SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 33
Downloaden Sie, um offline zu lesen
หนังสือสงเสริมการอาน ถิ่นทาวังผา
ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี ๒ กลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย

m
o
.cè¹àÃÒ
¢Í§¡Ô¹¶Ô
k
o
n
n
a
b
o
ชุดที่ ๑

w
w
w

ro
.k

เรื่อง : มณทิรา จํารูญ
ภาพ : จิณณวัตร จิณเสน
ก
คํานํา

.c
k

o
n

w
w
w

n
a
b
o

ro
.k

m
o

หนังสือสงเสริมการอาน ถิ่นทาวังผา ชุดที่ ๑ ของกินถิ่นเรา
ประกอบดว ยเนื้อ เรื่อ ง ๓ เรื่อง คือ น้ํา ปูคูค รัวลา นนา เห็ดนอ ย
อรอยนัก และ ไกสายใยแหงชีวิต ผูเขีย นไดจัดทํา ขึ้น เพื่อ พัฒนา
ทัก ษะการอา นสํา หรับ นัก เรีย นชั ้น มัธ ยมศึก ษาปที ่ ๒ รายวิช า
เสริมทักษะภาษาไทย ๓ รหัสวิชา ท๒๐๒๐๓ และเพื่อใหนักเรียน
ไดรับความรูเกี่ยวกับอาหาร ของกินในทองถิ่น เปนการปลูกฝงให
เห็น คุณ คา และความสํา คัญ ของภูมิปญ ญาในทอ งถิ่น ของตนเอง
ซึ่งใกลตัวนักเรียน ทั้งยังชวยสงเสริมใหนักเรียนอยากอา นหนังสือ
ดวยตนเอง เกิด นิสัย รักการอา น ซึ่งจะเปนพื้น ฐานในการเรียนรู
หวังเปน อยา งยิ่งวา หนังสือสงเสริม การอา นชุดนี้ คงเปน
ประโยชนตอนักเรียนและผูอานทุกทาน
มณทิรา จํารูญ
ข

ค

คําชี้แจงในการใชหนังสือสงเสริมการอาน

หนังสือ สงเสริมการอา น ถิ่นทา วัง ผา ชุดที่ ๑ ของกิน ถิ่นเรา
ผูเขีย นไดนํา เรื่องราววิถีชีวิตและภูมิปญญาพื้นบา นเกี่ยวกับอาหาร
ของคนในทองถิ่น มาแตงเปนเรื่องราวจํา นวน ๓ เรื่อง ประกอบดวย
เรื ่อ งที ่ ๑ น้ํ า ปู คู ค รัว ลา นนา เรื ่อ งที ่ ๒ เห็ด นอ ยอรอ ยนัก และ
เรื่องที่ ๓ ไกสายใยแหงชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการอา น และเพื่อ ให
นัก เรีย นไดรับ ความรูความบันเทิง ความคิดสรา งสรรค เห็น คุณ คา
ของภูม ิป ญ ญาทอ งถิ ่น มีน ิส ัย รัก การอา น สามารถอา นแลว
ตอบคํ า ถามจากเรื ่อ งไดถ ูก ตอ ง ใชท ัก ษะการอา นเปน พื ้น ฐาน
การเรีย นรู ก ลุ ม สาระการเรีย นรู อื ่น ๆ ไดอ ยา งมีป ระสิท ธิ ภ าพ
การจัด กระบวนการเรีย นรูโ ดยใชห นัง สือ สง เสริม การอา น
เลม นี ้ ใชคู ก ับ แผนการจัด การเรีย นรู ห นว ยที ่ ๑ อา นใหค ลอ ง
โดยใหนักเรียนทํา แบบทดสอบกอนเรียน อา นเนื้อเรื่อง ทํา กิจ กรรม
พัฒ นา ทัก ษ ะ ก า ร อ า น แ ล ะ ก า ร ทํ า แ บ บ ท ด ส อ บ ห ล ัง เ รีย น
หวัง เปน อยา งยิ่ง วา หนัง สือ สง เสริม การอา นเลม นี้ จะเปน
แนวทางในการจัดกระบวนการเรียนรูเพื่อพัฒนาทักษะการอา นของ
นักเรียนไดตามผลการเรียนรูที่กําหนดไว

w
w
w

m
o

สารบัญ

o
n

n
a
b
o

ro
.k

.c
k

เรื่อง
คํานํา
คําชี้แจงในการใชหนังสือสงเสริมการอาน
สารบัญ
น้ําปูคูครัวลานนา
อภิธานศัพท
เห็ดนอยอรอยนัก
อภิธานศัพท
ไกสายใยแหงชีวิต
อภิธานศัพท
บรรณานุกรม

หนา
ก
ข
ค
๑
๑๘
๑๙
๔๒
๔๓
๕๖
๕๗
๒

¹éÒ»Ù‰¤Ù‹¤ÃÑÇŌҹ¹Ò
í ¤Ù

เชาวันจันทรบริเวณหนาอาคารขุนยม แพร เกง ดอกแกว
พิณสาย และคมกริช นักเรียนชั้น ม.๒/๑ นั่งคุยกันเพื่อวางแผน
การจัดนิทรรศการการออกรานของโรงเรียน เนื่องในกิจกรรม
เมืองยมปริทัศน
ปนี้ทางโรงเรียนจัดงานยิ่งใหญกวาทุกปที่ผานมา
เพราะโรงเรียนไดประชาสัมพันธเชิญชวนหนวยงานภายนอก
และผูปกครองนักเรียนมารวมงานครั้งนี้ดวย

o
n

.c
k

w
w
w

ro
.k

n
a
b
o

m
o
๓
กิจกรรมเมืองยมปริทัศนครั้งนี้นอกจากมีกิจกรรมทางวิชาการ
แลว ยังมีการจัดนิทรรศการการออกรานขายของ อาหาร เครื่องดื่ม
และเกมของแตละหองเรียน โดยโรงเรียนกําหนดวาการออกราน
จะตองเปนภูมิปญญาพื้นบานในทองถิ่นของนักเรียนเอง
กลุมของแพรไดประชุมปรึกษาและตกลงเลือก น้ําปู หรือ น้ําปู
เพื่อมาจัดแสดงและออกราน เพราะเปนฤดูทํานาและเปนชวงที่มี
ปูนาจํานวนมาก
ดังนั้นเด็ก ๆ จึงนัดกันไปขอคําแนะนําจากแมของพิณสาย
เพราะแมของพิณสายตมน้ําปูขายทุกป

w
w
w

๔
เชาวันเสารทุกคนจึงนัดพบกันที่บานของพิณสาย
เพื่อขอคําแนะนําจากแมของพิณสาย และจะไดชวยกันไปจับปู
ที่ทุงนา
“สวัสดีคะ สวัสดีครับ” พอกับแมของพิณสายตอนรับ
เด็ก ๆ ดวยความยินดี เพราะทราบวาเด็ก ๆ สนใจทําน้ําปู
เพื่อไปออกรานของโรงเรียน วันนี้ทุกคนไดเตรียมตัว
มาอยางดี อีกทั้งยังเตรียมของใบใหญไปใสปูนาดวย

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๕
แมของพิณสายเต็มใจชวยเหลืออยางเต็มที่ เด็กทุกคน
ในกลุมดีใจมาก และวันนี้แมของพิณสายก็จะไปเก็บปูนากับ
พวกเด็ก ๆ ดวย
แมของพิณสายพาทุกคนไปที่ทุงนา และแนะนําวิธีจับปูนา
วาการจับปูนาที่ยังเปน ๆ ในนาขาว ตองระมัดระวังไมใหปูหนีบ
มือ ใหเด็ก ๆ จับบริเวณดานหลังของปูนา ขณะเดียวกันตองไม
เหยียบย่ําตนขาวดวยในนาดวย

๖

w
w
w

การจับปูนั้นตองจับไดจํานวนมาก ๆ จึงจะคุมกับแรงกาย
แรงใจ เวลาที่เสียไป และตองอดทนตอแสงแดดรอนกลางทุงนา
เพราะการจับปูจะจับในวันที่แสงแดดรอนจัด เนื่องจากน้ํา
ในนาขาวจะรอนมาก ปูจะหนีน้ํารอนไตขึ้นมาเกาะอยูตามคันนา
ทําใหจับไดงายและไดปูจํานวนมาก ๆ

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๗
พวกเด็ก ๆ ทําตามคําแนะนําของแมพิณสาย จึงจับปูได
งายโดยไมถูกปูหนีบมือ เด็ก ๆ ทุกคนตางสนุกสนานกับการจับปู
ถึงแมวาเสื้อผาจะเปรอะเปอนไปดวยโคลน
เมื่อพวกเด็ก ๆ จับปูจนเต็มของ และไดปูตามที่ตองการ
แลว
ก็ชวนกันกลับไปที่บานของพิณสาย ทุกคนนําปูที่ไดมาเทรวมกัน
ลงในถังใบใหญ
“แลวขั้นตอนตอไปทําอยางไรอีกครับ” คมกริชถามแมของ
พิณสาย
“เราก็นําปูที่จับมาไดลางใหสะอาดคัดเอาตัวที่ตายออก
แลวนําไปตําหรือโมใหละเอียด” แมของพิณสายอธิบาย

w
w
w

๘
“ในสมัยกอนครกที่ใชตําปูเปนครกไมใบใหญ ทองถิ่นเรา
เรียกวา ครกโกน บางแหงใชครกมองตําปู แตสมัยนี้มีวิธีที่สะดวก
และรวดเร็วกวา โดยเราจะใชเครื่องโม และในขณะที่ตําหรือโม
จะผสมใบตะไครลงไปดวย”
ทุกคนฟงแมของพิณสายอธิบายพรอมกับชวยกันลางปู
จนสะอาด เกงอาสาไปตัดใบตะไครมาให ทุกคนชวยกันหั่น
ใบตะไครแลวจึงเทปูและใบตะไครใสลงในเครื่องโม

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๙
ดอกแกวสงสัยจึงถามขึ้นวา
“ทําไมตองใสใบตะไครลงไปดวยคะ”
“ที่เราตองใสใบตะไครผสมลงไปดวยนั้นก็เพราะจะได
ดับกลิ่นคาวของปูและใหมีกลิ่นหอมดวยจะ บางคนก็ใสใบขมิ้น
หรือใบแฮะเพื่อใหน้ําปูมีสีดํามากขึ้น”

w
w
w

๑๐
แมของพิณสายอธิบายตอไปวา ปูที่โมจนละเอียดแลว
เราจะนํามาบีบหรือคั้นเอาน้ํา แลวใชกระชอนหรือผาขาวบาง
กรองเอาเฉพาะน้ําปูดิบใสในหมอดินหมักทิ้งไว ๑ คืน
“ทําไมตองหมักไวดวยนํามาตมเลยไมไดหรือคะ”
แพรถามบาง แมของพิณสายจึงอธิบายวา
“ที่เราตองหมักน้ําปูดิบไว ๑ คืน ก็เพื่อใหน้ําปูจับตัว
เหนียวขนเมื่อตมเสร็จแลว และเพื่อใหมีกลิ่นหอมไดรสชาติ
ที่อรอยของน้ําปูจะ”

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๑๑

๑๒

แมของพิณสายมองดูเสื้อผาของเด็ก ๆ แตละคนทั้งเลอะ
ทั้งเปอนโคลน หนาตาอิดโรยดวยความเหนื่อยลา จึงบอกเด็ก ๆ วา
“เอาละ ! ตอนนี้เราไดน้ําปูดิบกันแลวทุกคนกลับไปอาบน้ํา
อาบทาเปลี่ยนเสื้อผากันกอน พรุงนี้เชาเราคอยมาตมน้ําปูกันนะ”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณคะ” เด็ก ๆ ยกมือไหวขอบคุณ
แมของพิณสายแลวแยกยายกันกลับบาน

เชาวันรุงขึ้น เกง แพร คมกริช และดอกแกวมาพรอมกัน
ที่บานของพิณสายอีกครั้ง ทุกคนยกมือไหวแมของพิณสาย
“สวัสดีครับ สวัสดีคะ”
แมของพิณสายจึงชวนพวกเด็ก ๆ ไปที่หองครัวหลังบาน
ซึ่งแมของพิณสายไดนําน้ําปูดิบที่หมักไวใสในหมอดินตั้งไฟ
เรียบรอยแลว และบอกวาถาเราไมตมในหมอดินเราตมในกระทะ
ก็ได แมของพิณสายเริ่มอธิบายวิธีการทําน้ําปู

w
w
w

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๑๓

๑๔

ในขั้นตอนแรกจะเคี่ยวโดยใชไฟแรงกอน ซึ่งในขั้นตอนนี้น้ําปู
ที่เคี่ยวจะสงกลิ่นเหม็นมาก แตหลังจากนั้นก็ใชไฟออนกวนไปเรื่อยๆ
และตองกวนบอยๆ ระวังอยาใหน้ําปูไหมเพราะจะทําใหน้ําปูมีรสขม
การเคี่ยวน้ําปูจะใชเวลาประมาณ ๘ – ๑๐ ชั่วโมง

ขณะเคี่ยวจะปรุงรสดวยเกลือและพริกปนเพื่อเพิ่มรสชาติ
แลวตองกวนจนน้ําปูเหนียวมีสีดํามีกลิ่นหอมออกมา เมื่อไดที่แลว
ก็ราไฟใหมอดตั้งทิ้งไวใหเย็นเอง เมื่อน้ําปูเย็นดีแลวจะเหนียวขน
จับดูจะนิ่มแลวจึงนําไปบรรจุในภาชนะที่เตรียมไว น้ําปูที่มี
คุณภาพจะมีสีดาสนิทและมีกลิ่นหอมสามารถเก็บรักษาไวไดนาน
ํ
ประมาณ ๑ – ๒ ป

o
n

.c
k

w
w
w

ro
.k

n
a
b
o

m
o
๑๕
วันนั้นทั้งวันของการเคี่ยวน้ําปูเด็ก ๆ ตางผลัดเปลี่ยนกัน
กวนน้ําปูในหมอ และชวยกันจดบันทึกขั้นตอน และสวนผสมเพื่อให
มีความมั่นใจในการทําครั้งตอไป กอนแยกยายกันกลับบานเด็ก ๆ
กลาวคําขอบคุณแมของพิณสาย
“คุณปาคะ พวกเราขอขอบคุณมากที่คุณปาใหคําแนะนํา
และบอกขั้นตอนการทําน้ําปูอยางละเอียด ขอขอบคุณมากคะ”

w
w
w

๑๖
แมของพิณสายชื่นชมเด็ก ๆ ที่ตั้งอกตั้งใจกันอยางเต็มที่
จึงมอบน้ําปูฝมือของเด็ก ๆ ใหทุกคนนํากลับไปรับประทานที่บาน
กอนถึงวันงานออกราน ๑ อาทิตย ทั้งหมดก็มารวมกัน
เพื่อไปจับปู และทําน้ําปูจาหนายในวันงาน ซึ่งบรรจุในกระปุก
ํ
หลายขนาด ถาบรรจุขนาดเทากระปุกกะป ราคากระปุกละ
๒๐ บาท แตถากระปุกใหญกวานั้นราคาก็แพงขึ้น

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๑๗
ทุกคนที่มารวมงานตางแวะมาซื้อ เมื่อไดชิมแลวทุกคนบอกวา
รสชาติดี สีก็ดําสนิท กลิ่นก็หอม ทั้งหมดยังไดรับคําชมจากครู
ผูปกครอง และเพื่อน ๆ ทุกคนในกลุมยิ้มอยางภูมิใจที่เปนสวนหนึ่ง
ในการสงเสริมและอนุรักษภูมิปญญาพื้นบานในทองถิ่นของตนเอง

๑๘
อภิธานศัพท
นิทรรศการ

.c
k

หมายถึง

o
n

ปริทัศน

w
w
w

ro
.k

n
a
b
o

หมายถึง

ภูมิปญญา
ของ

หมายถึง
หมายถึง

โม

หมายถึง

กระชอน

หมายถึง

m
o

การแสดงผลงานสินคา ผลิตภัณฑ
หรือกิจกรรมใหคนทั่วไปชม
การวิจารณหนังสือประเภท
วารสารที่วิจารณขาวหรือ
เรื่องราวตาง ๆ
พื้นความรูความสามารถ
เครื่องจักสานสําหรับใสปลา
รูปคลายตะกราปากแคบอยาง
คอหมอดิน กนสี่เหลี่ยมจัตุรัส
มีขนาดตาง ๆ
เครื่องบดชนิดหนึ่งทําดวยหิน
รูปคลายสีสีขาว , บดใหละเอียด
ดวยโม
เครื่องกรอง โดยปรกติสานดวย
ผิวไมไผใชกรองกะทิเปนตน
๒๐

àËç´¹ŒÍÂÍË͹ѡ
ÍÂ

เชาวันหยุดที่แสนสดใสในฤดูฝน แสงแดดออน ๆ
สองประกายทาบทาหยดน้ําฝนที่เกาะพรมอยูบนใบไมสองแสง
วับวาวราวกับแสงแหงอัญมณี ฝูงแมลงปอแหวกวายรายรํา
ในอากาศเหนือตนขาวเขียวขจีกลางทุงนากวาง เพื่อตอนรับ
เชาวันใหมที่แสนบริสุทธิ์ หลังจากฝนตกหนักราวกับฟารั่ว
ตลอดทั้งคืนที่ผานมา

o
n

.c
k

w
w
w

ro
.k

n
a
b
o

m
o
๒๑
วันนี้แมชวนแพรไปหาเห็ดที่ปาแพะใกลหมูบาน แพรจึงชวน
พิณสายและดอกแกวไปดวยกัน ทั้งสี่คนเขาไปในปาตั้งแตเชาเพื่อหา
เห็ดมาทําอาหารและนําไปขายที่ตลาด
ทุกปแพรกับแมและคนในหมูบานจะไปหาเห็ดในปา
ถึงแมวาแพรจะไมคอยรูจักเห็ดสักเทาไรนัก แตแพรก็ชอบไปหาเห็ด
ในปานั้น เพราะในปามีหลายสิ่งหลายอยางที่นาคนหา

w
w
w

๒๒
นอกจากจะไดเห็ดมาทําอาหารแลว ในปายังมีพันธุไม
หลากหลายแปลกตา มีตนวานที่สวยงามหลายชนิด ผลไมปา
ที่นารับประทาน และที่สําคัญปาคือชีวิตของคนในหมูบาน
แม แพร พิณสาย และดอกแกวเดินลัดเลาะริมแมน้ํายาง
ที่ไหลผานหลังหมูบานเขาไปในปาเบญจพรรณ ซึ่งภาษาทองถิ่น
ของหมูบานแพรเรียกวา ปาแพะ บางทีเรียกปาเปาหรือปาเหียง

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๒๓

๒๔

แพรเคยถามแมวาทําไมเรียกชื่อปาอยางนี้ แมใหเหตุผล
ตามที่ผูเฒาผูแกในหมูบานบอกตอกันมาวา คนบานเราเรียกชื่อปา
ตามชื่อของตนไมที่ขึ้นในบริเวณปานั้น ๆ ถาปาบริเวณใดมีตนเหียง
ขึ้นมาก ๆ ก็เรียกวา ปาเหียง หรือปาบริเวณใดมีตนเปาขึ้นมาก ๆ
ก็เรียกปาเปา แพรและคนในหมูบานจึงเรียกชื่อปาเหลานั้นสืบตอกัน
มาจนถึงปจจุบัน

เมื่อถึงบริเวณชายปาทุกคนตางไดยินเสียงนกรองประสาน
เสียงกันดังจิ๊ก ๆ จิ๊บ ๆ เหมือนกับวากําลังกลาวตอนรับผูมาเยือน
“ถึงแลวปาเห็ด ดูสิปาบานเราไมรกและไมนากลัว
หรอกจะ”
แมของแพรเอยขึ้น พิณสายและดอกแกวมองไปรอบ ๆ
บริเวณที่แมของแพรบอกวาเปนปาเห็ด เมื่อมองดูแลวจะเห็นวา
มีสภาพเปนปาโปรงมีตนเหียง ตนเปา และตนไมอื่นขึ้นแทรก
กันอยู
ปาไมไดรกจริง ๆ ตามที่แมของแพรบอก

w
w
w

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๒๕
ถัดจากปาบริเวณที่ทุกคนยืนอยูจะเปนปาไมมะคาเพราะมี
ตนมะคาขึ้นเต็มไปหมด แพรและทุกคนเริ่มกมหนากมตามองหา
เห็ดชนิดตาง ๆ ที่รับประทานได พื้นดินบริเวณนั้นยังชุมน้ําฝนอยู
เห็ดที่แพรรูจักดีที่สุดก็คือ เห็ดเผาะ ภาษาทองถิ่นของบานแพร
เรียกวา เห็ดถอบ แพรบอกวาเห็ดถอบมีลักษณะเปนกอน
คอนขางกลม ขนาดเทากับหัวแมมือ ไมมีลําตนไมมีราก
เห็ดถอบออนจะมีสีนวล เปลือกนอกกรอบ หอหุมเนื้อในสีขาวนวล
สวนเห็ดถอบแกเปลือกจะเหนียวมีสีน้ําตาลถึงสีดํา เนื้อขางในสีดํา

w
w
w

๒๖
แพรและคนในหมูบานจะมาเก็บเห็ดถอบชวงตนฤดูฝน
ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม เห็ดถอบจะขึ้น
บริเวณพื้นดินรวนซุยใตโคนตนไม วิธีการเก็บจะใชไมหรือมีดเขี่ย
หยิบขึ้นมา แพรบอกวาชวงที่เห็ดถอบขึ้นใหม ๆ ขายไดราคา
ดีมาก ทะนานละ ๑๕๐ – ๒๐๐ บาท ซึ่งเปนการสรางรายได
ใหแกคนในหมูบาน

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๒๗
เห็ดถอบที่เก็บมาสวนใหญเก็บไวไดประมาณ ๓ – ๔ วัน
แตถาจะใหสดและรับประทานอรอยจริง ๆ เมื่อเก็บมาแลว
ตองนํามาประกอบอาหารทันที และสามารถนํามาประกอบอาหาร
ไดหลายรายการ
ชาวบานนิยมนําเห็ดถอบมาแกง คั่ว ผัด และตมใสใบสมปอย
ดอกมะขามหรือยอดมะขามออน จะมีรสเปรี้ยวเรียกเมนูอาหารนี้วา
จอเห็ดถอบ เห็ดถอบจอจิ้มกับพริกปนอรอยทีเดียว

w
w
w

๒๘
แตถาตองการเก็บเห็ดถอบไวทานนอกฤดูก็สามารถทําได
โดยนําเห็ดถอบไปตมใสเกลือเล็กนอย เมื่อสุกรอใหเย็นกอนนําใส
ถุงพลาสติกรัดใหแนน แลวนําไปแชไวที่ชองฟตในตูเย็น
เมื่อไรที่ตองการรับประทานก็สามารถนําออกมาอุน
แลวรับประทานไดเลย สวนรสชาติก็ยังอรอยเหมือนเดิม

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๒๙
นอกจากนําเห็ดถอบมาประกอบอาหารแลว เห็ดถอบยังมี
สรรพคุณทางยาชวยบํารุงรางกายเปนยาชูกาลัง และแกช้ําในไดดวย
ํ
แตวาคนที่เปนโรคกระเพาะไมควรรับประทานเห็ดถอบมากเกินไป
เพราะอาจจะทําใหแนนทอง และทองอืดได

๓๐
ทั้งสี่คนกมหนากมตาหาเห็ดกันอยางขะมักเขมน เมื่อแพร
พิณสาย และดอกแกวพบเห็ดที่ไมรูจักเขาโดยเฉพาะเห็ดที่มีสีสัน
สะดุดตา จึงถามแมของแพรวา
“แมคะ นี่เห็ดอะไร สีสวยจังเหมือนสีลูกกวาดเลย”
แมของแพรเดินมาดูเห็ดที่เด็ก ๆ พบแลวบอกวา
“บานเราเรียกเห็ดดินจะ เห็ดดินจะมีสีตางๆ มีทั้งสีแดง
สีขาว สีเหลือง สีดํา สีชมพูก็มีนะจะ”

o
n

.c
k

w
w
w

ro
.k

n
a
b
o

m
o
๓๑

๓๒

“แลวเห็ดดินสีตาง ๆ ก็ยังมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ อยางเชน
ถาดอกเห็ดมีสีแดงก็เรียกเห็ดแดง ดอกเห็ดสีขาวก็เรียกเห็ดน้ําขาว
ดอกเห็ดสีเหลืองรูปรางคลายกระทะคว่ําเรียกเห็ดโมงโกงไข
แตถาสีเหลืองดอกเล็ก ๆ คลายดอกกระดุมทองเรียกวาเห็ดเหลืองกอ
สวนเห็ดที่มีรูปรางเปนเสนแตกกิ่งคลายปะการัง ยาวประมาณ
๐.๕ – ๑.๕ นิ้ว สีขาวนวลปนสีน้ําตาลออน บานเราเรียก เห็ดคา
ซึ่งเห็ดชนิดนี้จะขึ้นบริเวณปาที่มีตนมะคาเทานั้น”
แมบอกพรอมชี้ไปทางปามะคาที่เลยจากปาบริเวณนี้ไป

“แลวทานไดไหมคะ” พิณสายถามอยางสงสัย
“ทานไดสิจะ เห็ดดินที่แมบอกไปเมื่อกี้นี้เปนเห็ดปา
บานเรานํามาแกง คั่ว หรือนึ่งจิ้มกับน้ําพริกขาอรอยอยาบอกใคร
แตวาเราตองสังเกตดูใหแนใจกอนวาเปนเห็ดทานไดหรือทานไมได
และระวังอยาเผลอไปเก็บเห็ดมีพิษปนมาดวยนะจะ เพราะเห็ดพิษ
บางชนิดมีสีสวยสะดุดตาเหมือนเห็ดที่ทานไดเลยนะ”
แมของแพรเตือนทุกคน

w
w
w

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๓๓
“แลวเราจะมีวิธีสังเกตอยางไรวาเห็ดชนิดใดมีพิษ
หรือไมมีพิษละคะ”
แมของแพรอธิบายตามที่จามาจากยายของแพรอีกที
ํ
ซึ่งมีความชํานาญในการหาเห็ดมานานแมจึงบอกวา
“เราตองสังเกตดูใหดี เพราะเห็ดพิษจะมีไรขนตามใบ
ตามดอก สีจะฉูดฉาด ไมมีแมลงมาเจาะบริเวณลําตน โคนเห็ด
จะตัน แตถาไมแนใจจริง ๆ ก็มีอีกวิธีหนึ่งคือนําเห็ดมาตมกับขาวสาร
ถาขาวสารเปลี่ยนเปนสีดําก็แปลวาเห็ดมีพิษ แตถาขาวสาร
ไมเปลี่ยนสีก็แสดงวาเห็ดชนิดนั้นทานได”
“เขาใจแลวคะ พิณสายจะสังเกตดูใหดีไมเผลอเก็บเห็ดมีพิษ
แนนอน”

w
w
w

๓๔
แมของแพรยิ้มแลวพูดกับเด็ก ๆอีกวา
“ที่ปาบานเรามีเห็ดหลายชนิดและมีของปามากมาย
ก็เพราะปาและธรรมชาติอุดมสมบูรณเปนแหลงอาหาร
แลวคนบานเราก็ชวยกันรักษาตนน้ํา ไมตัดไมทําลายปา
จึงทําใหผืนดินผืนปาอุดมสมบูรณ” ทุกคนพยักหนาเขาใจ
“เราทั้งสามคนจะไปบอกเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนวาปา
บานเราเปนปาที่อุดมสมบูรณที่สุด เวลาเขาปาไปหาเห็ดหรือ
หาของปา ไมควรทําลายธรรมชาติ เราจะไดมีเห็ดใหเก็บอยางนี้
ทุก ๆ ป”
แพรบอก แมพยักหนาแลวยิ้มใหเด็ก ๆ อยางเอ็นดู

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๓๕
หลังจากที่ทุกคนกลับจากหาเห็ดมาแลวเปนเวลาเกือบ
เที่ยงวัน เมื่อมาถึงบานแมกับแพรเห็นชาวบานกลุมหนึ่งนั่งอยู
ใตถุนบานของตามั่นซึ่งปลูกอยูขาง ๆ บานของแพร
กําลังวิพากษวิจารณกันหนาตาเครงเครียด
แมบอกแพรนําเห็ดไปเก็บไวไนครัวแลวไปอาบน้ํา
เปลี่ยนเสื้อผาใหเรียบรอย สวนแมเมื่ออาบน้ําเปลี่ยนเสื้อผา
เสร็จแลวจึงเดินไปหาชาวบานกลุมนั้น แพรทําตามที่แมบอกแลวจึง
เดินตามแมไป

w
w
w

๓๖
“มีอะไรกันหรือ” แมถามญาติคนหนึ่งของตามั่น
“ตามั่นนะสิ ทานเห็ดเขาไปแลวเบื่อเมาตอนนี้รถกูภัย
ของ อบต. พาไปสงโรงพยาบาลแลว
“อาการเปนอยางไรบาง” แมถาม
“เมื่อกี้ลูกชายแกโทรมาบอกวาหมอลางทองใหทัน
ตอนนี้ปลอดภัยแลว แตตองนอนพักที่โรงพยาบาลอีกสองสามวัน”
ญาติอีกคนของตามั่นพูดเสริมขึ้น

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๓๗

๓๘

แพรซึ่งยืนฟงอยูขาง ๆ แมเอยขึ้นวา
“นี่ขนาดตามั่นรูจักเห็ดทุกชนิดดีกวาใคร ๆ ในหมูบานแลวนะ
ยังทานเห็ดแลวเบื่อเมา ไมนาเชื่อจริง ๆ”
“คนเราก็พลาดกันไดถาไมรูจักระมัดระวัง ทีนี้รูหรือยังวา
ถาเราทานเห็ดพิษเขาไปผลจะเปนอยางไร” แมบอกแพร
แพรพยักหนารูสึกเปนหวงตามั่นขึ้นมาจับใจ เพราะตามั่น
รักแพรเหมือนลูกหลานคนหนึ่งของแกจริง ๆ มีอะไรก็มาแบงปน
ใหแพรเสมอ ๆ เมื่อถึงฤดูฝนของทุกปตามั่นจะออกไปหาเห็ด
แตเชามืด นํามาขายที่ตลาดเชาในหมูบาน ซึ่งเปนที่รูกันในหมูบาน
วาตามั่นเปนเซียนเห็ด

สามวันตอมา ตามั่นออกจากโรงพยาบาลมาพักฟนที่บาน
แมชวนแพรไปเยี่ยมตามั่น
“สวัสดีคะ เปนอยางไรบางคะตามั่น”
แพรและแมยกมือไหวตามั่นแลวถามดวยความเปนหวง
เพราะเห็นสีหนาของตามั่นยังเซียว ๆ อยู
“ดีขึ้นแลวละหนู ขอบใจมากนะที่เปนหวง ดีนะที่หมอ
ลางทองทันไมอยางนั้นตาคงจะไมรอดแน นี่ขนาดชาวบาน
ยกใหตาเปนเซียนเห็ดแลวนะ ยังพลาดทาทานเห็ดพิษเขาไปจนได
นี่ละนะที่เขาวา หมองูตายเพราะงูแท ๆ”
ตามั่นยังอารมณดีมีแรงพูดเลนกับแมและแพร

w
w
w

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๓๙

๔๐

“หนูแพรก็เหมือนกันนะ คราวหนาถาไปเก็บเห็ดอีก
ตองสังเกตใหดี ๆ ถาไมแนใจก็ถามแม และอยาเก็บมาทานเด็ดขาด”
ตามั่นเตือน แพรจึงหันไปบอกแมวา
“แมคะ ถาอยางนั้นเรากลับไปเลือกดูเห็ดที่เราเก็บมา
ในวันนี้อีกทีดีไหมคะ แพรกลัววาอาจจะเก็บเห็ดพิษปนมาดวย”
“ไดสิจะลูก เพื่อความปลอดภัยของเรา เราตองรอบคอบ
และระมัดระวังที่สุด” แมบอกกับแพรแลวยิ้ม
“ใชแลว อยาใหเหมือนตาละ” ตามั่นบอกสองแมลูก

แมและแพรคุยกับตามั่นอยูสักพัก แมจึงชวนแพรกลับบาน
เพราะเห็นวาเหมาะสมแกเวลาแลว
“เรากลับบานไดแลวนะลูก ตามั่นจะไดพักผอน”
“ฉันกับลูกกลับกอนนะตา”
แพรกับแมยกมือไหวตามั่น
“หายไว ๆ นะคะตา” แพรเอยขึ้น
“จําเริญ ๆ เถอะหลาน” ตามั่นอวยพร

w
w
w

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๔๑
เมื่อแมกับแพรไปถึงบานจึงชวยกันนําเห็ดที่เก็บมาเลือกดูอีกที
เพื่อใหแนใจวาเปนเห็ดที่รับประทานไดจริง ๆ
“แมคะ วันกอนที่ตามั่นเขาโรงพยาบาลเพราะทานเห็ดพิษ
เขาไป เราก็ยังไมเอะใจวาเห็ดที่เราหามาปลอดภัยหรือไม แตวันนี้
เห็ดที่เราหามาไดเราตองเลือกดูใหดี ๆ นะคะแม” แพรบอกเพื่อ
ความปลอดภัยของแมและแพรเอง
เย็นวันนั้นอาหารจานเด็ดของบานแพร คือ แกงเห็ดดิน
กับเห็ดนึ่งจิ้มกับน้ําพริกขา ถึงแมวาจะเปนอาหารพื้นบาน
แตความอรอยก็ไมดอยกวาอาหารในภัตตาคารหรู

w
w
w

๔๒
อภิธานศัพท

o
n

n
a
b
o

ro
.k

.c
k

อัญมณี
หมายถึง
เบญจพรรณ หมายถึง
เผาะ

หมายถึง

ภัตตาคาร

หมายถึง

ปะการัง

หมายถึง

เซียน

หมายถึง

จอ

หมายถึง

m
o

รัตนชาติที่เจียระไนแลว
เรียกตนไมตาง ๆ ที่ปลูกไวในที่
แหงเดียวกันวาไมเบญจพรรณ
ชื่อเห็ดเกิดใตดิน ดอกเห็ดออน
เปนกอนกลมเมื่อแกโผลขึ้นมา
เหนือดินเปลือกนอกแข็งแลวแตก
เปนแฉกคลายดาว ดอกออน
ตมสุกแลวกินได
อาคารที่จาหนายอาหารและ
ํ
เครื่องดื่ม
ชื่อสัตวทะเลไมมีกระดูกสันหลัง
จําพวกเดียวกับดอกไมทะเล
ผูที่เกงหรือชํานาญในทางใด
ทางหนึ่งเปนพิเศษ
การประกอบอาหารดวยการตม
ใสมะขามทําใหมีรสชาติเปรี้ยว
๔๔

ä¡ÊÒÂãÂáË‹§ªÕÇÔµ
w
w
w

เย็นวันนี้หลังจากที่แพรกลับจากโรงเรียน แมจึงชวนแพร
ไปซื้อของที่ตลาดสดเทศบาลตําบลทาวังผา เพื่อเตรียมไปทําบุญ
ที่วัดในวันพรุงนี้เนื่องจากวันพรุงนี้เปนวันพระ
กอนออกจากบานแมไมลืมที่จะหยิบรายการของที่จะซื้อ
เตรียมใสไวในกระเปาถือใหเรียบรอย แมเรียกแพรใหรีบมาขึ้นรถ
เดี๋ยวตลาดจะวายเสียกอน แพรจึงรีบวิ่งมาขึ้นรถทันที

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๔๕
ระหวางทางจากบานไปตลาด ขณะที่แพรนั่งอยูในรถ
แพรสังเกตเห็นชาวบานที่กลับจากทําไรทําสวน บางสะพายยาม
บางหิ้วปนโต เดินกลับบานกันเปนกลุม ซึ่งเปนวิถีชีวิตที่แพรสัมผัส
อยูแทบทุกวัน และทําใหแพรคิดไดจึงถามแมวา
“คุณแมจะทําอาหารอะไรไปถวายพระที่วัดในวันพรุงนี้คะ”
แมตอบแพรวา
“ทําหลายอยางจะ แตที่แน ๆ ตองเปนอาหารพื้นบาน
ของเรานะ”

w
w
w

๔๖
เมื่อไปถึงตลาดสดเทศบาลตําบลทาวังผา วันนี้ชางคึกคัก
เปนพิเศษ ผูคนมากหนาหลายตาเหมือนกับวาไดเขามาอยูในงาน
เทศกาลอาหาร คงเปนเพราะวาวันพรุงนี้เปนวันพระ และเปน
วันหยุดยาวติดตอกันหลายวัน ผูคนจึงมาจับจายซื้อของกัน
ที่ตลาดมากเปนพิเศษนั่นเอง

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๔๗
แมและแพรเดินเลือกซื้อของตามรายการที่ไดจดไว
จนครบแลว ขณะเดียวกันสองแมลูกเดินผานรานขายผักสด
และอาหารพื้นบาน ซึ่งแตละรานวางขายอยางเปนกิจจะลักษณะ
แพรเหลือบไปเห็นสิ่งหนึ่งวางขายใกล ๆ กับ ผักพื้นบาน
หลาย ๆ ชนิด
แพรมองดูสิ่งนั้นมันมีลักษณะเปนเสนเล็กยาวละเอียด
มีสีเขียวสด แวววาวเหมือนเสนไหมวางเปนกอง ๆ

w
w
w

๔๘
“นั่นอะไรคะ แวววาวเหมือนเสนไหม แตทําไมมีสีเขียวสด
เหมือนกับมรกตสวยจังเลยคะ” แพรถามแม
“บานเราเรียกวา ไก จะ”
แมบอกกับแพร แพรจึงขออนุญาตแมคาเอามือจับดู
อยางสนใจ
เมื่อแพรเอามือจับดูรูสึกนุมมือ ราวกับวาไดสัมผัส
เสนไหมราคาแพง
“ลื่นและนุมมือจังเลยคะแม” แพรหันไปบอกกับแม

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๔๙
“ไกสด ๆ ใหม ๆ จากแมน้ํานาน กอนละสิบบาทจะ”
แมคาขายไกบอกอยางใจดีพรอมกับอธิบายใหแพรฟง
ตออีกวา
“ไกเปนสาหรายน้ําจืด สีเขียวสด เปนเสนสายมองดูคลาย
เสนผมของคนเรา ไกจะขึ้นอยูบนกอนหินในน้ําไหลเอื่อย ๆ
ที่คอนขางใสสะอาดและมีคุณภาพดี แลวตองมีแสงแดดสองถึง
ดวยนะ”
แมคาอธิบายตออีกวา “เราจะไมพบไกในน้ําที่สกปรก
และจะพบมากในฤดูหนาวจนถึงตนฤดูฝนระหวางเดือนพฤศจิกายน
ถึงเดือนพฤษภาคมของทุกป”

w
w
w

๕๐
“เทาที่ปาทราบ แหลงน้ําบริเวณที่มีไกมากเปนพิเศษในประเทศ
มี ๒ แหงดวยกันคือ แมน้ํานาน จังหวัดนาน ตั้งแตตนน้ําที่อําเภอทุงชาง
เรื่อยไปจนถึงแมน้ํานานที่อําเภอเวียงสา แตจะมีมากที่สุดคือบริเวณ
อําเภอทาวังผาบานเรานี่เอง สวนอีกแหงหนึ่งคือแมน้ําโขง
บริเวณอําเภอเชียงของจังหวัดเชียงราย สวนไกที่ขายในตลาดสดนี้
รวมถึงที่ปาขายอยูนี่ สวนใหญเก็บมาจากแมน้ํานาน”
แมคาแนะนําแหลงที่มาของไกที่วางขายอยู

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๕๑
“แลวเรามีวิธีการเก็บไกอยางไรกันคะ” แพรสงสัย
แมคาขายไกจึงอธิบายอีกวา
“การเก็บไกจากแมน้ํา คนที่เก็บจะรอใหไกเจริญเต็มที่
เสียกอน ซึ่งจะมีขนาดยาวมากตั้งแตครึ่งเมตรจนถึง ๕ เมตร
โดยวิธีการที่รียกวา “จกไก” ซึ่งก็คือการดึงสาหรายที่มีขนาดยาว
ออกจากกอนหิน แลวสายไปมาในน้ําใหดินหรือสิ่งที่เกาะมากับไก
หลุดออกไป แลวพาดไวบนทอนแขนสะสมไปเรื่อย ๆ จนมากพอ
ก็จะมวนเปนกอน”

w
w
w

๕๒
“ใชแลวจะ ไกยังเปนสาหรายที่ชาวบานเรานิยมนํามา
รับประทานกันมาก เพราะมีคุณคาทางอาหารสูงและเชื่อวาไก
เปนยาอายุวัฒนะสามารถ รักษาโรคตาง ๆ ได”
แมชวยอธิบายเสริมใหแพรเขาใจ
“แลวเรานําไกมาปรุงเปนอาหารอะไรไดบางคะ”
แพรถามเพื่อตองการทราบจริง ๆ
“นํามาปรุงเปนอาหารไดหลายอยางจะ เชน นํามาคั่ว
เรียกวา คั่วไก นํามาปรุงแลวหอดวยใบตองนําไปนึ่ง เราก็เรียก
หอนึ่งไก หรือนํามาทําใหแหงบดเปนผงเรียก ไกยี”
แมพูดใหแพรฟง

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๕๓
“ออ! ไกยี ที่เปนผงสีเขียว ๆ ใสงาขาวคั่วดวยใชไหมคะ”
แพรถาม “ใชแลวจะ” แมตอบ
“ถาอยางนั้นแพรเคยทานแลวคะ เพื่อนหอมาทานกลางวัน
ที่โรงเรียน”
แมคาขายไกยังอธิบายใหฟงอีกวา
“ที่สําคัญไกยียังเปนสินคาโอท็อปของตําบลปาคา
อําเภอทาวังผาบานเราเองจะ วิธีทาไกยีทําไดงาย ๆ โดยนําไก
ํ
มาตากแหงแลวนําไปผิงหรือยางไฟใหกรอบ ภาษาถิ่นเราเรียกวา
แอนไฟ จากนั้นก็ใชมือบดขยี้หรือที่เราเรียกวา ยี ใหไกแตกออก
เปนผงแลวปรุงดวยเกลือกับงาขาวคั่วทําใหมีรสชาติอรอย”

w
w
w

๕๔
“คิดไมถึงเลยนะคะวาบานเราจะมีของกินอรอย ๆ
ราคาถูกและมีคุณคา ไมแพอาหารราคาแพง ๆ”
แพรพูดอยางภาคภูมิใจ
“แมคะ ถาอยางนั้นเราซื้อไกสดไปทําหอนึ่งกับไกคั่ว
ถวายพระที่วัดในวันพรุงนี้ ดีไหมคะ”
“แมวาดีมากเลยจะลูก” แมตอบพรอมหันไปบอกแมคาวา
“แมคาจะ ซื้อไกสัก ๓ กอนจะ”

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o
๕๕
แพรไดยินคําตอบจากแมแลวยิ้มอยางสุขใจที่วันนี้ไดรับทั้งความรู
เกี่ยวกับของกินบานเราที่เปนภูมิปญญาทองถิ่น แลวในวันพรุงนี้ก็ยัง
จะไดอิ่มบุญอีกดวย
แมรับถุงใสไกจากแมคา แพรอาสาหิ้วถุงผักให สองคนแมลูก
จึงชวยกันหิ้วของจากตลาดไปเก็บไวในรถ แลวเดินทางกลับบาน
เพื่อจัดเตรียมของนําไปทําบุญในเชาวันพรุงนี้

๕๖
อภิธานศัพท
เทศบาล

w
w
w

o
n

วาย

n
a
b
o
มรกต

ro
.k

.c
k

หมายถึง
หมายถึง
หมายถึง

สาหราย

หมายถึง

สาย
จก
ยี

หมายถึง
หมายถึง
หมายถึง

m
o

องคการบริหารสวนทองถิ่น
แบบหนึ่ง
คอยสิ้นไปตามคราวหรือกําหนด
อายุเวลา
แกวหินสีเขียวใบไมในจํานวนพวก
นพรัตน
ชื่อพืชชั้นต่ําที่ไมมีลําตน ใบ และ
รากที่แทจริงแตมีคลอโรฟลล
บางเปนเซลลเดียวบางเปนกลุม
เซลลเปนสายหรือเปนตนคลาย
พืชชั้นสูงขึ้นทั่วไปในน้ําหรือ
ที่ชื้นแฉะ
แกวงไปมา, ยายไปมา
ฉก, ลวง, ควัก, ขุด, คุย, สับ
ขยี้, ขยําใหแหลก, ขยําใหเหลว
๕๗
บรรณานุกรม
นิดดา หงสวิวัฒน และทวีทอง หงสวิวัฒน. (๒๕๕๐).
ครัวลานนา. พิมพครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ: สํานักพิมพ
แสงแดด.
พระชินพันธ อุชุจาโร และคณะ. (๒๕๕๔). “น้ําปู” ผลผลิต
ภูมิปญญาของชาวลานนา : กรณีศึกษาจังหวัด
พะเยา. บทนิพนธสาขาวิชาการบริหารการศึกษา.
พะเยา: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
มาโนช วามานนท. (๒๕๔๐). ผักพื้นบาน : ความหมายและ
ภูมิปญญาของสามัญชนไทย. พิมพครั้งที่ ๒.
กรุงเทพฯ: โรงพิมพองคการสงเคราะหทหารผานศึก.
ยอดหลา ตนะทิพย. (๒๕๕๒). สาหรายไก. สัมภาษณ,
๑๘ มีนาคม.
ยุวดี จอมพิทักษ. (๒๕๔๓). กินเห็ดอายุยืน. กรุงเทพฯ:
น้ําฝน.

w
w
w

๕๘

.c
k

o
n

n
a
b
o

ro
.k

m
o

ราชบัณฑิตยสถาน. (๒๕๓๙). เห็ดกินไดและเห็ดมีพิษใน
ประเทศไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ:
อมรินทรพริ้นติ้งแอนดพับลิชชิ่ง.
_____________. (๒๕๔๖). พจนานุกรมฉบับราช
บัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒. กรุงเทพฯ: นานมีบุคส
พับลิเคชั่นสจากัด.
ํ
วันดี กฤษณพันธ. (๒๕๓๙). เกร็ดความรูสมุนไพร. พิมพครั้ง
ที่ ๒ กรุงเทพฯ: เฟองฟาพริ้นติ้ง.
ศศิธร แกวเทพ. (๒๕๕๒). การทําน้ําปู. สัมภาษณ,
๑๒ กรกฎาคม.
สิริกร ไชยมา. (๒๕๔๔). ภูมิปญญาในวิถีชีวิตชาวลานนา.
พิมพครั้งที่ ๒. แพร: โครงการพัฒนาหลักสูตรทองถิ่น
โรงเรียนรองกวางอนุสรณ.
สุรศักดิ์ ปาเฮ และคณะ. (๒๕๔๔). “เอกลักษณทองถิ่น
สัญลักษณ”วัฒนธรรมพัฒนาการทางประวัติศาสตร
เอกลักษณและภูมิปญญาจังหวัดนาน. กรุงเทพฯ:
โรงพิมพคุรุสภา.
๕๙
เสาวภาค ศักยพันธ. (๒๕๔๘). ตําราอาหารทองถิ่น.
เชียงใหม: คณะวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม.
อนงค จันทรศรีกุล. (๒๕๓๕). เห็ดเมืองไทย. พิมพครั้งที่ ๔.
กรุงเทพฯ: โรงพิมพไทยวัฒนาพานิช จํากัด.
อาภารัตน มหาขันธ. (๒๕๔๗). สาหรายมากคุณคา โอชารส.
กรุงเทพฯ: โรงพิมพรวมชาง.

w
w
w

ro
.k

n
a
b
o

o
n

.c
k

m
o

Weitere ähnliche Inhalte

Ähnlich wie psของกินถิ่นเรา

บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖baicha1006
 
การแต่งคำประพันธ์
การแต่งคำประพันธ์การแต่งคำประพันธ์
การแต่งคำประพันธ์kruthai40
 
ลอยกระทง
ลอยกระทง ลอยกระทง
ลอยกระทง reemary
 
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิแบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิSurapong Klamboot
 
บาลี 51 80
บาลี 51 80บาลี 51 80
บาลี 51 80Rose Banioki
 
6 51+ตติยสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+มหาวรรค+ตอน+๑
6 51+ตติยสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+มหาวรรค+ตอน+๑6 51+ตติยสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+มหาวรรค+ตอน+๑
6 51+ตติยสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+มหาวรรค+ตอน+๑Tongsamut vorasan
 
รอบรั้ววนาหลวง ฉบับที่ 2
รอบรั้ววนาหลวง ฉบับที่ 2รอบรั้ววนาหลวง ฉบับที่ 2
รอบรั้ววนาหลวง ฉบับที่ 2Kroo nOOy
 
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...0894239045
 
แผนเป็นวิทยากรวิจัย
แผนเป็นวิทยากรวิจัยแผนเป็นวิทยากรวิจัย
แผนเป็นวิทยากรวิจัยppisoot07
 
รายงานการศึกษาร่างแรก
รายงานการศึกษาร่างแรกรายงานการศึกษาร่างแรก
รายงานการศึกษาร่างแรกweeraboon wisartsakul
 
รอบรั้ว วนาหลวง ฉบับที่ 1
รอบรั้ว วนาหลวง ฉบับที่ 1รอบรั้ว วนาหลวง ฉบับที่ 1
รอบรั้ว วนาหลวง ฉบับที่ 1Kroo nOOy
 
การเขียนเรื่องจากจินตนาการ
การเขียนเรื่องจากจินตนาการการเขียนเรื่องจากจินตนาการ
การเขียนเรื่องจากจินตนาการPuzzle Chalermwan
 
เล่มหนังสือส่งเสริมการอ่าน
เล่มหนังสือส่งเสริมการอ่านเล่มหนังสือส่งเสริมการอ่าน
เล่มหนังสือส่งเสริมการอ่านmaipoom
 
ชุดการเรียน
ชุดการเรียนชุดการเรียน
ชุดการเรียนKay Pakham
 
Online โครงการนักพฤกษศาสตร์น้อย รุ่น ๑๒
Online โครงการนักพฤกษศาสตร์น้อย รุ่น ๑๒Online โครงการนักพฤกษศาสตร์น้อย รุ่น ๑๒
Online โครงการนักพฤกษศาสตร์น้อย รุ่น ๑๒ARTery69
 
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1Sivagon Soontong
 
ประเพณีไทย
ประเพณีไทยประเพณีไทย
ประเพณีไทยbabyoam
 

Ähnlich wie psของกินถิ่นเรา (20)

เอกสารประกอบการเรียนเล่ม3
เอกสารประกอบการเรียนเล่ม3เอกสารประกอบการเรียนเล่ม3
เอกสารประกอบการเรียนเล่ม3
 
เอกสารโบราณอีสาน
เอกสารโบราณอีสานเอกสารโบราณอีสาน
เอกสารโบราณอีสาน
 
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖
 
การแต่งคำประพันธ์
การแต่งคำประพันธ์การแต่งคำประพันธ์
การแต่งคำประพันธ์
 
ลอยกระทง
ลอยกระทง ลอยกระทง
ลอยกระทง
 
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิแบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
 
บาลี 51 80
บาลี 51 80บาลี 51 80
บาลี 51 80
 
6 51+ตติยสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+มหาวรรค+ตอน+๑
6 51+ตติยสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+มหาวรรค+ตอน+๑6 51+ตติยสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+มหาวรรค+ตอน+๑
6 51+ตติยสมันตปาสาทิกา+อรรถกถาพระวินัย+มหาวรรค+ตอน+๑
 
รอบรั้ววนาหลวง ฉบับที่ 2
รอบรั้ววนาหลวง ฉบับที่ 2รอบรั้ววนาหลวง ฉบับที่ 2
รอบรั้ววนาหลวง ฉบับที่ 2
 
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...
 
แผนเป็นวิทยากรวิจัย
แผนเป็นวิทยากรวิจัยแผนเป็นวิทยากรวิจัย
แผนเป็นวิทยากรวิจัย
 
รายงานการศึกษาร่างแรก
รายงานการศึกษาร่างแรกรายงานการศึกษาร่างแรก
รายงานการศึกษาร่างแรก
 
รอบรั้ว วนาหลวง ฉบับที่ 1
รอบรั้ว วนาหลวง ฉบับที่ 1รอบรั้ว วนาหลวง ฉบับที่ 1
รอบรั้ว วนาหลวง ฉบับที่ 1
 
การเขียนเรื่องจากจินตนาการ
การเขียนเรื่องจากจินตนาการการเขียนเรื่องจากจินตนาการ
การเขียนเรื่องจากจินตนาการ
 
เล่มหนังสือส่งเสริมการอ่าน
เล่มหนังสือส่งเสริมการอ่านเล่มหนังสือส่งเสริมการอ่าน
เล่มหนังสือส่งเสริมการอ่าน
 
ชุดการเรียน
ชุดการเรียนชุดการเรียน
ชุดการเรียน
 
Online โครงการนักพฤกษศาสตร์น้อย รุ่น ๑๒
Online โครงการนักพฤกษศาสตร์น้อย รุ่น ๑๒Online โครงการนักพฤกษศาสตร์น้อย รุ่น ๑๒
Online โครงการนักพฤกษศาสตร์น้อย รุ่น ๑๒
 
เล่มที่ 6 คำอุทาน
เล่มที่ 6 คำอุทานเล่มที่ 6 คำอุทาน
เล่มที่ 6 คำอุทาน
 
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
 
ประเพณีไทย
ประเพณีไทยประเพณีไทย
ประเพณีไทย
 

Mehr von Prasong Somarat

ผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์ ชาติเจริญ
ผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์  ชาติเจริญผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์  ชาติเจริญ
ผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์ ชาติเจริญPrasong Somarat
 
ผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ พาณิชญ์กิจเจริญ
ผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ  พาณิชญ์กิจเจริญผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ  พาณิชญ์กิจเจริญ
ผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ พาณิชญ์กิจเจริญPrasong Somarat
 
เผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ พาณิชย์กิจเจริญ
เผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ  พาณิชย์กิจเจริญเผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ  พาณิชย์กิจเจริญ
เผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ พาณิชย์กิจเจริญPrasong Somarat
 
วรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮอง
วรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮองวรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮอง
วรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮองPrasong Somarat
 
Best01 ไม้เด็ดครู
Best01 ไม้เด็ดครูBest01 ไม้เด็ดครู
Best01 ไม้เด็ดครูPrasong Somarat
 
Best1 ไม้เด็ดของครู
Best1 ไม้เด็ดของครูBest1 ไม้เด็ดของครู
Best1 ไม้เด็ดของครูPrasong Somarat
 
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1  Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1 Prasong Somarat
 
0การพัฒนากระบวนการนิเทศ โรงเรียนสรินธร
0การพัฒนากระบวนการนิเทศ  โรงเรียนสรินธร0การพัฒนากระบวนการนิเทศ  โรงเรียนสรินธร
0การพัฒนากระบวนการนิเทศ โรงเรียนสรินธรPrasong Somarat
 
เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร สิรินธร สุรินทร์
เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร  สิรินธร สุรินทร์เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร  สิรินธร สุรินทร์
เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร สิรินธร สุรินทร์Prasong Somarat
 
การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์
การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์
การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์Prasong Somarat
 
การออกแบบอิงมฐ.สิรินธร
การออกแบบอิงมฐ.สิรินธรการออกแบบอิงมฐ.สิรินธร
การออกแบบอิงมฐ.สิรินธรPrasong Somarat
 
หลักสูตรสิรินธร 2555
หลักสูตรสิรินธร 2555หลักสูตรสิรินธร 2555
หลักสูตรสิรินธร 2555Prasong Somarat
 
หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555
หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555
หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555Prasong Somarat
 
การออกแบบอิงมฐ.สธ.
การออกแบบอิงมฐ.สธ.การออกแบบอิงมฐ.สธ.
การออกแบบอิงมฐ.สธ.Prasong Somarat
 
2การออกแบบอิงมฐ.
2การออกแบบอิงมฐ.2การออกแบบอิงมฐ.
2การออกแบบอิงมฐ.Prasong Somarat
 
แบบฝึกอ่านคิดจากนิทาน
แบบฝึกอ่านคิดจากนิทานแบบฝึกอ่านคิดจากนิทาน
แบบฝึกอ่านคิดจากนิทานPrasong Somarat
 
Psประเพณีฮีตสิบสอง
PsประเพณีฮีตสิบสองPsประเพณีฮีตสิบสอง
PsประเพณีฮีตสิบสองPrasong Somarat
 
ตารางสอนครุประสงค์
ตารางสอนครุประสงค์ตารางสอนครุประสงค์
ตารางสอนครุประสงค์Prasong Somarat
 

Mehr von Prasong Somarat (20)

ผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์ ชาติเจริญ
ผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์  ชาติเจริญผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์  ชาติเจริญ
ผลงานทางวิชาการ ครูสุพัฒน์ ชาติเจริญ
 
190071010142559is
190071010142559is190071010142559is
190071010142559is
 
ผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ พาณิชญ์กิจเจริญ
ผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ  พาณิชญ์กิจเจริญผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ  พาณิชญ์กิจเจริญ
ผลงานวิชาการ ผอ.สมเกียรติ พาณิชญ์กิจเจริญ
 
เผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ พาณิชย์กิจเจริญ
เผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ  พาณิชย์กิจเจริญเผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ  พาณิชย์กิจเจริญ
เผยแพร่ผลงานวิชาการ โดย ผอ.สมเกียรติ พาณิชย์กิจเจริญ
 
วรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮอง
วรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮองวรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮอง
วรรณณคดีอีสาน บัวธมบัวฮอง
 
Best01 ไม้เด็ดครู
Best01 ไม้เด็ดครูBest01 ไม้เด็ดครู
Best01 ไม้เด็ดครู
 
Best1 ไม้เด็ดของครู
Best1 ไม้เด็ดของครูBest1 ไม้เด็ดของครู
Best1 ไม้เด็ดของครู
 
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1  Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1
Best ไม้เด็ดครู เรื่องที่ 1
 
0การพัฒนากระบวนการนิเทศ โรงเรียนสรินธร
0การพัฒนากระบวนการนิเทศ  โรงเรียนสรินธร0การพัฒนากระบวนการนิเทศ  โรงเรียนสรินธร
0การพัฒนากระบวนการนิเทศ โรงเรียนสรินธร
 
เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร สิรินธร สุรินทร์
เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร  สิรินธร สุรินทร์เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร  สิรินธร สุรินทร์
เรียงร้อยถ้อยคำลำนำสมุนไพร สิรินธร สุรินทร์
 
การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์
การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์
การแต่งกลอน สิรินธร จ.สุรินทร์
 
การออกแบบอิงมฐ.สิรินธร
การออกแบบอิงมฐ.สิรินธรการออกแบบอิงมฐ.สิรินธร
การออกแบบอิงมฐ.สิรินธร
 
หลักสูตรสิรินธร 2555
หลักสูตรสิรินธร 2555หลักสูตรสิรินธร 2555
หลักสูตรสิรินธร 2555
 
หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555
หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555
หลักสูตร 2551 สิรินธร 2555
 
การออกแบบอิงมฐ.สธ.
การออกแบบอิงมฐ.สธ.การออกแบบอิงมฐ.สธ.
การออกแบบอิงมฐ.สธ.
 
2การออกแบบอิงมฐ.
2การออกแบบอิงมฐ.2การออกแบบอิงมฐ.
2การออกแบบอิงมฐ.
 
แบบฝึกอ่านคิดจากนิทาน
แบบฝึกอ่านคิดจากนิทานแบบฝึกอ่านคิดจากนิทาน
แบบฝึกอ่านคิดจากนิทาน
 
Psประเพณีฮีตสิบสอง
PsประเพณีฮีตสิบสองPsประเพณีฮีตสิบสอง
Psประเพณีฮีตสิบสอง
 
แบบฝึก
แบบฝึกแบบฝึก
แบบฝึก
 
ตารางสอนครุประสงค์
ตารางสอนครุประสงค์ตารางสอนครุประสงค์
ตารางสอนครุประสงค์
 

psของกินถิ่นเรา

  • 1. หนังสือสงเสริมการอาน ถิ่นทาวังผา ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี ๒ กลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย m o .cè¹àÃÒ ¢Í§¡Ô¹¶Ô k o n n a b o ชุดที่ ๑ w w w ro .k เรื่อง : มณทิรา จํารูญ ภาพ : จิณณวัตร จิณเสน
  • 2. ก คํานํา .c k o n w w w n a b o ro .k m o หนังสือสงเสริมการอาน ถิ่นทาวังผา ชุดที่ ๑ ของกินถิ่นเรา ประกอบดว ยเนื้อ เรื่อ ง ๓ เรื่อง คือ น้ํา ปูคูค รัวลา นนา เห็ดนอ ย อรอยนัก และ ไกสายใยแหงชีวิต ผูเขีย นไดจัดทํา ขึ้น เพื่อ พัฒนา ทัก ษะการอา นสํา หรับ นัก เรีย นชั ้น มัธ ยมศึก ษาปที ่ ๒ รายวิช า เสริมทักษะภาษาไทย ๓ รหัสวิชา ท๒๐๒๐๓ และเพื่อใหนักเรียน ไดรับความรูเกี่ยวกับอาหาร ของกินในทองถิ่น เปนการปลูกฝงให เห็น คุณ คา และความสํา คัญ ของภูมิปญ ญาในทอ งถิ่น ของตนเอง ซึ่งใกลตัวนักเรียน ทั้งยังชวยสงเสริมใหนักเรียนอยากอา นหนังสือ ดวยตนเอง เกิด นิสัย รักการอา น ซึ่งจะเปนพื้น ฐานในการเรียนรู หวังเปน อยา งยิ่งวา หนังสือสงเสริม การอา นชุดนี้ คงเปน ประโยชนตอนักเรียนและผูอานทุกทาน มณทิรา จํารูญ
  • 3. ข ค คําชี้แจงในการใชหนังสือสงเสริมการอาน หนังสือ สงเสริมการอา น ถิ่นทา วัง ผา ชุดที่ ๑ ของกิน ถิ่นเรา ผูเขีย นไดนํา เรื่องราววิถีชีวิตและภูมิปญญาพื้นบา นเกี่ยวกับอาหาร ของคนในทองถิ่น มาแตงเปนเรื่องราวจํา นวน ๓ เรื่อง ประกอบดวย เรื ่อ งที ่ ๑ น้ํ า ปู คู ค รัว ลา นนา เรื ่อ งที ่ ๒ เห็ด นอ ยอรอ ยนัก และ เรื่องที่ ๓ ไกสายใยแหงชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการอา น และเพื่อ ให นัก เรีย นไดรับ ความรูความบันเทิง ความคิดสรา งสรรค เห็น คุณ คา ของภูม ิป ญ ญาทอ งถิ ่น มีน ิส ัย รัก การอา น สามารถอา นแลว ตอบคํ า ถามจากเรื ่อ งไดถ ูก ตอ ง ใชท ัก ษะการอา นเปน พื ้น ฐาน การเรีย นรู ก ลุ ม สาระการเรีย นรู อื ่น ๆ ไดอ ยา งมีป ระสิท ธิ ภ าพ การจัด กระบวนการเรีย นรูโ ดยใชห นัง สือ สง เสริม การอา น เลม นี ้ ใชคู ก ับ แผนการจัด การเรีย นรู ห นว ยที ่ ๑ อา นใหค ลอ ง โดยใหนักเรียนทํา แบบทดสอบกอนเรียน อา นเนื้อเรื่อง ทํา กิจ กรรม พัฒ นา ทัก ษ ะ ก า ร อ า น แ ล ะ ก า ร ทํ า แ บ บ ท ด ส อ บ ห ล ัง เ รีย น หวัง เปน อยา งยิ่ง วา หนัง สือ สง เสริม การอา นเลม นี้ จะเปน แนวทางในการจัดกระบวนการเรียนรูเพื่อพัฒนาทักษะการอา นของ นักเรียนไดตามผลการเรียนรูที่กําหนดไว w w w m o สารบัญ o n n a b o ro .k .c k เรื่อง คํานํา คําชี้แจงในการใชหนังสือสงเสริมการอาน สารบัญ น้ําปูคูครัวลานนา อภิธานศัพท เห็ดนอยอรอยนัก อภิธานศัพท ไกสายใยแหงชีวิต อภิธานศัพท บรรณานุกรม หนา ก ข ค ๑ ๑๘ ๑๙ ๔๒ ๔๓ ๕๖ ๕๗
  • 4. ๒ ¹éÒ»Ù‰¤Ù‹¤ÃÑÇŌҹ¹Ò í ¤Ù เชาวันจันทรบริเวณหนาอาคารขุนยม แพร เกง ดอกแกว พิณสาย และคมกริช นักเรียนชั้น ม.๒/๑ นั่งคุยกันเพื่อวางแผน การจัดนิทรรศการการออกรานของโรงเรียน เนื่องในกิจกรรม เมืองยมปริทัศน ปนี้ทางโรงเรียนจัดงานยิ่งใหญกวาทุกปที่ผานมา เพราะโรงเรียนไดประชาสัมพันธเชิญชวนหนวยงานภายนอก และผูปกครองนักเรียนมารวมงานครั้งนี้ดวย o n .c k w w w ro .k n a b o m o
  • 5. ๓ กิจกรรมเมืองยมปริทัศนครั้งนี้นอกจากมีกิจกรรมทางวิชาการ แลว ยังมีการจัดนิทรรศการการออกรานขายของ อาหาร เครื่องดื่ม และเกมของแตละหองเรียน โดยโรงเรียนกําหนดวาการออกราน จะตองเปนภูมิปญญาพื้นบานในทองถิ่นของนักเรียนเอง กลุมของแพรไดประชุมปรึกษาและตกลงเลือก น้ําปู หรือ น้ําปู เพื่อมาจัดแสดงและออกราน เพราะเปนฤดูทํานาและเปนชวงที่มี ปูนาจํานวนมาก ดังนั้นเด็ก ๆ จึงนัดกันไปขอคําแนะนําจากแมของพิณสาย เพราะแมของพิณสายตมน้ําปูขายทุกป w w w ๔ เชาวันเสารทุกคนจึงนัดพบกันที่บานของพิณสาย เพื่อขอคําแนะนําจากแมของพิณสาย และจะไดชวยกันไปจับปู ที่ทุงนา “สวัสดีคะ สวัสดีครับ” พอกับแมของพิณสายตอนรับ เด็ก ๆ ดวยความยินดี เพราะทราบวาเด็ก ๆ สนใจทําน้ําปู เพื่อไปออกรานของโรงเรียน วันนี้ทุกคนไดเตรียมตัว มาอยางดี อีกทั้งยังเตรียมของใบใหญไปใสปูนาดวย ro .k n a b o o n .c k m o
  • 6. ๕ แมของพิณสายเต็มใจชวยเหลืออยางเต็มที่ เด็กทุกคน ในกลุมดีใจมาก และวันนี้แมของพิณสายก็จะไปเก็บปูนากับ พวกเด็ก ๆ ดวย แมของพิณสายพาทุกคนไปที่ทุงนา และแนะนําวิธีจับปูนา วาการจับปูนาที่ยังเปน ๆ ในนาขาว ตองระมัดระวังไมใหปูหนีบ มือ ใหเด็ก ๆ จับบริเวณดานหลังของปูนา ขณะเดียวกันตองไม เหยียบย่ําตนขาวดวยในนาดวย ๖ w w w การจับปูนั้นตองจับไดจํานวนมาก ๆ จึงจะคุมกับแรงกาย แรงใจ เวลาที่เสียไป และตองอดทนตอแสงแดดรอนกลางทุงนา เพราะการจับปูจะจับในวันที่แสงแดดรอนจัด เนื่องจากน้ํา ในนาขาวจะรอนมาก ปูจะหนีน้ํารอนไตขึ้นมาเกาะอยูตามคันนา ทําใหจับไดงายและไดปูจํานวนมาก ๆ ro .k n a b o o n .c k m o
  • 7. ๗ พวกเด็ก ๆ ทําตามคําแนะนําของแมพิณสาย จึงจับปูได งายโดยไมถูกปูหนีบมือ เด็ก ๆ ทุกคนตางสนุกสนานกับการจับปู ถึงแมวาเสื้อผาจะเปรอะเปอนไปดวยโคลน เมื่อพวกเด็ก ๆ จับปูจนเต็มของ และไดปูตามที่ตองการ แลว ก็ชวนกันกลับไปที่บานของพิณสาย ทุกคนนําปูที่ไดมาเทรวมกัน ลงในถังใบใหญ “แลวขั้นตอนตอไปทําอยางไรอีกครับ” คมกริชถามแมของ พิณสาย “เราก็นําปูที่จับมาไดลางใหสะอาดคัดเอาตัวที่ตายออก แลวนําไปตําหรือโมใหละเอียด” แมของพิณสายอธิบาย w w w ๘ “ในสมัยกอนครกที่ใชตําปูเปนครกไมใบใหญ ทองถิ่นเรา เรียกวา ครกโกน บางแหงใชครกมองตําปู แตสมัยนี้มีวิธีที่สะดวก และรวดเร็วกวา โดยเราจะใชเครื่องโม และในขณะที่ตําหรือโม จะผสมใบตะไครลงไปดวย” ทุกคนฟงแมของพิณสายอธิบายพรอมกับชวยกันลางปู จนสะอาด เกงอาสาไปตัดใบตะไครมาให ทุกคนชวยกันหั่น ใบตะไครแลวจึงเทปูและใบตะไครใสลงในเครื่องโม ro .k n a b o o n .c k m o
  • 8. ๙ ดอกแกวสงสัยจึงถามขึ้นวา “ทําไมตองใสใบตะไครลงไปดวยคะ” “ที่เราตองใสใบตะไครผสมลงไปดวยนั้นก็เพราะจะได ดับกลิ่นคาวของปูและใหมีกลิ่นหอมดวยจะ บางคนก็ใสใบขมิ้น หรือใบแฮะเพื่อใหน้ําปูมีสีดํามากขึ้น” w w w ๑๐ แมของพิณสายอธิบายตอไปวา ปูที่โมจนละเอียดแลว เราจะนํามาบีบหรือคั้นเอาน้ํา แลวใชกระชอนหรือผาขาวบาง กรองเอาเฉพาะน้ําปูดิบใสในหมอดินหมักทิ้งไว ๑ คืน “ทําไมตองหมักไวดวยนํามาตมเลยไมไดหรือคะ” แพรถามบาง แมของพิณสายจึงอธิบายวา “ที่เราตองหมักน้ําปูดิบไว ๑ คืน ก็เพื่อใหน้ําปูจับตัว เหนียวขนเมื่อตมเสร็จแลว และเพื่อใหมีกลิ่นหอมไดรสชาติ ที่อรอยของน้ําปูจะ” ro .k n a b o o n .c k m o
  • 9. ๑๑ ๑๒ แมของพิณสายมองดูเสื้อผาของเด็ก ๆ แตละคนทั้งเลอะ ทั้งเปอนโคลน หนาตาอิดโรยดวยความเหนื่อยลา จึงบอกเด็ก ๆ วา “เอาละ ! ตอนนี้เราไดน้ําปูดิบกันแลวทุกคนกลับไปอาบน้ํา อาบทาเปลี่ยนเสื้อผากันกอน พรุงนี้เชาเราคอยมาตมน้ําปูกันนะ” “ขอบคุณครับ ขอบคุณคะ” เด็ก ๆ ยกมือไหวขอบคุณ แมของพิณสายแลวแยกยายกันกลับบาน เชาวันรุงขึ้น เกง แพร คมกริช และดอกแกวมาพรอมกัน ที่บานของพิณสายอีกครั้ง ทุกคนยกมือไหวแมของพิณสาย “สวัสดีครับ สวัสดีคะ” แมของพิณสายจึงชวนพวกเด็ก ๆ ไปที่หองครัวหลังบาน ซึ่งแมของพิณสายไดนําน้ําปูดิบที่หมักไวใสในหมอดินตั้งไฟ เรียบรอยแลว และบอกวาถาเราไมตมในหมอดินเราตมในกระทะ ก็ได แมของพิณสายเริ่มอธิบายวิธีการทําน้ําปู w w w ro .k n a b o o n .c k m o
  • 10. ๑๓ ๑๔ ในขั้นตอนแรกจะเคี่ยวโดยใชไฟแรงกอน ซึ่งในขั้นตอนนี้น้ําปู ที่เคี่ยวจะสงกลิ่นเหม็นมาก แตหลังจากนั้นก็ใชไฟออนกวนไปเรื่อยๆ และตองกวนบอยๆ ระวังอยาใหน้ําปูไหมเพราะจะทําใหน้ําปูมีรสขม การเคี่ยวน้ําปูจะใชเวลาประมาณ ๘ – ๑๐ ชั่วโมง ขณะเคี่ยวจะปรุงรสดวยเกลือและพริกปนเพื่อเพิ่มรสชาติ แลวตองกวนจนน้ําปูเหนียวมีสีดํามีกลิ่นหอมออกมา เมื่อไดที่แลว ก็ราไฟใหมอดตั้งทิ้งไวใหเย็นเอง เมื่อน้ําปูเย็นดีแลวจะเหนียวขน จับดูจะนิ่มแลวจึงนําไปบรรจุในภาชนะที่เตรียมไว น้ําปูที่มี คุณภาพจะมีสีดาสนิทและมีกลิ่นหอมสามารถเก็บรักษาไวไดนาน ํ ประมาณ ๑ – ๒ ป o n .c k w w w ro .k n a b o m o
  • 11. ๑๕ วันนั้นทั้งวันของการเคี่ยวน้ําปูเด็ก ๆ ตางผลัดเปลี่ยนกัน กวนน้ําปูในหมอ และชวยกันจดบันทึกขั้นตอน และสวนผสมเพื่อให มีความมั่นใจในการทําครั้งตอไป กอนแยกยายกันกลับบานเด็ก ๆ กลาวคําขอบคุณแมของพิณสาย “คุณปาคะ พวกเราขอขอบคุณมากที่คุณปาใหคําแนะนํา และบอกขั้นตอนการทําน้ําปูอยางละเอียด ขอขอบคุณมากคะ” w w w ๑๖ แมของพิณสายชื่นชมเด็ก ๆ ที่ตั้งอกตั้งใจกันอยางเต็มที่ จึงมอบน้ําปูฝมือของเด็ก ๆ ใหทุกคนนํากลับไปรับประทานที่บาน กอนถึงวันงานออกราน ๑ อาทิตย ทั้งหมดก็มารวมกัน เพื่อไปจับปู และทําน้ําปูจาหนายในวันงาน ซึ่งบรรจุในกระปุก ํ หลายขนาด ถาบรรจุขนาดเทากระปุกกะป ราคากระปุกละ ๒๐ บาท แตถากระปุกใหญกวานั้นราคาก็แพงขึ้น ro .k n a b o o n .c k m o
  • 12. ๑๗ ทุกคนที่มารวมงานตางแวะมาซื้อ เมื่อไดชิมแลวทุกคนบอกวา รสชาติดี สีก็ดําสนิท กลิ่นก็หอม ทั้งหมดยังไดรับคําชมจากครู ผูปกครอง และเพื่อน ๆ ทุกคนในกลุมยิ้มอยางภูมิใจที่เปนสวนหนึ่ง ในการสงเสริมและอนุรักษภูมิปญญาพื้นบานในทองถิ่นของตนเอง ๑๘ อภิธานศัพท นิทรรศการ .c k หมายถึง o n ปริทัศน w w w ro .k n a b o หมายถึง ภูมิปญญา ของ หมายถึง หมายถึง โม หมายถึง กระชอน หมายถึง m o การแสดงผลงานสินคา ผลิตภัณฑ หรือกิจกรรมใหคนทั่วไปชม การวิจารณหนังสือประเภท วารสารที่วิจารณขาวหรือ เรื่องราวตาง ๆ พื้นความรูความสามารถ เครื่องจักสานสําหรับใสปลา รูปคลายตะกราปากแคบอยาง คอหมอดิน กนสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีขนาดตาง ๆ เครื่องบดชนิดหนึ่งทําดวยหิน รูปคลายสีสีขาว , บดใหละเอียด ดวยโม เครื่องกรอง โดยปรกติสานดวย ผิวไมไผใชกรองกะทิเปนตน
  • 13. ๒๐ àËç´¹ŒÍÂÍË͹ѡ Í เชาวันหยุดที่แสนสดใสในฤดูฝน แสงแดดออน ๆ สองประกายทาบทาหยดน้ําฝนที่เกาะพรมอยูบนใบไมสองแสง วับวาวราวกับแสงแหงอัญมณี ฝูงแมลงปอแหวกวายรายรํา ในอากาศเหนือตนขาวเขียวขจีกลางทุงนากวาง เพื่อตอนรับ เชาวันใหมที่แสนบริสุทธิ์ หลังจากฝนตกหนักราวกับฟารั่ว ตลอดทั้งคืนที่ผานมา o n .c k w w w ro .k n a b o m o
  • 14. ๒๑ วันนี้แมชวนแพรไปหาเห็ดที่ปาแพะใกลหมูบาน แพรจึงชวน พิณสายและดอกแกวไปดวยกัน ทั้งสี่คนเขาไปในปาตั้งแตเชาเพื่อหา เห็ดมาทําอาหารและนําไปขายที่ตลาด ทุกปแพรกับแมและคนในหมูบานจะไปหาเห็ดในปา ถึงแมวาแพรจะไมคอยรูจักเห็ดสักเทาไรนัก แตแพรก็ชอบไปหาเห็ด ในปานั้น เพราะในปามีหลายสิ่งหลายอยางที่นาคนหา w w w ๒๒ นอกจากจะไดเห็ดมาทําอาหารแลว ในปายังมีพันธุไม หลากหลายแปลกตา มีตนวานที่สวยงามหลายชนิด ผลไมปา ที่นารับประทาน และที่สําคัญปาคือชีวิตของคนในหมูบาน แม แพร พิณสาย และดอกแกวเดินลัดเลาะริมแมน้ํายาง ที่ไหลผานหลังหมูบานเขาไปในปาเบญจพรรณ ซึ่งภาษาทองถิ่น ของหมูบานแพรเรียกวา ปาแพะ บางทีเรียกปาเปาหรือปาเหียง ro .k n a b o o n .c k m o
  • 15. ๒๓ ๒๔ แพรเคยถามแมวาทําไมเรียกชื่อปาอยางนี้ แมใหเหตุผล ตามที่ผูเฒาผูแกในหมูบานบอกตอกันมาวา คนบานเราเรียกชื่อปา ตามชื่อของตนไมที่ขึ้นในบริเวณปานั้น ๆ ถาปาบริเวณใดมีตนเหียง ขึ้นมาก ๆ ก็เรียกวา ปาเหียง หรือปาบริเวณใดมีตนเปาขึ้นมาก ๆ ก็เรียกปาเปา แพรและคนในหมูบานจึงเรียกชื่อปาเหลานั้นสืบตอกัน มาจนถึงปจจุบัน เมื่อถึงบริเวณชายปาทุกคนตางไดยินเสียงนกรองประสาน เสียงกันดังจิ๊ก ๆ จิ๊บ ๆ เหมือนกับวากําลังกลาวตอนรับผูมาเยือน “ถึงแลวปาเห็ด ดูสิปาบานเราไมรกและไมนากลัว หรอกจะ” แมของแพรเอยขึ้น พิณสายและดอกแกวมองไปรอบ ๆ บริเวณที่แมของแพรบอกวาเปนปาเห็ด เมื่อมองดูแลวจะเห็นวา มีสภาพเปนปาโปรงมีตนเหียง ตนเปา และตนไมอื่นขึ้นแทรก กันอยู ปาไมไดรกจริง ๆ ตามที่แมของแพรบอก w w w ro .k n a b o o n .c k m o
  • 16. ๒๕ ถัดจากปาบริเวณที่ทุกคนยืนอยูจะเปนปาไมมะคาเพราะมี ตนมะคาขึ้นเต็มไปหมด แพรและทุกคนเริ่มกมหนากมตามองหา เห็ดชนิดตาง ๆ ที่รับประทานได พื้นดินบริเวณนั้นยังชุมน้ําฝนอยู เห็ดที่แพรรูจักดีที่สุดก็คือ เห็ดเผาะ ภาษาทองถิ่นของบานแพร เรียกวา เห็ดถอบ แพรบอกวาเห็ดถอบมีลักษณะเปนกอน คอนขางกลม ขนาดเทากับหัวแมมือ ไมมีลําตนไมมีราก เห็ดถอบออนจะมีสีนวล เปลือกนอกกรอบ หอหุมเนื้อในสีขาวนวล สวนเห็ดถอบแกเปลือกจะเหนียวมีสีน้ําตาลถึงสีดํา เนื้อขางในสีดํา w w w ๒๖ แพรและคนในหมูบานจะมาเก็บเห็ดถอบชวงตนฤดูฝน ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม เห็ดถอบจะขึ้น บริเวณพื้นดินรวนซุยใตโคนตนไม วิธีการเก็บจะใชไมหรือมีดเขี่ย หยิบขึ้นมา แพรบอกวาชวงที่เห็ดถอบขึ้นใหม ๆ ขายไดราคา ดีมาก ทะนานละ ๑๕๐ – ๒๐๐ บาท ซึ่งเปนการสรางรายได ใหแกคนในหมูบาน ro .k n a b o o n .c k m o
  • 17. ๒๗ เห็ดถอบที่เก็บมาสวนใหญเก็บไวไดประมาณ ๓ – ๔ วัน แตถาจะใหสดและรับประทานอรอยจริง ๆ เมื่อเก็บมาแลว ตองนํามาประกอบอาหารทันที และสามารถนํามาประกอบอาหาร ไดหลายรายการ ชาวบานนิยมนําเห็ดถอบมาแกง คั่ว ผัด และตมใสใบสมปอย ดอกมะขามหรือยอดมะขามออน จะมีรสเปรี้ยวเรียกเมนูอาหารนี้วา จอเห็ดถอบ เห็ดถอบจอจิ้มกับพริกปนอรอยทีเดียว w w w ๒๘ แตถาตองการเก็บเห็ดถอบไวทานนอกฤดูก็สามารถทําได โดยนําเห็ดถอบไปตมใสเกลือเล็กนอย เมื่อสุกรอใหเย็นกอนนําใส ถุงพลาสติกรัดใหแนน แลวนําไปแชไวที่ชองฟตในตูเย็น เมื่อไรที่ตองการรับประทานก็สามารถนําออกมาอุน แลวรับประทานไดเลย สวนรสชาติก็ยังอรอยเหมือนเดิม ro .k n a b o o n .c k m o
  • 18. ๒๙ นอกจากนําเห็ดถอบมาประกอบอาหารแลว เห็ดถอบยังมี สรรพคุณทางยาชวยบํารุงรางกายเปนยาชูกาลัง และแกช้ําในไดดวย ํ แตวาคนที่เปนโรคกระเพาะไมควรรับประทานเห็ดถอบมากเกินไป เพราะอาจจะทําใหแนนทอง และทองอืดได ๓๐ ทั้งสี่คนกมหนากมตาหาเห็ดกันอยางขะมักเขมน เมื่อแพร พิณสาย และดอกแกวพบเห็ดที่ไมรูจักเขาโดยเฉพาะเห็ดที่มีสีสัน สะดุดตา จึงถามแมของแพรวา “แมคะ นี่เห็ดอะไร สีสวยจังเหมือนสีลูกกวาดเลย” แมของแพรเดินมาดูเห็ดที่เด็ก ๆ พบแลวบอกวา “บานเราเรียกเห็ดดินจะ เห็ดดินจะมีสีตางๆ มีทั้งสีแดง สีขาว สีเหลือง สีดํา สีชมพูก็มีนะจะ” o n .c k w w w ro .k n a b o m o
  • 19. ๓๑ ๓๒ “แลวเห็ดดินสีตาง ๆ ก็ยังมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ อยางเชน ถาดอกเห็ดมีสีแดงก็เรียกเห็ดแดง ดอกเห็ดสีขาวก็เรียกเห็ดน้ําขาว ดอกเห็ดสีเหลืองรูปรางคลายกระทะคว่ําเรียกเห็ดโมงโกงไข แตถาสีเหลืองดอกเล็ก ๆ คลายดอกกระดุมทองเรียกวาเห็ดเหลืองกอ สวนเห็ดที่มีรูปรางเปนเสนแตกกิ่งคลายปะการัง ยาวประมาณ ๐.๕ – ๑.๕ นิ้ว สีขาวนวลปนสีน้ําตาลออน บานเราเรียก เห็ดคา ซึ่งเห็ดชนิดนี้จะขึ้นบริเวณปาที่มีตนมะคาเทานั้น” แมบอกพรอมชี้ไปทางปามะคาที่เลยจากปาบริเวณนี้ไป “แลวทานไดไหมคะ” พิณสายถามอยางสงสัย “ทานไดสิจะ เห็ดดินที่แมบอกไปเมื่อกี้นี้เปนเห็ดปา บานเรานํามาแกง คั่ว หรือนึ่งจิ้มกับน้ําพริกขาอรอยอยาบอกใคร แตวาเราตองสังเกตดูใหแนใจกอนวาเปนเห็ดทานไดหรือทานไมได และระวังอยาเผลอไปเก็บเห็ดมีพิษปนมาดวยนะจะ เพราะเห็ดพิษ บางชนิดมีสีสวยสะดุดตาเหมือนเห็ดที่ทานไดเลยนะ” แมของแพรเตือนทุกคน w w w ro .k n a b o o n .c k m o
  • 20. ๓๓ “แลวเราจะมีวิธีสังเกตอยางไรวาเห็ดชนิดใดมีพิษ หรือไมมีพิษละคะ” แมของแพรอธิบายตามที่จามาจากยายของแพรอีกที ํ ซึ่งมีความชํานาญในการหาเห็ดมานานแมจึงบอกวา “เราตองสังเกตดูใหดี เพราะเห็ดพิษจะมีไรขนตามใบ ตามดอก สีจะฉูดฉาด ไมมีแมลงมาเจาะบริเวณลําตน โคนเห็ด จะตัน แตถาไมแนใจจริง ๆ ก็มีอีกวิธีหนึ่งคือนําเห็ดมาตมกับขาวสาร ถาขาวสารเปลี่ยนเปนสีดําก็แปลวาเห็ดมีพิษ แตถาขาวสาร ไมเปลี่ยนสีก็แสดงวาเห็ดชนิดนั้นทานได” “เขาใจแลวคะ พิณสายจะสังเกตดูใหดีไมเผลอเก็บเห็ดมีพิษ แนนอน” w w w ๓๔ แมของแพรยิ้มแลวพูดกับเด็ก ๆอีกวา “ที่ปาบานเรามีเห็ดหลายชนิดและมีของปามากมาย ก็เพราะปาและธรรมชาติอุดมสมบูรณเปนแหลงอาหาร แลวคนบานเราก็ชวยกันรักษาตนน้ํา ไมตัดไมทําลายปา จึงทําใหผืนดินผืนปาอุดมสมบูรณ” ทุกคนพยักหนาเขาใจ “เราทั้งสามคนจะไปบอกเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนวาปา บานเราเปนปาที่อุดมสมบูรณที่สุด เวลาเขาปาไปหาเห็ดหรือ หาของปา ไมควรทําลายธรรมชาติ เราจะไดมีเห็ดใหเก็บอยางนี้ ทุก ๆ ป” แพรบอก แมพยักหนาแลวยิ้มใหเด็ก ๆ อยางเอ็นดู ro .k n a b o o n .c k m o
  • 21. ๓๕ หลังจากที่ทุกคนกลับจากหาเห็ดมาแลวเปนเวลาเกือบ เที่ยงวัน เมื่อมาถึงบานแมกับแพรเห็นชาวบานกลุมหนึ่งนั่งอยู ใตถุนบานของตามั่นซึ่งปลูกอยูขาง ๆ บานของแพร กําลังวิพากษวิจารณกันหนาตาเครงเครียด แมบอกแพรนําเห็ดไปเก็บไวไนครัวแลวไปอาบน้ํา เปลี่ยนเสื้อผาใหเรียบรอย สวนแมเมื่ออาบน้ําเปลี่ยนเสื้อผา เสร็จแลวจึงเดินไปหาชาวบานกลุมนั้น แพรทําตามที่แมบอกแลวจึง เดินตามแมไป w w w ๓๖ “มีอะไรกันหรือ” แมถามญาติคนหนึ่งของตามั่น “ตามั่นนะสิ ทานเห็ดเขาไปแลวเบื่อเมาตอนนี้รถกูภัย ของ อบต. พาไปสงโรงพยาบาลแลว “อาการเปนอยางไรบาง” แมถาม “เมื่อกี้ลูกชายแกโทรมาบอกวาหมอลางทองใหทัน ตอนนี้ปลอดภัยแลว แตตองนอนพักที่โรงพยาบาลอีกสองสามวัน” ญาติอีกคนของตามั่นพูดเสริมขึ้น ro .k n a b o o n .c k m o
  • 22. ๓๗ ๓๘ แพรซึ่งยืนฟงอยูขาง ๆ แมเอยขึ้นวา “นี่ขนาดตามั่นรูจักเห็ดทุกชนิดดีกวาใคร ๆ ในหมูบานแลวนะ ยังทานเห็ดแลวเบื่อเมา ไมนาเชื่อจริง ๆ” “คนเราก็พลาดกันไดถาไมรูจักระมัดระวัง ทีนี้รูหรือยังวา ถาเราทานเห็ดพิษเขาไปผลจะเปนอยางไร” แมบอกแพร แพรพยักหนารูสึกเปนหวงตามั่นขึ้นมาจับใจ เพราะตามั่น รักแพรเหมือนลูกหลานคนหนึ่งของแกจริง ๆ มีอะไรก็มาแบงปน ใหแพรเสมอ ๆ เมื่อถึงฤดูฝนของทุกปตามั่นจะออกไปหาเห็ด แตเชามืด นํามาขายที่ตลาดเชาในหมูบาน ซึ่งเปนที่รูกันในหมูบาน วาตามั่นเปนเซียนเห็ด สามวันตอมา ตามั่นออกจากโรงพยาบาลมาพักฟนที่บาน แมชวนแพรไปเยี่ยมตามั่น “สวัสดีคะ เปนอยางไรบางคะตามั่น” แพรและแมยกมือไหวตามั่นแลวถามดวยความเปนหวง เพราะเห็นสีหนาของตามั่นยังเซียว ๆ อยู “ดีขึ้นแลวละหนู ขอบใจมากนะที่เปนหวง ดีนะที่หมอ ลางทองทันไมอยางนั้นตาคงจะไมรอดแน นี่ขนาดชาวบาน ยกใหตาเปนเซียนเห็ดแลวนะ ยังพลาดทาทานเห็ดพิษเขาไปจนได นี่ละนะที่เขาวา หมองูตายเพราะงูแท ๆ” ตามั่นยังอารมณดีมีแรงพูดเลนกับแมและแพร w w w ro .k n a b o o n .c k m o
  • 23. ๓๙ ๔๐ “หนูแพรก็เหมือนกันนะ คราวหนาถาไปเก็บเห็ดอีก ตองสังเกตใหดี ๆ ถาไมแนใจก็ถามแม และอยาเก็บมาทานเด็ดขาด” ตามั่นเตือน แพรจึงหันไปบอกแมวา “แมคะ ถาอยางนั้นเรากลับไปเลือกดูเห็ดที่เราเก็บมา ในวันนี้อีกทีดีไหมคะ แพรกลัววาอาจจะเก็บเห็ดพิษปนมาดวย” “ไดสิจะลูก เพื่อความปลอดภัยของเรา เราตองรอบคอบ และระมัดระวังที่สุด” แมบอกกับแพรแลวยิ้ม “ใชแลว อยาใหเหมือนตาละ” ตามั่นบอกสองแมลูก แมและแพรคุยกับตามั่นอยูสักพัก แมจึงชวนแพรกลับบาน เพราะเห็นวาเหมาะสมแกเวลาแลว “เรากลับบานไดแลวนะลูก ตามั่นจะไดพักผอน” “ฉันกับลูกกลับกอนนะตา” แพรกับแมยกมือไหวตามั่น “หายไว ๆ นะคะตา” แพรเอยขึ้น “จําเริญ ๆ เถอะหลาน” ตามั่นอวยพร w w w ro .k n a b o o n .c k m o
  • 24. ๔๑ เมื่อแมกับแพรไปถึงบานจึงชวยกันนําเห็ดที่เก็บมาเลือกดูอีกที เพื่อใหแนใจวาเปนเห็ดที่รับประทานไดจริง ๆ “แมคะ วันกอนที่ตามั่นเขาโรงพยาบาลเพราะทานเห็ดพิษ เขาไป เราก็ยังไมเอะใจวาเห็ดที่เราหามาปลอดภัยหรือไม แตวันนี้ เห็ดที่เราหามาไดเราตองเลือกดูใหดี ๆ นะคะแม” แพรบอกเพื่อ ความปลอดภัยของแมและแพรเอง เย็นวันนั้นอาหารจานเด็ดของบานแพร คือ แกงเห็ดดิน กับเห็ดนึ่งจิ้มกับน้ําพริกขา ถึงแมวาจะเปนอาหารพื้นบาน แตความอรอยก็ไมดอยกวาอาหารในภัตตาคารหรู w w w ๔๒ อภิธานศัพท o n n a b o ro .k .c k อัญมณี หมายถึง เบญจพรรณ หมายถึง เผาะ หมายถึง ภัตตาคาร หมายถึง ปะการัง หมายถึง เซียน หมายถึง จอ หมายถึง m o รัตนชาติที่เจียระไนแลว เรียกตนไมตาง ๆ ที่ปลูกไวในที่ แหงเดียวกันวาไมเบญจพรรณ ชื่อเห็ดเกิดใตดิน ดอกเห็ดออน เปนกอนกลมเมื่อแกโผลขึ้นมา เหนือดินเปลือกนอกแข็งแลวแตก เปนแฉกคลายดาว ดอกออน ตมสุกแลวกินได อาคารที่จาหนายอาหารและ ํ เครื่องดื่ม ชื่อสัตวทะเลไมมีกระดูกสันหลัง จําพวกเดียวกับดอกไมทะเล ผูที่เกงหรือชํานาญในทางใด ทางหนึ่งเปนพิเศษ การประกอบอาหารดวยการตม ใสมะขามทําใหมีรสชาติเปรี้ยว
  • 25. ๔๔ ä¡ÊÒÂãÂáË‹§ªÕÇÔµ w w w เย็นวันนี้หลังจากที่แพรกลับจากโรงเรียน แมจึงชวนแพร ไปซื้อของที่ตลาดสดเทศบาลตําบลทาวังผา เพื่อเตรียมไปทําบุญ ที่วัดในวันพรุงนี้เนื่องจากวันพรุงนี้เปนวันพระ กอนออกจากบานแมไมลืมที่จะหยิบรายการของที่จะซื้อ เตรียมใสไวในกระเปาถือใหเรียบรอย แมเรียกแพรใหรีบมาขึ้นรถ เดี๋ยวตลาดจะวายเสียกอน แพรจึงรีบวิ่งมาขึ้นรถทันที ro .k n a b o o n .c k m o
  • 26. ๔๕ ระหวางทางจากบานไปตลาด ขณะที่แพรนั่งอยูในรถ แพรสังเกตเห็นชาวบานที่กลับจากทําไรทําสวน บางสะพายยาม บางหิ้วปนโต เดินกลับบานกันเปนกลุม ซึ่งเปนวิถีชีวิตที่แพรสัมผัส อยูแทบทุกวัน และทําใหแพรคิดไดจึงถามแมวา “คุณแมจะทําอาหารอะไรไปถวายพระที่วัดในวันพรุงนี้คะ” แมตอบแพรวา “ทําหลายอยางจะ แตที่แน ๆ ตองเปนอาหารพื้นบาน ของเรานะ” w w w ๔๖ เมื่อไปถึงตลาดสดเทศบาลตําบลทาวังผา วันนี้ชางคึกคัก เปนพิเศษ ผูคนมากหนาหลายตาเหมือนกับวาไดเขามาอยูในงาน เทศกาลอาหาร คงเปนเพราะวาวันพรุงนี้เปนวันพระ และเปน วันหยุดยาวติดตอกันหลายวัน ผูคนจึงมาจับจายซื้อของกัน ที่ตลาดมากเปนพิเศษนั่นเอง ro .k n a b o o n .c k m o
  • 27. ๔๗ แมและแพรเดินเลือกซื้อของตามรายการที่ไดจดไว จนครบแลว ขณะเดียวกันสองแมลูกเดินผานรานขายผักสด และอาหารพื้นบาน ซึ่งแตละรานวางขายอยางเปนกิจจะลักษณะ แพรเหลือบไปเห็นสิ่งหนึ่งวางขายใกล ๆ กับ ผักพื้นบาน หลาย ๆ ชนิด แพรมองดูสิ่งนั้นมันมีลักษณะเปนเสนเล็กยาวละเอียด มีสีเขียวสด แวววาวเหมือนเสนไหมวางเปนกอง ๆ w w w ๔๘ “นั่นอะไรคะ แวววาวเหมือนเสนไหม แตทําไมมีสีเขียวสด เหมือนกับมรกตสวยจังเลยคะ” แพรถามแม “บานเราเรียกวา ไก จะ” แมบอกกับแพร แพรจึงขออนุญาตแมคาเอามือจับดู อยางสนใจ เมื่อแพรเอามือจับดูรูสึกนุมมือ ราวกับวาไดสัมผัส เสนไหมราคาแพง “ลื่นและนุมมือจังเลยคะแม” แพรหันไปบอกกับแม ro .k n a b o o n .c k m o
  • 28. ๔๙ “ไกสด ๆ ใหม ๆ จากแมน้ํานาน กอนละสิบบาทจะ” แมคาขายไกบอกอยางใจดีพรอมกับอธิบายใหแพรฟง ตออีกวา “ไกเปนสาหรายน้ําจืด สีเขียวสด เปนเสนสายมองดูคลาย เสนผมของคนเรา ไกจะขึ้นอยูบนกอนหินในน้ําไหลเอื่อย ๆ ที่คอนขางใสสะอาดและมีคุณภาพดี แลวตองมีแสงแดดสองถึง ดวยนะ” แมคาอธิบายตออีกวา “เราจะไมพบไกในน้ําที่สกปรก และจะพบมากในฤดูหนาวจนถึงตนฤดูฝนระหวางเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนพฤษภาคมของทุกป” w w w ๕๐ “เทาที่ปาทราบ แหลงน้ําบริเวณที่มีไกมากเปนพิเศษในประเทศ มี ๒ แหงดวยกันคือ แมน้ํานาน จังหวัดนาน ตั้งแตตนน้ําที่อําเภอทุงชาง เรื่อยไปจนถึงแมน้ํานานที่อําเภอเวียงสา แตจะมีมากที่สุดคือบริเวณ อําเภอทาวังผาบานเรานี่เอง สวนอีกแหงหนึ่งคือแมน้ําโขง บริเวณอําเภอเชียงของจังหวัดเชียงราย สวนไกที่ขายในตลาดสดนี้ รวมถึงที่ปาขายอยูนี่ สวนใหญเก็บมาจากแมน้ํานาน” แมคาแนะนําแหลงที่มาของไกที่วางขายอยู ro .k n a b o o n .c k m o
  • 29. ๕๑ “แลวเรามีวิธีการเก็บไกอยางไรกันคะ” แพรสงสัย แมคาขายไกจึงอธิบายอีกวา “การเก็บไกจากแมน้ํา คนที่เก็บจะรอใหไกเจริญเต็มที่ เสียกอน ซึ่งจะมีขนาดยาวมากตั้งแตครึ่งเมตรจนถึง ๕ เมตร โดยวิธีการที่รียกวา “จกไก” ซึ่งก็คือการดึงสาหรายที่มีขนาดยาว ออกจากกอนหิน แลวสายไปมาในน้ําใหดินหรือสิ่งที่เกาะมากับไก หลุดออกไป แลวพาดไวบนทอนแขนสะสมไปเรื่อย ๆ จนมากพอ ก็จะมวนเปนกอน” w w w ๕๒ “ใชแลวจะ ไกยังเปนสาหรายที่ชาวบานเรานิยมนํามา รับประทานกันมาก เพราะมีคุณคาทางอาหารสูงและเชื่อวาไก เปนยาอายุวัฒนะสามารถ รักษาโรคตาง ๆ ได” แมชวยอธิบายเสริมใหแพรเขาใจ “แลวเรานําไกมาปรุงเปนอาหารอะไรไดบางคะ” แพรถามเพื่อตองการทราบจริง ๆ “นํามาปรุงเปนอาหารไดหลายอยางจะ เชน นํามาคั่ว เรียกวา คั่วไก นํามาปรุงแลวหอดวยใบตองนําไปนึ่ง เราก็เรียก หอนึ่งไก หรือนํามาทําใหแหงบดเปนผงเรียก ไกยี” แมพูดใหแพรฟง ro .k n a b o o n .c k m o
  • 30. ๕๓ “ออ! ไกยี ที่เปนผงสีเขียว ๆ ใสงาขาวคั่วดวยใชไหมคะ” แพรถาม “ใชแลวจะ” แมตอบ “ถาอยางนั้นแพรเคยทานแลวคะ เพื่อนหอมาทานกลางวัน ที่โรงเรียน” แมคาขายไกยังอธิบายใหฟงอีกวา “ที่สําคัญไกยียังเปนสินคาโอท็อปของตําบลปาคา อําเภอทาวังผาบานเราเองจะ วิธีทาไกยีทําไดงาย ๆ โดยนําไก ํ มาตากแหงแลวนําไปผิงหรือยางไฟใหกรอบ ภาษาถิ่นเราเรียกวา แอนไฟ จากนั้นก็ใชมือบดขยี้หรือที่เราเรียกวา ยี ใหไกแตกออก เปนผงแลวปรุงดวยเกลือกับงาขาวคั่วทําใหมีรสชาติอรอย” w w w ๕๔ “คิดไมถึงเลยนะคะวาบานเราจะมีของกินอรอย ๆ ราคาถูกและมีคุณคา ไมแพอาหารราคาแพง ๆ” แพรพูดอยางภาคภูมิใจ “แมคะ ถาอยางนั้นเราซื้อไกสดไปทําหอนึ่งกับไกคั่ว ถวายพระที่วัดในวันพรุงนี้ ดีไหมคะ” “แมวาดีมากเลยจะลูก” แมตอบพรอมหันไปบอกแมคาวา “แมคาจะ ซื้อไกสัก ๓ กอนจะ” ro .k n a b o o n .c k m o
  • 31. ๕๕ แพรไดยินคําตอบจากแมแลวยิ้มอยางสุขใจที่วันนี้ไดรับทั้งความรู เกี่ยวกับของกินบานเราที่เปนภูมิปญญาทองถิ่น แลวในวันพรุงนี้ก็ยัง จะไดอิ่มบุญอีกดวย แมรับถุงใสไกจากแมคา แพรอาสาหิ้วถุงผักให สองคนแมลูก จึงชวยกันหิ้วของจากตลาดไปเก็บไวในรถ แลวเดินทางกลับบาน เพื่อจัดเตรียมของนําไปทําบุญในเชาวันพรุงนี้ ๕๖ อภิธานศัพท เทศบาล w w w o n วาย n a b o มรกต ro .k .c k หมายถึง หมายถึง หมายถึง สาหราย หมายถึง สาย จก ยี หมายถึง หมายถึง หมายถึง m o องคการบริหารสวนทองถิ่น แบบหนึ่ง คอยสิ้นไปตามคราวหรือกําหนด อายุเวลา แกวหินสีเขียวใบไมในจํานวนพวก นพรัตน ชื่อพืชชั้นต่ําที่ไมมีลําตน ใบ และ รากที่แทจริงแตมีคลอโรฟลล บางเปนเซลลเดียวบางเปนกลุม เซลลเปนสายหรือเปนตนคลาย พืชชั้นสูงขึ้นทั่วไปในน้ําหรือ ที่ชื้นแฉะ แกวงไปมา, ยายไปมา ฉก, ลวง, ควัก, ขุด, คุย, สับ ขยี้, ขยําใหแหลก, ขยําใหเหลว
  • 32. ๕๗ บรรณานุกรม นิดดา หงสวิวัฒน และทวีทอง หงสวิวัฒน. (๒๕๕๐). ครัวลานนา. พิมพครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ: สํานักพิมพ แสงแดด. พระชินพันธ อุชุจาโร และคณะ. (๒๕๕๔). “น้ําปู” ผลผลิต ภูมิปญญาของชาวลานนา : กรณีศึกษาจังหวัด พะเยา. บทนิพนธสาขาวิชาการบริหารการศึกษา. พะเยา: มหาวิทยาลัยนเรศวร. มาโนช วามานนท. (๒๕๔๐). ผักพื้นบาน : ความหมายและ ภูมิปญญาของสามัญชนไทย. พิมพครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ: โรงพิมพองคการสงเคราะหทหารผานศึก. ยอดหลา ตนะทิพย. (๒๕๕๒). สาหรายไก. สัมภาษณ, ๑๘ มีนาคม. ยุวดี จอมพิทักษ. (๒๕๔๓). กินเห็ดอายุยืน. กรุงเทพฯ: น้ําฝน. w w w ๕๘ .c k o n n a b o ro .k m o ราชบัณฑิตยสถาน. (๒๕๓๙). เห็ดกินไดและเห็ดมีพิษใน ประเทศไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ: อมรินทรพริ้นติ้งแอนดพับลิชชิ่ง. _____________. (๒๕๔๖). พจนานุกรมฉบับราช บัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒. กรุงเทพฯ: นานมีบุคส พับลิเคชั่นสจากัด. ํ วันดี กฤษณพันธ. (๒๕๓๙). เกร็ดความรูสมุนไพร. พิมพครั้ง ที่ ๒ กรุงเทพฯ: เฟองฟาพริ้นติ้ง. ศศิธร แกวเทพ. (๒๕๕๒). การทําน้ําปู. สัมภาษณ, ๑๒ กรกฎาคม. สิริกร ไชยมา. (๒๕๔๔). ภูมิปญญาในวิถีชีวิตชาวลานนา. พิมพครั้งที่ ๒. แพร: โครงการพัฒนาหลักสูตรทองถิ่น โรงเรียนรองกวางอนุสรณ. สุรศักดิ์ ปาเฮ และคณะ. (๒๕๔๔). “เอกลักษณทองถิ่น สัญลักษณ”วัฒนธรรมพัฒนาการทางประวัติศาสตร เอกลักษณและภูมิปญญาจังหวัดนาน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพคุรุสภา.
  • 33. ๕๙ เสาวภาค ศักยพันธ. (๒๕๔๘). ตําราอาหารทองถิ่น. เชียงใหม: คณะวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม. อนงค จันทรศรีกุล. (๒๕๓๕). เห็ดเมืองไทย. พิมพครั้งที่ ๔. กรุงเทพฯ: โรงพิมพไทยวัฒนาพานิช จํากัด. อาภารัตน มหาขันธ. (๒๕๔๗). สาหรายมากคุณคา โอชารส. กรุงเทพฯ: โรงพิมพรวมชาง. w w w ro .k n a b o o n .c k m o