรื ออาจใช้เป็ นเครื่ องมือของ CRM ผ่านทาง Pages และนอกจากนี้ตวลูกค้าเอง หากชื่นชอบในสินค้าหรื อบริ การ ก็สามารถร่ วมกลุ่มกันจัดตั้ง ั Group ขึ้นมาได้ เว็บไซต์ที่มีลกษณะของ Social Networking มีมากมาย แต่อาจจะแบ่งได้เป็ น 2 ั ประเภท คือ ประเภทแรกจะสนใจในการสร้างเครื อข่ายระหว่างเพื่อนๆหรื อครอบครัว เช่น Facebook, Hi5 หรื อ Myspace และอีกประเภท คือสนใจในการสร้างเครื อข่ายในเชิงธุรกิจ ที่เปิ ดให้ ใส่ Resume และข้อมูลเชิงอาชีพต่างๆ เช่น Linkedin หรื อ Plaxo เป็ นต้น (4) Media Sharing – เป็ นเว็บไซต์ที่เปิ ดโอกาสให้เราสามารถ upload รู ปหรื อวิดีโอ เพื่อแบ่งปันให้กบครอบครัว เพื่อนๆ หรื อแม้กระทังเพื่อเผยแพร่ ต่อสาธารณชน นักการตลาด ณ ั ่ ปัจจุบนไม่จาเป็ นจะต้องทุ่มทุนในการสร้างหนังโฆษณาที่มีตนทุนสูง เราอาจจะใช้กล้องดิจิตอล ั ้ ราคาถูกๆ ถ่ายทอดความคิดเป็ นรู ปแบบวิดีโอ จากนั้นนาขึ้นไปสู่เว็บไซต์ Media Sharing อย่าง Youtube หากความคิดของเราเป็ นที่ชื่นชอบ ก็ทาให้เกิดการบอกต่ออย่างแพร่ หลาย หรื อกรณี หาก กิจการคุณขายสินค้าที่เน้นดีไซน์ที่สวยงาม ก็อาจจะถ่ายรู ปแล้วนาขึ้นไปสู่เว็บไซต์อย่าง Flickr เพื่อให้ลกค้าได้ชม หรื ออาจจะใช้เป็ นเครื่ องมือในการนาชมโรงงาน หรื อบรรยากาศในการทางาน ู ของกิจการ เป็ นต้น หรื ออย่างกรณี ของ Multiply ที่คนไทยนิยมนารู ปภาพที่ตนเองถ่ายมาแสดงฝี มือ เหมือนเป็ นแกลลอรี ส่วนตัว ทาให้ผว่าจ้างได้เห็นฝี มือก่อนที่จะทาการจ้าง ู้ (5) Social News and Bookmarking – เป็ นเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงไปยังบทความหรื อ เนื้อหาใดในอินเทอร์เน็ต โดยผูใช้เป็ นผูส่งและเปิ ดโอกาสให้คะแนนและทาการโหวตได้ เป็ น ้ ้ เสมือนมหาชนช่วยกลันกรองว่าบทความหรื อเนื้อหาใดนั้นเป็ นที่น่าสนใจที่สุด ในส่วนของ Social ่ Bookmarking นั้น เป็ นการที่เปิ ดโอกาสให้คุณสามารถทาการ Bookmark เนื้อหาหรื อเว็บไซต์ที่ชื่น ชอบ โดยไม่ข้ ึนอยูกบคอมพิวเตอร์เครื่ องใดเครื่ องหนึ่ง แต่สามารถทาผ่านออนไลน์ และเนื้อหาใน ่ ั ส่วนที่เราทา Bookmark ไว้น้ ี สามารถที่จะแบ่งปันให้คนอื่นๆได้ดวย นักการตลาดจะใช้เป็ น ้ เครื่ องมือในการบอกต่อและสร้างจานวนคนเข้ามายังที่เว็บไซต์หรื อ Campaign การตลาดที่ตองการ ้ (6) Online Forums – ถือเป็ นรู ปแบบของ Social Media ที่เก่าแก่ที่สุด เป็ นเสมือน สถานที่ที่ให้ผคนเข้ามาพูดคุยในหัวข้อที่พวกเขาสนใจ ซึ่งอาจจะเป็ นเรื่ อง เพลง หนัง การเมือง กีฬา ู้ สุขภาพ หนังสือ การลงทุน และอื่นๆอีกมากมาย ได้ทาการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แสดงข้อมูล ข่าวสาร ตลอดจนถึงการแนะนาสินค้าหรื อบริ การต่างๆ นักการตลาดควนสนใจเนื้อหาที่พดคุยใน ู Forums เหล่านี้ เพราะบางครั้งอาจจะเป็ นคาวิจารณ์เกี่ยวกับตัวสินค้าและบริ การของเรา ซึ่งเราเอง
  • 5. สามารถเข้าไปทาความเข้าใจ แก้ไขปัญหา ตลอดจนถึงใช้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกบลูกค้า เว็บไซต์ ั ประเภท Forums อาจจะเป็ นเว็บไซต์ที่เปิ ดให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันโดยเฉพาะ หรื ออาจจะเป็ น ส่วนหนึ่งในเว็บไซต์เนื้อหาต่างๆ ขอบคุณ : http://whitemkt.com/2011 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) 2.3.1 ความหมายของเว็บบล็อก (WebBlog) บล็อก (อังกฤษ: blog) เป็ นคารวมมาจากคาว่า เว็บล็อก (อังกฤษ: weblog) เป็ นรู ปแบบ เว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลาดับที่เรี ยงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียน ล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ ว่า เพลง หรื อวิดีโอในหลายรู ปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะ เปิ ดให้ผเู้ ข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็ นคนเขียน ซึ่งทาให้ผเู้ ขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คาว่า “บล็อก” ยังใช้เป็ นคากริ ยาได้ซ่ึงหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผที่เขียนบล็อกเป็ นอาชีพก็จะถูกเรี ยกว่า “บล็อกเกอร์ ” ู้ บล็อกเป็ นเว็บไซต์ท่ีมีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยูกบเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็ น ่ ั เครื่ องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ ผลงาน ในหลายด้านไม่ ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรื อข่าวปัจจุบน นอกจากนี้บล็อกที่ถกเขียนเฉพาะเรื่ องส่วนตัวหรื อ ั ู จะเรี ยกว่าไดอารี ออนไลน์ ซึ่งไดอารี ออนไลน์นี่เองเป็ นจุดเริ่ มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบน ั นอกจากนี้ตามบริ ษทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทาบล็อกของทางบริ ษทขึ้น เพื่อเสนอแนว ั ั ความเห็นใหม่ใหักบลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับการ ั ตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อ ขอบคุณ : http://th.wikipedia.org/wiki 2.3.2 ประเภทของเว็บบล็อก 1. แบ่ งตามลักษณะของมีเดียที่มในบล็อก ได้ แก่ ี 1.1. Linklog บล็อกแบบนี้น่าจะเป็ นบล็อกรุ่ นแรก ๆ เป็ นบล็อกที่รวมลิ๊งก์ที่เจ้าของ บล็อกสนใจเอาไว้ ถ้าคณยังจาผูให้กาเนิดคาว่า “บล็อก” ที่ชื่อ จอห์น บาจเจอร์ได้ นันแหล่ะครับ ้ ่ robotwisdom.com ของเขาคือตัวอย่างของ linklog นันเอง แม้ว่าจะบล็อกแบบนี้จะเป็ นการรวมลิ๊งก์ ่ เท่านั้น แต่ก็ไม่เรี ยงเหมือนว็บไดเร็ กทอรี่ เพราะเจ้าของบล็อกจะโพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อ โพสต์เท่านั้นครับ ใครที่อยากมีบล็อกเป็ นของตนเองแต่ยงนึกไม่ออกว่าจะทาบล็อกแบบไหน ั linklog น่าจะเป็ นการเริ่ มต้นการทาบล็อกได้เป็ นอย่างดี
  • 6. 1.2 Photoblog ชื่อก็บอกอยูแล้วครับว่า Photo บล็อกประเภทนี้เน้นในโพสต์ภาพถ่ายที่ ่ เจ้าของบล็อกอยากนาเสนอ และมักจะไม่เน้นที่จะเขียนข้อความมากนัก บางบล็อกเรี ยกได้ว่าภาพ โดยเจ้าของบล็อกล้วน ๆ เลยครับ 1.3. Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็ นบล็อกที่รวมวิดีโอคลิปไว้ในบล็อก Vlog เป็ น บล็อกที่เรี ยกได้ว่าเป็ นบล็อกที่นิยมทากันมากในอนาคต เพราะการเจริ ญเติบโตของไฮสปี ด อินเตอร์เน็ต หรื อ อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทาให้การถ่ายทอดเสียง ภาพเคลื่อนไหว movie […] 2. แบ่ งตามประเภทเนือหา ได้ แก่ ้ 2.1 บล็อกส่ วนตัว(Personal Blog) นาแสนอความคิดเห็น กิจวัตรประจาวันของเจ้าของ บล็อกเป็ นหลัก 2.2 บล็อกข่ าว(News Blog) บล็อกที่นาเสนอข่าวเป็ นหลัก 2.3 บล็อกกลุ่ม(Collaborative Blog) เป็ นบล็อกที่เขียนกันเป็ นกลุ่ม เช่น blognone.com 2.4 บล็อกการเมือง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่ องการเมืองล้วน ๆ 2.5 บล็อกเพือสิ่งแวดล้อม(Environment Blog) พูดถึงเรื่ องราวของธรรมชาติและการ ่ รักษาสิ่งแวดล้อม 2.6 มีเดียบล็อก(Media Blog) เป็ นบล็อกที่วิเคราะห์สื่อต่างๆ สารคดีและสิ่งที่เกี่ยวกับ สื่อ เช่น oknation.net/blog/black ของสุทธิชย หยุน ั ่ 2.7 บล็อกบันเทิง(Entertainment Blog) บล็อกที่นาเสนอเรื่ องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่ องซุบซุดารา กองถ่าย ฯลฯ 2.8 บล็อกเพือการศึกษา(Educational Blog) ในโรงเรี ยน หรื อมหาวิทยาลัยใน ่ ต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็ นสื่อในการสอนหรื อ แลกเปลี่ยน ความคิดกัน 2.9 ติวเตอร์ บล็อก(Tutorial Blog) เป็ นบล็อกที่นาเสนอวิธีการต่าง ขอบคุณ: http://jingjai-21.blogspot.com/2007/09/blog_7483.html 2.3.3 เว็บไซต์ที่ให้ บริการเว็บบล็อก www.blogger.com www.exteen.com www.mapandy.com www.buddythai.com
  • 7. www.imigg.com www.5iam.com www.blogprathai.com www.ndesignsblog.com www.idatablog.com www.inewblog.com www.onblogme.com www.freeseoblogs.com ขอบคุณ : http://book.manacomputers.com/free-make-blog-list-and-adsense/ 2.3.4 ประวัตของเว็บไซต์ Wordpress ิ WordPress คือ โปรแกรมสาเร็ จรู ปตัวหนึ่ง ที่เอาไว้สาหรับสร้าง บล็อก หรื อ เว็บไซต์ สามารถใช้งานได้ฟรี ถูกจัดอยูในประเภท CMS (Contents Management System) ซึ่งหมายถึง ่ โปรแกรมสาเร็ จรู ปที่มีไว้สาหรับสร้างและบริ หารจัดการเนื้อหาและข้อมูลบนเว็บไซต์ WordPress ได้รับการพัฒนาและเขียนชุดคาสังมาจากภาษา PHP (เป็ นภาษาโปรแกรมมิ่งตัว ่ หนึ่ง) ทางานบนฐานข้อมูล MySQL ซึ่งเป็ นโปรแกรมสาหรับจัดการฐานข้อมูล มีหน้าที่เก็บ เรี ยกดู แก้ไข เพิ่มและลบข้อมูล การใช้งานWordPress ร่ วมกับ MySQL อยูภายใต้สญญาอนุญาตใช้งาน ่ ั แบบ GNU General Public License WordPress ปรากฏโฉมครั้งแรกในโลกเมื่อปี พ.ศ. 2546 (2003) เป็ นความร่ วมมือกันระหว่าง Matt Mullenweg และ Mike Littlej มีเว็บไซต์หลักอยูที่ http://wordpress.org และยังมีบริ การ Free ่ Hosting (พื้นที่สาหรับเก็บทุกอย่างของเว็บ/บล็อก) โดยขอใช้บริ การได้ที่ http://wordpress.com ปัจจุบนนี้ WordPress ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ ว จนมีผใช้งานมากกว่า 200 ล้าน ั ู้ เว็บบล็อกไปแล้ว แซงหน้า CMS ตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็ น Drupal , Mambo และ Joomla สาเหตุเป็ น เพราะ ใช้งานง่าย ไม่จาเป็ นต้องมีความรู้ในเรื่ อง Programing มีรูปแบบที่สวยงาม อีกทั้งยังมีผพฒนา ู้ ั Theme (รู ปแบบการแสดงผล) และ Plugins (โปรแกรมเสริ ม) ให้เลือกใช้ฟรี อย่างมากมาย นอกจากนี้ สาหรับนักพัฒนา WordPress ยังมี Codex เอาไว้ให้เราได้เป็ นไกด์ไลน์ เพื่อศึกษา องค์ประกอบส่วนต่าง ๆ ที่อยูภายใน สาหรับพัฒนาต่อยอด หรื อ นาไปสร้าง Theme และ Plugins ่ ขึ้นมาเองได้อีกด้วย หนาซ้ า ยังมีรุ่นพิเศษ คือ WordPress MUสาหรับไว้ให้ผนาไปใช้ สามารถเปิ ด ู้
  • 8. ให้บริ การพื้นที่ทาเว็บบล็อกเป็ นของตนเอง เพื่อให้ผอื่นมาสมัครขอร่ วมใช้บริ การในการสร้างเว็บ ู้ บล็อก ภายใต้ชื่อโดเมนของเขา หรื อที่เรี ยกว่า Sub-Domain ขอบคุณ : http://wordpress.9supawat.com/10/what-is-wordpress.html