SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 11
เรื่อง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนาเสนองาน
ผู้จัดทา
ด.ช.วงศกร ไผทรักษาธรรม ม.3/3 เลขที่ 10
ด.ช.ศุภวิชญ์ ชูเชิด ม.3/3 เลขที่ 12
นาเสนอ
มิสชุติกาญจน์ หว้าปราง
โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง
ปีการศึกษา 2558
การนาเสนอ
หลักการนาเสนอข้อมูลและสร้างสื่อนาเสนอ การนาเสนองานหรือผลงานนั้น
สื่อนาแสนอเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมเนื้อหา ของผู้บรรยายไปยังผู้ฟังและผู้ชม ดังนั้น
สื่อจึงมีบทบาทสาคัญอย่างมาก สื่อที่ดี จะช่วยให้การถ่ายทอดเนื้อหาสาระทาได้อย่าง
รวดเร็วยิ่งขึ้น ผู้ฟังและผู้ชมจะสามารถ จดจาเนื้อหาสาระได้นานและเข้าใจในเนื้อหาได้ดี
มากขึ้น ความหมายการนาเสนอ การนาเสนอข้อมูล หมายถึง การสื่อสารเพื่อเสนอ
ข้อมูล ความรู้ ความคิดเห็น หรือความต้องการไปสู่ผู้ชม ผู้ฟังโดยใช้เทคนิคหรือวิธีการ
ต่าง ๆ อันจะทาให้บรรลุ ผลสาเร็จตามจุดมุ่งหมายของการนาเสนอ
วัตถุประสงค์ในการนาเสนอ
จุดมุ่งหมายในการนาเสนอ
เพื่อให้ผู้ชม ผู้ฟังรับเข้าใจสาระสาคัญของการนาเสนอข้อมูล
ให้ผู้ชม ผู้ฟังเกิดความประทับใจและนาไปสู่ความเชื่อถือในข้อมูล ที่นาเสนอรวมทั้งทาให้เกิด
ความสามารถในการจดจาได้มากขึ้น หลักการพื้นฐานของการนาเสนอข้อมูล
การนาเสนอข้อมูลมีจุดเน้นสาคัญคือ
การดึงดูดความสนใจ โดยการออกแบบให้สิ่งที่ปรากฏต่อสายตานั้นชวนมอง และมีความสบายตา
สบายใจ
มีความชัดเจนและความกระชับของเนื้อหา คือข้อความต้องสั้นแต่ได้ใจความ ชัดเจนและ
ภาพประกอบต้องมีส่วนสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับข้อความที่นาเสนอ
ความเหมาะสมกับกลุ่มเป้ าหมาย ความออกแบบสื่อนาเสนอต้องคานึงถึงกลุ่ม เป้ าหมาย เช่น
กลุ่มเป้ าหมายเป็นเด็ก ควรออกแบบโดยการใช้สีสด ๆ และมีภาพการ์ตูน ประกอบ แต่ถ้า
กลุ่มเป้ าหมายเป็นผู้ใหญ่และเนื้อหานาเสนอเป็นเรื่องวิชาการ การใช้สีสัน มากเกินไปและใช้ภาพ
การ์ตูนมาประกอบก็อาจจะส่งผลให้การนาเสนอดูไม่น่าเชื่อถือ รูปแบบการนาเสนอข้อมูล
ผู้ฟัง
1) ภาษา ต้องเหมาะสมกับระดับวัย การศึกษาของกลุ่มเป้ าหมาย สื่อความเข้าใจได้ดี
2) การใช้เสียง ควรใช้เสียงให้เป็นธรรมชาติ ระดับเสียงดังสม่าเสมอ
3) การใช้สายตา เป็นสิ่งที่ดึงดูดสายตาผู้คน และควรสบตาให้ทั่วถึง
4) การแต่งกาย เป็นสิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาผู้คน สามารถบ่งบอกถึงบุคลิกภาพ นิสัย และ
ทาให้ผู้ฟังเกิดความประทับใจและน่าเชื่อถือ
การนาเสนอ
ขั้นตอนการนาเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนาเสนองาน มีขั้นตอนดังนี้
1.ศึกษาวัตถุประสงค์ในการนาเสนอ เพื่อให้นาเสนอได้ตรงประเด็น กระชับ และรูว่าต้องมีข้อมูลในกานนาเสนอ
มากน้อยเพียงใด
2.วิเคราะห์และเข้าใจกลุ่มเป้ าหมาย เป็นการศึกษาเข้าใจธรรมชาติของกลุ่มเป้ าหมายที่เป็นผู้รับการนาเสนอ โดยมี
แนวการศึกษากลุ่มเป้ าหมายที่ได้รับการนาเสนอ ดังนี้
1) กลุ่มเป้ าหมายคือใคร เกี่ยวข้องกับเรื่องที่นาเสนออย่างไร
2) แนวความคิดและประสบการณ์ของกลุ่มผู้ฟัง
3) ความคาดหวังของกลุ่มผู้ฟัง
4) ระดับความรู้ความเข้าใจ และประสบการณ์ในเนื้อหาที่นาเสนอของกลุ่มผู้ฟัง
5) ภูมิหลังหรือเรื่องราวที่อาจมีอิทธิพลต่อกลุ่มผู้ฟัง
6) ทัศนคติและสิ่งที่ผู้ฟังรับรู้เกี่ยวกับผู้นาเสนอ
7) ข้อมูลอื่นๆ เช่น จานวนผู้ฟัง ช่วงเวลาในการนาเสนอ ระยะเวลาที่ใช้ในการนาเสนอ ลาดับการนาเสนอ สถานที่
ประชุม
3. วางแผนการนาเสนอ เป็นการเตรียมเนื้อหาที่จะสื่อให้กลุ่มเป้ าหมายได้รับข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้และ
ควรกาหนดขอบเขตเนื้อหาที่กลุ่มเป้ าหมายควรรู้
4.ผลิตสื่อประกอบการนาเสนอ จะช่วยให้กลุ่มเป้ าหมายมองเห็นภาพรวมของข้อมูลและติดตามเนื้อหาได้ทัน
5.เตรียมบุคลิกภาพขณะนาเสนอ บุคลิกภาพที่ดีเป็นสิ่งสาคัญที่ทาให้เกิดความมั่นใจในขณะพูดทาให้ผู้ฟังประทับใจ
และสนใจติดตาม
ข้อมูลที่ใช้ในการนาเสนองาน
การนาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ
วิธีการนาเสนอสารสนเทศเพื่อให้เกิดความเข้าใจและใช้ประโยชน์จากสารสนเทศ สามารถแสดงผลออก
ภายนอกได้ดังนี้
-ลักษณะของสารสนเทศที่นาเสนอ
1.ข้อมูลตัวเลข (numerical data) ได้แก่ กลุ่มตัวเลขทั้งที่เป็นจานวนเต็ม ทศนิยม หรือ
จานวนจริง ข้อมูลลักษณะนี้ใช้กันในการศึกษา คานวนทางวิทยาศาสตร์ การพยากรอากาศ เศรษฐกิจ ข้อมูล
ดัชนีหุ้นของตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น
2.ข้อมูลตัวอักขร (alphabetical data) ได้แก่ ตัวอักษรที่ใช้ในการเขียนภาษาต่างๆ
ทุกภาษา เช่น ตัวอักษร A-Z ,ก-ฮ,สระ,วรรณยุกต์ รวมทั้งสัญลักษณ์และเครื่องหมายต่างๆซึ่งจะทาให้
สามารถครอบคลุมสารสนเทศที่ใช้กันทั่วไปในทุกวงการ ทั้งการศึกษา ค้นคว้า วิจัย วิทยาศาสตร์ และ
ธุรกิจการพานิชย์เป็นต้น
3.ข้อมูลกราฟฟิ ก (Graphic data) ได้แก่ ข้อมูลที่มีลักษณะเป็นรูปภาพ รูปจาลองรูป
วาด การวิเคราะห์ข้อมูลตัวเลขแลละแสดงผลในรูปของแผนผัง แผนภูมิ กราฟต่าง ๆ
4.ข้อมูลเสียง (Voice Data) ได้แก่ ข้อมุลที่ใช้ในการสื่อสารด้วยภาษาพูด เสียงร้อง เสียง
กริ่ง เสียงจากวิทยุ ฯลฯ โดยทัวไปมักจะใช้ข้อมูลหลายประเภทควบคู่กันไปในการสื่อสารและปฏิบัติงาน เช่น
ใช้ข้อมุลเสียงในการสื่อสาร พูดคุย ประชุมและสั่งงาน เขียนบันทึกข้อความในการสั่งการและสื่อสาร และอ่านข้อมูล
ทั้งที่เป็นตัวอักษร รูปภาพ เป้ นต้น
กระบวนการในการนาเสนอ
- เทคนิคการนาเสนอสารสนเทศ ในการนาเสนอสารสนเทศ ให้น่าสนใจสามารถดึงดูดความสนใจของใช้
ให้เกิดความประทับใจ และง่ายต่อการนาไปใช้งานนั้น มีเทคนิคที่ช่วยให้การนาเสนอมีประสิทธิภาพ ดังนี้
1.ลดหรือตัดข้อมูลข่าวสารที่ไม่จาเป็นออก นาเสนอเฉพาะสิ่งที่เป็นแก่นสารสาระสาคัญ
เท่านั้น
2.จัดวางให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสม ระมัดระวังในการจัดรูปแบบ มีการเว้นวรรคตอน
และจัดวางในตาแหน่งที่เหมาะสม ทั้งบนหน้าจอและหน้ากระดาษ จัดรูปแบบตามลักษณะ คุณสมบัติของ
ข้อมูลที่นาเสนอ เช่น นาเสนอตัวเลข ในรูปแบบตาราง รูปกราฟ สรุปแสดงในรูปแบบของการเปรียบเทียบ
เป็นอัตราส่วน อัตราร้อยละ ซึ่งจะทาให้เข้าใจง่ายขึ้น
3.ใช้สีสันมาช่วยในการนาเสนอ การเน้นข้อมูลที่สาคัญ ด้วยสีต่าง ๆ จะทาให้น่าสนใจ
มองเห็นได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่ถ้าใช้สีมากเกินไปก็จะทาให้เกิดการสับสนดูยาก ไม่สบายตา
4.การใช้กราฟฟิกมาช่วยในการนาเสนอ รูปภาพหรือกราฟฟิกนั้นสามารถอธิบาย
ความหมายของข้อมูลต่างๆ แทนข้อความได้มากมายโดยใช้เวลาอันสั้น ช่วยลดเวลาในการอ่านและเก็บ
รายละเอียดหรือทาให้เข้าใจเนื้อหาสาระได้ในระยะเวลาอันสั้น
หลักการนาเสนอที่ดี
นอกจากการเลือกรูปแบบของการนาเสนอ ให้ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว จะต้องคานึงถึงลักษณะของ
การนาเสนอ ที่จะช่วยให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ของการนาเสนอด้วย โดยทั่วไปลักษณะของการ
นาเสนอที่ดี ควรมีดังต่อไปนี้
1. มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน กล่าวคือ มีความต้องการที่แน่ชัดว่า เสนอเพื่ออะไร โดย
ไม่ต้องให้ผู้รับรับการนาเสนอต้องถามว่าต้องการให้พิจารณาอะไร
2. มีรูปแบบการนาเสนอเหมาะสม กล่าวคือ มีความกระทัดรัดได้ใจความ เรียง
ลาดับไม่สนใช้ภาษาเข้าใจง่าย ใช้ตาราง แผนภูมิ แผนภาพ ช่วยให้พิจารณาข้อมูลได้สะดวก
3. เนื้อหาสาระดี กล่าวคือ มีความน่าเชื่อถือ เที่ยงตรง ถูกต้อง สมบูรณ์ครบถ้วน
ตรงตามความต้องการ มีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันทันสมัย และมีเนื้อหาเพียงพอแก่การพิจารณา
4. มี ข้อเสนอที่ดี กล่าวคือ มีข้อเสนอที่สมเหตูสมผล มีข้อพิจารณาเปรียบเทียบ
ทางเลือกที่เห็นได้ชัด เสนอแนะแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนาเสนองาน
การนาเสนอข้อมูลด้วยการใช้เทคโนโลยี
การนาเสนอข้อมูลด้วยการใช้เทคโนโลยี ต้องมีประเด็นความคิดที่ชัดเจน การออกแบบสื่อที่
ถูกต้อง มีเค้าโครง มีความเรียบง่ายและชัดเจน ดังนี้
1. การออกแบบสื่อต้องมีการจัดวางรูปแบบของสื่อมีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันของ
หัวข้อ สี มีรูปทรง และส่วนที่เป็นเนื้อหา
2. PowerPoint แผนภาพ แผ่นกระดาษ และโปสเตอร์ นั้น ๆ ต้องจัดวางทิศทางของ
3. เนื้อหาให้อยู่ในแนวนอน เรียงจากซ้ายไปขวา จะทาให้ดูง่ายขึ้น
4. ไม่ใส่เนื้อหาบนสื่อมาก ควรมีที่ว่างให้ดูสบายตา ใช้ข้อความแบบง่าย ๆ และชัดเจน
5. ใช้สี เส้น และตัวอักษร เป็นสิ่งดึงดูดให้เห็นความแตกต่างในเรื่องที่นาเสนอ
อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศในการนาเสนองานมีอะไรบ้างพร้อมทั้ง-บอกหน้าที่
1. เครื่องเสียงและเครื่องขยายเสียง
ใช้ในการบันทึกเสียงหรือกระจายเสียง ในการนาเสนอรูปแบบของการบรรยายเพื่อให้ผู้รับฟังได้
ยินเสียงผู้บรรยายชัดเจนและน่าสนใจ
2. เครื่องคอมพิวเตอร์
จัดเป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว ซึ่งสามารถนามาใช้ในการนาเสนอได้
อย่างดีและมีประสิทธิภาพสูง สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้หลายรูปแบบ คอมพิวเตอร์จึง
สามารถนาเสนอข้อมูลได้ทุกรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้ซอฟต์แวร์ในการประมวลผล และ
นาเสนอผ่านอุปกรณ์แสดงผลและอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ
ซอฟแวร์ที่ใช้ในเการนาเสนองาน มีอะไรบ้าง พร้อมทั้งบอก
ลักษณะ
1.MicrosoftPowerPoint (ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์)
เป็นสุดยอดโปรแกรมนาเสนอข้อมูล(พรีเซนเตชั่น) ที่มีผู้ใช้มากเพราะใช้งานได้ง่ายที่สุด
2.MacromediaAuthorware
เป็นโปรแกรมลักษณะ multimedia ที่ใช้สร้างบทเรียน CAIเพื่อช่วยในการเรียนการ
3.Swish2.0หรือ Swish3Dเป็นโปรแกรม Multimediaที่ใช้สร้างไฟล์ .swfหรือ Flash ใน
การนาเสนอผลงาน SPECIALEffectเกี่ยวกับภาพและตัวหนังสือสอน
4.AdobeAcrobatเป็นโปรแกรมที่รองรับการใช้งานเอกสารที่เป็นไฟล์ PDFเพื่อใช้งานทางด้าน
เว็บไซต์ และ อื่นๆ

Weitere ähnliche Inhalte

Was ist angesagt?

Work1m34 34-47
Work1m34 34-47Work1m34 34-47
Work1m34 34-47marootkwa
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ.Ppt
 การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ.Ppt  การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ.Ppt
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ.Ppt Bammie Juppu
 
กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศ
กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศกระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศ
กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศsupimon1956
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศWaris's Icream
 
M.3/4 NO.25,26 การนำเสนอ
M.3/4 NO.25,26 การนำเสนอM.3/4 NO.25,26 การนำเสนอ
M.3/4 NO.25,26 การนำเสนอchaya fam
 
การวิเคราะห์และการกำหนดความต้องการสารสนเทศ
การวิเคราะห์และการกำหนดความต้องการสารสนเทศการวิเคราะห์และการกำหนดความต้องการสารสนเทศ
การวิเคราะห์และการกำหนดความต้องการสารสนเทศsupimon1956
 
การสื่อสาร
การสื่อสารการสื่อสาร
การสื่อสารsariya25
 
การวางแผน การสร้างสื่อ
การวางแผน การสร้างสื่อการวางแผน การสร้างสื่อ
การวางแผน การสร้างสื่อAnna Wongpattanakit
 
การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ
การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจการสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ
การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจDrsek Sai
 

Was ist angesagt? (20)

Work1m34 34-47
Work1m34 34-47Work1m34 34-47
Work1m34 34-47
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ.Ppt
 การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ.Ppt  การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ.Ppt
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ.Ppt
 
Work1m32 33-37
Work1m32 33-37Work1m32 33-37
Work1m32 33-37
 
การสื่อสาร
การสื่อสารการสื่อสาร
การสื่อสาร
 
การออกแบบสื่อนำเสนอ
การออกแบบสื่อนำเสนอการออกแบบสื่อนำเสนอ
การออกแบบสื่อนำเสนอ
 
Work1m33 16 47
Work1m33 16 47Work1m33 16 47
Work1m33 16 47
 
Work1 m33no15 18
Work1 m33no15 18Work1 m33no15 18
Work1 m33no15 18
 
Work1 m32no5,6
Work1 m32no5,6Work1 m32no5,6
Work1 m32no5,6
 
Work1m34 08-22
Work1m34 08-22Work1m34 08-22
Work1m34 08-22
 
Work1m34 37-38
Work1m34 37-38Work1m34 37-38
Work1m34 37-38
 
กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศ
กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศกระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศ
กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดความต้องการสารสนเทศ
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
 
Work1m32no 34 40
Work1m32no 34 40Work1m32no 34 40
Work1m32no 34 40
 
M.3/4 NO.25,26 การนำเสนอ
M.3/4 NO.25,26 การนำเสนอM.3/4 NO.25,26 การนำเสนอ
M.3/4 NO.25,26 การนำเสนอ
 
การวิเคราะห์และการกำหนดความต้องการสารสนเทศ
การวิเคราะห์และการกำหนดความต้องการสารสนเทศการวิเคราะห์และการกำหนดความต้องการสารสนเทศ
การวิเคราะห์และการกำหนดความต้องการสารสนเทศ
 
การสื่อสาร
การสื่อสารการสื่อสาร
การสื่อสาร
 
การวางแผน การสร้างสื่อ
การวางแผน การสร้างสื่อการวางแผน การสร้างสื่อ
การวางแผน การสร้างสื่อ
 
Work1m34 11 13
Work1m34 11 13Work1m34 11 13
Work1m34 11 13
 
การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ
การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจการสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ
การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ
 
Work1m34 37-38
Work1m34 37-38Work1m34 37-38
Work1m34 37-38
 

Ähnlich wie Work1m33no10,12

การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศSaranporn Rungrueang
 
ใบความรู้ที่ 1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอผลงาน
ใบความรู้ที่ 1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอผลงานใบความรู้ที่ 1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอผลงาน
ใบความรู้ที่ 1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอผลงานTarinee Bunkloy
 
สื่อการสอน
สื่อการสอนสื่อการสอน
สื่อการสอนWanidchaya Ongsara
 
Work1 m33no1-5
Work1 m33no1-5Work1 m33no1-5
Work1 m33no1-5Oat&Nile .
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้aumkpru45
 
สื่อโสตทัศน์
สื่อโสตทัศน์สื่อโสตทัศน์
สื่อโสตทัศน์gingphaietc
 
นวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภท
นวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภทนวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภท
นวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภทNGamtip
 
นวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภท
นวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภทนวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภท
นวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภทNGamtip
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอLalin Boonchuay
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอLalin Boonchuay
 
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนำเสนองาน
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนำเสนองานเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนำเสนองาน
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนำเสนองานPa Ng
 
งานนำเสนอ 3
งานนำเสนอ 3งานนำเสนอ 3
งานนำเสนอ 3Sakonwan947
 
งานนำเสนอ 3
งานนำเสนอ 3งานนำเสนอ 3
งานนำเสนอ 3Sakonwan947
 
งานนำเสนอ 3
งานนำเสนอ 3งานนำเสนอ 3
งานนำเสนอ 3Sakonwan947
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองานการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองานYanisa Tean
 

Ähnlich wie Work1m33no10,12 (20)

การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
ใบความรู้ที่ 1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอผลงาน
ใบความรู้ที่ 1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอผลงานใบความรู้ที่ 1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอผลงาน
ใบความรู้ที่ 1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอผลงาน
 
สื่อการสอน
สื่อการสอนสื่อการสอน
สื่อการสอน
 
Work1 m33no1-5
Work1 m33no1-5Work1 m33no1-5
Work1 m33no1-5
 
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
 
สื่อโสตทัศน์
สื่อโสตทัศน์สื่อโสตทัศน์
สื่อโสตทัศน์
 
Work1 m33 8-11
Work1 m33 8-11Work1 m33 8-11
Work1 m33 8-11
 
นวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภท
นวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภทนวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภท
นวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภท
 
นวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภท
นวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภทนวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภท
นวัตกรรมการศึกษา 7 ประเภท
 
Projectm6 2-2556 (2)
Projectm6 2-2556 (2)Projectm6 2-2556 (2)
Projectm6 2-2556 (2)
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอ
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอ
 
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนำเสนองาน
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนำเสนองานเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนำเสนองาน
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนำเสนองาน
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
การผลิตสื่อ
การผลิตสื่อการผลิตสื่อ
การผลิตสื่อ
 
งานนำเสนอ 3
งานนำเสนอ 3งานนำเสนอ 3
งานนำเสนอ 3
 
งานนำเสนอ 3
งานนำเสนอ 3งานนำเสนอ 3
งานนำเสนอ 3
 
งานนำเสนอ 3
งานนำเสนอ 3งานนำเสนอ 3
งานนำเสนอ 3
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองานการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
 
สื่อและอุปกรณ์ในการนำเสนอ
สื่อและอุปกรณ์ในการนำเสนอสื่อและอุปกรณ์ในการนำเสนอ
สื่อและอุปกรณ์ในการนำเสนอ
 

Work1m33no10,12

  • 1. เรื่อง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนาเสนองาน ผู้จัดทา ด.ช.วงศกร ไผทรักษาธรรม ม.3/3 เลขที่ 10 ด.ช.ศุภวิชญ์ ชูเชิด ม.3/3 เลขที่ 12 นาเสนอ มิสชุติกาญจน์ หว้าปราง โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง ปีการศึกษา 2558
  • 2. การนาเสนอ หลักการนาเสนอข้อมูลและสร้างสื่อนาเสนอ การนาเสนองานหรือผลงานนั้น สื่อนาแสนอเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมเนื้อหา ของผู้บรรยายไปยังผู้ฟังและผู้ชม ดังนั้น สื่อจึงมีบทบาทสาคัญอย่างมาก สื่อที่ดี จะช่วยให้การถ่ายทอดเนื้อหาสาระทาได้อย่าง รวดเร็วยิ่งขึ้น ผู้ฟังและผู้ชมจะสามารถ จดจาเนื้อหาสาระได้นานและเข้าใจในเนื้อหาได้ดี มากขึ้น ความหมายการนาเสนอ การนาเสนอข้อมูล หมายถึง การสื่อสารเพื่อเสนอ ข้อมูล ความรู้ ความคิดเห็น หรือความต้องการไปสู่ผู้ชม ผู้ฟังโดยใช้เทคนิคหรือวิธีการ ต่าง ๆ อันจะทาให้บรรลุ ผลสาเร็จตามจุดมุ่งหมายของการนาเสนอ
  • 3. วัตถุประสงค์ในการนาเสนอ จุดมุ่งหมายในการนาเสนอ เพื่อให้ผู้ชม ผู้ฟังรับเข้าใจสาระสาคัญของการนาเสนอข้อมูล ให้ผู้ชม ผู้ฟังเกิดความประทับใจและนาไปสู่ความเชื่อถือในข้อมูล ที่นาเสนอรวมทั้งทาให้เกิด ความสามารถในการจดจาได้มากขึ้น หลักการพื้นฐานของการนาเสนอข้อมูล การนาเสนอข้อมูลมีจุดเน้นสาคัญคือ การดึงดูดความสนใจ โดยการออกแบบให้สิ่งที่ปรากฏต่อสายตานั้นชวนมอง และมีความสบายตา สบายใจ มีความชัดเจนและความกระชับของเนื้อหา คือข้อความต้องสั้นแต่ได้ใจความ ชัดเจนและ ภาพประกอบต้องมีส่วนสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับข้อความที่นาเสนอ ความเหมาะสมกับกลุ่มเป้ าหมาย ความออกแบบสื่อนาเสนอต้องคานึงถึงกลุ่ม เป้ าหมาย เช่น กลุ่มเป้ าหมายเป็นเด็ก ควรออกแบบโดยการใช้สีสด ๆ และมีภาพการ์ตูน ประกอบ แต่ถ้า กลุ่มเป้ าหมายเป็นผู้ใหญ่และเนื้อหานาเสนอเป็นเรื่องวิชาการ การใช้สีสัน มากเกินไปและใช้ภาพ การ์ตูนมาประกอบก็อาจจะส่งผลให้การนาเสนอดูไม่น่าเชื่อถือ รูปแบบการนาเสนอข้อมูล
  • 4. ผู้ฟัง 1) ภาษา ต้องเหมาะสมกับระดับวัย การศึกษาของกลุ่มเป้ าหมาย สื่อความเข้าใจได้ดี 2) การใช้เสียง ควรใช้เสียงให้เป็นธรรมชาติ ระดับเสียงดังสม่าเสมอ 3) การใช้สายตา เป็นสิ่งที่ดึงดูดสายตาผู้คน และควรสบตาให้ทั่วถึง 4) การแต่งกาย เป็นสิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาผู้คน สามารถบ่งบอกถึงบุคลิกภาพ นิสัย และ ทาให้ผู้ฟังเกิดความประทับใจและน่าเชื่อถือ
  • 5. การนาเสนอ ขั้นตอนการนาเสนองาน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนาเสนองาน มีขั้นตอนดังนี้ 1.ศึกษาวัตถุประสงค์ในการนาเสนอ เพื่อให้นาเสนอได้ตรงประเด็น กระชับ และรูว่าต้องมีข้อมูลในกานนาเสนอ มากน้อยเพียงใด 2.วิเคราะห์และเข้าใจกลุ่มเป้ าหมาย เป็นการศึกษาเข้าใจธรรมชาติของกลุ่มเป้ าหมายที่เป็นผู้รับการนาเสนอ โดยมี แนวการศึกษากลุ่มเป้ าหมายที่ได้รับการนาเสนอ ดังนี้ 1) กลุ่มเป้ าหมายคือใคร เกี่ยวข้องกับเรื่องที่นาเสนออย่างไร 2) แนวความคิดและประสบการณ์ของกลุ่มผู้ฟัง 3) ความคาดหวังของกลุ่มผู้ฟัง 4) ระดับความรู้ความเข้าใจ และประสบการณ์ในเนื้อหาที่นาเสนอของกลุ่มผู้ฟัง 5) ภูมิหลังหรือเรื่องราวที่อาจมีอิทธิพลต่อกลุ่มผู้ฟัง 6) ทัศนคติและสิ่งที่ผู้ฟังรับรู้เกี่ยวกับผู้นาเสนอ 7) ข้อมูลอื่นๆ เช่น จานวนผู้ฟัง ช่วงเวลาในการนาเสนอ ระยะเวลาที่ใช้ในการนาเสนอ ลาดับการนาเสนอ สถานที่ ประชุม 3. วางแผนการนาเสนอ เป็นการเตรียมเนื้อหาที่จะสื่อให้กลุ่มเป้ าหมายได้รับข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้และ ควรกาหนดขอบเขตเนื้อหาที่กลุ่มเป้ าหมายควรรู้ 4.ผลิตสื่อประกอบการนาเสนอ จะช่วยให้กลุ่มเป้ าหมายมองเห็นภาพรวมของข้อมูลและติดตามเนื้อหาได้ทัน 5.เตรียมบุคลิกภาพขณะนาเสนอ บุคลิกภาพที่ดีเป็นสิ่งสาคัญที่ทาให้เกิดความมั่นใจในขณะพูดทาให้ผู้ฟังประทับใจ และสนใจติดตาม
  • 6. ข้อมูลที่ใช้ในการนาเสนองาน การนาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ วิธีการนาเสนอสารสนเทศเพื่อให้เกิดความเข้าใจและใช้ประโยชน์จากสารสนเทศ สามารถแสดงผลออก ภายนอกได้ดังนี้ -ลักษณะของสารสนเทศที่นาเสนอ 1.ข้อมูลตัวเลข (numerical data) ได้แก่ กลุ่มตัวเลขทั้งที่เป็นจานวนเต็ม ทศนิยม หรือ จานวนจริง ข้อมูลลักษณะนี้ใช้กันในการศึกษา คานวนทางวิทยาศาสตร์ การพยากรอากาศ เศรษฐกิจ ข้อมูล ดัชนีหุ้นของตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น 2.ข้อมูลตัวอักขร (alphabetical data) ได้แก่ ตัวอักษรที่ใช้ในการเขียนภาษาต่างๆ ทุกภาษา เช่น ตัวอักษร A-Z ,ก-ฮ,สระ,วรรณยุกต์ รวมทั้งสัญลักษณ์และเครื่องหมายต่างๆซึ่งจะทาให้ สามารถครอบคลุมสารสนเทศที่ใช้กันทั่วไปในทุกวงการ ทั้งการศึกษา ค้นคว้า วิจัย วิทยาศาสตร์ และ ธุรกิจการพานิชย์เป็นต้น 3.ข้อมูลกราฟฟิ ก (Graphic data) ได้แก่ ข้อมูลที่มีลักษณะเป็นรูปภาพ รูปจาลองรูป วาด การวิเคราะห์ข้อมูลตัวเลขแลละแสดงผลในรูปของแผนผัง แผนภูมิ กราฟต่าง ๆ 4.ข้อมูลเสียง (Voice Data) ได้แก่ ข้อมุลที่ใช้ในการสื่อสารด้วยภาษาพูด เสียงร้อง เสียง กริ่ง เสียงจากวิทยุ ฯลฯ โดยทัวไปมักจะใช้ข้อมูลหลายประเภทควบคู่กันไปในการสื่อสารและปฏิบัติงาน เช่น ใช้ข้อมุลเสียงในการสื่อสาร พูดคุย ประชุมและสั่งงาน เขียนบันทึกข้อความในการสั่งการและสื่อสาร และอ่านข้อมูล ทั้งที่เป็นตัวอักษร รูปภาพ เป้ นต้น
  • 7. กระบวนการในการนาเสนอ - เทคนิคการนาเสนอสารสนเทศ ในการนาเสนอสารสนเทศ ให้น่าสนใจสามารถดึงดูดความสนใจของใช้ ให้เกิดความประทับใจ และง่ายต่อการนาไปใช้งานนั้น มีเทคนิคที่ช่วยให้การนาเสนอมีประสิทธิภาพ ดังนี้ 1.ลดหรือตัดข้อมูลข่าวสารที่ไม่จาเป็นออก นาเสนอเฉพาะสิ่งที่เป็นแก่นสารสาระสาคัญ เท่านั้น 2.จัดวางให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสม ระมัดระวังในการจัดรูปแบบ มีการเว้นวรรคตอน และจัดวางในตาแหน่งที่เหมาะสม ทั้งบนหน้าจอและหน้ากระดาษ จัดรูปแบบตามลักษณะ คุณสมบัติของ ข้อมูลที่นาเสนอ เช่น นาเสนอตัวเลข ในรูปแบบตาราง รูปกราฟ สรุปแสดงในรูปแบบของการเปรียบเทียบ เป็นอัตราส่วน อัตราร้อยละ ซึ่งจะทาให้เข้าใจง่ายขึ้น 3.ใช้สีสันมาช่วยในการนาเสนอ การเน้นข้อมูลที่สาคัญ ด้วยสีต่าง ๆ จะทาให้น่าสนใจ มองเห็นได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่ถ้าใช้สีมากเกินไปก็จะทาให้เกิดการสับสนดูยาก ไม่สบายตา 4.การใช้กราฟฟิกมาช่วยในการนาเสนอ รูปภาพหรือกราฟฟิกนั้นสามารถอธิบาย ความหมายของข้อมูลต่างๆ แทนข้อความได้มากมายโดยใช้เวลาอันสั้น ช่วยลดเวลาในการอ่านและเก็บ รายละเอียดหรือทาให้เข้าใจเนื้อหาสาระได้ในระยะเวลาอันสั้น
  • 8. หลักการนาเสนอที่ดี นอกจากการเลือกรูปแบบของการนาเสนอ ให้ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว จะต้องคานึงถึงลักษณะของ การนาเสนอ ที่จะช่วยให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ของการนาเสนอด้วย โดยทั่วไปลักษณะของการ นาเสนอที่ดี ควรมีดังต่อไปนี้ 1. มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน กล่าวคือ มีความต้องการที่แน่ชัดว่า เสนอเพื่ออะไร โดย ไม่ต้องให้ผู้รับรับการนาเสนอต้องถามว่าต้องการให้พิจารณาอะไร 2. มีรูปแบบการนาเสนอเหมาะสม กล่าวคือ มีความกระทัดรัดได้ใจความ เรียง ลาดับไม่สนใช้ภาษาเข้าใจง่าย ใช้ตาราง แผนภูมิ แผนภาพ ช่วยให้พิจารณาข้อมูลได้สะดวก 3. เนื้อหาสาระดี กล่าวคือ มีความน่าเชื่อถือ เที่ยงตรง ถูกต้อง สมบูรณ์ครบถ้วน ตรงตามความต้องการ มีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันทันสมัย และมีเนื้อหาเพียงพอแก่การพิจารณา 4. มี ข้อเสนอที่ดี กล่าวคือ มีข้อเสนอที่สมเหตูสมผล มีข้อพิจารณาเปรียบเทียบ ทางเลือกที่เห็นได้ชัด เสนอแนะแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
  • 9. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนาเสนองาน การนาเสนอข้อมูลด้วยการใช้เทคโนโลยี การนาเสนอข้อมูลด้วยการใช้เทคโนโลยี ต้องมีประเด็นความคิดที่ชัดเจน การออกแบบสื่อที่ ถูกต้อง มีเค้าโครง มีความเรียบง่ายและชัดเจน ดังนี้ 1. การออกแบบสื่อต้องมีการจัดวางรูปแบบของสื่อมีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันของ หัวข้อ สี มีรูปทรง และส่วนที่เป็นเนื้อหา 2. PowerPoint แผนภาพ แผ่นกระดาษ และโปสเตอร์ นั้น ๆ ต้องจัดวางทิศทางของ 3. เนื้อหาให้อยู่ในแนวนอน เรียงจากซ้ายไปขวา จะทาให้ดูง่ายขึ้น 4. ไม่ใส่เนื้อหาบนสื่อมาก ควรมีที่ว่างให้ดูสบายตา ใช้ข้อความแบบง่าย ๆ และชัดเจน 5. ใช้สี เส้น และตัวอักษร เป็นสิ่งดึงดูดให้เห็นความแตกต่างในเรื่องที่นาเสนอ
  • 10. อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศในการนาเสนองานมีอะไรบ้างพร้อมทั้ง-บอกหน้าที่ 1. เครื่องเสียงและเครื่องขยายเสียง ใช้ในการบันทึกเสียงหรือกระจายเสียง ในการนาเสนอรูปแบบของการบรรยายเพื่อให้ผู้รับฟังได้ ยินเสียงผู้บรรยายชัดเจนและน่าสนใจ 2. เครื่องคอมพิวเตอร์ จัดเป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว ซึ่งสามารถนามาใช้ในการนาเสนอได้ อย่างดีและมีประสิทธิภาพสูง สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้หลายรูปแบบ คอมพิวเตอร์จึง สามารถนาเสนอข้อมูลได้ทุกรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้ซอฟต์แวร์ในการประมวลผล และ นาเสนอผ่านอุปกรณ์แสดงผลและอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ
  • 11. ซอฟแวร์ที่ใช้ในเการนาเสนองาน มีอะไรบ้าง พร้อมทั้งบอก ลักษณะ 1.MicrosoftPowerPoint (ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์) เป็นสุดยอดโปรแกรมนาเสนอข้อมูล(พรีเซนเตชั่น) ที่มีผู้ใช้มากเพราะใช้งานได้ง่ายที่สุด 2.MacromediaAuthorware เป็นโปรแกรมลักษณะ multimedia ที่ใช้สร้างบทเรียน CAIเพื่อช่วยในการเรียนการ 3.Swish2.0หรือ Swish3Dเป็นโปรแกรม Multimediaที่ใช้สร้างไฟล์ .swfหรือ Flash ใน การนาเสนอผลงาน SPECIALEffectเกี่ยวกับภาพและตัวหนังสือสอน 4.AdobeAcrobatเป็นโปรแกรมที่รองรับการใช้งานเอกสารที่เป็นไฟล์ PDFเพื่อใช้งานทางด้าน เว็บไซต์ และ อื่นๆ