More Related Content
Similar to อุณหภูมิและสีของดาวฤกษ์55
Similar to อุณหภูมิและสีของดาวฤกษ์55 (20)
อุณหภูมิและสีของดาวฤกษ์55
- 1. ดาวฤกษ์
ดาวฤกษ์ (Stars หรื อ Fixed stars) เป็ นดาวที่มีแสงสว่าง และพลังงานในตัวเอง เช่ น
ดวงอาทิตย์ จุดกาเนิ ดดาวฤกษ์ จากการศึกษาของนักดาราศาสตร์ พบว่าการเกิดดาวฤกษ์อุบติ
ั
ขึ้นในบริ เวณที่ลึกเข้าไปในกลุ่มเมฆ ฝุ่ นและก๊าซ ซึ่งเรี ยกว่า เนบิวล่า (Nebular) โดยจะเกิดจาก
อะตอมของก๊าซที่รวมตัวกันเข้าเป็ นเมฆมืดขนาดยักษ์ มีขนาดกว้างใหญ่หลายร้อยปี แสง แรง
โน้มถ่ วงจะดึ งก๊าซและฝุ่ นเข้ารวมกันเป็ นก้อนก๊าซที่อดแน่ นหมุ นรอบตัวเองจนใจกลางมี
ั
อุณหภูมิสูงมากพอ จนเกิดปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์
การศึกษาดาวฤกษ์จะเป็ นการศึกษาความสว่าง, สี ความสว่างและโชติมาตรของดาว
โดยทัวไปดาวจะปรากฏสว่างมากหรื อน้อย ไม่ได้ข้ ึนอยู่กบความสว่างจริ งเพียงอย่างเดียวแต่
่ ั
ขึ้นอยู่กบระยะทางของดาว จึงนิยามความสว่างจริ งของดาวเป็ นโชติมาตรสัมบูรณ์สีของดาว
ั
่ ั
ฤกษ์ข้ ึนอยูกบอุณหภูมิของดาวแต่ละดวง
ดาวฤกษ์เ ป็ นก้อนก๊ า ซสว่า งที่ มี อุณ หภู มิ สู ง ดัง นั้นพลัง งานที่ เ กิ ด ขึ้ น ภายในดวงจะ
ส่ งผ่านออกทางบรรยากาศที่เรามองเห็นได้ เรี ยกบรรยากาศชั้นนี้ว่า ชั้นโฟโตสเฟี ยร์พร้อมทั้ง
การแผ่รังสี อินฟราเรด, รังสี อุลตราไวโอเลต, เอกซเรย์ รวมทั้งคลื่นวิทยุ และคลื่นแสงที่ตา
ั
มองเห็น การพิจารณาอุณหภูมิของดาวฤกษ์กบสี พบว่าอุณหภูมิต่าจะปรากฏเป็ นสี แดง และถ้า
อุณหภูมิสูงจะปรากฏเป็ นสี น้ าเงิ นและกลายเป็ นสี ขาว โดยมี การกาหนด ดาวสี น้ าเงิ น ที่ มี
อุณหภูมิสูงเป็ นพวกดาว O ส่ วนดาวสี แดงเป็ นพวก M และเมื่อเรี ยงลาดับอุณหภูมิสูงลงไปหา
ต่า สเปคตรัมของดาว ได้แก่ O - B - A - F - G - K - M ดวงอาทิตย์จดเป็ นพวก G ซึ่ งมีอุณหภูมิ
ั
ปานกลาง 4.3
- 2. อุณหภูมิและสี ของดาวฤกษ์
ั
นักวิทยาศาสตร์ พบว่าสี ของดาวฤกษ์มีความสัมพันธ์กบอุณหภูมิพ้ืนผิวของดาวฤกษ์
นั้นๆ โดยดาวฤกษ์ที่มีอุณหภูมิพ้ืนผิวต่าจะมีสีแดง ส่ วนดาวฤกษ์ที่มีอุณภูมิพ้ืนผิวสู งจะมีสีน้ า
เงิน นอกจากนี้ในกรณี ที่ดาวฤกษ์น้ นไม่ใช่ดาวยักษ์ ขนาดของดาวฤกษ์กจะเกี่ยวข้องกับสี ของ
ั ็
ดาวเช่นกัน โดยดาวฤกษ์มวลมากจะมีสีน้ าเงิน ส่ วนดาวฤกษ์มวลน้อยจะมีสีแดง
การแบ่ งสี ของดาวฤกษ์
สี ของดาวฤกษ์แบ่ งได้เป็ น 7 ระดับ ตามระดับอุ ณหภูมิ ความร้ อน จากมากไปน้อ ย
ตามลาดับ ดังนี้O-B-A-F-G-K-M ซึ่ งมีวิธีการจาง่ายๆ คือ "Oh Be A Fine Girl(Guy)
Kiss Me"
O = สี น้ าเงิน
B = สี น้ าเงินแกมขาว
A = สี ขาว
F = สี ขาวแกมเหลือง
G = สี เหลือง
K = สี ส้ม
M = สี แดง
(สาหรับดวงอาทิตย์ของเรา ถูกจัดอยูในกลุ่มดาวฤกษ์สีเหลือง)
่
- 3. จากข้อมูลและภาพถ่ายและบันทึกคลื่นแสงของดวงดาว จานวนมากมายเหล่านี้ ก็
ถูกนามาจาแนกแยกดวงดาวเป็ นกลุ่มเป็ นพวก เมื่อเอามาเปรี ยบเทียบกับความเข้าใจทางฟิ สิ กส์
เกี่ยวกับธรรมชาติของอะตอมแล้วก็พบว่าดวงดาวนั้นหาใช่ สิ่งที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่ แต่
กลับมีวิถีชีวิตที่คาดคะเนได้ ปั จจัยที่ทาให้วิถีชีวิตของดวงดาวต่างกันไป ก็อยู่ที่จานวนมวล
ของมันเท่านั้น หากดาวมีมวลน้อยก็จะดาเนิ นชี วิตไปแบบหนึ่ ง หากมีมวลมากก็จะดาเนิ น
ชี วิตแตกต่ า งกัน ออกไป เราสามารถน าข้อมู ลเหล่ า นี้ ม าคาดการณ์ อ นาคตและหาอายุข อง
ดวงดาวที่เราสังเกตการณ์ ได้ เราจึ งได้ศึกษาความเปลี่ยนแปลงของดวงดาวจนได้เข้าใจว่า
่ ั่
ดวงดาวมิใช่ สิ่งที่มีชีวิตอยูชวนิรันดร์ หากแต่มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เฉกเช่นเดียวกับสิ่ งมีชีวิต
ทั้งหลายทั้งปวง
ช่ วงชีวตของดวงดาว ทีจะกล่าวโดยละเอียดต่ อไปนั้น จะผ่ านขั้นตอนดังนี้
ิ ่
1. มวลสารต่างๆในจักรวาลเกิดขึ้นมาเป็ นดวงดาวในภายหลัง
2. ดาวก่อนเกิด หรื อ ช่วงวัยที่เรี ยกว่า Protostar และดาวเพิงคลอดที่เรี ยกว่า T-Tauri
่
เพราะดาวชนิดนี้ที่ได้พบเป็ นครั้งแรกในกลุ่มดาววัว (Taurus)
3. ดาวที่เป็ นดาวอย่างสมบูรณ์แล้ว ซึ่งนักดาราศาสตร์เรี ยกว่า Main Sequence Star
4. ดาวสลาย คือดาวที่เผาจนหมดเชื้อเพลิงในแกนกลางแล้ว ก็จะเริ่ มเข้า ช่วงแห่งการ
แตกสลายสิ้ นอายุขยของดวงดาว
ั