51105
- 1. บทความทางวิชาการ ครั้งที่ ๑
เรื่อง ลักษณะบุคลิกภาพกับภาวะผูนา
้ ํ .
ยศ/ชื่อ/สกุล. พ.อ.รัตนชัย สุ วรรณเทศ .หมายเลขประจําตัว. ๕๙๖๘ .หลักสู ตร. วปอ.๕๑ .
ลักษณะบุคลิกภาพกับภาวะผู้นํา
หลักการและเหตุผล
จากการศึกษาวิจย พบว่า ร้อยละ ๗๕ ของภาวะผูนาจะส่ งผลต่อบรรยากาศในการทํางานที่ดี
ั ้ ํ
และร้อยละ ๕๐ ของบรรยากาศในการทํางาน จะส่ งผลต่อความสําเร็ จขององค์การ ดังนั้น จะเห็นได้วา ่
“ภาวะผูนา” เป็ นปั จจัยที่สาคัญต่อความสําเร็ จขององค์การ แต่ในการทํางาน ผูนาจะใช้รูปแบบเดียวกับ
้ ํ ํ ้ ํ
ทุกคนไม่ได้ จึงมีความจําเป็ นต้องศึกษาลักษณะบุคลิกภาพ เพื่อให้เข้าใจคน
ลักษณะบุคลิกภาพของคน มีผลอย่างมากต่อพฤติกรรม การแสดงออก ความรู ้สึกนึกคิดของ
บุคคลผูน้ น หากสามารถทําความเข้าใจได้ ย่อมส่ งผลต่อความสามารถในการทํางานร่ วมกันได้อย่างมี
้ ั
ความสุ ข หรื อการบริ หารงานที่มีประสิ ทธิภาพ และได้รับการยอมรับว่าเป็ นผูที่มีความฉลาดทางอารมณ์
้
การที่จะเป็ นผูมีความฉลาดทางอารมณ์ได้น้ น จะต้องมีความเข้าใจผูอื่นตลอดจนตนเองด้วย
้ ั ้
เพื่อวัตถุประสงค์ ดังนี้
๑. รู ้เรา เพื่อพิจารณา ศึกษา วิเคราะห์ ทําความเข้าใจพฤติกรรมของตนเอง บนพื้นฐาน
ของความรู ้อย่างมีหลักการ เพือเข้าใจถึงจุดแข็ง จุดอ่อนของตนเอง
่
๒. รู ้เขา การรู ้เขา จะช่วยทําให้เข้าใจ ให้อภัย และเลือกใช้วธีการที่เหมาะสมในการ
ิ
ติดต่อ เจรจา ประสานงาน หรื อโน้มน้าวจิตใจ เพือให้บรรลุผลสําเร็ จในเรื่ องต่าง ๆ ตลอดจนการสร้าง
่
ั ้
สัมพันธภาพอันดีกบผูอื่น บนพื้นฐานของความเข้าใจเหล่านั้น
๓. รู ้ปรับ คือ การปรับตัวเอง โดยคํานึงถึงบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบ ฐานะ และ
ตําแหน่งทางการงาน นั้นก็คือ เมื่อรู ้จุดแข็ง จุดอ่อนของตนเองแล้ว จะต้องพยายามฝึ กที่จะปรับ ด้วยการ
เสริ มสร้างรักษาจุดแข็งของตนเอง และพัฒนาลักษณะนิสยและบุคลิกที่ยงเห็นว่าไม่เอื้อ ไม่สอดคล้อง
ั ั
และไม่เสริ มต่อหน้าที่การงาน
๔. รู ้เลือก คือสามารถนําความรู ้มาประกอบการตัดสิ นใจพิจารณาเลือกคน ให้เหมาะกับงาน
เลือกมอบงานให้เหมาะกับความสามารถและบุคลิกภาพของคน เลือกใช้วิธีการให้เหมาะสมกับสภาพและ
สถานการณ์ โดยคํานึงถึงลักษณะบุคลิกภาพ ทั้งของตนเองและผูอื่นเป็ นสําคัญ
้
ข้ อตกลงเบืองต้ น
้
ในความเป็ นจริ ง มนุษย์แต่ละคนมีความเป็ นเอกลักษณ์เป็ นของตนเอง ถึงกระนั้นก็ตาม ได้
มีการศึกษาการจัดหมวดหมู่และการจัดกลุ่มบุคลิกภาพกว้าง ๆ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันมากที่สุด ด้วยการ
ทําความเข้าใจถึงพฤติกรรมการแสดงออก และการตอบสนองต่อสิ่ งเร้าที่เข้ามา อันจะช่วยให้สามารถทํา
ความเข้าใจได้อย่างกว้าง ๆ อย่างมีหลักการและเป็ นเหตุเป็ นผล
ก่อนที่จะกล่าวถึงกลุ่มบุคลิกภาพแบบต่าง ๆ จะต้องทําความเข้าใจในประเด็นสําคัญ ดังนี้
บทความทางวิชาการ ฉบับที่ ๑ หลักสูตร วปอ.๕๑
- 2. -๒-
๑. มนุษย์แต่ละคนต่างก็ไม่เหมือนกัน การจัดกลุ่มนี้ ก็เพือช่วยให้ง่ายต่อความเข้าใจ
่
๒. ไม่มีบุคลิกภาพใดที่ดี หรื อไม่ดี เพียงแต่เป็ นเรื่ องของความแตกต่างของมนุษย์อีกประการ
หนึ่งเท่านั้น
๓. การมีบุคลิกภาพในขั้วหนึ่ง มิได้หมายความว่าจะไม่มีอีกขั้วหนึ่ง แต่เป็ นช่วงของความ
พึงพอใจ ว่าชอบ ถนัดแบบไหนมากกว่ากัน ดังนั้น ในแต่ละคนจะมีท้ งสองขั้ว แต่จะมีข้ วไหนมากกว่ากัน
ั ั
๔. ในช่วงชีวิตของมนุษย์ อาจมีการปรับเปลี่ยนได้บาง และพฤติกรรมนั้นอาจต่างไปตาม
้
สถานที่ สถานการณ์ บุคคล เวลา และภูมิหลังที่มีต่อเรื่ องนั้น ๆ
แบบของลักษณะบุคลิกภาพ
่
นักจิตวิทยาชาวสวิส ชื่อ Carl Jung ได้ศึกษาและแบ่งกลุมลักษณะบุคลิกภาพของมนุษย์ไว้
เป็ น ๔ คู่ใหญ่ ๆ ต่อมา Myer Briggs ได้ศึกษาต่อและเผยแพร่ จนเป็ นที่ยอมรับและรู ้จกกันทัวไป ดังนี้
ั ่
๑. คู่ที่ ๑ E (Extrovert) กับ I (Introvert)
กลุ่มบุคลิกภาพนี้ จะพิจารณาถึงวิธีการเข้าสังคม และวิธีการพักผ่อน
๑.๑ E (Extrovert)
ผูที่อยูในกลุ่มบุคลิกภาพนี้จะชอบการเข้าสังคม พบปะผูคน และในการพบปะ
้ ่ ้
ดังกล่าวจะช่วยให้ได้พลังในการทํางาน คนในกลุ่มนี้กระบวนการคิดจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อได้พด หรื อ
ู
ในขณะที่พด ู
๑.๒ I (Introvert)
คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ มีวิธีการพักผ่อนที่ตองการความเป็ นส่ วนตัวสู ง เมื่อ
้
่
เหนื่อยจากหน้าที่การงาน จะพักผ่อนด้วยการอยูตามลําพังเงียบ ๆ ด้วยการปิ ดประตูหองไม่ให้คนรบกวน
้
่
หรื อใช้เวลาอยูตามลําพังเงียบ ๆ อ่านหนังสื อ ดูตนไม้ หรื ออาจจะพบปะกับคนอื่น ก็เป็ นเพียงคนที่รู้ใจกัน
้
จริ ง ๆ เท่านั้น กระบวนการคิดจะไม่เกิด หากมีปัจจัยภายนอกมารบกวน หากต้องใช้ความคิดจะต้องมี
การเตรี ยมตัวล่วงหน้า และต้องมีความเงียบเป็ นปั จจัยสําคัญ
๒. คู่ที่ ๒ S (Sensing) กับ N (Intuitive)
กลุ่มบุคลิกภาพคู่น้ ีจะพิจารณาจาก วิธีการรวบรวมข้อมูลเพือประกอบการตัดสิ นใจ และ
่
การลงมือปฏิบติ
ั
๒.๑ S (Sensing)
ผูที่อยูในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ จะได้ขอมูลจากการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า นันคือ
้ ่ ้ ่
ต้องได้เห็น ได้ยน ได้สัมผัส รับรู ้ จึงจะสามารถนํามาปฏิบติได้ ส่ วนใหญ่จะเป็ นผูที่สบายใจที่จะทํางาน
ิ ั ้
ที่มีการกําหนดรู ปแบบไว้อย่างชัดเจน การทํางานกับคนกลุ่มนี้ จึงจะต้องระบุรายละเอียดต่าง ๆ อย่าง
ชัดเจน และเป็ นขั้นตอน
๒.๒ N (Intuitive)
ผูที่อยูในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ จัดได้ว่าเป็ นผูที่มีความคิดริ เริ่ มของตัวเอง มีจินตนาการ
้ ่ ้
กว้างไกล รู ้สึกอึดอัดและลําบากใจ ที่จะต้องทําตามแบบแผนที่คนอื่นกําหนดให้ ไม่ชอบในเรื่ องของ
บทความทางวิชาการ ฉบับที่ ๑ หลักสูตร วปอ.๕๑
- 3. -๓-
รายละเอียดปลีกย่อย แต่มองเรื่ องของภาพรวม แนวคิดกว้าง ๆ (Concept) มีการทํางานตามวิธีการที่ตน
คิดขึ้นมา ชอบความแปลกใหม่ ท้าทาย ไม่ซ้ าซากกับวิธีการปฏิบติเดิม ๆ
ํ ั
๓. คู่ที่ ๓ T (Thinking) กับ F (Feeling)
กลุ่มของบุคลิกภาพคู่น้ ี จะพิจารณาถึงวิธีการคิด เพื่อตัดสิ นใจ
๓.๑ T (Thinking)
ผูที่อยูในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ จะตัดสิ นปั ญหาและตัดสิ นใจโดยใช้สมอง บนพื้นฐาน
้ ่
ของความเป็ นเหตุเป็ นผล การเก็บและรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ วิจย การชังนํ้าหนักความถูกต้อง อยู่
ั ่
บนพื้นฐานของหลักการและเหตุผล
๓.๒ F (Feeling)
ผูที่อยูในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ จะตัดสิ นปั ญหาและตัดสิ นใจบนพื้นฐานของหัวใจ
้ ่
และความรู ้สึก ให้ความสําคัญต่อความรู ้สึกของคนอื่น และผลของการตัดสิ นใจ ซึ่งจะกระทบต่ออารมณ์
และความรู ้สึกของผูอ่ืน
้
๔. คู่ที่ ๔ J (Judging) กับ P (Perceiving)
กลุ่มของบุคลิกภาพคู่น้ ี จะพิจารณาถึงวิถีการดําเนินชีวิต
๔.๑ J (Judging)
คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ ชอบความเป็ นระเบียบ มีการกําหนดแผนชีวิต และ
ํ
ตารางเวลาประจําวันไว้ล่วงหน้าอย่างชัดเจน และรู ้สึกไม่สบายใจ หงุดหงิด เมื่อแผนที่กาหนดไว้น้ นถูก
ั
ํ
เปลี่ยนแปลง หรื อไม่เป็ นไปตามที่กาหนดไว้ นอกจากนี้ เมื่อตัดสิ นใจแล้ว ยากที่จะเปลี่ยนแปลง
๔.๒ P (Perceiving)
คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ ชอบความเป็ นอิสระ ไม่ชอบที่จะผูกมัดกับเงื่อนไขของ
่
เวลา และกฎระเบียบ ชอบใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆ มีความยืดหยุน เปิ ดกว้าง พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
การมอบหมายงานตามแบบของลักษณะของบุคลิกภาพ
ลักษณะบุคลิกภาพที่ต่างกันนั้น ย่อมมีความถนัดและความพึงพอใจ ตลอดจนจุดแข็งและ
จุดอ่อนเฉพาะของตนเอง การเลือกใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของแต่ละกลุ่มบุคลิกภาพ โดยมีความเข้าใจ
อย่างถ่องแท้ จะช่วยให้การทํางานระหว่างกันและกัน มีประสิ ทธิภาพสู งขึ้น ง่ายขึ้น และช่วยลดปั ญหา
ความขัดแย้ง ความคับข้องใจที่อาจจะมีต่อกันได้ ดังนี้
๑. E (Extrovert)
จากการที่คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ เป็ นคนที่พดจาคล่องแคล่ว ชอบพบปะ ทําความรู ้จก
ู ั
กับคนหน้าใหม่ ๆ มีความถนัดทางด้านการพูด ช่างเจรจา ชอบการเข้าสังคมติดต่อกับผูอื่น ดังนั้น งานที่
้
คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ถนัดและควรจะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ คือ การติดต่อประชาสัมพันธ์ การ
ประสานงาน การบรรยาย การเป็ นตัวแทนขององค์กรในงานสังคมต่าง ๆ รวมถึงการสร้างสัมพันธภาพ
ั
อันดีกบหน่วยงานอื่น
บทความทางวิชาการ ฉบับที่ ๑ หลักสูตร วปอ.๕๑
- 4. -๔-
๒. I (Introvert)
จากการที่คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ ไม่ชอบพูดมาก ชอบความสงบ นิ่ง มีความสามารถใน
การมองทะลุถึงปั ญหาอย่างใจเย็น แต่จะไม่สะดวกที่จะพูดหรื อบรรยาย ในทางตรงข้าม จะถนัดด้าน
การเขียน ดังนั้น จึงเหมาะที่จะไดรับมอบหมายให้ทางานที่ตองใช้สมาธิ อยูเ่ งียบ ๆ ตามลําพัง และเป็ น
ํ ้
ผูรับผิดชอบด้านการเขียนรายงาน หรื อประเด็นสําคัญต่าง ๆ
้
๓. S (Sensing)
จากการที่คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ มีความอดทน ทําตามแผนงานหรื อสถานการณ์ที่มี
รู ปแบบโครงสร้างชัดเจน เป็ นคนละเอียด ดังนั้น จึงเหมาะกับงานที่จะต้องปฏิบติตามขั้นตอน งาน
ั
รายละเอียด งานในความรับผิดชอบอาจจะเป็ นงานการตรวจสอบความถูกต้องในรายละเอียด การทํางาน
กับตัวเลข และข้อมูลต่าง ๆ ที่เป็ นงานรายละเอียด เช่น บัญชี
๔. N (Intuitive)
จากการที่คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ มีพรสวรรค์ในด้านการเห็นภาพรวม ภาพกว้าง หรื อ
อาจเรี ยกได้ว่าเป็ นคนมีวิสยทัศน์ เข้าใจเรื่ องต่าง ๆ ได้ง่ายและเร็ ว ซึ่งอาจเรี ยกได้อีกว่าเป็ นคนที่มีไหวพริ บ
ั
ปฏิภาณเฉี ยบแหลมและฉับไว มีความคิดริ เริ่ มสร้างสรรค์ ชอบทํางานในเรื่ องที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ าแบบใคร ํ
ดังนั้น จึงเหมาะที่จะเป็ นผูที่ริเริ่ มโครงการใหม่ ๆ วางแผนกลยุทธ และการแก้ปัญหาต่าง ๆ
้
๕. T (Thinking)
จากการที่คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ มีการคิดและตัดสิ นใจ โดยใช้ความเป็ นเหตุเป็ นผล ใช้
หลักฐานข้อมูลประกอบการตัดสิ นใจ ใช้การวิเคราะห์ พิจารณาถึงความเป็ นเหตุเป็ นผลอย่างรอบคอบ
ดังนั้น จึงเหมาะที่จะได้รับมอบหมายให้เป็ นผูช้ ีแจง แสดงเหตุผล ไกล่เกลี่ยหาข้อยุติในสถานการณ์ที่ตอง
้ ้
ใช้เหตุและผล
๖. F (Feeling)
คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ มักจะเป็ นที่รักของผูที่อยูรอบข้าง ด้วยความมีเสน่ห์ ช่างสังเกต
้ ่
และระมัดระวังความรู ้สึกของผูอื่น ใช้เหตุและผลบนพื้นฐานของผลกระทบที่จะเกิดต่อผูอื่น และการ
้ ้
ยอมรับด้านความรู ้สึกของผูคนส่ วนใหญ่ บุคคลประเภทนี้ จึงมีความสามารถพิเศษในการเข้าถึงจิตใจ
้
ผูอื่น เลือกใช้วิธีการที่อ่อนโยน และหลีกเลี่ยงการทําร้ายความรู ้สึกและจิตใจของผูอื่นเป็ นอย่างดี ช่าง
้ ้
โน้มน้าวจิตใจ เพราะมีความเข้าใจผูอื่นเป็ นที่ต้ ง
้ ั
๗. J (Judging)
จากการที่คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ เป็ นคนชอบวางแผน กําหนดเวลา และชะตาชีวิตของ
ตนเองล่วงหน้าไว้แล้วเป็ นอย่างดี จึงมีขอดีและความสามารถพิเศษในการตัดสิ นใจที่เฉี ยบขาด เด็ดขาด
้
มันคง ไม่หวันไหว และยึดมันในการตัดสิ นใจของตนเอง เป็ นคนที่มีการเตรี ยมการล่วงหน้าเป็ นอย่างดี
่ ่ ่
ํ
ดังนั้น จึงเหมาะที่จะควบคุมสถานการณ์ให้เป็ นไปตามเวลาที่กาหนดไว้ รักษาเวลาให้เป็ นไปตามกําหนด
การณ์ มีการติดตามงานอย่างสมํ่าเสมอ และมีการจัดระเบียบงานที่ดี
บทความทางวิชาการ ฉบับที่ ๑ หลักสูตร วปอ.๕๑
- 5. -๕-
๘. P (Perceiving)
จากการที่คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ มีบุคลิกภาพที่สบาย ๆ ยืดหยุน ชอบความเป็ นอิสระ
่
เปิ ดกว้าง จึงมีจุดเด่นที่เป็ นคนเรี ยบง่าย ไม่เรื่ องมาก พร้อมที่จะปรับเปลี่ยน ไม่รังเกียจที่จะรับงานหลาย ๆ
อย่างในคราวเดียวกัน แม้ว่าอาจจะทําได้ไม่เต็มที่ หรื อไม่เสร็ จตามเวลาที่กาหนดก็ตาม
ํ
การทํางานร่ วมกับคนในบุคลิกภาพแบบต่ าง ๆ
การทํางานกับคนในบุคลิกภาพแบบต่าง ๆ ต้องคํานึงถึงลักษณะนิสัย อุปนิสัยใจคอ ความ
พึงพอใจ จุดแข็ง และจุดอ่อน เพือให้งานนั้นลุล่วง เกิดประโยชน์สูงสุ ด และในขณะเดียวกัน ก็เป็ นการ
่
่
สร้างสัมพันธภาพอันดีในการทํางานร่ วมกัน และสร้างความไว้วางใจ และความประทับใจที่ดีตอกันและ
กัน โดยมีขอแนะนํา ดังนี้
้
๑. E (Extrovert)
การทํางานร่ วมกับคนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ ต้องแสดงให้เห็นถึงความสนใจ มีการสนอง
ตอบอย่างรวดเร็ ว และกระฉับกระเฉง กระตือรื อร้น สําหรับคนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ การที่ตนเป็ นคนช่างพูด
จึงมักมองและสรุ ปเอาเองว่า การเงียบไป หรื อหายไปของเพือนร่ วมงาน แสดงออกถึงความไม่สนใจ
่
ดังนั้น การที่จะสร้างความประทับใจให้กบคนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ จะต้องมีการสนองตอบ หรื อติดต่อ
ั
กลับอย่างรวดเร็ ว และหากมีการพบปะพูดคุย เจรจากัน ก็ตองยอมเปิ ดโอกาสให้คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้
้
ได้พดและแสดงความคิดเห็นให้มาก ๆ
ู
๒. I (Introvert)
เนื่องจากคนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ เป็ นคนที่เก็บตัว ไม่ค่อยชอบเข้าสังคม การที่จะสร้าง
ความคุนเคยจึงต้องอาศัยเวลา เพื่อสร้างความไว้วางใจ ในขณะเดียวกัน เขาจะไม่เปิ ดเผย หรื อเล่าข้อมูล
้
ต่าง ๆ หากไม่ถูกถามถึง จึงจําเป็ นต้องหมันซักถาม ขอความคิดเห็น และก่อนการพบปะหารื อ ควรเปิ ด
่
โอกาสให้คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้มีเวลาคิดเกี่ยวกับหัวข้อสนทนาไว้ล่วงหน้า แต่หากเห็นท่าทีน่ิงเฉย
หรื อไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ก็อย่าได้ด่วนสรุ ปว่าไม่สนใจ ทั้งนี้เพราะคนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ เป็ นคนที่
เก็บความรู ้สึก ไม่แสดงออก
๓. S (Sensing)
คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ เป็ นคนเจ้าระเบียบ ชอบความถูกต้องแม่นยํา แน่นอน การทํางาน
ไม่ตองการเสี่ ยงต่อความผิดพลาด และไม่อยากให้มีที่ติ ดังนั้น การทํางานร่ วมกับคนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้
้
จึงต้องแสดงให้เห็นถึงรายละเอียดขั้นตอนการทํางาน ผลสําเร็ จของงาน ตัวอย่างที่พสูจน์ให้เห็นได้ว่า
ิ
วิธีการที่แนะนํา หรื อเสนอนั้น มีประวัติที่ผอื่นเคยนําไปปฏิบติ และประสบผลสําเร็ จมาอย่างดีแล้ว
ู้ ั
๔. N (Intuitive)
คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ ชอบงานโครงการใหญ่ ๆ มองภาพรวม ดังนั้น การสร้างความ
ประทับใจให้กบคนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ จะต้องนําเสนอแนวความคิด หรื อหลักการที่สาคัญ ๆ ความท้าทาย
ั ํ
ความแปลกใหม่ของงาน และแสดงให้เห็นถึงวิสยทัศน์
ั
บทความทางวิชาการ ฉบับที่ ๑ หลักสูตร วปอ.๕๑
- 6. -๖-
๕. T (Thinking)
คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ เป็ นนักคิด มีคลังข้อมูลอยูในสมอง มีความเป็ นเหตุเป็ นผล และ
่
สามารถมองเห็นถึงความผิดปกติ ความไม่ชอบมาพากลได้อย่างรวดเร็ ว การสร้างความประทับใจกับคน
ในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ คือ ความกระชับ เตรี ยมเหตุเตรี ยมผลเพือตอบคําถามเมื่อถูกซักไซ้ อย่าหลงประเด็น
่
หรื อออกนอกประเด็น ต้องเตรี ยมตัวล่วงหน้าเป็ นอย่างดี และเมื่อต้องการให้มีการตัดสิ นใจเกิดขึ้น ต้อง
แสดงให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสี ย เพื่อเปรี ยบเทียบกันอย่างชัดเจน ต้องใจเย็นและใช้เหตุผล เพราะบ่อยครั้ง
คนในกลุ่มนี้ จะพูดจาหรื อแสดงออกอย่างไม่ไว้หน้า หรื อคํานึงถึงความรู ้สึกของผูอื่นเท่าใดนัก เนื่องจาก
้
ให้ความสําคัญในสาระ หรื อเนื้อหาของงาน มากกว่าจิตใจและความรู ้สึกของผูอื่น ้
๖. F (Feeling)
เนื่องจากคนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ เป็ นคนที่เข้าอกเข้าใจ เป็ นมิตร และสนใจความรู ้สึก
ของผูอื่น การทํางานจึงต้องแสดงให้เห็นถึงผล และคุณค่าของงานที่มีต่อผูอื่น ระมัดระวังเรื่ องของการ
้ ้
สื่ อสาร วิธีการพูด อย่าให้เป็ นที่ระคายเคือง เพราะคนในกลุ่มนี้ มักมีอารมณ์ละเอียดอ่อนและอ่อนไหว
หมันจับ สังเกตสี หน้า ท่าที อิริยาบถ นํ้าเสี ยง การแสดงออก เพื่อประเมินถึงความรู ้สึก ความพอใจ และ
่
ความไม่พอใจ
๗. J (Judging)
คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ เป็ นคนรักษาเวลา และมีตารางกําหนดเวลาล่วงหน้า การสร้าง
ความประทับใจ คือ การนัดหมายล่วงหน้า การรักษาเวลานัด การตรงต่อเวลา การเสนอกําหนดตารางเวลา
ในการทํางานล่วงหน้า และการทํางานให้เสร็ จตามเวลาที่กาหนด ควรคิดให้ดีก่อน วางแผนให้แล้วจึง
ํ
แจ้งให้คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ทราบ ทั้งนี้เพราะ การเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลาย ๆ หน จะทําให้คนใน
กลุ่มบุคลิกภาพนี้ ขาดความเชื่อถือในตัวคุณ
๘. P (Perceiving)
คนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ ชอบความหลากหลายเป็ นอิสระ ความยืดหยุนคล่องตัว การ่
ทํางานกับคนในกลุ่มบุคลิกภาพนี้ จึงต้องเปิ ดโอกาสให้มีการปรับเปลี่ยนได้ กระตุนให้เขาเป็ นตัวของ
้
ตัวเอง และหาวิธีการที่ช่วยให้เขาได้มีส่วนร่ วมในการรับผิดชอบตนเองตามวิถีทางที่เขาถนัด อย่ากําหนด
เส้นตายคราวเดียว แต่พยายามแบ่งออกเป็ นจุดย่อย ๆ ทําให้เกิดความรู ้สึกว่าเป็ นเรื่ องใหม่อยูเ่ สมอ
ลักษณะบุคลิกภาพของแต่ ละบุคคล
บุคคลแต่ละคน จะมีลกษณะบุคลิกภาพอยู่ ๔ คู่ ตามที่ได้นาเสนอไปแล้วนั้น และเมื่อรวม
ั ํ
ลักษณะบุคลิกภาพทั้ง ๔ คู่เข้าด้วยกัน อาทิ เช่น ISTJ, INFP, ESFJ และ ENTP เป็ นต้น ซึ่งสามารถ
ประมวลเป็ นลักษณะบุคลิกภาพของแต่ละบุคคลโดยสังเขป เพื่อเป็ นแนวทางนําไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้
ดังต่อไปนี้
บทความทางวิชาการ ฉบับที่ ๑ หลักสูตร วปอ.๕๑
- 7. -๗-
ในด้ านความคิด ในด้ านความรู้ สึก ในด้ านความรู้ สึก ในด้ านความคิด
ISTJ ISFJ INFJ INTJ
I ลุ่มลึกและมีสมาธิ I ลึกซึ้ งและแน่วแน่ I ลึกซึ้งและแน่วแน่ I ลุ่มลึกและมีสมาธิ
S ละเอียดถี่ถวน และให้ความ
้ S ละเอียดอ่อน และพิถีพถน ิ ั N มีความลึกซึ้ง ละเอียดอ่อน ไม่ N เข้าใจถ่องแท้ และมีความคิด
สําคัญต่อรายละเอียดปลีกย่อย ต่อข้อปลีกย่อย ถูกชักจูงได้ง่าย แตกฉาน ฉลาด หลักแหลม
T เป็ นนักสัจจนิยม เป็ นนัก F บริ หารบุคคลด้วยความ F บริ หารบุคคลด้วยความเข้าใจ เป็ นตัวของตัวเอง จับประเด็น
วิเคราะห์ เป็ นเหตุเป็ นผล เข้าใจ เห็นอกเห็นใจ เห็นอกเห็นใจ ที่ละเอียด ซับซ้อนได้
มีวิจารณญาณสูง J มีความรู ้สึกที่ไม่สบสน
ั J มีความรู ้สึกที่ไม่สบสน
ั T พินิจพิเคราะห์ เป็ นเหตุเป็ นผล
J คิดอย่างเป็ นระบบขั้นตอน ใช้วิจารณญาณ ด้วยใจเป็นกลาง
J คิดอย่างเป็ นระบบขั้นตอน
ISTP ISFP INFP INTP
I ลุ่มลึกและมีสมาธิ I ลึกซึ้ งและแน่วแน่ I ลึกซึ้งและแน่วแน่ I ลุ่มลึกและมีสมาธิ
S คิดตามหลักความเป็ นจริ ง S ช่างสังเกต และให้ความสนใจ N มีความรู ้สึกลึกซึ้ง สร้างสรรค์ N เข้าใจถ่องแท้ และมีความคิด
และช่างสังเกต กับรายละเอียด ละเอียดอ่อน แตกฉาน ฉลาด หลักแหลม
T มีความสามารถในเชิงวิเคราะห์ F มีความเพียบพร้อมด้วยความ F มีความเพียบพร้อมด้วยความ เป็ นตัวของตัวเอง จับประเด็น
และตรรกะ เสี ยสละ ความเห็นอกเห็นใจ เสี ยสละ ความเห็นอกเห็นใจ ที่ละเอียด ซับซ้อนได้
P รู ้จกปรับแนวความคิดให้
ั P ทําใจ ปรับใจได้ง่าย P ทําใจ ปรับใจได้ง่าย T มีความสามารถในเชิงวิเคราะห์
เหมาะสม และตรรกะ
P รู ้จกปรับแนวความคิดให้
ั
เหมาะสม
ESTP ESFP ENFP ENTP
E พึงใจกับสถานการณ์แวดล้อม E พึงใจกับสถานการณ์ E พึงใจกับสถานการณ์แวดล้อม E พึงใจกับสถานการณ์แวดล้อม
แวดล้อม
S ช่างสังเกต สัจจนิยม สนุกสนาน S ช่างสังเกต สัจจนิยม สนุกสนาน N เป็ นแรงบันดาลใจให้เกิดโครงการ N เป็ นแรงบันดาลใจให้เกิดโครงการ
ร่ าเริ ง คิดบนพื้นฐานของ ร่ าเริ ง คิดบนพื้นฐานของ ต่างๆ ริ เริ่ม บุกเบิก ไม่ย้าคิดยํ้าทํา
ํ ต่างๆ ริ เริ่ม บุกเบิก ไม่ย้าคิดยํ้า
ํ
ประสบการณ์ ประสบการณ์ ชอบความท้าทายแปลกๆใหม่ ๆ ทํา ชอบความท้าทายแปลกๆใหม่ ๆ
T ไม่ยดติดกับตัวบุคคล รู ปแบบ F เข้าสังคมได้ง่าย เห็นอกเห็นใจ
ึ เป็ นต้นคิดในสิ่ งใหม่ ๆ เป็ นต้นคิดในสิ่ งใหม่ ๆ
หรื อกลไกใด ๆ มีความสามารถ ผูอื่น
้ F นิยมชมชื่น เข้าถึงจิตใจของผูอื่น T คิดอย่างมีเป้าหมาย พินิจพิเคราะห์
้
ในเชิงวิเคราะห์ P ทําใจ ปรับใจได้ง่าย เป็ นที่รักใคร่ ผกพันของผูอื่น มี
ู ้ มีความสามารถเป็ นพิเศษบาง
P รู ้จกปรับแนวความคิดให้
ั เสน่ห์ ประการในการบริ หารงาน
เหมาะสม P ทําใจ ปรับใจได้ง่าย P รู ้จกปรับแนวความคิดให้
ั
เหมาะสม
บทความทางวิชาการ ฉบับที่ ๑ หลักสูตร วปอ.๕๑
- 8. -๘-
ในด้ านความคิด ในด้ านความรู้ สึก ในด้ านความรู้ สึก ในด้ านความคิด
ESTJ ESFJ ENFJ ENTJ
E พึงใจกับสถานการณ์แวดล้อม E พึงใจกับสถานการณ์แวดล้อม E พึงใจกับสถานการณ์แวดล้อม E พึงใจกับสถานการณ์แวดล้อม
S เข้าใจถึงความเป็ นไปได้ ในทาง ่
S ตั้งอยูบนพื้นฐานของประสบการณ์ N สนใจเฉพาะเรื่ องที่มองเห็นความ N คํานึงถึงความเป็ นไปได้ รู ้จริ ง
ปฏิบติ ช่างสังเกต คิดบน
ั F มีความตระหนัก และระมัดระวัง เป็ นไปได้ มีวาทศิลป์ และความ เป็ นต้นคิดที่ชาญฉลาด เป็ น
พื้นฐานของประสบการณ์ ต่อความรู ้สึกของผูอื่น มีความ
้ สามารถทางภาษาอย่างลึกซึ้ง นักค้นคิดทดลอง
T คิดอย่างเป็ นเหตุเป็ นผล คิด เห็นอกเห็นใจ เอาใจเขามาใส่ ใจ คิดบนพื้นฐานของประสบการณ์ T คิดอย่างเป็ นเหตุเป็ นผล คิด
อย่างนักจัดการ นักบริ หาร เรา เข้าถึงความรู ้สึกของหมู่คณะ F มีความตระหนัก และระมัดระวัง อย่างนักจัดการ นักบริ หาร
ตัดสิ นใจเฉี ยบขาด คิดอย่าง J มีความรู ้สึกไม่สับสน ต่อความรู ้สึกของผูอื่น มีความ
้ ตัดสิ นใจเฉียบขาด คิดอย่าง
พินิจพิเคราะห์ เห็นอกเห็นใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา พินิจพิเคราะห์
J ใฝ่ หาความมีสมรรถภาพ เข้าถึงความรู ้สึกของหมู่คณะ J คิดอย่างมีระบบขั้นตอน
J มีความรู ้สึกไม่สับสน
บทสรุป
การศึกษาในหัวข้อเหล่านี้ สามารถใช้เป็ นเครื่ องมือในการทําความเข้าใจพฤติกรรมของ
มนุษย์ได้ดีข้ ึน แต่สิ่งที่นาเสนอให้เห็นนี้เป็ นเพียงส่ วนหนึ่งเท่านั้น ผูที่สนใจควรแสวงหาความรู ้ ความ
ํ ้
เข้าใจเพิ่มเติม และหมันนําความรู ้ไปประยุกต์ใช้ ทดลอง และวิเคราะห์ผลที่ออกมา เพือทําความเข้าใจให้
่ ่
ดีข้ ึน หรื อปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิธีปฏิบติให้เหมาะสม สอดคล้อง ทั้งนี้เพราะ ไม่มีทฤษฎีใดที่เป็ นอมตะ
ั
หรื อถูกต้องเพียงทฤษฎีเดียว ข้อคิดที่สาคัญ คือ โปรดระวังอย่าให้จุดเด่นของคุณกลายเป็ นจุดด้อย
ํ
-----------------------------------
เอกสารอ้างอิง
www.typelogic.com สื บค้นเมื่อ ๑๑ ต.ค.๕๑
www.keirsey.com สื บค้นเมื่อ ๑๑ ต.ค.๕๑
www.breakoutofthebox.com สื บค้นเมื่อ ๑๑ ต.ค.๕๑
บทความทางวิชาการ ฉบับที่ ๑ หลักสูตร วปอ.๕๑
- 9. บันทึกข้ อความ
ส่ วนราชการ วปอ.สปท.
ที่ กห ๐๓๑๘.๕/ วันที่ ๑๗ พ.ย.๕๑
เรื่อง เสนอบทความทางวิชาการ ฉบับที่ ๑
เรียน ผอ.วปอ.สปท.
กระผม พ.อ.รัตนชัย สุ วรรณเทศ นักศึกษาหลักสู ตร วปอ. รุ่ นที่ ๕๑ ขอเสนอบทความ
ทางวิชาการ ฉบับที่ ๑ ในหัวข้อเรื่ อง “ลักษณะบุคลิกภาพกับภาวะผูนา” ตามเอกสารแนบมาพร้อมกันนี้
้ ํ
ด้วยแล้ว
จึงเรี ยนมาเพื่อกรุ ณาทราบ
( ลงชื่อ ) พ.อ รัตนชัย สุ วรรณเทศ
( รัตนชัย สุ วรรณเทศ )
นักศึกษา วปอ.รุ่ นที่ ๕๑