กองทัพลิเบียแห่งชาติ (The Libyan National Army): กองทหารเกียรติยศหรือคู่ขัดแย้งในสงครามลิเบีย?
โดย นางสาวโศภนิศ อังศุสิงห์ นักวิจัยสถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ
21. 18
นอกจากนี้ นายพลฮัฟตาร์ยังได้รับการสนับสนุนเชิงเทคนิคจากรัสเซียด้วยการได้รับชิ้นส่วนอะไหล่สารอง
ของ MiG-23 ที่ฐานทัพอากาศ al-Abraq รวมทั้งได้รับชิ้นส่วนอะไหล่ของ MiG-23 จากซูดานในเวลา
เดียวกันอีกด้วย38
การเกณฑ์กาลังพล
แม้กระนั้นก็ตาม กองทัพลิเบียแห่งชาติถือว่าไร้ศักยภาพเนื่องจากขาดระบบการเกณฑ์ทหารที่เป็น
ระเบียบชัดเจน ขาดทหารที่มีประสบการณ์ และขาดแคลนอุปกรณ์การสู้รบ LNA เป็นกลุ่มของกองกาลัง
ทหารเสริมที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพบกของลิเบียมาก่อน มีรายงานเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2011 ว่า LNA
จะผนึกอดีตนักรบกลุ่มกบฏกว่า 50,000 คนเข้ากับ LNA และกองกาลังตารวจ โดยนักรบเหล่านี้จะได้รับการ
ฝึกทหารจากกองทัพฝรั่งเศส ทั้งนี้ เป้าหมายระยะยาวคือการรวมนักรบประมาณ 200,000 คนจากกองพล
ต่างๆ ที่ต่อต้านกัดดาฟีช่วงสงครามกลางเมืองเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพแห่งชาติลิเบียในที่สุด39
อย่างไรก็ตาม การก่อตั้งกองทัพชุดใหม่ประสบกับปัญหาต่างๆ มากมาย เช่น การสร้างฐานทัพใหม่
ที่ถูกทาลายช่วงสงคราม รวมทั้งการปลดอาวุธจากกลุ่มติดอาวุธที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพแห่งชาติชุด
ใหม่ ยิ่งไปกว่านั้น กองทหารแต่ละกองที่ยอมเข้าร่วมกับ LNA ต่างมีจุดมุ่งหมายและความต้องการของ
38 Arnaud Delalande, “Forces on the Libyan ground: Who is Who.”
39 “Libya to integrate 50,000 anti kadhafi fighters,” France24.com, December 1, 2011 (accessed April 19, 2019).
22. 19
ตนเอง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่กองทหารภายใต้ LNA จะสู้รบกันเองด้วยเหตุผลหลากหลายประการ เช่น การถือ
ครองที่ดิน การจับกุมสมาชิกของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง การลักลอบสินค้า เป็นต้น ข้อมูลล่าสุดจากนาย Arnaud
Delalande นักวิเคราะห์ด้านการทหารและความมั่นคงจากองค์กร International Society for Performance
Improvement ระบุว่า LNA ประกอบด้วยนักรบจานวน 25,000 คน ในปี ค.ศ. 2018 ถึงแม้ LNA จะยังไม่ใช่
กองทัพที่เป็นกลุ่มก้อนเดียวกันหรือแข็งแกร่งพอจะปกป้องชายแดนอันกว้างใหญ่ของลิเบียได้ แต่ก็ปฏิเสธ
ไม่ได้ว่า LNA เป็นตัวแสดงทางการเมืองและการทหารที่สาคัญอย่างมากต่อพลวัตการเมืองภายในของ
ลิเบีย40
บทบาทและความสาคัญของกองทัพลิเบียแห่งชาติในการเมืองภายใน
ตั้งแต่ผู้นาลิเบียมูอัมมาร์ กัดดาฟีถูกกองกาลัง NATO โค่นล้มใน ค.ศ. 2011 ประเทศที่ร่ารวยน้ามัน
อย่างลิเบียก็ตกอยู่ในความขัดแย้งวุ่นวาย และมีรัฐบาลปกครองประเทศอยู่สองชุด ได้แก่ รัฐบาลของ
ข้อตกลงแห่งชาติที่ได้รับการรับรองจากสหประชาชาติและมีฐานที่มั่นที่เมืองตริโปลี นาโดยนายกรัฐมนตรีฟา
เยซ อัล-ซาร์รัจ และรัฐบาลลิเบียตะวันออกที่มีฐานที่มั่นที่เมืองโตบรูค โดยนายฮัฟตาร์ปฏิเสธที่จะยอมรับ
ความชอบธรรมของรัฐบาลลิเบียแห่งชาติ และจัดตั้งกองกาลังของตนเองซึ่งสนับสนุนรัฐบาลลิเบียตะวันออก
40 Arnaud Delalande, “Forces on the Libyan ground: Who is Who.”
ชาวลิเบียชูภาพพลเอก คาลิฟา ฮัฟตาร์ระหว่างการ
เดินขบวนเพื่อสนับสนุน
ปฏิบัติการของฮัฟตาร์เพื่อต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ที่
เมืองเบงกาซี
23. 20
ความสาเร็จของฮัฟตาร์ในปฏิบัติการแห่งศักดิ์ศรี (Operation Dignity) เพื่อชิงเมืองเบงกาซีคืนจาก
กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ทาให้นายทหาร นักการเมือง กลุ่มประชาสังคม กองทหารเสริม รวมทั้งประชาชน
ชาวลิเบียหลายกลุ่มมองว่าฮัฟตาร์อาจเป็นผู้นาทหารที่แข็งแกร่งผู้สามารถชี้นาให้ลิเบียกลับคืนสู่ความสงบ
สุขได้ เหตุการณ์ที่เห็นได้ชัดคือ ตลอดเดือนพฤษภาคมและกรกฎาคม ค.ศ. 2014 ประชาชนลิเบียจานวน
มากเข้าร่วมเดินขบวนที่กรุงตริโปลี เบงกาซีและเมืองอื่นๆ ทั่วลิเบียเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการ Dignity ของฮัฟ
ตาร์ นอกจากนี้ ชาวลิเบียต่างเรียกร้องให้มีการจัดตั้งกองทัพและตารวจแห่งชาติขึ้นแทนที่กองทหารย่อยที่
แบ่งพรรคแบ่งพวกกันและเชื่อฟังแต่ผู้นาของตนเองเท่านั้น41
ดังนั้น ฮัฟตาร์จึงได้รับความนิยมจากชาวลิเบียที่ไม่พอใจรัฐบาลกลางที่ไม่สามารถยุติความขัดแย้ง
และการฆ่าฟันกันในเมืองเบงกาซีได้ อาจกล่าวได้ว่า กองทัพลิเบียแห่งชาติของฮัฟตาร์เป็นกองกาลังเดียวที่
มีศักยภาพเปรียบเสมือนกองทัพแห่งชาติลิเบียที่จะนามาซึ่งศักดิ์ศรีและความสงบสุขแก่ลิเบีย ถึงแม้ว่า
ความชอบธรรมทางการเมืองอยู่ในมือของรัฐบาลที่กรุงตริโปลี แต่ความชอบธรรมทางทหารอยู่ในมือของนาย
พลฮัฟตาร์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนมองว่ารัฐบาลภายใต้ฮัฟตาร์อาจไม่สามารถสร้างเสถียรภาพ
ให้แก่ลิเบียได้ นายจูส ฮิลเตอร์แมนน์ (Joost Hiltermann) จากสถาบัน Crisis Group วิเคราะห์ว่า นายฮัฟ
ตาร์ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของประชาชนชาวลิเบียในหลายพื้นที่ และการที่ลิเบียยังมีความแตกแยก และยังมี
กลุ่มติดอาวุธกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่งเช่นนี้ ฮัฟตาร์ก็จะประสบความยากลาบากอย่างมากในการ
ปกครองลิเบียให้สงบสุข42
การบุกโจมตีกรุงตริโปลีของกองทัพของฮัฟตาร์ล่าสุดอาจทาให้สงครามกลางเมืองในลิเบียทวีความ
รุนแรงมากยิ่งขึ้น Human Rights Watch กล่าวว่า นักรบจากกองทัพลิเบียแห่งชาติทาการโจมตีพลเรือน
อย่างไม่เลือกหน้า สังหาร จับกุม และกักขังนักรบตามอาเภอใจ นอกจากนี้ แผนการของสหประชาชาติที่จะ
จัดการประชุมเพื่ออภิปรายเรื่องกรอบรัฐธรรมนูญเพื่อจัดการเลือกตั้งในวันที่ 14 เมษายนก็ต้องถูกเลื่อนไป
อย่างไม่มีกาหนดเนื่องจากเหตุการณ์ความรุนแรงในครั้งนี้43 จะเห็นได้ว่า จุดยืนของฮัฟตาร์และปฏิบัติการ
ทางทหารของกองทัพลิเบียแห่งชาติจึงไม่เพียงเป็นตัวแสดงหนึ่งของสงครามกลางเมืองในลิเบียเท่านั้น แต่
ยังเป็นต้นเหตุของปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมของลิเบียในปัจจุบัน
41 Sharif Abdel Kouddous, “Thousands march for ‘dignity and reforms,” Gulfnews.com, May 24, 2014,
https://gulfnews.com/world/mena/thousands-march-for-dignity-and-reforms-1.1337771 (accessed April 19, 2019).
42 Joseph Hincks, “Libya Is on the Brink of Civil War and a U.S. Citizen Is Responsible. Here's What to Know,”
Time.com, April 9, 2019, http://time.com/5566575/libya-tripoli-khalifa-haftar-gadddafi (accessed April 11, 2019).
43 อ้างแล้ว.
24. 21
บทบาทและความสาคัญของกองทัพลิเบียแห่งชาติในการเมืองระหว่างประเทศ
มีมหาอานาจจานวนน้อยมากที่ประกาศตนว่าสนับสนุนนายพลฮัฟตาร์อย่างเป็นทางการ มหาอานาจ
ทั้งหมดให้การยอมรับรัฐบาลของข้อตกลงแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีฟาเยซ อัล-ซาร์รัจที่สหประชาชาติให้
การสนับสนุน ทั้งนี้ ประเทศตะวันตกส่วนใหญ่ลังเลที่จะให้ฮัฟตาร์มีบทบาททางการเมืองใดๆ เว้นเสียแต่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมภายใต้รัฐบาลของอัล-ซาร์รัจ แต่ชัยชนะของกองทัพลิเบียแห่งชาติของเขา
ในการยึดครองดินแดนส่วนใหญ่ของประเทศทาให้แนวคิดนี้ดูจะเป็นไปได้ยากขึ้น44
จากการประเมินสถานการณ์ในลิเบียโดยรัฐบาลอังกฤษ ประเทศในตะวันออกกลางที่ให้การ
สนับสนุนฮัฟตาร์ในด้านการทหาร งบประมาณ และอานาจทางการเมืองมากที่สุด ได้แก่ อียิปต์ และสหรัฐ
อาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งต่างต้องการยับยั้งอิทธิพลของกลุ่มญิฮาดและกลุ่มภราดรภาพมุสลิมในลิเบีย45 รัฐบาล
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เคยทาหน้าที่ผลักดันกระบวนการสันติภาพในลิเบียโดยให้นายอัล-ซาร์รัจและฮัฟตาร์
เข้าร่วมเจรจา แต่กลับกีดกันกลุ่มที่ต่อต้านฮัฟตาร์ออกไป การกระทาดังกล่าวจึงสะท้อนให้เห็นว่า สหรัฐ
44 Joseph Hincks, “Libya Is on the Brink of Civil War and a U.S. Citizen Is Responsible.
45 Patrick Wintour, “Libya crisis: UK officials anxious as blame is laid at doors of Gulf allies,” April 9, 2019,
https://www.theguardian.com/world/2019/apr/09/libya-crisis-anxiety-uk-blame-laid-doors-gulf-allies (accessed April
11, 2019).
ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัลซิซีของอียิปต์
และหัวหน้าฝ่ายข่าวกรอง นายอับบาส คาเมล
พบกับนายพลคาลิฟา ฮัฟตาร์ที่กรุงไคโร อียิปต์ (AFP)
25. 22
อาหรับเอมิเรตส์ยอมรับเขาในฐานะรัฐบุรุษที่มีความชอบธรรมทางการเมือง นอกจากนี้ สหรัฐอาหรับเอ
มิเรตส์ยังสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในลิเบียในปี 2018 ซึ่งถือเป็นการหลีกเลี่ยงการเจรจาสันติภาพ
โดยตรงในทางอ้อมเนื่องจากฝักฝ่ายต่างๆ ในลิเบียต่างมองว่าการเลือกตั้งจะช่วยคลี่คลายความขัดแย้งต่างๆ
ในลิเบียได้ในที่สุด46
ซาอุดีอาระเบียก็ให้การสนับสนุนกองทัพลิเบียแห่งชาติเช่นเดียวกัน โดยก่อนที่นายพลฮัฟตาร์จะยก
กองทัพเพื่อตีเมืองหลวงตริโปลี เขาได้เข้าเฝ้ากษัตริย์ซัลมาน (Salman bin Abdulaziz Al Saud) และ
มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (Mohammad bin Salman bin Abdulaziz Al Saud) ที่ซาอุดีอาระเบีย
การเยี่ยมเยือนครั้งประวัติศาสตร์นี้นับเป็นครั้งแรกที่ผู้นาลิเบียและกษัตริย์ซาอุดีฯ พบกันตั้งแต่ยุคสมัยของ
กษัตริย์ไอดริสในคริสต์ทศวรรษที่ 1950 และ 1960 เนื่องจากกษัตริย์ซัลมานยึดมั่นที่จะรักษาเสถียรภาพใน
ลิเบีย นักวิเคราะห์หลายคน รวมทั้งนายพลจัตวา โมฮัมหมัด อัล-คูนิดิ (Mohammad al Qunidi) หัวหน้า
หน่วยข่าวกรองทหารภายใต้นายกรัฐมนตรีอัล-ซาร์รัจ ต่างตีความว่า การเข้าเฝ้ากษัตริย์ซัลมานของฮัฟตาร์
อาจให้สัญญาณว่าซาอุดีอาระเบียให้การสนับสนุนปฏิบัติการบุกโจมตีตริโปลี ด้วยเหตุที่ซาอุดีอาระเบียมอง
ว่ากองทัพลิเบียแห่งชาติของฮัฟตาร์เป็นป้อมปราการเดียวที่สามารถต่อต้านกลุ่มอิสลามิสต์ที่เกี่ยวข้องกับ
กลุ่มภราดรภาพมุสลิมไม่ให้เรืองอานาจได้ ซึ่งมุมมองนี้เป็นมุมมองเดียวกันกับที่ซาอุดีอาระเบียใช้มองอียิปต์
46 Jalel Harchaoui, “How France is Making Libya Worse,” Foreignaffairs.com, September 21, 2017,
https://www.foreignaffairs.com/articles/france/2017-09-21/how-france-making-libya-worse (accessed April 11,
2019).
กษัตริย์ซัลมานพบกับนายพลคาลิฟา ฮัฟตาร์ที่กรุงริยาด (Reuters)
26. 23
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าการที่ซาอุดีอาระเบียสนับสนุนฮัฟตาร์อาจเป็นเพราะกองทัพลิเบีย
แห่งชาติประกอบด้วยนักรบที่นับถือหลักคาสอนของชีคราบี อัล มัดคาลี ซึ่งเป็นสาขาย่อยของลัทธิซาลาฟี
(the Salafi Madkhali school) ซึ่งซาอุดีอาระเบียให้การสนับสนุนในฐานะที่เป็นประเทศต้นกาเนิดของ
อุดมการณ์ซาลาฟี47
รัสเซียช่วยเหลือกองทัพของฮัฟตาร์ด้วยการให้การเยียวยารักษาทหารที่บาดเจ็บจากการรบ และ
ช่วยพิมพ์ธนบัตรสกุลเงินดินาร์ของลิเบียให้แก่รัฐบาลที่โตบรูคในนามของฮัฟตาร์ และลงนามในข้อตกลง
พิเศษที่อนุญาตให้รัฐบาลรัสเซียตั้งฐานทัพอากาศเพิ่มอีกสองแห่งทางตะวันออกของลิเบีย นายจิออร์จิโอ
คาฟีโร (Giorgio Cafiero) และนายแดเนียล แวกเนอร์ (Daniel Wagner) ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กร Global
Risk ให้การสังเกตว่า มอสโควมองว่าฮัฟตาร์เป็นบุคคลเดียวที่สามารถขวางกั้นลัทธิรุนแรงสุดโต่งในลิเบียได้
ไม่ใช่รัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ48
นอกจากนี้ นายอเล็ก ลันห์ (Alec Luhn) และนายโดมินิก นิโคล (Dominic Nicholls) รายงานใน
หนังสือพิมพ์ Telegraph ในวันที่ 3 มีนาคม 2019 ว่ามีทหารรับจ้างกว่าร้อยนายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วย
ข่าวกรองทหารของรัสเซียที่กาลังให้ความช่วยเหลือกองทัพของฮัฟตาร์ทางตะวันออกของลิเบีย ทหารรับจ้าง
ประมาณ 300 คนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของบริษัททหารรับจ้าง Wagner Group ที่ปฏิบัติการอยู่ที่เบงกาซี
และให้การสนับสนุน LNA ด้วยอาวุธหลากหลายประเภท เช่น ปืนใหญ่ รถถัง โดรน และกระสุนปืน เป็นต้น49
47 Patrick Wintour, “Libya crisis: UK officials anxious as blame is laid at doors of Gulf allies.”; Giorgio Cafiero and
Theodore Karasik, “General Hifter’s march on Tripoli,” Middle East Institute, April 9, 2019,
https://www.mei.edu/publications/general-hifters-march-tripoli (accessed April 11, 2019).
48 Giorgio Cafiero, “Will Trump and Putin See Eye-to-Eye on Libya?” February 14, 2017, LobeLog.com,
https://lobelog.com/will-trump-and-putin-see-eye-to-eye-on-libya/ (accessed April 11, 2019).
49 “Libyan National Army,” Globalsecurity.org.