Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie เครื่องใช้ไฟฟ้า (20)
เครื่องใช้ไฟฟ้า
- 1. งานนาเสนอ
เครื่องใช้ไฟฟ้า
รายวิชาวิทยาศาสตร์
- 2. จัดทาโดย
ด.ญ. วรรณารัตน์ บุญวงศ์ เลขที่26
ด.ญ. วราภรณ์ วงค์ราษฎร์ เลขที27 ่
ด.ญ. วัชราภรณ์ ฟองฟู เลขที28 ่
ด.ญ. ศิรพร
ิ สมเครือ เลขที29่
ด.ญ. ศิวพร หล่อวงค์ เลขที30 ่
ชันมัธยมศึกษา ม.3/1
้
เสนอ
ครู จิราภรณ์ ไชยมงคล
- 3. เครืองใช้ไฟฟ้าคือ อุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า
่
เป็นพลังงานรูปอื่น เพื่อนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน
ไม่ว่าจะเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ภายในบ้าน
ในสานักงาน ตลอดจนเครื่องมือ เครื่องจักร
ในโรงงานอุตสาหกรรม ล้วนแต่ต้องอาศัยพลังงานจากไฟฟ้าทั้งสิ้น
- 5. 1. เครืองใช้ไฟฟ้าที่ให้แสงสว่าง
่
2. เครืองใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน
่
3. เครืองใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานกล
่ ่
4. เครืองใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานเสียง
่
- 7. เครืองใช้ไฟฟ้าที่ให้แสงสว่าง
่
อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแสงสว่าง
คือหลอดไฟฟ้า หลอดไฟฟ้าที่ใช้ในบ้าน แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้
1. หลอดไฟฟ้าแบบธรรมดา
1.1 ไส้หลอด ทาด้วยโลหะที่มจุดหลอดเหลวสูง ทนความร้อนได้มาก
ี
มีความทานสูง เช่น ทังสเตน
1.2 หลอดแก้ว ทาจากแก้วที่ทนความร้อนได้ดี ไม่แตกง่าย สูบอากาศออกจนหมด
ภายในบรรจุก๊าซไนโตรเจนและอาร์กอนเล็กน้อย ก๊าซชนิดนี้ทาปฏิกิริยา
ยาก ช่วยป้องกันไม่ให้ไส้หลอดระเหิดไปจับที่หลอดแก้ว
- 9. 2. หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์
ส่วนประกอบของหลอดฟลูออเรสเซนต์มีดังนี้
2.1 ตัวหลอด ภายในสูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุ
ไอปรอทและก๊าซอาร์กอน เล็กน้อย ผิวด้านในของหลอดเรืองแสงฉาบ
ด้วยสารเรืองแสงชนิดต่างๆ แล้วแต่ความต้องการให้เรืองแสงเป็นสีใด
เช่น ถ้าต้องการให้เรืองแสงสีเขียว ต้องฉาบด้วยสารซิงค์ซลิเคต แสงสี
ิ
ขาวแกม ฟ้าฉาบด้วยมักเนเซียมทังสเตน แสงสีชมพูฉาบด้วยแคดเนียม
บอเรต เป็นต้น
- 10. 2.2 สตาร์ตเตอร์ ทาหน้าทีเป็นสวิตซ์ไฟฟ้าอัตโนมัติของ
่
วงจรโดยต่อขนานกับหลอด ทาด้วยหลอดแก้วภายในบรรจุกาซนีออนและ๊
แผ่นโลหะคู่ที่งอตัวได้เมื่อได้รับความร้อน เมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านก๊าซนีออน
ก๊าซนีออนจะติดไฟเกิดความร้อนขึ้น ทาให้แผ่นโลหะคู่งอจนแตะติดกันทาให้
กลายเป็นวงจรปิดทาให้กระแสไฟฟ้าผ่านแผ่นโลหะได้ครบวงจร ก๊าซ
นีออนที่ติดไฟอยู่จะดับและเย็น
ลง แผ่นโลหะคู่จะแยกออกจากกันทาให้เกิดความต้านทานสูงขึ้นอย่างทันทีซึ่ง
ขณะเดียวกันกระแสไฟฟ้าจะผ่านไส้หลอดได้มากขึ้นทาให้ไส้หลอดร้อน
ขึ้นมาก ปรอทก็จะเป็นไอมากขึ้นจนพอที่นากระแสไฟฟ้าได้
- 11. หลักการทางานของหลอดเรืองแสง
เมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านไอปรอทจะคายพลังงานไฟฟ้าให้อะตอมไอ
ปรอท ทาให้อะตอมของไอปรอทอยู่ในสภาวะถูกกระตุ้น (excited state)
และอะตอมของปรอทจะคายพลังงานออกมาเพื่อลดระดับพลังงาน ในรูป
ของรังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่งอยู่ในช่วงของแสงที่มองไม่เห็น เมื่อรังสีนี้กระทบ
สารเรืองแสงที่ฉาบไว้ที่ผิวหลอด สารเรืองแสงจะเปล่งแสงสีต่างๆตามชนิด
ของสารเรืองแสงที่ฉาบไว้ในหลอดนั้น
- 12. เครืองใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน
่
อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน
มีส่วนประกอบที่สาคัญ คือ
1. ขดลวดความร้อน หรือแผ่นความร้อน มักทาจากโลหะผสมระหว่างนิเกิล
กับโครเมียม เรียกว่า นิโครม ซึงมีสมบัติคือมีจุดหลอมเหลวสูงมากจึงทนความร้อน
่
ได้สูงเมื่อมีความร้อนเกิดขึ้นมากๆจึงไม่ขาดและมีความต้านทานสูงมาก
2. เทอร์โมสตาร์ท ทาหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ร้อนเกินไป มีส่วนประกอบ
เป็นโลหะต่างชนิดกัน 2 แผ่นมาประกบกัน เมื่อได้รับความร้อนจะขยายตัวได้ไม่
เท่ากัน โดยให้แผ่นโลหะที่ขยายตัวได้น้อย(เหล็ก)อยู่ด้านบน ส่วนโลหะที่จะขยายตัว
ได้มาก(ทองเหลือง)อยู่ด้านล่าง
- 13. เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านแผ่นโลหะทั้งสองมากขึ้นจะทาให้
มีอุณหภูมิสงจนแผ่นโลหะทั้งสองซึ่งขยายตัวได้ต่างกันโลหะที่ขยายตัว
ู
ได้มากจะขยายตัวโค้งงอ เป็นเหตุให้จุดสัมผัสแยกออกจากกัน
เกิดเป็นวงจรเปิด กระแสไฟฟ้าจึงไหลผ่านไม่ได้ และเมื่อแผ่นโลหะทั้งสองเย็นลง
ก็จะสัมผัสกันเหมือนเดิม เกิดเป็นวงจรปิด กระแสไฟฟ้าจึงไหลผ่านได้อีกครั้งหนึ่ง
หลักการทางาน
คือเมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดตัวนาที่มีความต้านทานสูงๆ ลวดตัวนานั้น
จะร้อน จนสามารถนาความร้อนออกไปใช้ประโยชน์ได้
- 14. เครืองใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานกล
่
อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล มีดังนี้
1.มอเตอร์ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทีเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงา
่
กล ประกอบด้วย
ขดลวด ที่พันรอบแกนโลหะที่วางอยู่ ระหว่างขั้วแม่เหล็กโดยเมื่อผ่านกระแสไฟฟ้า
เข้าไปยังขดลวดที่อยู่ระหว่างขั้วแม่เหล็ก จะทาให้ขดลวดหมุนไปรอบแกน
และเมื่อสลับขั้วไฟฟ้า การหมุนของขดลวดจะหมุนกลับทิศทางเดิม
2. เครื่องควบคุมความเร็วของมอเตอร์ ทาได้โดย การเพิ่มหรือลดความต้านทาน
ให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้มากหรือน้อยภายในเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ซึ่งเป็นผล
ให้ความเร็ว ของการหมุนมอเตอร์เปลี่ยนไปจากเดิม
- 15. หลักการทางาน
โดยอาศัยหลักการเหนี่ยวนาแม่เหล็กไฟฟ้า ด้วยอุปกรณ์
ที่เรียกว่า มอเตอร์ และ เครืองควบคุมความเร็ว ซึ่งเป็นอุปกรณ์หลัก
่
ในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานกล ตัวอย่าง เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานกล
เช่น พัดลม เครื่องซักผ้า เป็นต้น
- 16. เครืองใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานเสียง
่
อุปกรณ์ที่สาคัญในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานเสียง คือ
1. ไมโครโฟน เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานเสียงเป็นพลังงานไฟฟ้า
2. ลาโพง เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าเป็นพลังงานเสียง
3. เครืองรับวิทยุ เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานเสียง
่
โดยรับคลื่นวิทยุ จากสถานีส่งแล้วใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขยายสัญญาณเสียงที่มี
อยู่ในรูปของสัญญาณไฟฟ้าให้แรงขึ้นเมื่อผ่านสัญญาณไฟฟ้านี้ไปยังลาโพงจะ
ทาให้ลาโพงสั่นสะเทือนเปลี่ยนเป็นเสียงที่สามารถรับฟังได้ ดังแผนผัง
เสาอากาศ ขยายสัญญาณ ลาโพง เสียง
(รับคลื่นวิทยุ)
- 17. เครืองขยายเสียง คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็น
่
พลังงานเสียงโดยรับสัญญาณไฟฟ้าจากไมโครโฟน หัวเทป หรือจากเครื่องกาเนิด
สัญญาณไฟฟ้าจากเสียงต่างๆ มาขยายสัญญาณไฟฟ้าจนมีกาลังมากพอจึงส่งออกสู่ลาโพงเสียง
เสียง ไมโครโฟน สัญญาณไฟฟ้า บันทึกเป็นสัญญาณแม่เหล็กลง
บนแถบบันทึกเสียง
แผนผังการเปลี่ยนพลังงานของเครื่องบันทึกเสียงขณะบันทึก
- 18. เมื่อนาแถบบันทึกเสียงที่บันทึกได้มาเล่น สัญญาณแม่เหล็กจะถูก
เปลี่ยนกลับ เป็นสัญญาณไฟฟ้า และสัญญาณนี้จะถูกขยายให้แรงขึ้นด้วยอุปกรณ์
ไฟฟ้าจนทาให้ลาโพงสั่นสะเทือนเป็นเสียงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ดังแผนผัง
สัญญาณแม่เหล็กจาก สัญญาณไฟฟ้า ขยายสัญญาณ ลาโพง เสียง
แถบบันทึกเสียง
แผนผังการเปลี่ยนพลังงานของเครื่องบันทึกเสียงขณะเล่น
- 20. เครืองใช้ไฟฟ้าที่ให้แสงสว่าง
่
- เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าให้เหมาะสม
- ปิดไฟบางบริเวณให้เร็วกว่าที่เคยปฏิบัติ
- เลิกเปิดไฟทิ้งไว้เมื่อไม่มีคนอยู่ หรือเมื่อเลิกใช้งาน
- ลดจานวนหลอดไฟในบริเวณที่อาศัยแสงธรรมชาติได้
- เลิกใช้หลอดไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน
- หมั่นทาความสะอาดตัวหลอดไม่ให้มีฝุ่นละอองเกาะ
เพราะจะทาให้ความสว่างลดน้อยลง
- 21. - สารวจปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่หมดอายุการใช้งาน
หรือไม่ได้คณภาพ
ุ
- บารุงรักษาอุปกรณ์อย่างสม่าเสมอ ตรวจสอบการ
ทางานและความสว่าง
- หลอดไส้ใช้สาหรับบริเวณที่ต้องการปรับหรือหรี่แสง
แต่ไม่ประหยัดพลังงาน
- หลอดตะเกียบประหยัดพลังงานกว่า
หลอดไส้
- 22. เครืองใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน
่
วิธีใช้เตารีดไฟฟ้าให้ประหยัดพลังงาน
- ควรรีดผ้าคราวละมากๆติดต่อกันจนเสร็จและควรเริ่มรีดผ้าบางๆก่อนในขณะ
ที่เตารีดยังไม่ร้อนและก่อน
- รีดเสร็จประมาณ 2-3นาที ให้ถอดปลั๊กออก
- เมื่อไม่ได้ใช้งานควรถอดปลั๊กออกและก่อนจะเก็บควรทิ้งเตารีดให้เย็นก่อน
- ควรระวังไม่ให้ความร้อนจากเตารีดสัมผัสสายไฟฟ้า
- สายปลักของเตารีด-เปลือกสาย(ฉนวน) ต้องไม่เสื่อมสภาพหรือฉีกขาด
๊
- 23. เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานกล
วิธใช้พดลมเพือประหยัดพลังงาน
ี ั ่
- ควรใช้พัดลมตั้งพื้นหรือตั้งโต๊ะแทนพัดลมติดเพดานเพราะจะกินไฟ
น้อยกว่าพัดลมติดเพดานประมาณครึ่งหนึ่ง
- อย่าเปิดพัดลมทิ้งไว้เมื่อไม่มีคนอยู่
- เมื่อเลิกใช้ควรปิดพัดลมและถอดปลั๊กออก
- ปรับระดับความเร็วลมพอสมควร
- เลือกขนาดให้เหมาะสมกับการใช้งาน
- ควรเปิดหน้าต่างใช้ลมธรรมชาติแทนถ้าทาได้
- 24. วิธใช้เครื่องซักผ้าให้ประหยัดพลังงานและปลอดภัย
ี
- เลือกขนาดให้เหมาะสมกับงานที่ใช้ ซักผ้าตามพิกัดของเครื่อง
อย่าใส่ผ้าอัดแน่นเกินกาลังของเครื่อง
- การซักผ้าทีละ2-3 ชิ้นไม่เป็นการประหยัดและควรใช้น้าร้อนซักผ้าเมื่อจาเป็น
เท่านั้น
- ซักผ้าแล้ว ไม่จาเป็นต้องใช้เครื่องอบผ้าแห้งด้วยไฟฟ้า ควรใช้วิธีการ
ผึ่งลมหรือผึ่งแดด
- ต้องต่อสายดินและหมั่นตรวจสอบไฟรั่วด้วยไขควงลองไฟ
อยู่เสมอ
- 25. เครืองใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานเสียง
่
- เลิกเปิดวิทยุเพียงเพื่อเป็นเพื่อนโดยไม่ได้สนใจฟัง
- เลิกเปิดวิทยุคู่กับการเปิดดูโทรทัศน์
- เลิกเสียบปลั๊กไว้เพื่อใช้ดูเวลา หากมีนาฬิกาอื่นๆ ใช้ดูเวลาอยู่แล้ว
- เลิกปิดเครื่องโดยใช้รีโมทคอนโทรล ให้ปิดจากสวิตซ์ที่เครื่องแทน