Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต ประถม (20)
Mehr von Ta Lattapol (13)
สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต ประถม
- 3. ส่วนต่างๆ ของร่างกายสามารถจัดระบบของการทางาน จากย่อยไปใหญ่ ดังนี้
เนื้อเยื่อ (tissue)
อวัยวะ (organ)
ระบบอวัยวะ
(organ system)
ร่างกาย (body)เซลล์ (cell) เป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต ซึ่งร่างกายของ
มนุษย์ประกอบด้วยเซลล์จานวนหลายล้านเซลล์ ในแต่ละเซลล์จะมี ความ
แตกต่างกัน ทั้งขนาดและรูปร่างขึ้นอยู่กับหน้าที่ของเซลล์นั้นๆ
เซลล์ (cell)
ชื่อเซลล์: เม็ดเลือดแดง
ลักษณะ: กลมแบน ตรงกลางเว้า
คล้ายโดนัท
หน้าที่: ลาเลียงออกซิเจน
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 3
- 4. ส่วนต่างๆ ของร่างกายสามารถจัดระบบของการทางาน จากย่อยไปใหญ่ ดังนี้
เนื้อเยื่อ (tissue)
อวัยวะ (organ)
ระบบอวัยวะ
(organ system)
ร่างกาย (body)เซลล์ (cell) เป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต ซึ่งร่างกายของ
มนุษย์ประกอบด้วยเซลล์จานวนหลายล้านเซลล์ ในแต่ละเซลล์จะมี ความ
แตกต่างกัน ทั้งขนาดและรูปร่างขึ้นอยู่กับหน้าที่ของเซลล์นั้นๆ
เซลล์ (cell)
ชื่อเซลล์: กล้ามเนื้อ
ลักษณะ: แบน ยาว แต่เมื่อหด
ตัวจะพองออก
หน้าที่: ยืดหดเพื่อให้เกิดการ
เคลื่อนไหว
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 4
- 5. ส่วนต่างๆ ของร่างกายสามารถจัดระบบของการทางาน จากย่อยไปใหญ่ ดังนี้
อวัยวะ (organ)
ระบบอวัยวะ
(organ system)
ร่างกาย (body)
เซลล์ (cell)
เนื้อเยื่อ (tissue) คือกลุ่มของเซลล์ที่มีรูปร่างเหมือนกัน ทาหน้าที่เดียวกันมา
อยู่ร่วมกัน เช่น
เนื้อเยื่อประสาท(nerve) มีหน้าที่ประสานงานในการรับความรู้สึกการสั่งงาน
เนื้อเยื่อ (tissue)
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 5
- 6. ส่วนต่างๆ ของร่างกายสามารถจัดระบบของการทางาน จากย่อยไปใหญ่ ดังนี้
อวัยวะ (organ)
ระบบอวัยวะ
(organ system)
ร่างกาย (body)
เซลล์ (cell)
เนื้อเยื่อ (tissue) คือกลุ่มของเซลล์ที่มีรูปร่างเหมือนกัน ทาหน้าที่เดียวกันมา
อยู่ร่วมกัน เช่น
เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ(muscle) มีหน้าที่ช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ทางานได้
เนื้อเยื่อ (tissue)
1. กล้ามเนื้อลาย (skeleton muscle)
ทางานอยู่ภายใต้อานาจจิตใจ เช่น
กล้ามเนื้อยึดกระดูกขา
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 6
- 7. ส่วนต่างๆ ของร่างกายสามารถจัดระบบของการทางาน จากย่อยไปใหญ่ ดังนี้
อวัยวะ (organ)
ระบบอวัยวะ
(organ system)
ร่างกาย (body)
เซลล์ (cell)
เนื้อเยื่อ (tissue) คือกลุ่มของเซลล์ที่มีรูปร่างเหมือนกัน ทาหน้าที่เดียวกันมา
อยู่ร่วมกัน เช่น
เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ(muscle) มีหน้าที่ช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ทางานได้
เนื้อเยื่อ (tissue)
2. กล้ามเนื้อเรียบ (smooth muscle)
ทางานอยู่นอกอานาจจิตใจ เช่น
กล้ามเนื้อกระเพาะ
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 7
- 8. ส่วนต่างๆ ของร่างกายสามารถจัดระบบของการทางาน จากย่อยไปใหญ่ ดังนี้
อวัยวะ (organ)
ระบบอวัยวะ
(organ system)
ร่างกาย (body)
เซลล์ (cell)
เนื้อเยื่อ (tissue) คือกลุ่มของเซลล์ที่มีรูปร่างเหมือนกัน ทาหน้าที่เดียวกันมา
อยู่ร่วมกัน เช่น
เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ(muscle) มีหน้าที่ช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ทางานได้
เนื้อเยื่อ (tissue)
3. กล้ามเนื้อหัวใจ (cardiac muscle)
ทางานอยู่นอกอานาจจิตใจ
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 8
- 9. เซลล์ (cell)
ส่วนต่างๆ ของร่างกายสามารถจัดระบบของการทางาน จากย่อยไปใหญ่ ดังนี้
เนื้อเยื่อ (tissue)
ระบบอวัยวะ
(organ system)
ร่างกาย (body)อวัยวะ (organ) คือโครงสร้างที่
ประกอบด้วยเนื้อเยื่อ หลายชนิดอยู่รวมกัน
ทาหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น
หัวใจเป็นอวัยวะที่ประกอบด้วยเนื้อเยื่อหุ้ม
หัวใจ อวัยวะ (organ)
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 9
- 10. อวัยวะ (organ)
เซลล์ (cell)
ส่วนต่างๆ ของร่างกายสามารถจัดระบบของการทางาน จากย่อยไปใหญ่ ดังนี้
เนื้อเยื่อ (tissue)
ระบบอวัยวะ
(organ system)
ร่างกาย (body)ระบบอวัยวะ (organ system)
คือ โครงสร้างที่ประกอบด้วยอวัยวะ
หลาย ๆ อวัยวะมาทาหน้าที่ร่วมกัน
อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น
ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหายใจ
ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย
ระบบประสาท เป็นต้น
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 10
- 11. อวัยวะ (organ)
เซลล์ (cell)
ส่วนต่างๆ ของร่างกายสามารถจัดระบบของการทางาน จากย่อยไปใหญ่ ดังนี้
เนื้อเยื่อ (tissue)
ระบบอวัยวะ
(organ system)
ร่างกาย (body)
สรุปการจัดระบบ
ในร่างกายของมนุษย์
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 11
- 18. ระบบย่อยอาหาร
1.1 ฟัน (teeth) ที่ทาหน้าที่คอยบดเคี้ยวอาหารให้เล็กลงโดย
ฟันมี 2 ชุดคือ ฟันน้านมและฟันแท้
- ฟันน้า นม มี 20 ซี่ เริ่มขึ้นเมื่ออายุ 6 เดือนถึง 13 ปี
- ฟันแท้มี 32 ซี่
- ฟันหน้า สาหรับตัดอาหาร 8 ซี่
- ฟันเขี้ยว สาหรับฉีกอาหาร 4 ซี่
- ฟันกรามหน้าและกรามหลัง สาหรับบดเคยวอาหารอีก 8 และ
12 ซี่
1. ปาก (month)
ปาก
ทวารหนัก
คอหอย
ลาไส้ใหญ่
หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร
ลาไส้เล็กไส้ตรง
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 18
- 19. ระบบย่อยอาหาร
1.2 เพดานอ่อน (soft palate) เพดานอ่อนจะเลื่อน
ปิดปลายโพรงจมูกขณะที่มีการกลืนอาหาร
1.3 ต่อมน้าลาย (salivary gland) ทาหน้าที่สร้าง
น้าลาย(saliva) ประกอบด้วย น้า น้าเมือก เอนไซม์อะ
ไมเลส (amylase), NaHCO3, แร่ธาตุ เช่น ฟอสฟอรัส (P)
คลอรีน (Cl)
ต่อมน้าลายมีด้วยกัน 3 คู่ คือ ต่อมน้าลายบริเวณกกหู
ต่อมน้าลายใต้ขากรรไกรล่างและต่อมน้าลายใต้ลิ้น ผลิต
น้า ลายไดว้นัละ 1-1.5 ลิตร
1. ปาก (month)
ปาก
ทวารหนัก
คอหอย
ลาไส้ใหญ่
หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร
ลาไส้เล็กไส้ตรง
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 19
- 20. ระบบย่อยอาหาร
1.4 ลิ้น (tongue) คอยคลุกเคล้าอาหารให้ผสมกับน้าลาย
และมีต่อมรับรส (test bud) กระจายอยู่ทั่ว
• โดยปลายลิ้นรับรสหวาน
• โคนลิ้นรับรสขม
• ข้างลิ้นรับรสเปรี้ยว
• ปลายลิ้นรับรสขม
การย่อยในปากมีเฉพาะการย่อยแป้งเท่าน้ัน โดยอาหารที่
ผ่านการย่อยจะเป็นก้อนเรียกว่า โบลัส (bolus) แล้วเลื่อนผ่าน
คอหอยโดยการกลืน
1. ปาก (month)
ปาก
ทวารหนัก
คอหอย
ลาไส้ใหญ่
หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร
ลาไส้เล็กไส้ตรง
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 20
- 23. ระบบย่อยอาหาร
เป็นบริเวณที่มีการย่อยทั้งแบบเชิงกลและทางเคมี มีรูปร่างคล้ายตัว
เจ (J) มีกล้ามเนื้อหูรูดทั้งบนและล่าง
กระเพาะสามารถดูดซึมอาหารได้เป็นแห่งแรก เช่น สามารถดูดซึม
แอลกอฮอล์ วิตามินบี 12 และแร่ธาตุบางชนิด กระเพาะอาหารมีการ
หลั่งกรดเกลือหรือไฮโดรคลอริก (HCI) เพื่อปรับสภาพให้เหมาะสมกับ
การทางานของเอนไซม์
4. กระเพาะอาหาร
(stomach)
ปาก
ทวารหนัก
คอหอย
ลาไส้ใหญ่
หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร
ลาไส้เล็กไส้ตรง
กระเพาะจึงสร้างเมือกขึ้นมาเพื่อป้องกันกรดเกลือทาลาย
ผนังกระเพาะอาหาร
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 23
- 26. ระบบย่อยอาหาร
1. ลาไส้ตอนต้น หรือ ดูโอดีนัม (duodenum) รับน้าย่อยจากตับ
อ่อนและรับน้าดีจากตับ (น้าดีมีสีเขียว รสขม และมีสมบัติเป็นเบส)
ลาไส้ส่วนนั้นเป็นส่วนที่มีการทาการย่อยมากที่สุด สามารถย่อย
คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันได้
2.ลาไส้ส่วนกลาง หรือ เจจูนัม (jejunum) เป็นส่วนที่ดูดซึม
อาหารที่ย่อยแล้วมากที่สุด
3.ลาไส้ส่วนท้าย หรือ ไอเลียม (ileum) ย่อยและดูดซึมอาหารที่
เหลือ
5. ลาไส้เล็ก
(Small Intestine)
ปาก
ทวารหนัก
คอหอย
ลาไส้ใหญ่
หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร
ลาไส้เล็กไส้ตรง
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 26
- 28. ระบบย่อยอาหาร
การย่อยอาหารในลาไส้เล็ก
2. ย่อยสารอาหารโปรตีนต่อจากกระเพาะอาหาร โดย
• เอนไซม์ทริปซินย่อยพอลีเพปไทด์ให้ส้ันลง
• คาร์บอกซิเพปทิเดส และอะมิโนเพปทิเดสย่อยที่ปลายพอลีเพปไทด์ได้กรดอะมิโนหลุด
ออกมาที่ละโมเลกุล
3.ย่อยไขมันโดยเอนไซม์ไลเพสจะย่อยไขมันโมเลกุลเล็ก (emulsified fat) >>
กรดไขมัน + กลีเซอรอล
5. ลาไส้เล็ก
(Small Intestine)
ปาก
ทวารหนัก
คอหอย
ลาไส้ใหญ่
หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร
ลาไส้เล็กไส้ตรง
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 28
- 30. ระบบย่อยอาหาร
ตับ (liver)
ทาหน้าที่ผลิตน้าดี (bile) มีฤทธิ์เป็นเบสอ่อนๆ แล้ว
นาไปเก็บไว้ที่ถุงน้าดี (gall bladder) โดยน้าดีทาให้ไขมัน
แตกตัวเป็นหยดไขมันเล็ก ๆ น้าดีไม่ใช่เอนไซม์เพราะ
ไม่ใช่สารประกอบประเภทโปรตีน เมื่อทาปฏิกิริยาแล้วจะ
เปลี่ยนสภาพไป
5. ลาไส้เล็ก
(Small Intestine)
ปาก
ทวารหนัก
คอหอย
ลาไส้ใหญ่
หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร
ลาไส้เล็กไส้ตรง
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 30
- 33. ระบบย่อยอาหาร
ลาไส้ใหญ่แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ
1. ซีกัม (Caecum) เป็นลาไส้ตอนต้น มีไส้ติ่งติดอยู่
2. โคลอน (Colon) เป็นลาไส้ตอนกลาง รูปร่างตวัดขึ้น ตวัด
ขวางลาตัว ตวัดลง และตวัดเป็นรูปตัวเอส
3. ลาไส้ตรง (Rectum) เป็นลาไส้ตอนปลายเก็บกักอาหาร
ก่อนส่งทางรูทวารหนัก
ลาไส้ใหญ่จะมีการดูดน้าและเกลือแร่เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น เมื่อ
กากอาหารอยู่ส่วนนี้นานเกินไปหรือรับประทานอาหารที่มีกาก
อาหารน้อย จะทาให้เกิดท้องผูก และเกิดเป็นโรคริดสีดวงทวาร
6. ลาไส้ใหญ่
(Large Intestine)
ปาก
ทวารหนัก
คอหอย
ลาไส้ใหญ่
หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร
ลาไส้เล็กไส้ตรง
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 33
- 34. ระบบย่อยอาหาร
ตาแหน่ง สารที่ย่อย น้าย่อย สารที่ได้
ปาก แป้ง ไทยาลิน (อะไมเลส) เดกซ์ทริน
กระเพาะ โปรตีน เปปซิน กรดอะมิโน
ลาไส้เล็ก แป้ง
ไขมัน
โปรตีน
พอลิเปปไทด์
เปปไทด์
Amylase
lipase
Trypsin
Chymotrypasin
carboxypeptidase
สร้างจากตับอ่อน มอลโทส
กรดไขมัน+กลีเซอรอล
เปปไทด์,กรดอะมิโน
เปปไทด์,กรดอะมิโน
กรดอะมิโน
แป้ง
น้ําตาลโมเลกุลคู่
เปปไทด์
Amylase
Disaccharase
peptidase
สร้างจากผนัง
ลาไส้เล็ก
มอลโทส
น้ําตาลโมเลกุลเดี่ยว
กรดอะมิโน
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 34
- 39. ระบบหมุนเวียนเลือด
แต่ละห้องทาหน้าที่ดังนี้
ห้องบน (atrium) ทาหน้าที่รับเลือดเข้าสู่หัวใจจากหลอด
เลือดเวน
- ห้องบนซ้าย (left atrium) รับเลือดแดงที่มาจากปอด
- ห้องบนขวา (right atrium) รับเลือดดาจากส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ห้องล่าง (ventricle) ทาหน้าที่สูบฉีดเลือดจากหัวใจไปยัง
หลอดเลือดอาร์เทอรี
- ห้องล่างซ้าย (left ventricle) สูบฉีดเลือดแดงไปยังส่วนต่างๆ ของ
ร่างกาย (เป็นห้องที่มีความหนาที่สุด)
- ห้องล่างขวา (right ventricle) สูบฉีดเลือดดาไปยังปอด
เลือดดา(ออกซิเจนต่า)
1. หัวใจ (Heart)
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 39
- 41. ระบบหมุนเวียนเลือด
1. เส้นเลือดดา หรือ เวน (vein) นาเลือดจาก
ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเข้าสู่หัวใจ แรงดันเลือดต่า
ผนังเส้นเลือดบาง ส่วนใหญ่เป็นเลือดที่มีออกซิเจน
ต่า ยกเว้นเส้นเลือดดาที่นาเลือดที่ฟอกแล้วจากปอด
มาสู่หัวใจจะมีออกซิเจนสูง
2. เส้นเลือด (Blood vessels)
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 41
- 42. ระบบหมุนเวียนเลือด
2. เส้นเลือดแดง หรือ อาร์เทอรี (artery) นา
เลือดออกจากหัวใจไปยังอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
ผนังเส้นเลือดหนาและมีความยดืหยนุ่ มากเพื่อ
ต้านทานต่อแรงดันเลือดที่ถูกบีบออกจากหัวใจ เลือด
ที่อยู่ในเส้นเลือดแดงโดยทั่วไปมีสีแดงหรือออกซิเจน
สูง ยกเว้นเส้นเลือดแดงที่นาเลือดไปยังปอดเพื่อนา
เลือดดาไปฟอก
2. เส้นเลือด (Blood vessels)
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 42
- 43. ระบบหมุนเวียนเลือด
3. เส้นเลือดฝอย (capillary) เป็นเส้นเลือดที่
เชื่อมต่อระหว่างอาร์เทอรีและเวน มีขนาดเล็กจานวน
มากผนังบางแทรกอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
เป็นบริเวณที่มีการแลกเปลี่ยนอาหารแก๊ส สารต่างๆ
และของเสียระหว่างเลือดกับเซลล์
2. เส้นเลือด (Blood vessels)
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 43
- 44. ระบบหมุนเวียนเลือด
น้าเลือด (พลาสมา) ประกอบด้วยน้ําประมาณ 91 เปอร์เซ็นต์ ทาหน้าที่
ลาเลียงเอนไซม์ ฮอร์โมน แก๊ส แร่ธาตุ วิตามิน และสารอาหารประเภทต่างๆ ที่
ผ่านการย่อยอาหารมาแล้วไปให้เซลล์ทั่วร่างกาย และรับของเสียจากเซลล์ เช่น
ยูเรีย แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ น้า ส่งไปกาจัดออกนอกร่างกาย
3. เลือด (Blood)
55% เป็นของเหลว เรียกว่า น้าเลือด (พลาสมา)
45% เป็นของแข็ง ได้แก่ เซลล์เม็ดเลือด
และเกล็ดเลือด
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 44
- 46. ระบบหมุนเวียนเลือด
เซลล์เม็ดเลือดแดง มีลักษณะค่อนข้างกลมตรง
กลางจะเว้าเข้าหากัน (คล้ายขนมโดนัท) เนื่องจาก
ไม่มีนิวเคลียสองค์ประกอบ ส่วนใหญ่จะเป็นสาร
ประเภทโปรตีนที่เรียกว่า ฮีโมโกลบิน ซึ่งมีสมบัติใน
การรวมตัวกับแก๊สต่างๆ ได้ดี เช่น แก๊สออกซิเจน
(ออกซิฮีโมโกลบิน คือ เลือดที่มีแก๊สออกซิเจนมาก)
แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ มีหน้าที่ในการแลกเปลี่ยน
แก๊ส โดยจะลาเลียงแก๊สออกซิเจน ไปยังส่วนต่างๆ
ของร่างกาย และลาเลียงแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
จากส่วนต่างๆ ของร่างกาย กลับไปที่ปอด
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 46
- 49. ระบบหมุนเวียนเลือด
เกล็ดเลือด (Platelets) เป็นชิ้นส่วนของเซลล์ ซึ่งมีรูปร่างกลมรี และแบน
เกล็ดเลือดมีอายุประมาณ 4 วัน ทาหน้าที่ช่วยให้เลือดแข็งตัวเมื่อมีการไหลของ
เลือดจากหลอดเลือดออกสู่ภายนอก
3. เลือด (Blood)
55% เป็นของเหลว เรียกว่า น้าเลือด (พลาสมา)
45% เป็นของแข็ง ได้แก่ เซลล์เม็ดเลือด
และเกล็ดเลือด
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 49
- 54. ระบบหมุนเวียนเลือด
- อายุ เมื่ออายุเพิ่มขึ้นอัตราการเต้นของชีพจรจะลดลง ในผู้ใหญ่อัตราการเต้น
ของชีพจร 60-100 (เฉลี่ย 80/ ครั้งต่อวินาที)
- เพศ หลังวัยรุ่น ค่าเฉลี่ยของอัตราการเต้นของชีพจรของผู้ชายจะต่ํากว่าหญิง
เล็กน้อย
- การออกกาลังกาย อัตราการเต้นของชีพจรจะเพิ่มขึ้น
- ยาบางชนิด ลดอัตราการเต้นของชีพจร เช่น ยาโรคหัวใจ เช่น digitalis
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อชีพจร
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 54
- 56. ทดสอบความเข้าใจ
ระบบหมุนเวียนเลือด
___ 1. ระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิด เลือดจะไหลจากเส้นเลือดสัมผัส
กับเซลล์โดยตรง
___ 2. หัวใจตั้งอยู่ระหว่างปอดทั้งสองข้าง ค่อนไปทางขวาเล็กน้อย
___ 3. ผู้ใหญ่จะสร้างเม็ดเลือดแดงที่ไขกระดูก
___ 4. เม็ดเลือดขาวมีหน้าที่หลั่งสารแอนติบอดีทาลายเชื้อโรค
___ 5. หัวใจห้องบนซ้ายเลือดจะมีออกซิเจนต่า
Copyright © 2015 by Miss Wanwisa Panphanoun 56