Anzeige
Anzeige

Más contenido relacionado

Anzeige

Último(20)

Luangpor intawai19

  1. คนเราออกมาเกิดก็อย่างนั้นล่ะ เหมือนละครโรงใหญ่สาหรับตนเอง อย่างหลวงพ่อที่กาลังพูดกาลังแสดงก็เหมือนกับตัวพระเอก แต่อีกสักวันหนึ่ง หลวงพ่อก็คงจะเก็บฉากเหมือนกัน ไม่มีใครอยู่ชั่วฟ้าดินสลาย สิ่งเหล่านี้ก็ต้องมองดูให้รอบข้างรอบด้าน ให้เราดูอย่างนั้น ใจของเราจะไม่หลงนะ ใจของเราจะไม่เดือดไม่ร้อน ไม่วุ่นวาย รู้จักปล่อย รู้จักวาง รู้จักสถานะของเราเป็นยังไง เป็นอยู่อย่างไร อยู่ในสถานะไหน เราต้องพยายามทาดีที่สุด ในขณะที่เราเป็นอยู่ รักษาศีลให้ดีที่สุด รักษากฎกติกาในการเป็นอยู่ ให้ดีที่สุดให้มีน้าใจต่อหมู่เพื่อน ต่อศรัทธาญาติโยม ให้มีน้าใจ ให้มีเมตตาต่อกัน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 1/4
  2. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก การอยู่ด้วยกันนั่นน่ะ ในขณะที่เราอยู่ แต่ส่วนลึกหัวใจของเรา แล้วความรู้สึกนึกคิดของเราแล้ว เราต้องมองตนเองอยู่เสมอ เราจะอยู่ในโลกนี้ไม่นานนะ ไม่ถึง ๑๐๐ ปีนะใจนะ อย่าไปลุ่มหลงมัว เมาจนเกินไปนะ ให้ประกอบคุณงามความดี ดูสิแบ่งแยกร่างกาย ของตนเองอย่างที่คิดเบื้องต้น แบ่งครึ่งของร่างกายเป็นยังไง มันเป็นอย่างนั้นได้มั้ย ได้ ไม่มีปัญหาถ้าคนตายแบ่งได้ทั้งนั้นแหละ เพราะคนตายเขาจะทายังไงก็ได้ แต่ว่าเราดูสิร่างกาย มันจะเป็น ของเรามั้ย กายของเราจะเป็นของเรามั้ย ไม่เป็น อีกสักวันหนึ่ง เราจะต้องหนีจากร่างกาย 2/4
  3. หนีคืออะไร ก็คือเมื่อเราทาสมาธิ ทาจิตใจให้เป็นสมาธิ ทาจิตใจให้ นิ่ง รวมสงบลงเป็นหนึ่งแล้ว เราจะนาจิตใจที่รวมเป็นหนึ่งมอง มาทางร่างกาย มาเห็นร่างกายตัวเองเห็นได้ชัดนะ ถึงจะแบ่ง ร่างกายให้เป็น ๒ ภาคก็เห็นได้ชัด ว่าร่างกายของเรามันไม่ใช่ ตัวตนของเรา อีกสักวันหนึ่ง มันจะไหลทะลักลงสู่ดินน้าลมไฟ เข้าสู่สภาพเดิมของมัน นั่นล่ะขอให้พวกเราทุก ๆ ท่านนะ ในเมื่อ เราพิจารณาอย่างนั้นแล้วเป็นยังไง จิตใจเราคือความรู้สึกนึกคิด จิตใจของเราจะเกิดความเบื่อหน่ายคลาย กิเลส ราคะก็อ่อนล้าลง ไป โทสะไม่รู้จะโกรธโมโหไปทาไม โมหะก็คิดว่าตัวเองจะอยู่จนชั่วฟ้า ดินสลายตายไม่เป็น สมบัติทั้งหลายทั้งปวงจะเป็นของเรา นั้น ไม่ใช่ ขนาดร่างกายยังไม่ใช่ตัวตนของเรา หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 3/4
  4. เมื่อทาใจ ทาความเข้าใจในใจของตนเองแล้วนะ จิตใจก็ปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นถือมั่นในส่วนลึกนะ แสงสีภายนอกเราก็ต้องปฏิบัติตาม โลกสมมติให้ถูกต้อง แต่ว่าในใจของเรา เราปล่อย เราวาง เราไม่ ยึดมั่นถือมั่น อีกสักวันก็ต้องไปตามสภาพของมัน นี่ล่ะ ทาใจไป ถ้าจิตใจอย่างนั้นอยู่สถานที่ใดไม่ทุกข์นะ ศรัทธา ญาติโยมพระ เณรลูกหลานนะ อยู่ที่ไหนไม่ทุกข์เพราะมันรู้ รู้เท่ารู้ทัน รู้ปล่อย รู้ วาง มันไม่ยึดมั่นถือมั่นในจิตใจ อันนี้เป็นธรรมขั้นที่ว่า ธรรมขั้น สูงสุดถึงขั้นปล่อยวางนะ แต่ถึงเราจะทาไมได้ขนาดนั้นก็ให้ฟัง เอาไว้ ธรรมคาสอนของพุทธะ หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 4/4
  5. เกิดมาในโลกนี้จะให้ได้ทุกอย่าง เป็นไปไม่ได้ พวกเราต้องประสบสิ่ง ที่พอใจบ้าง ไม่พอใจบ้าง สิ่งที่พอใจก็ดี สิ่งที่ไม่พอใจเราก็ทุกข์ใจ ในเมื่อทุกข์ใจ เราต้องทายังไง เราต้อง “อดทน” ต้องมีขันติ คือ ความอดทน ... อยู่ในสถานที่ใด ต้องอดทน อยู่กับพ่อแม่ ก็อดทน ถ้าเราเป็นพ่อแม่ก็ต้องอดทนต่อลูก เป็นลูกน้องก็อดทน เป็น เจ้านายก็อดทน มันมีความอดทนอยู่คนละแนว ถ้าทุกคนมีความ อดทน การอยู่ด้วยกันถึงจะหนักหนาสาหัสขนาดไหน ก็เป็นไปใน แนวที่ดีได้ เพราะเรามีความอดทน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
  6. เรื่องทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ มีใจเป็นหัวหน้า สาเร็จได้ด้วยใจ ปล่อยวางที่ใจ ไม่มีสิ่งใดเป็นของเราถาวร เราเพียงครอบครองชั่วคราวเท่านั้นเอง หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
  7. การตั้งใจสมาทานศีล ข้าพเจ้าจะรักษาศีล ๕ ข้าพเจ้าตั้งใจจะรักษา ศีลอุโบสถ ตั้งจิตวิรัตเจตนาในใจก็เป็นศีลแล้ว หลวงพ่อเคยกล่าว หลายครั้ง การที่จะสมาทานศีลไม่ใช่ว่าจะมารับกับพระเสียก่อนจึงจะ เป็นศีล เวลาเราเจ็บไข้ได้ป่วยหรือเราไปต่างถิ่นต่างแดนหรือเรามี อุปสรรค เราจะประกอบคุณงามความดี ให้ทานก็ไม่ได้เพราะไม่มี โอกาส เราก็รักษาศีล รักษากายวาจาใจของเราให้เรียบร้อย ก็เป็น การสร้างบุญสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ ให้พวกเราทดลองปฏิบัติไป เรื่อย ๆ แล้วลองสังเกต หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก SLIDE 1/2
  8. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก การที่เราจะสมาทานศีลไม่ใช่ว่าเราจะมารับจากพระสงฆ์ครูบาอาจารย์ เท่านั้นจึงจะเป็นศีล ให้พวกเราเข้าใจว่า ศีลอยู่ทุกแห่งทุกคน อยู่ใน จิตใจของเรา เรารักษาศีล เราประกอบคุณงามความดี ณ สถานที่ ใด เป็นคุณงามความดีทั้งนั้น ถึงเราจะสมาทานศีลกับครูบาอาจารย์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน แต่พอเราออกไปแล้วเราไม่รักษา ศีลนั้นก็ไม่ เป็นศีลเหมือนกัน เป็นศีลละเลงละลาย เพราะเราไม่รักษา SLIDE 2/2
  9. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก เมื่อเราบวชเข้ามาใหม่นั้น เรายังไม่มีหลัก ไม่มีเกณฑ์ ไม่มีแนวแถวให้ได้ยึด ดังนั้น เริ่มแรกเราก็ต้องอดทนศึกษา อยู่กับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ไปเสียก่อน เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้เรื่องพระธรรมวินัย เรื่องกฎระเบียบ เรื่องข้อวัตรปฏิบัติ เรื่องสิ่งแวดล้อมรวมไปจนถึงผู้คน ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับวัดวาที่มาจากหลายสถานะ ตลอดจนเรียนรู้ชีวิตประจาวันของพ่อแม่ ครูบาอาจารยว่าท่านพาดาเนินอย่างไร อันนี้แปลว่า เราเป็นศิษย์ที่ ใหญ่มากับพ่อ ก่อมากับครู ๑/๒
  10. หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก แต่ถ้าหากเราไม่ได้ศึกษาเรื่องต่างๆเหล่านี้ให้ชัดเจนเเล้ว ทีนี้เมื่อเราออกไปเเล้ว เราก็จะทาอะไรตามอาเภอใจ ในสิ่งที่เราอยากพูดอยากทาซึ่งบางอย่างมันไม่ถูกหลักพระธรรมวินัย เพราะเราเป็นพระสาธารณะ เราก็ต้องมองดูตัวเองด้วยว่า การกระทาอย่างนี้ สาธารณชน พ่อเเม่ครูบาอาจารย์หรือว่า หมู่พวกเพื่อนนั้นยอมรับได้หรือไม่ สิ่งเหล่านี้เราก็ต้องได้คิด 2/๒
Anzeige