Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie 2560 project (20)
2560 project
- 1. 1
แบบเสนอโครงรางโครงงานคอมพิวเตอร
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปการศึกษา2560
ชื่อโครงงาน สมุนไพรชวยรักษาโรคมะเร็ง
ชื่อผูทําโครงงาน
นางสาวผกาวัลย โนจะ ชั้นมัธยมศึกษาปที่6/3 เลขที่ 27
นางสาว ศิริรัตน เรียวกลาง ชั้นมัธยมศึกษาปที่6/3 เลขที่47
ชื่ออาจารยที่ปรึกษาโครงงาน
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ
ระยะเวลาดําเนินงานภาคเรียนที่1-2ปการศึกษา2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม
สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทําขอเสนอโครงงานคอมพิวเตอร
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) สมุนไพรชวยรักษาโรคมะเร็ง
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Herbs help to cure cancer.
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผูทําโครงงาน นางสาวผกาวัลย โนจะ
นางสาวศิริรัตน เรียวกลาง
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ
ระยะเวลาดําเนินงาน
ที่มาและความสําคัญของโครงงาน(อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทําโครงงาน)
เนื่องจากปจจุบันโรคไมติดตอ เปนปญหาดานสุขภาพของประชากรโลก โรคที่วานี้ก็คือโรคมะเร็ง
โรคมะเร็งเปนสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ1 ของประเทศไทยมานานติดตอกันหลายปและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงเปนโรคที่
ควรใหความสําคัญเปนพิเศษ
รางกายคนเรา มีเซลลมะเร็งเกิดขึ้น แตเราชนะไมปวยเปนมะเร็ง ไดเพราะ รางกายมีภูมิตานทานที่
แข็งแกรงดวยระบบภูมิคุมกันที่สามารถ ตอสูกับมะเร็งได ดังนั้นระบบภูมิคุมกันที่ถูกทําลายดวยวิธีตางๆ เปน
สาเหตุสําคัญที่กอใหเกิดมะเร็ง ไดแก การกินอาหารไมครบ5 หมู อาหารไมสะอาดเต็มไปดวยสารพิษ สารกอมะเร็ง
การอยูในสิ่งแวดลอมที่เปนมลพิษ และการไมออกกําลังกายการรักษาโรคมะเร็งตามทฤษฎีทางการแพทยซึ่งใช
หลักการทําลายเนื้อราย แตไมสามารถเลือกทําลายไดเพียงเนื้อราย เซลลดีจํานวนมากตองถูกทําลายไป
ดวย ยกตัวอยางเชน เซลลผม เซลลผิวหนัง เซลลเยื่อบุทางเดินอาหาร เซลลเม็ดเลือดในไขกระดูก จึงเกิดผล
ขางเคียงตามมาเชน ผมรวง แผลในปาก ออนเพลีย เออาหาร โลหิตจาง เม็ดเลือดขาวต่ํา เสี่ยงตอการติดเชื้อ อีกทั้ง
ผูปวยยังมีโอกาสที่จะกลับมาเปนอีก จากการ กระจายตัวของเซลลมะเร็งดังนั้น จึงไดมีการนําสมุนไพรมาบํารุงมา
รางกายมารักษาอาการตางๆของโรคมะเร็ง โดยทั่วไปจะเปนสวนประกอบของสมุนไพรหลายๆ ชนิด ซึ่งจะเขาไป
ชวยระบบการทํางานของอวัยวะตางๆ ของรางกายพรอมๆ กันและบํารุงรางกายไปดวย สมุนไพรสามารถออกฤทธิ์
ตางๆได เชน ระงับการสรางเสนเลือดใหม ยับยั้งการเจริญของเซลลมะเร็ง ระงับการอักเสบ
ซอมแซม DNA ตานการอ็อกซิไดส กําจัดอนุมูลอิสระ ยับยั้งจุลชีพ
ดวยเหตุนี้คณะผูจัดทําจึงไดศึกษา คนควารวบรวมขอมูลเกี่ยวกับสมุนไพรที่ใชในการรักษาโรคมะเร็ง
เพื่อใหเกิดความรูเพราะเปนเรื่องที่ใกลตัวสามารถนํามาปรับใชในชีวิตประจําวันไดจริง และเพื่อเปนการเผยแพร
ความรูใหแกผูอื่นหรือผูที่สนใจอีกดวย
- 3. 3
วัตถุประสงค (สิ่งที่ตองการในการทําโครงงาน ระบุเปนขอ)
1) เพื่อเผยแพรความรูเกี่ยวกับสมุนไพรตางๆ ที่ใชในการรักษาโรคมะเร็ง
2) เพื่อใชเปนสื่อในการศึกษาสําหรับผูที่สนใจเรื่องสมุนไพรที่ชวยรักษาโรคมะเร็ง
3) เพื่อใหผูอานสามารถนําความรูที่ไดไปประยุกตใชในชีวิตประจําวันได
ขอบเขตโครงงาน(คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและขอจํากัดของการทําโครงงาน)
จัดทําโครงงานคอมพิวเตอร เรื่องสมุนไพรที่ชวยรักษาโรคมะเร็ง
หลักการและทฤษฎี(ความรู หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทําโครงงาน)
1). ลักษณะของโรคมะเร็ง
มะเร็ง คือ กลุมของโรคที่เกิดเนื่องจากเซลลของรางกายมีความผิดปกติ ที่DNA หรือสารพันธุกรรม สงผล
ใหเซลลมีการเจริญเติบโต มีการแบงตัวเพื่อเพิ่มจํานวนเซลล รวดเร็ว และมากกวาปกติ ดังนั้น จึงอาจทําใหเกิดกอน
เนื้อผิดปกติ และในที่สุดก็จะ ทําใหเกิดการตายของเซลลในกอนเนื้อนั้น เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะการ
เจริญเติบโตของหลอดเลือด ถาเซลลพวกนี้เกิดอยูในอวัยวะใดก็จะ เรียกชื่อ มะเร็ง ตามอวัยวะนั้นเชน มะเร็งปอด
มะเร็งสมอง มะเร็งเตานม มะเร็งปากมดลูก มะเร็ง เม็ดเลือดขาว มะเร็งตอมน้ําเหลือง และมะเร็งผิวหนัง เปนตน
เทาที่มีรายงานไวใน ขณะนี้ มะเร็งที่พบในรางกายมนุษยมีมากกวา100 ชนิด มะเร็งแตละชนิดจะมีการ ดําเนินของ
โรคไมเหมือนกัน เชน มะเร็งปอด มะเร็งสมอง จะมีการดําเนินชนิดของ โรค ที่รุนแรง ผูปวยจะมีชีวิตการอยูรอด
สั้นกวาผูปวยมะเร็งผิวหนัง เปนตน
ดังนั้น การรักษามะเร็งแตละชนิดจะไมเหมือนกัน มีวิธีการรักษาที่แตกตางกัน ทั้งนี้ขึ้นอยูกับอวัยวะที่เปนมะเร็ง
ระยะของมะเร็ง สภาพรางกาย และความเหมาะสม ของผูปวยมะเร็ง การรักษาจะยากหรืองายนั้นก็ขึ้นอยูกับชนิด
ของเซลลมะเร็งและ การดําเนินโรคของมะเร็งดวย เชน มะเร็งตอมน้ําเหลือง มะเร็งผิวหนัง รักษางายกวา มะเร็ง
ปอด มะเร็งสมอง เปนตน
อาการและอาการแสดงของโรคมะเร็ง
1. ไมมีอาการใดเลยในชวงแรกขณะที่รางกายมีเซลลมะเร็งเปนจํานวนนอย
2. มีอาการอยางใดอยางหนึ่งตามสัญญาณอันตราย8 ประการ ที่เปนสัญญาณเตือน วาควรไปพบแพทย เพื่อ
การตรวจคนหาโรคมะเร็ง หรือสาเหตุอื่น ๆ ที่ทําใหมีสัญญาณ เหลานี้ เพื่อการรักษาและแกไขทางการแพทยที่
ถูกตองกอนที่จะกลายเปนโรคมะเร็ง หรือเปนมะเร็งระยะลุกลาม
3. มีอาการปวยของโรคทั่วไป เชน ออนเพลีย เบื่ออาหาร น้ําหนักลด รางกายทรุดโทรม ไมสดชื่น และไม
แจมใส
- 4. 4
สัญญาณอันตราย7 ประการที่ทุกคนควรจะจําไวเพื่อสุขภาพที่ดี ไดแก
1.มีการเปลี่ยนแปลงของระบบขับถายอุจจาระ และปสสาวะ เชน ถายอุจจาระเปนสีดํา
2. กลืนอาหารลําบาก หรือมีอาการเสียด แนนทองเปนเวลานาน
3. มีอาการเสียงแหบ และไอเรื้อรัง
4. มีเลือดออกผิดปกติ จากทวารตางๆ
5. แผลซึ่งรักษาแลวไมยอมหาย
6. มีการเปลี่ยนแปลงของหูดหรือไฝตามรางกาย
7. มีกอนตุมที่สวนตาง ๆ ของรางกาย
มะเร็งที่รักษาใหหาย ได
ปจจุบันนี้ แพทยสามารถรักษามะเร็งหลายชนิดใหหายได หรืออยางนอยก็ ทําให ผูปวยมะเร็งมีชีวิตการอยู
รอดที่ยาวนานเทากับบุคคลปกติที่อยูในวัยเดียวกัน ทั้งนี้ก็ตองขึ้นอยูกับชนิดของมะเร็ง ระยะของมะเร็งที่พบ เพราะ
มะเร็งระยะ เริ่มแรกยอมมีการตอบสนอง ตอการรักษาหรือมีโอกาสหายมากกวาระยะลุกลาม หรือระยะสุดทาย
มะเร็งตาง ๆ ที่สามารถรักษาใหหายไดในปจจุบันนี้ ที่สําคัญ มีดังนี้
มะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเฉียบพลันชนิดลิมปโฟ ไซติค ลิวคีเมีย
มะเร็งตอมน้ําเหลืองชนิดฮอรดกิ้น
มะเร็งไตในเด็กชนิด วิมส ทูเมอร
มะเร็งลูกอัณฑะ
มะเร็งกระดูก ชนิด ออสติโอเจนนิค ซารโคมา
มะเร็งรังไขชนิดเนื้อเยื่อบุผิว
มะเร็งผิวหนังบางชนิดเชนBasal cell carcinoma
มะเร็งเตานม
มะเร็งปอดชนิด Small cell
มะเร็งหลังโพรงจมูก
มะเร็งชนิดเนื้อเยื่อ Germcell
สาเหตุและ ปจจัยเสี่ยง
สาเหตุและปจจัย เสี่ยงของการเกิดมะเร็ง แบงออกเปน 2 ประเภทที่สําคัญ คือ
1. เกิดจากสิ่งแวดลอมหรือ ภายนอกรางกาย ซึ่งปจจุบันนี้เชื่อกันวามะเร็ง สวนใหญ เกิดจากสาเหตุไดแก
1.1 สารกอมะเร็งที่ปนเปอนในอาหารและเครื่องดื่ม เชน สารพิษจาก เชื้อราที่มีชื่อ อัลฟาทอกซิน (Alfatoxin) สาร
กอมะเร็งที่เกิดจากการปง ยาง พวกไฮโดคารบอน (Hydrocarbon) สารเคมีที่ใชในขบวนการถนอมอาหาร ชื่อไน
โตรซามิน (Nitosamine) สีผสมอาหารที่มาจากสียอมผา
1.2 รังสีเอ็กซเรย อุลตราไวโอเลตจากแสงแดด
- 5. 5
1.3 เชื้อไวรัส ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสฮิวแมนแพบพิลโลมา
1.4 การติดเชื้อพยาธิใบไมในตับ
1.5 จากพฤติกรรมบางอยาง เชน การสูบบุหรี่และดื่มสุรา เปนตน
2. เกิดจากความผิดปกติภายในรางกาย ซึ่งมีเปนสวนนอย เชน เด็กที่มีความพิการ มาแต กําเนิดมีโอกาสเปน
มะเร็งเม็ดเลือดขาว เปนตน การมีภูมิคุมกันที่บกพรองและภาวะ ทุพโภชนาการ เชน การขาดไวตามินบางชนิด เชน
ไวตามินเอ ซี เปนตน จะเห็นวา มะเร็งสวนใหญมีสาเหตุมาจากสิ่งแวดลอม ดังนั้น มะเร็งก็นาจะเปนโรคที่สามารถ
ปองกัน ไดเชนเดียวกับโรคติดเชื้ออื่นๆ (Hill R.P,TannockIF,1987) ถาประชาชนมี ความรูเกี่ยวกับสารกอมะเร็ง
และสารชวยหรือใหเกิด มะเร็งที่มีอยูในสิ่งแวด ลอมแลว พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเหลานั้น เชน งดสูบ
บุหรี่ หรือหลีกเลี่ยงจากบริเวณ ที่มีควันบุหรี่ เปนตน สําหรับสาเหตุภายในรางกายนั้นการปองกันคงไมไดผลแตทํา
ให ทราบวา ตนเองจัดอยูในกลุมที่มีอัตราเสี่ยงตอการเปน มะเร็งสูงหรือมากกวากลุม อื่น ๆ ดังนั้นก็ควรไปพบ
แพทยเพื่อขอคําแนะนําเกี่ยวกับความรูเรื่องมะเร็งตอไป กรณีที่เปน มะเร็ง ไดตรวจพบตั้งแตระยะแรก ซึ่งจะมีการ
ตอบสนองตอการรักษาคอนขางดี
ผูที่มีความเสี่ยงตอการ เปนโรคมะเร็ง มีดังนี้
1. ผูที่สูบบุหรี่ จะมีความเสี่ยงตอการเปนมะเร็งของระบบหายใจ ไดแก ปอด และกลองเสียง เปนตน
2. ผูที่ดื่มสุราเปนประจํา จะเสี่ยงตอการเปนมะเร็ง ตับ ถาทั้งดื่มสุราและสูบบุหรี่จัด จะเสี่ยงตอการเปน
มะเร็ง ชองปากและในลําคอดวย
3. ผูที่เปนพาหะของเชื้อ ไวรัสตับอักเสบชนิดบี หรือผูที่ชอบรับประทานอาหารที่มี สารพิษ ชื่อ อัลฟาทอ
กซิล ที่พบจากเชื้อราที่ปนเปอนในอาหารเชน ถั่วลิสงปน เปนตน หากรับประทานประจําจะเสี่ยงตอการเปนมะเร็ง
ตับ และหากไดรับทั้ง2 อยาง โอกาส จะเปนมะเร็งตับมากขึ้น
4. ผูที่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเปนประจํา จะเสี่ยงตอการเปนมะเร็ง เตานม ลําไสใหญ เยื่อบุมดลูก
และตอมลูกหมาก
5. ผูที่ติดเชื้อพยาธิใบไมตับ และรับประทานอาหารที่ใสดิน ประสิวเปนประจํา จะเสี่ยงตอการเปนมะเร็ง
ทอน้ําดีในตับ
6. ผูที่มีภูมิคุมกันบกพรองอันเกิดจากความผิดปกติจากพันธุกรรมหรือติดเชื้อไวรัส เอดส จะเสี่ยงตอการ
เปนมะเร็งตอมน้ําเหลือง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งของหลอดเลือด เปนตน
7. ผูที่รับประทานอาหารเค็ม จัด อาหารที่มีสวนผสมดินประสิวและสวนไหมเกรียม ของอาหารเปนประจํา
จะเสี่ยง ตอการเปนมะเร็งกระเพาะ อาหารและลําไสใหญ
8. ผูที่มีประวัติโรคมะเร็งในครอบครัว อาทิ มะเร็งของจอตา มะเร็งเตานม มะเร็งรังไข และมะเร็งลําไส
ใหญชนิดที่ เปนติ่งเนื้อ เปนตน
9. ผูที่ตากแดดจัดเปนประจําจะ ไดรับอันตรายจากแสงแดดที่ มีปริมาณของแสงอุลตรา ไวโอเลต จํานวน
มาก มีผลทําใหเปนมะเร็งผิวหนังได
- 6. 6
2). สมุนไพรที่รักษาโรคมะเร็ง
สมุนไพรที่มีผลการทดสอบที่เปนประโยชนตอการรักษามะเร็ง ไดแก
ฟาทะลายโจร (Andrographis Paniculata)
ใน อินเดียใชในการรักษาไทฟอยด แกอักเสบ แกมาลาเรีย
กระตุนภูมิคุมกันและมีสารสําคัญ คือAndrographolide
สามารถยับยั้งเซลลมะเร็งไดหลายชนิด
มะตูม (Aegle Mermelos)
สารจากผลมะตูมสามารถยับยั้ง มะเร็งตอมไทรอยด
(Thyroid Cancer)และมีฤทธิ์ยับยั้งไวรัสและตานการอักเสบ
บัวบก (Centella Asiatica)
มีสาร Asiaticoside ที่ชวยใหแผลเรื้อรังหายเร็วขึ้น เพิ่มภูมิคุมกัน
และในบราซิลมีการใชเพื่อรักษามะเร็งมดลูก
ขมิ้น (Curcuma Longa)
มีสารสําคัญ คือ Curouminมีฤทธิ์ตานการออกซิไดซและตานการอักเสบ
ที่รุนแรง สามารถทําใหเกิดการตายของเซลลมะเร็งหลายชนิดเชน มะเร็ง
ผิวหนัง มะเร็งลําไสใหญ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลําไสเล็กมะเร็งรังไข
นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ตานไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราอีกดวย
- 7. 7
หญางวงชางดอกขาว (Heliotropium indicum)
อายุรเวท ใชใบในการรักษาโรคลมพิษ แผล การอักเสบเฉพาะที่ กลาก ปวดขอ
(Rheumatism) มีอัลคาลอยด Indicine-N-Oxide ที่มีฤทธิ์ยับยั้งเนื้องอก มีการทดลอง
ทางคลินิกในลูคีเมีย และSolid Tumour
วานหางจระเข (Aloe Vera)
มีสาร Aloe-Emodin ที่กระตุนMacrophage ใหกําจัดเซลลมะเร็ง และยัง
มี Acemannanชวยกระตุนภูมิคุมกันนอกจากนี้วานหางจระเขยังชวยกระตุนการ
เจริญของเซลลปกติและยับยั้งการ เจริญของเซลลมะเร็งดวย
กะเพรา (Ocimum Sanctum)
เปน สมุนไพรที่ใชในการแพทยโบราณหลายระบบ เชน อายุรเวท สิทธา ยูนานิ
กรีก โรมัน เปนตน ทั้งยังใชในการรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารทางเดิน
หายใจ หัวใจ ผิวหนัง ฯลฯ
ลูกใตใบ/หญาใตใบ (Phyllanthus Niruri/Amaus)
เปนที่รูจักวาเปนStonebreaker และมีการใชแพรหลายทั่วโลก ในระบบปสสาวะและ
น้ําดี ตับอักเสบ หวัด วัณโรคและโรคจากไวรัสอื่น ๆ
ดีปลี (Piper Longum)
มี Piperine ซึ่งมีฤทธิ์ตานการออกซิไดซทั้งin Vitro และ in Vivo จึงเปน
สวนประกอบของตํารับยารักษามะเร็งของอายุรเวท
- 8. 8
บอระเพ็ด (Tinospora Cordifolia)
สาร สําคัญจากบอระเพ็ดชวยกระตุนภูมิคุมกัน โดยการเพิ่มระดับเม็ดเลือดขาวและ
สามารถลดขนาดเนื้องอกได58.8% เทียบเทา Cyclophosphamide
รักขน (Semecarpus Anacardium)
ผลของรักขนมีการใชในอายุรเวทเพื่อรักษามะเร็ง มีงานวิจัยแสดงวาสารสกัด
คลอโรฟอรม มีฤทธิ์ตานมะเร็ง และยืดอายุในกรณีLeukemia, Melanoma และ
Glioma ในสัตวทดลองที่ถูกเหนี่ยวนําใหเปนมะเร็งตับสารสกัดจากรักขนทําให
เนื้อเยื่อตับเปนปกติ ยาเตรียมAnacertinForte นิยมใชรักษามะเร็งหลอดอาหาร
Chronic Myeloid Leukemia, UrinaryBladder และมะเร็งตับ
วิธีดําเนินงาน
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
แนวทางการดําเนินงาน
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
เครื่องมือและอุปกรณที่ใช
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
งบประมาณ
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
- 9. 9
ขั้นตอนและแผนดําเนินงาน
ลําดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาหที่ ผูรับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวขอโครงงาน
2 ศึกษาและคนควาขอมูล
3 จัดทําโครงรางงาน
4 ปฏิบัติการสราง
โครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทําเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นําเสนอโครงงาน
ผลที่คาดวาจะไดรับ(ผลลัพธที่ตองการใหเกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทําโครงงาน)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
สถานที่ดําเนินการ
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
กลุมสาระการเรียนรูที่เกี่ยวของ
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
- 10. 10
แหลงอางอิง (เอกสาร หรือแหลงขอมูลตาง ๆ ที่นํามาใชการทําโครงงาน)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________