ระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ
- 1. ระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ
ระบบสารสนเทศ (Information System หรือ IS) เป็นระบบพื้นฐานของการทางานต่างๆ ใน
รูปแบบของการเก็บ (input) การประมวลผล (processing) เผยแพร่ (output) และมีส่วนจัดเก็บข้อมูล
(storage)
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศคือ
มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล บุคลากร และขั้นตอนการปฏิบัติงาน
บุคลากร เป็นส่วนประกอบที่สาคัญ เพราะบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และเข้าใจวิธีการ
ให้ได้มาซึ่งสารสนเทศ จะเป็นผู้ดาเนินการ ในการทางานทั้งหมด
ขั้นตอนการปฏิบัติ เป็นระเบียบวิธีการปฏิบัติงานในการจัดเก็บรักษาข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่
จะทาให้เป็นสารสนเทศได้
ซอฟต์แวร์ คือลาดับขั้นตอนคาสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ ทางานตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
ซอฟต์แวร์ จึงหมายถึงชุดคาสั่งที่เรียง เป็นลาดับขั้นตอนสั่งให้คอมพิวเตอร์ทางานตามต้องการ และ
ประมวลผลเพื่อให้ได้สารสนเทศที่ต้องการ
ข้อมูล เป็นวัตถุดิบที่ทาให้เกิดสารสนเทศ ข้อมูลที่เป็นวัตถุดิบจะต่างกัน ขึ้นกับสารสนเทศที่
ฮาร์ดแวร์ หมายถึง : อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ที่สามารถทางานตามชุดคาสั่งได้และ ให้ผลลัพธ์
ตามต้องการ
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System)
DSS(Decision Support System) เป็นซอฟแวร์ที่ช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดการ การ
รวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการสร้างตัวแบบที่ซับซ้อน ภายใต้ซอฟต์แวร์เดียวกัน
นอกจากนั้น DSSยังเป็นการประสานการทางานระหว่างบุคลากรกับเทคโนโลยีทางด้านซอฟต์แวร์ โดย
เป็นการกระทาโต้ตอบกัน เพื่อแก้ปัญหาแบบไม่มีโครงสร้าง และอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ใช้ตั้งแต่
เริ่มต้นถึงสิ้นสุดขั้นตอนหรืออาจกล่าวได้ว่า DSS เป็นระบบที่โต้ตอบกันโดยใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อหา
คาตอบที่ง่าย สะดวก รวดเร็วจากปัญหาที่ไม่มีโครงสร้างที่แน่นอน ดังนั้นระบบการสนับสนุนการ
ตัดสินใจ จึงประกอบด้วยชุดเครื่องมือ ข้อมูล ตัวแบบ (Model) และทรัพยากรอื่นๆ ที่ผู้ใช้หรือ
- 2. นักวิเคราะห์นามาใช้ในการประเมินผลและแก้ไขปัญหา ดังนั้นหลักการของDSS จึงเป็นการให้เครื่องมือ
ที่จาเป็นแก่ผู้บริหาร ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีรูปแบบที่ซับซ้อน แต่มีวิธีการปฏิบัติที่ยืดหยุ่น DSS จึงถูก
ออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน ไม่เพียงแต่การตอบสนองในเรื่องความต้องการของข้อมูล
เท่านั้น
ประเภทของระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ
ระบบสารสนเทศที่ดีจะช่วยให้ผู้ใช้ในทุกระดับขององค์กรตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ประเภทของระบบ
สารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจแบ่งตามผู้ใช้งานเป็น 2 ประเภท คือระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุน
การตัดสินใจของบุคคลและระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจแบบกลุ่ม
ระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของบุคคล
ระบบสารสนเทศสนับสนุนการตัดสินใจของบุคคล เป็นระบบสารสนเทศที่มีผู้ใช้หรือผู้ตัดสินใจเพียง
คนเดียว ดังนั้นผู้ใช้จึงต้องมีอานาจในการตัดสินใจ ระบบสารสนเทศประเภทนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า ระบบ
สารสนเทศของผู้บริหาร หรือ (EIS) (Executive Information System ) ซึ่งเป็นระบบสารสนเทศที่ช่วย
สนับสนุนการวิเคราะห์ปัญหา ศึกษาแนวโน้มของเรื่องที่สนใจ ส่วนใหญ่จะนาเสนอสารสนเทศในรูปแบบ
ของรายงาน ตารางและกราฟ เพื่อสรุปสารสนเทศให้เข้าใจง่ายและประหยัดเวลา เช่น บริษัทแห่งหนึ่ง
ต้องการเปิดสาขาเพื่อจาหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น ผู้บริหารจึงนาเข้าข้อมูลต่างๆ ของบริษัทไว้ใน
ฐานข้อมูลของ EIS เพื่อประมวลผลตามแบบจาลองที่สร้างไว้
ระบบสารสนเทศสนับสนุนการตัดสินใจแบบกลุ่ม
ระบบสารสนเทศสนับสนุนการตัดสินใจแบบกลุ่มหรือ GDSS (group decision support
system) เป็นระบบสารสนเทศที่พัฒนามาจากระบบสารสนเทศสนับสนุนการตัดสินใจของบุคคลเรื่องจาก
การทางานภายในองค์กรมักใช้การวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ใช้ที่มีจานวนมากกว่า 1 คนในการตัดสินใจการ
- 3. แก้ปัญหา ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือในผลการตัดสินใจนั้น ๆ การนา GDSS มาใช้
ในองค์กรจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงลักษณะการทางานจากการเก็บรวบรวมข้อมูลไว้ที่ผู้ใช้คนใดคนหนึ่งมา
เก็บรวบรวมไว้ในระบบฐานข้อมูล บุคลากรทุกคนในองค์กรมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและ
ส่งเสริมการตัดสินใจขององค์กร ตัวอย่างการใช้งาน GDSS เช่น บริษัทแห่งหนึ่งต้องการปรับเปลี่ยน
เวลาทางานของพนักงานบริษัท จึงมีการรวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นของพนักงานทุกคนไว้ใน
ฐานข้อมูลของ GDSS เพื่อประมวลผลตามแบบจาลองที่สร้างไว้ จากนั้นผู้บริหารหลาย ๆ ฝ่ายร่วมกัน
ตัดสินใจว่าควรจะดาเนินการอย่างไร
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจกับการบริหารการจัดส่งสินค้า
บริษัทซาน ไมเกล (San Miguel Corporation) ใช้ระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารการส่งสินค้า
(Production Load Allocation) เพื่อส่งสินค้ากว่า 300ชนิด เช่น นม เบียร์ และอื่นๆ โดยส่งไปทั่วหมู่เกาะ
ฟิลิปปินส์ ระบบดังกล่าวช่วยคานวณความสมดุลระหว่างค่านาส่ง ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ กับความถี่ใน
การนาส่งและปริมาณต่าสุดในการส่งสินค้า รวมถึงการกาหนดจานวนสินค้าแต่ละชนิดที่จะผลิตและการ
นาสินค้านั้นไปเก็บไว้ในคลังสินค้าต่างๆ ระบบนี้ช่วยให้บริษัทกาหนดแผนการผลิตที่เหมาะสมและ
สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเก็บสินค้าไว้ในคลังได้ถึง180000 เหรียญสหรัฐต่อปี