More Related Content
Similar to สัปดาห์ที่ 7 auguste comte (20)
More from Sani Satjachaliao (20)
สัปดาห์ที่ 7 auguste comte
- 1. สัปดาห์ที่ 7 เอกสารประกอบการสอน วิชา 427-303 Sociological Theories ภาคเรียนที่ 1/2554 เรื่อง สังคมวิทยา ของ Comte
- 3. ลักษณะขององค์ความรู้แบบ วิทยาศาสตร์ 1. ความรู้สามารถอธิบายกลุ่มเหตุการณ์ สามารถทดสอบซ้ำได้ และความรู้ที่ได้ มามีลักษณะสะสมต่อเนื่อง ผลของการ ศึกษาย่อมนำไปสู่การศึกษาอีกเรื่อง ต่อไปไม่สิ้นสุด
- 8. 2. กระบวนการศึกษา ทางวิทยาศาสตร์ สังคมมีข้อจำกัดมากมาย เช่น ตัวแปรที่มี ลักษณะเป็นนามธรรมดังกล่าวข้างต้น กรอบจารีต หลักมนุษยธรรม ก็เป็นข้อจำกัด ที่ทำให้นักวิจัยทางสังคมศาสตร์ไม่สามารถ ศึกษาหาความรู้ได้อย่างเที่ยงตรงหรือน่าเชื่อถือ เท่าวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ
- 12. นักคิดผู้บุกเบิกแนวคิดทางสังคมวิทยา ออกุสต์ คองต์ ( August Comte ) (1798-1857) เป็นผู้ก่อตั้งวิชาสังคมวิทยา พยายามทำให้การศึกษา สังคมเป็นแบบ “วิทยาศาสตร์” โดยใช้คติปฏิฐานนิยม ( Positivism ) ซึ่งสิ่งที่ศึกษาต้องสังเกตและวัดได้เท่านั้น Positivism เป็นพื้นฐานสำหรับศาสตร์แขนงใหม่
- 13. คองต์ ได้แบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ส่วน 1. Social statics - เป็นการศึกษาเรื่องกฎระเบียบ ความมั่นคงที่ทำให้สังคมรวมกลุ่มกันจนสามารถดำรงอยู่ได้ 2. Social dynamics - เป็นการศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และการพัฒนาแบบแผนของ สถาบันสังคมต่าง ๆ โดยศึกษาปัจจัย 3 ด้าน คือ ภาษา ศาสนา และ Division of Labor
- 14. แนวคิดเรื่องการพัฒนาการทางความคิดของมนุษย์ แบ่งได้ 3 ขั้นตอน คือ 1. ขั้นเทววิทยา ( Theological stage ) แยกออกเป็น 3 ยุค คือ FETISHISM มนุษย์เชื่อในภูตผี สิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ POLYTHEISM มนุษย์มีความเชื่อในเทพเจ้า ซึ่งมีหลายองค์ MONOTHEISM มนุษย์มีความเชื่อในเทพเจ้าองค์เดียว
- 15. 2. ขั้นอภิปรัชญา ( Metaphysic Stage ) เป็นยุคที่มนุษย์แสวงหาความจริงโดยอาศัย การคิดวิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผล โดยหลักการทางตรรกศาสตร์ และปรัชญา
- 16. 3. ขั้นวิทยาศาสตร์ (Positive Stage) เป็นขั้นที่มนุษย์พัฒนาภูมิปัญญาในการแสวงหา ความรู้ ได้อย่างมีระบบ มีความน่าเชื่อถือ เที่ยงตรง โดยนำวิธีการศึกษาที่ใช้ในวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ มาใช้ในการศึกษาสังคม ประกอบกับการใชัหลัก การที่เป็นเหตุและผลในการสรุปวิเคราะห์
- 18. เฮอร์เบิร์ต สเปนเซอร์ ( Herbert Spencer ) (1820-1903) เป็นนักปรัชญาชาวอังกฤษ เขียนเรื่อง Social Statics (1851) สะท้อนความคิดแบบเสรีต่อปัญหาทางสังคม และการเมือง
- 19. สเปนเซอร์เปรียบเทียบสังคมมนุษย์กับ อินทรีย์ หรือร่างกายของสิ่งมีชีวิต สรุปได้ดังนี้ 1. พัฒนาการของสังคมและสิ่งมีชีวิต จะเป็น แบบค่อยเป็นค่อยไป 2. เริ่มก่อตัวจากหน่วยเล็ก ๆ 3. มีโครงสร้างของส่วนต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่ ต่างกันมาประกอบกัน
- 20. 4. องค์ประกอบต่าง ๆ หรืออวัยวะต่าง ๆ ไม่สามารถแยกกันอยู่ได้โดยอิสระ ทุกส่วนต้อง พึ่งพาอาศัยกัน 5. ในร่างกายของสิ่งมีชีวิตมีระบบการหมุนเวียน ของโลหิตที่หมุนเวียนหล่อเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ในระบบสังคมมีระบบเศรษฐกิจเพื่อให้ส่วนต่างๆ ของสังคมได้มีการกระจายการบริโภค และสามารถดำรงอยู่ได้
- 25. มาร์กซ์ ได้สร้างทฤษี Dialectic Materialism ขึ้นเพื่ออธิบายการเปลี่ยนแปลงสังคม ดังนี้คือ 1. สภาวะของสิ่งหนึ่งย่อมขึ้นอยู่กับอีกสิ่งหนึ่ง ไม่มีสิ่งใดดำรงอยู่โดยเอกเทศ 2. ไม่มีสิ่งใดหยุดนิ่ง 3. การเปลี่ยนแปลงจะมีความรุนแรงมากน้อย เพียงใดขึ้นอยู่กับความขัดแย้งว่ามีมากเพียงใด 4. การเปลี่ยนแปลงมีลำดับขั้น ดังนี้คือ
- 26. THESIS เป็นสภาวะที่สังคมมีความขัดแย้ง เอารัดเอาเปรียบในสังคม ANTITHESIS สมาชิกสังคมเริ่มมีความรู้สึกอึดอัด ต่อสภาพที่ตนถูกเอารัดเอาเปรียบ เริ่มมีความรู้สึก ขัดแย้ง ไม่พอใจ ต่อสภาพการณ์นั้น SYTHESIS เมื่อสมาชิกไม่พอใจสภาพการณ์ ทำ ให้มีการรวมกลุ่มกันต่อต้าน อาจเกิดเป็นขบวนการ เพื่อล้มล้างโครงสร้างสังคมเดิม แล้วสร้างสังคมใหม่
- 28. 4. Capitalism มีการจัดระบบชนชั้นที่หลากหลายซับซ้อนยิ่งขึ้น 5. Socialism สังคมมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแบบทุนนิยมมาเป็นการกระจาย ทรัพยากรอย่างเท่าเทียมกันโดยมาร์กซ์เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงสังคมโดยการปฏิวัติ จะทำให้สังคมพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
- 32. เวเบอร์ กล่าวว่าวิทยาศาสตร์ คือ กระบวนการในการสำรวจค้นหาข้อเท็จจริงอย่างเป็นระบบ แต่กระบวนการนี้ไม่สมบูรณ์ 100 % อาจมีความบกพร่องที่เกิดขึ้นในการตั้งคำถาม การตั้งสมมุติฐาน การเลือกกลุ่มตัวอย่าง การเลือกใช้สถิติ