SlideShare a Scribd company logo
1 of 74
Download to read offline
1
เลขยกกําลังสมบัติของเลขยกกําลังสมบัติของรากที่nฟงกชันเอกโปรเนนเชียล
•นิยาม
•กราฟของฟงกชัน
การแกสมการและ
อสมการของฟงกชัน
เอกโปรเนนเชียล
การหาคาของ√m+√n
ฟงกชันลอการิทึม
•นิยาม
•กราฟของฟงกชัน
ลอการิทึมสามัญและ
ลอการิทึมธรรมชาติ
แอนตีลอการิทึมการแกสมการและ
อสมการของฟงกชัน
ลอการิทึม
โจทยปญหา
2
ฟงกชันเอกซโปเนนเชียล
1.เลขยกกําลัง
ถา a เปนจํานวนจริงใดๆ และ n เปนจํานวนเต็มบวก
...n
a a a a a= × × × ×
ตัวอยาง เชน
6
2 2 2 2 2 2 2 64= × × × × × =
4
3 3 3 3 3 81= × × × =
n ตัว
เลขยกกําลัง
n
a
เรียกวา เลขชี้กําลัง
เรียกวา เลขฐาน
6 ตัว
4 ตัว
3
2.สมบัติของเลขยกกําลัง
ถา ,a b R∈ และ 0, 0m n> >
1)
( )m n m n
a a a +
⋅ = เมื่อ , 0a m ≠ พรอมกัน และ , 0a n ≠ พรอมกัน
2)
( )
( )m n mn
a a= เมื่อ , 0a m ≠ พรอมกัน
3) ( )n n n
ab a b= เมื่อ , 0a n ≠ พรอมกัน และ , 0b n ≠ พรอมกัน
4) ( )
n
n
n
a a
b b
= เมื่อ , 0a n ≠ พรอมกัน และ 0b ≠
5)
0
1a = เมื่อ 0a ≠
6)
1n
n
a
a
−
= เมื่อ 0a ≠
7)
( )
m
m n
n
a
a
a
−
= เมื่อ 0a ≠
8) ( )
11
mm
mn nna a a
⎛ ⎞
= = ⎜ ⎟
⎝ ⎠
เมื่อ , 0a m ≠ พรอมกัน
ตัวอยาง เชน
1. จงหาคาของ
( 2)
( 1)
5 3 9 3
3 3
n n
n n
−
−
⋅ − ⋅
−
วิธีทํา
4
( 2) 2 ( 2)
( 1)
5 3 9 3 5 3 3 3
33 3
3
3
n n n n
nn n
n
− −
−
⋅ − ⋅ ⋅ − ⋅
=
−
−
[2 ( 2)]
5 3 3
1
3 [1 ]
3
5 3 3
2
3 [ ]
3
3 [5 1]
2
3 [ ]
3
4
2
3
6
n n
n
n n
n
n
n
+ −
⋅ −
=
−
⋅ −
=
−
=
=
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎝ ⎠
=
2. จงหาคาของ
1 1
( ) ( )
1 1
( ) ( )
m n
m n
x x
y y
y y
x x
+ −
+ −
วิธีทํา
1 1 1 1
( ) ( ) ( ) ( )
1 1 1 1
( ) ( ) ( ) ( )
m n m n
m n m n
xy xy
x x
y y y y
xy xy
y y
x x x x
+ −
+ −
=
+ −
+ −
( 1) ( 1)
( 1) ( 1)
m n
m n
m n
m n
xy xy
y y
xy xy
x x
+ −
=
+ −
5
( )
( )
( )
m n
m n
m n
m n
m n
x x
y y
x
y
x
y
+
+
+
=
=
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
3. ถา
( )
3 81x y+
= และ
( )
2
25 5
x
= จงหาคา y
วิธีทํา
3.รากที่ n
ให n เปนจํานวนเต็มบวกที่มากกวา 1 และ ,x a R∈
x จะเปนรากที่ n ของ a ก็ตอเมื่อ
n
x a=
ขอสังเกต
1) เมื่อ n เปนจํานวนเต็มบวกที่มากกวา 1 และเปนจํานวนคู
รากที่ n ของ a
( )
( ) 4
3 81
3 3
4
1 4
3
x y
x y
x y
y
y
+
+
=
=
∴ + =
+ =
∴ =
( )
2
2 2
(2 )
2
25 5
(5 ) 5
5 5
5 5
1
x
x
x
x
x
⋅
=
=
=
=
∴ =
(+) เขียนแทนดวย
n
a
(-) เขียนแทนดวย
n
a−
6
2) เมื่อ n เปนจํานวนเต็มบวกที่มากกวา 1 และเปนจํานวนคี่
ตัวอยาง เชน
1. จงหารากที่ 2 ของ 9
วิธีทํา
∴ รากที่ 2 ของ 9 คือ 3 และ -3
2. จงหารากที่ 3 ของ 8
วิธีทํา
∴ รากที่ 3 ของ 8 คือ 2
รากที่ n ของ a มีจํานวนเดียว เขียนแทนดวย
n
a
รากที่ 2 ของ 9 จํานวนใดยกกําลัง 2 แลวเทากับ 9
2
9x =
2
3 9=
2
( 3) 9− =
รากที่ 3 ของ 8 จํานวนใดยกกําลัง 3 แลวเทากับ 8
3
8x =
3
2 8=
7
3. จงหารากที่ 3 ของ -8
วิธีทํา
∴ รากที่ 3 ของ -8 คือ -2
สมบัติของรากที่ n
กําหนดให a และ b มีรากที่ n และ ,a b R∈
1)
n n n
a b ab⋅ =
2)
n
n
n
a a
bb
= เมื่อ 0b ≠
3)
m
n mn
a a= เมื่อ , 0a m ≠ พรอมกัน
ตัวอยาง เชน
1. จงหาคาของ
3
3
1
6 4
2
+
วิธีทํา
3
3 3
3 3 3
1 1 4
6 4 6 4
2 2 4
×
+ = +
×
3
3
3
4
6 4
2 4
= +
×
รากที่ 3 ของ -8 จํานวนใดยกกําลัง 3 แลวเทากับ -8
3
8x = −
3
( 2) 8− = −
8
3
3
3
3
3
3
3
4
6 4
8
4
6 4
2
1
4(6 )
2
13
4
2
= +
= +
= +
=
2. จงหาคาของ
3
4
81
วิธีทํา
3
344
81 81=
4
4 4 4
81 81 81
81 81 81
3 3 3
27
= × ×
= × ×
= × ×
=
3. จงหาคาของ
1 1 1
3 3 6
6(5) 4(40) 10(25)− +
วิธีทํา
1 1 1 1 1 1 2
3 3 6 3 3 3 6
6(5) 4(40) 10(25) 6(5) 4(8) (5) 10(5)− + = − +
1 1 1
3 3 3
1 1 1
3 3 3
1
3
6(5) 4(2)(5) 10(5)
6(5) 8(5) 10(5)
8(5)
= − +
= − +
=
9
4.การหาคา m n+
พิจารณา 2 2 2
( ) ( ) 2( )( ) ( )a b a a b b+ = + +
2
( ) 2
a ab b
a b ab
= + +
= + +
2
( ) 2 ( )a b ab a b a b∴ + + = + = +
ดังนั้นในการหาคา m n+
……………….พยายามจัดรูป m n+ ใหอยูในรูป ( ) 2a b ab+ + ใหได
ตัวอยาง เชน
1. จงหาคา 5 24+
วิธีทํา
1) จัดรูป 5 24+ ใหอยูในรูป ( ) 2a b ab+ +
5 24 5 2 6+ = +
(3 2) 2 (3)(2)= + +
2) 5 24 (3 2) 2 (3)(2)+ = + +
2
( 3 2)
3 2
= +
= +
2. จงหาคา 5 24−
วิธีทํา
1) จัดรูป 5 24− ใหอยูในรูป ( ) 2a b ab+ −
5 24 5 2 6− = −
(3 2) 2 (3)(2)= + −
2) 5 24 (3 2) 2 (3)(2)− = + −
2
( 3 2)
3 2
= −
= −
10
3. ถา 1.36 1.64x< < แลว 2 1 2 1x x x x+ − + − − มีคาเทากับเทาใด
วิธีทํา
1) ตรวจสอบ ที่ 1.36 1.64x< < 2 1 0, 2 1 0x x x x+ − > − − >
2)
2 1 2 1 [1 ( 1)] 2 (1)( 1) [1 ( 1)] 2 (1)( 1)x x x x x x x x+ − + − − = + − + − + + − − −
2 2
( 1 1) ( 1 1)
1 1 1 1
2
x x
x x
= + − + − −
= + − + − −
=
4. คาของ 8 28+ และ 6 20− มีผลตางเทากับเทาใด
วิธีทํา
1) หาคา 8 28+
8 28 8 2 7+ = +
2
(7 1) 2 (1)(7)
( 7 1)
7 1
= + +
= +
= +
2) หาคา 6 20−
6 20 6 2 5− = −
2
(1 5) 2 (1)(5)
( 5 1)
5 1
= + −
= −
= −
3) 8 28 6 20 ( 7 1) ( 5 1)+ − − = + − −
7 5 2= − +
11
5.ฟงกชันเอกซโปเนนเชียล
ถา f เปนฟงกชันจากเซตของจํานวนจริงไปยังเซตของจํานวนจริง โดยที่
{( , ) | x
f x y R R y a= ∈ × = เมื่อ 0a > และ 1}a ≠ เรียก f วา “ฟงกชันเอ็กซโปเนน
เชียล” และเรียก a วา ฐาน
กราฟของฟงกชันเอกโปเนนเชียล แบงเปน 2 กรณี คือ
1) กรณีที่ 0 1a< <
โดเมน(D) R=
เรนจ(R) { | 0}y R y= ∈ >
2) กรณีที่ 1a >
โดเมน(D) R=
เรนจ(R) { | 0}y R y= ∈ >
ตัวอยาง เชน
1. จงเขียนกราฟของ {( , ) | 2 4}x
f x y R R y= ∈ × = +
วิธีทํา
1) จากสมการ 2 4x
y = + จัดรูปใหม
•
(0,1),0 1x
y a x= < <
กราฟมีลักษณะเปนฟงกชันลด
•(0,1)
, 1x
y a x= >
กราฟมีลักษณะเปนฟงกชันเพิ่ม
12
2 4
( 4) 2
x
x
y
y
= +
∴ − =
จากกราฟ { | }fD x x R= ∈
{ | 4}fR y R y= ∈ >
2. จงเขียนกราฟของ
( 1)
{( , ) | 3 1}x
f x y R R y −
= ∈ × = −
วิธีทํา
1) จากสมการ
( 1)
3 1x
y −
= − จัดรูปใหม
( 1)
( 1)
3 1
( 1) 3
x
x
y
y
−
−
= −
∴ + =
พิจารณากราฟ 2x
y = และเลื่อนกราฟขึ้นบน 4 หนวย
4
•
(0,5)
พิจารณากราฟ 3x
y = และเลื่อนกราฟขึ้นลงลาง 1 หนวย
และเลื่อนกราฟมาทางขวา 1 หนวย
2 4x
y = +
13
จากกราฟ { | }fD x x R= ∈
{ | 1}fR y R y= ∈ > −
3. จงหาเซตคําตอบของอสมการ
1
( ) 9
3
x
<
วิธีทํา
1) วาดกราฟของ
1
( )
3
x
y =
2) พิจารณาที่…………
1
( ) 9
3
x
=
2
(3) 3
2
x
x
−
=
∴ = −
จากกราฟ ที่
1
2 ( ) 9
3
x
x > − ⇒ <
1−
1
(1,0)
•
( 1)
3 1x
y −
= −
•
(0,1)
2x = −
9 1
( )
3
x
y =
14
4. จงวาดกราฟของ {( , ) | 2 }
x
f x y R R y= ∈ × =
วิธีทํา
5. จงวาดกราฟของ {( , ) | 2 }x
f x y R R y= ∈ × =
วิธีทํา
2
x
y =
2 , 0x
y x= ≥
1
2 ( ) , 0
2
x x
y x−
= = <
2 , 0x
y x= ≥1
( ) , 0
2
x
y x= <
•
(0,1)
2 , 0x
y y= ≥
2x
y =
2
2 , 0
x
x
y
y y
− =
= − <
•
(0,1)
•
(0, 1)−
2 , 0x
y y= ≥
2 , 0x
y y= − <
15
6.การแกสมการและอสมการของฟงกชันเอกซโปเนนเชียล
ขออธิบายตามตัวอยางแลวแตกรณีดังนี้
1. จงหาเซตคําตอบของสมการ
(2 1)
3 28(3) 9 0x x+
− + =
วิธีทํา
(2 1)
2
2
3 28(3) 9 0
3 3 28(3) 9 0
3 (3 ) 28(3 ) 9 0
x x
x x
x x
+
− + =
⋅ − + =
⋅ − + =
ให 3x
A =
2
3 28 9 0
(3 1)( 9) 0
1
,9
3
A A
A A
A
− + =
− − =
=
∴เซตคําตอบคือ { 1,2}−
2. ถา
2
4(2 ) 3(2 ) 1 0x x
+ − = แลว 25x
มีคาเทาใด
วิธีทํา
2
4(2 ) 3(2 ) 1 0x x
+ − =
ให 2x
A =
2
4 3 1 0
(4 1)( 1) 0
1
, 1
4
A A
A A
A
+ − =
− + =
= −
1
1
3
3
3 3
1
x
x
x
−
=
=
∴ = −
2
3 9
3 3
2
x
x
x
=
=
∴ =
16
∴เซตคําตอบคือ { 2}−
ถา
2
2
1 1
2 25 25
25 625
x
x −
= − ⇒ = = =
3. จงหาคา x จากสมการ
3 2 1
25 9
3 25
x
x− −
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
วิธีทํา
3 2 1
2
13 2 2 2
2
3 2 2(1 )
2
3 2 2(1 )
2
3 2 2
5 9
3 25
5 3
3 5
5 3
3 5
5 5
3 3
5 5
3 3
3 2 2
x
x
x
x
x
x
x
x
x x
x x
− −
−−
− −
− − −
− −
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
⎛ ⎞⎛ ⎞
= ⎜ ⎟⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
=⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
∴ − = −
3
2 0
0
x x
x
x
=
=
=
2
1
2
4
2 2
2
x
x
x
−
=
=
∴ = −
2 1x
= −
เนื่องจาก 2x
เปน (+) เสมอ
x∈∅
17
4. ถา
1 2 1
5 5 3775 5x x x+ + −
+ = − แลว x เทากับเทาใด
วิธีทํา
1 2 1
1 2 1
2
3
5 5 3775 5
5 5 5 3775
1
5 5 5 5 5 3775
5
1
5 [5 25 ] 3775
5
151
5 [ ] 3775
5
5
5 3775[ ]
151
5 125
5 5
3
x x x
x x x
x x x
x
x
x
x
x
x
+ + −
+ + −
+ = −
+ + =
⋅ + ⋅ + ⋅ =
+ + =
=
=
=
=
∴ =
5. จงหาผลบวกของคําตอบของสมการ 12 2(3 ) 9(4 ) 18 0x x x
− − + =
วิธีทํา
12 2(3 ) 9(4 ) 18 0
(3 )(4 ) 2(3 ) 9(4 ) 18 0
x x x
x x x x
− − + =
− − + =
ให 3x
A = และ 4x
B =
2 9 18 0
( 2 ) (9 18) 0
( 2) 9( 2) 0
( 2)( 9) 0
9
AB A B
AB A B
A B B
B A
A
− − + =
− − − =
− − − =
− − =
∴ = หรือ 2B =
2
3 9
3 3
2
x
x
x
=
=
∴ =
2 1
4 2
2 2
2 1
1
2
x
x
x
x
=
=
=
∴ =
18
เซตคําตอบ คือ
1
{2, }
2
∴ผลบวกของคําตอบของสมการ คือ
1
2 2.5
2
+ =
6. จงหาเซตคําตอบของอสมการ
2
2
( )
( 3) 3
2 8
x
x x
−
−
<
วิธีทํา
2
2
2
( )
( 3) 3
2
3( )
( 3) 3
2
3 2
3 2
2
2
2 8
2 2
2
( 3) 3( )
3
3 2 3
3 3 2 0
( 2)( 1) 0
1 3
( 2)[( ) ] 0
2 4
( 2) 0
2
x
x x
x
x x
x x x
x x x
x x x
x x x
x x
x
x
−
−
−
−
<
<
− < −
− < −
− + − <
− − + <
− − + <
− <
∴ <
∴เซตคําตอบ คือ ( ,2)−∞
7.ฟงกชันลอการิทึม
ฟงกชันลอการิทึม เปนฟงกชันผกผันของฟงกชันเอกซโปเนนเชียล
ฟงกชันเอกซโปเนนเชียล
{( , ) | x
f x y R R y a= ∈ × = เมื่อ 0a > และ 1}a ≠
ฟงกชันผกผันของเอกซโปเนนเชียล
1
{( , ) | y
f x y R R x a−
= ∈ × = เมื่อ 0a > และ 1}a ≠
ฟงกชันลอการิทึม
{( , ) | logag x y R R y x= ∈ × = เมื่อ 0a > และ 1}a ≠
19
เรียกฟงกชัน g วา เปน ฟงกชันลอการิทึม และ เรียก a วาเปน “ฐานของลอการิทึม”
พิจารณากราฟของฟงกชันลอการิทึม แบงเปนกรณีดังนี้
1) กรณี 1a >
โดเมน(D) { | 0}x x= >
เรนจ(R) R= และกราฟเปนฟงกชันเพิ่ม
2) กรณี 0 1a< <
โดเมน(D) { | 0}x x= >
เรนจ(R) R= และกราฟเปนฟงกชันลด
•
(1,0)
log , 1ay x a= >
•
(1,0)
log ,0 1ay x a= < <
20
ตัวอยางการวาดกราฟฟงกชันลอการิทึมแบบอื่นๆ มีดังนี้
1. จงเขียนกราฟของ 21 log ( 1)y x− = +
วิธีทํา
2. จงเขียนกราฟของ 1
2
1 log ( 1)y x− = +
วิธีทํา
เขียนกราฟ 2logy x= ใหได
ทําการเลื่อนแกน x,แกน y ไปทาซาย 1 หนวยและขึ้นบน 1 หนวย
กราฟของ 21 log ( 1)y x− = + ใหได
•
(0,1)
21 log ( 1)y x− = +
1
1−
21
3. จงเขียนกราฟ 3logy x=
วิธีทํา
เขียนกราฟ 1
2
logy x= ใหได
ทําการเลื่อนแกน x,แกน y ไปทาซาย 1 หนวยและขึ้นบน 1 หนวย
กราฟของ 1
2
1 log ( 1)y x− = + ใหได
•
(0,1)
1
2
1 log ( 1)y x− = +
1
1−
3logy x=
3log , 0y x x= ≥
3log ( ), 0y x x= − <
22
กราฟสมมาตรตามแกน y
4. จงเขียนกราฟ 3logy x=
วิธีทํา
กราฟสมมาตรตามแกน x
•
(0,1)
•
(0, 1)−
3log , 0y x x= ≥
3log ( ), 0y x x= − <
3logy x=
3log , 0y x y= ≥
3log , 0y x y− = <
• (0,1)
3log , 0y x y= ≥
3log , 0y x y− = <
23
สมบัติที่สําคัญของลอการิทึม
กําหนดให 0, 0, 0, 0,x y a b n R> > > > ∈ และ 1, 1a b≠ ≠
1) log 1a a =
2) log 1 0a =
3) log ( ) log loga a axy x y= +
4) log ( ) log loga a a
x
x y
y
= −
5) log ( ) (log )n
a ax n x=
6)
log
log
log
b
a
b
x
x
a
=
7)
loga x
a x=
ตัวอยาง เชน
1. จงหาคาของ 3 3
log 10
3
วิธีทํา
3
33 3
log 10
log 10 log 3 3
3 3
⎛ ⎞
⎜ ⎟⎜ ⎟
⎝ ⎠
=
3
3
2
3
3
log 10
log 3
log 10
3
2
3
3
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟⎜ ⎟
⎝ ⎠
⎛ ⎞
⎜ ⎟
⎜ ⎟
⎜ ⎟⎜ ⎟
⎝ ⎠
=
=
24
3
3
2
log 10
3
2
log 10 3
2
3
3
3
(3 )
10
100
=
=
=
=
2. กําหนดให log2 0.3010= คาของ 4
4 2log 0.25 log 2 log0.16+ − มีคา
ตรงกับขอใด
วิธีทํา
4
4 2
1
4
4 2
log 0.25 log 2 log0.16
1 16
log log 2 log
4 100
+ −
⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎛ ⎞
= + −⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠⎝ ⎠
( ) ( ) ( )1
4 2
4 2
4 2
1
log 4 log 2 log16 log100
4
1
( 1)(log 4) (log 2) log16 log100
4
1
( 1) ( ) log(2 ) log(10 )
4
1
( 1) ( ) 4log2 2
4
1
( 1) ( ) 2 4log2
4
5
4(0.3010)
4
1.25 1.204
0.046
−
= + − −
= − + − +
= − + − +
= − + − +
= − + + −
= −
= −
=
25
3. จงหาคาของ
3
2
1
( log 121)
3
8
+
วิธีทํา
3
32
2
1 1
( log 121)
log 1213 3
8 8 8
+
= ⋅
3
2
1
3
2
2
2
log 12133
3(log 121 )
1
3( log 121)
3
(log 121)
8 (2 )
2 2
2 2
2 2
2 121
242
= ⋅
= ⋅
= ⋅
= ⋅
= ⋅
=
4. จงหาคาของ 2 4 2log (log (log 16))
วิธีทํา ทําจากขางในออกไปขางนอก ดังนี้
4
2 4 2 2 4 2log (log (log 16)) log (log (log 2 ))=
2 4 2
2 4
2
log (log (4log 2))
log (log 4)
log 1
0
=
=
=
=
5. จงหาคาของ 1 1 2 8
2 8
1 1
log 8 log 2 log ( ) log ( )
8 2
+ + +
วิธีทํา ทําใหเปน log ฐาน 2 ทั้งหมด ดังนี้
1 1 2 8
2 8
1 1
log 8 log 2 log ( ) log ( )
8 2
+ + +
2
2 2
2
2
2 2
1
log ( )
log 8 log 2 1 2log ( )
1 1 8 log 8log ( ) log ( )
2 8
3 1 ( 1)
( 3)
( 1) ( 3) 3
= + + +
−
= + + − +
− −
26
1 1
3 3
3 3
20
3
= − − − −
= −
8.ลอการิทึมสามัญและลอการิทึมธรรมชาติ
ลอการิทึมสามัญ คือ ลอการิทึมที่มีฐานเปน 10 เชน 10log x จะเขียนเปน log x
ลอการิทึมธรรมชาติ คือ ลอการิทึมที่มีฐานเปน e (e เปนจํานวนอตรรกยะที่มีคาประมาณ
2.78182818) เชน loge x จะเขียนเปน ln x
ตัวอยาง เชน
1. จงหาคา log20
วิธีทํา
log20 log(2 10)= ×
log2 log10= +
(0.301) 1= +
1.301=
2. จงหาคา log0.02
วิธีทํา เขียน log0.02 ใหอยูในรูป log( 10 )n
a× เมื่อ 0 10a≤ ≤ และ n I∈ ดังนี้
2
log0.02 log(2 10 )−
= ×
เปดตารางlog a เมื่อ 0 10a≤ ≤
เราเรียกสวนนี้วา “คาแรกเตอริสติก”ของlog 20
เราเรียกสวนนี้วา “แมนทิสสา”ของlog 20
27
2
log2 log(10 )
log2 ( 2)
−
= +
= + −
(0.301) 2
1.699
= −
=
3. จงหาคา (2 )
ln e
e +
วิธีทํา ใชคุณสมบัติของ log ดังนี้
(2 )
ln (2 )(ln )e
e e e+
= +
(2 )(1)
2
e
e
= +
= +
9.แอนตี้ลอการิทึม
แอนตี้ลอการิทึมของ a เขียนแทนดวย loganti a มีความหมายคือ
log 10a
anti a =
ตัวอยาง เชน
1. จงหา log(log2)anti
วิธีทํา
log2
log(log2) 10anti =
2=
2. จงหา log[(log75 log5) log2]anti − +
วิธีทํา
75 2
log[(log75 log5) log2] log[log ]
5
anti anti
×
− + =
เราเรียกสวนนี้วา “คาแรกเตอริสติก”ของlog0.02
เราเรียกสวนนี้วา “แมนทิสสา”ของlog0.02
28
log30
log[log30]
10
30
anti=
=
=
10.การแกสมการและอสมการในรูปของลอการิทึม
มีรายละเอียดตามแตละตัวอยางตอไปนี้
1. จงหาเซตคําตอบของ
2 2 2
log(4 16) log( 4) logx x x− − − =
วิธีทํา
2 2 2
2
2
2
2
2
2
2
2
2
2
2
log(4 16) log( 4) log
4 16
log( ) log( )
4
4 16
4
4( 4)
4
4
4 0
( 2)( 2) 0
2, 2
x x x
x
x
x
x
x
x
x
x
x
x
x
x x
x
− − − =
−
=
−
−
=
−
−
=
−
=
− =
− + =
= −
เมื่อตรวจสอบคําตอบแลวพบวาทั้ง x=2 และ x=-2 ทําใหเกิดคา log0 ซึ่งหาคาไมได
2x∴ = ± จึงไมใชคําตอบของสมการ ⇒เซตคําตอบ = ∅
2. จงหาเซตคําตอบของ
2 2
3 log (log )x x+ =
วิธีทํา
2 2
2
3 log (log )
3 2(log ) (log )
x x
x x
+ =
+ =
ให logA x=
นําคําตอบไปตรวจสอบคําตอบจากโจทย
29
2
2
3 2
2 3 0
( 3)( 1) 0
1,3
A A
A A
A A
A
+ =
− − =
− + =
= −
∴ เซตคําตอบ
1
{ ,1000}
10
=
3. จงหาเซตคําตอบของสมการ 2log 4log 2 5xx + =
วิธีทํา เปลี่ยน log 2x ใหเปน 2log x ดังนี้
2
2
2
2
2
2
2
2
2
2
2 2
log 4log 2 5
log 2
log 4 5
log
4
log 5
log
(log ) 4
5
log
(log ) 4 5(log )
xx
x
x
x
x
x
x
x x
+ =
⎛ ⎞
+ =⎜ ⎟
⎝ ⎠
⎛ ⎞
+ =⎜ ⎟
⎝ ⎠
+
=
+ =
ให 2logA x=
1
log 1
10
1
10
x
x
x
−
= −
=
∴ =
3
log 3
10
1000
x
x
x
=
=
∴ =
เมื่อตรวจสอบคําตอบจากโจทยแลวสามารถหาคา log ได
30
2
2
4 5
5 4 0
( 4)( 1) 0
4,1
A A
A A
A A
A
+ =
− + =
− − =
=
∴ เซตคําตอบ {16,2}=
4. จงหาเซตคําตอบจากสมการ log( 1) log( 1) log3x x− + + =
วิธีทํา ใชคุณสมบัติของ log ดังนี้ คือ
2
2
2
log( 1) log( 1) log3
log[( 1)( 1)] log3
log[ 1] log3
1 3
4 0
( 2)( 2) 0
2, 2
x x
x x
x
x
x
x x
x
− + + =
− + =
− =
− =
− =
− + =
∴ = −
∴ เซตคําตอบ {2}=
2
4
log 4
2
16
x
x
x
=
=
∴ =
2
1
log 1
2
2
x
x
x
=
=
∴ =
เมื่อตรวจสอบคําตอบจากโจทยแลวสามารถหาคา log ได
เมื่อตรวจสอบคําตอบจากโจทยแลวสามารถหาคา log ไมได
31
5. ถา 5log log 2x x= จงหาคา x
วิธีทํา
5
5
5 5
5
5
5 5
5 5
5
5 5
5
5
5 5
5
5 5
5
5
5 5
5
5
5
5 5
log log 2
log
log 2 log
log 10
log
log 2 log
[log 2 log 5]
log
log 2 log
log 2 1
log
log log 2
log 2 1
1
log [ 1] log 2
log 2 1
( log 2)
log [ ] log 2
log 2 1
( 1)
log [ ] 1
log 2 1
log (log 2 1)
l
x x
x
x
x
x
x
x
x
x
x
x
x
x
=
= +
= +
+
= +
+
− =
+
− =
+
−
=
+
−
=
+
= − +
5 5
1
5 5
5 5
og log 10
log log (10 )
1
log log
10
1
10
x
x
x
x
−
= −
=
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
∴ =
∴
1
10
x =
เมื่อตรวจสอบคําตอบจากโจทยแลวสามารถหาคา log ได
32
6. ถา
2
log( 1) 2log 1x x+ − = แลวจงหาคา x
วิธีทํา
2 2
2
2
2
2
2 2
2
2
log( 1) log( ) 1
1
log[ ] 1
1
10
1 10
1 9
1
9
1 1
,
3 3
x x
x
x
x
x
x x
x
x
x
+ − =
+
=
+
=
+ =
=
=
∴ = −
∴
1
3
x =
7. จงหาเซตคําตอบของอสมการ ( )2
(4 2) log(1 ) 0x
x− − >
วิธีทํา
1) กรณีที่ 1 (4 2) 0x
− > และ
2
log(1 ) 0x− >
∴ x∈∅
เมื่อตรวจสอบคําตอบจากโจทยแลวสามารถหาคา log ไมได
2 1
4 2 0
4 2
2 2
2 1
1
2
x
x
x
x
x
− >
>
>
>
>
2
2 0
2
2
log(1 ) 0
(1 ) 10
(1 ) 1
0
x
x
x
x
x
− >
− >
− >
<
∴ ∈∅
33
2) กรณีที่ 2 (4 2) 0x
− < และ
2
log(1 ) 0x− <
∴
1
( 1,0) (0, )
2
x∈ − ∪
8. จงหาเซตคําตอบของอสมการ
2
40 log ( 5) 1x< − <
วิธีทํา
2
4
0 2 1
2
2
0 log ( 5) 1
4 5 4
1 5 4
6 9
( 6,3) ( 3, 6)
x
x
x
x
x
< − <
< − <
< − <
< <
∴ ∈ ∪ − −
9. จงหาเซตคําตอบของอสมการ
2 2
log (2 1) log ( 1)x xx x x+ − < +
วิธีทํา แบงเปนกรณีดังนี้
1) กรณีที่ 1 0 1x< <
2 2
2 2
2
log (2 1) log ( 1)
(2 1) ( 1)
2 0
( 2)( 1) 0
( , 2) (1, )
x xx x x
x x x
x x
x x
x
+ − < +
+ − > +
+ − >
+ − >
∴ ∈ −∞ − ∪ ∞
x∈∅
2 1
4 2 0
4 2
2 2
2 1
1
2
x
x
x
x
x
− <
<
<
<
∴ <
2
2 0
2
2
log(1 ) 0
0 (1 ) 10
0 (1 ) 1
0 1
( 1,0) (0,1)
x
x
x
x
x
− <
< − <
< − <
< <
∴ ∈ − ∪
34
2) กรณีที่ 2 1x >
2 2
2 2
2
log (2 1) log ( 1)
(2 1) ( 1)
2 0
( 2)( 1) 0
( 2,1)
x xx x x
x x x
x x
x x
x
+ − < +
+ − < +
+ − <
+ − <
∴ ∈ −
x∈∅
จากทั้ง 2 กรณี เซตคําตอบคือ ∅
แบบฝกหัด
1. จงหาคาของเลขยกกําลังตอไปนี้
1.1)
2 3 4 5 2
( 3) 3 ( 3) 2 3 2 ( 3)− − − − − × + × −
1.2)
2 4
4 5 2 ( 3)× + × −
35
1.3)
5 2
4 2 4
( 4) ( 5)
2 3 5
− × −
× ×
1.4)
3 4 5 2 2 1 2 2
2 8 9 27n n
x x y x y y+ −
× × ×
1.5)
3 10 10 2 4
(6 49 4 )(4 7 6 )− −
× × × ×
1.6)
2 2
2 3 1 2
7 7 7n n n n n− + − −
× ×
36
1.7)
( 2)6 4 8 2 6 7
4 2 4 7 4 12
6 3
4 9
a b c a b c
a b c a b c
−−
−
⎛ ⎞
÷⎜ ⎟
⎝ ⎠
1.8) 12 75
1.9) 33
54 4
1.10) 3 9 27
37
1.11)
2 2 23
53 3 54
(125) (81) 2( 216) 2(4)+ − +
1.12)
2 7 11 1
3 6 6 4 23 9 32 2
(3 )x y z y x y z
−
−
× ×
1.13)
1
3 2 23
2
3 2 2 3
( ) ( 2 )
( )
a b a ab b
a b a b
−
− × + +
− × +
38
1.14)
1 2 2 1
2 2 1
4 9 3 2
9 2 4 3
n n n n
n n n n
+ +
+ +
⋅ + ⋅
⋅ + ⋅
1.15)
1
2
729 81
27 243
n n n
n n
⎛ ⎞+
⎜ ⎟
+⎝ ⎠
39
1.16) 12 2 35+
1.17) 7 48−
1.18) 6 35−
40
1.19)
1
1
10 2 5 2
6 2 3 2
n n
n n
−
+
⋅ − ⋅
⋅ + ⋅
1.20) 50 32 18+ −
1.21) 3 3 3
5 4 2 32 108+ −
41
2. จงหาวาจํานวนตอไปนี้จํานวนใดมีคานอยที่สุด
65 104 52
3 ,2 ,7
3. ถา , ,x y z เปนจํานวนจริงที่ไมเทากับ 0 และ 2 2
3 4 6x y z−
= = แลว
1 1 1
x y z
+ +
มีคาเทากับเทาใด
42
4. ถาเขียน
3
6
3 2
12
ไดในรูป
1
( )n
a โดยที่ a และ n เปนจํานวนเต็มบวกแลว จงหาคาของ
a และ n
5. จงเขียน
1
2 2 3+
ใหตัวสวนอยูในรูปไมติดกรณฑ
43
6. จงหาคาของ
1 1 1 1
...
1 2 2 3 3 4 2011 2012
+ + + +
+ + + +
7. ให
6 3
6 3
x
+
=
−
และ
6 3
6 3
y
−
=
+
จงหาคาของ 2 2
4x xy y− +
44
8. จงหารากที่สองของ 2
4 1 2 3 5 2x x x− + − −
9. จงพิจารณาขอความตอไปนี้เปนจริงหรือไม
9.1)
2 3
5 5<
9.2)
4 5
1 1
3 3
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
<⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
45
9.3) ( ) ( )
7 5
sin1 sin1° < °
9.4) ( ) ( )
2 5
tan 46 tan 46° < °
9.5) ถา 48 36
2 , 3a b= = และ 24
5c = แลว
1 1 1
a b c
> >
46
10. จงพิจารณาวาฟงกชัน
2
2
( )
3
x
f x
⎛ ⎞
= −⎜ ⎟
⎝ ⎠
เปนฟงกชันเพิ่มหรือฟงกชันลด
11. ขอใดเปนฟงกชันลด
ก)
1
2
x
y
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
ข) 1
2x
y −
= ค) 2 1
3 x
y +
= ง)
1
3
x
y
−
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
47
12. จงแกสมการหรืออสมการตอไปนี้
12.1) 5 1 6 10x + + =
12.2) 7 5x x+ = −
48
12.3) 7 3 1x x+ = +
12.4)
1
3
27
x
=
49
12.5) 5 125x
≤
12.6)
2 81
3 16
x
⎛ ⎞
≥⎜ ⎟
⎝ ⎠
50
12.7)
2
5 3
1 1
3 27
x x+ +
⎛ ⎞
<⎜ ⎟
⎝ ⎠
12.8) 2 2
2 9(2 ) 2 0x x+
− + =
51
12.9)
23
(3 ) 2 0
4
x x
− =
12.10) 4 1 4 1 6 1
2 9 25 625x x x x− − −
⋅ ⋅ =
52
12.11) ( )
2
2 1
3 2 3 2
x x+ −
+ = −
12.12) 9(4 ) 12(6 ) 4(9 ) 0x x x
− + =
53
12.13) 1
6 3 3 2 9x x x+
+ − ⋅ =
12.14) 5 3
(0.25) (0.5)x x− +
>
54
12.15) 3 16 2 81 5 36x x x
⋅ + ⋅ ≤ ⋅
12.16)
2
2
( )
( 3) 3
2 8
x
x x
−
−
<
55
13. จงหาคาตอไปนี้
ก)
7log 3
7
ข)
3 3
log (10)
3
ค)
2
3
1
4
log 64
ง) 5log 25
5log 25
56
14. จงหาคาของ 36log 5 เมื่อให 6log 5 0.8982=
15. กําหนดให log 2 0.3010= และ log3 0.4771= จงหาคาตอไปนี้
15.1) log8
15.2) log9
57
15.3) log 6
15.4) log300
15.5) log0.02
15.6) log120
58
16. กําหนด log3.51 0.5453= จงหาคาของ
16.1) log3510
16.2) log0.351
17. จงหาคาของ 2 3 1
4
1
log 16 log log 64
9
+ −
59
18. จงหาคาของ 3 93
log 6 log 15 log 400+ −
19. จงหาคาของ 8log2
6log5 log 4 log10− +
60
20. จงหาคาของ 3 3 3 3 3log 120 log 80 log 27 log 24 log 16− + − +
21. จงหาคาของ 3 4 5 2011log 4 log 5 log 6 ... log 2012⋅ ⋅ ⋅ ⋅
61
22. จงหาคาของ
ln10 ln5
e −
23. จงหาวา 15
875 มีกี่หลัก เมื่อกําหนดให log8.75 0.9420=
62
24. จงหาคาของ ln 2 ln10 ln 20+ −
25. ขอใดเปนฟงกชันลดบาง
ก) log(3 )x
y = ข) log3
2 x
y = ค)
log(2 )
1
2
x
y
⎛ ⎞
= ⎜ ⎟
⎝ ⎠
ง) 1
2
log (2 )y x=
63
26. 200
2 เปนเลขจํานวนเต็มที่มีกี่หลัก โดยกําหนดให log 2 0.3010=
27. จงหาคาของ
ก) ln e ข)
1
ln
e
ค) ln3 2ln5
e +
64
28. จงแกสมการหรืออสมการตอไปนี้
28.1) log[3 2log(1 )] 0x+ + =
28.2) 2 2log ( 1) log 3x x+ − =
65
28.3) 2
log( 1) 2log 1x x+ − =
28.4) 27 9
1
log ( 1) log ( 1)
6
x x− − − =
66
28.5) 2
8 3 2log log log ( 2 ) 0x x− =
28.6)
2
2 16
9log 3x x
x+ −
=
67
28.7) 0.5 0.5log ( 5) log (2 3)x x− > −
28.8) 3 3log ( 2) log (3 6)x x+ ≤ −
68
28.9) 3log 4log 3 3 0xx − + =
28.10)
2
7log ( 2 )
4 3 2log log log 7 0x x+
=
69
28.11)
1
2 log16
2
10x
+
=
28.12)
log log
4 3 25
3 4 12
x x
⎛ ⎞ ⎛ ⎞
+ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
70
28.13) 2
5
log log 2
2
xx + =
28.14) log 28 log 325 log 91 logx x x x+ − =
71
28.15)
2
1 1
2 2
log ( 2 ) log 3x x− >
28.16)
2
1 1
2 2
2log (3 4) log ( 8) 2x x x+ − + + ≥ −
72
28.17) 1
3
0 log 2 3x< <
28.18) 2
1log (5 ) 2x x x+ − ≥
73
28.19) 1 3
2
log [log ( 1)] 1x + > −
28.20) log(3 4) log( 1) 1x x+ > − +
74
28.21)
2
2 4
1 1
log (2 1) log ( )
2 2
x x− − + <
28.22) 2
(4 2)log(1 ) 0x
x− − >

More Related Content

What's hot

ใบความรู้
ใบความรู้ใบความรู้
ใบความรู้
pummath
 
ใบความรู้คู่อันดับและกราฟ
ใบความรู้คู่อันดับและกราฟใบความรู้คู่อันดับและกราฟ
ใบความรู้คู่อันดับและกราฟ
Jiraprapa Suwannajak
 
แบบทดสอบ เรื่อง สัญกรณ์วิทยาสตร์
แบบทดสอบ เรื่อง สัญกรณ์วิทยาสตร์แบบทดสอบ เรื่อง สัญกรณ์วิทยาสตร์
แบบทดสอบ เรื่อง สัญกรณ์วิทยาสตร์
ทับทิม เจริญตา
 
แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ ป. 4 6
แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ ป. 4   6แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ ป. 4   6
แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ ป. 4 6
ทับทิม เจริญตา
 
แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1
แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1
แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1
คุณครูพี่อั๋น
 
แบบฝึกทบทวนเรื่องเซต
แบบฝึกทบทวนเรื่องเซตแบบฝึกทบทวนเรื่องเซต
แบบฝึกทบทวนเรื่องเซต
kroojaja
 
แนวข้อสอบทหารอากาศวิชาคณิตศาสตร์
แนวข้อสอบทหารอากาศวิชาคณิตศาสตร์แนวข้อสอบทหารอากาศวิชาคณิตศาสตร์
แนวข้อสอบทหารอากาศวิชาคณิตศาสตร์
Kapong007
 
เกษตรทฤษฎีใหม่
เกษตรทฤษฎีใหม่เกษตรทฤษฎีใหม่
เกษตรทฤษฎีใหม่
Intrapan Suwan
 
สื่อการสอน Chemical equilibrium
สื่อการสอน Chemical equilibriumสื่อการสอน Chemical equilibrium
สื่อการสอน Chemical equilibrium
พัน พัน
 

What's hot (20)

G6 Maths Circle
G6 Maths CircleG6 Maths Circle
G6 Maths Circle
 
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 1
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 1ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 1
ข้อสอบกลางภาค คณิต ม.5 เทอม 1 ฉบับที่ 1
 
ใบความรู้
ใบความรู้ใบความรู้
ใบความรู้
 
เพลงคณิตศาสตร์
เพลงคณิตศาสตร์เพลงคณิตศาสตร์
เพลงคณิตศาสตร์
 
ใบความรู้คู่อันดับและกราฟ
ใบความรู้คู่อันดับและกราฟใบความรู้คู่อันดับและกราฟ
ใบความรู้คู่อันดับและกราฟ
 
Pat1;61
Pat1;61Pat1;61
Pat1;61
 
แบบทดสอบ เรื่อง สัญกรณ์วิทยาสตร์
แบบทดสอบ เรื่อง สัญกรณ์วิทยาสตร์แบบทดสอบ เรื่อง สัญกรณ์วิทยาสตร์
แบบทดสอบ เรื่อง สัญกรณ์วิทยาสตร์
 
Probability
ProbabilityProbability
Probability
 
แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ ป. 4 6
แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ ป. 4   6แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ ป. 4   6
แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ ป. 4 6
 
กสพท. เคมี 2559
กสพท. เคมี 2559กสพท. เคมี 2559
กสพท. เคมี 2559
 
ใบงาน1จุด
ใบงาน1จุดใบงาน1จุด
ใบงาน1จุด
 
แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1
แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1
แผนการสอนคณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.5 ภาคเรียนที่ 1
 
แบบฝึกทบทวนเรื่องเซต
แบบฝึกทบทวนเรื่องเซตแบบฝึกทบทวนเรื่องเซต
แบบฝึกทบทวนเรื่องเซต
 
โครงงาน สัญชาตญาณสัตว์ กับการเตือนภัยแผ่นดินไหวและสึนามิ
โครงงาน สัญชาตญาณสัตว์ กับการเตือนภัยแผ่นดินไหวและสึนามิโครงงาน สัญชาตญาณสัตว์ กับการเตือนภัยแผ่นดินไหวและสึนามิ
โครงงาน สัญชาตญาณสัตว์ กับการเตือนภัยแผ่นดินไหวและสึนามิ
 
เรื่อง การใช้ความรู้เกี่ยวกับ ห
เรื่อง  การใช้ความรู้เกี่ยวกับ  หเรื่อง  การใช้ความรู้เกี่ยวกับ  ห
เรื่อง การใช้ความรู้เกี่ยวกับ ห
 
แนวข้อสอบทหารอากาศวิชาคณิตศาสตร์
แนวข้อสอบทหารอากาศวิชาคณิตศาสตร์แนวข้อสอบทหารอากาศวิชาคณิตศาสตร์
แนวข้อสอบทหารอากาศวิชาคณิตศาสตร์
 
เกษตรทฤษฎีใหม่
เกษตรทฤษฎีใหม่เกษตรทฤษฎีใหม่
เกษตรทฤษฎีใหม่
 
สื่อการสอน Chemical equilibrium
สื่อการสอน Chemical equilibriumสื่อการสอน Chemical equilibrium
สื่อการสอน Chemical equilibrium
 
บทที 6 การจัดการคุณภาพ
บทที 6 การจัดการคุณภาพบทที 6 การจัดการคุณภาพ
บทที 6 การจัดการคุณภาพ
 
เล่ม 3 มวลกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี
เล่ม 3 มวลกับการเกิดปฏิกิริยาเคมีเล่ม 3 มวลกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี
เล่ม 3 มวลกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี
 

Viewers also liked

“La relación entre las tasas de divorcio y el aumento de Delincuentes."
“La relación entre las tasas de divorcio y el aumento de Delincuentes."“La relación entre las tasas de divorcio y el aumento de Delincuentes."
“La relación entre las tasas de divorcio y el aumento de Delincuentes."
RossaMartin
 

Viewers also liked (20)

Relation and function
Relation and functionRelation and function
Relation and function
 
เมทริกซ์ระดับชั้นมัธยมปลาย(Matrix)
เมทริกซ์ระดับชั้นมัธยมปลาย(Matrix)เมทริกซ์ระดับชั้นมัธยมปลาย(Matrix)
เมทริกซ์ระดับชั้นมัธยมปลาย(Matrix)
 
Real Number(ระบบจำนวนจริง)
Real Number(ระบบจำนวนจริง)Real Number(ระบบจำนวนจริง)
Real Number(ระบบจำนวนจริง)
 
Preliminary number theory
Preliminary number theoryPreliminary number theory
Preliminary number theory
 
Analytic geometry1
Analytic geometry1Analytic geometry1
Analytic geometry1
 
Vector
VectorVector
Vector
 
Logic
LogicLogic
Logic
 
ความน่าจะเป็นและวิธีนับ(Probability)
ความน่าจะเป็นและวิธีนับ(Probability)ความน่าจะเป็นและวิธีนับ(Probability)
ความน่าจะเป็นและวิธีนับ(Probability)
 
Statistic1
Statistic1Statistic1
Statistic1
 
“La relación entre las tasas de divorcio y el aumento de Delincuentes."
“La relación entre las tasas de divorcio y el aumento de Delincuentes."“La relación entre las tasas de divorcio y el aumento de Delincuentes."
“La relación entre las tasas de divorcio y el aumento de Delincuentes."
 
Fire Starter Part 2
Fire Starter Part 2Fire Starter Part 2
Fire Starter Part 2
 
Contencioso Tributario
Contencioso TributarioContencioso Tributario
Contencioso Tributario
 
Guia 5 multiplicación de enteros
Guia 5 multiplicación de enterosGuia 5 multiplicación de enteros
Guia 5 multiplicación de enteros
 
Sequence1
Sequence1Sequence1
Sequence1
 
Font Ideas
Font IdeasFont Ideas
Font Ideas
 
Calculus
CalculusCalculus
Calculus
 
โจทย์เรขาคณิต
โจทย์เรขาคณิตโจทย์เรขาคณิต
โจทย์เรขาคณิต
 
Complex number1
Complex number1Complex number1
Complex number1
 
Set(เซต)
Set(เซต)Set(เซต)
Set(เซต)
 
TV Advert: Pre-production Paperwork
TV Advert: Pre-production PaperworkTV Advert: Pre-production Paperwork
TV Advert: Pre-production Paperwork
 

Similar to Exponential and logarithm function

บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึมบทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
ภัชรณันติ์ ศรีประเสริฐ
 
___ facebook.com_123_grade4--- _________ 3.1 ___ 01-10
  ___ facebook.com_123_grade4---  _________ 3.1 ___ 01-10  ___ facebook.com_123_grade4---  _________ 3.1 ___ 01-10
___ facebook.com_123_grade4--- _________ 3.1 ___ 01-10
Kuntoonbut Wissanu
 

Similar to Exponential and logarithm function (20)

60 matrix-021060
60 matrix-02106060 matrix-021060
60 matrix-021060
 
60 matrix-081060
60 matrix-08106060 matrix-081060
60 matrix-081060
 
เฉลย กสพท. คณิตศาสตร์ 2559
เฉลย กสพท. คณิตศาสตร์ 2559เฉลย กสพท. คณิตศาสตร์ 2559
เฉลย กสพท. คณิตศาสตร์ 2559
 
Chapter 3 อนุกรม
Chapter 3 อนุกรมChapter 3 อนุกรม
Chapter 3 อนุกรม
 
Math1
Math1Math1
Math1
 
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึมบทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
 
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึมบทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
 
60 vector 3 d-full
60 vector 3 d-full60 vector 3 d-full
60 vector 3 d-full
 
สรุป matrices
สรุป matricesสรุป matrices
สรุป matrices
 
59 matrix-171059
59 matrix-17105959 matrix-171059
59 matrix-171059
 
___ facebook.com_123_grade4--- _________ 3.1 ___ 01-10
  ___ facebook.com_123_grade4---  _________ 3.1 ___ 01-10  ___ facebook.com_123_grade4---  _________ 3.1 ___ 01-10
___ facebook.com_123_grade4--- _________ 3.1 ___ 01-10
 
เอกสารความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน
เอกสารความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันเอกสารความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน
เอกสารความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน
 
ระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้นระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้น
 
Pat1 58-10+key
Pat1 58-10+keyPat1 58-10+key
Pat1 58-10+key
 
สรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
สรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลายสรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
สรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
 
แบบฝึกทักษะชุด เรื่อง การบวกและการลบเอกนาม
แบบฝึกทักษะชุด เรื่อง การบวกและการลบเอกนามแบบฝึกทักษะชุด เรื่อง การบวกและการลบเอกนาม
แบบฝึกทักษะชุด เรื่อง การบวกและการลบเอกนาม
 
จำนวนเชิงซ้อน.pdf
จำนวนเชิงซ้อน.pdfจำนวนเชิงซ้อน.pdf
จำนวนเชิงซ้อน.pdf
 
60 real
60 real60 real
60 real
 
Cal 3
Cal 3Cal 3
Cal 3
 
Real
RealReal
Real
 

More from Thanuphong Ngoapm

More from Thanuphong Ngoapm (20)

เฉลยข้อสอบคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมต้น สพฐ. ปี 2566 (รอบแรก)คณิตม.ต้น66.pdf
เฉลยข้อสอบคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมต้น สพฐ. ปี 2566 (รอบแรก)คณิตม.ต้น66.pdfเฉลยข้อสอบคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมต้น สพฐ. ปี 2566 (รอบแรก)คณิตม.ต้น66.pdf
เฉลยข้อสอบคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมต้น สพฐ. ปี 2566 (รอบแรก)คณิตม.ต้น66.pdf
 
เฉลยข้อสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ นานาชาติ ระดับชั้นมัธยมต้น รอบแรก สพฐ. ปี2565
เฉลยข้อสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ นานาชาติ ระดับชั้นมัธยมต้น รอบแรก สพฐ. ปี2565เฉลยข้อสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ นานาชาติ ระดับชั้นมัธยมต้น รอบแรก สพฐ. ปี2565
เฉลยข้อสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ นานาชาติ ระดับชั้นมัธยมต้น รอบแรก สพฐ. ปี2565
 
การประยุกต์อินทิเกรทในคณิตศาสตร์แคลคูลัส.pdf
การประยุกต์อินทิเกรทในคณิตศาสตร์แคลคูลัส.pdfการประยุกต์อินทิเกรทในคณิตศาสตร์แคลคูลัส.pdf
การประยุกต์อินทิเกรทในคณิตศาสตร์แคลคูลัส.pdf
 
อินทิกรัล แคลคูลัสสำหรับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
อินทิกรัล แคลคูลัสสำหรับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์อินทิกรัล แคลคูลัสสำหรับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
อินทิกรัล แคลคูลัสสำหรับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
 
intro_linear_algebra_key6.1.pdf
intro_linear_algebra_key6.1.pdfintro_linear_algebra_key6.1.pdf
intro_linear_algebra_key6.1.pdf
 
math_เครื่องกล_เฉลย.pdf
math_เครื่องกล_เฉลย.pdfmath_เครื่องกล_เฉลย.pdf
math_เครื่องกล_เฉลย.pdf
 
เฉลยคณิต1_9วิชา_มีค.61.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชา_มีค.61.pdfเฉลยคณิต1_9วิชา_มีค.61.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชา_มีค.61.pdf
 
เฉลยคณิต1_9วิชา_ธค.59.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชา_ธค.59.pdfเฉลยคณิต1_9วิชา_ธค.59.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชา_ธค.59.pdf
 
เฉลยคณิต1_9วิชาสามัญ_ธค.58.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชาสามัญ_ธค.58.pdfเฉลยคณิต1_9วิชาสามัญ_ธค.58.pdf
เฉลยคณิต1_9วิชาสามัญ_ธค.58.pdf
 
ลำดับและอนุกรม_onet_เฉลย.pdf
ลำดับและอนุกรม_onet_เฉลย.pdfลำดับและอนุกรม_onet_เฉลย.pdf
ลำดับและอนุกรม_onet_เฉลย.pdf
 
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน_onet_เฉลย.pdf
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน_onet_เฉลย.pdfความสัมพันธ์และฟังก์ชัน_onet_เฉลย.pdf
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน_onet_เฉลย.pdf
 
ความน่าจะเป็น_onet_เฉลย.pdf
ความน่าจะเป็น_onet_เฉลย.pdfความน่าจะเป็น_onet_เฉลย.pdf
ความน่าจะเป็น_onet_เฉลย.pdf
 
ตรีโกณ_onet_เฉลย.pdf
ตรีโกณ_onet_เฉลย.pdfตรีโกณ_onet_เฉลย.pdf
ตรีโกณ_onet_เฉลย.pdf
 
สถิติ_onet_เฉลย.pdf
สถิติ_onet_เฉลย.pdfสถิติ_onet_เฉลย.pdf
สถิติ_onet_เฉลย.pdf
 
เลขยกกำลัง_onet_เฉลย_.pdf
เลขยกกำลัง_onet_เฉลย_.pdfเลขยกกำลัง_onet_เฉลย_.pdf
เลขยกกำลัง_onet_เฉลย_.pdf
 
การให้เหตุผล_onet_เฉลย.pdf
การให้เหตุผล_onet_เฉลย.pdfการให้เหตุผล_onet_เฉลย.pdf
การให้เหตุผล_onet_เฉลย.pdf
 
จำนวนจริง_onet_เฉลย.pdf
จำนวนจริง_onet_เฉลย.pdfจำนวนจริง_onet_เฉลย.pdf
จำนวนจริง_onet_เฉลย.pdf
 
เซต_onet_เฉลย.pdf
เซต_onet_เฉลย.pdfเซต_onet_เฉลย.pdf
เซต_onet_เฉลย.pdf
 
analyticalof3rdPolynomial.pdf
analyticalof3rdPolynomial.pdfanalyticalof3rdPolynomial.pdf
analyticalof3rdPolynomial.pdf
 
4thpolynoml.pdf
4thpolynoml.pdf4thpolynoml.pdf
4thpolynoml.pdf
 

Exponential and logarithm function

  • 1. 1 เลขยกกําลังสมบัติของเลขยกกําลังสมบัติของรากที่nฟงกชันเอกโปรเนนเชียล •นิยาม •กราฟของฟงกชัน การแกสมการและ อสมการของฟงกชัน เอกโปรเนนเชียล การหาคาของ√m+√n ฟงกชันลอการิทึม •นิยาม •กราฟของฟงกชัน ลอการิทึมสามัญและ ลอการิทึมธรรมชาติ แอนตีลอการิทึมการแกสมการและ อสมการของฟงกชัน ลอการิทึม โจทยปญหา
  • 2. 2 ฟงกชันเอกซโปเนนเชียล 1.เลขยกกําลัง ถา a เปนจํานวนจริงใดๆ และ n เปนจํานวนเต็มบวก ...n a a a a a= × × × × ตัวอยาง เชน 6 2 2 2 2 2 2 2 64= × × × × × = 4 3 3 3 3 3 81= × × × = n ตัว เลขยกกําลัง n a เรียกวา เลขชี้กําลัง เรียกวา เลขฐาน 6 ตัว 4 ตัว
  • 3. 3 2.สมบัติของเลขยกกําลัง ถา ,a b R∈ และ 0, 0m n> > 1) ( )m n m n a a a + ⋅ = เมื่อ , 0a m ≠ พรอมกัน และ , 0a n ≠ พรอมกัน 2) ( ) ( )m n mn a a= เมื่อ , 0a m ≠ พรอมกัน 3) ( )n n n ab a b= เมื่อ , 0a n ≠ พรอมกัน และ , 0b n ≠ พรอมกัน 4) ( ) n n n a a b b = เมื่อ , 0a n ≠ พรอมกัน และ 0b ≠ 5) 0 1a = เมื่อ 0a ≠ 6) 1n n a a − = เมื่อ 0a ≠ 7) ( ) m m n n a a a − = เมื่อ 0a ≠ 8) ( ) 11 mm mn nna a a ⎛ ⎞ = = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ เมื่อ , 0a m ≠ พรอมกัน ตัวอยาง เชน 1. จงหาคาของ ( 2) ( 1) 5 3 9 3 3 3 n n n n − − ⋅ − ⋅ − วิธีทํา
  • 4. 4 ( 2) 2 ( 2) ( 1) 5 3 9 3 5 3 3 3 33 3 3 3 n n n n nn n n − − − ⋅ − ⋅ ⋅ − ⋅ = − − [2 ( 2)] 5 3 3 1 3 [1 ] 3 5 3 3 2 3 [ ] 3 3 [5 1] 2 3 [ ] 3 4 2 3 6 n n n n n n n n + − ⋅ − = − ⋅ − = − = = ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ = 2. จงหาคาของ 1 1 ( ) ( ) 1 1 ( ) ( ) m n m n x x y y y y x x + − + − วิธีทํา 1 1 1 1 ( ) ( ) ( ) ( ) 1 1 1 1 ( ) ( ) ( ) ( ) m n m n m n m n xy xy x x y y y y xy xy y y x x x x + − + − = + − + − ( 1) ( 1) ( 1) ( 1) m n m n m n m n xy xy y y xy xy x x + − = + −
  • 5. 5 ( ) ( ) ( ) m n m n m n m n m n x x y y x y x y + + + = = ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 3. ถา ( ) 3 81x y+ = และ ( ) 2 25 5 x = จงหาคา y วิธีทํา 3.รากที่ n ให n เปนจํานวนเต็มบวกที่มากกวา 1 และ ,x a R∈ x จะเปนรากที่ n ของ a ก็ตอเมื่อ n x a= ขอสังเกต 1) เมื่อ n เปนจํานวนเต็มบวกที่มากกวา 1 และเปนจํานวนคู รากที่ n ของ a ( ) ( ) 4 3 81 3 3 4 1 4 3 x y x y x y y y + + = = ∴ + = + = ∴ = ( ) 2 2 2 (2 ) 2 25 5 (5 ) 5 5 5 5 5 1 x x x x x ⋅ = = = = ∴ = (+) เขียนแทนดวย n a (-) เขียนแทนดวย n a−
  • 6. 6 2) เมื่อ n เปนจํานวนเต็มบวกที่มากกวา 1 และเปนจํานวนคี่ ตัวอยาง เชน 1. จงหารากที่ 2 ของ 9 วิธีทํา ∴ รากที่ 2 ของ 9 คือ 3 และ -3 2. จงหารากที่ 3 ของ 8 วิธีทํา ∴ รากที่ 3 ของ 8 คือ 2 รากที่ n ของ a มีจํานวนเดียว เขียนแทนดวย n a รากที่ 2 ของ 9 จํานวนใดยกกําลัง 2 แลวเทากับ 9 2 9x = 2 3 9= 2 ( 3) 9− = รากที่ 3 ของ 8 จํานวนใดยกกําลัง 3 แลวเทากับ 8 3 8x = 3 2 8=
  • 7. 7 3. จงหารากที่ 3 ของ -8 วิธีทํา ∴ รากที่ 3 ของ -8 คือ -2 สมบัติของรากที่ n กําหนดให a และ b มีรากที่ n และ ,a b R∈ 1) n n n a b ab⋅ = 2) n n n a a bb = เมื่อ 0b ≠ 3) m n mn a a= เมื่อ , 0a m ≠ พรอมกัน ตัวอยาง เชน 1. จงหาคาของ 3 3 1 6 4 2 + วิธีทํา 3 3 3 3 3 3 1 1 4 6 4 6 4 2 2 4 × + = + × 3 3 3 4 6 4 2 4 = + × รากที่ 3 ของ -8 จํานวนใดยกกําลัง 3 แลวเทากับ -8 3 8x = − 3 ( 2) 8− = −
  • 8. 8 3 3 3 3 3 3 3 4 6 4 8 4 6 4 2 1 4(6 ) 2 13 4 2 = + = + = + = 2. จงหาคาของ 3 4 81 วิธีทํา 3 344 81 81= 4 4 4 4 81 81 81 81 81 81 3 3 3 27 = × × = × × = × × = 3. จงหาคาของ 1 1 1 3 3 6 6(5) 4(40) 10(25)− + วิธีทํา 1 1 1 1 1 1 2 3 3 6 3 3 3 6 6(5) 4(40) 10(25) 6(5) 4(8) (5) 10(5)− + = − + 1 1 1 3 3 3 1 1 1 3 3 3 1 3 6(5) 4(2)(5) 10(5) 6(5) 8(5) 10(5) 8(5) = − + = − + =
  • 9. 9 4.การหาคา m n+ พิจารณา 2 2 2 ( ) ( ) 2( )( ) ( )a b a a b b+ = + + 2 ( ) 2 a ab b a b ab = + + = + + 2 ( ) 2 ( )a b ab a b a b∴ + + = + = + ดังนั้นในการหาคา m n+ ……………….พยายามจัดรูป m n+ ใหอยูในรูป ( ) 2a b ab+ + ใหได ตัวอยาง เชน 1. จงหาคา 5 24+ วิธีทํา 1) จัดรูป 5 24+ ใหอยูในรูป ( ) 2a b ab+ + 5 24 5 2 6+ = + (3 2) 2 (3)(2)= + + 2) 5 24 (3 2) 2 (3)(2)+ = + + 2 ( 3 2) 3 2 = + = + 2. จงหาคา 5 24− วิธีทํา 1) จัดรูป 5 24− ใหอยูในรูป ( ) 2a b ab+ − 5 24 5 2 6− = − (3 2) 2 (3)(2)= + − 2) 5 24 (3 2) 2 (3)(2)− = + − 2 ( 3 2) 3 2 = − = −
  • 10. 10 3. ถา 1.36 1.64x< < แลว 2 1 2 1x x x x+ − + − − มีคาเทากับเทาใด วิธีทํา 1) ตรวจสอบ ที่ 1.36 1.64x< < 2 1 0, 2 1 0x x x x+ − > − − > 2) 2 1 2 1 [1 ( 1)] 2 (1)( 1) [1 ( 1)] 2 (1)( 1)x x x x x x x x+ − + − − = + − + − + + − − − 2 2 ( 1 1) ( 1 1) 1 1 1 1 2 x x x x = + − + − − = + − + − − = 4. คาของ 8 28+ และ 6 20− มีผลตางเทากับเทาใด วิธีทํา 1) หาคา 8 28+ 8 28 8 2 7+ = + 2 (7 1) 2 (1)(7) ( 7 1) 7 1 = + + = + = + 2) หาคา 6 20− 6 20 6 2 5− = − 2 (1 5) 2 (1)(5) ( 5 1) 5 1 = + − = − = − 3) 8 28 6 20 ( 7 1) ( 5 1)+ − − = + − − 7 5 2= − +
  • 11. 11 5.ฟงกชันเอกซโปเนนเชียล ถา f เปนฟงกชันจากเซตของจํานวนจริงไปยังเซตของจํานวนจริง โดยที่ {( , ) | x f x y R R y a= ∈ × = เมื่อ 0a > และ 1}a ≠ เรียก f วา “ฟงกชันเอ็กซโปเนน เชียล” และเรียก a วา ฐาน กราฟของฟงกชันเอกโปเนนเชียล แบงเปน 2 กรณี คือ 1) กรณีที่ 0 1a< < โดเมน(D) R= เรนจ(R) { | 0}y R y= ∈ > 2) กรณีที่ 1a > โดเมน(D) R= เรนจ(R) { | 0}y R y= ∈ > ตัวอยาง เชน 1. จงเขียนกราฟของ {( , ) | 2 4}x f x y R R y= ∈ × = + วิธีทํา 1) จากสมการ 2 4x y = + จัดรูปใหม • (0,1),0 1x y a x= < < กราฟมีลักษณะเปนฟงกชันลด •(0,1) , 1x y a x= > กราฟมีลักษณะเปนฟงกชันเพิ่ม
  • 12. 12 2 4 ( 4) 2 x x y y = + ∴ − = จากกราฟ { | }fD x x R= ∈ { | 4}fR y R y= ∈ > 2. จงเขียนกราฟของ ( 1) {( , ) | 3 1}x f x y R R y − = ∈ × = − วิธีทํา 1) จากสมการ ( 1) 3 1x y − = − จัดรูปใหม ( 1) ( 1) 3 1 ( 1) 3 x x y y − − = − ∴ + = พิจารณากราฟ 2x y = และเลื่อนกราฟขึ้นบน 4 หนวย 4 • (0,5) พิจารณากราฟ 3x y = และเลื่อนกราฟขึ้นลงลาง 1 หนวย และเลื่อนกราฟมาทางขวา 1 หนวย 2 4x y = +
  • 13. 13 จากกราฟ { | }fD x x R= ∈ { | 1}fR y R y= ∈ > − 3. จงหาเซตคําตอบของอสมการ 1 ( ) 9 3 x < วิธีทํา 1) วาดกราฟของ 1 ( ) 3 x y = 2) พิจารณาที่………… 1 ( ) 9 3 x = 2 (3) 3 2 x x − = ∴ = − จากกราฟ ที่ 1 2 ( ) 9 3 x x > − ⇒ < 1− 1 (1,0) • ( 1) 3 1x y − = − • (0,1) 2x = − 9 1 ( ) 3 x y =
  • 14. 14 4. จงวาดกราฟของ {( , ) | 2 } x f x y R R y= ∈ × = วิธีทํา 5. จงวาดกราฟของ {( , ) | 2 }x f x y R R y= ∈ × = วิธีทํา 2 x y = 2 , 0x y x= ≥ 1 2 ( ) , 0 2 x x y x− = = < 2 , 0x y x= ≥1 ( ) , 0 2 x y x= < • (0,1) 2 , 0x y y= ≥ 2x y = 2 2 , 0 x x y y y − = = − < • (0,1) • (0, 1)− 2 , 0x y y= ≥ 2 , 0x y y= − <
  • 15. 15 6.การแกสมการและอสมการของฟงกชันเอกซโปเนนเชียล ขออธิบายตามตัวอยางแลวแตกรณีดังนี้ 1. จงหาเซตคําตอบของสมการ (2 1) 3 28(3) 9 0x x+ − + = วิธีทํา (2 1) 2 2 3 28(3) 9 0 3 3 28(3) 9 0 3 (3 ) 28(3 ) 9 0 x x x x x x + − + = ⋅ − + = ⋅ − + = ให 3x A = 2 3 28 9 0 (3 1)( 9) 0 1 ,9 3 A A A A A − + = − − = = ∴เซตคําตอบคือ { 1,2}− 2. ถา 2 4(2 ) 3(2 ) 1 0x x + − = แลว 25x มีคาเทาใด วิธีทํา 2 4(2 ) 3(2 ) 1 0x x + − = ให 2x A = 2 4 3 1 0 (4 1)( 1) 0 1 , 1 4 A A A A A + − = − + = = − 1 1 3 3 3 3 1 x x x − = = ∴ = − 2 3 9 3 3 2 x x x = = ∴ =
  • 16. 16 ∴เซตคําตอบคือ { 2}− ถา 2 2 1 1 2 25 25 25 625 x x − = − ⇒ = = = 3. จงหาคา x จากสมการ 3 2 1 25 9 3 25 x x− − ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ วิธีทํา 3 2 1 2 13 2 2 2 2 3 2 2(1 ) 2 3 2 2(1 ) 2 3 2 2 5 9 3 25 5 3 3 5 5 3 3 5 5 5 3 3 5 5 3 3 3 2 2 x x x x x x x x x x x x − − −− − − − − − − − ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞⎛ ⎞ = ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ∴ − = − 3 2 0 0 x x x x = = = 2 1 2 4 2 2 2 x x x − = = ∴ = − 2 1x = − เนื่องจาก 2x เปน (+) เสมอ x∈∅
  • 17. 17 4. ถา 1 2 1 5 5 3775 5x x x+ + − + = − แลว x เทากับเทาใด วิธีทํา 1 2 1 1 2 1 2 3 5 5 3775 5 5 5 5 3775 1 5 5 5 5 5 3775 5 1 5 [5 25 ] 3775 5 151 5 [ ] 3775 5 5 5 3775[ ] 151 5 125 5 5 3 x x x x x x x x x x x x x x x + + − + + − + = − + + = ⋅ + ⋅ + ⋅ = + + = = = = = ∴ = 5. จงหาผลบวกของคําตอบของสมการ 12 2(3 ) 9(4 ) 18 0x x x − − + = วิธีทํา 12 2(3 ) 9(4 ) 18 0 (3 )(4 ) 2(3 ) 9(4 ) 18 0 x x x x x x x − − + = − − + = ให 3x A = และ 4x B = 2 9 18 0 ( 2 ) (9 18) 0 ( 2) 9( 2) 0 ( 2)( 9) 0 9 AB A B AB A B A B B B A A − − + = − − − = − − − = − − = ∴ = หรือ 2B = 2 3 9 3 3 2 x x x = = ∴ = 2 1 4 2 2 2 2 1 1 2 x x x x = = = ∴ =
  • 18. 18 เซตคําตอบ คือ 1 {2, } 2 ∴ผลบวกของคําตอบของสมการ คือ 1 2 2.5 2 + = 6. จงหาเซตคําตอบของอสมการ 2 2 ( ) ( 3) 3 2 8 x x x − − < วิธีทํา 2 2 2 ( ) ( 3) 3 2 3( ) ( 3) 3 2 3 2 3 2 2 2 2 8 2 2 2 ( 3) 3( ) 3 3 2 3 3 3 2 0 ( 2)( 1) 0 1 3 ( 2)[( ) ] 0 2 4 ( 2) 0 2 x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x x − − − − < < − < − − < − − + − < − − + < − − + < − < ∴ < ∴เซตคําตอบ คือ ( ,2)−∞ 7.ฟงกชันลอการิทึม ฟงกชันลอการิทึม เปนฟงกชันผกผันของฟงกชันเอกซโปเนนเชียล ฟงกชันเอกซโปเนนเชียล {( , ) | x f x y R R y a= ∈ × = เมื่อ 0a > และ 1}a ≠ ฟงกชันผกผันของเอกซโปเนนเชียล 1 {( , ) | y f x y R R x a− = ∈ × = เมื่อ 0a > และ 1}a ≠ ฟงกชันลอการิทึม {( , ) | logag x y R R y x= ∈ × = เมื่อ 0a > และ 1}a ≠
  • 19. 19 เรียกฟงกชัน g วา เปน ฟงกชันลอการิทึม และ เรียก a วาเปน “ฐานของลอการิทึม” พิจารณากราฟของฟงกชันลอการิทึม แบงเปนกรณีดังนี้ 1) กรณี 1a > โดเมน(D) { | 0}x x= > เรนจ(R) R= และกราฟเปนฟงกชันเพิ่ม 2) กรณี 0 1a< < โดเมน(D) { | 0}x x= > เรนจ(R) R= และกราฟเปนฟงกชันลด • (1,0) log , 1ay x a= > • (1,0) log ,0 1ay x a= < <
  • 20. 20 ตัวอยางการวาดกราฟฟงกชันลอการิทึมแบบอื่นๆ มีดังนี้ 1. จงเขียนกราฟของ 21 log ( 1)y x− = + วิธีทํา 2. จงเขียนกราฟของ 1 2 1 log ( 1)y x− = + วิธีทํา เขียนกราฟ 2logy x= ใหได ทําการเลื่อนแกน x,แกน y ไปทาซาย 1 หนวยและขึ้นบน 1 หนวย กราฟของ 21 log ( 1)y x− = + ใหได • (0,1) 21 log ( 1)y x− = + 1 1−
  • 21. 21 3. จงเขียนกราฟ 3logy x= วิธีทํา เขียนกราฟ 1 2 logy x= ใหได ทําการเลื่อนแกน x,แกน y ไปทาซาย 1 หนวยและขึ้นบน 1 หนวย กราฟของ 1 2 1 log ( 1)y x− = + ใหได • (0,1) 1 2 1 log ( 1)y x− = + 1 1− 3logy x= 3log , 0y x x= ≥ 3log ( ), 0y x x= − <
  • 22. 22 กราฟสมมาตรตามแกน y 4. จงเขียนกราฟ 3logy x= วิธีทํา กราฟสมมาตรตามแกน x • (0,1) • (0, 1)− 3log , 0y x x= ≥ 3log ( ), 0y x x= − < 3logy x= 3log , 0y x y= ≥ 3log , 0y x y− = < • (0,1) 3log , 0y x y= ≥ 3log , 0y x y− = <
  • 23. 23 สมบัติที่สําคัญของลอการิทึม กําหนดให 0, 0, 0, 0,x y a b n R> > > > ∈ และ 1, 1a b≠ ≠ 1) log 1a a = 2) log 1 0a = 3) log ( ) log loga a axy x y= + 4) log ( ) log loga a a x x y y = − 5) log ( ) (log )n a ax n x= 6) log log log b a b x x a = 7) loga x a x= ตัวอยาง เชน 1. จงหาคาของ 3 3 log 10 3 วิธีทํา 3 33 3 log 10 log 10 log 3 3 3 3 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎝ ⎠ = 3 3 2 3 3 log 10 log 3 log 10 3 2 3 3 ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎝ ⎠ = =
  • 24. 24 3 3 2 log 10 3 2 log 10 3 2 3 3 3 (3 ) 10 100 = = = = 2. กําหนดให log2 0.3010= คาของ 4 4 2log 0.25 log 2 log0.16+ − มีคา ตรงกับขอใด วิธีทํา 4 4 2 1 4 4 2 log 0.25 log 2 log0.16 1 16 log log 2 log 4 100 + − ⎛ ⎞⎛ ⎞ ⎛ ⎞ = + −⎜ ⎟⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠⎝ ⎠ ( ) ( ) ( )1 4 2 4 2 4 2 1 log 4 log 2 log16 log100 4 1 ( 1)(log 4) (log 2) log16 log100 4 1 ( 1) ( ) log(2 ) log(10 ) 4 1 ( 1) ( ) 4log2 2 4 1 ( 1) ( ) 2 4log2 4 5 4(0.3010) 4 1.25 1.204 0.046 − = + − − = − + − + = − + − + = − + − + = − + + − = − = − =
  • 25. 25 3. จงหาคาของ 3 2 1 ( log 121) 3 8 + วิธีทํา 3 32 2 1 1 ( log 121) log 1213 3 8 8 8 + = ⋅ 3 2 1 3 2 2 2 log 12133 3(log 121 ) 1 3( log 121) 3 (log 121) 8 (2 ) 2 2 2 2 2 2 2 121 242 = ⋅ = ⋅ = ⋅ = ⋅ = ⋅ = 4. จงหาคาของ 2 4 2log (log (log 16)) วิธีทํา ทําจากขางในออกไปขางนอก ดังนี้ 4 2 4 2 2 4 2log (log (log 16)) log (log (log 2 ))= 2 4 2 2 4 2 log (log (4log 2)) log (log 4) log 1 0 = = = = 5. จงหาคาของ 1 1 2 8 2 8 1 1 log 8 log 2 log ( ) log ( ) 8 2 + + + วิธีทํา ทําใหเปน log ฐาน 2 ทั้งหมด ดังนี้ 1 1 2 8 2 8 1 1 log 8 log 2 log ( ) log ( ) 8 2 + + + 2 2 2 2 2 2 2 1 log ( ) log 8 log 2 1 2log ( ) 1 1 8 log 8log ( ) log ( ) 2 8 3 1 ( 1) ( 3) ( 1) ( 3) 3 = + + + − = + + − + − −
  • 26. 26 1 1 3 3 3 3 20 3 = − − − − = − 8.ลอการิทึมสามัญและลอการิทึมธรรมชาติ ลอการิทึมสามัญ คือ ลอการิทึมที่มีฐานเปน 10 เชน 10log x จะเขียนเปน log x ลอการิทึมธรรมชาติ คือ ลอการิทึมที่มีฐานเปน e (e เปนจํานวนอตรรกยะที่มีคาประมาณ 2.78182818) เชน loge x จะเขียนเปน ln x ตัวอยาง เชน 1. จงหาคา log20 วิธีทํา log20 log(2 10)= × log2 log10= + (0.301) 1= + 1.301= 2. จงหาคา log0.02 วิธีทํา เขียน log0.02 ใหอยูในรูป log( 10 )n a× เมื่อ 0 10a≤ ≤ และ n I∈ ดังนี้ 2 log0.02 log(2 10 )− = × เปดตารางlog a เมื่อ 0 10a≤ ≤ เราเรียกสวนนี้วา “คาแรกเตอริสติก”ของlog 20 เราเรียกสวนนี้วา “แมนทิสสา”ของlog 20
  • 27. 27 2 log2 log(10 ) log2 ( 2) − = + = + − (0.301) 2 1.699 = − = 3. จงหาคา (2 ) ln e e + วิธีทํา ใชคุณสมบัติของ log ดังนี้ (2 ) ln (2 )(ln )e e e e+ = + (2 )(1) 2 e e = + = + 9.แอนตี้ลอการิทึม แอนตี้ลอการิทึมของ a เขียนแทนดวย loganti a มีความหมายคือ log 10a anti a = ตัวอยาง เชน 1. จงหา log(log2)anti วิธีทํา log2 log(log2) 10anti = 2= 2. จงหา log[(log75 log5) log2]anti − + วิธีทํา 75 2 log[(log75 log5) log2] log[log ] 5 anti anti × − + = เราเรียกสวนนี้วา “คาแรกเตอริสติก”ของlog0.02 เราเรียกสวนนี้วา “แมนทิสสา”ของlog0.02
  • 28. 28 log30 log[log30] 10 30 anti= = = 10.การแกสมการและอสมการในรูปของลอการิทึม มีรายละเอียดตามแตละตัวอยางตอไปนี้ 1. จงหาเซตคําตอบของ 2 2 2 log(4 16) log( 4) logx x x− − − = วิธีทํา 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 log(4 16) log( 4) log 4 16 log( ) log( ) 4 4 16 4 4( 4) 4 4 4 0 ( 2)( 2) 0 2, 2 x x x x x x x x x x x x x x x x x − − − = − = − − = − − = − = − = − + = = − เมื่อตรวจสอบคําตอบแลวพบวาทั้ง x=2 และ x=-2 ทําใหเกิดคา log0 ซึ่งหาคาไมได 2x∴ = ± จึงไมใชคําตอบของสมการ ⇒เซตคําตอบ = ∅ 2. จงหาเซตคําตอบของ 2 2 3 log (log )x x+ = วิธีทํา 2 2 2 3 log (log ) 3 2(log ) (log ) x x x x + = + = ให logA x= นําคําตอบไปตรวจสอบคําตอบจากโจทย
  • 29. 29 2 2 3 2 2 3 0 ( 3)( 1) 0 1,3 A A A A A A A + = − − = − + = = − ∴ เซตคําตอบ 1 { ,1000} 10 = 3. จงหาเซตคําตอบของสมการ 2log 4log 2 5xx + = วิธีทํา เปลี่ยน log 2x ใหเปน 2log x ดังนี้ 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 log 4log 2 5 log 2 log 4 5 log 4 log 5 log (log ) 4 5 log (log ) 4 5(log ) xx x x x x x x x x + = ⎛ ⎞ + =⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎛ ⎞ + =⎜ ⎟ ⎝ ⎠ + = + = ให 2logA x= 1 log 1 10 1 10 x x x − = − = ∴ = 3 log 3 10 1000 x x x = = ∴ = เมื่อตรวจสอบคําตอบจากโจทยแลวสามารถหาคา log ได
  • 30. 30 2 2 4 5 5 4 0 ( 4)( 1) 0 4,1 A A A A A A A + = − + = − − = = ∴ เซตคําตอบ {16,2}= 4. จงหาเซตคําตอบจากสมการ log( 1) log( 1) log3x x− + + = วิธีทํา ใชคุณสมบัติของ log ดังนี้ คือ 2 2 2 log( 1) log( 1) log3 log[( 1)( 1)] log3 log[ 1] log3 1 3 4 0 ( 2)( 2) 0 2, 2 x x x x x x x x x x − + + = − + = − = − = − = − + = ∴ = − ∴ เซตคําตอบ {2}= 2 4 log 4 2 16 x x x = = ∴ = 2 1 log 1 2 2 x x x = = ∴ = เมื่อตรวจสอบคําตอบจากโจทยแลวสามารถหาคา log ได เมื่อตรวจสอบคําตอบจากโจทยแลวสามารถหาคา log ไมได
  • 31. 31 5. ถา 5log log 2x x= จงหาคา x วิธีทํา 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 log log 2 log log 2 log log 10 log log 2 log [log 2 log 5] log log 2 log log 2 1 log log log 2 log 2 1 1 log [ 1] log 2 log 2 1 ( log 2) log [ ] log 2 log 2 1 ( 1) log [ ] 1 log 2 1 log (log 2 1) l x x x x x x x x x x x x x x = = + = + + = + + − = + − = + − = + − = + = − + 5 5 1 5 5 5 5 og log 10 log log (10 ) 1 log log 10 1 10 x x x x − = − = ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ∴ = ∴ 1 10 x = เมื่อตรวจสอบคําตอบจากโจทยแลวสามารถหาคา log ได
  • 32. 32 6. ถา 2 log( 1) 2log 1x x+ − = แลวจงหาคา x วิธีทํา 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 log( 1) log( ) 1 1 log[ ] 1 1 10 1 10 1 9 1 9 1 1 , 3 3 x x x x x x x x x x x + − = + = + = + = = = ∴ = − ∴ 1 3 x = 7. จงหาเซตคําตอบของอสมการ ( )2 (4 2) log(1 ) 0x x− − > วิธีทํา 1) กรณีที่ 1 (4 2) 0x − > และ 2 log(1 ) 0x− > ∴ x∈∅ เมื่อตรวจสอบคําตอบจากโจทยแลวสามารถหาคา log ไมได 2 1 4 2 0 4 2 2 2 2 1 1 2 x x x x x − > > > > > 2 2 0 2 2 log(1 ) 0 (1 ) 10 (1 ) 1 0 x x x x x − > − > − > < ∴ ∈∅
  • 33. 33 2) กรณีที่ 2 (4 2) 0x − < และ 2 log(1 ) 0x− < ∴ 1 ( 1,0) (0, ) 2 x∈ − ∪ 8. จงหาเซตคําตอบของอสมการ 2 40 log ( 5) 1x< − < วิธีทํา 2 4 0 2 1 2 2 0 log ( 5) 1 4 5 4 1 5 4 6 9 ( 6,3) ( 3, 6) x x x x x < − < < − < < − < < < ∴ ∈ ∪ − − 9. จงหาเซตคําตอบของอสมการ 2 2 log (2 1) log ( 1)x xx x x+ − < + วิธีทํา แบงเปนกรณีดังนี้ 1) กรณีที่ 1 0 1x< < 2 2 2 2 2 log (2 1) log ( 1) (2 1) ( 1) 2 0 ( 2)( 1) 0 ( , 2) (1, ) x xx x x x x x x x x x x + − < + + − > + + − > + − > ∴ ∈ −∞ − ∪ ∞ x∈∅ 2 1 4 2 0 4 2 2 2 2 1 1 2 x x x x x − < < < < ∴ < 2 2 0 2 2 log(1 ) 0 0 (1 ) 10 0 (1 ) 1 0 1 ( 1,0) (0,1) x x x x x − < < − < < − < < < ∴ ∈ − ∪
  • 34. 34 2) กรณีที่ 2 1x > 2 2 2 2 2 log (2 1) log ( 1) (2 1) ( 1) 2 0 ( 2)( 1) 0 ( 2,1) x xx x x x x x x x x x x + − < + + − < + + − < + − < ∴ ∈ − x∈∅ จากทั้ง 2 กรณี เซตคําตอบคือ ∅ แบบฝกหัด 1. จงหาคาของเลขยกกําลังตอไปนี้ 1.1) 2 3 4 5 2 ( 3) 3 ( 3) 2 3 2 ( 3)− − − − − × + × − 1.2) 2 4 4 5 2 ( 3)× + × −
  • 35. 35 1.3) 5 2 4 2 4 ( 4) ( 5) 2 3 5 − × − × × 1.4) 3 4 5 2 2 1 2 2 2 8 9 27n n x x y x y y+ − × × × 1.5) 3 10 10 2 4 (6 49 4 )(4 7 6 )− − × × × × 1.6) 2 2 2 3 1 2 7 7 7n n n n n− + − − × ×
  • 36. 36 1.7) ( 2)6 4 8 2 6 7 4 2 4 7 4 12 6 3 4 9 a b c a b c a b c a b c −− − ⎛ ⎞ ÷⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 1.8) 12 75 1.9) 33 54 4 1.10) 3 9 27
  • 37. 37 1.11) 2 2 23 53 3 54 (125) (81) 2( 216) 2(4)+ − + 1.12) 2 7 11 1 3 6 6 4 23 9 32 2 (3 )x y z y x y z − − × × 1.13) 1 3 2 23 2 3 2 2 3 ( ) ( 2 ) ( ) a b a ab b a b a b − − × + + − × +
  • 38. 38 1.14) 1 2 2 1 2 2 1 4 9 3 2 9 2 4 3 n n n n n n n n + + + + ⋅ + ⋅ ⋅ + ⋅ 1.15) 1 2 729 81 27 243 n n n n n ⎛ ⎞+ ⎜ ⎟ +⎝ ⎠
  • 39. 39 1.16) 12 2 35+ 1.17) 7 48− 1.18) 6 35−
  • 40. 40 1.19) 1 1 10 2 5 2 6 2 3 2 n n n n − + ⋅ − ⋅ ⋅ + ⋅ 1.20) 50 32 18+ − 1.21) 3 3 3 5 4 2 32 108+ −
  • 41. 41 2. จงหาวาจํานวนตอไปนี้จํานวนใดมีคานอยที่สุด 65 104 52 3 ,2 ,7 3. ถา , ,x y z เปนจํานวนจริงที่ไมเทากับ 0 และ 2 2 3 4 6x y z− = = แลว 1 1 1 x y z + + มีคาเทากับเทาใด
  • 42. 42 4. ถาเขียน 3 6 3 2 12 ไดในรูป 1 ( )n a โดยที่ a และ n เปนจํานวนเต็มบวกแลว จงหาคาของ a และ n 5. จงเขียน 1 2 2 3+ ใหตัวสวนอยูในรูปไมติดกรณฑ
  • 43. 43 6. จงหาคาของ 1 1 1 1 ... 1 2 2 3 3 4 2011 2012 + + + + + + + + 7. ให 6 3 6 3 x + = − และ 6 3 6 3 y − = + จงหาคาของ 2 2 4x xy y− +
  • 44. 44 8. จงหารากที่สองของ 2 4 1 2 3 5 2x x x− + − − 9. จงพิจารณาขอความตอไปนี้เปนจริงหรือไม 9.1) 2 3 5 5< 9.2) 4 5 1 1 3 3 ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ <⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
  • 45. 45 9.3) ( ) ( ) 7 5 sin1 sin1° < ° 9.4) ( ) ( ) 2 5 tan 46 tan 46° < ° 9.5) ถา 48 36 2 , 3a b= = และ 24 5c = แลว 1 1 1 a b c > >
  • 46. 46 10. จงพิจารณาวาฟงกชัน 2 2 ( ) 3 x f x ⎛ ⎞ = −⎜ ⎟ ⎝ ⎠ เปนฟงกชันเพิ่มหรือฟงกชันลด 11. ขอใดเปนฟงกชันลด ก) 1 2 x y ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ข) 1 2x y − = ค) 2 1 3 x y + = ง) 1 3 x y − ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠
  • 48. 48 12.3) 7 3 1x x+ = + 12.4) 1 3 27 x =
  • 49. 49 12.5) 5 125x ≤ 12.6) 2 81 3 16 x ⎛ ⎞ ≥⎜ ⎟ ⎝ ⎠
  • 50. 50 12.7) 2 5 3 1 1 3 27 x x+ + ⎛ ⎞ <⎜ ⎟ ⎝ ⎠ 12.8) 2 2 2 9(2 ) 2 0x x+ − + =
  • 51. 51 12.9) 23 (3 ) 2 0 4 x x − = 12.10) 4 1 4 1 6 1 2 9 25 625x x x x− − − ⋅ ⋅ =
  • 52. 52 12.11) ( ) 2 2 1 3 2 3 2 x x+ − + = − 12.12) 9(4 ) 12(6 ) 4(9 ) 0x x x − + =
  • 53. 53 12.13) 1 6 3 3 2 9x x x+ + − ⋅ = 12.14) 5 3 (0.25) (0.5)x x− + >
  • 54. 54 12.15) 3 16 2 81 5 36x x x ⋅ + ⋅ ≤ ⋅ 12.16) 2 2 ( ) ( 3) 3 2 8 x x x − − <
  • 55. 55 13. จงหาคาตอไปนี้ ก) 7log 3 7 ข) 3 3 log (10) 3 ค) 2 3 1 4 log 64 ง) 5log 25 5log 25
  • 56. 56 14. จงหาคาของ 36log 5 เมื่อให 6log 5 0.8982= 15. กําหนดให log 2 0.3010= และ log3 0.4771= จงหาคาตอไปนี้ 15.1) log8 15.2) log9
  • 57. 57 15.3) log 6 15.4) log300 15.5) log0.02 15.6) log120
  • 58. 58 16. กําหนด log3.51 0.5453= จงหาคาของ 16.1) log3510 16.2) log0.351 17. จงหาคาของ 2 3 1 4 1 log 16 log log 64 9 + −
  • 59. 59 18. จงหาคาของ 3 93 log 6 log 15 log 400+ − 19. จงหาคาของ 8log2 6log5 log 4 log10− +
  • 60. 60 20. จงหาคาของ 3 3 3 3 3log 120 log 80 log 27 log 24 log 16− + − + 21. จงหาคาของ 3 4 5 2011log 4 log 5 log 6 ... log 2012⋅ ⋅ ⋅ ⋅
  • 61. 61 22. จงหาคาของ ln10 ln5 e − 23. จงหาวา 15 875 มีกี่หลัก เมื่อกําหนดให log8.75 0.9420=
  • 62. 62 24. จงหาคาของ ln 2 ln10 ln 20+ − 25. ขอใดเปนฟงกชันลดบาง ก) log(3 )x y = ข) log3 2 x y = ค) log(2 ) 1 2 x y ⎛ ⎞ = ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ง) 1 2 log (2 )y x=
  • 63. 63 26. 200 2 เปนเลขจํานวนเต็มที่มีกี่หลัก โดยกําหนดให log 2 0.3010= 27. จงหาคาของ ก) ln e ข) 1 ln e ค) ln3 2ln5 e +
  • 65. 65 28.3) 2 log( 1) 2log 1x x+ − = 28.4) 27 9 1 log ( 1) log ( 1) 6 x x− − − =
  • 66. 66 28.5) 2 8 3 2log log log ( 2 ) 0x x− = 28.6) 2 2 16 9log 3x x x+ − =
  • 67. 67 28.7) 0.5 0.5log ( 5) log (2 3)x x− > − 28.8) 3 3log ( 2) log (3 6)x x+ ≤ −
  • 68. 68 28.9) 3log 4log 3 3 0xx − + = 28.10) 2 7log ( 2 ) 4 3 2log log log 7 0x x+ =
  • 69. 69 28.11) 1 2 log16 2 10x + = 28.12) log log 4 3 25 3 4 12 x x ⎛ ⎞ ⎛ ⎞ + =⎜ ⎟ ⎜ ⎟ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
  • 70. 70 28.13) 2 5 log log 2 2 xx + = 28.14) log 28 log 325 log 91 logx x x x+ − =
  • 71. 71 28.15) 2 1 1 2 2 log ( 2 ) log 3x x− > 28.16) 2 1 1 2 2 2log (3 4) log ( 8) 2x x x+ − + + ≥ −
  • 72. 72 28.17) 1 3 0 log 2 3x< < 28.18) 2 1log (5 ) 2x x x+ − ≥
  • 73. 73 28.19) 1 3 2 log [log ( 1)] 1x + > − 28.20) log(3 4) log( 1) 1x x+ > − +
  • 74. 74 28.21) 2 2 4 1 1 log (2 1) log ( ) 2 2 x x− − + < 28.22) 2 (4 2)log(1 ) 0x x− − >