1. การจัดการเรียนรู้
ที่เน้ นผู้เรียนเป็ นสาคัญ
คุณภาพผู้เรียน
ตามหลักสู ตรแกนกลาง
ดี
เก่ ง
มีความสุข
ศรีลกษณ์ ผลวัฒนะ
ั
ครู เชี่ ยวชาญพิเศษ
ข้ าราชการบานาญ

2. เนือหาการอบรม
้
1. สาระสาคัญตามหลักสู ตรที่ครูต้องนาไปสู่ การปฏิบัตกบ ิั
ตัวบ่ งชี้ที่ 6.2 กระบวนการจัดการเรียนรู้ของครู ในการ
ประเมินของ สมศ. รอบ 3
2. เทคนิคการสอน
3. การวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้

3. รอบรู้ เรื่องหลักสู ตรฯ
ตัวชี้วด/ผลการเรียนรู้
ั
การวิจัยในชั้นเรียน
เทคนิคการสอน
เพือแก้ปัญหา/พัฒนา
่ องค์ ประกอบของ ทีเ่ หมาะสม
การจัดการเรียนรู้ ทเี่ น้ น
ผู้เรียนเป็ นสาคัญ
การจัดทา การใช้ สื่อการเรี ยนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้
และนาไปสู่ การปฏิบัติ การวัดและประเมินผล

4. ผู้ใดสอนบทความตามหลักสูตร
คือผู้พดแทนตารากล้ าขยัน
ู
ใครเฝาปลูกความดีทกวี่วน
้ ุ ั
รู้ไว้ เขาผู้นนนันแหละครู
ั้ ่
หม่อมหลวงปิ่ น มาลากุล
เพียงแต่สอนนันไซร้ ไม่ลาบาก
้
เป็ นครูนนสิยากเป็ นนักหนา
ั้
เพราะต้ องใช้ ศิลปวิทยา
อีกมีความเมตตาอยูในใจ่

6. การรับรู้ กับ การเรียนรู้
• การรับรู้ นักเรียนฟัง ครู สาธิต ใช้ ส่ื อ ICT
อธิบาย ทาความเข้ าใจ
• การเรียนรู้ นักเรียนปฎิบัตแล้ วเกิดความเข้าใจ
ิ
การเรียนรู้ ต้ องผ่ าน การปฎิบติ
ั
อาจรับรู้ แล้ วปฎิบัตทนที
ิ ั
ตรวจสอบผลการเรียนรู้ ทนที ั

7. การเรียนรู้ (Learning)
การเปลียนแปลงพฤติกรรม(KPA) อย่ างถาวร
่

8. บลูม (Bloom 1974) การเรี ยนรู้ ทสมบูรณ์ มีการเปลียนแปลง 3 ประการ (KPA)
ี่ ่
การเปลียนแปลงทีเ่ กิดขึนในสมอง
่ ้
Cognitive Domain
ความรู้ ความคิด ความเข้ าใจ
เจต
ค่านิยม การเรียนรู้ การปฏิบัติ
คติ Learning
การเปลียนแปลงด้าน
่
ด้ านจิตใจ
Affective Domain ทักษะความชานาญ
Psychomotor Domain
ความเชื่อ
ความรู้สึก การนาเสนอ การแสดง การเคลื่อนไหว
อารมณ์ การสร้ างชิ้นงาน

9. คุณภาพโดยรวมของผู้เรียนตามหลักสู ตรใหม่
•มีความรู้ ทักษะสาคัญ และ ดี
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตาม
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีวัด
้ เก่ ง
8กลุ่ มสาระการเรียนรู้ มีความสุข
• มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8ประการ
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2. ซื่อสัตย์ สุจริต
• มีสมรรถนะสาคัญ5ประการ
3. มีวินัย
1. ความสามารถในการสื่อสาร
4. ใฝ่ เรียนรู้
2. ความสามารถในการคิด
5. อยู่อย่ างพอเพียง
3. ความสามารถในการแก้ ปัญหา
6. มุ่งมั่นในการทางาน
4. ความสามารถในการใช้ ทกษะชีวิต
ั
7. รักความเป็ นไทย
5. ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี
8. มีจิตสาธารณะ

10. สาระสาคัญตามหลักสู ตรแกนกลางฯ 2551
ทีครูต้องนาไปสู่ การปฏิบติ
่ ั
1.มาตรฐานและตัวชี้วด (K)
ั
ใช้ จัดหลักสู ตรสถานศึกษา จัดรายวิชา
จัดหน่ วยการเรียนรู้ เขียนแผนจัดการเรียนรู้
การวัดและประเมินผล

11. วิชา...............................ชั้น........................
ตารางวิเคราะห์ มาตรฐาน/ตัวชี้วด สาระการเรียนรู้พนฐาน
ั ื้
มาตรฐาน/ตัวชี้วด
ั สาระการเรียนรู้ แกนกลาง

12. วิชา...............................ชั้น........................
ตารางวิเคราะห์ ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพิมเติม ่
ผลการเรี ยนรู้ สาระการเรียนรู้ เพิมเติม ทีมา/ความสอดคล้องกับ
่ ่
มาตรฐานและตัวชี้วดกับ
ั
สาระการเรียนรู้ พนฐาน
ื้

13. 2.สมรรถนะสาคัญของผ้ เู รียน (P)
กาหนดไว้ 5 ด้ าน
เพือเป็ นจุดเน้ นในการพัฒนาผู้เรียนในระดับการศึกษาขั้นพืนฐาน
่ ้
1. ความสามารถในการสื่ อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ ทกษะชีวต
ั ิ
5. ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี

14. กาหนดเปาหมายร่ วมกันในการพัฒนาเยาวชน 8 ประการ
้
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2. ซื่อสั ตย์ สุจริต
3. มีวนัย
ิ
4. ใฝ่ เรียนรู้
5. เป็ นอยู่พอเพียง
6. มุ่งมั่นในการทางาน
7. รักความเป็ นไทย
8. มีจิตสาธารณะ

15. มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ มีคุณภาพมาตรฐานการเรียนรู้ และ
ตัวชี้วดั
เกิดสมรรถนะสาคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ให้ เรียนร้ ู จากประสบการณ์ จริง ปฏิบัตจริง
ิ
ให้ คดเป็ น ทาเป็ น รักการอ่ าน เกิดการใฝ่ ร้ ู ใฝ่ เรียนอย่ าง
ิ
ต่ อเนื่อง

16. เน้ นผู้เรียนเป็ นสาคัญ
•กระบวนการเรียนรู้ หลากหลาย
•กระบวนการเรียนรู้ แบบบูรณาการ
•กระบวนการสร้ างความรู้
•กระบวนการคิด
•กระบวนการทางสั งคม
•กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และแก้ปัญหา
•กระบวนการเรียนรู้ จากประสบการณ์ จริง
•กระบวนการจัดการ
•กระบวนการวิจัย
•กระบวนการเรียนรู้ ของตนเอง
•กระบวนการพัฒนาลักษณะนิสัย

17. ตัวอย่ างการเรียนรู้ ด้วยตัวเอง ห้ องเรียนธรรมชาติ

18. มีความหลากหลาย สื่ อธรรมชาติ สิ่ งพิมพ์ สื่ อเทคโนฯ
 เครื อข่ายการเรี ยนรู ้
 ผูเ้ รี ยนและผูสอน จัดทา พัฒนาขึ้นเองหรื อปรับปรุ ง
้
 เลือกสื่ อที่มีคุณภาพมาใช้

19. สื่ อการเรียนรู้ วชา...................................ชั้น..................
ิ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ......................................................
ลาดับที่ รายการสื่ อ/ชื่อ หัวข้ อทีใช้ สอน
่ ทีมาของสื่ อ
่

20. 7.บทบาทของผู้ สอน
1. วิเคราะห์ ผ้ ูเรี ยน วางแผนการจัดการเรี ยนรู้
2. กาหนดเปาหมาย ด้ านความรู้ ทักษะกระบวนการ ความคิดรวบยอด หลักการ
้
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
3. ออกแบบการเรี ยนรู้ ที่ ตอบสนองความแตกต่ างระหว่ างบุคคล และพัฒนาการ
ทางสมอง
4. จัดบรรยากาศที่เอือต่ อการเรี ยนรู้ ดูแลช่ วยเหลือ
้
5. เตรียม / เลือกสื่ อให้ เหมาะสมกับกิจกรรม นาภูมิปัญญาท้ องถิ่น เทคโนโลยีมา
ประยุกต์ ใช้ ในการจัดการเรี ยนรู้
6. ประเมินความก้ าวหน้ าของผู้เรี ยนด้ วยวิธีหลากหลาย
7. วิเคราะห์ ผลการประเมินมาใช้ ซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียนปรับปรุ งการสอน

21. 1. กาหนดเปาหมาย วางแผน และรับผิดชอบการเรียนรู้ ของตนเอง
้
2. เสาะแสวงหาความรู้ เข้ าถึงแหล่ งเรี ยนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ความรู้ ตั้ง
คาถาม คิดหาคาตอบ หรือหาแนวทาง แก้ปัญหาด้ วยวิธีต่างๆ
3. ลงมือปฏิบตจริง สรุ ปสิ่ งทีเ่ รี ยนรู้ ด้ วยตนเองและนาความรู้ไปประยุกต์ ใช้
ั ิ
ในสถานการณ์ต่างๆ
4. ทากิจกรรมรวมกับกลุ่มและครู
5. ประเมินและพัฒนากระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่ างต่ อเนื่อง

22. 1. วัดและประเมินผลการเรียนตามมาตรฐาน/ตัวชี้วดทุกระดับ
ั
ทั้งระดับชาติ เขตพืนที่ สถานศึกษา และชั้นเรียน
้
2. ตัดสิ นผลการเรียน เป็ นรายปี สาหรับ ป.1-ป.6
เป็ นรายภาค สาหรับม.1-ม.6
3. แยกการประเมินการอ่านคิดวิเคราะห์ และเขียนเป็ นการเฉพาะในการ
ประเมินช่ วงชั้น สอดแทรกอยู่ในมาตรฐาน / ตัวชี้วดและกลุ่มสาระการ
ั
เรียนรู้
4. ประเมินคุณลักษณะทีพงประสงค์
่ ึ

23. การจัดการเรียนรู้ ตามตัวบ่ งชี้ของสมศ.
ตัวบ่ งชี้ที่ 6.2 กระบวนการจัดการเรียนรู้ ของครู (5คะแนน)
เกณฑ์ พจารณา เชิงปริมาณ ( 5 คะแนน)
ิ

24. เกณฑ์ การพิจารณาประสิ ทธิผลการสอนของครู
1.ศึกษาวิเคราะห์ ผู้เรียนเป็ นรายบุคคลแล้ วนาข้ อมูลมาใช้ ในการวาง
แผนการจัดการเรียนรู้ ทท้าทายความสามารถของผู้เรียน
ี่
2. กาหนดเป้ าหมายทีต้องการให้ เกิดขึนกับผู้เรียน ด้ านความรู้ ทักษะ
่ ้
กระบวนการทีเ่ ป็ นความคิดรวบยอด หลักการและความสัมพันธ์
รวมทั้งคุณลักษณะอันพึงประสงค์
3.ออกแบบการเรียนรู้ และจัดการเรียนรู้ ทตอบสนองความแตกต่ าง
ี่
ระหว่ างบุคคลและพัฒนาการทางสมอง เพือนาผู้เรียนไปสู่ เป้ าหมาย
่
4.จัดบรรยากาศทีเ่ อือต่ อการเรียนรู้ และดูแลช่ วยเหลือผู้เรียนให้ เกิดการ
้
เรียนรู้

25. 5.จัดเตรียมและเลือกใช้ สื่อให้ เหมาะสมกับกิจกรรม นาภูมิ
ปัญญาท้ องถิน เทคโนโลยีที่เหมาะสมมาประยุกต์ ใช้ ในการ
่
จัดการเรียนการสอน
6. ประเมินความก้ าวหน้ าของผู้เรียนด้ วยวิธีการที่หลากหลาย
เหมาะสมกับธรรมชาติวชาและระดับพัฒนาการของผู้เรียน
ิ
7.วิเคราะห์ ผลการประเมินมาใช้ ในการซ่ อมเสริมและพัฒนา
ผู้เรียน รวมทั้งปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนของตนเอง
8.ศึกษา ค้ นคว้า วิจัย เพือพัฒนาสื่ อและกระบวนการจัดการ
่
เรียนรู้

26. เกณฑ์ การให้ คะแนน
ระดับ คะแนน เกณฑ์ การให้ คะแนน
ต้ องปรับปรุ ง 1 คะแนน ค่ าเฉลียสามปี ย้ อนหลัง ร้ อยละของครู ทมี
่ ี่
ประสิ ทธิภาพการสอนที่เน้ นผู้เรียนเป็ นสาคัญ
ตามเกณฑ์ ครบทั้ง 8 ข้ อ ต่ากว่าร้ อยละ 50
ควรปรับปรุ ง 2 คะแนน ตั้งแต่ ร้ อยละ 50-59
พอใช้ 3 คะแนน ตั้งแต่ ร้ อยละ 60-74
ดี 4 คะแนน ตั้งแต่ ร้ อยละ 75-89
ดีมาก 5 คะแนน ตั้งแต่ ร้ อยละ 90 ขึนไป
้

27. เทคนิคการสอนที่เน้ นผู้เรียนเป็ นสาคัญ
เน้ นให้ ผ้ ูเรียนเรี ยนรู้ ด้วยการปฏิบัติ มีทกษะ การคิดวิเคราะห์
ั
แก้ ปัญหา คิดสร้ างสรรค์ คิดอย่ างมีวจารณญาน การใช้ ข้อมูล
ิ
รักการอ่ าน มีการแลกเปลียนเรียนรู้ การทางานกลุ่ม การสรุ ปองค์
่
ความรู้ และการใช้ ความรู้ อย่ างสร้ างสรรค์
การจัดการเรียนรู้
เป็ นรายบุคคล เพือนคู่คด
่ ิ จัดกิจกรรมกลุ่ม
ทั้งห้ องเรียน

28. เทคนิคการสอน
การจัดกิจกรรมที่เน้ นกระบวนการกลุ่ม
1. เพือนคู่คิด
่
- ใช้ ได้ ทุกเรื่อง
-แก้ปัญหานักเรียนไม่ ชอบ
แสดงความคิดเห็นกลุ่มใหญ่
มี 3 เทคนิค

29. 1. ให้ นักเรียนต่ างคนต่ างทาใบงาน
2. เมือเสร็จแล้วให้ จับคู่ตรวจคาตอบ อภิปราย ซักถาม
่
แลกเปลียนเรียนรู้
่
3. แลกเปลียนกันตรวจ โดยฟังเฉลยจากครู
่
4. ผู้ตรวจต้ องจดบันทึกสิ่งทีเ่ พือนคู่คดทาผิด พร้ อมทั้งให้ คะแนน
่ ิ
และเซ็นชื่อรับรองการตรวจ

30. ชื่อ..................ชั้น........เลขที.่ .......
กิจกรรมที่ 1 เรื่อง สิ่ งมีชีวิตและสิ่ งไม่ มีชีวิต
คาชี้แจง 1. ศึกษาภาพในกรอบแล้ วตอบคาถามลงในช่ องว่ าง ให้ ถูกต้ อง
2. แลกเปลี่ยนกันตรวจสอบคาตอบ แล้ วฟังเฉลยจากครู ถ้ าเพือนผิดอย่ างไร ต้ องจดไว้
่
3. การให้ คะแนน ถ้ าเพือนตอบผิด จะถูกหักคะแนน ตาแหน่ งละ 1 คะแนน จากคะแนนเต็ม
่
คะแนนที่ได้ ..............
ลงชื่อผู้ตรวจ
.........................
สิ่งมีชีวตได้แก่ ...................................................................................................................
ิ
สิ่งไม่ มีชีวตได้แก่ ...............................................................................................................
ิ
สิ่งที่จัดเป็ นสัตว์ได้แก่ ........................................................................................................
สิ่งที่จัดเป็ นพืชได้แก่ ...........................................................................................................
สิ่งที่เป็ นเครื่องมือได้แก่ ......................................................................................................
สิ่งที่เป็ นส่ วนประกอบของโลกได้แก่ ..................................................................................

31. 1.ให้ นักเรียนศึกษาจากใบความรู้ หรือกรอบความรู้ ทกาหนดให้ ี่
2.ตั้งคาถามคนละ2-3ข้ อ
3.จับคู่เป็ นเพือนคู่คดโดยผลัดกันถาม-ตอบ
่ ิ
- ถ้ า ก. ตั้งคาถาม ข. ต้ องเป็ นผู้ตอบ และก. ต้ องจดคาตอบของ ข.ไว้
เมือ ก. ถามครบทุกข้ อแล้ วให้ ข. เป็ นผู้ต้งคาถามและ ก. เป็ นผู้ตอบ ซึ่ง ข.
่ ั
ต้ องจดคาตอบของ ก. ไว้
4.ครู เฉลยข้ อสรุปทีได้ จากใบความรู้ หรือกรอบความรู้ ทกาหนด
่ ่ี
5. ก. ให้ คะแนน ข. และ ข. ให้ คะแนน ก.
6.ลงคะแนนของนักเรียนทุกคนในแบบบันทึกคะแนนทีครู จดไว้ ให้ ่ ั

32. คาชี้แจง 1.อ่านกรอบความรู้ ที่กาหนดให้ 2.ตั้งคาถาม 2 ข้ อ
3.จับคู่แลกเปลียน ผลัดกัน ตั้งคาถามและตอบคาถาม ให้ จดสิ่ งที่เพือนตอบไว้
่ ่
4.เมื่อหมดเวลาฟังเฉลยจากครู แล้ วประเมินเพือนโดยให้ คะแนนที่เห็นว่ าเหมาะสม
่
กรอบความรู้ เรื่อง ป่ าชายเลน
เป็ นป่ าบริ เวณชายทะเล และปากแม่ นาของประเทศในป่ าเขตร้ อน เป็ นบริ เวณนากร่ อย ประเทศไทยพบที่แถบชายฝั่ง
้ ้
ทะเลในภาคใต้ และภาคตะวันออก มีสภาพแวดล้อม ที่ต่างจากป่ าบกหลายอย่ าง เช่ น สภาพดินเป็ นเลน ระดับนาทะเล ้
ในช่ วงต่ างๆของแต่ละวันต่ างกัน ดินมีแร่ ธาตุและสารอาหารสมบูรณ์ พืชที่พบในป่ าชายเลนได้ แก่ แสม โกงกาง
ตะบูน โพธิ์ทะเล เสมา พืชส่ วนใหญ่ จะมีรากคาจุน ช่ วยพยุงลาต้ น มีรากหายใจโผล่ พ้นดิน โกงกางเป็ นพืชสาคัญมาก
้
ในป่ าชายเลน เป็ นไม้ ที่ใช้ ผลิตถ่ าน ซึ่งให้ ความร้ อนสูง สัตว์ ที่พบในป่ าชายเลน มีท้งสัตว์หน้ าดินและในดิน รวมถึงมี
ั
นกเป็ นจานวนมาก นอกจากนียงมีตวอ่ อนของสั ตว์ นา ประเภทกุ้ง หอย ปู ปลา มาอาศัย และหาอาหาร
้ั ั ้
คาถาม 1. ............................................................................
2.............................................................................
คาตอบของเพือนคู่คด
่ ิ
1...............................................................................
2...............................................................................

33. 1. ครู จดหาใบความรู้ 2 เรื่อง เช่ น เรื่อง ก. กับเรื่อง ข.
ั
2. ให้ นักเรียนจับคู่ คนที่ 1 อ่ านเรื่อง ก. คนที่ 2 อ่ านเรื่อง ข. กาหนดเวลาทีอ่านให้
่
3. เมืออ่ านเสร็จให้ คนที่ 1 เล่ าเรื่องทีตนอ่ านให้ คนที่ 2 ฟัง ด้ วยความตั้งใจ
่ ่
คนที่ 2 ต้ องฟังอย่ างกระตือรือร้ น สนใจ จดสาระทีได้ ไว้ สงสัยยังไม่ ถาม
่
ให้ จดข้ อสงสัยไว้ เมือเพือนเล่ าจบจึงถามข้ อสงสัย แล้ วจดคาตอบไว้
่ ่
4. ให้ คนที่ 2 เป็ นผู้เล่ าเรื่องทีตนอ่ านให้ คนที่ 1 ฟัง เช่ นเดียวกับ ข้ อ3.
่
5. เมือนักเรียนทากิจกรรมแล้ วเปลียนเรียนรู้ กนเสร็จเรียบร้ อยแล้ ว ครู เฉลย
่ ่ ั
สาระสาคัญของเรื่องที่ 1 และเรื่องที่ 2
6. ให้ นักเรียนประเมินผลงานซึ่งกันและกัน ว่ าได้ สาระสอดคล้ องกับทีครู เฉลย ่
หรือไม่

34. แนวทางในการจัดกิจกรรม
1.วิเคราะห์ เนือหาในหลักสู ตรที่สามารถใช้ กจกรรมแลกเปลียนเรียนรู้ได้ 2 เรื่อง
้ ิ ่
2. นักเรียนคนที่1. อ่านเรื่องเมล็ด
นักเรียนคนที่ 2. อ่านเรื่องการงอกของเมล็ด กาหนดเวลาให้ 10นาที
1) อ่านเพื่อจับประเด็นสาคัญ แล้วนาไปเล่าให้ เพื่อนฟัง
2) ผู้ฟังต้ องตั้งใจฟัง จับประเด็นสาคัญ สงสั ยอะไรให้ จดไว้ ถามเมื่อเพื่อนเล่าจบ
เพื่อนตอบอย่ างไรต้ องจดไว้
3) ให้ นักเรียนคนที่1และ2 ผลัดกันทากิจกรรมตามข้ อ1) และ 2)
3. ครูเฉลยแนวคิดสาคัญของเรื่องที่ 1 และเรื่องที่ 2
4. ให้ นักเรียนคนที่1 ประเมินให้ คะแนนคนที่2 และนักเรียนคนที่2 ประเมินคนที่1
เกียวกับองค์ความรู้และสาระที่ได้ รับจากกิจกรรมเล่าสู่ กนฟัง
่ ั
5. นาคะแนนที่ประเมินมากรอกลงในแบบประเมินผล

35. เรื่องที่ 1 เมล็ด (seed)

36. เรื่องที่ 2 การงอกของเมล็ด
(germination)

37. ชื่อ................................... ชั้น............. เลขที.่ ..........
ชื่อเพือนคู่คิด.....................................เลขที่...........
่
กิจกรรมที่...... เรื่อง เล่ าสู่ กันฟัง เวลา................นาที คะแนน 10 คะแนน
1.เรื่องที่อ่าน ..................................................................................................................................................................
สาระความรู้ทได้ ..........................................................................................................................................................
ี่
.........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
คาถามที่เพื่อนถาม 1.
.........................................................................................................................................................
(ตอบ.................................................................................................................................................)
2.
.......................................................................................................................................................
2. เรื่องที่ฟังจากเพือน...........................................................................................................................................................
่ (ตอบ
สาระความรู้ที่ได้ ...............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................)
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
คาถามที่ถาม เพือน1. ............................................................................................................................................................
่
(ตอบ...................................................................................................................................................)
2. .............................................................................................................................. ...........................
(ตอบ................................................................................................................................................)
3. ฟั งเฉลยจากครูแล้ ว เพื่อนคู่คิดควรให้ คะแนน .............................คะแนน

38. การจัดกิจกรรมที่เน้ นกระบวนการกลุ่ม
2. L.T. ( Learning Together )
1 2 3 4 5
1 2 1 2 1 2 1 2 1 2
3 4 3 4 3 4 3 4 3 4
6 7 8
ฝึ กการทางานเป็ นทีม
1 2 1 2 1 2
ทุกกลุ่มเรี ยนรู้เรื่องเดียวกัน
3 4 3 4 3 4 ต้ องมีอุปกรณ์ ครบ มีเวลาพอ

39. คาชี้แจง
1. ให้ นักเรียนจัดกลุ่มๆ ละ 3-4 คน เลือกประธาน เลขา แล้ วแบ่ งหน้ าที่ความรับผิดชอบในกลุ่ม
2. พิจารณารู ปที่กาหนดให้ แล้ วทากิจกรรมต่ อไปนี้
1. ระบายสี 2. เล่ าเรื่องจากภาพ 3. ตั้งชื่อเรื่อง 4. วิเคราะห์ ปัญหา 5. วิเคราะห์ วิธีออกแบบแก้ ไขปัญหา
6. บอกหลักการที่ทาให้ งานสาเร็จ 7. หาคาศัพท์ ภาษาอังกฤษให้ ได้ มากที่สุด
1. ชื่อเรื่อง.....................................
2. เนือหาที่แต่ ง.............................
้
......................................................
......................................................
......................................................
......................................................
......................................................
3. ปัญหา ....................................................................................................................................................
4. วิเคราะห์ วธีออกแบบแก้ไขปัญหา...........................................................................................................
ิ
5. สรุปหลักการที่ใช้ แก้ ปัญหา ....................................................................................................................
6. ศัพท์ ภาษาอังกฤษในภาพ.......................................................................................................................

40. คาชี้แจง
1. ให้ นักเรียนจัดกลุ่มๆ ละ 3-4 คน เลือกประธาน เลขา แล้ วแบ่ งหน้ าที่ความรับผิดชอบในกลุ่ม
2. พิจารณารู ปที่กาหนดให้ แล้ วทากิจกรรมต่ อไปนี้
1. ระบายสี 2. เล่ าเรื่องจากภาพ 3. ตั้งชื่อเรื่อง 4. วิเคราะห์ ปัญหา 5. วิเคราะห์ วิธีออกแบบแก้ ไขปัญหา
6. บอกหลักการที่ทาให้ งานสาเร็จ 7. หาคาศัพท์ ภาษาอังกฤษให้ ได้ มากที่สุด
1. ชื่อเรื่อง.....................................
2. เนือหาที่แต่ ง.............................
้
......................................................
......................................................
......................................................
......................................................
......................................................
3. ปัญหา ....................................................................................................................................................
4. วิเคราะห์ วธีออกแบบแก้ไขปัญหา...........................................................................................................
ิ
5. สรุปหลักการที่ใช้ แก้ ปัญหา ....................................................................................................................
6. ศัพท์ ภาษาอังกฤษในภาพ.......................................................................................................................

41. แบบประเมินการนาเสนอผลงานกลุ่ม
กลุ่มที่
รายการประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 หมายเหตุ
1. เทคนิคการนาเสนอ
2. ความร่ วมมือภายในกลุ่ม
3. สื่อ/อุปกรณ์ที่ใช้ ในการรายงาน
4. สาระที่ได้จากการรายงาน
กลุ่มที่ประเมิน ................................................................................
สมาชิก 1. ................................................................................
2. ................................................................................
3. ................................................................................
4. ................................................................................

42. การจัดกิจกรรมที่เน้ นกระบวนการกล่ ุม
3. จัดกลุ่ม 4 – 5 คน เรียนแบบ Group Investigation หรือ G.I.
A การกลัน
่ B การตกผลึก
1 2 1 2 1 2 1 2
3 4 3 4 3 4 3 4
ฝึ กการทางานเป็ นทีม C การทาโครมาโทรกราฟี
ฝึ กการเป็ นวิทยากรทีม
มีอปกรณ์ น้อย ลดเวลาทีใช้ สอน
ุ ่ 1 2 1 2
3 4 3 4

43. << ศูนย์ การเรียน >>
* แก้ปัญหา เรื่อง - เวลาเรียนน้ อย สอนไม่ ทัน
- อุปกรณ์ / สื่ อ ไม่ เพียงพอ
- ให้ นักเรียน ได้ รับประสบการณ์ ตรง
ศูนย์ที่ 1
การกลัน ่
ศูนย์ที่ 5 ศูนย์ที่ 2
การกรอง การกลันด้วยไอนา
่ ้
ศู นย์ สารอง
ศูนย์ที่ 4 ศู นย์ ที่ 3
การตกผลึก การแยกสารโดยวิธี โครมาโทกราฟรี

44. การจัดกิจกรรมที่เน้ นกระบวนการกลุ่ม
4. จัดกลุ่มเรี ยนรู้ แบบจิกซอว์ (Jigsaw)
๊
A1 B1 A2 B2 A1 A2 B1 B2 C1 C2
F1 C1 F2 C2
E1 D 1 E2 D2 A3 A4 B3 B4 C3 C4
Home
Expent Group
Group
A3 B3 A4 B4 F 1 F2 E1 E2 D1 D2
F3 C3 F4 C4
F 3 F4 E3 E4 D3 D4
E3 D 3 E4 D4
ฝึ กการเป็ นวิทยากร ทาให้ เกิดปฏิสัมพันธ์ ทังห้ อง
้

45. การจัดการเรี ยนการสอนแบบกระตือรื อร้ น
(Active Learning and Teaching)

46. พีรามิดการเรียนรู้ ของวิธีการสอนแบบกระตือรือร้ น
ค่ าร้ อยละเฉลียอัตราความคงทน
่
พีรามิดการเรียนรู้ บรรยาย 5
การอ่าน 10
สื่ อโสตทัศนูปกรณ์ 20
การสาธิต 30
การอภิปรายกลุ่ม 50
การลงมือปฏิบัติ 75
การสอนผู้อน/การใช้ สิ่งที่เรียนรู้ ทนที
ื่ ั
90

47. 1.จากวรสารวิชาการปี ที่6 ฉบับที9 เดือนกันยายน 2546 ของสพฐ.
่
- ผู้เรียนเรียนรู้ แบบมีความหมาย
- การเรียนแบบร่ วมมือระหว่ างผู้เรี ยน
- ครู ลดบทบาทในการสอน การให้ ความรู้
- ครู เพิมกิจกรรมให้ ผ้ เู รียนเกิดความกระตือรือร้ น
่
- จัดให้ มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยพูด เขียน อภิปราย

48. 2. ทฤษฏีการเรียนรู้ Active Learning โดยครูฌอง
( August,2009 865views) (จากเว็บไซด์ :: www.pochanukul.com)
- ให้ นักเรียนกระทามากกว่ าฟัง
- เรียนรู้ โดยการอ่าน เขียน โต้ ตอบ วิเคราะห์ ปัญหา
- ใช้ กระบวนการคิดชั้นสู ง
(คิดวิเคราะห์ สั งเคราะห์ ประเมินค่ า)

49. 3. Bonwell,1991
Active Learning เป็ นการจัดการเรียนรู้ บนความเชื่ อ 2 ประการ
1 . ) ก า ร เ รี ย น รู้ เ ป็ น ค ว า ม พ ย า ย า ม โ ด ย ธ ร ร ม ช า ติ ข อ ง ม นุ ษ ย์
2.) แต่ ล ะบุ ค คลมี แ นวทางในการเรี ย นรู้ ที่ แ ตกต่ า งกั น (Meyers and
Jones,1993) โดยผู้เรี ยนจะถูฏเปลี่บนบทบาทจากผู้รับความรู้ (Receive)
ไปสู่ การมี ส่ วนร่ ว มในการสร้ า งความรู้ (co-creaters)(Fedler and
Brent,1996)

50. งานวิจัยผลงานเชี่ยวชาญพิเศษ(คศ.5)ของ ครู ศรีลกษณ์ ผลวัฒนะ
ั
8.มีผลให้ ผลสัมฤทธิ์สูงขึน
้
1.ผู้เรียนกระตือรือร้ นทา
ผลการสอบเข้ ามหาวิทยาลัย กิจกรรมอย่ างต่ อเนื่อง 2.กิจกรรมหลากหลาย
เพิมขึนเป็ นร้ อยละ 90.83
่ ้
7.ประเมินผลอย่ างต่ อเนื่อง 3.ฝึ กทักษะการคิด
สะสมรวบรวมตลอดภาคเรียน วิเคราะห์ คิดแก้ ปัญหา
ทากิจกรรมเพือนคู่คิด
่
6.นักเรียนมีโอกาสพัฒนา ทุกกิจกรรมมีคะแนน
คะแนนจากผลการทา เป็ นเปาหมาย
้
กิจกรรมและการสอบ
สอบแบบ
5.ใช้ ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คด เน้ น
ิ เพื่อนคู่คิด
4.ตรวจสอบความเข้ าใจทันที
การแลกเปลียนเรียนรู้ และตรวจสอบ
่
ทีเ่ รียนจบ สอบแบบ
ผลการเรียนรู้แบบเพือนคู่คด
่ ิ
Open book

51. 2. นักเรียนมีส่วนร่ วมในการเรียนรู้ และมีปฏิสัมพันธ์ ระหว่ างนักเรียน-นักเรียน ครู-นักเรียน
3. มีการทางานเป็ นกลุ่ม มีวนัย
ิ
1. เน้ นผู้เรียนเป็ นสาคัญ
4. นักเรียนเป็ น
9. ครู เป็ นผู้แนะนา ผู้รับผิดชอบ
นาอภิปราย ในการเรียนรู้
ตั้งคาถาม และ
อานวยความสะดวก 5. เน้ นทักษะกระบวนการ
ใช้ ทกษะการแก้ ปัญหา
ั
8. มีการทดสอบ
ประเมินงานตนเอง 7. มีการฟัง อ่ าน พูด เขียน 6. มีการแลกเปลียนเรียนรู้
่
และปรับปรุงพัฒนา แบบกระตือรือร้ น

52. เทคนิคการจัดการเรียนรู้ แบบกระตือรือร้ น
นาเข้ าสู่ บทเรียน
ฝึ กทักษะการคิดในเวลา ตั้งคาถามสาคัญ
สร้ างความสนใจ
- กิจกรรมการเรียนรู้
สาธิต เล่ าเรื่อง สนทนา ถ้ าสามารถหากิจกรรมที่สอดคล้ อง - การปฏิบัติ
การทดลองสั้น ๆ กับบทเรียนอาจไม่ ได้ จัดทุกครั้ งที่ - ใช้ เทคนิคเพือนคู่คิด
่
สอน - กิจกรรมกลุ่ม
สะสมรวบรวมต่ อเนื่อง
- แลกเปลียนเรียนรู้
่
ฯลฯ
บันทึกคะแนนพัฒนา
ประเมินผลทันที
- คะแนนเดียว ่
- เพือนคู่คด
่ ิ
ให้ โอกาสพัฒนางานผลงาน บันทึกคะแนน ร่ วมทางาน, สอน
สอบใหม่
ได้คะแนนเท่ ากัน

53. ตัวอย่ าง แบบบันทึกคะแนนการประเมินเพือพัฒนา ่
วิชา.............................................................................. ชั้น..................................
ภาคเรียนที่......................................... ปี การศึกษา........................................
ที่ ชื่อ ครังที่ 1
้ ครังที่ 2
้ ครังที่ 3
้ ครังที่ 4
้ ครังที่ 5
้ ครังที่ 6
้ ครังที่ 7
้ ครังที่ 8
้ รวม เทียบคะแนน
นามสกุล 80
10 พัฒนา 10 พัฒนา 10 พัฒนา 10 พัฒนา 10 พัฒนา 10 พัฒนา 10 พัฒนา 10 พัฒนา
1
2
3
4
5
6
7
8
ข้ อแนะนา 1. คะแนนประเมินเพือพัฒนา ครูกาหนดเองตามความเหมาะสม ว่าควรเก็บกี่ครั้ง
่
คะแนนเทียบ จากคะแนนเต็มที่รวมไว้แล้ ว เทียบเป็ นคะแนนจริงที่กาหนด
เป็ นคะแนนเก็บเป็ นการประเมินตามสภาพจริงระหว่างภาค
2. คะแนนแต่ละครั้งควรเท่ ากันเช่ น 10 คะแนน ถ้ านักเรียนผิด 1 ข้ อ ถูกหัก 1 คะแนน
ผิด 2 ข้ อ หัก 2 คะแนน ผิด 3 ข้ อ หัก 3 คะแนน แล้ วให้ โอกาสนักเรียนพัฒนาคะแนน

54. เป็ นรู ปธรรมมากขึน
้ นักเรียนได้ ฝึกทักษะมากขึน
้
นักเรียนเข้ าใจได้ รวดเร็ว
ช่ วยสร้ างพฤติกรรมการเรียนรู้ ลดเวลาในการสอน
ทีพงประสงค์
่ ึ
ประโยชน์ ของสื่ อ/นวัตกรรม นักเรียนตรวจสอบ
ทางการศึกษา ผลการเรี ยนรู้ มากขึน
้
ช่ วยยกระดับผลสั มฤทธิ์
ทางการเรียน บทเรียนน่ าสนใจ
ช่ วยสร้ างบรรยากาศการเรียนรู้

55. มาตรฐาน ตัวชีวด
้ั
2.นาปัญหาสาคัญ
9.ทดลองใช้ 1.ศึกษาหลักสู ตร จากบันทึกหลัง
สอนมาแก้ ไข
8.จัดทาให้ 3.ศึกษาแนวคิด
สมบูรณ์
ขั้นตอนการ ทฤษฏี งานวิจยที่
ั
สร้ างนวัตกรรม เกียวข้ อง
่
4.ศึกษารูปแบบ
7.สร้ างต้ นแบบ ของนวัตกรรม
6.กาหนดกรอบ 5.เลือกประเภท
แนวคิด นวัตกรรม

57. MATCH THE MACHINE
1
2
3
4
5
6

60. คาชี้แจง ให้นกเรี ยนระบุชื่อสิ่ งมีชีวตและสิ่ งที่ไม่มีชีวตพร้อมทั้งระบายสี
ั ิ ิ

61. คาชีแจง จงระบุส่วนประกอบของพืช หมายเลข 1 ,2,3,4 และ เขียนหน้ าที่ของส่ วนประกอบแต่ ละ
้
ส่ ว4.............................
น 1.............................
. อย่ างละ 3 ข้ อ .
............................... ...............................
............................... ...............................
. 4 .
............................... ...............................
. . 2.............................
. 2
...............................
3............................. ...............................
. 3 .
............................... ...............................
............................... .
.
...............................
.

62. คาชี้แจง
ให้ นักเรี ยนจับคู่ ศึกษาภาพ
ต่ อไปนี้ แล้วตอบคาถาม

66. การประเมินผลแบบเดิม
สอน เรียน ประเมิน
( Teach ) ( Lean )
การประเมินผลแบบใหม่
<< กระบวนการประเมินสภาพจริง >>

67. หลักการประเมินผลแนวใหม่
• สอดคล้ องกับสภาพจริง (Authentic)
• เคลื่อนไหวต่ อเนื่อง ( Dynamic)
• สะสมรวบรวม (Collection)
• ทาด้ วยตนเอง (Self-Director)
• สะท้ อนตนเอง (Self-Reflection)
• ตอบตรงประเด็น (Responsive)

68. เทคนิคการวัดผลแนวใหม่
• ภาระงาน (Task) ต้ องสร้ าง Rubric ให้ คะแนน
• แฟมสะสมงาน (Port Folio) ต้ องสร้ าง Rubric ให้ คะแนน
้
• การสังเคราะห์ และการวัดของครู
• แบบทดสอบ
• แบบสารวจ แบบสังเกตกระบวนการ แบบสัมภาษณ์
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้
• รายการเพิ่มเติมอื่นๆ

69. การออกแบบการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง
การสอนของครู
การจัดการเรียนรู้
ศึกษาจากตารา
นักเรียนต้ องใช้ ความคิด
ปฏิบัติ
นักเรียนมีส่วนร่ วมในการกาหนดกิจกรรมด้ วยความเต็มใจ
การเรียนรู้ในสภาพจริง
ประเมินตามสภาพจริง

70. องค์ประกอบสาคัญ
ในการออกแบบการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง
ตัวบ่ งชี้ วิธีการ เครื่องมือ แหล่ งข้ อมูล
ศักยภาพ
ระบุตว 1. การสังเกตขณะผู้เรียน
ั 1. แบบสังเกตการทางาน ระบุ
บ่ งชี้ที่ ทากิจกรรม แหล่ งข้ อมูล
สอดคล้ อง 2. การซักถาม 2. คาถามที่กระตุ้นการ ที่
กับวิธีการ คิด การค้ นคว้ า ประเมินผล
ประเมิน 3. การร่ วมกันอภิปรายสรุป 3. แบบสังเกต ระบุประเด็น เช่ น ผลงาน
หลัก ๆ การอภิปราย ตัวนักเรียน
4. การพิจารณา 4. แบบตรวจสอบรายการ
ความสาเร็จของงาน ขั้นตอนของกระบวนการ
ตั้งแต่ ต้นจนผลงานสาเร็จ

71. ตัวบ่ งชี้
ศักยภาพ วิธีการ เครื่องมือ แหล่ งข้ อมูล
5. การตรวจแบบฝึ กหัด 5. เฉลยแบบฝึ กหัด ระบุ
ระบุตว ั
แหล่ งข้ อมูล
บ่ งชี้ที่ 6. การใช้ แบบทดสอบ 6. ข้ อทดสอบแบบ ที่
สอดคล้ อง เลือกตอบ 4 ตัวเลือก ประเมินผล
กับวิธีการ
ประเมิน 7.การใช้ แฟมคุณภาพงาน
้ 7. ตัวอย่ างของผลงานที่ เช่ น ผลงาน
สะท้ อนทักษะการเรียนรู้ ตัวนักเรียน
วิธีคดของผู้เรียน
ิ
8. บันทึกทักษะการเรียนรู้ 8. แบบบันทึกการเรียนรู้
ส่ งเสริมศักยภาพของ
ผู้เรียน
9. สัมภาษณ์
9. แบบสัมภาษณ์

72. แนวทางการวัดและประเมินผล
- ประเมินความสามารถทีแท้ จริงของผู้เรียน
่
- ประเมินให้ เชื่อถือได้
- ผู้เรียนสามารถปฏิบตได้ ตามมาตรฐาน
ั ิ
ที่กาหนด

73. มีแนวทางการประเมินอย่ างไร
- ผู้เรียนต้ องรู้อะไร ทาอะไรได้
- ผู้เรียนมีกระบวนการเรียนรู้อย่ างไร
- ผู้เรียนมีความรู้และสามารถปฏิบติได้
ั
ตามมาตรฐานที่กาหนดไว้ จริงหรือไม่

74. การประเมินตามสภาพจริง
ความหมาย
• เป็ นการวัด การประเมิน กระบวนการทางาน
ของสมองและจิตใจของผู้เรียน
อย่ างตรงไปตรงมาตามทีทา่

76. ควรให้ สอดคล้ องกับตัวชี้วดและวัดระดับพฤติกรรมทีสูงกว่ าความรู้ ความจา
ั ่
พุทธิพสัย
ิ
ประเมินค่ า
สังเคราะห์
Bloom วิเคราะห์
นาไปใช้
ความเข้ าใจ
ความรู้ / จา
นาไปใช้
ทักษะกระบวนการ
ความเข้ าใจ
รู้ / จา
Klopfer

77. จุดประสงค์ ระบุปัจจัยทีจาเป็ นในการงอกของเมล็ดได้
่
พฤติกรรม ความเข้ าใจ
โจทย์ ถ้ าขาดสิ่ งใดต่ อไปนีเ้ มล็ดของพืชก็ยงสามารถงอกได้
ั
1. นาหรือความชื้น
้
2. อุณหภูมิ
3. อากาศ
4. แสงสว่าง

78. จุดประสงค์ นาความรู้ เรื่องการดูดกลืนความร้ อนไปใช้ ในชี วตประจาวัน
ิ
พฤติกรรม ความเข้ าใจ
โจทย์ ในชีวตประจาวันเราควรเลือกใส่ เสื้อสีใดมากทีสุดเพือทาให้
ิ ่ ่
ร่ างกายได้ รับรังสีอนฟราเรดน้ อยทีสุด
ิ ่
1. สีดา
2. สีขาว
3. สีเหลือง
4. สีม่วง

79. แบบประเมินตนเอง
ให้ นักเรียนประเมินตนเองจากผลที่ได้ จากการเรียนรู้ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ วิชา.........
ตามหัวข้ อต่ อไปนี้ โดยทาเครื่องหมาย  ลงในช่ องที่ตรงกับระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีแต่ ละหัวข้ อ
ชื่อ............................................................................................ชัน....................เลขที่
้
..................
สั ปดาห์ ระดับความพึงพอใจ
ที่ เรื่อง/หัวข้ อย่ อย บันทึกเพิมเติม
่
มาก ปานกลาง น้ อย
1. 1. เซลล์
1.1ความหมายและส่ วนประกอบ
ของเซลล์ พช เซลล์ สัตว์
ื
1.2 หน้ าทีของส่ วนประกอบต่ าง ๆ ของเซลล์
่
1.3การทดลองเรื่อง
..............................................
2. 2. x x x
2.1........................................................................
2.2 ........................................................................

80. แบบประเมินการนาเสนอผลงานกลุ่ม
กลุ่มที่
รายการประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 หมายเหตุ
1. เทคนิคการนาเสนอ
2. ความร่ วมมือภายในกลุ่ม
3. สื่อ/อุปกรณ์ที่ใช้ ในการรายงาน
4. สาระที่ได้จากการรายงาน
กลุ่มที่ประเมิน ................................................................................
สมาชิก 1. ................................................................................
2. ................................................................................
3. ................................................................................
4. ................................................................................

81. แบบประเมินพฤติกรรมด้ านทักษะปฏิบัติ
เรื่อง................................................................................................ชัน
้
................................... จัดเก็บ
จัดพืนที่
้
กลุ่มที่/ชื่อ วางแผน ใช้ อุปกรณ์ การทดอง อุปกรณ์ และ ทางานเสร็จ รวม
ทางาน และ เหมาะสม สารเคมีได้ ในเวลาที่ (10
ร่ วมกัน สารเคมีได้ ปลอดภัย เรียบร้ อย กาหนด คะแนน)
ถูกต้ อง สะอาด
กลุ่มที่ 1
...........................
...........................
กลุ่มที่ 2
...........................
...........................
กลุ่มที่ 3
.......................
........................
กลุ่มที่ 4
......................
.....................
เกณฑ์ การให้ คะแนน 3 = ถูกต้ อง ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรุ ง

82. ภาระงาน ความรู ้+ทักษะ
(ความสามารถ)
มีทกษะ
ั
รู้และคิด / และกระบวนการ
ตังใจเอาใจใส่และมีผลงาน
้

83. 1.ภาระงานตาม 2.ภาระงานตาม
3.โครงงานทีใช้
่
คาสั่ ง ธรรมชาติ
เวลานาน
7.การนาเสนอ ชนิดของ
ด้ วยวาจา/ 4.แฟมสะสม
้
การแสดงละคร ภาระงาน งาน
6.การทดลอง การปฏิบัติ 5.การแสดงการสาธิต

88. กิจกรรม เรื่อง การถ่ ายทอดพลังงาน
คาชี้แจง ให้ นักเรียนจัดกลุ่ม กลุ่มละ2คน ทากิจกรรมต่ อไปนี้
1. ระบายสี 2. เล่าเรื่องการถ่ ายทอดพลังงาน 3. ระบุผู้ผลิต ผู้บริโภคอันดับ 1 ผู้บริโภคอันดับ 3
และผู้ย่อยสลาย 4.เติมศัพท์ ภาษาอังกฤษลงในช่ องสี่เหลียม่
1. เล่าเรื่องการถ่ ายทอดพลังงาน
...................................................................
...................................................................
...................................................................
...................................................................
...................................................................
...................................................................
...................................................................
2. ผู้ผลิตได้แก่ ............................................
3. กระบวนการที่ใช้ คอ................................
ื
4. ผู้บริโภคอันดับ 1 ได้แก่ ..........................
5. ผู้บริโภคอันดับ 3 ได้แก่ .........................
6. ผู้ย่อยสลาย ได้แก่ ...................................

89. กิจกรรม เรื่อง การถ่ ายทอดพลังงาน
คาชี้แจง ให้ นักเรียนจัดกลุ่ม กลุ่มละ2คน ทากิจกรรมต่ อไปนี้
1. ระบายสี 2. เล่าเรื่องการถ่ ายทอดพลังงาน 3. ระบุผู้ผลิต ผู้บริโภคอันดับ 1 ผู้บริโภคอันดับ 3
และผู้ย่อยสลาย 4.เติมศัพท์ ภาษาอังกฤษลงในช่ องสี่เหลียม่
1. เล่าเรื่องการถ่ ายทอดพลังงาน
...................................................................
...................................................................
...................................................................
...................................................................
...................................................................
...................................................................
...................................................................
2. ผู้ผลิตได้แก่ ............................................
3. กระบวนการที่ใช้ คอ................................
ื
4. ผู้บริโภคอันดับ 1 ได้แก่ ..........................
5. ผู้บริโภคอันดับ 3 ได้แก่ .........................
6. ผู้ย่อยสลาย ได้แก่ ...................................

93. กระบวนการออกแบบ backward Design
เริ่มจากการคิดทุกอย่ างให้ จบ
เริ่มต้ นจากปลายทางทีผลผลิตทีต้องการ
่ ่
= เป้ าหมายหรือมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วด
ั
“วางแผนการเรียนการสอนในสิ่งที่จาเป็ น
ให้ นักเรียนนาไปสู่ การสร้ างผลงาน
แห่ งการเรียนรู้ ”

94. • การออกแบบการเรียนรู้ Backward Design
ขั้นตอนที่ 1 การกาหนดเปาหมายการเรียนรู้ หรือมาตรฐานและตัวชี้วดสาระ
้ ั
พืนฐาน หรือผลการเรี ยนรู้ (สาระเพิมเติม) และจุดประสงค์ การเรี ยนรู้
้ ่
ขั้นตอนที่ 2 จัดทาแผนการประเมิน หรือวิเคราะห์ ร่องรอยผลงานผู้เรียน
ออกข้ อสอบ ภาระงาน / ปฏิบัติ / รายงาน
ขั้นตอนที่ 3 ออกแบบการเรี ยนรู้ หรือสอนตามแผนการประเมิน

95. ขั้นที่ 4 อะไรทีฉันควรทา เมือมีนักเรียนของฉัน
่ ่
ไม่ ร้ ูหรือไม่ สามารถทาสิ่ งนั้นๆ ได้
 การแยกกลุ่มออกจากกัน
 การสอนซ้า
 การคิดเทคนิคการสอนใหม่
 การสร้ างสื่ อ/นวัตกรรม
 ใช้ กระบวนการวิจัยเพือแก้ปัญหาหรือพัฒนา
่

96. งานจัดการเรียนรู้
P
วางแผน
งานกลุ่มสาระฯ, งานที่โรงเรียนมอบหมาย
A ตัดสินใจ D นาไปสู่การปฏิบัติ
C
ตรวจสอบ
ปรับ แก้ ไข หรือพัฒนาด้ วย PAOR
P P
R A R A
O O
ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3

97. แก้ ปัญหาการเรี ยนรู้ วิเคราะห์ ตัวชี้วด
ั
ด้ วยการวิจัยพัฒนา กาหนดการเขียน
จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
ต้ องประเมินให้ สรุปแนวทาง ออกแบบการวัด
ครอบคลุม K P A การจัดการเรียนรู้ และประเมินผล
ตามจุดประสงค์
ต้ องมีสื่อนวัตกรรม
สอนตามแนวการวัด
ใช้ เทคนิคที่ และประเมินผล
เหมาะสม

98. 7.เรียบเรียงผลการ 1.ปฏิบัติตาม
ปฏิบัติงาน/วิชาการ จรรยาบรรณวิชาชีพ
6.วิจัยพัฒนา ครู ดีในดวงใจ 2.รอบรู้ เรื่อง
และความสาเร็จ หลักสู ตร K P A
5.เทคนิคการสอน
สื่ อ การประเมิน 4.เสริมทักษะการ 3.ระบบดูแล
คิด แก้ปัญหา ช่ วยเหลือนักเรียน