อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ 33
- 1. รายงาน
เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
เสนอ
นาง จุฑารัตน์ ใจบุญ
จัดทาโดย
นางสาว สุพัตรา บัวอ่อน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 เลขที่ 15
รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี
โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
อาเภอ สิเกา จังหวัดตรัง
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555
- 2. ก
คานา
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ง. 33102 เรื่อง อาชญากรรม
คอมพิวเตอร์ จัดทาขึ้นเพื่อเป็นสื่อในการประกอบการเรียนการสอน เพื่อเป็นข้อมูลในการสืบค้นหรือ
ค้นคว้าเพื่อหาความรู้ และสาหรับผู้ที่สนใจใน เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
ผู้จดทาหวังว่า รายงานฉบับนี้จะสามารถเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่มีความสนใจทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็น ครู
ั
อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการงานอาชีพและเทคโนโลยี หรือผู้ที่สนใจอื่นๆก็ตาม ทั้งใน
เรื่องของพื้นฐานทางการงานอาชีพและเทคโนโลยี และเรื่องของอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ เพื่อไป
ประยุกต์ใช้ต่อไป
หากรายงานฉบับนี้เกิดข้อบกพร้องหรือผิดพลาดในฉบับรายงานประการใด ผู้จัดทาต้องข้ออภัยเป็น
อย่างสูงไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ผู้จัดทำ
- 3. ข
สารบัญ
เรื่อง หน้า
คานา ก
สารบัญ ข
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Computer Crime)
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ 1
อาชญากรคอมพิวเตอร์ 2
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ประเภทต่างๆ 3-4
จริยธรรมการใช้คอมพิวเตอร์ 5
แหล่งอ้างอิง 6
- 4. 1
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Computer Crime)
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ หมายถึง การกระทาผิดทางอาญาในระบบคอมพิวเตอร์ หรือการใช้
คอมพิวเตอร์เพื่อกระทาผิดทางอาญา เช่น ทาลาย เปลี่ยนแปลง หรือขโมยข้อมูลต่าง ๆ เป็นต้น ระบบ
คอมพิวเตอร์ในที่นี้ หมายรวมถึงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เชื่อมกับระบบดังกล่าวด้วย
สาหรับอาชญากรรมในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (เช่น อินเทอร์เน็ต) อาจเรียกได้อีกอย่างหนึ่ง คือ
อาชญากรรมไซเบอร์ (อังกฤษ: Cybercrime) อาชญากรที่ก่ออาชญากรรมประเภทนี้ มักถูกเรียกว่า
แครกเกอร์
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ คือ
1.การกระทาการใด ๆ เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ อันทาให้เหยื่อได้รับ
ความเสียหาย และผู้กระทาได้รับผลประโยชน์ตอบแทน
2.การกระทาผิดกฎหมายใด ๆ ซึ่งใช้เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ
และในการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่เพื่อนาผู้กระทาผิดมาดาเนินคดี
ต้องใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีเช่นเดียวกัน
การประกอบอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ได้ก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อเศรษฐกิจของประเทศจานวน
มหาศาล อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ จึงจัดเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ อาชญากรรมทางธุรกิจ
รูปแบบ หนึ่งที่มีความสาคัญ
- 5. 2
อาชญากรคอมพิวเตอร์
1. พวกเด็กหัดใหม่ (Novice)
2. พวกวิกลจริต (Deranged persons)
3. อาชญากรที่รวมกลุ่มกระทาผิด (Organized crime)
4. อาชญากรอาชีพ (Career)
5. พวกหัวพัฒนา มีความก้าวหน้า(Con artists)
6. พวกคลั่งลัทธิ(Dremer) / พวกช่างคิดช่างฝัน(Ideologues)
7. ผู้ที่มีความรู้และทักษะด้านคอมพิวเตอร์อย่างดี (Hacker/Cracker )
Hacker หมายถึง บุคคลผู้ที่เป็นอัจฉริยะ มีความรู้ในระบบคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี สามารถเข้าไปถึง
ข้อมูลในคอมพิวเตอร์โดยเจาะผ่านระบบ รักษาความปลอดภัยของ คอมพิวเตอร์ได้ แต่อาจไม่แสวงหา
ผลประโยชน์
Cracker หมายถึง ผู้ที่มีความรู้และทักษะทางคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี จนสามารถเข้าสู่ระบบได้ เพื่อ
เข้าไปทาลายหรือลบแฟ้มข้อมูล หรือทาให้ เครื่องคอมพิวเตอร์ เสียหายรวมทั้งการทาลายระบบปฏิบัติการ
ของเครื่องคอมพิวเตอร์
- 6. 3
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ประเภทต่างๆ
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Cyber-Crime) เป็นการกระทาที่ผิดกฎหมายโดยใช้วิธีการทาง
อิเล็กทรอนิกส์เพื่อโจมตีระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลที่อยู่บนระบบดังกล่าว ส่วนในมุมมองที่กว้างขึ้น
“อาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับคอมพิวเตอร์” หมายถึงการกระทาที่ผิดกฎหมายใดๆ ซึ่งอาศัยหรือมีความ
เกี่ยวเนื่องกับระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่าย อย่างไรก็ตาม อาชญากรรมประเภทนี้ไม่ถือเป็นอาชญากรรม
ทางคอมพิวเตอร์โดยตรง
ในการประชุมสหประชาชาติครั้งที่ 10 ว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและการปฏิบัติต่อผู้กระทาผิด (The
Tenth United Nations Congress on the Prevention of Crime and the Treatment of Offenders) ซึ่งจัดขึ้นที่
กรุงเวียนนา เมื่อวันที่ 10-17 เมษายน 2543 ได้มีการจาแนกประเภทของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ โดย
แบ่งเป็น 5 ประเภท คือ การเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต, การสร้างความเสียหายแก่ข้อมูลหรือโปรแกรม
คอมพิวเตอร์, การก่อกวนการทางานของระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่าย, การยับยั้งข้อมูลที่ส่งถึง/จากและ
ภายในระบบหรือเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และการจารกรรมข้อมูลบนคอมพิวเตอร์
โครงการอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์และการโจรกรรมทรัพย์สินทางปัญญา (Cyber-Crime and
Intellectual Property Theft) พยายามที่จะเก็บรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูล และค้นคว้าเกี่ยวกับอาชญากรรม
ทางคอมพิวเตอร์ 6 ประเภท ที่ได้รับความนิยม ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนและผู้บริโภค
นอกจากนี้ยังทาหน้าที่เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับขอบเขตและความซับซ้อนของปัญหา รวมถึงนโยบายปัจจุบัน
และความพยายามในการปัญหานี้
อาชญากรรม 6 ประเภทดังกล่าวได้แก่
1. การเงิน – อาชญากรรมที่ขัดขวางความสามารถขององค์กรธุรกิจในการทาธุรกรรม อี-คอมเมิร์ซ
(หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์)
2. การละเมิดลิขสิทธิ์ – การคัดลอกผลงานที่มีลิขสิทธิ์ ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและ
อินเทอร์เน็ตถูกใช้เป็นสื่อในการก่ออาชญากรรม แบบเก่า โดยการโจรกรรมทางออนไลน์หมาย
รวมถึง การละเมิดลิขสิทธิ์ ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อจาหน่ายหรือเผยแพร่ผลงาน
สร้างสรรค์ที่ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์
- 7. 4
3. การเจาะระบบ – การให้ได้มาซึ่งสิทธิในการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายโดยไม่ได้รับ
อนุญาต และในบางกรณีอาจหมายถึงการใช้สิทธิการเข้าถึงนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้การ
เจาะระบบยังอาจรองรับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ในรูปแบบอื่นๆ (เช่น การปลอมแปลง การ
ก่อการร้าย ฯลฯ)
4. การก่อการร้ายทางคอมพิวเตอร์ – ผลสืบเนื่องจากการเจาะระบบ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความ
หวาดกลัว เช่นเดียวกับการก่อการร้ายทั่วไป โดยการกระทาที่เข้าข่าย การก่อการร้ายทาง
อิเล็กทรอนิกส์ (e-terrorism) จะเกี่ยวข้องกับการเจาระบบคอมพิวเตอร์เพื่อก่อเหตุรุนแรงต่อบุคคล
หรือทรัพย์สิน หรืออย่างน้อยก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว
5. ภาพอนาจารทางออนไลน์ – ตามข้อกาหนด 18 USC 2252 และ 18 USC 2252A การประมวลผล
หรือการเผยแพร่ภาพอนาจารเด็กถือเป็นการกระทาที่ผิดกฎหมาย และตามข้อกาหนด 47 USC 223
การเผยแพร่ภาพลามกอนาจารในรูปแบบใดๆ แก่เยาวชนถือเป็นการกระทาที่ขัดต่อกฎหมาย
อินเทอร์เน็ตเป็นเพียงช่องทางใหม่สาหรับอาชญากรรม แบบเก่า อย่างไรก็ดี ประเด็นเรื่องวิธีที่
เหมาะสมที่สุดในการควบคุมช่องทางการสื่อสารที่ครอบคลุมทั่วโลกและเข้าถึงทุกกลุ่มอายุนี้ได้
ก่อให้เกิดการถกเถียงและการโต้แย้งอย่างกว้างขวาง
6. ภายในโรงเรียน – ถึงแม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะเป็นแหล่งทรัพยากรสาหรับการศึกษาและสันทนาการ แต่
เยาวชนจาเป็นต้องได้รับทราบเกี่ยวกับวิธีการใช้งานเครื่องมืออันทรงพลังนี้อย่างปลอดภัยและมี
ความรับผิดชอบ โดยเป้าหมายหลักของโครงการนี้คือ เพื่อกระตุ้นให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับ
ข้อกาหนดทางกฎหมาย สิทธิของตนเอง และวิธีที่เหมาะสมในการป้องกันการใช้อินเทอร์เน็ต
ในทางที่ผิด
- 8. 5
จริยธรรมการใช้คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทต่อการดารงชีวิตประจาวันของมนุษย์มากยิ่งขึ้น เนื่องจาก
คอมพิวเตอร์มีความสามารในการจัดเก็บข้อมูประมวลผลสารสนเทศ และเป็นเครื่องมือ
การสือสารที่รวดเร็ว ส่งผลให้การดาเนินกิจกรรมต่างๆ ทั้งที่บ้าน ที่ทางาน โรงเรียน และ
หน่วยงานธุรกิจมีประสิทธิภาพสูงขึ้น คาดการณ์กันไว้ว่า ใน 2-3 ปีข้างหน้า ความก้าวหน้าด้าน
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จะมีการพัฒนาในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอร์ฟแวร์
การสื่อสารและเครือข่ายแบบไร้สาย และครือข่ายเคลื่อนที่ ตลอดจนเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์
มนุษย์ได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อจะได้นาอุปกรณ์ทาง
เทคโนโลยีเหล่านั้นมาช่วยอานวนความสะดวก ลดขั้นตอนการทางาน ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต หรือ
แม้แต่การช่วยชีวิตมนุษย์ เช่น การใช้หุ่นยนต์ในการเก็บกู้ระเบิด และผ่าตัดรักษาโรค
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จะมีประโยชน์มากเพียงไรก็ตาม หากพิจารณาอีกด้านหนึ่ง
แล้ว คอมพิวเตอร์ก็จอาจจะเป็นภัยได้เช่นกัน หากผู้ใช้ไม่ระมัดระวังหรือนาไปใช้ในทางที่ไม่
ถูกต้อง ดังนั้น ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ร่วมกันในสังคม ในแต่ละประเทศจึงได้มีารกาหนด
ระเบียบ กฎเกณฑ์ รวมถึงกฎหมายที่ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อให้เกิดคุณธรรมและ
จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
6
- 9. แหล่งอ้างอิง
http://www.gotoknow.org/posts/372559
http://www.microsoft.com/thailand/piracy/cybercrime.aspx