Power Point 2007 ครูอัมพร หวานใจ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ กาญจนบุรี

1. Power Point 2007
ครูอัมพร หวานใจ
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ กาญจนบุรี

2. ปฐมนิเทศ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ กาญจนบุรี
ประจาปี การศึกษา 2556

3. เกณฑ์การประเมิน
80-100 = 4
75-79 = 3.5
70-74 = 3
65-69 = 2.5
60-64 = 2
55-59 = 1.5
50-54 = 1
คะแนนไม่ถึง 50
ไม่ผ่านเกณฑ์
การประเมินนะคะ 

4. แนะนาโปรแกรม
โปรแกรม Power Point เป็นโปรแกรมที่มี
ประสิทธิภาพสูงในการนาเสนอข้อมูลในรูปของ Slide โดย
สามารถนาข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว และเสียงมา
ประกอบในการสร้าง Slide เพื่อให้เกิดความสวยงาม

5. ประโยชน์ของ Power Point
1. สามารถสร้างงานนาเสนอได้อย่างมืออาชีพ
2. สามารถนาองค์ประกอบ Multimedia ต่าง ๆ มา
ใช้ได้
3. สามารถเตรียมเอกสารประกอบคาบรรยาย
4. สามารถแปลงเป็น Slide 35 mm

6. ความสามารถใหม่ของโปรแกรม
Smart Tag : ปุ่มอัจฉริยะ
Task Pane : หน้าต่างรวมคาสั่ง
Office Clipboard : คัดลอกข้ามโปรแกรม
Other : สั่งงานด้วยเสียง, อ่าน
ลายมือ, กู้ข้อมูล

7. ขั้นตอนการเตรียมงาน Presentation
1. การวางโครงร่าง
การวางความชัดเจนในสิ่งที่ต้องการสื่อสาร โดยศึกษากลุ่ม
ผู้ฟังว่ามีลักษณะเช่นไร การเตรียมนาเสนอเป็นการถ่ายทอด
ความคิดของเราเป็นแนวทางทาให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับงานที่
จะนาเสนอ

8. ขั้นตอนการเตรียมงาน Presentation
2. การลงรายละเอียดเนื้อหา
การลงรายละเอียดในหัวข้อต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นที่กลุ่มผู้ชม
เป็นหลักว่าสไลด์ของเราต้องมีเนื้อหา หรือรูปแบบการนาเสนอ
แบบใดจึงเหมาะสม

9. ขั้นตอนการเตรียมงาน Presentation
3. ปรับแต่งสไลด์ให้สวยงาม
หลังจากที่เราได้ใส่ข้อความที่ต้องการสื่อสารไปแล้ว
ต่อไปเราจะต้องทาการปรับแต่งตัวอักษร สีที่ใช้กับสไลด์ และ
รูปแบบขององค์ประกอบต่าง ๆ ที่แสดงเพื่อให้สไลด์ดูสวยงาม
และน่าติดตาม

10. ขั้นตอนการเตรียมงาน Presentation
4. การใส่ข้อความ รูปภาพ กราฟ ฯลฯ ในสไลด์
เป็นการนาเสนอสิ่งต่าง ๆ ที่เราต้องการนาเสนอมาใส่ใน
สไลด์แต่ละแผ่น โดยเราอาจใช้เวลานานพอสมควรในการ
ตระเตรียมข้อมูลให้ตรง และสนับสนุนประเด็นที่เราต้องการ
นาเสนอ

11. ขั้นตอนการเตรียมงาน Presentation
5. เพิ่มความน่าสนใจในขณะนาเสนอสไลด์
ถ้าใช้คอมพิวเตอร์ในการนาเสนอสไลด์ก็อาจนาเทคนิคใน
การเปลี่ยนสไลด์มาใช้เพิ่มความน่าสนใจให้กับการนาเสนอ
ข้อมูลได้เช่น การเลื่อนแผ่นสไลด์แผ่นใหม่

12. ขั้นตอนการเตรียมงาน Presentation
6. เตรียมการนาเสนอจริง
ก่อนถึงเวลาที่เราต้องการนาเสนอ ควรซ้อมการพูดให้เข้า
กับแผ่นสไลด์ที่เตรียม โดยอาจมีการจับเวลา เพื่อจะได้ทราบว่า
การบรรยายใช้เวลาอย่างเหมาะสมหรือไม่

13. ขั้นตอนการเตรียมงาน Presentation
7. การเตรียมเอกสารประกอบการบรรยายแจกผู้ฟัง
หลังจากที่ได้ซักซ้อม จนพร้อมนาเสนอสไลด์ที่ได้จัดทา
ไว้แล้ว สิ่งสุดท้ายที่สาคัญที่สุด คือ การพิมพ์เอกสาร
ประกอบการบรรยาย การจัดทาเอกสารแจกให้ผู้เข้าฟังจะทาให้
ผู้ฟังไม่ต้องเสียเวลาในการจดจ่อฟังสิ่งที่เราต้องการสื่อสาร

14. การเปิ ดโปรแกรม
ปุ่ ม Start
Programs
Microsoft Office
Microsoft Office PowerPoint 2007

15. keekorn@hotmail.com
15
ส่วนประกอบหน้าจอ

16. การใช้งาน Menu Bar
1. ใช้เมาส์คลิกเลือกเมนู
2. Alt + ตัวอักษรที่มีขีดเส้นใต้ เช่น Alt + F เป็นการเปิดเมนู
File
***หากเมนูเป็ นภาษาไทย จะใช้ Alt +
ตัวอักษรภาษาไทยที่ขีดเส้นใต้ เช่น Alt + ฟ
เป็ นการเปิ ดเมนูแฟ้ ม (File)***

17. สถานะของคาสั่งใน Menu Bar
1. คาสั่งที่มีสีเข้ม หมายถึง คาสั่งนั้นสามารถใช้งานได้
2. คาสั่งที่มีสีจาง หมายถึง คาสั่งนั้นไม่สามารถใช้งานได้
3. คาสั่งที่มี ... ต่อท้าย หมายถึง เมื่อเรียกใช้คาสั่งนั้น ๆ แล้ว
จะปรากฏ Dialog Box
4. คาสั่งที่มีสามเหลี่ยมสีดาต่อท้าย หมายถึง คาสั่งนั้น
ยังมีคาสั่งย่อยต่อไปอีก

18. รูปแบบการแสดง Menu
1. แสดงคาสั่งบางส่วน : ทางด้านล่างสุดของเมนูคาสั่งจะ
มีเครื่องหมาย ต่อท้ายด้านล่าง ซึ่งหากต้องการ
แสดงคาสั่งทั้งหมดต้องคลิกที่ หรือรอสักครู่
2. แสดงคาสั่งทั้งหมด : สามารถเรียกใช้คาสั่งที่สามารถ
ใช้ได้ทันที

19. keekorn@hotmail.com
19
Slide Pane
Slide Tab
Outline Tab
Buttons ViewStatus BarDrawing Tool
Note Pane
Task Pane
ToolbarMenu Bar
Title Bar

20. การแสดง/ยกเลิก Tool Bar
1. Menu View > Tool Bar > เลือก Tool
Bar ที่ต้องการ
2. คลิกขวาที่ Tool Bar ใด ๆ ก็ได้ > เลือก Tool
Bar ที่ต้องการ

21. เมนูลัดที่น่าสนใจ
Shortcut Key รายละเอียด
<Ctrl>+<B> โหมดการจัดรูปแบบตัวอักษรแบบตัวหนา
<Ctrl>+<I> โหมดการจัดรูปแบบตัวอักษรแบบตัวเอียง
<Ctrl>+<U> โหมดการจัดรูปแบบตัวอักษรแบบตัวขีดเส้นใต้
<Ctrl>+<O> สาหรับเปิ ดไฟล์งานนาเสนอ
<Ctrl>+<S> สาหรับบันทึกไฟล์งานนาเสนอ

22. เมนูลัดที่น่าสนใจ
Shortcut Key รายละเอียด
<Ctrl>+<P> การพิมพ์งานนาเสนอที่กาลังทางานอยู่ออกทาง
เครื่องพิมพ์
<Ctrl>+<C> การคัดลอกข้อมูล หรือวัตถุที่เลือกเก็บลงใน
Clipboard
<Ctrl>+<X> การเคลื่อนย้ายข้อมูลเก็บลงใน Clipboard
<Ctrl>+<V> วางข้อมูล หรือวัตถุจาก Clipboard ในตาแหน่ง
ปัจจุบันที่เลือกไว้

23. เมนูลัดที่น่าสนใจ
Shortcut Key รายละเอียด
<Ctrl>+<Home> เลื่อนตัวชี้ไปยังตาแหน่งเริ่มต้น
<Ctrl>+<End> เลื่อนตัวชี้ไปยังตาแหน่งสุดท้ายของกลุ่มข้อมูลที่
กาลังทางานอยู่

24. การสร้างเอกสารใหม่
1. Menu File > New
2. Ctrl + N
3. Tool Bar

25. การบันทึก File
1. Menu File > Save / Save As /
2. เลือกแหล่งจัดเก็บในช่อง Save in :
3. ตั้งชื่อ File ในช่อง File Name
4. คลิกปุ่ม Save

26. การเปิ ดเอกสารเก่า
1. Menu File > Open
2. Ctrl + O
3. Tool Bar

27. การปิ ดเอกสาร
1. Menu File > Close
2. Alt + F4
3. Control Button

28. การปิ ดโปรแกรม
1. Menu File > Exit
2. Alt + F4
3. Control Button

29. Auto Content Wizard
Auto Content Wizard เป็นการสร้าง Slide
แบบง่ายด้วยเครื่องมือช่วยของโปรแกรม โดยสร้างตาม
ขั้นตอนที่โปรแกรมให้มา จากนั้นจึงเข้าไปแก้ไขข้อมูลใน
Slide ให้เป็นข้อมูลตามต้องการ

30. Auto Content Wizard
1. Menu File > New
2. ที่ Task Pane เลือก From Auto Content
Wizard
3. คลิก Next
4. เลือกชนิดของงานที่ต้องการ
5. คลิก Next

31. Auto Content Wizard
6. เลือกรูปแบบการนาเสนอ ซึ่งมีให้เลือก ดังนี้
6.1 On-Screen Presentation : นาเสนอบน
จอคอมพิวเตอร์
6.2 Web Presentation : นาเสนอบนเว็บ
6.3 Black and White Overheads : นาเสนอบนเครื่อง
ฉายภาพขาว-ดา
6.4 Color Overheads : นาเสนอบนเครื่องฉายภาพสี
6.5 35 mm Slide : แปลงเป็น Slide แบบ 35 mm เพื่อใช้
กับเครื่องฉายทั่วไป
7. คลิก Next

32. Auto Content Wizard
8. กาหนดรายละเอียดอื่น ๆ ซึ่งมีดังนี้
8.1 Presentation Title : กาหนดชื่อเรื่อง
8.2 Footer : กาหนดข้อความส่วนท้ายของ Slide
8.3 Date Last Updated : กาหนดให้แสดงวันที่ที่ปรับปรุง
ครั้งล่าสุด
8.4 Slide Number : กาหนดให้แสดงหมายเลข Slide
9. คลิก Next
10. คลิก Finish

33. การเลื่อน Slide
ขณะทางานในมุมมอง Normal View จะเห็น
Slide ทีละแผ่น หากต้องการเลื่อน เพื่อดู Slide ถัดไป
หรือก่อนหน้าสามารถทาได้ดังนี้
1. คลิกเมาส์ที่ /
2. กดปุ่ม Page Up/Page Down
3. คลิกเมาส์ที่ Scroll Bar ขึ้นลง
4. ลูกศรสี่ทิศที่แป้ นพิมพ์

34. ประเภทของมุมมอง
1. Menu View > เลือกมุมมองตามต้องการ
2. เลือกมุมมองที่ Button View

35. ประเภทของมุมมอง
Normal View : เป็นมุมมองพื้นฐาน ซึ่งจะแสดงมุมมอง
แสดงมุมมองการทางาน 2 แบบ คือ
แบบ คือ Outline (โครงร่าง) และ
Slide View
Slide Sorter : แสดงลาดับ Slide ทั้งหมด
Show View : นาเสนองานชิ้นงาน
Note Page : บันทึกย่อใต้ Slide
***เรียกใช้มุมมอง Note Page ได้จาก Menu Bar เท่านั้น***

36. การตั้งค่าหน้ากระดาษ
1. Menu File > Page Setup
2. กาหนดรายละเอียดตามต้องการ
3. คลิกปุ่ม OK

37. รายละเอียดการตั้งค่าหน้ากระดาษ
1. Slides sized for : ขนาด Slide
2. Width : ความกว้างของ Slide
3. Height : ความสูงของ Slide
4. Number Slides From : หมายเลข Slide เริ่มต้น
5. Orientation Slides : แนวการวาง Slide
6. Orientation Notes, Handouts & Outline :
แนวการวาง Note

38. การดูตัวอย่างภาพก่อนพิมพ์
1. Menu File > Print Preview
2. Tool Bar

39. การพิมพ์งานนาเสนอ
1. Menu File > Print
2. Ctrl + P
3. Tool Bar

40. รายละเอียด Print
1. รายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องพิมพ์
2. รายละเอียดเกี่ยวกับ Slide
3. รายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์สาเนา
4. รายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะการพิมพ์
5. รายละเอียดเกี่ยวกับสีการพิมพ์
6. รายละเอียดอื่น ๆ

41. รายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องพิมพ์
1. Name : เลือกชื่อ และรุ่นของเครื่องพิมพ์
2. Properties : กาหนดคุณสมบัติของเครื่องพิมพ์
3. Find Printer : ค้นหาเครื่องพิมพ์
4. Print to file : กาหนดให้พิมพ์เก็บในแฟ้ มข้อมูล

42. รายละเอียดเกี่ยวกับ Slide
1. All : พิมพ์ Slide ทั้งหมด
2. Current Slide : พิมพ์เฉพาะ Slide ปัจจุบัน
เท่านั้น
3. Selection : เลือกพิมพ์เฉพาะวัตถุ
4. Slides : กาหนด Slide พิมพ์ตามต้องการ เช่น
1,4-7

43. รายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์สาเนา
1. Number of Copies : กาหนดจานวนชุดในการ
พิมพ์
2. Collate : กาหนดให้พิมพ์เป็นชุด

44. รายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะการพิมพ์
1. Slide : พิมพ์หน้ากระดาษละ 1 Slide
2. Handouts : พิมพ์แบบกาหนดจานวน Slide ต่อ
1 หน้ากระดาษ ซึ่งมีแบบ 1,2,3,4,6,9
3. Notes Pages : พิมพ์ Slide และ Note ด้านล่าง
ใน 1 หน้ากระดาษ
4. Outline View : พิมพ์เฉพาะหัวข้อ

45. Handouts
หากเลือกลักษณะการพิมพ์เป็นแบบ Handouts
สามารถกาหนดรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ดังนี้
1. Slides per page : กาหนดจานวนสไลด์ต่อหนึ่ง
หน้ากระดาษ
2. Order : กาหนดรูปแบบการจัดลาดับการเรียงสไลด์ ซึ่งมี
แบบแนวนอน (Horizontal) และแบบแนวตั้ง (Vertical)

46. รายละเอียดเกี่ยวกับสีการพิมพ์
1. Color : กาหนดให้พิมพ์สี
2. Grayscale : กาหนดให้พิมพ์ในระดับสีเทา
3. Pure Black and White: กาหนดให้พิมพ์ใน
ระดับสีดา และขาว

47. รายละเอียดอื่น ๆ
1. คลิก  Scale to Fit Paper ถ้าต้องการกาหนด
ขนาดสไลด์ให้พอดีกับขนาดกระดาษ
2. คลิก  Frame Slides ถ้าต้องการกาหนดเฟรม
ให้กับสไลด์ก่อนพิมพ์
3. คลิก  Print Hidden Slides ถ้าต้องการ
กาหนดให้พิมพ์สไลด์ที่ซ่อน

48. การใช้ Office Assistant
1. Menu Help > Microsoft Office
PowerPoint Help
2. F1
3. Tool Bar

49. การเปลี่ยนรูปแบบ Slide
1. Menu Format > Slide Layout
2. เลือกรูปแบบ Slide ที่ต้องการจาก Task Pane

50. รูปแบบต่างๆ ของ Slide Layout
แทนชื่อเรื่อง (Title)
แทนข้อความที่มีสัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อย (Text)
แทนตารางข้อมูล (Table)
แทนกราฟ (Chart)
แทนแผนผังองค์กร (Organization)
แทนเสียง และ File วีดีโอ (Media Clip)

51. รูปแบบต่างๆ ของ Slide Layout
แทนรูปภาพ
แทน Diagrams

52. การแทรก Slide ใหม่
1. Menu Insert > New Slide
2. Ctrl + M
3. Tool Bar

53. การใช้ Outline Pane
คลิกเมาส์ที่ Outline Tab เพื่อเปลี่ยนมุมมอง ซึ่ง
ในการทางานนั้นต้องพิจารณาจากส่วนของการทางานว่า
ทางานอยู่ ณ ส่วนใด เนื่องจากผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกัน
ดังนี้

54. การใช้ Outline Pane
1. กรณีที่ Cursor อยู่ในส่วนของ Title
1.1 กดปุ่ ม Enter เป็นการสร้าง Slide ใหม่
1.2 กดปุ่ ม Shift + Enter เป็นการขึ้นบรรทัดใหม่
1.3 กดปุ่ ม Ctrl + Enter เป็นการย้ายไปทางานในส่วน
ของ Text
1.4 กดปุ่ ม Tab เป็นการเปลี่ยนลาดับความสาคัญของ
ข้อความจาก Title เป็น Text

55. การใช้ Outline Pane
2. กรณีที่ Cursor อยู่ในส่วนของ Title
2.1 กดปุ่ ม Enter เป็นการขึ้นบรรทัดใหม่
2.2 กดปุ่ ม Shift + Enter เป็นการขึ้นบรรทัดใหม่ และย่อ
หน้า
2.3 กดปุ่ ม Ctrl + Enter เป็นการสร้าง Slide ใหม่
2.4 กดปุ่ ม Tab เป็นการย่อหน้า
2.5 กดปุ่ ม Shift + Tab เป็นการเปลี่ยนลาดับความสาคัญ
ของข้อความจาก Text เป็น Title

56. การพิมพ์ข้อความลง Slide
คลิกเมาส์ในกล่องที่มีข้อความว่า Click to add
title หรือ Click to add sub-title หรือข้อความอื่น
ๆ จากนั้นพิมพ์ข้อความที่ต้องการลงไป

57. การเลือกข้อความ
1. วางเมาส์ (I-Beam) แล้วลากคลุมข้อความที่
ต้องการเลือก
2. วางเมาส์ (I-Beam) แล้วดับเบิ้ลคลิกที่คาที่ต้องการ
เลือก
3. Menu Edit > Select All / Ctrl + A
4. วางเมาส์ด้านหน้าบรรทัดให้เป็นเมาส์สีขาวชี้ไป
ด้านขวา จากนั้นคลิกเพื่อเลือกบรรทัดที่ต้องการ

58. การลบข้อความ
1. เลือกข้อความที่ต้องการจากนั้นกดปุ่ม Delete ที่
แป้ นพิมพ์
2. เลือกข้อความที่ต้องการจากนั้นไปที่ Menu Edit >
Clear

59. การวาง หรือแทนที่ข้อความ
1. เลือกข้อความที่ต้องการจากนั้นพิมพ์ข้อความใหม่ลงไป
2. เลือกข้อความที่ต้องการจากนั้นไปที่ Menu Edit >
Paste
3. เลือกข้อความที่ต้องการจากนั้นคลิกขวา > Paste
4. เลือกข้อความที่ต้องการจากนั้นกด Ctrl + V
5. เลือกข้อความที่ต้องการจากนั้นคลิก Tool Bar

60. การย้ายตาแหน่งข้อความ
1. เลือกข้อความที่ต้องการจากนั้นไปที่ Menu Edit >
Cut
2. เลือกข้อความที่ต้องการจากนั้นคลิกขวา > Cut
3. เลือกข้อความที่ต้องการจากนั้นกด Ctrl + X
4. เลือกข้อความที่ต้องการจากนั้นคลิก Tool Bar

61. การคัดลอกข้อความ
1. เลือกข้อความที่ต้องการจากนั้นไปที่ Menu Edit >
Copy
2. เลือกข้อความที่ต้องการจากนั้นคลิกขวา > Copy
3. เลือกข้อความที่ต้องการจากนั้นกด Ctrl + C
4. เลือกข้อความที่ต้องการจากนั้นคลิก Tool Bar

62. การเปลี่ยนแบบตัวพิมพ์ภาษาอังกฤษ
1. เลือกข้อความภาษาอังกฤษ
2. Menu Format > Change Case
3. เลือกรูปแบบตัวพิมพ์ตามต้องการ

63. รายละเอียดรูปแบบตัวพิมพ์
Sentence case : ตัวแรกของประโยคเท่านั้นที่
เป็นตัวพิมพ์ใหญ่
lower case : เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด
UPPER CASE: เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด
Title Case : ตัวแรกของคาเป็นตัวพิมพ์ใหญ่
tOGGLE cASE: สลับตัวพิมพ์เล็กเป็นพิมพ์ใหญ่
และพิมพ์ใหญ่เป็นพิมพ์เล็ก

64. การแทนที่ชนิดตัวอักษร
1. เลือกข้อความที่ต้องการเปลี่ยนชนิดข้อความ
2. Menu Format > Replace Fonts
3. กาหนดรายละเอียดตามต้องการ

65. การยกเลิก / ทาซ้า
1. Menu Edit > Undo / Redo
2. Ctrl + Z / Ctrl + Y
3. Tool Bar /

66. การตรวจสอบตัวสะกด
1. Menu Tools > Spelling
2. F7
3. Tool Bar
***โปรแกรมไม่สามารถตรวจสอบ
ตัวสะกดภาษาไทยได้***

67. การตรวจสอบตัวสะกด
กรณีที่โปรแกรมพบคาที่สะกดผิด จะปรากฏหน้าต่าง
ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
1. Change to : คาที่จะนาไปเปลี่ยน
2. Suggestions : คาศัพท์ที่โปรมแกรมหามาให้

68. การค้นหาคา
1. Menu Edit > Find
2. Ctrl + F
3. กาหนดรายละเอียด ดังนี้
3.1 Find What : คาที่ต้องการค้นหา
3.2 Match Case : ตรวจสอบตัวพิมพ์
3.3 Find Whole Word Only : ตรวจสอบ
เฉพาะคา
4. คลิก Find Next

69. การแทนที่คา
1. Menu Edit > Replace
2. Ctrl + H
3. กาหนดรายละเอียด ดังนี้
3.1 Find What : คาที่ต้องการค้นหา
3.2 Replace With : คาที่ต้องการแทนที่
3.2 Match Case : ตรวจสอบตัวพิมพ์
3.3 Find Whole Word Only : ตรวจสอบเฉพาะคา
4. คลิก Replace/Replace All

70. Outline Tool Bar
เลื่อนซ้าย ย้ายลง ขยายหัวข้อ สร้างสไลด์สรุป
เลื่อนขวา ยุบหัวข้อ ขยายหัวข้อทั้งหมด
ย้ายขึ้น ยุบหัวข้อทั้งหมด
แสดง/ซ่อนรูปแบบตัวอักษร

71. การปรับลาดับหัวข้อ
1. การปรับเพิ่มความสาคัญของลาดับหัวข้อ
1.1 Tab
1.2 Formatting Tool Bar
1.3 Outline Tool Bar
2. การปรับลดความสาคัญของลาดับหัวข้อ
2.1 Shift + Tab
2.2 Formatting Tool Bar
2.3 Outline Tool Bar

72. การเปลี่ยนลาดับหัวข้อ/Slide
1. ลากเมาส์ไปวางในตาแหน่งที่ต้องการ
2. Outline Tool Bar /

73. การลบ Slide
เลือก Slide ที่ต้องการลบ จากนั้นใช้คาสั่ง Delete
Slide ได้ดังนี้
1. Menu Edit > Delete Slide
2. คลิกขวา > Delete Slide
3. กดปุ่ม Delete ที่แป้ นพิมพ์

74. การแสดง/ซ่อนหัวข้อใน Slide
ใน Outline Pane ดับเบิ้ลคลิกที่ 1 ครั้งจะเป็น
การซ่อนหัวข้อต่าง ๆ ใน Outline Pane และเมื่อทาการ
ดับเบิ้ลคลิกซ้าจะเป็นการสั่งให้แสดงหัวข้อต่าง ๆ ใน Slide

75. การใส่สัญลักษณ์พิเศษ
1. วาง Cursor ในตาแหน่งที่ต้องการแทรกสัญลักษณ์พิเศษ
2. Menu Insert > Symbol
3. Font : เลือกรูปแบบอักขระ
4. เลือกสัญลักษณ์พิเศษที่ต้องการ
5. คลิกปุ่ ม Insert
6. คลิกปุ่ ม Close

76. การทางานใน View Sorting
ซ่อน Slide
ตั้งเวลาในการบรรยาย Slide
Summary Slide
บันทึกย่อ
Effect พิเศษ
รูปแบบการวาง Slide
แทรก Slide ใหม่

77. Duplicate Slide
1. เลือก Slide ที่ต้องการ Duplicate
2. Menu Insert > Duplicate Slide

78. การแทรกสไลด์จากไฟล์
1. Menu Insert > Slide From file
2. คลิกปุ่ ม Browse
3. เลือกไฟล์ที่ต้องการแทรก
4. เลือก Slide
5. คลิก Insert เพื่อแทรกเฉพาะ Slide ที่เลือก หรือ
Insert All เพื่อแทรก Slide ทั้งหมดที่มีใน File นั้น ๆ
6. คลิกปุ่ ม Close

79. Summary Slide
1. เลือก Slide ที่ต้องการทา Summary
2. คลิก ที่ Outline Tool Bar

80. การสร้างบันทึกย่อ
คลิกเมาส์ในกล่องที่มีข้อความว่า Click to add
notes ด้านล่างแล้วพิมพ์บันทึกย่อได้ตามต้องการ ซึ่งหาก
ในขณะนาเสนอ ต้องการดูบันทึกย่อ ผู้ฟังก็จะเห็นบันทึกย่อ
นี้เช่นกัน

81. Office Clipboard
Menu Edit > Office Clipboard > เลือกใช้ข้อมูล
ใน Clipboard ตามต้องการ

82. Formatting Tool Bar
ชนิดตัวอักษร ขีดเส้นใต้
ตัวหนา เงา
ขนาดตัวอักษร ตัวเอียง

83. Formatting Tool Bar
จัดชิดซ้าย จัดชิดขวา
จัดกึ่งกลาง

84. Formatting Tool Bar
Numbering อ่านข้อความขวาไปซ้าย
Bullet ขยายขนาดตัวอักษร
อ่านข้อความซ้ายไปขวา
ย่อขนาดตัวอักษร

85. Formatting Tool Bar
ลดการเยื้อง
สีตัวอักษร แทรก Slide ใหม่
เพิ่มการเยื้อง Slide Design

86. การจัดรูปแบบข้อความด้วย Menu Bar
เลือกข้อความที่ต้องการจัดรูปแบบ > Menu
Format > Font > จัดรูปแบบตามต้องการ

87. รายละเอียดการจัดรูปแบบข้อความ
Latin Text Font : กาหนดชนิดตัวอักษร
ภาษาอังกฤษ
Complex Script Font: กาหนดชนิดตัวอักษร
ภาษาไทย
Font Style : กาหนดรูปแบบให้
ตัวอักษร
Font Size : กาหนดขนาดให้ตัวอักษร

88. รายละเอียดการจัดรูปแบบข้อความ
Effects
Underline : ขีดเส้นใต้
Shadows : ใส่เงา
Emboss : ตัวอักษรนูน
Super Script : ตัวยก
Sub Script : ตัวห้อย
Color : กาหนดสีให้ตัวอักษร

89. Format Painter
1. เลือกข้อความที่ต้องการคัดลอกรูปแบบ
2. คลิก ที่ Standard Tool Bar
3. ลากเมาส์คลุมข้อความปลายทาง

90. การเลือก Slide สาเร็จรูป
1. Menu Format > Slide Design
2. เลือกรูปแบบตามต้องการที่ Task Pane

91. การสร้าง Template ไว้ใช้งาน
1. สร้าง Slide ต้นแบบ
2. Menu File > Save As
3. Save as Type : เลือกเป็น Design Template
4. Save in : เลือกแหล่งจัดเก็บ
5. File Name : ตั้งชื่อ Template
6. คลิกปุ่ ม Save

92. การเรียกใช้ Template ที่สร้างไว้
1. เปิดโปรแกรม
2. Menu Format > Slide Design
3. คลิก Browse ด้านล่างของ Task Pane
4. Look in : เลือกแหล่งที่จัดเก็บ Template
5. เลือก Template ที่ต้องการ
6. คลิกปุ่ม Apply

93. การสร้าง Slide ต้นแบบ
1. Menu View > Master > Slide Master
2. กาหนดรายละเอียดต่าง ๆ ตามต้องการ
3. คลิกปุ่ ม เพื่อเพิ่ม Title Slide
4. กาหนดรายละเอียดให้กับ Title Slide
5. คลิกปุ่ ม Close Master View ที่ Slide Master View
Tool Bar

94. การสร้าง Handout Master
1. Menu View > Master > Handout Master
2. กาหนดรายละเอียดต่าง ๆ ตามต้องการ
3. คลิกปุ่ ม Close Master View ที่ Handout
Master View Tool Bar

95. การสร้าง Notes Master
1. Menu View > Master > Notes Master
2. กาหนดรายละเอียดต่าง ๆ ตามต้องการ
3. คลิกปุ่ ม Close Master View ที่ Notes Master
View Tool Bar

96. การกาหนดโครงร่างสี
1. Menu Format > Slide Design > Color
Schemes
2. เลือกรูปแบบโครงร่างสีที่ต้องการ

97. รายละเอียดโครงร่างสี
Background : สีพื้นหลัง
Text and Line : สีข้อความ และสีเส้น
Shadow : สีเงา
Title Text : สีชื่อเรื่อง
Fill : สีเพิ่มเติม
Accent : สีข้อความที่ถูกเน้น

98. รายละเอียดโครงร่างสี
Accent and Hyperlink : สีส่วนที่ถูก
เน้น และเป็นจุดเชื่อมโยง
Accent and Followed Hyperlink : สีส่วนที่ถูก
เน้น และมีการใช้จุดนี้เชื่อมโยงแล้ว

99. การกาหนดสีพื้น Slide
1. Menu Format > Background
2. กาหนดสีตามต้องการ
3. เลือก Apply เพื่อนาไปใช้กับ Slide ปัจจุบัน หรือ
เลือก Apply to All เพื่อนาไปใช้กับทุก Slide

100. การกาหนด Bullet
1. Menu Format > Bullets and
Numbering
2. กาหนด Slide Layout เป็นแบบที่มี Bullets
3. เลือกข้อความที่ต้องการกาหนด Bullets หรือ
Numbering แล้วคลิก Tool Bar

101. การกาหนดระยะห่างระหว่างบรรทัด
1. Menu Format > Line Space…
2. กาหนดรายละเอียด ซึ่งมีดังนี้
Line Spacing : ระยะห่างระหว่างบรรทัด
ในย่อหน้าเดียวกัน
Before Paragraph : ระยะห่างก่อนขึ้นย่อหน้า
After Paragraph : ระยะห่างหลังจบย่อหน้า

102. การกาหนดหัวกระดาษ/ท้ายกระดาษ
1. Menu View > Header and Footer
2. กาหนดรายละเอียด ซึ่งมีดังนี้
Date and Time : กาหนดวันที่ และเวลา
Slide Number : กาหนดหมายเลข Slide
Footer : กาหนดข้อความส่วนท้าย Slide
Don’t Show on Title Slide: ไม่ให้แสดงหัวกระดาษ/
ท้ายกระดาษใน Title Slide

103. การแสดง/ซ่อนไม้บรรทัด
Menu View > Ruler
*** หากไม่แสดงไม้บรรทัดจะไม่สามารถทา
การตั้ง Tab ได้ ***

104. 104
การตั้ง Tab
ทาการเลือกสัญลักษณ์ Tab ที่ต้องการจากนั้นทา
การกาหนดที่ไม้บรรทัด ซึ่ง Tab มีหลายประเภท ดังนี้
แท็บทศนิยมDecimal Tab
แท็บกึ่งกลางCenter Tab
แท็บชิดขวาRight Tabs
แท็บชิดซ้ายLeft Tabs***สัญลักษณ์ Tab จะปรากฏขึ้นเมื่อทาการ
แสดงไม้บรรทัด และมีการคลิกเมาส์
ในกล่องข้อความให้มี Cursor กระพริบอยู่***

105. การกาหนดขนาด Slide
Menu File > Page Setup > กาหนดรายละเอียด
ดังนี้
Slide Size for : รูปแบบ Slide
Width : ความกว้างของ Slide
Height : ความสูงของ Slide
Number Slides From : หมายเลข Slide เริ่มต้น
Orientation : แนวการพิมพ์ Slide

106. เครื่องมือวาดรูป
วาดเส้นตรง
วาดรูปทรงอิสระ
เลือกวัตถุ
เมนูคาสั่งของ Drawing Toolbar

107. สร้างไดอะแกรม
สร้างอักษรศิลป์
กรอบพิมพ์ข้อความ
วาดวงกลม
วาดสี่เหลี่ยม
สร้างลูกศร
เครื่องมือวาดรูป

108. แทรกภาพจากคลิปอาร์ท
แทรกภาพจากไฟล์ในเครื่อง
กาหนดความหนาเส้น
ใส่สีอักษร
ใส่สีเส้น
ใส่สีพื้น
เครื่องมือวาดรูป

109. กาหนดรูปแบบเส้น
กาหนดภาพ 3 มิติ
แรเงาวัตถุ
กาหนดหัวลูกศร
เครื่องมือวาดรูป

110. เมนูคาสั่งของ Drawing Toolbar
1. Group : รวมกลุ่มวัตถุ
2. Ungroup : ยกเลิกการ
รวมกลุ่มวัตถุ
3. Regroup : รวมกลุ่มซ้า
4. Order : การจัดลาดับวัตถุ
5. Grid and Guide : ตั้งค่าเส้น
Grid และ Guide

111. เมนูคาสั่งของ Drawing Toolbar
6. Nudge : เลื่อนวัตถุ
7. Align or Distribute :
จัดเรียงกลุ่มวัตถุ
8. Rotate or Flip : หมุน หรือ
พลิกวัตถุ
9. Reroute Connectors : ย้าย
ตาแหน่ง Connector ไปยัง
ตาแหน่งที่เหมาะสมกว่า

112. เมนูคาสั่งของ Drawing Toolbar
10. Edit Point : แก้ไขจุด
11. Change AutoShape :
เปลี่ยนวัตถุ
12. Set AutoShape Defaults
: กาหนดค่ารูปแบบของพื้น และ
เส้นวัตถุให้กับ Auto Shape
อื่น ๆ

113. Order
ย้ายวัตถุไปไว้บนสุด ย้ายวัตถุไปไว้ล่างสุด
ย้ายวัตถุขึ้น 1 ลาดับ ย้ายวัตถุลง 1 ลาดับ

114. Nudge
เลื่อนวัตถุขึ้น เลื่อนวัตถุลง
เลื่อนวัตถุไปทางซ้าย เลื่อนวัตถุไปทางขวา

115. Align or Distribute
1. Align Left : ด้านซ้ายของกลุ่ม
วัตถุตรงกัน
2. Align Center : ตรงกลางของ
กลุ่มวัตถุตรงกัน
3. Align Right : ด้านขวาของกลุ่ม
วัตถุตรงกัน

116. Align or Distribute
4. Align Top : ด้านบนของกลุ่ม
วัตถุตรงกัน
5. Align Middle : ตรงกลางของ
กลุ่มวัตถุตรงกัน
6. Align Bottom : ด้านล่างของ
กลุ่มวัตถุตรงกัน

117. Align or Distribute
7. Distribute Horizontally :
ระยะห่างระหว่างวัตถุแนวนอนเท่ากัน
8. Distribute Vertically :
ระยะห่างระหว่างวัตถุแนวตั้งเท่ากัน
9. Relative to Slide : จัดเรียงกลุ่ม
วัตถุ โดยยึดเอาขอบ Slide เป็นหลัก

118. Rotate or Flip
1. Free Rotate : หมุนวัตถุอิสระ
2. Rotate Left 90
o
: หมุนวัตถุ
ไปทางซ้าย 90
o
3. Rotate Right 90
o
: หมุนวัตถุ
ไปทางขวา 90
o
4. Flip Horizontal : พลิกวัตถุแนวนอน
5. Flip Vertical : พลิกวัตถุแนวตั้ง

119. เลือกวัตถุ
เครื่องมือการเลือกวัตถุนี้ใช้เมื่อต้องการเลือกวัตถุ
เพื่อที่จะทาการคัดลอก ย้าย ลบ หมุน ปรับขนาด หรือ
จัดรูปแบบวัตถุ ซึ่งการเลือกวัตถุนี้มีการเลือก 4 รูปแบบ
ดังนี้

120. เลือกวัตถุ
1. เลือกวัตถุ1 ชิ้น โดยการคลิกเมาส์ที่วัตถุที่ต้องการ
2. เลือกวัตถุหลายชิ้นไม่ติดกัน โดยการกดปุ่ ม Shift ที่
แป้ นพิมพ์ขณะคลิกเมาส์เลือกวัตถุ
3. เลือกวัตถุหลายชิ้นติดกัน โดยการลากเมาส์คลุมวัตถุ
4. เลือกวัตถุทั้งหมด โดยการไปที่ Menu Edit > Select
All / Ctrl + A

121. การคัดลอกวัตถุ
1. Menu Edit > Copy
2. Ctrl + C
3. Tool Bar

122. การย้ายวัตถุ
1. Menu Edit > Copy
2. Ctrl + C
3. Tool Bar
4. ลากวัตถุไปวางในตาแหน่งที่ต้องการ

123. การลบวัตถุ
1. เลือกวัตถุที่ต้องการลบ
2. Menu Edit > Clear / กดปุ่ม Delete ที่
แป้ นพิมพ์

124. การหมุนวัตถุ
1. วางเมาส์ที่ ให้เมาส์ปรากฏสัญลักษณ์
2. คลิกเมาส์ค้างไว้ เมาส์จะเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์
จากนั้นทาการลาก เพื่อหมุนวัตถุตามต้องการ

125. การปรับขนาดวัตถุ
1. เลือกวัตถุที่ต้องการปรับขนาด
2. วางเมาส์ตาม Handle ของวัตถุ เมาส์จะเปลี่ยนเป็น
สัญลักษณ์
3. ลากเมาส์เพื่อย่อ / ขยายตามต้องการ

126. การจัดรูปแบบวัตถุ
1. คลิกขวาที่วัตถุ > Format AutoShape
2. ดับเบิ้ลคลิกที่วัตถุ

127. วาดรูปทรงอิสระ

128. การใส่ข้อความในวัตถุ
1. คลิกขวาที่วัตถุ > Add Text
2. พิมพ์ข้อความตามต้องการ

129. การแก้ไขข้อความในวัตถุ
1. คลิกขวาที่วัตถุ > Edit Text
2. พิมพ์ข้อความตามต้องการ

130. วาดเส้นตรง
1. คลิก เมาส์จะมีสัญลักษณ์เป็น
2. ลากเมาส์ เพื่อวาดเส้นตรง
3. ทาการตกแต่งเส้นตรง ดังนี้
3.1 เลือกสีเส้นที่
3.2 เลือกความหนาเส้นที่
3.3 เลือกรูปแบบเส้นที่
***การกด Shift ค้างไว้ขณะวาดเส้น
จะช่วยให้เส้นที่วาดตรงตามต้องการ***

131. สร้างลูกศร
1. คลิก เมาส์จะมีสัญลักษณ์เป็น
2. ลากเมาส์ เพื่อสร้างลูกศร
3. ทาการตกแต่งลูกศร ดังนี้
3.1 เลือกสีเส้นที่
3.2 เลือกความหนาเส้นที่
3.3 เลือกรูปแบบเส้นที่
3.4 เลือกรูปแบบหัวลูกศรที่
***การกด Shift ค้างไว้ขณะวาดลูกศร
จะช่วยให้ลูกศรที่วาดตรงตามต้องการ***

132. วาดสี่เหลี่ยม
1. คลิก เมาส์จะมีสัญลักษณ์เป็น
2. ลากเมาส์ เพื่อวาดสี่เหลี่ยม
3. ทาการตกแต่งสี่เหลี่ยม ดังนี้
3.1 เลือกสีพื้นวัตถุที่
3.2 เลือกสีเส้นวัตถุที่
3.3 เลือกความหนาเส้นวัตถุที่
3.4 เลือกรูปแบบเส้นวัตถุที่
***การกด Shift ค้างไว้ขณะวาดสี่เหลี่ยม
จะช่วยให้สี่เหลี่ยมที่วาดเป็ นสี่เหลี่ยมจัตุรัส***

133. วาดวงกลม
1. คลิก เมาส์จะมีสัญลักษณ์เป็น
2. ลากเมาส์ เพื่อวาดวงกลม
3. ทาการตกแต่งวงกลม ดังนี้
3.1 เลือกสีพื้นวัตถุที่
3.2 เลือกสีเส้นวัตถุที่
3.3 เลือกความหนาเส้นวัตถุที่
3.4 เลือกรูปแบบเส้นวัตถุที่
***การกด Shift ค้างไว้ขณะวาดวง
จะช่วยให้วงที่วาดเป็ นวงกลม***

134. กรอบพิมพ์ข้อความ
1. คลิก เมาส์จะมีสัญลักษณ์เป็น
2. ลากเมาส์ เพื่อวาดกรอบพิมพ์ข้อความ
3. ทาการตกแต่งกรอบพิมพ์ข้อความ ดังนี้
3.1 เลือกสีพื้นวัตถุที่
3.2 เลือกสีเส้นวัตถุที่
3.3 เลือกความหนาเส้นวัตถุที่
3.4 เลือกรูปแบบเส้นวัตถุที่

135. สร้างอักษรศิลป์
1. คลิกที่
2. เลือกรูปแบบอักษรศิลป์ตามต้องการ
3. คลิกปุ่ม OK
4. เลือกชนิดตัวอักษร และขนาดตัวอักษร
5. พิมพ์ข้อความที่ต้องการ
6. คลิกปุ่ม OK

136. Word Art Tool Bar
สร้างอักษรศิลป์
แก้ไขข้อความ
เปลี่ยนรูปแบบข้อความศิลป์
เปลี่ยนสีข้อความศิลป์
เปลี่ยนรูปทรงข้อความศิลป์

137. Word Art Tool Bar
ตัวอักษรพิมพ์เล็ก และพิมพ์ใหญ่ใน
ภาษาอังกฤษสูงเท่ากัน
เปลี่ยนแนวข้อความศิลป์
จัดตาแหน่งข้อความศิลป์ เมื่อข้อความศิลป์
อยู่ในกรอบ
ระยะห่างระหว่างตัวอักษร

138. สร้าง Diagram
1. คลิกที่
2. เลือกสิ่งที่ต้องการสร้าง
3. คลิกปุ่ม OK

139. Diagram
1. Organization Chart : แผนผังองค์กร ใช้แสดง
ลาดับสายการบังคับบัญชาในองค์กร
2. Cycle Diagram : ไดอะแกรมวงกลม ใช้แสดงขั้นตอน
ที่ต่อเนื่องกันเป็นรอบวนในการทางาน
3. Step Diagram : ไดอะแกรมเป้ าหมาย ใช้แสดง
ขั้นตอนการทางาน เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ที่ต้องการ

140. Diagram
4. Radial Diagram : ไดอะแกรมรัศมี ใช้แสดง
ความสัมพันธ์ของลูกค้ากับแกนหลัก
5. Venn Diagram : ไดอะแกรมเวนน์ ใช้แสดงพื้นที่ที่มี
ความสัมพันธ์กับพื้นที่ใดในลักษณะการทับกัน เช่น แสดงว่ามี
คุณสมบัติ หรือเงื่อนไขใดบ้างที่ตรงกัน
6. Pyramid Diagram : ไดอะแกรมพีระมิด ใช้แสดง
ความสัมพันธ์ของข้อมูล โดยอ้างอิง และแสดงชั้นข้อมูลรูป
พีระมิด

141. การสร้าง Diagram
1. เลือก Slide รูปแบบ Diagram
2. Tool Bar

142. วิธีการสร้างไดอะแกรมพีระมิด
1. เลือกไดอะแกรมรูปพีระมิด
2. คลิกปุ่ม OK
3. คลิกในกรอบด้านบนสุด เพื่อพิมพ์ข้อความ
4. กรอกข้อความในช่องอื่นๆ จนครบ
5. เพิ่มชั้นของพีระมิดด้วยการคลิกขวาที่ชั้นพีระมิด > Insert
Shape หรือที่ Diagram Tool Bar

143. แทรกภาพจากคลิปอาร์ท
1. คลิกที่ / Menu Insert > Picture > Clip
Art…
2. ที่ Task Pane คลิกที่ Clip Organizer
3. เลือกหมวดหมู่ภาพ
4. ลากรูปภาพที่ต้องการมาวางที่ Slide Pane

144. แทรกภาพจากไฟล์ในเครื่อง
1. คลิกที่ / Menu Insert > Picture >
From File…
2. เลือกแหล่งจัดเก็บรูปภาพ
3. เลือกรูปภาพที่ต้องการ
4. คลิกปุ่ม Insert

145. การแรเงาวัตถุ
1. คลิกที่
2. เลือกรูปแบบเงาตามต้องการ
3. คลิกที่ Shadow Settings... เพื่อกาหนด
รายละเอียดเพิ่มเติม

146. Shadow Settings
แสดง/ยกเลิกเงา สีเงา
เลื่อนตาแหน่งเงา

147. การกาหนดภาพ 3 มิติ
1. คลิกที่
2. เลือกรูปแบบ 3 มิติตามต้องการ
3. คลิกที่ 3-D Settings เพื่อกาหนดรายละเอียด
เพิ่มเติม

148. 3-D Settings
แสดง/ยกเลิก 3 มิติ สีของมิติที่ 3
ความลึก
หมุนภาพ 3 มิติ มุมมอง รูปแบบภาพ
ทิศทางแสง

149. แบบฝึ กหัด
ให้นักศึกษาวาดรูปโดยใช้เครื่องมือบนแถบรูปวาดช่วย
ในการทางาน พร้อมทั้งใช้คาสั่ง Group

151. โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ
กาญจนบุรี
สว.กจ.

152. การสร้างตาราง
1. Menu Insert > Table
2. เลือก Slide เป็นแบบ Table
3. Tool Bar
กาหนด
จานวนแถว
และคอลัมน์

153. Table and Borders Tool Bar
วาดตาราง รูปแบบเส้นตาราง สีเส้น
ลบเส้นตาราง ความหนาเส้น

154. Table and Borders Tool Bar
ตีเส้นตาราง คาสั่งจัดการตาราง แยกเซลล์
สีพื้นตาราง ผสานเซลล์

155. Table and Borders Tool Bar

156. คาสั่งจัดการตาราง (Table)
1. Insert Table : แทรกตาราง
2. Insert Columns to the
Left : แทรกคอลัมน์ไว้ทางด้านซ้าย
ของคอลัมน์ที่เลือก
3. Insert Columns to the
Right : แทรกคอลัมน์ไว้ทาง
ด้านขวาของคอลัมน์ที่เลือก

157. คาสั่งจัดการตาราง (Table)
4. Insert Rows Above :
แทรกแถวไว้ด้านบนของแถวที่
เลือก
5. Insert Rows Below :
แทรกแถวไว้ด้านล่างของแถวที่
เลือก

158. คาสั่งจัดการตาราง (Table)
6. Delete Columns : ลบ
คอลัมน์
7. Delete Rows : ลบแถว
8. Merge Cells : ผสานเซลล์
9. Split Cells : แยกเซลล์

159. คาสั่งจัดการตาราง (Table)
10. Border and Fill : กาหนดเส้น
และพื้นตาราง
11. Select Table : เลือกทั้งตาราง
12. Select Column : เลือกคอลัมน์
ที่ Cursor กระพริบอยู่
13. Select Row : เลือกแถวที่
Cursor กระพริบอยู่

160. คาสั่งจัดการตาราง (Table)
14. Table Direction : ทิศ
ทางการป้ อนข้อมูลลงตาราง
14.1 Set Left-to-Right
Table : จากซ้ายไปขวา
14.2 Set Right-to-Left
Table : จากขวาไปซ้าย

161. การปรับขนาดแถว และคอลัมน์
1. วางเมาส์ที่เส้นแบ่งแถว หรือคอลัมน์
2. เมาส์จะเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์
3. ลากเมาส์เพื่อย่อ หรือขยายขนาดตามต้องการ

162. การแทรกแถว และคอลัมน์
1. Table > Insert Row… / Column…
2. คลิกขวา > Insert Row / Column…

163. การลบแถว และคอลัมน์
1. Table > Delete Row… / Column…
2. คลิกขวา > Delete Row / Column

164. การผสานเซลล์
1. Table > Merge Cells
2. คลิกขวา > Merge Cells
3. Tool Bar

165. การแยกเซลล์
1. Table > Split Cells
2. คลิกขวา > Split Cells
3. Tool Bar

166. การใส่สีเส้น และพื้นตาราง
1. Menu Format > Table
2. Table > Border and Fill
3. คลิกขวา > Border and Fill
4. Tool Bar

167. Border and Fill
1. Borders : ปรับแต่งเส้นตาราง
2. Fill : ปรับแต่งพื้นตาราง
3. Text Box: ปรับตาแหน่งข้อความ

168. การสร้างแผนภูมิ
1. Menu Insert > Chart
2. เลือก Slide รูปแบบ Chart
3. Tool Bar
ป้ อนข้อมูลลง
ตาราง
(Datasheet)

169. ส่วนประกอบของ Chart
215 227 220
0
50
100
150
200
250
จานวน ( คน )
2544 2545 2546
ปี พ.ศ.
แผนภูมิสรุปจานวนพนักงาน
ชาย
หญิง

170. keekorn@hotmail.com
170
215 227 220
0
50
100
150
200
250
จานวน ( คน )
2544 2545 2546
ปี พ.ศ.
แผนภูมิสรุปจานวนพนักงาน
ชาย
หญิง
Category Axis
Legend หรือ
คาอธิบายกราฟ
Data Series
หรือชุดของข้อมูล
Value
Axis
Chart Area
Plot Area
Chart Title
Data Label
Title Value Axis
Title Category Axis

171. การปรับแต่ง แก้ไขแผนภูมิ
ในการปรับแต่ง หรือแก้ไขแผนภูมินี้ สามารถทาได้จาก
4 ทาง คือ
1. Menu Chart
2. Menu Data
3. Chart Tool Bar
4. คลิกขวาที่แผนภูมิ

172. การปรับแต่ง แก้ไขแผนภูมิ
ซึ่งหากไม่เข้าสู่โหมดการปรับแต่ง แก้ไขแผนภูมิก็จะไม่
สามารถปรับแต่ง หรือแก้ไขแผนภูมิได้ โดยการเข้าสู่โหมด
แก้ไขสามารถเข้าได้ 2 วิธี ดังนี้
1. คลิกขวาที่แผนภูมิ > Chart Object > Edit
2. ดับเบิ้ลคลิกที่แผนภูมิ

173. Chart Tool Bar
ย่อ/ขยาย ส่วนประกอบ Import File
ตกแต่งแผนภูมิ
แสดง/ซ่อน Datasheet

174. Chart Tool Bar
ย้าย คัดลอก ยกเลิก แสดง/ซ่อนตารางข้อมูล
วาง เรียงข้อมูลตามแถว
เรียงข้อมูลตามคอลัมน์
ชนิดแผนภูมิ

175. Chart Tool Bar
Gridline สีพื้น
Legend

176. การแก้ไขข้อมูล
1. เข้าสู่โหมดการแก้ไข
2. แก้ไขข้อมูลใน Datasheet ตามต้องการ
3. คลิกพื้นที่ว่าง Slide
***การกรอกข้อมูลใน Datasheet มีลักษณะ
คล้ายกับ Microsoft Excel***

177. การนาเข้าข้อมูล (Import File)
1. Menu Edit > Import File…
2. Tool Bar
***ต้องอยู่ในโหมดแก้ไข Chart ก่อน
เสมอ***

178. การเปลี่ยนชนิดแผนภูมิ
1. Menu Chart > Chart Type
2. คลิกขวาที่ Chart Area > Chart Type

179. การกาหนดรายละเอียด
1. Menu Chart > Chart Options
2. คลิกขวาที่ Chart Area > Chart Options

180. รายละเอียด Chart Options
1. Title : กาหนดหัวเรื่อง
2. Axes : กาหนดเส้นแกน
3. Grid Line : กาหนดเส้นกริด
4. Legend : กล่องกาหนดคาอธิบาย
5. Data Labels : ป้ ายข้อมูล
6. Data Table : ตารางข้อมูล

181. การสร้างผังองค์กร
1. Menu Insert > Picture > Organization Chart
2. เลือก Slide รูปแบบ Organization Chart
3. Tool Bar

182. Organization Chart Tool Bar
Insert Shape : แทรกกรอบเพิ่ม
Layout : ชนิดผังองค์กร
Select : เลือกส่วนของผังองค์กร
Fit Text : ขยายข้อความเต็มกรอบ
รูปแบบผังองค์กร ย่อ/ขยาย

183. การกาหนดผังงานผู้ช่วยผู้บังคับบัญชา
เลือกกรอบที่ต้องการเพิ่ม
คลิกเลือก Assistant

184. การเพิ่มผังงานผู้ร่วมงาน
เลือกกรอบที่ต้องการเพิ่ม
คลิกเลือก Coworker

185. การกาหนดผังงานใต้บังคับบัญชา
เลือกกรอบที่ต้องการเพิ่ม
คลิกเลือก Subordinate

186. การจัดรูปแบบของกรอบ
1. คลิกที่
2. เลือก Select > Brach > All Assistant
3. กาหนดรูปแบบโดยใช้เครื่องมือ Drawing Tool
Bar

187. การจัดรูปแบบของเส้นผังงาน
1. คลิกที่
2. เลือก All Connecting Lines
3. กาหนดรูปแบบเส้นตามต้องการ โดยใช้เครื่องมือ
Drawing Tool Bar

188. การเปลี่ยนรูปแบบอัตโนมัติ
1. เลือกผังองค์กร
2. คลิกที่
3. เลือกรูปแบบตามต้องการ
4. คลิกปุ่ม Apply

189. การเปลี่ยนชนิดผังองค์กร
1. เลือกผังองค์กร
2. คลิกที่
3. เลือกชนิดผังองค์กรตามต้องการ

190. การนาเสนอผลงาน
1. Menu Slide Show > View Show
2. F5
3. Buttons View

191. การควบคุมการนาเสนอ Slide
ไป Slide ถัดไป
ไป Slide ก่อนหน้านี้
ไป Slide สุดท้ายที่นาเสนอ
ไป Slide เป้ าหมาย
เลือกชื่อกลุ่ม Slide ที่ต้องการนาเสนอ
รูปแบบหน้าจอนาเสนอ
เปลี่ยนรูปแบบเมาส์
ขอความช่วยเหลือ
หยุดการนาเสนอชั่วคราว
จบการนาเสนอ

192. การกาหนดวิธีการเปิ ด Slide
1. เลือก Slide ที่ต้องการกาหนด
2. Menu Slide Show > Slide Transition
3. เลือกรูปแบบการเปิด Slide ตามต้องการ
4. กาหนดรายละเอียดเพิ่มเติม
5. คลิกปุ่ม Apply to All Slide เมื่อต้องการใช้กับ
Slide ทั้งหมด
***เมื่อทาการเลือกรูปแบบการเปิ ด Slide
โปรแกรมทาการจัดรูปแบบการเปิ ด Slide นั้น
ให้กับ Slide ปัจจุบันอัตโนมัติ***

193. รายละเอียดเพิ่มเติม
1. Speed : กาหนดความเร็วในการเปลี่ยน Slide
2. Sound : กาหนดเสียงในการเปลี่ยน Slide
3. Loop Until Next Sound : เล่นเสียงที่กาหนด
ไว้จนกว่าจะมีเสียงใหม่

194. รายละเอียดเพิ่มเติม
4. On Mouse Click : เปิด Slide ถัดไปเมื่อมีการ
คลิกเมาส์
5. Automatically After : เปิด Slide ถัดไปเมื่อ
ครบตามเวลาที่กาหนด (วินาที)
6. Auto Preview : แสดงภาพตัวอย่างอัตโนมัติ

195. การกาหนดการเปิ ด Slide อัตโนมัติ
1. เข้าสู่มุมมอง Slide Sorter
2. เลือก Slide ที่ต้องการกาหนด
3. คลิก ที่ Slide Sorter Tool Bar
4. กาหนดรายละเอียดเพิ่มเติมตามต้องการ

196. การกาหนดวิธีการนาเสนอสาเร็จรูป
เป็นการกาหนดรูปแบบข้อมูลในแต่ละ Slide ว่าให้มี
การเข้า หรือออกจาก Slide อย่างไร นอกจากนี้ยัง
สามารถกาหนดรูปแบบในขณะที่กาลังนาเสนออยู่ได้เช่นกัน
ซึ่งการกาหนดรูปแบบสาเร็จรูปลักษณะนี้ เรียกว่า
“Animation Schemes”

197. Animation Schemes
1. เลือกข้อมูลที่ต้องการ
2. Menu Slide Show > Animation
Schemes…
3. เลือกรูปแบบตามต้องการ
4. คลิก Apply to All Slide เมื่อต้องการนาไปใช้กับ
Slide ทั้งหมด

198. การกาหนดวิธีการนาเสนอตามต้องการ
1. เลือกข้อมูลที่ต้องการ
2. Menu Slide Show > Custom
Animation
3. คลิกปุ่ม Add Effect > เลือกลักษณะของ
Animation > เลือกรูปแบบตามต้องการ
4. กาหนดรายละเอียดเพิ่มเติม

199. ลักษณะของ Animation
1. Entrance : รูปแบบการเข้ามาของข้อมูล
2. Emphasis : รูปแบบขณะนาเสนออยู่
3. Exit : รูปแบบการออกของข้อมูล
4. Motion Paths : รูปแบบตามทิศทางที่กาหนด

200. รายละเอียดเพิ่มเติม
1. Start : เริ่มการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีให้เลือก 3 รูปแบบ
ดังนี้
1.1 On Click : เมื่อมีการคลิกเมาส์
1.2 With Previous : พร้อมกับวัตถุก่อนหน้า
1.3 After Previous : เมื่อวัตถุก่อนหน้า
แสดงผลเสร็จ

201. รายละเอียดเพิ่มเติม
2. Property : ทิศทางการเคลื่อนไหว ซึ่งมีให้เลือก 2
รูปแบบ ดังนี้
2.1 Horizontal : แนวนอน
2.2 Vertical : แนวตั้ง

202. รายละเอียดเพิ่มเติม
3. Speed : ความเร็วในการนาเสนอ ซึ่งมีให้เลือก 5 รูปแบบ
ดังนี้
3.1 Very Slow : ช้ามาก
3.2 Slow : ช้า
3.3 Medium : ปานกลาง
3.4 Fast : เร็ว
3.5 Very Fast : เร็วมาก
4. Auto Preview : แสดงภาพตัวอย่างอัตโนมัติ

203. การกาหนดเวลาในการนาเสนอ
1. Menu Slide Show > Rehearse Timing
2. ทาการบรรยาย เพื่อกาหนดเวลาที่เหมาะสม
3. คลิกเปลี่ยน Slide ไปเรื่อย ๆ จนครบทุก Slide
4. เลือก Save เมื่อต้องการบันทึกเวลาที่ใช้ในแต่ละ Slide
และเวลาทั้งหมด เลือก Discard เมื่อไม่ต้องการบันทึก
เวลา

204. การกาหนดเวลาในการนาเสนอ
คลิกเพื่อเปลี่ยนสไลด์ คลิกเพื่อหยุดชั่วคราว
เวลารวมทั้งหมด
คลิกเพื่อจับเวลาใหม่
เวลาที่ใช้ในแต่ละสไลด์
***เมื่อกาหนดเวลาแล้ว ครั้งต่อไปที่มี
การนาเสนอโปรแกรมจะฉาย Slide
ตามเวลาที่กาหนดให้อัตโนมัติ***

205. การกาหนดรูปแบบการนาเสนอ
1. Menu Slide Show > Set Up Show
2. กาหนดรูปแบบตามต้องการ
3. คลิกปุ่ม OK

207. Show Type
1. Presented by a speaker (full screen) : เป็น
การนาเสนอสไลด์แบบเต็มจอภาพ
2. Browsed by an individual (window) : เป็นการ
นาเสนอสไลด์ในรูปแบบของหน้าต่าง
3. Browsed at kiosk (full screen) : เป็นการนาเสนอ
สไลด์แบบเต็มจอภาพ แต่การนาเสนอรูปแบบนี้จะไม่สามารถ
แก้ไข หรือหยุดสไลด์ชั่วคราวได้

208. Show Options
1. Loop continuously until ‘Esc’: กาหนดให้แสดง
สไลด์แบบวนรอบต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีการกดปุ่ ม
ESC จึงจะออกจากการนาเสนอ
2. Show without Narration : กาหนดให้นาเสนอสไลด์
แบบไม่มีคาบรรยาย

209. Show Options
3. Show without Animation : กาหนดให้นาเสนอ
สไลด์โดยไม่มีการเคลื่อนไหว (Animation Effect)
4. Pen Color : กาหนดสีของปากกา Highlight ในขณะ
นาเสนอ

210. Show Slides
1. All : เลือกสไลด์ทั้งหมดมานาเสนอ
2. Form…To : จากสไลด์ใดถึงสไลด์ใดมานาเสนอ
3. Custom show : เลือกกลุ่มสไลด์ที่จะนาเสนอจากที่
เคยกาหนดกลุ่มสไลด์ไว้

211. Advance Slides
1. Manually : กาหนดให้เลื่อนสไลด์ด้วยตนเอง
2. Using timings, if present : กาหนดให้เลื่อน
สไลด์ โดยใช้เวลาที่กาหนดถ้ามีการกาหนด เวลาไว้

212. Multiple Monitors
กรณีที่มีการเชื่อมต่อหลายจอภาพหลาย หรือมีการ
เชื่อมต่อสื่อในการแสดงผลหลายสื่อ จะกาหนดให้การ
นาเสนองานนั้น ออกทางจอภาพใด หรือสื่อใด

213. Performance
1. Use Hardware Graphic Acceleration :
เร่งกราฟิกด้วยฮาร์ดแวร์
2. Tip : เคล็ดลับเพิ่มเติมที่น่าสนใจในการนาเสนอ
3. Slide Show Resolution : กาหนดความ
ละเอียดของ Slide ที่จะนาเสนอ

214. การนาเสนอ Slide บางส่วน
1. Menu Slide Show > Custom Shows
2. คลิกปุ่ ม New
3. ตั้งชื่องานนาเสนอในช่อง Slide Show Name
4. คลิกเลือก Slide ที่ต้องการจาก Slide in
Presentation
5. คลิกปุ่ ม Add
6. คลิกปุ่ ม OK
7. คลิกปุ่ ม Show เพื่อนาเสนองาน

215. การทา Package for CD
1. Menu File > Package for CD
2. Name the CD : กาหนดชื่อ CD

216. การทา Package for CD
3. คลิกปุ่ม Add Files
4. เลือก File ที่ต้องการทา Package for CD
5. คลิกปุ่ม Add

217. การทา Package for CD
6. คลิกปุ่ม Options
7. กาหนดพื้นฐานการแสดงไฟล์ทั้งหมด ทั้งแบบอักษร
และไฟล์ที่มีการเชื่อมโยง CD
8. คลิกปุ่ม OK

218. การทา Package for CD
9. คลิกปุ่ม Copy to CD
10. คลิกปุ่ม OK

219. การทางานกับ Multimedia
1. การแทรก File เสียงจาก Gallery
2. การแทรก File เสียงจากแหล่งอื่น
3. การแทรก File วีดีโอจาก Gallery
4. การแทรก File วีดีโอจากแหล่งอื่น

220. การแทรก File เสียงจาก Gallery
1. Menu Insert > Movies and Sounds >
Sound From Clip Organizer
2. เลือก File เสียงตามต้องการ ซึ่งจะมีรูปลาโพง
ปรากฏขึ้นที่ Slide
3. เลือกว่าจะให้เสียงเล่นเองอัตโนมัติ หรือเล่นเมื่อมีการ
คลิกเมาส์

221. การแทรก File เสียงจากแหล่งอื่น
1. Menu Insert > Movies and Sounds >
Sound From File
2. เลือก File จากแหล่งที่จัดเก็บไว้ ซึ่งจะมีรูปลาโพง
ปรากฏขึ้นที่ Slide
3. เลือกว่าจะให้เสียงเล่นเองอัตโนมัติ หรือเล่นเมื่อมีการ
คลิกเมาส์

222. การอัดเสียงประกอบคาบรรยาย
1. Menu Slide Show > Record Narration
2. กาหนดรายละเอียดตามต้องการ
3. คลิกปุ่ ม OK
4. เลือกว่าจะบันทึกเสียงตั้งแต่ Slide ปัจจุบัน หรือ Slide
แรกสุด
5. กดปุ่ ม ESC ที่แป้ นพิมพ์เพื่อออกจากการบันทึกเสียง
6. เลือกว่าจะ Save หรือไม่

224. รายละเอียดการตั้งค่า
1. Quality : คุณภาพของเสียง
2. Disk use : พื้นที่ดิสก์ที่ใช้บันทึกต่อวินาที
3. Free disk space : พื้นที่ว่างบนดิสก์
4. Max record time : เวลาที่สามารถทาการ
บันทึกได้มากที่สุด

225. รายละเอียดเพิ่มเติม
1. Set Microphone Level : ปรับระดับความดัง
ของ Microphone
2. Change Quality : ปรับแต่งคุณภาพเสียง

226. Change Quality
1. Name : กาหนดคุณภาพของเสียงที่บันทึก ซึ่งมีให้เลือก 3
รูปแบบ ดังนี้
1.1 CD Quality : คุณภาพเสียงดีที่สุด (ระดับเสียง
จากซีดี)
1.2 Radio Quality : คุณภาพเสียงระดับกลาง
(ระดับเสียงจากวิทยุ)
1.3 Telephone Quality : คุณภาพเสียงต่าที่สุด
(ระดับเสียงจากโทรศัพท์)

227. Change Quality
2. Format : รูปแบบไฟล์เสียงที่ใช้ (โดยปกติใช้แบบ PCM)
3. Attributes : กาหนดระดับคุณภาพเสียง คือ เสตอริโอ/
โมโน, ความถี่ต่า/ ความถี่สูง และขนาดการบันทึกข้อมูลที่ 8
บิต/ 16 บิต ซึ่งค่าเหล่านี้จะมีผลต่อขนาดของไฟล์เสียงที่ได้
(ถ้ากาหนดให้บันทึกเสียงให้ใกล้เคียงต้นฉบับ ไฟล์เสียงจะมี
ขนาดใหญ่กว่า)

228. การแทรก File วีดีโอจาก Gallery
1. Menu Insert > Movies and Sounds >
Movie From Clip Organizer
2. เลือก File วีดีโอตามต้องการ ซึ่งจะมีรูปภาพปรากฏ
ขึ้นที่ Slide

229. การแทรก File วีดีโอจากแหล่งอื่น
1. Menu Insert > Movies and Sounds >
Movie From File
2. เลือก File จากแหล่งที่จัดเก็บไว้ ซึ่งจะมีรูปภาพ
ปรากฏขึ้นที่ Slide
3. เลือกว่าจะให้เสียงเล่นเองอัตโนมัติ หรือเล่นเมื่อมีการ
คลิกเมาส์

230. เทคนิค และการทางานด้านอื่น ๆ
1. การแทรก Slide Microsoft Word
2. การแทรก Slide Microsoft Excel
3. การเชื่อมโยงแผนภูมิในงานนาเสนอ

231. การแทรก Slide Microsoft Word
1. เลือก Slide ที่ต้องการแทรก Microsoft Word
2. Menu Insert > Object
3. เลือก Create From File
4. คลิกปุ่ ม Browse
5. เลือก File ที่ต้องการแทรก
6. กาหนดรายละเอียดเพิ่มเติม
7. คลิกปุ่ ม Insert

232. รายละเอียดเพิ่มเติม
1. หากต้องการให้มีการเชื่อมโยงไฟล์ให้คลิก  ที่
Link to file
2. หากต้องการแสดงเป็นไอคอนให้คลิก  ที่
Displays as icon

233. การแทรก Slide Microsoft Excel
1. เลือก Slide ที่ต้องการแทรก Microsoft Excel
2. Menu Insert > Object
3. เลือก Create From File
4. คลิกปุ่ ม Browse
5. เลือก File ที่ต้องการแทรก
6. กาหนดรายละเอียดเพิ่มเติม
7. คลิกปุ่ ม Insert

234. รายละเอียดเพิ่มเติม

235. การแก้ไข File ที่นาเข้า
1. ดับเบิ้ลคลิกที่ File ที่ต้องการแก้ไข
2. แก้ไขข้อมูลตามต้องการ
3. Menu File > Save
4. ออกจากโปรแกรมที่แก้ไข File ด้วยการไปที่ Menu
File > Exit /

236. การเชื่อมโยงแผนภูมิในงานนาเสนอ
1. เลือก Slide ที่ต้องการแทรก Chart
2. Menu Insert > Object
3. เลือก Create From File
4. คลิกปุ่ ม Browse
5. เลือก File ที่มีแผนภูมิที่ต้องการแทรก
6. กาหนดรายละเอียดเพิ่มเติม
7. คลิกปุ่ ม Insert
***กรณีที่แทรก File Microsoft Excel
โปรแกรมจะพิจารณาความสาคัญ
ของ Sheet ตามลาดับ ดังนี้
1.Sheet แรกสุดที่มีแผนภูมิ
2.Sheet แรกสุดที่มีรูปภาพ
3.Sheet แรกสุดที่มีข้อความ***

237. รายละเอียดเพิ่มเติม
1. หากต้องการให้มีการเชื่อมโยงไฟล์ให้คลิก  ที่
Link to file
2. หากต้องการแสดงเป็นไอคอนให้คลิก  ที่
Displays as icon

238. การนาเข้า File จากโปรแกรมอื่น
1. Menu Insert > Slides From Outlines
2. เลือก File ที่ต้องการแทรก
3. คลิกปุ่ม Insert

239. การบันทึก File ให้เป็ นแบบ Outline
1. Menu File > Save As
2. Save as Type : เลือกเป็น Outline/RTF
3. คลิกปุ่ม Save

240. การกาหนดหมายเหตุ
1. Menu Insert > Comment
2. กรอกข้อความหมายเหตุตามต้องการ
***สัญลักษณ์ Comment จะปรากฏที่มุม
ด้านบนซ้ายของ Slide***

241. การจัดการหมายเหตุ
1. คลิกขวาที่หมายเหตุ
2. เลือกรายการการจัดการตามต้องการ

242. Hyper Link
1. Menu Insert > Hyper Link
2. Ctrl + K
3. คลิกขวาที่จุดเชื่อมโยง > Hyper Link
4. Tool Bar

243. การสร้างจุดเชื่อมโยง (Hyper Link)
1. เรียกใช้คาสั่งการสร้าง Hyper Link
2. เลือกรูปแบบการ Link
3. กาหนดปลายทาง
4. คลิกปุ่ม OK

244. รูปแบบการ Link
1. Existing File or Web Page : การเชื่อมโยง
ไฟล์ข้อมูล หรือเว็บเพจ
2. Place in This Document : การเชื่อมโยงภายใน
งานนาเสนอเดียวกัน
3. Create New Document : การสร้างงานนาเสนอ
ใหม่ขึ้นมา
4. E-mail-Address : การส่งข้อความทางอีเมล์

245. การยกเลิก Hyper Link
1. Menu Insert > Hyper Link > Remove
Link
2. Ctrl + K > Remove Link
3. คลิกขวาที่จุดเชื่อมโยง > Hyper Link >
Remove Link
4. Tool Bar > Remove Link

246. การสร้างปุ่ มในการนาเสนอ
1. ที่ Drawing Tool Bar > Auto Shapes >
Action Buttons
2. เลือกปุ่มที่ต้องการ
3. วาดปุ่มใน Slide
4. กาหนดรายละเอียด
5. คลิกปุ่ม OK

247. รายละเอียด Action Buttons

248. รายละเอียด Action Buttons
1. Mouse Click : กระทาเมื่อมีการคลิกเมาส์
2. Mouse Over : กราเมื่อนาเมาส์ไปวางบนจุด Link
3. None : ไม่ทา Link
4. Hyper Link to : Link ไปยัง…
5. : การเรียกใช้โปรแกรม
6. : การเรียกใช้แมโคร

249. รายละเอียด Action Buttons
7. Object Action : กาหนดให้กระทากับวัตถุ
8. Play Sound : กาหนดให้เล่นเสียง
9. Highlight Click : เน้นข้อความ

250. การบันทึกเว็บเพจ
1. Menu File > Save As Web Page
2. Save in : เลือกแหล่งจัดเก็บ
3. File Name : ตั้งชื่อไฟล์เว็บเพจ
4. คลิกปุ่ม Save

251. การบันทึกเว็บแบบรวมลิงค์
1. Menu File > Save As Web Page
2. Save in : เลือกแหล่งจัดเก็บ
3. File Name : ตั้งชื่อไฟล์เว็บเพจ
4. คลิกปุ่ม Publish
5. กาหนดรายละเอียดตามต้องการ
6. คลิกปุ่ม Publish

252. รายละเอียดเพิ่มเติม
1. Publish what : กาหนดสิ่งที่จะบันทึกเป็นไฟล์เว็บ
2. Complete presentation : บันทึกสไลด์ในงานพ
รีเซนทั้งหมดเป็นงานแสดงบนเว็บ
3. Slide number : บันทึกสไลด์เป็นงานเว็บตาม
หมายเลขของสไลด์ที่กาหนด

253. รายละเอียดเพิ่มเติม
4. Display speaker note : กาหนดให้สามารถส่งเสียง
ออนไลน์ผ่าน Broadcast
5. Browser support : กาหนดให้งานเว็บที่บันทึก
สามารถเปิดแสดงในบราวเซอร์อะไรได้บ้าง
6. File name : ระบุตาแหน่งที่จะเก็บไฟล์เว็บเหล่านี้
7. คลิกที่ปุ่ ม Publish บันทึกงานเพื่อนาเสนอบนเว็บ

254. การเปิ ดดูผลงานในบราวเซอร์
Menu File > Web Page Preview

255. การบีบอัดรูปภาพ
1. เลือกรูปภาพที่ต้องการบีบอัด
2. คลิกที่
3. กาหนดรายละเอียดเพิ่มเติม
4. คลิกปุ่ม OK

256. รายละเอียดเพิ่มเติม
1. Select Pictures : บีบอัดเฉพาะไฟล์ภาพที่เลือกไว้
2. All Pictures in Document : บีบอัดความจุของ
ภาพในไฟล์งานทั้งหมด
3. Web/Screen : บีบอัดภาพสาหรับนาเสนอบนเว็บ หรือ
ผ่านจอภาพจะถูกบีบอัดมีขนาดเล็กที่สุด
4. Print : บีบอัดภาพเพื่องานพิมพ์ โดยมีความ
ละเอียดที่ 96 dpi

257. รายละเอียดเพิ่มเติม
5. No Change : ไม่เปลี่ยนความละเอียดของภาพ
6. Compress Pictures : บีบอัดขนาดความจุภาพ
ทั้งภาพ
7. Delete Cropped Areas of Pictures : ลบ
ข้อมูลให้เหลือกตามขนาดภาพที่ถูกตัดเท่านั้น

258. การสร้างอัลบั้มภาพ
1. Menu Insert > Picture > New Photo
Album…
2. คลิกปุ่ ม File/Disk… เพื่อเลือกแหล่งจัดเก็บภาพ
3. Look in : เลือกโฟลเดอร์ที่เป็นแหล่งภาพ
4. เลือกภาพที่ต้องการ > คลิกปุ่ ม Insert
5. จัดเรียงลาดับ และปรับแต่งภาพ โดยดูผลที่ Preview
6. Album Layout : เลือกรูปแบบการวางภาพ
7. คลิกปุ่ ม Create

259. การบันทึกงานจากสไลด์เป็ นรูปภาพ
1. Menu File > Save As…
2. Save in : กาหนดแหล่งจัดเก็บรูปภาพภาพ
3. File name: ตั้งชื่อรูปภาพภาพที่ต้องการ
4. Save as type: เลือกชนิดของไฟล์ที่บันทึกให้เป็นไฟล์
รูปภาพ อันได้แก่ JPG,PNG,TIFF และ WMF

260. การบันทึกงานจากสไลด์เป็ นรูปภาพ
5. คลิกปุ่ ม Save
6. เลือกการสร้างรูปภาพ ซึ่งมีให้เลือก ดังนี้
6.1 Current Slide Only : บันทึก Slide ปัจจุบัน
เป็นไฟล์ภาพเท่านั้น
6.2 Every Slide : บันทึก Slide ทั้งหมดเป็นไฟล์
ภาพ
6.3 Cancel : ยกเลิกการแปลง Slide เป็นรูปภาพ
***กรณีที่เลือก Every Slide โปรแกรมจะสร้าง
Folder ให้อัตโนมัติ โดย Slide ทั้งหมดจะเป็ น
รูปภาพอยู่ใน Folder นั้น ๆ***

261. การป้ องการ Slide
1. Menu Tools > Options > Tab Security
2. Password to Open : กาหนดรหัสผ่านเมื่อ
ต้องการเปิดงาน
3. Password to Modify : กาหนดรหัสผ่าน เพื่อ
ป้ องกันการแก้ไขงาน
4. คลิกปุ่ม OK

262. การป้ องการ Slide

263. THE END